เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 ::014:: ::014::เนื่องจากเห็นกิจกรรมดีๆจึงอยากประชาสัมพันธครับเห็นว่าประเด็นนี้เป็นที่น่าสนใจเหมาะกับการศึกษา เลยอยากขอความร่วมมือเพื่อนๆพี่ๆน้องๆภายในเว็บให้ช่วยกันอีกแรงในการเผยแพร่ความรู้ครับ รายละเอียดของโครงการดูได้ตามลิงค์

ขอขอบคุณคุณต้นที่เป็นหัวเรียวหัวแรงมาตลอดในการรณรงค์ไม่ให้ปล่อยปลาต่างถิ่นลงแหล่งน้ำของบ้านเราครับ ::014:: ::014::
http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board17&topic=1153&action=view

ดีครับ  ::002::

มาช่วยกันรณรงค์การปล่อยปลาต่างถิ่นลงแหล่งน้ำบ้านเรากันเถอะครับ

อ่านหัวข้อ นึกว่าจะให้สนับสนุน
 ::010:: ::010:: ::010:: ::010::

เป็นกิจกรรมที่ดีมากครับ จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้อีกหนึ่งเสียงครับ
+1 เจ้าของกระทู้ครับ
 ::014:: ::014:: ::014:: ::014::
 ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

เติมคำว่า "งด"  หรือคำว่าอะไรก็ได้หน้าหลังคำว่า "รณรงค์" น่าจะดีกว่านะครับ  อ่านดูนึกว่าให้ปล่อยกันเยอะ ๆ  ::014::

สนับสนุนครับ โครงการดี ๆ  ;)

ครับแก้ไขแล้วครับ
เนื้องด้วยปัจุบันเกิดปัญหานี้มากขึ้นจนอนาคตปลาไทยอาจสูญหายไปจากแหล่งน้ำธรรมชาติ
แต่ก็ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาจริงจัง
เมื่อมีคนทำโครงการดีๆ ฝากเพื่อนๆพี่ๆประชาสัมพันธด้วยนะครับ
เพื่อลูกหลานในอนาคต

ดีครับช่วยๆกันบอกต่อๆ  อีกอย่างที่ผมอยากขอร้องคืออย่าเอาเต่าเอาปลาไปปล่อยในวัดเลย  ถ้าอยากได้บุญจริงๆผมว่าปล่อยลงห้วยหรือแม่น้ำจะเป็นการช่วยที่แท้จริง  ปล่อยในวัดก็อดตายเท่านนั้น :~)

ใครมันจะไปรู้ครับ กว่าจะรู้ มันก็เต็มคลองแล้วครับ

แต่ว่ารู้แล้วยังดีกว่าไม่รู้เลยนะครับ ผมก็เป็นคนที่เคยปล่อยซักเกอร์ลงน้ำครับ น้อมรับความผิดครับ

ฮาๆๆ...เจอตัวแล้ว...คุณ krajong ไปจับปลาซักเกอร์ในคลองบ้านผมเลย มีเต็มคลองแล้วครับ ที่สุพรรณฯโน้น.. ;D ;D ;D ;D

เห็นด้วยครับ ผมเลี้ยงปลามานาน ;D ;D ;D ทราบผลกระทบดี

บางทีเห็นคนตกปลาซักเก้อได้ เขาโยนทิ้งไม่เอาบนบกมันยังจะลงน้ำเองได้ ทนสุดๆ

    ไอ้เจ้าซัคเกอร์ หรือปลาตัวดูด... ช่วงที่บ้านผมทำบ่อปลาแล้วนำปลาไปขายที่แพปลา ผมดันทะลึ่งเดินไปสำรวจในแพปลาว่ามีปลาอะไรบ้างแล้วก็ขายไปจังหวัดไหน

     มาสะดุดกองเจ้าตัวดูดกองใหญ่ๆ เลยลองสอบถามว่าเอาไปไหน... คำตอบที่ได้รับคือ นำเนื้อไปทำทอดมันขายที่ตลาด  ::012::

แหล่งน้ำธรรมชาติแถวๆรอบบ้านผมเดี๋ยวนี้มีแต่ ปลานิล ครับ นี่ก็เอเลี่ยนอีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ก็มีประโยชน์อยู่ครับ

ปลานิล นี้มีผลกระทบกับสภาพแวดล้อมท้องถิ่นบ้างไหมครับ (ไม่รู้จริงๆ ::014:: ::014::) แต่หอยนี้แน่นอน...

  ปลานิลนี่แทบไม่นับว่าเป็นเอเลี่ยนแล้วครับ  มีประโยชน์มากกว่ามีโทษ มีการนำมาขยายพันธุ์ในแหล่งนำบ้านเรามาประมาณสี่ห้าสิบปีมาแล้ว จนเดี๋ยวนี้กลายเป็นปลาท้องถิ่นไปเลย  ส่วนเอเลี่ยนนั้น จะเป็นพวก ปลาการ์ อัลลิเกเตอร์ ชัคเกอร์ อะโรวะน่า ล่าสุดนี่ลักษณะคล้ายกระพงผสมพีค็อกเบสนักตกปลามักง่าย(บางคน)นำมาปล่อยเพื่อเป็นเกมส์ตกปลาเจ้านี่ขยายพันธุ์เร็วมากกินไม่เลือกโตเร็วและยังเป็นปัญหาอยู่ 

ขอบคุณมาครับ....

.....อัลลิเกเตอร์....ตัวนี้ละครับตอนสงกรานต์ผมกลับบ้าน ล้างรถเสร็จก็เดินไปล้างมือในบ่ออนุบาลปลาทอง...มันพุ่งมาจะงับมือผม..ผมตกใจนึกว่าใครเอาจระเข้มาปล่อย...ยอมรับว่าฉี่แทบราด :~) :~)

ผมสงสัยว่าปลานิลเป็นปลาเอเลี่ยนยังไง................ช่วยขยายความให้ทราบหน่อยนะครับ .........................

ในความเห็นผม ปลานิลเป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจชนิดหนึ่งไม่ใช่หรือ

ขอความเห็น"ชัดๆ"ด้วยนะครับคุณ deore XT

เอเลี่ยนกับปลานิล...

หมายความถึงในแง่ที่ว่า...

มิใช่ปลาพื้นเมืองหรือเปล่าครับ...

ข้อเสียของปลานิลที่เจอ...คือขุดดินข้างบ่อให้เซาะเร็วกว่าปรกติ...

แต่ก็ยังไม่เท่ากับหมาที่บ้านกระโจนลงน้ำ ปีนขึ้นปีนลงจนตลิ่งพังครับ...

ข้อเสียอีกอย่าง...เวลามันเลี้ยงลูกมันจะไม่กินอะไรจึงทำให้ผอม....เขาจึงผลิตปลานิลเป็นหมั่นออกมา...

ดีครับ มีอาหารโปรตีนเพิ่มขึ้น ปรุงด้วยเกลือเสริมไอโอดีนด้วยยิ่งดี....


ทำให้ผมนึกถึงเกร็ดเรื่องมันฝรั่งเลยครับ ตอนที่มันฝรั่งถูกชาวเรือนำจากเปรูเข้าไปปลูกในยุโรปใหม่ๆศาสนจักรต่อต้าน หาว่าเป็นพืชผลของปีศาจ

แต่ก็สู้คุณประโยชน์ที่มากับมันไม่ได้ ในที่สุดก็หลอมตัวเป็นอาหารเสริมประจำวัน มีปีหนึ่งที่อากาศหนาวจัดจนการปลูกมันฝรั่งบนเกาะไอร์แลนด์ล้มเหลว ปีนั้นคนอังกฤษอดตายเป็นล้านคน

ไม่กี่ปีก่อนนักวิจัยอังกฤษก็ให้รายงานออกมา ว่ามันฝรั่งเป็นพืชผลต่างถิ่นที่ทำให้เกิดเครือจักรภพอังกฤษขึ้นมาได้ เพราะอุดมไปด้วยสารอาหารที่ทำให้คนอังกฤษแข็งแรงขึ้น อดอยากน้อยลง การที่อังกฤษยอมรับมันฝรั่งเข้ามาเป็นอาหารเร็วกว่าชาติอื่นๆเปลี่ยนแปลงสรีระของคนอังกฤษสมัยนั้นให้พัฒนาขึ้นมาเทียมหน้าชาวบ้านได้...

ต้องรู้จักแยกแยะ  ::002:: ......................

ครับปลานิลเป็นเอเลียน ที่มีประโยชน์อยู่หากปล่อยลงไว้ตามแหล่งน้ำต่างๆตามที่เห็นว่าเหมาะสม เนื่องจากปลานิลมีคุณลักษณะพิเศษหลายข้อ เช่น กินอาหารได้ทุกชนิด เช่น ไรน้ำ ตะไคร่น้ำ ตัวอ่อนของแมลงและสัตว์น้ำเล็กๆ มีขนาดลำตัวใหญ่ ความยาวประมาณ 10–30 เซนติเมตร แพร่ขยายพันธุ์ง่าย และมีรสชาติดีที่สำคัญคือมันสามารถกินพื้ชน้ำได้เกือบทุกชนิดและกินเก่งมากหากไม่คิให้ดีก่อนปล่อยอาจทำลายพืชน้ำทีสำคัญและมีประโยชน์จนหมดเช่นกัน 
อะโรวะน่า อาจไม่ใชทังหมดนะคับในอดีตมีอยู่ในแม่น้ำแถวสุราษฎและในยะลาก็เคยพบแต่หน้าจะสูญพันธุ์ไปแล้ว

ปลาทับทิมเป็นสายพันธุ์เดียวกับปลานิล..

ปลานิลได้มาจากการที่สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นทรงทราบว่าในหลวงของเราทรงห่วงไยพสกนิกร อยากให้คนไทยได้มีอาหารเสริมประเภทโปรตีนกินได้ในราคาถูกๆ

จึงถวายให้ในหลวงของเราเพื่อเป็นการแสดงพระราชไมตรี ในหลวงได้ปลานิลมาก็พระราชทานให้กรมประมงเอาไปเพาะพันธุ์แจกชาวบ้านได้เลี้ยงไว้กิน ขณะเดียวกันก็มีพระกระแสฯให้พัฒนาสายพันธุ์ให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆจนได้มีปลาทับทิมไว้กินในปัจจุบัน

ปลานิลอยู่คู่กับคนไทยมากว่า40ปีแล้ว ผมจำความได้ในหนังสือเรียนก็มีเรื่องปลานิลแล้ว....

มันไม่ใช่เอเลี่ยน มันคือหลักฐานแห่งความรัก ความห่วงไยที่พระราชามีต่อประชาชนของพระองค์

คุณdeore XTไม่ทราบจริงๆหรือทำไก๋แกล้งไม่รู้ครับ?






