หัวข้อ: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 27, 2005, 03:16:06 PM ผมเห็นว่าคดีนี้ผู้ถูกล่วงละเมดทางเพศมีครบทุกวัยเลยครับ ( อายุเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอยู่ระหว่าง 3ปี - 80ปี ) ผู้ก่อคดีก็ฆ่าเหยื่อบ้างปล่อยเหยื่อบ้าง ผมว่ามันเป็นเมืองเถือนแล้วนะครับ โจรกรรมทรัพย์สินไม่เท่าไหร่หาใหม่ได้ แต่การที่สร้างตราปาบให้กับเพศหญิงนี่สิตกนรกทั้งเป็นนะผมว่า กฎหมายอ่อน
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ กันยายน 27, 2005, 03:18:45 PM ไม่ขอโหวต เพราะเจ้าของกระทู้ให้ตัวเลือกและกรณีไว้ไม่ชัดเจนและเพียงพอต่อฐานความผิด...
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กันยายน 27, 2005, 03:24:12 PM ไม่โหวตเช่นกันค่ะเพราะอยากให้เพิ่มตัวเลือกมากกว่านี้ ;D(ขอทรมานๆนะคะ...อิๆ) :D~
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 03:24:38 PM ผมเห็นว่าคดีนี้ผู้ถูกล่วงละเมดทางเพศมีครบทุกวัยเลยครับ ( อายุเหยื่อที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศอยู่ระหว่าง 3ปี - 80ปี ) ผู้ก่อคดีก็ฆ่าเหยื่อบ้างปล่อยเหยื่อบ้าง ผมว่ามันเป็นเมืองเถือนแล้วนะครับ โจรกรรมทรัพย์สินไม่เท่าไหร่หาใหม่ได้ แต่การที่สร้างตราปาบให้กับเพศหญิงนี่สิตกนรกทั้งเป็นนะผมว่า กฎหมายอ่อน โทษรุนแรงในกรณีพิสูจน์ยากอย่างนี้อันตรายครับ ถ้าตอนแรกสมยอมต่อมาบอกถูกข่มขืนก็ตายอย่างเดียวละครับ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ กันยายน 27, 2005, 03:25:02 PM >:( >:( >:(
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: JLB-รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 03:32:48 PM ขอเพิ่ม อีกข้อได้ไหม ครับ ;D
คือ เอามาประจานก่อน แล้วค่อยเอาไปทรมานอย่างสาสม จากนั้นค่อยประหารชีวิต หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: K@RN # รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 03:34:10 PM ผมอ่ากระทู้นี้ให้แฟนฟัง แฟนผมบอกว่าให้ตัด....ทิ้งสถานเดียว ??? ??? ??? ??? ???
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 27, 2005, 03:35:30 PM เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 ก.ย. ผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บี (ทั้งคู่นามสมมติ) อายุ 7 ขวบเท่ากัน เป็นนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน ต.เขาพระ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้พาลูกสาวเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.สมใจ สิงห์เกลี้ยง สารวัตรเวร สภ.อ.รัตภูมิ ว่า เด็กหญิงทั้ง 2 คน ถูกนายบอล (นามสมมติ) อายุ 15 ปี เป็นญาติห่างๆ อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ล่อลวงไปข่มขืนกระทำชำเราในป่าละเมาะท้ายหมู่บ้าน
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายบอล ได้ออกอุบายชักชวน ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บีไปเล่นซ่อนหาในป่าละเมาะ ระหว่างนั้นได้ใช้ผ้าปิดตาเด็กหญิงทั้ง 2 คน ขู่บังคับให้นอนคว่ำหน้ากับพื้นดิน จับถอดกางเกงแล้วลงมือข่มขืนกระทำชำเราทั้งที่อวัยวะเพศและทวารหนัก สลับสับเปลี่ยนไปมาทั้ง 2 คน จนสำเร็จความใคร่ โดยที่เด็กน้อยเหยื่อกามทั้ง 2 ไม่กล้าขัดขืน เพราะกลัวถูกทำร้าย ระหว่างปฏิบัติกามกิจ ได้มีเพื่อนๆที่เล่นซ่อนหาด้วยกันอีก 4 คน แอบดูอยู่ตลอดเวลา เมื่อกลับถึงบ้านได้เล่าให้พ่อแม่ฟังก่อนจะพากันไปบอกผู้ปกครองของ ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บีทราบ พากันมาแจ้งความดังกล่าว นอกจากนี้เมื่อต้นปี 48 ที่ผ่านมา นายบอลเคยข่มขืน ด.ญ.เอมาแล้ว 1 ครั้ง แต่ผู้ใหญ่เห็นว่าเป็นเครือญาติกันจึงไม่เอาเรื่อง เพียงกำชับว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก พอผู้ปกครองเผลอกลับพาไปข่มขืนครั้งเดียวถึง 2 คน ต่อมาตำรวจส่งตัว ด.ญ.เอ และ ด.ญ.บีไปให้แพทย์ตรวจร่างกาย พบว่าทั้งคู่อวัยวะเพศและทวารหนักฉีกขาด จากนั้นจึงนำกำลังไปจับกุมตัวนายบอลได้ขณะหนีไปกบดานอยู่บ้านญาติที่ อ.ควนลัง จ.หาดใหญ่ คุมตัวไปสอบสวน หนุ่มน้อยหื่นกามรับสารภาพว่าแอบดูหนังซีดีเอ็กซ์บ่อยจนเกิดอารมณ์ทางเพศ ลอกเลียนแบบท่าทางในหนังไปลงมือข่มขืนเด็กน้อยทั้ง 2 คน หลังสอบสวนตำรวจนำตัวนายบอลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนคุมตัวไว้ดำเนินคดีต่อไป หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Dhong ที่ กันยายน 27, 2005, 03:35:37 PM ไม่ขอโหวต เพราะเจ้าของกระทู้ให้ตัวเลือกและกรณีไว้ไม่ชัดเจนและเพียงพอต่อฐานความผิด... เพิ่มตัวเลือกครับ............ประหารยังน้อยไป...........ผมว่าให้ริบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดดีกว่าครับ :DD :DD :DDหัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่153 ที่ กันยายน 27, 2005, 03:37:08 PM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ กันยายน 27, 2005, 03:38:01 PM กรณีที่ข่มขืน แต่ในที่เกิดเหตุ มีอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้การเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายมีโอกาสรอดสูงครับ
ถือว่าสมยอม เพราะถ้าไม่สมยอม ผู้ชายคงไม่มีเวลาใส่อุปกรณ์ ( ไม่ทราบว่าที่ผมพูดมา มีข้อความ ตรงใหนไม่ถูกต้องบ้างครับ) รบกวนช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ เพราะฟังจากเพื่อนที่เป็นตำรวจ ทำคดี ทำนองนี้มาเยอะ มาเล่าให้ฟังครับ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: pitsanukorn ที่ กันยายน 27, 2005, 03:45:51 PM ลองอ่านดูนะครับ เข้าลักษณะไหน ก็รับโทษตามกฎหมายครับ
