เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pimdown ที่ มิถุนายน 06, 2009, 09:08:25 AM



หัวข้อ: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: pimdown ที่ มิถุนายน 06, 2009, 09:08:25 AM
ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
มาลองทำดูนะครับ อันดับแรกต้องหาหนูทดลองก่อน(รถภรรยา)

(http://www.pixnice.com/upload/files/yodlokzgjzt4nty3kdov.jpg)

จัดการถอดกันชนหน้าออก มีน็อตและสลักอยู่ไม่กีตัว แล้วก็กระชากออกได้เลยเพราะไม่ใช่รถเรา

(http://www.pixnice.com/upload/files/d2jig0ywq5nmn2urzfwm.jpg)

เอาน้ำฉีดล้าง แล้วก็เอาน้ำยาฉีดตามไป รอซักประมาณ10-20 นาที่ค่อยล้างออก

(http://www.pixnice.com/upload/files/qgzmnmg021ondyquqjzm.jpg)

เอาน้ำฉีดล้างน้ำยาออกให้หมด รอจนแห้งแล้วประกอบกลับคืนให้เหมือนเดิม

(http://www.pixnice.com/upload/files/yyzkn2zfdjnd3zdq0kqm.jpg)

น้ำยาที่ใช้ล้างครับ

(http://www.pixnice.com/upload/files/mmwzzmwngd3qq1d0vmch.jpg)



หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: SIN_JUNG ที่ มิถุนายน 06, 2009, 09:24:00 AM

แล้วมันสะอาดขึ้นเยอะใหม  แอร์เย็นเร็วขึ้นหรือปล่าว..... + 1 สำหรับการนำเสนอ... ;D



หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ มิถุนายน 06, 2009, 09:35:29 AM
น้ำยาล้างพวกนี้ มีข้อควรระวังคือ อย่าให้โดนชิ้นส่วนที่พ่นสีครับ จะด่าง....

แล้วก็ถ้าหาซื้อไม่ได้ เป็ด ช่วยท่านไ้ด้ครับ

เหมือนเดิม ระวังอย่าให้โดนชิ้นส่วนอื่น เพราะมีฤทธิ์เป็นกรดครับ


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มิถุนายน 06, 2009, 09:57:08 AM
 :) ผมเคยใช้น้ำยาล้างห้องน้ำเหมือนที่คุณ.โอ๊ค บอก ใช้ได้เหมือนกันครับ ล้างออกมาสะอาด แต่เวลาล้างน้ำยาออก ใช้น้ำฉีดเยอะมากกว่าจะหมด ผลที่ได้แอร์เย็นขึ้นเยอะครับ...


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: จอบหลอย-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2009, 10:01:41 AM
เยี่ยมเลยครับ
แต่น้ำยาจำพวกนี้ ร้านแอร์ส่วนมาก ไม่ค่อยอยากจะขายให้ครับ


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: aero2502 ที่ มิถุนายน 06, 2009, 10:10:39 AM
ทำไมละครับ ที่ร้านแอร์ไม่ขายให้


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 06, 2009, 10:12:22 AM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไป
จากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ

   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2009, 12:37:24 PM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไป
จากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ

   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ


รถยุโรป.........เจอช่างไม่ชำนาญถอดเป็นได้เรื่องเลยครับ.........มันเคยล่อรถผมพังต้องลากเข้าศูนย์...เพราะใส่กลับไม่เป็นพวกเล่นถอดกอง.....ไม่รับผิดชอบอีกต่างหาก........เจอหมายศาลไปหงายเก๋ง.........


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มิถุนายน 06, 2009, 12:43:51 PM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไป
จากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ

   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ


แล้วรถผม เมกา ละครับน้าดุลย์?