คนเนรคุณ-อกตัญญูไม่มีวันเจริญ ถึงเจริญก็ไม่ตลอด

บอกให้ฟังเฉยๆ

ลองอ่านลิงก์นี้ดูนะครับ จะทราบว่า ทำไมจึงมีปลานิลในประเทศไทย

http://kumis.cpc.ku.ac.th/nk40/nk/non_busi/proj03.html (http://kumis.cpc.ku.ac.th/nk40/nk/non_busi/proj03.html)

ผมอ่านตรงนี้แล้วซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณเกินกว่าจะคิดว่าปลานิลเป็นปลาเอเลี่ยนได้น่ะครับ

...พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมราษฎรทั่วประเทศ ทรงพบความเป็นอยู่ของราษฎร ที่ชาวบ้านส่วนใหญ่ยากจน และขาดสารอาหารประเภทโปรตีน ทำให้เป็นโรคขาดสารอาหารกันมาก เนื้อสัตว์ราคาถูกที่พอจะหามาบริโภคได้คือปลา ซึ่งเป็นอาหารหลักของคนไทยมาแต่ดั้งเดิม.......

 ::014:: ::014::ไม่ใช่รู้คุณ-ไม่ใช่อกตัญญูผมเองก็ชอบรัปทานเผาเกลือสุดๆ :D~ :D~
แค่อยากบอกว่าหากอยู่ผิดที่ผิดทางมันก็ไม่ดี  ควรศึกษาสภาพพื้นที่ก่อนทำการปล่อย
 ::004:: ::004::หากผิดไปขอโทษครับ ::014:: ::014::

คนแถวบ้านผม อยู่บนเขา อัตคัตปลาธรรมชาติ... หากมีที่ว่างเปล่า ก็ขุดบ่อ ขอพันธุ์ปลาจากประมง...เลี้ยงไว้เป็นอาหาร..มีงานศพ งานบวช งานแต่ง กฐิน ผ้าป่า ลงแขกยกบ้าน  เกี่ยวข้าว ดำนา ฯลฯ ก็มีปลานิลนี่แหละเป็นพระเอก

ชาวบ้านที่ไร้การศึกษาเหล่านั้น สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเข้าใจตรงกันตลอดมาว่า ปลาพระราชทาน คือ ปลานิล ...ปลานิล คือปลาพระราชทาน ...ต่างจากคนเรียนมาสูงๆบางคน มองปลานิลเป็นเอเลี่ยน...ฮ่วย



   

 

    หวังแต่ว่าปลานิล คงจะนับคุณ deore XT เป็นเอเลี่ยนที่มีประโยชน์อยู่บ้างก็เป็นได้ ..นะครับ

เจาะจงเรียนจขกท.คุณjojojoเลยนะครับ

กระทู้ที่คุณ jojojo ผมเห็นว่าเกิดจากเจตนารมณ์ที่ดี ผมไม่ได้มีความคิดที่จะตำหนิแม้แต่น้อยนะครับ

ข้อสังเกตุของผมและเพื่อนสมาชิกหลายคนเกิดจากมีคนยกเรื่อง"ปลานิล"ขึ้นมาแย็บ

สมาชิกท่านอื่นๆรวมถึงผมก็เอะใจขึ้นมา .... แต่ตัวกระทู้และข้อคิดที่ให้ศึกษาพื้นที่ให้เหมาะสมก่อนเป็นเรื่องที่ควรทำครับ

สบายใจเถิดครับ  :D

คนไม่รู้ย่อมไม่ผิด

แต่คนรู้แล้วยังกล้า...................มัน........

ปลานิลมีประโยชน์นะครับ  แถมอร่อยด้วย  ปลานิลกินอาหารได้หลากหลาย เช่น ไรน้ำ ตะไคร่น้ำ ตัวอ่อนของแมลง ปลานิลเป็นปลาเศรษฐกิจนะครับ ท่านมดแดง  ;)

(http://image.ohozaa.com/tj/255n1.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=c38984e6b8447bb663f68735c74f655b)

ปลานิล Oreochromis nilotica เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งซึ่งมีคุณค่าทางเศรษฐกิจนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2508 เป็นต้นมา สามารถเลี้ยงได้ในทุกสภาพ การเพาะเลี้ยงในระยะเวลา 8 เดือน – 1 ปี สามารถเจริญเติบโตได้ถึงขนาด 500 กรัม เนื้อปลามีรสชาติดี มีผู้นิยมบริโภคกันอย่างกว้างขวาง ขนาดปลานิลที่ตลาดต้องการจะมีน้ำหนักตัวละ 200 – 300 กรัม จากคุณสมบัติของปลานิลซึ่งเลี้ยงง่ายเจริญเติบโตเร็วแต่ปัจจุบันปลานิลพันธุ์แท้ค่อนข้างจะหายาก เพื่อให้ได้ปลานิลพันธุ์ดีกรมประมงจึงได้ดำเนินการ ปรับปรุงพันธุ์ปลานิลในด้านต่างๆอาทิ เจริญเติบโตเร็ว ปริมาณความดกของไข่สูง ให้ผลผลิตและมีความต้านทานโรคสูง เป็นต้น ดังนั้นผู้เลี้ยงปลานิลจะได้มีความมั่นใจในการเลี้ยงปลานิจเพื่อเพิ่มผลผลิตสัตว์น้ำให้เพียงพอต่อการบริโภคต่อไป

ความเป็นมา
สมเด็จพระจักรพรรดิอากิฮิโต เมื่อครั้งดำรงพระอิสริยยศมกุฎราชกุมารแห่งประเทศญี่ปุ่น ทรงจัดส่งปลานิลจำนวน 50 ตัวความยาวเฉลี่ยประมาณตัวละ 9 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 14 กรัม มาทูลเกล้าฯถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2508 นั้น ในระยะแรกได้ทรงโปรดเกล้าฯให้ปล่อยบ่อดิน เนื้อที่ประมาณ 10 ตารางเมตร ณ บริเวณสวนจิตรลดา พระราชวังดุสิต เมื่อเลี้ยงมาได้ 5 เดือนเศษ ปรากฏว่ามีลูกปลาเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก จึงได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าหน้าที่ที่สวนหลวงขุดบ่อใหม่ขึ้น 6 บ่อ มีเนื้อที่เฉลี่ยบ่อละ 70 ตารางเมตร ซึ่งในโอกาสนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงย้ายพันธุ์ปลาด้วยพระองค์เองจากบ่อเดิมไปปล่อยเลี้ยงในบ่อใหม่ทั้ง 6 บ่อ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2508 ต่อจากนั้น ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้กรมประมงจัดส่งเจ้าหน้าที่วิชาการมาตรวจสอบการเจริญเติบโตเป็นประจำทุกเดือน
โดยที่ปลาชนิดนี้เป็นจำพวกกินพืช เลี้ยงง่าย มีรสชาติดี ออกลูกดก เจริญเติบโตได้รวดเร็ว ในเวลา 1 ปี จะมีน้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม และมีความยาวประมาณ 1 ฟุต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชประสงค์ที่จะให้ปลาชนิดนี้แพร่ขยายพันธุ์ อันจะเป็นประโยชน์แก่พสกนิกรของพระองค์ต่อไป ดังนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2509 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯพระราชทานชื่อปลาชนิดนี้ว่า “ปลานิล” และได้พระราชทานปลานิลขนาดยาว 3 – 5 เซนติเมตร จำนวน 10,000 ตัว ให้แก่กรมประมงนำไปเพาะเลี้ยงขยายพันธ์ที่แผนกทดลองและเพาะเลี้ยงในบริเวณเกษตรกลาง บางเขนและที่สถานีประมงต่างๆทั่วราชอาณาจักร รวม 15 แห่ง เพื่อดำเนินการเพาะเลี้ยงขยายพันธุ์พร้อมกัน เมื่อปลานิลแพร่ขยายพันธุ์ออกไปได้มากเพียงพอแล้วจึงได้แจกจ่ายให้แก่ราษฎรนำไปเพาะเลี้ยงตามพระราชประสงค์ต่อไป
รูปร่างลักษณะ
ปลานิลเป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง อยู่ในตระกูลซิคลิดี(Cichlidae) มีถิ่นกำเนิดเดิมอยู่ทวีปแอฟริกา พบทั่วไปตามหนอง บึง และทะเลสาบ ในประเทศซูดาน ยูกันดา แทนแกนยีกา โดยที่ปลานิลชนิดนี้เจริญเติบโตเร็วและเลี้ยงง่าย เหมาะสมที่จะนำมาเพาะเลี้ยงในบ่อได้เป็นอย่างดี จึงได้รับความนิยมและเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในภาคพื้นเอเชีย แม้แต่ในสหรัฐอเมริกาก็นิยมเลี้ยงปลาชนิดนี้
รูปร่างลักษณะของปลานิลคล้ายกับปลาหมอเทศ แต่ลักษณะพิเศษของปลานิลมีดังนี้คือ ริมฝีปากบนและร่างเสมอกัน ที่บริเวณแก้มมีเกล็ด 4 แถว ตามลำตัวมีลายพาดขวางจำนวน 9 – 10 แถบ นอกจากนั้นลักษณะทั่วไปมีดังนี้ ครีบหลังมีเพียง 1 ครีบ ประกอบด้วยก้านครีบแข็งและก้านครีบอ่อนเป็นจำนวนมาก ครีบก้นประกอบด้วยก้านครีบแข็งและอ่อนเช่นกัน มีเกล็ดตามแนวเส้นข้างตัว 33 เกล็ด ลำตัวมีสีเขียวปนน้ำตาล ตรงกลางเกล็ดมีสีเข้ม ที่กระดูกแก้มมีจุดสีเข้มอยู่จุดหนึ่งบริเวณส่วนอ่อนของครีบหลัง ครีบก้น และครีบหางนั้นจะมีจุดสีขาวและสีดำตัดขวางแลดูคล้ายลายข้าวตรอกอยู่โดยทั่วไป
ต่อมากรมประมงโดยสถาบันวิจัยและพัฒนาและพันธุกรรมสัตว์น้ำได้นำปลานิลสายพันธุ์แท้มีชื่อว่าปลานิลสายพันธุ์จิตรลดาไปดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ได้ปลานิลสายพันธุ์ใหม่ จำนวน 3 สายพันธุ์ ดังนี้
1. ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 1 เป็นปลานิลที่ปรับปรุงพันธุ์มาจากปลานิลสายพันธ์แบบคัดเลือกภายในครอบครัว (within family selection) เริ่มดำเนินการปรับปรุงพันธุ์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 จนถึงปัจจุบันเป็นชั่วอายุที่ 7 ซึ่งทดสอบพันธุ์แล้วพบว่ามีอัตราการเจริญเติบโตดีกว่าปลานิลพันธุที่เกษตรกรเลี้ยง 22 %
2. ปลานิลสายพันธุ์จิตลดา 2 เป็นปลานิลที่พัฒนาพันธุ์มาจากปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา โดยการปรับเปลี่ยนพันธุกรรมในพ่อพันธุ์ให้มีโครโมโซมเป็น "YY" ที่เรียกว่า "YY - Male" หรือซุปเปอร์เมล ซึ่งเมื่อนำพ่อพันธุ์ดังกล่าวไปผสมพันธุ์กับแม่พันธุ์ปรกติจะได้ลูกปลานิลเพศผู้ที่เรียกว่า "ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 2 " ซึ่งมีลักษณะเด่นคือเป็นเพศผู้ที่มีโครโมโซมเพศเป็น "XY" ส่วนหัวเล็กลำตัวกว้าง สีขาวนวล เนื้อหนาและแน่น รสชาติดี อายุ 6 – 8 เดือน สามารถเจริญเติบโตได้ขนาด 2 – 3 ตัวต่อกิโลกรัม ให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าปลานิลพันธุ์ที่เกษตรกรเลี้ยง 45 %
3. ปลานิลสายพันธุจิตรลดา 3 เป็นปลานิลที่ปรับปรุงพันธุ์มาจากการนำปลานิลพันธุ์ผสมกลุ่มต่างๆที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างปลานิลสายพันธุ์จิตรลดาและปลานิลสายพันธุ์อื่นๆ อีก 7 สายพันธุ์ ได้แก่ อียิปต์ กานา เคนยา สิงคโปร์ เซเนกัล อิสราเอล และไต้หวันซึ่งมีการเจริญเติบโตเร็วและมีอัตรารอดสูง ในสภาพแวดล้อมการเลี้ยงต่างๆ ไปสร้างเป็นประชากรพื้นฐาน จากนั้นจึงดำเนินการคัดพันธุ์ในประชากรพื้นฐานต่อโดยวิธีดูลักษณะครอบครัวร่วมกับวิธีดูลักษณะภายในครอบครัว ปลานิลชั่วอายุที่ 1 – 5 ดำเนินการปรับปรุงพันธุ์โดยหน่วยงาน ICLARM ในประเทศฟิลิปปินส์ จากนั้นจึงนำลูกปลาชั่วอายุที่ 5 เข้ามาในประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2538 สถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำจึงดำเนินการปรับปรุงปลาพันธุ์ดังกล่าวต่อ โดยวิธีการเดิมจนในปัจจุบันได้ 2 ชั่วอายุ และเรียกว่า "ปลานิลสายพันธุ์จิตรลดา 3 " ปลาสายพันธุ์นี้มีลักษณะเด่นคือ ส่วนหัวเล็ก ลำตัวกว้าง สีเหลืองนวล เนื้อหนาและแน่น รสชาติดี อายุ 6 – 8 เดือน สามารถเจริญเติบโตได้ขนาด 3 – 4 ตัวต่อกิโลกรัม ให้ผลผลิตต่อไร่สูงกว่าปลานิลพันธุ์ที่เกษตรกรเลี้ยง 40 %
ปัจจุบันสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำได้กระจายพันธุ์ปลานิลทั้ง 3 สายพันธุ์ ไปสู่ภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ เพื่อใช้ในการเพาะเลี้ยงแล้ว โดยหน่วยงานของสถาบันฯในจังหวัดปทุมธานีและหน่วยพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำจืดพิษณุโลก ขอนแก่น และสุราษฏร์ธานี นอกจากนี้ยังดำเนินการดำรงสายพันธุ์และทดสอบพันธุ์ปลานิลดังกล่าวด้วย