ลักษณะ9 ความผิดเกี่ยวกับเพศ มาตรา 276 ผู้ใดข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิง อยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือโดยทำให้หญิงเข้าใจผิดว่าตน เป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่ แปดพันบาทถึงสี่หมื่นบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธ ปืนหรือวัตถุระเบิด หรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะ เป็นการโทรมหญิง ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต หมายเหตุ แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 277 ผู้ใดกระทำชำเราเด็กหญิงอายุยังไม่เกินสิบห้าปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กหญิงนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้อง ระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดพันบาทถึง สี่หมื่นบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กหญิง อายุยังไม่เกินสิบสามปีต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปีและ ปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกหรือวรรคสองได้กระทำ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันอันมีลักษณะเป็นการโทรมเด็กหญิง และเด็กหญิงนั้นไม่ยินยอม หรือได้กระทำโดยมีอาวุธปืนหรือวัตถุ ระเบิด หรือโดยใช้อาวุธ ต้องระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต ความผิดตามที่บัญญัติไว้ในวรรคแรก ถ้าเป็นการกระทำที่ชาย กระทำกับเด็กหญิงอายุกว่าสิบสามปีแต่ยังไม่เกินสิบห้าปี โดย เด็กหญิงนั้นยินยอมและภายหลังศาลอนุญาตให้ชายและ เด็กหญิง นั้นสมรสกัน ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ ถ้าศาลอนุญาตให้สมรสใน ระหว่างที่ผู้กระทำผิดกำลังรับโทษในความผิดนั้นอยู่ ให้ศาลปล่อย ผู้กระทำความผิดนั้นไป หมายเหตุ โดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 277ทวิ ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรค แรกหรือ มาตรา 277 วรรคแรกหรือวรรคสองเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ (1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบห้า ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สามหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอด ชีวิต (2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หรือ จำคุกตลอดชีวิต หมายเหตุ โดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 277ตรี ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรค สอง หรือ มาตรา 277 วรรคสาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ (1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือ จำคุกตลอดชีวิต (2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิต หมายเหตุ โดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 278 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดย ขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยบุคคลนั้นอยู่ ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่า ตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกิน สองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หมายเหตุ แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 279 ผู้ใดกระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรก ผู้กระทำได้กระทำโดย ขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ใน ภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทำให้เด็กนั้นเข้าใจผิดว่าตน เป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบห้าปี หรือปรับไม่เกิน สามหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หมายเหตุ แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 280 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 278 หรือ มาตรา 279 เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำ (1) รับอันตรายสาหัส ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปี ถึงยี่สิบปีและปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท (2) ถึงแก่ความตาย ผู้กระทำต้องระวางโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต มาตรา 281 การกระทำความผิดตาม มาตรา 276 วรรคแรกและ มาตรา 278 นั้น ถ้ามิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล ไม่เป็นเหตุให้ผู้ ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสหรือถึงแก่ความตาย หรือมิได้เป็นการ กระทำแก่บุคคลดังระบุไว้ใน มาตรา 285 เป็นความผิดอันยอมความ ได้ มาตรา 282 ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอม ก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่ สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกพันบาทถึงสามหมื่นบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุไม่เกินสิบห้าปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น รับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไปตามวรรคแรก วรรคสองหรือวรรคสาม หรือสนับสนุนใน การกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ใน วรรคแรกวรรคสอง หรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี หมายเหตุ ยกเลิกความเดิมและให้ใช้ความใหม่แทนโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2540 มาตรา 283 ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้าย ใช้อำนาจครอบงำ ผิดคลองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ต้องระวางโทษ จำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่บุคคล อายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่เจ็ดปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุ ไม่เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุกตลอดชีวิต หรือประหารชีวิต ผู้ใดเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น รับตัวบุคคลซึ่งมีผู้จัดหา ล่อไป หรือพาไปตามวรรคแรก วรรคสองหรือวรรคสาม หรือสนับสนุนใน การกระทำความผิดดังกล่าว ต้องระวางโทษตามที่บัญญัติไว้ใน วรรคแรกวรรคสอง หรือวรรคสาม แล้วแต่กรณี หมายเหตุ ยกเลิกความเดิมและให้ใช้ความใหม่แทนโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2540 มาตรา 283ทวิ ผู้ใดพาบุคคลอายุเกินสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน ห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำความผิดตามวรรคแรกเป็นการกระทำแก่เด็กอายุยังไม่ เกินสิบห้าปี ผู้กระทำต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินเจ็ดปี หรือปรับไม่เกิน หนึ่งหมื่นสี่พันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพาไปตามวรรคแรกหรือวรรคสอง ต้องระวาง โทษตามที่บัญญัติในวรรคแรกหรือวรรคสอง แล้วแต่กรณี ความผิดตามวรรคแรกและวรรคสามเฉพาะกรณีที่กระทำแก่บุคคลอายุ เกินสิบห้าปี เป็นความผิดอันยอมความได้ หมายเหตุ เพิ่มโดย พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2540 มาตรา 284 ผู้ใดพาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจาร โดยใช้อุบายหลอกลวง ขู่เข็ญ ใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดคลองธรรม หรือใช้วิธี ข่มขืนใจด้วยประการอื่นใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท ผู้ใดซ่อนเร้นบุคคลซึ่งถูกพาไปตามวรรคแรก ต้องระวางโทษเช่น เดียวกับผู้พาไปนั้น "ความผิดตาม มาตรานี้ เป็นความผิดอันยอมความได้" หมายเหตุ ยกเลิกความเดิมและให้ใช้ความใหม่แทนโดย พ.