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มิถุนายน 06, 2009, 01:15:22 PM
ปัญหา ที่เกิด คือ บ้านเรา ร้อนชื้น
จอดรถปุ๊บ  ดับเครื่องปั้บ
ความเย็น ยังคงอยู่ และ กลั่นเป็นหยดน้ำ
แล้วบ้านเรา ฝุ่นละอองแยะ ก็มักจะไปรวมตัวกับน้ำที่หยด
รวมกันไปรวมกันมา กลายเป็นเมือกจับหนา ปิดกั้นช่องระบายอากาศ
อากาศไม่ผ่าน ก็ร้อน

ตัวคอยล์ร้อนนั้น  ก็มักจะได้ น้ำยาล้างแอร์ ซึ่งมักเป็นกรดกัดกร่อน
ซึ่งก็คือ กรดกำมะถัน เจือจาง  กัดทีดำปื้ด  และต้องถึงน้ำ คือใช้น้ำล้างให้มาก
แต่สะอาดขาววับทันใจ  แอร์เย็นไว
หาน้ำยาล้างไม่ได้ ก็ เป็ดม่วง อย่าง ที่ พี่ ทัดมาลา แจ้งไว้
ก็ใช้ได้ เช่นเดียวกันครับ
ก็ใช้ ต้องเอาน้ำฉีดให้ชุ่มก่อน นะครับ  กัดดีนักแล


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มิถุนายน 06, 2009, 03:26:18 PM
ผมเคยเห็นช่างซ่อมมอเตอร์ไซค์แถวบ้าน... ล้างหม้อน้ำมอเตอร์ไซค์ที่มีเศษดินอุดตันด้วยวิกซอล... ถอดออกมาวางไว้... ราดลงไปทั้งขวด... ซักสิบนาทีเอาน้ำล้างออก... ก็สะอาดเอี่ยมครับ... แต่คงอันตรายกว่าแบบนี้...


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มิถุนายน 06, 2009, 05:10:43 PM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไป
จากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ


   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ

เพิ่งเปลี่ยนกรองตัวที่ว่าไปทั้ง2คันเลยครับ คู่มือแนะนำให้เปลี่ยนทุกปีแต่ผมกับที่บ้านชอบทำขี้เหนียวหน้ามึน ทนไม่ไหวค่อยไปเปลี่ยน พอดีศูนย์มีโปรโมชั่นลด30%เข้าเที่ยวนี้เลยยอมเปลี่ยน แล้วอีกคันก็ตามไปติดๆ

แอร์กลับมาเย็นเจี๊ยบจนขับเดินทางกลางวันต้องปิดสวิทช์มอเตอร์แอร์ ใช้วิธีเปิดรับอากาศภายนอกเข้ามาหมุนเวียนแทน

หน้ามึนขับรถอุณหภูมิพอทนกันจนลืมว่าเย็นจริงๆมันเป็นยังไง ทนร้อนจนผ่านมี.ค.-เม.ย.มาได้ รู้ยังงี้ยอมเปลี่ยนตั้งนานแล้ว  ;D



หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 06, 2009, 06:25:35 PM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไป
จากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ

   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ


แล้วรถผม เมกา ละครับน้าดุลย์?

เดี๋ยวผมยกหูไปถาม เฮนรี่ ฟอร์ดให้ ครับพี่เข้ม






มีฝรั่งอมเริกันที่มาจากฟอร์ดอเมริกาใช้มุกนี้กับผมจริงๆครับ พี่เข้ม แบบฮาๆเวลาใครถามแล้วนึกอะไรไม่ออก




หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 06, 2009, 06:33:20 PM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไป
จากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ


   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ

เพิ่งเปลี่ยนกรองตัวที่ว่าไปทั้ง2คันเลยครับ คู่มือแนะนำให้เปลี่ยนทุกปีแต่ผมกับที่บ้านชอบทำขี้เหนียวหน้ามึน ทนไม่ไหวค่อยไปเปลี่ยน พอดีศูนย์มีโปรโมชั่นลด30%เข้าเที่ยวนี้เลยยอมเปลี่ยน แล้วอีกคันก็ตามไปติดๆ

แอร์กลับมาเย็นเจี๊ยบจนขับเดินทางกลางวันต้องปิดสวิทช์มอเตอร์แอร์ ใช้วิธีเปิดรับอากาศภายนอกเข้ามาหมุนเวียนแทน

หน้ามึนขับรถอุณหภูมิพอทนกันจนลืมว่าเย็นจริงๆมันเป็นยังไง ทนร้อนจนผ่านมี.ค.-เม.ย.มาได้ รู้ยังงี้ยอมเปลี่ยนตั้งนานแล้ว  ;D