คุณสมบัติและนิสัย
ปลานิลมีนิสัยชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง (ยกเว้นเวลาสืบพันธุ์) มีความอดทนและปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี จากการศึกษาพบว่า ปลานิลทนต่อความเค็มได้ถึง 20 ส่วนในพันส่วน ทนต่อค่าความเป็นกรด – ด่าง (pH) ได้ดีในช่วง 6.5 – 8.3 และสามารถทนต่ออุณหภูมิได้ถึง 40 องศาเซลเซียส แต่ในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียสพบว่าปลานิลปรับตัวและเจริญเติบโตได้ไม่ดีนักทั้งนี้เป็นเพราะถิ่นกำเนิดเดิมของปลาชนิดนี้อยู่ในเขตร้อน

การสืบพันธุ์
1. ลักษณะ ตามปกติแล้วรูปร่างภายนอกของปลานิลตัวผู้และตัวเมีย จะมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่จะสังเกตลักษณะเพศได้ก็โดยการดูอวัยวะเพศที่บริเวณใกล้กับช่องทวาร โดยตัวผู้จะมีอวัยวะเพศในลักษณะเรียวยาวยื่นออกมา แต่สำหรับตัวเมียจะมีลักษณะเป็นรูค่อนข้างใหญ่และกลม ขนาดปลาที่จะดูเพศได้ชัดเจนนั้นต้องเป็นปลาที่มีขนาดความยาวตั้งแต่10 เซนติเมตรขึ้นไป สำหรับปลาที่มีขนาดโตเต็มที่นั้นเราจะสังเกตเพศได้อีกวิธีหนึ่งด้วยการดูสีที่ลำตัวซึ่งปลาตัวผู้ที่ใต้คางและลำตัวจะมีสีเข้มต่างกับตัวเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูผสมพันธุ์สีจะยิ่งเข้มขึ้น
2. การผสมพันธุ์และวางไข่ ปลานิลสามารถผสมพันธุ์ได้ตลอดปีโดยใช้เวลา 2 – 3เดือน/ครั้ง แต่ถ้าอาหารเพียงพอและเหมาะสมในระยะเวลา 1 ปี จะผสมพันธุ์ได้ 5 – 6 ครั้ง ขนาดอายุและช่วงการสืบพันธุ์ของปลาแต่ละตัวจะแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม และสภาพทางสรีรวิทยาของปลาเอง การวิวัฒนาการของรังไข่และถุงน้ำเชื่อของปลานิล พบว่าปลานิลจะมีไข่และน้ำเชื่อเมื่อมีความยาว 6.5 ซม. โดยปรกติปลานิลที่ยังโตไม่ได้ขนาดผสมพันธุ์หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมเพื่อการวางไข่ ปลารวมกันอยู่เป็นฝูง แต่ภายหลังที่ปลามีขนาดที่จะสืบพันธุ์ได้ปลาตัวผู้จะแยกออกจากฝูงแล้วเริ่มสร้างรังโดยเลือกเอาบริเวณเชิงลาดหรือก้นบ่อที่มีระดับน้ำลึกระหว่าง 0.5 – 1 เมตร วิธีการสร้างรังนั้นปลาจะปักหัวลง โดยที่ตัวของมันอยู่ในระดับที่ตั้งฉากกับพื้นดิน แล้วใช้ปากพร้อมกับการเคลื่อนไหวของลำตัวเพื่อเขี่ยดินตะกอนออกจากนั้นจะอมดินตะกอนงับเศษสิ่งของต่างๆออกไปทิ้งนอกรังทำเช่นนี้จนกว่าจะได้รังที่มีลักษณะค่อนข้างกลมเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 – 35 ซม. ลึกประมาณ 3 – 6 ซม. ความกว้างและความลึกของรังไข่ขึ้นอยู่กับขนาดของพ่อปลาหลังจากสร้างรังเรียบร้อยแล้วมันพยายามไล่ปลาตัวอื่นๆ ให้ออกไปนอกรัศมีของรังไข่ประมาณ2–3เมตรขณะเดียวกันพ่อปลาที่สร้างรังจะแผ่ครีบหางและอ้าปากกว้าง ในขณะที่ปลาตัวเมียว่ายน้ำอยู่ใกล้ๆรัง และเมื่อเลือกตัวเมียได้ถูกใจแล้วก็แสดงอาการจับคู่ โดยว่ายน้ำเคล้าคู่กันไปโดยใช้หางดีดและกัดกันเบาๆ การเคล้าเคลียดังกล่าวใช้เวลาไม่นานนัก ปลาตัวผู้ก็จะใช้บริเวณหน้าผากดุนที่ใต้ท้องของตัวเมียเพื่อเป็นการกระตุ้นเร่งเร้าให้ตัวเมียวางไข่ ซึ่งตัวเมียจะวางไข่ครั้งละ 10 – 15 ฟอง ปริมาณไข่รวมกันแต่ละครั้งมีปริมาณ 50 – 600 ฟอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขนาดของแม่ปลา เมื่อปลาวางไข่แต่ละครั้งปลาตัวผู้จะว่ายไปเหนือไข่พร้อมกับปล่อยน้ำเชื้อลงไปทำเช่นนี้จนกว่าการผสมพันธุ์แล้วเสร็จโดยใช้เวลา 1 – 2 ชั่วโมง ปลาตัวเมียเก็บไข่ที่ได้รับการผสมแล้วอมไว้ในปากและว่ายออกจากรังส่วนปลาตัวผู้ก็จะคอยหาโอกาสเค้าเคลียกับปลาตัวเมียอื่นต่อไป
3. การฟักไข่ ไข่ปลาที่อมไว้โดยปลาตัวเมียจะวิวัฒนาการขึ้นตามลำดับ แม่ปลาจะขยับปากให้น้ำไหลเข้าออกในช่องปากอยู่เสมอ เพื่อช่วยให้ไข่ที่อมไว้ได้รับน้ำที่สะอาด ทั้งยังเป็นการป้องกันศัตรูที่จะมากินไข่ ระยะเวลาฟักไข่ที่ใช้แตกต่างกันตามอุณหภูมิของน้ำ สำหรับน้ำที่มีอุณหภูมิ 27 องศาเซลเซียส ไข่จะมีวิวัฒนาการเป็นลูกปลาวัยอ่อนภายใน 8 วัน ซึ่งในระยะเวลาดังกล่าวถุงอาหารยังไม่ยุบ และจะยุบเมื่อลูกปลามีอายุครบ 13 – 14 วัน นับจากวันที่แม่ปลาวางไข่ ในช่วงระยะเวลาที่ลูกปลาฟักออกมาเป็นตัวใหม่ๆ ลูกปลานิลวัยอ่อนจะเกาะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม โดยว่ายวนเวียนอยู่บริเวณหัวของแม่ปลา และเข้าไปหลบซ่อนอยู่ในช่องปากเมื่อมีภัย หรือถูกรบกวนโดยปลานิลด้วยกันเอง เมื่อถุงอาหารยุบลงลูกปลานิลจะเริ่มกินอาหารจำพวกพืชและไรน้ำขนาดเล็กได้ และหลังจาก 3 สัปดาห์แล้วลูกปลาก็จะกระจายแตกฝูงไปหากินเลี้ยงตัวเองได้โดยลำพัง

http://pong-fish.blogspot.com/

เข้าหน้าการเมืองไม่ได้ ก็หาทางแย๊ปมันทุกกระทู้ที่มีช่อง....