ร.บ.แก้ไข เพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 14) พ.ศ. 2540 มาตรา 285 ถ้าการกระทำความผิดตาม มาตรา 276 มาตรา 277 มาตรา 277ทวิ มาตรา 277ตรี มาตรา 278 มาตรา 279 มาตรา 280 มาตรา 282 หรือ มาตรา 283 เป็นการกระทำแก่ผู้สืบสันดาน ศิษย์ซึ่งอยู่ ในความดูแลผู้อยู่ในความควบคุมตามหน้าที่ราชการหรือผู้อยู่ในความปกครอง ในความพิทักษ์หรือในความอนุบาล ผู้กระทำต้องระวางโทษหนัก กว่าที่บัญญัติไว้ใน มาตรา นั้น ๆ หนึ่งในสาม มาตรา 286 ผู้ใดอายุกว่าสิบหกปีดำรงชีพอยู่แม้เพียงบางส่วน จากรายได้ของหญิงซึ่งค้าประเวณี ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่เจ็ดปี ถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นสี่พันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือจำคุก ตลอดชีวิต ผู้ใดไม่มีปัจจัยอย่างอื่นอันปรากฏสำหรับดำรงชีพ หรือไม่มีปัจจัย อันพอเพียงสำหรับดำรงชีพ และ (1) ปรากฏว่าอยู่ร่วมกับหญิงซึ่งค้าประเวณี หรือสมาคมกับหญิง ซึ่งค้าประเวณีคนเดียวหรือหลายคนเป็นอาจิณ (2) กินอยู่หลับนอน หรือรับเงิน หรือประโยชน์อย่างอื่น โดยหญิง ซึ่งค้าประเวณีเป็นผู้จัดให้ หรือ (3) เข้าแทรกแซงเพื่อช่วยหญิง ซึ่งค้าประเวณีในการทะเลาะวิวาท กับผู้ที่คบค้ากับหญิงซึ่งค้าประเวณีนั้น ให้ถือว่าผู้นั้นดำรงชีพอยู่จาก รายได้ของหญิงในการค้าประเวณี เว้นแต่จะพิสูจน์ให้เป็นที่พอใจได้ว่า มิได้เป็นเช่นนั้น บทบัญญัติแห่ง มาตรานี้ มิให้ใช้บังคับแก่ผู้รับค่าเลี้ยงดูจากหญิง ซึ่งค้าประเวณี ซึ่งพึงให้ค่าเลี้ยงดูนั้นตามกฎหมายหรือตามธรรมจรรยา หมายเหตุ แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 มาตรา 287 ผู้ใด (1) เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่าย หรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำ ผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้า ในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือ ยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใด ๆ ซึ่งเอกสาร ภาพเขียน ภาพพิมพ์ ภาพระบายสี สิ่งพิมพ์ รูปภาพ ภาพโฆษณา เครื่องหมาย รูปถ่าย ภาพยนตร์ แถบบันทึกเสียง แถบบันทึกภาพหรือสิ่งอื่นใดอันลามก (2) ประกอบการค้า หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องกับการค้าเกี่ยวกับ วัตถุหรือสิ่งของลามกดังกล่าวแล้ว จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน หรือให้เช่นวัตถุหรือสิ่งของเช่นว่านั้น (3) เพื่อจะช่วยการทำให้แพร่หลาย หรือการค้าวัตถุหรือสิ่งของลามก ดังกล่าวแล้ว โฆษณาหรือไขข่าวโดยประการใด ๆ ว่ามีบุคคลกระทำการ อันเป็นความผิดตาม มาตรานี้ หรือโฆษณาหรือไขข่าวว่าวัตถุ หรือสิ่งของ ลามกดังกล่าวแล้วจะหาได้จากบุคคลใด หรือโดยวิธีใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำ ทั้งปรับ หมายเหตุ แก้ไขโดย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2525 หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ออด ที่ กันยายน 27, 2005, 03:51:38 PM กรณีที่ข่มขืน แต่ในที่เกิดเหตุ มีอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้การเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายมีโอกาสรอดสูงครับ ถือว่าสมยอม เพราะถ้าไม่สมยอม ผู้ชายคงไม่มีเวลาใส่อุปกรณ์ ( ไม่ทราบว่าที่ผมพูดมา มีข้อความ ตรงใหนไม่ถูกต้องบ้างครับ) รบกวนช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ เพราะฟังจากเพื่อนที่เป็นตำรวจ ทำคดี ทำนองนี้มาเยอะ มาเล่าให้ฟังครับ มันก็คงขึ้นอยู่กับต้นสายปลายเหตุด้วยเช่นกันครับ เพราะการข่มขืน คือ การที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่สมยอมด้วย หากไปนอนด้วยกันพอมีเรื่องก็พูดว่าเขาข่มขืน อันนี้ก็ไม่น่าใช่เรื่องของการข่มขืน แต่ถ้าอีกฝ่ายถูกมอมยาไม่รู้สึกตัว และไม่สมยอมอันนี้ก็คงใช่ หรือถูกฉุดกระชากไปกระทำนี้ก็ใช่อีก เรื่องการมีเวลาสวมถุงยางผมว่าบางทีมันก็เข้าข้างมากเกินไป เพราะบางครั้งก่อนถูกข่มขืน ผู้ถูกข่มขืนส่วนใหญ่มักจะถูกทำร้ายก่อน เช่น ต่อยท้องก่อนอะไรทำนองนี้ จึงไม่มีทางหนี หรือถูกจับไว้เพราะผู้กระทำการข่มขืนมีหลายคน...อันนี้ก็พูดยากเนาะ เฮ้อ นี่หละลูกเมียเขา ไปทำเขา บาปกรรมมีจริงครับ ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้าหรอก หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ออด ที่ กันยายน 27, 2005, 03:52:53 PM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P ฮ่า ๆ ๆ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Tonyman ที่ กันยายน 27, 2005, 03:53:21 PM คือ ผมเห็นว่าประหารแบบฉีดยามันเบาไปอ่ะคับ
น่าจะให้ทรมานกว่านั้นอ่ะ น่าจะให้ยิงเหมือนเดิมดีแล้ว ไม่งั้น จะมีพวกไม่กลัวฉีดยาเหมือน คนร้ายที่แทงเด็กอีก หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ออด ที่ กันยายน 27, 2005, 03:54:19 PM ไม่ขอโหวต เพราะเจ้าของกระทู้ให้ตัวเลือกและกรณีไว้ไม่ชัดเจนและเพียงพอต่อฐานความผิด... เพิ่มตัวเลือกครับ............ประหารยังน้อยไป...........ผมว่าให้ริบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดดีกว่าครับ :DD :DD :DDแล้วของกลางจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหละครับ ฮ่า ๆ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 03:56:40 PM ข่มขืนกระทำชำเราหญิงทีทไม่ใช่ภรรยาตน เป็นตัวบทกฎหมาย ที่มีการแก้ไข-เพิ่มเติม หลายครั้ง