ผมว่ามันดีมากๆนะครับที่มีใส้กรองอากาศในรถเนี่ยเพราะ ปริมาตรห้องโดยสารน้อยการถ่ายเทอากาศน้อย
หากเราขับรถใกลๆนานๆแล้วอากาศในรถสกปรก จะทำให้เราเพลีย เหนื่อยเร็ว ทำนองเดียวกับการทำงานในที่อับอากาศ
เช่นใน อุโมงค์ หลุม การลงไปเชื่อมถังลึกๆแคบ เหล่านี้จะต้องเป่าลมลงไปเพราะคนจะไม่มีอากาศหายใจเพียงพอ
 ทำนองเดียวกับที่คนเข้าไปทำงานในท่อแห่งหนึ่งแถว ระยอง ลงหาย ลงหาย ไปตายรวมกัน ออกมาบอกคนข้างนอกไม่ทันหรอก
ใส้กรองรถผม [CITROEN XANTIA] ราคาถูกมากๆราวๆแค่ 500+- จำแน่นอนไม่ได้ แต่ดีต่อคน ดีค่อ คอยล์เย็นประหยัดค่าซ่อมแอร์ใหญ่ๆไปได้


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2009, 06:45:51 PM

ขอบคุณมากครับ คุณ  pimdown  ที่ตั้งกระทู้นี้ ชอบมากครับ.

คนคอปืน นอกจากจะรักอาวุธปืนแล้ว รถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่ง ที่ขาดไม่ได้ อย่างเด็ดขาด.  ::002::

อะไรที่พอจะทำได้ ก็อยากทำดูบ้าง และแก้ไขมาบ้างแล้ว อย่างเปลี่ยนสายพาน
เปลี่ยนลูกรอก ที่แตก สายพานขาดกลางทาง .. พอผมรู้ทางก็เตรียมอะไหล่ ไว้รับมือด้วยตนเอง.
ไม่อย่างนั้น ก็กินข้าวลิง ไปแล้ว.  :D


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 06, 2009, 06:48:53 PM

ขอบคุณมากครับ คุณ  pimdown  ที่ตั้งกระทู้นี้ ชอบมากครับ.

คนคอปืน นอกจากจะรักอาวุธปืนแล้ว รถยนต์ก็เป็นอีกหนึ่ง ที่ขาดไม่ได้ อย่างเด็ดขาด.  ::002::

อะไรที่พอจะทำได้ ก็อยากทำดูบ้าง และแก้ไขมาบ้างแล้ว อย่างเปลี่ยนสายพาน
เปลี่ยนลูกรอก ที่แตก สายพานขาดกลางทาง .. พอผมรู้ทางก็เตรียมอะไหล่ ไว้รับมือด้วยตนเอง.
ไม่อย่างนั้น ก็กินข้าวลิง ไปแล้ว.  :D

::014::ครับพี่

กิสเต็คก่อนเดี๋ยวมาเล่าอีกเรื่อง


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มิถุนายน 06, 2009, 07:20:28 PM
มาแล้ว
สายพานในรถที่สำคํญมากที่สุดคือสายพานไทม์มิ่ง
รองลงมาสายพานแอร์
 สายพานแอร์นั้นหากขาดขึ้นมาจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากนักเครื่องจะไม่ดับทันทีสามารถขับไปอู่ใกล้ๆได้
เนื่องจากสายพานนี้ต่อไปปั่นใดชาร์จเข้าแบตด้วยหากขาดขึ้นมาแบตจะถูกใช้ไปจนหมดแต่เครื่องไม่ดับเพราะเมื่อเครื่องติดแล้ว
ระบบไฟในรถจะใช้ไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าใดชาร์จโดยตรง แต่หากดับเครื่องจะติดเครื่องไม่ได้เพราะแบตหมดไปแล้ว
การเปลี่ยนสายพานนี้ไม่ยากทำเองได้ ปกติจะมีลูกรอกดันสายพานนี้อยู่2อัน
 หนึ่งคือลูกรอกตาย
 สองคือลูกรอกสปริง
เมื่อจะเปลี่ยนก็แค่ดันลูกรอกสปริงให้สายพานหย่อนตัวจากนั้นสายพานจะหลุดง่าย ใส่ใหม่ก็ง่าย จบ
สายพานไทม์มิ่งอันนี้ยุ่งยากมากเรื่อง หากไม่เคยทำหรือไม่ใช่ช่างยนต์โดยตรงก็ขับเข้าอู่หรือศูนย์เถอะครับ
เพราะจะต้องดูตำแหน่งที่โรงงานมาร์ตำแหน่งไว้ด้วยหากใส่ผิดการทำงานของเครื่องจะเพี้ยนไปหมดเพราะมันเกี่ยวกัป
ตำแหน่งจุดระเบิดเครื่องยนตืด้วยและต้องไม่ลืมด้วยปกติยืดได้ถึง 80000 กิโลแต่ผม 50000 ก้เปลี่ยนแล้ว
เพราะหากสายพานนี้ขาด รับรองว่าที่จะขาดตามมาคือ กระเป๋าเจ้าของรถเลยทีเดียว
หากรถรุ่นเก่าที่ไม่ออกแบบวาว์วหลบไว้ เครื่องในพังหมดครับซ่อมไม่รู้จะคุ้มกว่าเปลี่ยนเครื่องใหม่หรือไม่