คนประเภทนี้บางทีผมอาจจะแรงไปก็ได้ แต่ขอเรียกว่า "สเนียดแผ่นดิน"

รับทราบครับ ปลานิลถือเป็นปลาเศรษฐกิจ ขอบคุณครับ :)

เรื่องนี้ก็เห็นด้วยเช่นกันครับ

สมัยผมเรียนอยู่มัธยมวัดเบญจฯ มีบ่อเต่า คนเอาเต่ามาปล่อยกันมาก จนน้ำเน่า และอาหารไม่พอ
ได้เห็นเต่าตายลอยตายจนเป็นเรื่องธรรมดาไปเลยครับ

ไม่นานมานี้ไปเที่ยววัดเจดีย์หอย มีบ่อเต่าเช่นกัน ในบ่อนั้นผมเห็นเต่าเหลือง (เป็นเต่าบก) ถูกปล่อยลงไปอยู่ในบ่อที่มีส่วนแห้งเล็กน้อยด้วย
ก็ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่แถวนั้นเขาทราบไว้ เพื่อให้เอาขึ้นมาโดยเร็วครับ

ต้องศึกษาไปด้วยครับ ก่อนจะว่าอะไรออกมา  .....อย่างข้าวโพด  พริก  สัปปะรด  ตะขบ  ก็ล้วนนำเข้ามาจากทวีปอเมริกาทั้งนั้น

(http://img196.imageshack.us/img196/7472/13032009z.jpg) (http://img196.imageshack.us/my.php?image=13032009z.jpg)

  ใช่ปลาปิรันย่าหรือเปล่าครับ? เห็นมีวางขายที่ตลาดนัดแถวบ้านเป็นบางครั้ง

รูปปลาของท่าน คนเผชิญโชค เป็นปลาจาระเม็ดน้ำจืด (บ้านผมเรียกแบบนี้) เอาไปเผาเกลือ หรือต้มยำอร่อยมากครับ ทอดก็ได้  ::014::
 

ผมเพิ่งทราบครับว่า ปลานิลเป็นปลาที่ในหลวงท่านพระราชทานให้ประชาชน  เป็นบุญของประชาชนคนไทยจริงๆครับ  ขอพระองค์ทรงพระเจริญ  ::014:: ::014::

คุณArjunA พึ่งทราบไม่เป็นไรครับ ................... เรื่องนี้เป็นธรรมดาครับที่ ถ้าไม่ทราบจริงๆก็จะไม่ทราบเอาเลย  :D

ผมกลัวว่าคนที่ทราบเรื่องราวของปลานิลดี .........แต่ยังยกเรื่องกล่าวหาว่าปลานิลเป็นเอเลี่ยน (ซึ่งฟังแล้วรู้สึกไม่ดีเอามากๆ) มากล่าวในเวปนี้นั้น...............

มีจุดประสงค์อะไร .................

ลองพิจารณากันดูนะครับ ............. เพราะผมพบกับคนที่ไม่รู้เรื่องกำเนิดปลานิลมามาก ที่ไม่รู้ที่มา แต่คนเหล่านี้ ไม่เคยคิดว่าปลานิลเป็นเอเลี่ยนเลย ............ ถามเขาว่าปลานิลเป็นยังไง จะได้รับคำตอบว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจเสมอๆ

ผมถามคนที่กล่าวว่าปลานิลเป็นเอเลี่ยนว่า มีความเห็นอย่างไรถึงเห็นว่าปลานิลเป็นเอเลี่ยน ............... เห็นผลุบๆโผล่ๆมาแต่ไม่ตอบผม

ก็ไม่ว่าอะไรครับ ..................

กรรมเป็นเครื่องส่อเจตนาอยู่แล้ว .....................

..ฟัน.คม.นะครับพรรคพวกเคยตกได้บ่อย.บางทีกัดเอ็นขาดเลย... :~)

เกิดใต้ร่มบรมโพธิสมภาร แต่กลับกระทำตนเพื่อจ้องทำลาย....

คนแบบนี้ เสียทีที่เกิดเป็นคนไทย

ไม่ทราบว่าจะใช่ เปกู หรือปล่าว บ้านเราเรียกจาระเม็ดน้ำจืด รสชาดพอได้ครับ แต่สู้เนื้อปลานิลไม่ได้  ปลานิลถือเป็นปลาช่วยชาติ ขอพระองศ์ทรงพระเจริญ::014:: ::014:: ::014::

ใช้ลีดเดอร์สิครับน้าพงษ์... เจ้าตัวสีส้มแรงดีและอึด..เสียดายก้างเยอะไปหน่อย   ;D

น่าจะใช่ครับ สมัยก่อนข้างบ้านเลี้ยงไว้ กินทุกอย่าง ทั้งผัก ทั้งเนื้อ..

ขออนุญาติ ร่วมออกความคิดเห็น
ผมเองเป็นคนชอบธรรมชาติ ชอบตกปลา แต่ตอนนี้ เกือบจะถือได้ว่า เลิกตกปลาไปแล้ว
ด้วยสาเหตุที่มีที่มาที่ไปดังนี้ ผมเองเป็นคนภาคเหนือตอนบนและด้วยพระมหากรุณาของ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านได้ทรงเล็งเห็นว่า การทำอ่างเก็บน้ำในพระราชดำหริเป็นสิ่งที่ดีต่อประชากรด้วยเนื่องจากจะได้มีน้ำไว้ใช้ตอนหน้าแล้งและเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ(ปลา) ให้เป็นแหล่งอาหารของประชากรในท้องถิ่น ผมเองตกปลามาเกือบ 20 ปีก็จากอ่างเก็บน้ำธรรมชาติ(ชนบท) และปลาที่ได้คือ ปลายี่สก นวลจันทร์ ปลานิล ตะเพียน แต่ด้วยเนื่องจาก 3-4 ปีที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มตกปลาที่มีใจรักในการตีเหยื่อปลอม ได้นำสายพันธุ์ปลาชะโด จากต่างถิ่นมาปล่อยไว้เกือบทุกอ่าง เพื่อเป็นเกมส์ล่าของพวกเขาในอนาคต นิสัยของปลาชนิดนี้ถือว่านิสัยดุร้ายมาก และเป็นภัยต่อปลาทุกชนิด ซึ่งคนที่นำมาปล่อย จะทราบหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆคือ จำนวนปลาในอ่างนั้นลดลงอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีปลาตัวเล็กตัวน้อยให้เห็นเลย

ที่ผมสลดใจที่สุดจนแทบจะไม่จับเบ็ดอีกเลย ก็เนื่องจากว่า ต้นปีที่แล้ว ผมกับพ่อได้ไปตกปลาที่อ่างเก็บน้ำแห่งหนึ่งเคยตก อ่างนี้ประจำ วันนั้นมีคนเอาเนื้อปลาเป็นเหยื่อตก  แล้วได้ปลาชะโดขึ้นมา พ่อผมได้ถามผมว่า นั่นมัน ปลาอะไร พอผมได้ยินพ่อถามจึงรู้ว่า พ่อผมไม่รู้จักปลาชนิดนี้เลย มันก็หมายความว่า ปลาชนิดนี้ไม่เคยมีในแหล่งน้ำธรรมชาติมาก่อน แต่ปัจจุบันได้มีแพร่หลายในแทบทุกอ่างเก็บน้ำภาคเหนือ คนตกปลาภาคเหนือจะรู้ดีครับ ทุกวันนี้ อ่างเก็บน้ำที่เคยไปตกประจำแทบจะไม่มี ปลาที่เคยตกได้อีกเลย

ผมไม่ได้ว่าให้คนที่ชอบตีชะโด นะครับ แต่ฝากไว้กับคนที่จะคิดนำไปปล่อย ว่ามัน ได้ทำลายระบบนิเวศไปด้วยครับ
คิดสักนิดครับ ก่อนจะนำชะโดไปปล่อยครับ  
ตอนนี้ เวปตกปลา ผมเทปจะไม่เข้าดูครับ เพราะหน้าเวป มีแต่คนชูชะโด จะว่าผมมี อคติกับชะโดก็ได้นะครับ เพราะว่ามันทำลายระบบนิเวศ จริงๆ

ขออนุญาตเสริมว่า

ยางพาราที่เป็นพืชเศรษฐกิจหลักของภาคได้เป็นร้อยปี ก็ได้มาจากต่างถิ่นครับ

กระทู้ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผมว่าเป็นประเด็นสาธารณะของเว็ปเรา ผมชอบครับ

แต่การเมืองไม่น่าเข้ามาเกี่ยว เพราะว่าหน้าการเมืองมีแล้ว

ที่สำคัญไม่น่าจุดประเด็นเบื้องสูง

ชะโดเป็นปลานักล่า (ปลากินปลาด้วยกัน)ไม่สมควรอยู่ในพื้นที่ปิดอย่างอ่างเก็บน้ำครับ

อดีต ปลาชะโดจะอยู่ตามลำคลอง แม่น้ำ แบบน้ำไหลครับ  

ปลานักล่า ไม่สมควรเพาะพันธุ์มากนัก เพราะทำลายสมดุลย์ แต่จำเป็นต้องมีเพื่อรักษาสมดุลย์

ว่าไปแล้ว คนของรัฐที่ทำหน้าที่นี้มีอยู่ แต่คนนอก ที่นึกอยากปล่อยก็ปล่อยนี่แหละ ทำให้ระบบเสีย

ยางพารา - เงาะโรงเรียน - ปาล์มน้ำมัน - โกโก้ - กาแฟ

อันไหนเป็นพืชประจำถิ่นใต้เอ่ย.... ;D ;D ;D

ก่อนจะมีเขื่อน หรืออ่างเก็บน้ำ   ปลาชะโดจะอยู่ในสายน้ำนั้นอยู่แล้ว
ผมเคยไปเที่ยวคลองชุน  อช. แก่งกรุงเมื่อ 15 ปีมาแล้ว  พอเท้าไปเหยียบตลิ่ง  ก็ปรากฏว่า  ปลาชะโดหลายสิบว่ายหนีลงที่ลึก  นั่นเป็นครั้งแรกที่เห็นปลาชะโดเป็นๆ 
ปลาต่างถิ่นที่ไม่มีภัย เช่น ปลานิล     ไม่น่าห่วงมาก
ในลำห้วยบ้านผม  ปลานิลไม่เคยครองแหล่งน้ำ  ปลากินพืชเช่น  สลิด  กระดี่  แม่ปลา ก็แพร่พันธุ์สืบมา
ที่น่าห่วง  ในความรู้สึกของคนหาปลา  และ ชอบกินปลา 
คือ ปลาอัปลักษณือย่าง ซัคเกอร์
และ ปลาดุกรัสเซียที่เอามาเลี้ยงแล้วหลุดไป ไม่รู้มันไปผสมกับปลาดุกนา ได้หรือเปล่า  ถ้าได้  ก็แย่

ขอเดาว่าเงาะโรงเรียนครับผม

เงาะโรงเรียน  คือเงาะนาสาร  อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี   ฝรั่งยุคเหมืองแร่เฟื่องฟูเอามาจากประเทศเพื่อนบ้าน  มาปลูก   
ปลูกปะปนกับเงาะพื้นเมือง   จนบางที เงาะพื้นเมืองบางต้น เนื้อล่อน กรอบ ไปเลยก็มี ครับ

ถูกของคุณChayanin ครับ  ไม่มีพืชประจำถิ่นใต้เลย ที่ผมบอกมาทั้งหมด



อำเภอบ้านนาสาร  เป็นพื้นที่ที่มี  " ทรัพย์ในดิน  สินในน้ำ "  ใต้พื้นดินประกอบด้วยแร่บนดินมีผลไม้เงาะพันธุ์ต้นแรกของประเทศไทย

               เมื่อประมาณปี  พ.ศ. 2480  นายเคหว่อง  ชาวปินัง  ได้เดินทางมาทำกิจการเหมืองแร่ดีบุก  ที่อำเภอบ้านนาสาร 
โดยทำเหมืองที่บ้านเหมืองแกะและที่บ้านขุนทองหลาง  โดยมีที่พักอาศัยอยู่ริมทางรถไฟ     ( ปัจจุบันเป็นโรงเรียนนาสาร  ) 