กรณีที่ข่มขืน แต่ในที่เกิดเหตุ มีอุปกรณ์ป้องกันที่ใช้การเรียบร้อยแล้ว ผู้ชายมีโอกาสรอดสูงครับ ถือว่าสมยอม เพราะถ้าไม่สมยอม ผู้ชายคงไม่มีเวลาใส่อุปกรณ์ ( ไม่ทราบว่าที่ผมพูดมา มีข้อความ ตรงใหนไม่ถูกต้องบ้างครับ) รบกวนช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ เพราะฟังจากเพื่อนที่เป็นตำรวจ ทำคดี ทำนองนี้มาเยอะ มาเล่าให้ฟังครับ .. น่าจะเข้าใจถูกต้องนะครับ แม้แต่การยอมเข้าไปในบางสถานที่ หรือเพียงฝ่ายหญิง พูดว่า เป็นผู้ถอดเสื้อผ้าของตน หรือถอดเสื้อผ้าของฝ่ายชาย.. หรือสั่งอาหารเข้าไปในที่พัก ข้อเท็จจริงดังกล่าว เป็นพฤตการณ์ ประเภท พี่ไม่ต้องน้องทำเอง.. เข้าเป็นเรื่องสมยอม.. ..เรื่องอายุ และไม่ได้ใช้อาวุธ ไม่ใช่เป็นการโทรมหญิง เป็นความผิดต่อส่วนตัว เป็นคดีที่ยอมความได้.. :D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Dhong ที่ กันยายน 27, 2005, 03:56:53 PM ไม่ขอโหวต เพราะเจ้าของกระทู้ให้ตัวเลือกและกรณีไว้ไม่ชัดเจนและเพียงพอต่อฐานความผิด... เพิ่มตัวเลือกครับ............ประหารยังน้อยไป...........ผมว่าให้ริบของกลางที่ใช้ในการกระทำความผิดดีกว่าครับ :DD :DD :DDแล้วของกลางจะเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหละครับ ฮ่า ๆ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: น้าเสก คนเดิม ที่ กันยายน 27, 2005, 03:56:55 PM ไม่โหวตดีกว่า ;D
ถ้าข่มขืนแล้วฆ่านี่ต้องให้ไปเกิดใหม่ ถ้าข่มขืนอย่างเดียวก็ติดคุกอย่างเดียว (อยู่ในคุกอาจจะไปข่มขืนพวกเดียวกันอีก เพราะติดเป็นสันดาน) ;D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ออด ที่ กันยายน 27, 2005, 04:01:18 PM โทษของผู้ที่กระทำความผิดเรื่องข่มขืน คนที่ไม่ใช่ ภรรยา หรือสามีตัวเอง น่าจะให้ฉีดยาเข้าเจ้าโลกครับ เอายาหรือน้ำมันแบบที่เขาออกข่าวกันนะ ฉีดแล้วให้เจ้าโลกมันใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ แล้วก็เน่าในที่สุด มันคงทรมานน่าดูเน่าะ ฮ่า ๆ เอ้แล้วถ้าหากมันใหญ่อย่างเดียวแล้วไม่ยอมเน่าหละเน่าะ...น่าคิด
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์เจ้า ที่ กันยายน 27, 2005, 04:01:49 PM จันทร์เจ้า เคยคุยกับทนายความที่เป็นเพื่อนกัน บอกว่า ผู้หญิงที่โดนข่มขืน เวลาขึ้นศาลจะน่าสงสารมาก
โดนทนายฝ่ายจำเลย กระหน่ำซักถามถึง ขณะเกิดเหตุการณ์แบบละเอียดยิบ.. จน...แทบเสียสติ...น่าสงสารมาก คือทนายพยามยาม ต้อน..ให้เป็นการสมยอมกัน...ด้วยคำถามที่ผู้เสียหาย อับอาย..และไม่สามารถตอบได้คะ..เศร้าแทน.. หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 04:05:53 PM :)..ครั้งก่อนที่ผมขับรถ 4x4 ไปเที่ยวในเขตกระเหรี่ยง เขตพม่า ติดชายแดนด้าน กาญ-ตาก
ชาวกระเหรี่ยงบอกผ่านเพื่อน..ว่า ไอ้พวกเนี้ย จับได้คาหนังคาเขา ต้องนำไปใช้แรงงาน ให้มันขุดดิน ความลึก กว้างได้ขนาด ก็ให้มันพักหนื่อยก่อน แล้วเอาตะกั่ววิ่งชนหัวมัน.. ถีบและฝังมันตรงนั้นเลย.. ง่ายดี :DD หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ กันยายน 27, 2005, 04:06:55 PM ไม่รู้ล่ะ ถ้ามาทำกับคนที่ผมรัก ประหาร จำคุก มันน้อยไป ถ้าไม่ตายในคุก ออกมามันต้องตายสถานเดียว ครับ
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Army - รักในหลวงครับ ที่ กันยายน 27, 2005, 04:11:16 PM คือ ผมเห็นว่าประหารแบบฉีดยามันเบาไปอ่ะคับ น่าจะให้ทรมานกว่านั้นอ่ะ น่าจะให้ยิงเหมือนเดิมดีแล้ว ไม่งั้น จะมีพวกไม่กลัวฉีดยาเหมือน คนร้ายที่แทงเด็กอีก เห็นด้วยครับ ไม่ควรเปลี่ยนวิธีประหารเลย บางประเทศประหารด้วยการยิงเป้าแล้วยังมีการถ่ายทอดสดให้ดูอีกต่างหาก คนจะได้กลัว หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ..GlockGlack.. ที่ กันยายน 27, 2005, 04:12:43 PM หากเรื่องไปถึงตำรวจ คงต้องว่าไปตามกฎหมายครับ ผมไม่มีความเห็น :(
แต่หากผมได้พบเห็นแบบนี้ซึ่งๆหน้าและมีปืนอยู่ด้วย ผมไม่ปล่อยให้ตายครับ แต่จะให้พิการหรือถึงสูญพันธุ์ เพราะผมถือว่าเป็นความโหดร้ายอย่างที่สุดที่มนุษย์กระทำต่อมนุษย์ ยิ่งกว่าการฆ่ากันตาย หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กันยายน 27, 2005, 04:17:03 PM กฎหมายบ้านเราไม่ศักด์สิทธิ์ ;D ;D ;D คนไม่ละอายเกรงกลัวต่อบาป ;D ;D ;D
เอามันไปเผา หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Quart ที่ กันยายน 27, 2005, 04:18:27 PM ตัดตอน
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 04:25:00 PM ตัวเลือกที่มีไม่ถูกใจคับ...
ไม่ขอออกความเห็นคับ... หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กันยายน 27, 2005, 04:56:39 PM งั้นขอเพิ่มตัวเลือกให้ดีกว่าทรมานโดยหั่นของกลางทีละนิด...ทีละนิด...ทีละนิด...จนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นทำไรต่อดีน๊า...อิๆ
555...ซาดิสม์ไปเปล่าเนี่ยเรา ;D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ekkawit ที่ กันยายน 27, 2005, 04:58:47 PM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P โอ้โฮ ;) ;) ;) หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 05:01:41 PM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมเลยเหรอครับพี่.......... อะไรจะปานน้านนน ;D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์เจ้า ที่ กันยายน 27, 2005, 05:04:19 PM งั้นขอเพิ่มตัวเลือกให้ดีกว่าทรมานโดยหั่นของกลางทีละนิด...ทีละนิด...ทีละนิด...จนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นทำไรต่อดีน๊า...อิๆ 555...ซาดิสม์ไปเปล่าเนี่ยเรา ;D โดนซะ..ขนาดนี้...มานจาเหลือ..อารายอีก ละน้อ..คุณ โอ.. :~) :~) จันทร์เจ้า ว่า มาน..คงขอตาย..ซะ..ดี..กั่ว..(ขออภัยหากไม่สุภาพ และ..โดนใจดำ..ใคร ?) หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ กันยายน 27, 2005, 05:07:47 PM ไม่ได้ออกเสียงครับ..เพราะให้เลือกน้อย น่าจะมีทางเลือกที่ดีกว่านี่เช่นจับตอน แล้วจับตัวมารับใช้สังคม
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 05:09:18 PM ผมโหวตให้ประหารแล้วครับ...... อย่าทรมานกันเลย ฮืมมม ฮืมมมม :~) :<< :<<
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: aniki ที่ กันยายน 27, 2005, 05:09:32 PM ผมข่าวข่าวนี่แล้วถูกใจจริง :VOV: http://www.komchadluek.net/column/think/2005/09/kamon01.php