ทีนี้ครั้งหนึ่งรถผม ลูกรอกตายสายพานพัดลมลูกปืนแตกที่ทุ่งสง/นครฯ ตอน ตี3 ผมรู้ว่าเปลี่ยนไงแต่ทำไม่ได้เพราะร้านไม่เปิดจะไปหาลูกปืนที่ไหนเปลี่ยน รอจนสว่างนั่งรถเข้าตลาดทุ่งสงหาลูกปืนรับช่างมาสายแล้วจึงได้ไปต่อจนถึงพัทลุง


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ มิถุนายน 08, 2009, 08:46:47 AM
เคยล้างแล้วครับปีที่แล้วกับ ช่างแอร์ตัวจริง ครับ ซื้อน้ำยาล้างคอล์ยร้อนมาฉีดครับ เย็นขึ้นจริง ๆ จนถึงปัจจุบันครับ


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มิถุนายน 08, 2009, 10:33:34 AM
หึ หึ  ::008::

เจอคอล์ยเย็นของวีโก้ แล้วจะหนาววววววว ขอบอก

มันทำเอาไว้ กะไม่ให้ถอดหรือไงก็ไม่รู้  อยู่ลึกถึงเมืองบาดาล  ::007::

เพราะฉะนั้น ท่านใดใช้วีโก้  หมั่นเปลี่ยนกรองแอร์ตรงหลังเก๊ะใส่ของล่างบ่อย ๆ นะครับ

ตัวไม่กี่ตังค์ (ของดี ๆ ร้อยกว่าบาท)  ใช้เวลา 2 นาทีเสร็จ  ถ้าต้องรื้อคอล์ยเย็น  2 วันนะครับ....


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: pimdown ที่ มิถุนายน 08, 2009, 02:05:34 PM
เดี๋ยวจะหารูปล้างคอล์ยเย็นวีโกมาให้ดู....เหมือนประกอบรถใหม่ทั้งคันเลยครับ


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ มิถุนายน 08, 2009, 02:40:13 PM
หึ หึ  ::008::

เจอคอล์ยเย็นของวีโก้ แล้วจะหนาววววววว ขอบอก

มันทำเอาไว้ กะไม่ให้ถอดหรือไงก็ไม่รู้  อยู่ลึกถึงเมืองบาดาล  ::007::

เพราะฉะนั้น ท่านใดใช้วีโก้  หมั่นเปลี่ยนกรองแอร์ตรงหลังเก๊ะใส่ของล่างบ่อย ๆ นะครับ