นายเคหว่อง   ได้นำเงาะพันธุ์พื้นเมืองของปินังมานั่งรับประทานแล้วได้ทิ้งเมล็ดไว้  ( เงาะปินัง   ผลใหญ่  ลักษณะทรงรี 
เปลือกหนา   ผลสีแดงเข้ม  ไม่หวาน )   ด้วยเหตุของดินที่ดีและมีความชุ่มชื้น   อุณหภูมิพอเหมาะ ทำให้เมล็ดที่ถูกทิ้งไว้   
งอกขึ้นมาประมาณ  3  ต้น เมื่อ  นายเคหว่อง  เลิกกิจการเหมืองแร่  ได้ขายบ้านพักพร้อมที่ดินให้กับทางราชการ  สมัยนั้น   
ราคาประมาณ  1,200  บาท 

ต่อมาทางราชการได้ตั้งเป็นโรงเรียนชื่อโรงเรียน  "นาสาร " โดยมี  ครูแย้ม  พวงทิพย์  เป็นครูใหญ่  ต้นเงาะทั้ง   3  ต้น 
ได้เจริญ  งอกงาม  ใหญ่โตขึ้นจากดินที่อุดมสมบูรณ์   และต่อมาได้ออกดอกติดผล จำนวนต้นเงาะทั้ง  3  ต้น  มีอยู่ต้นหนึ่ง
ผลของเงาะมีรสชาดหวาน  กรอบ  อร่อย ซึ่งแตกต่างจากพันธุ์      ให้กับพี่น้องชาวนาสารปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจของอำเภอ
บ้านนาสาร     และขยายพันธุ์ต่างจังหวัด  โดยตั้งชื่อจากแหล่งกำเนิด         
คือ  โรงเรียนนาสาร   จึงใช้ชื่อว่า       " เงาะโรงเรียน"


จาก
http://www.policenasan.com/new_page_55.htm (http://www.policenasan.com/new_page_55.htm)

+1ทั้งคู่ครับ  ;D

   ตอบแบบกลางๆนะครับ   ปลาที่เป็นเอเลี่ยนคือ  ปลาจากต่างถิ่นทุกชนิดครับ  ไม่ว่าปลาชนิดนั้นจะเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ  ในกรณีปลานิล ถามนักวิชาการเขาก็ตอบว่านับเป็นเอเลี่ยนเหมือนกัน  แต่ไม่ค่อยมีผลกระทบกับสภาพแวดล้อมมากนักจนถึงเกือบไม่มีเลย เนื่องจากเป็นปลาที่โตเร็วกินอาหารแทบทุกอย่างและแพร่พันธุ์ได้เร็วจึงเหมาะที่จะนำมาเป็นปลาเศรษฐกิจครับ  ปลานิลแพร่ขยายทั่วไปในแหล่งน้ำรรมชาติเป็นประโยชน์กับประชาชนในการบริโภคมาก(แต่ถ้าหากนำมาอ้างเพื่อจุดประสงค์อื่นที่ไม่ดีก็ถือว่าน่ารังเกียจ)  ปลาชะโดเป็นปลาช่อนสายพันะหนึ่งที่เมื่อโตเต็มที่จะมีขนาดยาวประมาณ 1 เมตรหรือมากกว่านิดหน่อยมีน้ำหนักได้มากกว่า 8-10 ก.ก.เป็นปลานักล่าที่ชาร์ทเหยื่อทุกชนิดไม่ว่าจะหิวหรือไม่ก็ตามจะดุร้ายมากขึ้นเมื่อมีลูกครอกตามนิสัยที่เลี้ยงลูกเป็นคู่ ปัจจุบันก็นิยมนำมาเลี้ยงเป็นปลาสวยงามด้วย แต่เมื่อโตขึ้นเลี้ยงไม่ไหวจะฆ่าทิ้งก็สงสารจึงนำไปปล่อยโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์  ทำให้ปลาในแหล่งน้ำได้รับความเดือดร้อน และนักตกปลาบางคนก็นำไปปล่อยในอ่างเก็บน้ำหลายๆที่เพื่อใช้เป็นปลาเกมส์ตกปลาทำให้เกิดการแพร่กระจายไปทั่วประเทศครับ   :'(
  ส่วนตะพัดนั้น เราเรียกว่าอะโรวะน่าเขียวครับ  ลักษณะไม่สวยงามเท่าสายพันธุ์ อินโดหรือมาเลย์  พบมากแถวๆภาคใต้ของไทยเมื่อ ประมาณสิบกว่าปีที่แล้วครับ   :)

   ปลาเอเลี่ยนที่เราไม่คิดว่าจะเป็นคือ  ปลาหางนกยูง  ซันฟิน  ปลาสอด  นีออน  พวกนี้ไงครับ  ปลาพวกนี้มีสายพันธุ์กำเนิดจากอเมริกาใต้ทั้งนั้น ที่ว่าเป็นเอเลี่ยนคือปลาพวกนี้จะกินพวกลูกปลาซิว ปลาสร้อยตัวเล็กๆ  ซึ่งปลาพวกนี้เป็นปลาเหยื่อของปลาท้องถิ่น  เมื่อเหยื่อลดลงปลานักล่าหรือปลาท้องถิ่นก็จะลดลงไปด้วยครับถือเป็นอันตรายอย่างหนึ่งครับ  :)

   ปลาที่น่ากลัวก็คือ พีค็อกเบสครับ  กำลังแพร่พันธุ์ในอ่างเก็บน้ำบ้านเราและทำลานสมดุลย์ของพันธุ์ปลาบ้านเราในขณะนี้ครับ 

พีค็อกเบส ครับ  :-\

  นี่ก็เอเลี่ยนอีกตัว  สเตอร์เจี้ยนครับ  :~)

นี่คือตัวปัญหาในแหล่งน้ำบ้านเราขณะนี้ครับ  :~)

เจ้านี่ก็คาดว่ามีอยู่ในแหล่งน้ำบ้านเราแล้วแต่ไม่ยืนยันครับ   :OO

ไข่ปลาคาร์เวีย ;D

เจ้ผมเก่งมากคร้าบบบบบบ    สามารถลากไปหาของกินได้  นับถือๆ   ::014:: ::005:: ::005:: ::005::

เจ๊นี่มืออาชีพจริงๆ ;D ;D ;D

เนื้อเป็นไงครับ ;D ;D ;D  กินได้ไหม

เฮ้อออ. .. .. . .......  .  คิดแล้วคิดถึงเรื่องจิตสำนึกของคนเลี้ยงครับ ทั้งสเตอรเจี้ยน พีค๊อกเบส ซัคเกอร์ ออสซิลาซิส ฯลฯ

 ร่วมถึงปลาตระกูลแคทฟิตทั้งหลายที่มีตัวใหญ่เกินเมตรในแม่น้ำ  นี้ยังไม่ร่วมเต่าแปลกๆ ที่มีพลังการงับมหาศาล

ตอนตัวเล็กก็สวยครับ กินน้อย อยู่ง่าย พอโตขึ้นมาเลี้ยงไม่ไหว ดุ กินโคตรจุ ก็ปล่อยลงน้ำ  ::013:: ::013:: ::013::

น้องๆกระพงขาวครับพี่  เคยได้ยินชาวบ้านเรียกว่ากระพงลายเสือด้วยครับ   ;D

ปลาอะไรครับ? ฟันน่ากลัวจัง.....และขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยให้คำตอบข้อสงสัยเรื่องปลาของกระผม

แหะๆ...จูงไปเรื่องที่ถนัดอ่ะค่ะ ::008::

   จำชื่อไม่ได้เหมือนกันครับพี่  เห็นว่ามาจากแถวอเมริกาใต้เช่นกันครับ

นี่ยืนยันว่าหลุดลงแหล่งน้ำธรรมชาติแล้วหลายตัวครับ  อะราไพม่า  พิราคู  หรือช่อนอเมซอน นั่นเอง   :OO  ตัวนี้จับได้ที่ เปรู หรือ โบลิเวียนี่แหละครับ  ;D  ในไทยก้มีข่าวว่าจับได้บ่อยๆ ครับ  บ่อตกปลาก็เริ่มเอามาเป็น มอนสเตอร์ประจำบ่อกันบ้างแล้ว  ;D

อย่างนี้ก็ยังจับกินได้ ;D ;D ;D พอไหวครับ

แต่พึ่งรู้ที่บอกซักเกอร์เอามาทำทอดมันได้ ดูแล้วกินไม่ค่อยลง

อราไพม่า ยาวได้ 3-4 เมตร ในหนังสารคดียังสู้กับเสือดาว ;D ;D ;D

เห็นเจ๊โอพูดถึงคาเวีย พอดีมีรูปอยู่  ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นำมาลงให้พี่ๆได้ดูกันนะครับ  ::014:: ::014::

(http://www.pixnice.com/upload/files/tyz3iijitwdmylnwmwjh.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/304zmegznjbwymialmjz.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/1kmexeom5tmew0zdjtdo.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/z22mhzi0qxadjgzzmymn.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/mmjnmic2y4fjxmdtyluw.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/hgtdyoniiorthjrnfz41.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/djmzbtcywnjmhmymznzq.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/wmnewqo0mzzz2qwmdjtz.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/njwn4tmyktdl2gann1iw.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/mqnwviz0mgzwmmmdityi.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/xz2mn23neghqgewyz1ho.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/2mdjn4myznlvywilzxyy.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/wjoznmmtxqryzgtnymmm.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/0ytjoxyvigymmwmj4dgi.jpg)

(http://www.pixnice.com/upload/files/35ygnzzgvgdtodemhmyi.jpg)

  ผมนึกว่าสเตอร์เจียนจะมีแต่แถวๆทะเลแคสเปี้ยนเสียอีก  ที่อิหร่านก็มีแฮะ   ;D

ปลามันก็ให้ไข่เยอะทำไมมันแพงจังครับ หากมันขยายพันธุ์ ในไทยได้ ชาวประมงไทยคงไม่เรียกมันว่าเอเลี่ยนมั่งครับ กลับจะเรียกมันว่าปลาเศรษฐกิจ แบบ ปลานิล

  ให้ไข่เยอะก็จริงครับ  แต่กว่าจะโดตจนให้ไข่ได้ก็ไม่รู้ว่ากี่ปี  สเตอร์เจี้ยนเป็นปลาสายพันธุ์โบราณครับ

คาร์เวียร์แบ่งเป็น 3 เกรดครับ

 0      แพงงงงงงงงงง...สีดำ
00     แพ้งงงงแพงง....สีกลางๆ
000   โคตรรรรรรแพงงง.....สีเหลืองสุกสว่าง

แล้วท่าน krajong คิดว่าปลานิลมีโทษอะไรบ้างครับ ที่เรียกว่าปลาเอเลี่ยน  ::014::

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=69001.0  :)