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์เจ้า ที่ กันยายน 27, 2005, 05:13:46 PM ผมโหวตให้ประหารแล้วครับ...... อย่าทรมานกันเลย ฮืมมม ฮืมมมม :~) :<< :<< ก๊ากก...ก๊ากก....ก๊ากกก...เจอแล้ว..คนโดน ใจดำ.. คริ..คริ.. หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ กันยายน 27, 2005, 05:16:07 PM ยึดของกลางที่ใช้ก่อคดีเข้าหลวง
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: BAER ที่ กันยายน 27, 2005, 05:17:12 PM :D โอ้โห คุณโอ แล้วถ้าขนาดของมันเกิดใหญ่มาก หั่นทีละนิด ทีละนิด
เมื่อไหร่จะถึงตอ...... แฮ่ แฮ่ แฮ่ ล้อเล่นนน ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 27, 2005, 05:22:31 PM ตร.บุกจับ 2 วายร้ายภัยผู้หญิงของจริงได้สำเร็จ หลังก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์นักเรียน ม.6 ขณะยืนโทรศัพท์อยู่ในตู้สาธารณะ ลากตัวซ้อน จยย.พาไปข่มขืนยับ สารภาพหน้าตาเฉย เล็งเหยื่อที่เป็นเด็ก นร.สาวที่ชอบออกมาโทรฯ ตอนดึก ๆ ดื่น ๆ คุยโวทำมาแล้วหลายราย เชื่อรอดเพราะผู้เสียหายอายไม่กล้าเข้าแจ้งความ
ตร.ดอนเมืองบุกรวบเดนมนุษย์ภัยผู้หญิงของแท้ รายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ก.ย. พ.ต.ท.ชำนาญ อุ๋ยสกุล สว.สส.สน.ดอนเมือง พร้อม ร.ต.อ.เกริกฤทธิ์ สายวรรณะ รอง สว.สส. นำกำลังเข้าจับกุมนายอนันต์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์และข่มขืนเหยื่อ ได้ที่บ้านพักในชุมชนหน้าวัดไผ่เขียว แขวงสีกัน เขตดอนเมือง พร้อมของกลางแหวนทองคำหนัก 1 สลึง รถ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนที่ใช้ก่อเหตุอีก 1 คัน ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อช่วงดึก วันที่ 6 ก.ย.ที่ผ่านมา นายอนันต์ได้ร่วมกับนายอรรถพล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี น้องเขยซึ่งถูกจับได้ก่อนหน้า ได้ร่วมกันก่อเหตุบุกเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ น.ส.ไก่ นามสมมุติ อายุ 19 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนชื่อดัง ขณะยืนโทรศัพท์อยู่ในตู้สาธารณะหน้าหมู่บ้านบูรพาโครงการ 7 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง โดยผู้ต้องหาทั้งสองได้ใช้อาวุธมีดยาว 1 ฟุต จี้พร้อมกับไม่ให้ผู้เสียหายร้องให้คนช่วย จากนั้นลากตัวขึ้น รถ จยย.พาไปข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ทั้งสองคน บริเวณสวนหย่อมริมคลองประปาท้ายซอยแสนหวี ก่อนปล่อยตัวเหยื่อกลับไปเอง จากการสอบสวนนายอนันต์ให้การรับสารภาพหน้าตาไม่สะทกสะท้านว่า เคยก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์แล้วพาผู้เสียหายไปข่มขืนหลายครั้งแล้ว โดยก่อเหตุในพื้นที่ สน.ดอนเมือง และพื้นที่ใกล้เคียง พฤติกรรมคือตกดึกตนกับน้องเขยซึ่งถูกจับได้ก่อนหน้าจะขี่ จยย. ตระเวนไปตามตรอกซอกซอยต่าง ๆ เมี่อเห็นผู้หญิงโดยเฉพาะนักเรียนที่มักชอบออกมาใช้โทรศัพท์สาธารณะดึก ๆ ดื่น ๆ จะตรงปรี่เข้าไปใช้มีดจี้แล้วลากตัวพาไปข่มขืน ทั้งนี้ที่เลือกเหยื่อเป็นเด็กนักเรียนเพราะเชื่อว่าผู้เสียหายไม่กล้าเข้าแจ้งความเนื่องจากอับอายเลยก่อเหตุอย่างสบายจนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันจี้ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด และร่วมกันข่มขืนหญิงซึ่งมิใช่ภรรยาตน คุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป. หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 27, 2005, 05:23:22 PM เผยภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 สะท้อนปัญหาสังคม คดี"ข่มขืน" พุ่ง 12 รายต่อวัน
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 14 กันยายน 2548 22:26 น. สศช. แถลงภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 แรงงานไทยมีการศึกษาสูงขึ้นการว่างงานลดลง แต่ความมั่นคงทางสังคมลดลงด้วย เผยภัยข่มขืนสังคมควรตระหนักและเริ่มแก้ปัญหายอดแจ้งความคดีข่มขืนปัจจุบันเฉลี่ยสูงถึง 12 รายต่อวัน แถมอายุเหยื่อมีตั้งแต่ 2-80 ปี สะท้อนปัญหาสั่งสมต้องรีบแก้ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 2548 ว่า กำลังแรงงานมีการศึกษาสูงขึ้น เนื่องจากการขยายโอกาสทางการอย่างต่อเนื่อง การจ้างงานภาคเกษตรลดลง ส่วนการจ้างงานนอกภาคเกษตรมีเพิ่มขึ้น ในสาขาการก่อสร้าง และการบริการการท่องเที่ยว คนว่างงานลดลงในทุกภาค จากร้อยละ 2.60 เป็นร้อยละ 2.03 แต่อัตราการว่างงานของผู้มีการศึกษาระดับประถมและต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย และ ปวส. มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมีการนำเข้าแรงงานต่างด้าวระดับกลางและระดับสูงเพิ่มขึ้นจาก 85,052 คน ในปี 2546 เป็น 113,237 คน ในปี 2547 สำหรับความมั่นคงทางสังคม อาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้น ทั้งคดีชีวิต ร่างกาย และเพศ และคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์ โดยมีอัตราเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 1 ปี 48 รวมทั้งคดียาเสพติดด้วย นอกจากนี้ มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีในการกระทำผิดคดีอาญาเพิ่มขึ้น โดยปี 2545 มีการรับแจ้งเว็บผิดกฎหมาย 4,266 คดี แต่ปี 2547 เพิ่มขึ้นเป็น 10,630 คดี โดยเป็นเว็บเกี่ยวกับการขายบริการทางเพศ วัตถุ และภาพลามกอนาจารประมาณร้อยละ 80 ในส่วนการสร้างหลักประกันด้านรายได้ให้ผู้สูงอายุมีเพิ่มขึ้น แต่เพื่อให้คนมีรายได้เพียงพอสำหรับอนาคต ควรเสริมสร้างนิสัยการออมที่เป็นระบบด้วยตนเองตั้งแต่อยู่ในช่วงวัยทำงาน ซึ่ง สศช. จะประชุมร่วมกับสภาผู้นำชุมชน เพื่อหารูปแบบการออมแนวใหม่นอกเหนือจากการฝากเงิน สำหรับพฤติกรรมความเป็นอยู่ของคน ประชาชนมีการอ่านข้อมูลความรู้จากอินเทอร์เน็ตมากกว่าบันเทิงเพิ่มขึ้น และคนไทยมีแนวโน้มไปใช้สถานพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนเมื่อเจ็บป่วยเพิ่มจากร้อยละ 40.2 เมื่อปี 2534 เป็นร้อยละ 77.5 ในปี 2547เนื่องจากการครอบคลุมการประกันสุขภาพ การซื้อยากินเองและรักษาแบบพื้นบ้านมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้ ในส่วนความเป็นอยู่ของข้าราชการพบว่า มีแนวโน้มที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น