ตัวไม่กี่ตังค์ (ของดี ๆ ร้อยกว่าบาท)  ใช้เวลา 2 นาทีเสร็จ  ถ้าต้องรื้อคอล์ยเย็น  2 วันนะครับ....
        เข้าใจว่าน่าจะ คล้าย ๆ ของมิตซูฯ  เคยเสียค่าวิชาให้ศูนย์ไป ครั้งหนึ่งไม่ต้องรื้ออะไรให้ยุ่งยากเลย
ไม่มีอะไรมากครับ  แกะใส้กรองออก  ติดเครื่องแล้วใช้น้ำยาล้างคอยเย็น  แบบโฟม
รู้สึกจะเป็นของ ทีบอนด์ ครับ  ค่อย ๆ ฉีดเข้าไป  ตรงพัดลมนั่นแหละ  แล้วโฟมมันจะปลิวไปเกาะบริเวณ
คอยล์เย็น  ทิ้งไว้สักพัก  มันจะค่อย ๆ ชะล้างสิ่งสกปรกออก  ลองเอาขวดไปรองตรงท่อน้ำทิ้ง  โอ้โห  ดำปี๋เลย
ย้ำว่าต้องเป็นแบบโฟมนะครับ  เคยซื้อของนอร์กา หรืออะไรสักอย่างเป็นแบบน้ำ ไม่เวิร์คครับ  ลองดูที่โฮมโปรครับ
ป.ล.ขณะปล่อยให้แอร์ทำงานไม่ควรนั่งในรถนะครับท่านจะสูดดมเอาสารเคมีเข้าไป  อันตราย
        ส่วนคอยล์ร้อน  ก็ตามที่สมาชิกแนะนำ  หาไม่ได้จริง ๆ ก็ ล่อมันเป็ดเลย  แต่ผมใช้วิธีเจือจางลงหน่อย
ระวังด้วยก็แล้วกันนะครับ  ทิ้งไว้นานเกิน  มีสิทธิ์ท่อน้ำยาในแผงฯทะลุ  และต้องฉีดน้ำล้างให้เกลี้ยงจริง ๆ ครับ
ถ้าดรายเออร์ยังปกติดี หัวฉีดน้ำยา(ไม่ทราบเขาเรียกเอ็กซ์เพนชันวาวว์)ไม่อุดตัน  ระบบไม่มีรั่วซึม  คอมเพรสเซอร์ยังปกติดี
รับรอง เท่านี้ก็หนาว เท่าๆ กับเมียจับได้ว่ามีกิ๊ก ครับ


หัวข้อ: Re: ล้างแผงแอร์รถยนต์ใครว่ายาก....
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มิถุนายน 08, 2009, 02:45:40 PM
นึกว่าคอยล์เย็นในรถซะอีก....มีข้องสังเกตุนิดนึง
ร้านแอร์มักจะมีบริการล้างคอยล์เย็น....จากที่ผมสังเกตุ...จะมีรถญี่ปุ่นส่วนใหญ่เข้าไปใช้บริการ...ทำไม
ตำตอบ ....ที่ผมเจอ

รถยุโรปคันหนึ่งของผม 10 กว่าปีแล้วผมผ่านร้านแบบนี้คิดว่า...เออ..เราน่าจะลองล้างดูบ้างเพราะไม่เคยล้างเลย
ปรากกฎว่าการจะถอดถ้าช่างไม่ชำนาญจะยุ่งยากเผลอๆพังยาวแล้วเจ้าของจะช้ำนาน...เลยใช้วิธีเจาะกรอบพลาสติกหุ้มแผงแหย่หัวฉีดล้างเข้าไปจากรูที่เจาะเอาไฟส่องดูเห็นแผงคอยล์เย็นยังขาวสะอาด....เป็นไปได้ไง...รถเก่าขนาดนั้นยังสะอาด...น้ำที่ล้างออกมาก็สกปรกไม่มากแป็บเดียวสะอาด
  เพราะว่ารถยุโรปส่วนมากจะมีแผ่นกรองอากาศที่ดูดอากาศจากภายในรถก่อนผ่านคอยล์เย็นอีกทีทำให้อากาศสะอาดเสมอ..และผมก็เป่าใสกรองเสมอ
ยุ่ยก็เปลี่ยน...คอยล์เย็นเลยสกปรกน้อยมากและทนมากๆ

   แต่....รถญี่ปุ่นมักระดับเล็ก ระดับกลาง จะไม่มีระบบกรองอากาศในรถเลย ดูดอากาศผ่านกันตรงๆเลย....ผลคือไม่นานคอยล์เย็นสกปรก ดำ เกรอะกรัง ต้องถอดล้างกันเป็นประจำ

รถผมก็ใช้วิธีนี้เช่นกันครับ...เจาะทั้งสองด้าน...ใช้น้ำยาล้างแอร์บ้านฉีดเข้าไป...ทิ้งไว้สักพัก เอาสายยางแหย่ เปิดน้ำค่อยๆ ฉีดล้างน้ำยาออก ...ลมเป่าอีกด้าน ...2-3 เดือนทำที ผล แอร์เย็น ไม่มีกลิ่นอับ และไม่ต้องเสียตังค์เป็นพัน เสียเวลาแค่เบียร์หมดขวด...รถคันก่อน ใช้ 11 ปี ไม่ได้เปลี่ยนคอยล์เย็นเลยครับ