เรื่องการนำปลาไปปล่อยโดยรู้เท่าไม่ถึงการนี้ ผมเคยเจออยู่ครั้งฮามากๆ.....คือเมื่อ7ปีก่อนผมเคยพักอยู่ที่ศรีราชา ซ.วัดเขาแตงอ่อน ว่างๆวันเสาร์-อาทิตย์ ผมก็จะไปตกปลาที่อ่างเก็บน้ำบางพระ วันนั้นผมตกได้ปลาช่อนตัวใหญ่มาก แต่เกิดกรรมตามทันช่วงที่ปลดเบ็ตปลาดิ้น เบ็ตเลยติดมือ ผมก็ต้องขับรถไปผ่าเบ็ตที่รพ. พอถึงบ้านพักก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับปลาตัวนั้นดีก็เลยเอาไปให้ลุงกับป้าเจ้าของบ้านพัก....พอตกเย็นของอีกวันป้าแกก็เดินมาบอก...."ขอบใจนะที่เอาปลามาให้ แต่ป้าสงสารเพราะมันตัวใหญ่ก็เลยให้ลุงเอาไปปล่อย...แต่ลุงดันเอาไปปล่อยที่เกาะลอย :OO :OOหนุ่มว่ามันจะรอดไหม :~) :~) :~)"......ตอนนี้ปลาช่อนตัวนั้นคงเป็นเอเลี่ยนในทะเลไปแล้ว.... ::010:: ::010:: ::010::

   อ้อ...มาจากอาฟริกานี่เอง  ขอบคุณครับท่านมดแดง 

ท่าน  กระจง  มีธงในใจอยู่แล้ว  แต่ทำการบ้านน้อยไปหน่อย
อิสระทางความคิด  เราไม่ห้าม    ไม่มีหลักใช้ กับคนไม่ต้องใช้หลัก    เข้าทำนอง  ไม่ค้ำ ใช้ยันต้นไม้ใหญ่  ไม่ใช้ค้ำข้าวโพด
ผมให้เกียรติเว็ปบอร์ดนี้ ไม่อยากเอ่ยตรง ๆ  แต่แนะนำให้ไปศึกษาเกี่ยวกับ สัตว์และพืชเอเลี่ยนให้มากกว่านี้  ในวารสารที่มุ่งตอบสนองความอยากรู้ของท่านเอง
แต่เพื่อเป็นเกียรติแก่ตัวเอง  ก็อย่าลืมวิพากษ์   สิ่งที่สั่งสมอยู่ในตัวตนของตัวเองด้วยว่า  มันเป็น เอเลี่ยน สปีชี่ส์ ทางความคิด  ทางสายเลือด  ด้วยหรือเปล่า 
****
ลืมบอก  ถ้าไม่มองในเรื่องคุณค่า ของตน ที่มีต่อส่วนรวม ต่อประเทศไทยที่ผมผลาญทรัพยากรอยู่ได้ทุกวี่วันแล้ว
ผมเองก็เป็นเอเลี่ยน
มีเลือด มอญ  ขอม  จีนไหหลำ   ผสมปนเปกันอยู่ 

ปลาเอเลี่ยนน่าจะหมายถึงปลาที่สร้างความเสียหายให้สถานที่ที่มันอยู่มากกว่า 
แต่ปลาที่มาอยู่แต่ไม่ได้สร้างความเสียหายผมคิดว่าน่าจะเรียกว่าปลาต่างถิ่น หรือปลาต่างด้าวมากกว่า
อยากจะให้แยกระหว่างปลาที่มีประโยชน์ กับปลาที่ไม่มีประโยชน์
ผมไม่ได้คิดจะว่าใคร ครับท่าน Chayanin เพียงแต่ถามดูความคิดเห็นว่าปลานิล มีผลเสียอย่างไร  ::014::

ขอบคุณถึงที่ประวัติมาของปลานิลครับ ผมเองไม่ทราบว่าหรือทราบแต่ลืมไปแล้วก็ไม่แน่ใจว่าเป็นปลาพระราชทาน
แต่ตอนเด็กๆทราบแค่เพียงว่าปลาที่ทางการส่งเสริมให้เลี้ยงหรือให้มาเลี้ยง
 และช่วงหนึ่งผมได้อาศัยเป็นอาหารยามยาก ตอนเรียน ม.ต้น บ้านใกลต้องไปอาศัยห้องเกษตรโรงเรียนอยู่
อดหยากขึ้นมาก็ต้องไปตกปลานิลในบ่อของโรงเรียนที่ขุดไว้ประทังชีวิต ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณครับ

ขอบคุณ คุณArjunA ครับ+ ที่สนับสนุนรูปปลาสเตอร์เจี้ยน
สงสัยจังว่าใข่ปลาคาร์เวียร์เนี่ยเขาบรรจุกินแบบดิบๆหรือครับ
ขอถามคนเคยกินหน่อยครับว่ารสชาดมันเป็นยังไง...คล้ายใข่ปลาอะไรบ้านเราบ้างครับ

  ความหมายของ เอลี่ยน ครับ

http:www.birderjournal.com/index.php?topic=2078.0

http:www.agalico/board/archive/index.php/t-30104.html

  เค็มๆมันๆหอมๆครับ (จำเขามาเล่าครับ   ;D )

ลิ้งค์เข้่าไม่ได้ครับ  ผมอยากอ่านดู  ::014::

นึกว่าสเตอร์เจี้ยนอยู่น้ำหนาวเสียอีก ;D ;D ;D มาเลี้ยงบ้านเราคงไม่โต 55555555

ที่ว่าปลาเอเลี่ยนไม่ได้หมายถึงปลานิลครับ หมายถึงปลาสเตอร์เจี้ยน(โยงถึงภาพปลาสเตอร์เจี้ยนที่สมาชิกโพส)ที่ว่าไข่เยอะราคาดี
ครับ ส่วนปลานิลผมไม่ได้ว่าเอเลี่ยนครับ เพราะว่าผมมองไม่เห็นโทษใดๆของปลานิลครับ
ด้วยความเคารพ

  แฮ่ๆๆไอ้ผมก็ทำลิ้งค์ไม่เป็นครับ  ลองพิมพ์ดุครับตามนั้นแหละ

คร่าวๆคือ

    สิ่งมีชีวิตต่างถิ่น(Alier species) หมายถึงสิ่งมีชีวิต ซึ่งเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่ถิ่นประจำ ซึ่งเกิดจากความตั้งใจและไม่ตังใจของคน  ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นสามารถกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่รุกราน (Invasive) สิ่งมีชีวิตประจำถิ่นได้  เพราะไม่มีคู่แข่งเนื่องจากสิ่งแวดล้อมนอกถิ่นฐานเดิมของเอลี่ยนสปีชี่ส์นั้นไม่มีศัตรูโดยธรรมชาติ

                                Dr.Janaka  de  Silva ( International  Union  for  the  Conservation  of  Nature : IUCN )

ผมแค่ถามดูเพราะอยากทราบครับ  ::014::


ขอบคุณครับ  ::014::

เอามาให้อ่านครับ  ::014::

"ตำลึง" ไม่พอกินในไทยแต่เป็น "เอเลียนสปีชีส์" ที่รุกรานในฮาวาย

(http://image.ohozaa.com/ip/image.aspx.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=aee15b09a9022cc37f36214d942332b2)

สิ่งมีชีวิตประเภทหนึ่ง อาจเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตธรรมดาๆ ที่ไม่อาจรุกรานใครได้ แต่เมื่อย้ายถิ่นฐานไปยังถิ่นที่มีศัตรูตามธรรมชาติและคู่แข่งน้อยลง กลับเบียดบังสิ่งมีชีวิตอื่นที่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว จนต้องถอยร่นให้กับผู้มาใหม่ และคงดูน่าประหลาดใจไม่น้อยถ้า "ตำลึง" เข้าข่ายสิ่งมีชีวิตที่รุกรานสิ่งมีชีวิตอื่นในฐานะ "เอเลี่ยนสปีชีส์"
       
       เป็นข้อมูลข้างเคียงที่ทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTV-ผู้จัดการออนไลน์ได้รับจากสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ซึ่งเพิ่งจัดงานประชุมวันสากลแห่งความหลากหลายทางชีวภาพ เรื่อง "ความหลากหลายทางชีวภาพ : ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกราน" ณ โรงแรมรามาการ์เด้นส์ เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า "ตำลึง" ผักริมรั้วที่แสนอร่อยในชามก๋วยเตี๋ยวไก่ตำลึงนั้น กลายเป็น "เอเลี่ยนสปีชีส์" (Alien species) ที่รุกรานในฮาวาย สหรัฐฯ เนื่องจากเจริญเติบโตได้ดีและไม่มีใครบริโภคผักชนิดนี้
       
       หากแต่แหล่งข่าวไม่ได้ชี้แจงว่า ผักพื้นบ้านของไทยนั้นไปรุกรานชาวเกาะแห่งตะวันตกได้อย่างไร แต่เพียงต้องการชี้ให้เห็นว่า สิ่งมีชีวิตที่ดูธรรมดาๆ ในที่แห่งหนึ่งอาจกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่รุกรานในอีกที่แห่งหนึ่งได้
       
       สำหรับความหมายของ "เอเลี่ยนสปีชีส์" หรือชนิดพันธุ์ต่างถิ่นนั้น ดร.จานากา เดอ ซิลวา (Dr.Janaka de Silva) ผู้แทนจากสหพันธ์นานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือ ไอยูซีเอ็น (International Union for the Conservation of Nature: IUCN) ประจำประเทศไทย ได้ให้นิยามว่า หมายถึงสิ่งมีชีวิต ซึ่งเข้าไปอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ไม่ใช่ถิ่นประจำ ซึ่งเกิดขึ้นทั้งจากความตั้งใจและไม่ตั้งใจของมนุษย์ โดยความตั้งใจนั้นอาจเป็นการนำเข้าเพื่อประโยชน์เฉพาะอย่าง เ่ช่น เพื่อการเกษตร เป็นต้น
       
       ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นนี้ จะไม่สร้างปัญหาหากไม่มีพฤติกรรมรุกราน (Invasive) สิ่งมีชีวิตอื่น ซึ่งตัดสินจากความสามารถในการปรับตัวและขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วของสิ่งมีชีวิตนั้นๆ หากไม่สามารถขยายพันธุ์ได้ก็เป็นเพียงชนิดพันธุ์ต่างถิ่น แต่หากขยายพันธุ์ได้ก็ต้องพิจารณาต่อว่าสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วจนไม่สามารถควบคุมได้หรือไม่ ทั้งนี้การรุกรานของเอเลี่ยนสปีชีส์ถือเป็นปัจจัยอันดับ 2 ที่ทำให้เกิดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ รองจากการบุกรุกพื้นที่เพื่อใช้ประโยชน์ของมนุษย์เลยทีเดียว
       
       เอเลี่ยนสปีชีส์ที่รุกรานความหลากหลายทางชีวภาพของไทยชนิดแรกๆ คือ "ผักตบชวา" ที่กลายเป็นสวะกีดขวางคมนาคมทางน้ำ จนมีพระราชบัญญัติกำจัดผักตบชวามาตั้งแต่สัมยรัชกาลที่ 5 และศัตรูตัวฉกาจของชาวนาอย่าง "หอยเชอรี่" ก็เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่เข้ามารุกราน "หอยโข่ง" สิ่งมีชีวิตพื้นเมืองจนค่อยๆ หายไปจากท้องนา และหลายคนอาจยังไม่ทราบว่า "นกพิราบ" ที่เห็นดาษดื่นในสนามหลวงและเขตเมืองนั้นก็จัดเป็น "เอเลี่ยนสปีชีส์" ที่รุกราน และอยู่ในรายการที่ 1 ของ "ทะเบียนชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่ควรป้องกัน ควบคุมและกำจัดสำหรับประเทศไทย" ซึ่งจัดทำโดย สผ.
       