ส่วนที่ไม่มีบ้านและที่ดินเป็นของตนเอง ลดลงจากร้อยละ 37.2 ในปี 2542 เหลือร้อยละ 34.5 ด้านสิ่งแวดล้อม พบมีการใช้สารเคมีเกษตรเพิ่มขึ้น ร้อยละ 17 จากไตรมาสแรกปี 48 ทำให้มีผลกระทบทั้งสิ่งแวดล้อมและเกิดสารตกค้างเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ มีการให้ความสำคัญเรื่องนำขยะอินทรีย์มาผลิตก๊าซชีวภาพ และการสร้างพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้น ทางด้านนายกิติศักดิ์ สินธุวนิช รองเลขาธิการ สศช. แถลงถึงภัยใกล้ตัวของสังคมไทยปัจจุบันที่ไม่ควรมองข้ามว่า เป็นเรื่องปัญหาข่มขืน โดยสถานการณ์และรูปแบบการข่มขืนเปลี่ยนไป มีผู้หญิงที่ถูกข่มและแจ้งความเฉลี่ยวันละ 12 ราย และมีแนวโน้มการข่มขืนแล้วฆ่าเพิ่มขึ้นทุกปี โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ คิดเป็นร้อยละ 12 ของคดีทั้งหมด และคดีที่ขึ้นสู่ศาลเพิ่มขึ้น 3 เท่า เมื่อเทียบกับ 10 ปีที่แล้ว นอกจากนี้ ผู้ตกเป็นเหยื่อยังมีอายุตั้งแต่ 2-80 ปี และเหยื่อเป็นเด็กชายมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยตัวเลข ผู้ตกเป็นเหยื่อที่มีตั้งแต่อายุน้อยจนถึงชรา เป็นการสะท้อนให้สังคมเห็นได้ว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากการสั่งสมไม่ใช่อารมณ์ชั่ววูบ ทั้งนี้ ยังพบว่าผู้ถูกข่มขืนมีเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่ไปแจ้งความ เพราะร้อยละ 80 ของผู้กระทำผิดเป็นคนรู้จักและใกล้ชิดกับเหยื่อ ทำให้เหยื่ออยากลืมมากกว่าจะแจ้งความเอาผิดคนรู้จัก นอกจากนี้ เด็กและเยาวชนยังมีแนวโน้มเป็นผู้กระทำผิดมากขึ้น โดยปี 2547 เพิ่มเป็น 2,416 ราย คิดเป็นร้อยละ 39.25 จากปี 2546 นายกิติศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ทำให้เกิดการข่มขืน เพราะสื่อลามกอยู่ใกล้ตัวเยาวชนมากขึ้น และเกิดจากการเลียนแบบเพื่อน ความคึกคะนอง ส่วนผู้หญิงที่เป็นเหยื่อ ส่วนหนึ่งเกิดจากมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม แต่งกายยั่วยุ ค่านิยม และสุรายาเสพติด นอกจากนี้ ยังมีปัญหาครอบครัวขาดความรัก ความเข้าใจและความอบอุ่น โดยเหยื่อที่ถูกกระทำจะนำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นทั้งเอดส์ การทำแท้ง กรณีมีครอบครัวแล้วก็จะหย่าร้าง มีปัญหาต่อสภาพจิต ผู้กระทำผิดก็จะถูกจองจำ หมดอนาคต ส่งผลกระทบต่อครอบครัว การคลี่คลายผลกระทบที่เกิดขึ้น ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการชัดเจนในการสร้างความปลอดภัยให้กับเด็กและผู้หญิง แนวทางแก้ปัญหา ทุกฝ่ายทั้งครอบครัว สถานศึกษา ภาครัฐ และสื่อมวลชน จึงต้องร่วมกันเคารพสิทธิของผู้อื่นให้เกียรติและเอื้อเฟื้อต่อกัน ตระหนักและร่วมแก้ปัญหาดังกล่าว หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 27, 2005, 05:25:32 PM อัปยศสังคมไทย ข่มขืน ดะ ตั้งแต่ 2 ขวบยัน 80
ข่าวจาก ไทยรัฐ 15 ก.ย. 48 นายกิติศักดิ์ สินธุวนิช รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยรายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 2 ปี 2548 ว่า ปัญหาข่มขืนและทารุณกรรมทางเพศ เป็นเรื่องที่น่าห่วงและมีแนวโน้มที่สูงมากในสังคมไทย เนื่องจากผลการศึกษา และลงพื้นที่พบว่า ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อ มิใช่เฉพาะหญิงสาวเท่านั้น แต่เป็นเด็กตั้งแต่อายุ 2 ขวบ จนถึงหญิงชราวัย 80 ปี คนพิการ รวมถึงเด็กผู้ชายด้วย นอกจากนี้ ยังพบว่าเฉพาะข้อมูลปี 2547 มีคดีข่มขืนขึ้นถึง 5,052 คดี คิดเป็น 5% ของผู้ที่ถูกข่มขืนทั้งประเทศเท่านั้น เพราะที่เหลือไม่กล้าแจ้งความ เนื่องจากเกิดความอาย หากถูกเผยแพร่ทางสื่อมวลชน ถูกข่มขู่ และผู้กระทำผิดเป็นคนใกล้ตัว เช่น พ่อ ญาติ นายจ้างครู อาจารย์ เพื่อน โดยผู้ที่กระทำผิดเป็นคนใกล้ชิดกับเหยื่อมีสูงถึง 80% ปัจจัยที่ทำให้เกิดการข่มขืนพบว่าเกิดจากการดูหนังลามกจากซีดีและดีวีดี ซึ่งปัจจุบันหาซื้อได้ง่าย ที่น่าห่วงคือ การเสนอเรื่องราวการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นแม่กับลูก พ่อกับลูก นอกจากนี้ ยังเกิดจากสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีข้อเขียน และรูปภาพในลักษณะยั่วยุจนเกิดการเลียนแบบ ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต การดื่มสุรา ปัญหาการหย่าร้างของครอบครัว และค่านิยมที่ผิด ทั้งนี้ในปี 2547 มีผู้หญิงถูกละเมิดทางเพศสูงถึง 1 แสนราย แต่แจ้งความเพียง 5% เท่านั้น ด้านนายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการ สศช. กล่าวว่า จากการสำรวจการอ่านหนังสือของประชากรในปี 2546 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่ามีผู้อ่านหนังสือจากอินเตอร์เน็ต 2 ล้านคน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้ที่มีอายุ 6-24 ปี อ่านเนื้อหาที่เป็นบันเทิงมากสุดถึง 32.2% ซึ่งอาจรวมถึงเรื่องที่ไม่ เหมาะสมด้วย รองลงมา คือสารคดีและความรู้ทั่วไป 32% และข่าว 28%. หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 05:36:50 PM งั้นขอเพิ่มตัวเลือกให้ดีกว่าทรมานโดยหั่นของกลางทีละนิด...ทีละนิด...ทีละนิด...จนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นทำไรต่อดีน๊า...อิๆ 555...ซาดิสม์ไปเปล่าเนี่ยเรา ;D แล้วถ้าเกิดเป็นการร่วมกันกระทำความผิด เช่นภรรยาช่วยจับแขนจับขาให้สามีข่มขืน กฎหมายถือว่าทำผิดทั้งคู่ ถูกลงโทษเท่ากัน แบบนี้หนูโอ จะให้ทำอะไรกับจำเลยที่เป็นผู้หญิงดีล่ะ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 05:40:42 PM ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กันยายน 27, 2005, 06:06:05 PM ผมซาดิตส์ครับ
(อ่านกระทู้นี้แล้ว....อืม..ม..ม...เจี๋ยวๆๆๆๆ) หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: wasu ที่ กันยายน 27, 2005, 06:07:51 PM น่าให้พวกเป็นเอดส์ข่มขืนนะครับ แค่นี้มันก็ตายทั้งเป็นยิ่งกว่าประหารแล้วล่ะครับ อิ อิ ;D ;D ;D ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ กันยายน 27, 2005, 06:23:37 PM ประหารครับ ถ้าศาลปราณีให้ตัดทิ้งครับและจำคุกตลอดชีวิต ถ้าข่มขืนแล้วฆ่าให้ตัดก่อนและเอาไปให้นักโทษตุ๋ย และประหารครับ
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 27, 2005, 06:59:11 PM อะ..มาใหม่สดๆเมื้อกี้นี้เอง.........