       เอเลี่ยนสปีชีส์ที่ถูกจัดให้อยู่ในรายการที่ 1 นั้นคือชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานแล้ว ซึ่งมีทั้งหมด 82 ชนิด และ สผ.ได้กำหนดแนวทางควบคุมว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องกำจัดทิ้ง โดยเหตุที่นกพิราบจัดในรายการนี้เนื่องจากพฤติกรรมที่ไปรุกรานสิ่งมีชีวิตอื่นและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค เป็นเหตุให้คณะกรรมการที่จัดรายการชนิดพันธุ์ต่างถิ่นเห็นพ้องต้องกันอย่างเอกฉันท์ว่า นกพิราบเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่รุกรานและต้องถูกกำจัดทิ้ง
       
       สิ่งมีชีวิตที่เป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นนั้นแรกๆ ถูกนำเข้ามาโดยหน่วยงานราชการ แต่ทุกวันนี้เราทราบกันดีว่าตลาดนัดที่ไหนเป็นแหล่งนำเข้าและเพาะพันธุ์สิ่งมีชีวิตที่เป็น "เอเลี่ยนสปีชีส์" ขนาดใหญ่ ทั้งนี้ในทางปฏิบัติเราคงไม่อาจห้ามปรามหรือหยุดยั้งการซื้อ-ขายสิ่งมีชีวิตแปลกๆ ได้
       
       แต่หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสิ่งมีชีวิตพิศดารมาไว้ในครอบครอง ควรต้องตระหนักและมีสำนึกรับผิดชอบที่จะไม่ปล่อยให้สิ่งมีชีวิตนั้นๆ หลุดรอดสู่ธรรมชาติ จนสามารถขยายพันธุ์และรุกราน
สิ่งมีชีวิตที่มีอยู่เดิมตามธรรมชาติ และหน่วยงานราชการเองยิ่งต้องตระหนักต่อเรื่องนี้

ที่มา : http://learning.eduzones.com/bluesky/25425

อยู่บ้านเราคงโกร๋นนนนน ;D ;D ;D  ทำน้ำแกงซะให้หมด

พูดถึงใข่ปลาไทยๆ ผมชอบใข่ปลาน้ำจืดมากที่สุดที่อร่อยๆเช่น
 ไข่ปลาช่อน ฝักโตๆในแกงส้มมะขามสด สุดยอด
 ไข่ปลาดุก เม็ดใหญ่นุ่ม หนึบ เคี้ยวมัน
 ไข่ปลาหมอนา ต้มโคล้ง หรือ แกงส้ม เด็ดจริงๆ
 ไข่ปลาเนื้ออ่อน มัน อร่อยมาก
 ไข่ปลาตะเพียนฝักใหญ่ๆก็แจ่ม

แต่ลูกครอกผมไม่กินเลยมันใจร้ายไป
ใข่ปลาที่กินก็ตอนหน้าแล้งวิดหนอง ตอนน้ำนอง ก็เชิญวางใข่กันตามสบาย
 

ผมชอบ ไข่แมงดา (ทะเลนะครับ) :D~

ลึกซึ้ง จับใจมากครับ   +1 ครับ

  ไข่ปลาตะเพียน  เอาข่ใส่ถ้วยไว้ ซอยหอมแดงใส่  บุบพริกขี้หนูใส่ น้ำปลาเล็กน้อย ผงชูรสนิ้ดนึง  น้ำปลาร้าหน่อย  ผักอีตู่(แมงลัก)ใส่เข้าไปคนเล็กน้อยให้เข้ากัน  ตักใส่ใบตองห่อไว้มัดให้ดี  ปิ้งไฟอ่อนๆจนสุก   :D~ :D~ :D~

   ปลาแขยงไข่  ผ่าพุงเอาใส้ออก เหลือแต่ไข่ไว้  ตัดเงี่ยงออก  ตำพริกสดกับกระเทียมด้วยกันเทใส่หม้อต้มน้ำ  หน่อไม้ดองล้างจนสะอาดใส่ลงไปต้มจนสุก น้ำเดือดๆเทปลาแขยงลงไป  ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชูรส ให้ได้เผ็ดนำเค็มตาม  ใส่น้ำปลาร้าสามช้อนโต๊ะ  รอจนเดือด  เด็ดผักอีตู่ลงไป  ลองตักปลามาดูจะเหมือนสาวคัพดีใส่บิกินี่เลย   :D~ :D~ :D~

ไม่เคยทาน แต่น่าอร่อย  :D~

แซบหลายยยยย ;D ;D ;D

แหม...ตกใจหมดเลย....เฮ้อ...

:D~ :D~ :D~ ...โอ้ย... เป็นตารแซบหลาย... :D~ :D~ :D~

ควรเรียกให้สุภาพว่า ใข่ชายชั่ว

คาร์เวีย เคยรับ'ทานแล้ว ไม่เห็นแตกต่างหรืออร่อยมากกว่าไข่ปลาในประเทศเราตรงไหนครับ

แต่ใข่ปลาสลิดกินแล้ว อี้ เหลืองอ๋อยเป็นมันเลยครับท่าน

นี่สิ... คุณสมบัติของนักวิทยาศาสตร์ตัวจริง... ข้อแรก...ต้องรู้จักสังเกตก่อน... ::005:: ::005:: ::005::

 ::005::

ตากวาง  บ้านเราเริ่มนิยมคันฟลาย ด้วยเหรอ

  เริ่มแล้วครับพี่โทน  เริ่มขยายตัวจากนักตกปลาด้วยเหยื่อปลอมในบ่อกระพงครับ  แมแนวดน้มว่าจะขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆแล้วครับ  แต่ชุดนึงนี่แพงเอาเรื่องอยู่  ประมาณ 6-7 k up เป็นอย่างต่ำ  :OO

ใจเย็น อีกหน่อยคงมีชุดรอกให้ประกอบเอง มาขาย   จะของถูกลงมาด้วย 

คงจะไม่เล่นหรอกครับพี่โทน  เคยเห็นพี่ๆในเวปตกปลาเอามาเหวี่ยงสะบัดที่ประตูน้ำเขื่อนพระรามหก  กลัวเกี่ยวโดนตากันจริงๆ   ;D

ต่อไปคงเหมือนปืน ;D ;D ;D ตกปลาต้องใส่แว่น

เพื่อนผมนักตกผปลา เคยโดน ตะกั่วตกปลาเข้ากลางหลัง 
จากนักตกปลาท่านอื่น

แถมคนทำหลุด(เพื่อนบอกว่า น่าจะผูกไม่แน่น หลุด) โวยวายกับกลุ่มของเขา
ว่าตะกั่วตรูหายไปไหนฟระ

"โชคดี ที่กรูไม่เล่นปืนเหมือนมรึง  ไม่งั้นวันนั้น มีผีเฝ้าบ่อ" 
มันบอกผมเมื่อสัก2ปีที่แล้ว  ;D ;D ;D

โดนตะกั่วก้อนใหญ่ ๆ ละจุกเลยครับ  :OO

ใจร่มๆครับ ;D ;D ;D อะไรจะดุกันขนาดดดดด

ไม่ทราบครับ  แต่เขาโมโห ตรงที่ ขาดความระมัดระวัง
เพราะเขาระวังมาก เนื่องจากสมัยวัยรุ่น ทำเบ็ดเกี่ยวนิ้วตัวเอง
หลังจากนั้น จพยายามนึกถึงความปลอดภัยเป็นหลัก 
และมักเคืองนักตกปลา ที่ขาดความระมัดระวัง ไม่รักษาความปลอดภัย

ให้เขาเล่าเรื่องอุบัติเหตุในบ่อตกปลานี่ เยอะครับ

  นี่นักล่าสายพันธุ์ไทยครับ  ความสามารถสูสีกับเบสเลยครับ   ;D

นี่เอเลี่ยนสายพันธุ์เอมริกาใต้  ปลาการ์

นี่อัลลิเกเตอร์   :OO

นี่ญาติสายมังสวิรัตของพิรันย่า   ;D  เปคู ครับ

นี่เร้ดเทล  :o

ปลากรายกินเหยื่อปลอมด้วยหรือครับ.......อย่างนี้ต้องโดนแถวบ้านมีตัวเพียบเลย

  ตัวนี้ถือว่าซวยครับพี่  ผมเหลาเหยื่อปลอมเองแล้วลองเอาไปเทสดู โดนเลย  ถ้าจะเอาปลากรายโดยเบ็ดแนะนำว่า  เกี่ยวเหยื่อลูกปลาครับ  ทุ่นลอยหรือหน้าดินก็ได้ แต่ทุนลอยได้ลุ้นมากกว่า  ถ้ามีตัวรับรองตายเรียบ

นี่ผมได้ปีกลายแถวๆใกล้วัดที่พี่ซับฯใส่ร้ายผมว่าโขมยปลาวัดมาครับ  2.8โล กับ4.2 โล กับเหยื่อปลากระดี่หน้าดิน  ::002::

ตัวนี้แกงส้มน่าจะอร่อย :D~

เหมือนปลากดบ้านเรา... ถ้าโดนเงี่ยงมันแทง... สงสัยต้องอยู่ I.C.U. ::005:: ::005:: ::005::

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=72486.0;attach=119241;image)
แบบนี้ เคยเห็นในเวบ  ฝรั่งใช้มือล้วงรู(โพรง) ในน้ำหา
แล้วเอามือแหย่เข้าปาก ไปจับตรงเหงือกข้างใน ลากออกจากโพรง  เอามากินกัน

วิถีชาวบ้านของรัฐไหนสักแห่งของ อเมริกา (จำชื่อแม่น้ำไม่ได้)

ล้วงลึกน่าดูนะท่าน ;D ;D ;D แล้วมันไม่กัดหรือเนี่ยยยยยยยยยยยย

เหมือนกดคังบ้านเราเลย....อิอิ

เกมตกปลาในมือถือ แหล่งน้ำประเทศไทย มีตัวนี้ด้วยอ่ะค่ะ
และมีอีกหลายตัวที่โองงว่ามันปลาท้องถิ่นเราตั้งแต่เมื่อไหร่อ่ะค่ะ :OO

กัดเข้าแค่ผิวๆ  ฟันปลาละเอียดๆครับ

แต่ก็ได้เลือดเหมือนกันนะ กึ่งๆผิวถลอกนิดหน่อย ประมาณนั้น

   พี่ซับแกหนัง......เหนียวครับ  ฟันแทงไม่เข้า   ::007:: ::007:: ::007::

เจ๊ครับ ปลาซัคเกอร์รสชาดอร่อยไหมครับ

ไม่เคยย่ะ ::006::

  เดี๋ยวผมทำให้กินครับเจ้  ซัคเกอร์ชุบเกล็ดขนมปังทอดจิ้มน้ำจิ้มบ้วยเจี่ย   ::002::

มันกินได้จริงๆเหรอ หน้าตามันไม่ผ่านเลยนะ ::003::

       เลาะชุดเกราะมันออกครับ  เอาเนื้อสันหลังมันออกมา  ลักษณะคล้ายเนื้ออกไก่  เอามาชุบแป้งโกกิแห้งแล้วลงทอดพอสุก  ยกขึ้นมาทาน้ำจิ้มบ๊วยเจี่ยบางๆคลุกเกล็ดขนมปังทอดอีกที  อา.......... :D~ :D~ :D~

อืมมมมมมมมมม ::008::

ผมเคยเห็นเหมือนกันครับ...