พ่อเลี้ยงชั่วข่มขืนลูก 9 ขวบ-แม่ทรามเปิดวีดีโอโป๊ให้ดู โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2548 18:36 น. คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น น้องน้ำฝน เหยื่อพ่อเลี้ยงชั่ว-แม่ทราม ครูยุ่น พาหนูน้อยวัย 9 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงชั่วข่มขืน ในขณะที่แม่จิตใจทรามเปิดวิดีโอโป๊สนับสนุน เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ สน.บางมด นายมนตรี สินทวิชัย สว.สมุทรสงคราม และเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ได้นำตัว ด.ญ.น้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ เข้าพบ พ.ต.ต.พินัย ชูแก้ว สารวัตรเวร สน.บางมด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุบิน นวลศรี อายุ 33 ปี พ่อเลี้ยง ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.น้ำฝนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2547ซึ่งขณะนั้นด.ญ.น้ำฝนเรียนอยู่ชั้น ป.2 จนถึงปัจจุบัน นายมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา อาจารย์ประจำโรงเรียนของ ด.ญ.น้ำฝนได้เดินทางเข้าพบกับมูลนิธิฯเพื่อขอความช่วยเหลือโดยด่วน เพราะนอกจากจะถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนแล้วยังมีแนวโน้มว่า อาจจะเพื่อนบ้านล่วงเกินทางเพศด้วย เนื่องจากผู้ปกครองไม่สนใจดูแล อีกทั้งนางยุวดี อายุ 24 ปี มารดาน้องน้ำฝน ยังช่วยกันปกปิดความผิดที่น้องน้ำฝนถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน จึงได้นำตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดี ด้าน ด.ญ.น้ำฝน ให้การว่า เป็นลูกติดของแม่ซึ่งได้หย่าขาดกับพ่อแท้ๆของตนตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ จากนั้นแม่ ก็มาอยู่กินกับ นายสุบิน ต่อมาทั้งคู่ก็ถูกตำรวจจับในข้อหาเสพยาบ้า ตนจึงต้องอยู่กับยาย พอแม่ก็พ้นโทษ ก็มารับตนไปอยู่ด้วยที่ห้องเช่าพร้อมกับสามีใหม่ โดยแม่ของตนทำอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2 จนกระทั่งประมาณเดือน ธันวาคม 2547 จำได้แต่เวลาช่วง 21.00 น.ขณะที่แม่ไปเข้าเวรกะบ่าย ตนกำลังนอนหลับอยู่ นายสุบิน ก็ได้เข้ามาพยายามจะข่มขืนตน พอพยายามขัดขืน นายนสุบิน ก็ขู่ว่า ห้ามดิ้น ห้ามร้องไห้ ไม่อย่างนั้นจะตีตนให้ตาย เมื่อนายสุบินข่มขืนเสร็จ ก็ทำให้ที่อวัยวะเพศตนเลือดไหลไม่หยุด จากนั้นก็สั่งให้ตนไปล้างในห้องน้ำ และสั่งให้บอกกับทุกคนในบ้านว่า ตนตกต้นไม้เลยมีเลือดไหลไม่หยุด ด.ญ.น้ำฝน กล่าวอีกว่า เมื่อกลางดึกขณะที่แม่กลับมาจากที่ทำงาน ก็พบว่าในห้องน้ำมีคราบเลือด จึงมาคาดคั้นตน จนกระทั่งทราบว่าตนถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน ทำให้พ่อเลี้ยงกับแม่ทะเลาะกันรุนแรงมาก รุ่งเช้าขึ้นมาแม่ห้ามไม่ให้ตนไปโรงเรียน แต่ตนยืนยันว่าจะไป แม่จึงนำผ้าอนามัยมาใส่ให้ถึงจะยอมให้ไปโรงเรียน ตอนอยู่ที่โรงเรียนตนไปเข้าห้องน้ำพร้อมเพื่อน เพื่อนก็เห็นว่า มีเลือดไหลออกจากอวัยวะของตน เพื่อนจึงไปฟ้องอาจารย์ จากนั้นอาจารย์ ได้พาตนไปตรวจที่โรงพยาบาล ด.ญ.น้ำฝน กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงข่มขืนเสร็จก็บอกว่าจะให้เงิน 50 บาท ไปกินขนมที่โรงเรียนในฐานะที่เป็นเด็กดี เชื่อฟังคำพูดผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่เคยให้สักครั้ง นอกจากนี้ทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงขืนใจตน ก็จะสอนเรื่องเพศศึกษาประกอบไปด้วย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด พ่อเลี้ยงทำกับหนูมาแบบนี้มากกว่า 7 ครั้ง ทุกครั้งที่ทำก็จะเปิดวีดีโอโป๊ให้หนูดู ซึ่งแม่หนูก็รับรู้มาตลอด และเวลาที่พ่อเลี้ยงกับแม่ มีอะไรกัน ก็จะให้หนูเข้าไปดูด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแม่หนูบอกว่า ห้ามไปบอกใคร ไม่งั้น แม่จะไม่รักและจะทิ้งหนูไป จะรักเฉพาะลูกที่เกิดกับพ่อเลี้ยง ทำให้หนูกลัวว่าแม่จะทิ้งจึงไม่กล้าเอ่ยปากบอก ดญ.น้ำฝน กล่าว นายมนตรี กล่าวว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นทางโรงเรียนได้เดินทางไปสอบถามผู้ปกครองเด็กที่บ้าน ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็พยายามปิดบังบอกว่า เด็กตกต้นไม้ อีกทั้งนางยุวดี ผู้เป็นแม่ก็มีทีท่าไม่สนใจ และบอกกับทางโรงเรียนว่า หากสนใจในตัวลูกตนก็ให้เอาไปเลี้ยงซะ ทั้งนี้ยังทราบอีกว่า บรรดาเพื่อนบ้านเมื่อรู้ถึงพฤติกรรมของสองสามีภรรยาว่าไม่สนใจเด็ก จึงพยายามหลอกล่อให้ไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ทราบว่า เด็กโดนใครข่มขืนบ้างหรือไม่ ซึ่งจากผลตรวจของแพทย์ครั้งแรก ทราบว่าอวัยวะเพศของเด็กฉีกขาดเป็นทางยาว ทำให้มีเลือดไหลออกไม่หยุด ล่าสุดพ.ต.ต.พินัย สารวัตรเวรเจ้าของคดี เดินทางไปพร้อมหมายจับ และควบคุมตัวนายสุบินมาดำเนินคดีแล้ว โดยระบุว่า หากมารดาน้องน้ำฝนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Mr_Watt ที่ กันยายน 27, 2005, 07:02:50 PM ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ekkawit ที่ กันยายน 27, 2005, 07:18:30 PM อะ..มาใหม่สดๆเมื้อกี้นี้เอง......... พ่อเลี้ยงชั่วข่มขืนลูก 9 ขวบ-แม่ทรามเปิดวีดีโอโป๊ให้ดู โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 27 กันยายน 2548 18:36 น. คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น น้องน้ำฝน เหยื่อพ่อเลี้ยงชั่ว-แม่ทราม ครูยุ่น พาหนูน้อยวัย 9 ขวบ ถูกพ่อเลี้ยงชั่วข่มขืน ในขณะที่แม่จิตใจทรามเปิดวิดีโอโป๊สนับสนุน เมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ สน.