แต่เป็นรายการในช่องดิสโคเวอรี่...

เป็นการเอาชีวิตรอดในป่า...

น่าจะเป็นบึงในฟลอริด้า...

เขาเอามือไปทำยุกๆยิกๆแถวๆรากต้นไม้ที่แช่น้ำ...

ให้ปลามันคิดว่ามือเป็นเหยื่อ แล้วงับเข้าไป...

แต่ที่เห็นตัวมันยาวราวๆสองฟุต และผมไม่แน่ใจว่าหางมันแดงหรือเปล่า...:D

น้ากวางเล่นซะ

หิวเลยครับ



บึงเอเวอร์เกรดหรือเปล่าครับพี่หมอ ที่เป็นบึงใหญ่มากๆ เห็นบึงแบบนั้นผมก็ไม่กล้าแล้วครับพี่ กลัวไอ้เข้

จำไม่ได้ครับท่าน helldiver...

พอดีดูผ่านๆครับ...

ดันมาสะดุดตาตรงที่เขาเล่นตกปลามือเปล่า...

โดยเอามือเป็นเหยื่อน่ะครับ...:D

 

พวกนี้โตง่ายแพร่พันธ์เร็ว ;D ;D ;D แต่ถ้ารู้ขอผ่านก่อนแล้วกัน กินปลาอื่นก่อน

ซัคเกอร์มันกินขยะไม่ใช่หรือครับ  แล้วจะไม่เป็นพิษหรือครับ

ซักเกอร์กินพวกตะไคร่น้ำก็ได้ กินซากพืช ซากสัตว์ก็ได้ครับ

ขอเสริมน้าซับฯอีกนิด เวลาปลาซัคเกอร์มันดูดตะไคร่ ดูดซากพืช ซากสัตว์ มันก็จะดูดเอาไข่ของปลาที่วางไข่กับหน้าดินไปด้วยครับ  :OO

คุณjojojoเจ้าของกระทู้หายไปเลย ผมต้องขออภัยจริงๆ  :-[

เมื่อก่อนผมเลี้ยงเร้ดเทลกับไทเกอร โชเวลโน๊ต  เลี้ยงได้ไม่ถึงครึ่งปีตรงลงบ่อใหญ่ครับ กินเหมือนปล้น

เบียดๆ อลิเกเตอร์ , ฟอร์ดิด้า เลยครับ ยิ่งเต่าน้ำตระกูลสแนปปิ้งยิ่งแล้วใหญ่ กินกันที  :~)  :~)  :~)  :~)  :~)

ปลา ให้กินแค่พออิ่มครับ  กินมากมันก็กินได้ แต่มันคงไม่โตเร็วไปกว่าอัตราการเติบโตมาตรฐานของมัน

เรื่องนี้ ต้องถามคนเลี้ยงปลาเพื่อการพานิชย์ครับ  จะมีปริมาณที่พอเหมาะกับวัย ไม่ใช่เห็นมันกินได้ ก็ให้เรื่อยๆ

อันนี้ โดนปล้นแน่ๆ ถ้าเลี้ยงขายก็ขาดทุน (พอดีน้าชาย เลี้ยงปลาดุกอุยขายอยู่แถวภูมิลำเนา  ;D )

เจอเเล้วครับ 
เป็นแม่น้ำสายหนึ่งของรัฐโอคลาโฮมา

สายพันธุ์ปลาดุก (Catfish)

อันนี้ ตัวไม่โตมาก ถ้าตัวโตกว่านี้ ล้วงมือไปจับเหงือกกันเลยครับ

(http://www.firstpersonarts.org/files/u2/Noodler2.gif)

(http://static.howstuffworks.com/gif/noodling-2.jpg)

^
^
^
พี่ซับครับรูปไม่ขึ้นครับ ขออีกทีครับพี่

คนที่จับปลาด้วยมือเปล่าแบบนี้ เรียกว่า noodler
และมักดูแคลนคันเบ็ดว่า เป็นอุปกรณ์จับปลาสำหรับสุภาพสตรี  ;D ;D ;D

(http://www.bigfishtackle.com/images/gforum/users/93529-user_icon-1.jpg)


(http://sports.espn.go.com/winnercomm/outdoors/fishing/i/P2_f_col_noodling_Sutton2.jpg)


ภาพสุดท้ายไม่ค่อยชัด แต่เป็นวิธีการเอาปลาดุกขึ้นจากน้ำสำหรับชาวnoodler สังเกตุแขนดีๆครับ  ;D
(http://blogs.pcworld.com/tipsandtweaks/archives/catfish.jpg)

เครื่องผมขึ้นครับ  ลองรีเฟรชดูครับ

ไม่ทราบเห็นหรือยังเอ่ย  วันนี้ ไม่สะดวกก็อปรูปมาแปะ เลยดรากเม้าส์เอามาตรงๆ


(http://swellguy.typepad.com/.a/6a00d8341d1ea853ef0115707f1348970b-800wi)

ได้แล้วครับพี่ ต้องบังคับให้มันโชว์รูป

       ปลาน้าซับทำอะไรทานถึงอร่อยครับ

บ้านเรามีบ่อตกปลาแล้ว  น่ามีบ่อ noodlingมั่ง

(http://www.slashfilm.com/wp/wp-content/images/noodling-small.jpg)

ขอเสนอเมนู ลวกจิ้ม ครับ




กรุณาอ่าน ช้าๆ ชัดๆ

(http://lh5.ggpht.com/_KA942574pbY/SYXIJp2d4bI/AAAAAAAADkc/-xJQpdtMD98/s640/DSCN6099.JPG) 

:D~ :D~  แต่สงสัยต้องใส่กาละมังแทนจาน  ::005:: ::005::

ดูยูทูปป์ก็ได้ครับ

http://www.youtube.com/watch?v=biL-QcviQGk (http://www.youtube.com/watch?v=biL-QcviQGk)

55 ไม่ทราบครับ  ต้องถามชาวOklahoma

...ผมว่าบ้านเราถนัดทาง.. electric มากกว่านะครับ (ช๊อตโลด)

ครับยังคอยติดตามอยู่ครับ  ขอบคุณที่ยังคิดถึงครับ
หากมีข้อมูลใหม่ๆจะมาบอกครับ

แผ่นพับ มาแล้ววว...ฝีมือคุณ ป_ปลาระเบิด(เกร็ดกระจาย)

(http://img30.imageshack.us/img30/6138/1153200906121523111.jpg) (http://img30.imageshack.us/i/1153200906121523111.jpg/)

(http://img30.imageshack.us/img30/1659/1153200906121523471.jpg) (http://img30.imageshack.us/i/1153200906121523471.jpg/)

(http://img30.imageshack.us/img30/7518/1153200906130924101.jpg) (http://img30.imageshack.us/i/1153200906130924101.jpg/)


ขออนุญาตคุณ ป_ปลาระเบิด(เกร็ดกระจาย)  นำมาเผยแพร่นะครับ
 ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

จับมือเปล่าเก่งจริงๆ ;D ;D ;D

noodling นี่เขาให้ปลากัดมือ ;D ;D ;D  ปลาตัวใหญ่ๆก็ร้องเหมือนกันนะ

ขอบคุณพี่ซับ ครับ ที่หารูปมาให้ดู ปลาคงชุมมากถึงขนาดเอามือควานๆเอาได้ เห็นแล้วนึกถึงสมัยยังเด็กเคยล้วงรูปลาดุกเหมือนกัน และเห็นด้วยกับลวกจิ้มครับ  แต่ขอให้เป็นแบบหัวข้อกระทู้ดีกว่าครับ

เคยมีคนโดนถึงเอ็นเลยครับ  แต่ต้องตัวโตจริงๆ  เขาว่า ฟันคล้ายๆกระดาษทรายหยาบๆ

แต่เวลากัดจะสะบัดไปพลิกตัวไป มันส์อร่อยเหาะตรงนั้นและครับพี่...

เขามีแข่งขันกันด้วยนะครับ  ว่างๆ จะเสิร์ชมาให้ดู ถือเป็นของว่างแซมๆ สาระน่ารู้ของเจ้าของกระทู้  ;D

หมายส่วนใหญ่เค้าจะอยู่ในโพรง หรือที่แคบๆ บางทีก็ตามตลิ่งที่มีร่องโพรง แบบที่เห็นในยูทูปป์ครับ   

ฝรั่งจะยึดหมายแบบนี้เป็นหลักครับ

น้าซับสุดหล่อครับ

ปลาดุกใหญ่ๆ ถ้ามันเอาเงี่ยงยักมือที ไม่เจ็บหนักหรอครับ

เขาป้องกันกันยังงัยน่ะครับ

ทราบแล้วว่าทำไมท่านซับรู้จัก...

พวกชื่อคล้ายๆกัน...

แต่ท่านซับเป็นพวก Nude lover...ฮา...::005::

อีกระทู้ดีดีที่อยากให้ทุกท่านได้อ่านครับ

http://www.pantown.com/board.php?id=2888&area=4&name=board8&topic=123&action=view

ขออนุญาต RoF (เจ้าบ้าน ) นะครับ

ขอบคุณคุณjojojo  ด้วยครับ
ผมเพิ่งทราบเรื่องสถานีประมงสราษฎร์ธานีจากลิ้งค์ที่ให้

อันนี้ ที่ติดไว้ครับ
การแข่งขัน
Okie noodling tourment

http://www.okienoodling.com/ (http://www.okienoodling.com/)
ไม่ใจอ่อน ไม่อ่อนแอ ไม่กังวล

จัดกันที่แม่น้ำwashita ตอนใต้ของOklahoma

(http://farm1.static.flickr.com/65/185660019_e35deea9a2.jpg?v=0)



หมายที่หาปลาดุก

(http://graphics8.nytimes.com/images/2007/07/28/us/noodling600.jpg)

อ้อ... ครับ... "ไม้โท" ครับ... ;D ;D ;D ถ้าจัตวาล่ะ... แย่เลย... ::005:: ::005:: ::005::

ตั้งใจกันน่าดู ;D ;D ;D ถ้าทอดกรอบผัดพริกฝรั่งจะกินได้ไหมเนี่ย

เคยลองชิมคาเวียร์ ที่บรรจุหลอดเหมือนยาสีฟันกินกับขนมปังเค็มๆมันๆรสชาติเหมือนปลาร้าเลย

;D ;D ;D

น่าเอาส้มไข่ปลามาบรรจุหลอดส่งไปตีตลาดนะครับ... ::005:: ::005:: ::005::

ถ้าได้พริกขี้หนู หอมแดง มะนาว สุดยอด 555555