บางมด นายมนตรี สินทวิชัย สว.สมุทรสงคราม และเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก ได้นำตัว ด.ญ.น้ำฝน (นามสมมติ) อายุ 9 ขวบ เข้าพบ พ.ต.ต.พินัย ชูแก้ว สารวัตรเวร สน.บางมด เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ นายสุบิน นวลศรี อายุ 33 ปี พ่อเลี้ยง ข่มขืนกระทำชำเรา ด.ญ.น้ำฝนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เดือน ธันวาคม 2547ซึ่งขณะนั้นด.ญ.น้ำฝนเรียนอยู่ชั้น ป.2 จนถึงปัจจุบัน นายมนตรี กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ย.ที่ผ่านมา อาจารย์ประจำโรงเรียนของ ด.ญ.น้ำฝนได้เดินทางเข้าพบกับมูลนิธิฯเพื่อขอความช่วยเหลือโดยด่วน เพราะนอกจากจะถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนแล้วยังมีแนวโน้มว่า อาจจะเพื่อนบ้านล่วงเกินทางเพศด้วย เนื่องจากผู้ปกครองไม่สนใจดูแล อีกทั้งนางยุวดี อายุ 24 ปี มารดาน้องน้ำฝน ยังช่วยกันปกปิดความผิดที่น้องน้ำฝนถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน จึงได้นำตัวเข้าแจ้งความดำเนินคดี ด้าน ด.ญ.น้ำฝน ให้การว่า เป็นลูกติดของแม่ซึ่งได้หย่าขาดกับพ่อแท้ๆของตนตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ จากนั้นแม่ ก็มาอยู่กินกับ นายสุบิน ต่อมาทั้งคู่ก็ถูกตำรวจจับในข้อหาเสพยาบ้า ตนจึงต้องอยู่กับยาย พอแม่ก็พ้นโทษ ก็มารับตนไปอยู่ด้วยที่ห้องเช่าพร้อมกับสามีใหม่ โดยแม่ของตนทำอาชีพเป็นแม่บ้านอยู่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพระราม 2 จนกระทั่งประมาณเดือน ธันวาคม 2547 จำได้แต่เวลาช่วง 21.00 น.ขณะที่แม่ไปเข้าเวรกะบ่าย ตนกำลังนอนหลับอยู่ นายสุบิน ก็ได้เข้ามาพยายามจะข่มขืนตน พอพยายามขัดขืน นายนสุบิน ก็ขู่ว่า ห้ามดิ้น ห้ามร้องไห้ ไม่อย่างนั้นจะตีตนให้ตาย เมื่อนายสุบินข่มขืนเสร็จ ก็ทำให้ที่อวัยวะเพศตนเลือดไหลไม่หยุด จากนั้นก็สั่งให้ตนไปล้างในห้องน้ำ และสั่งให้บอกกับทุกคนในบ้านว่า ตนตกต้นไม้เลยมีเลือดไหลไม่หยุด ด.ญ.น้ำฝน กล่าวอีกว่า เมื่อกลางดึกขณะที่แม่กลับมาจากที่ทำงาน ก็พบว่าในห้องน้ำมีคราบเลือด จึงมาคาดคั้นตน จนกระทั่งทราบว่าตนถูกพ่อเลี้ยงข่มขืน ทำให้พ่อเลี้ยงกับแม่ทะเลาะกันรุนแรงมาก รุ่งเช้าขึ้นมาแม่ห้ามไม่ให้ตนไปโรงเรียน แต่ตนยืนยันว่าจะไป แม่จึงนำผ้าอนามัยมาใส่ให้ถึงจะยอมให้ไปโรงเรียน ตอนอยู่ที่โรงเรียนตนไปเข้าห้องน้ำพร้อมเพื่อน เพื่อนก็เห็นว่า มีเลือดไหลออกจากอวัยวะของตน เพื่อนจึงไปฟ้องอาจารย์ จากนั้นอาจารย์ ได้พาตนไปตรวจที่โรงพยาบาล ด.ญ.น้ำฝน กล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงข่มขืนเสร็จก็บอกว่าจะให้เงิน 50 บาท ไปกินขนมที่โรงเรียนในฐานะที่เป็นเด็กดี เชื่อฟังคำพูดผู้ใหญ่ แต่ก็ไม่เคยให้สักครั้ง นอกจากนี้ทุกครั้งที่พ่อเลี้ยงขืนใจตน ก็จะสอนเรื่องเพศศึกษาประกอบไปด้วย ซึ่งตนก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด พ่อเลี้ยงทำกับหนูมาแบบนี้มากกว่า 7 ครั้ง ทุกครั้งที่ทำก็จะเปิดวีดีโอโป๊ให้หนูดู ซึ่งแม่หนูก็รับรู้มาตลอด และเวลาที่พ่อเลี้ยงกับแม่ มีอะไรกัน ก็จะให้หนูเข้าไปดูด้วย เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแม่หนูบอกว่า ห้ามไปบอกใคร ไม่งั้น แม่จะไม่รักและจะทิ้งหนูไป จะรักเฉพาะลูกที่เกิดกับพ่อเลี้ยง ทำให้หนูกลัวว่าแม่จะทิ้งจึงไม่กล้าเอ่ยปากบอก ดญ.น้ำฝน กล่าว นายมนตรี กล่าวว่า เมื่อเกิดเรื่องขึ้นทางโรงเรียนได้เดินทางไปสอบถามผู้ปกครองเด็กที่บ้าน ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ทุกคนก็พยายามปิดบังบอกว่า เด็กตกต้นไม้ อีกทั้งนางยุวดี ผู้เป็นแม่ก็มีทีท่าไม่สนใจ และบอกกับทางโรงเรียนว่า หากสนใจในตัวลูกตนก็ให้เอาไปเลี้ยงซะ ทั้งนี้ยังทราบอีกว่า บรรดาเพื่อนบ้านเมื่อรู้ถึงพฤติกรรมของสองสามีภรรยาว่าไม่สนใจเด็ก จึงพยายามหลอกล่อให้ไปมีเพศสัมพันธ์ด้วย ซึ่งตรงจุดนี้ไม่ทราบว่า เด็กโดนใครข่มขืนบ้างหรือไม่ ซึ่งจากผลตรวจของแพทย์ครั้งแรก ทราบว่าอวัยวะเพศของเด็กฉีกขาดเป็นทางยาว ทำให้มีเลือดไหลออกไม่หยุด ล่าสุดพ.ต.ต.พินัย สารวัตรเวรเจ้าของคดี เดินทางไปพร้อมหมายจับ และควบคุมตัวนายสุบินมาดำเนินคดีแล้ว โดยระบุว่า หากมารดาน้องน้ำฝนมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย ก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน สังคมสมัยนี้แย่ลงทุกวันนะครับ >:( >:( >:( หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ กันยายน 27, 2005, 07:28:07 PM กฎหมายบ้านเราไม่ศักด์สิทธิ์ ;D ;D ;D คนไม่ละอายเกรงกลัวต่อบาป ;D ;D ;D เอามันไปเผา กฎหมายนะศักดิ์สิทธิ์ครับ....แต่กระบวนการบังคับใช้ต่างหากล่ะ ::) งั้นขอเพิ่มตัวเลือกให้ดีกว่าทรมานโดยหั่นของกลางทีละนิด...ทีละนิด...ทีละนิด...จนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นทำไรต่อดีน๊า...อิๆ 555...ซาดิสม์ไปเปล่าเนี่ยเรา ;D แล้วถ้าเกิดเป็นการร่วมกันกระทำความผิด เช่นภรรยาช่วยจับแขนจับขาให้สามีข่มขืน กฎหมายถือว่าทำผิดทั้งคู่ ถูกลงโทษเท่ากัน แบบนี้หนูโอ จะให้ทำอะไรกับจำเลยที่เป็นผู้หญิงดีล่ะ งี้คงต้องแล่ทีละชิ้นทีละชิ้นกระมัง ??? ;D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Atom ที่ กันยายน 27, 2005, 07:32:51 PM ถ้าถูกจับเข้าคุก ก็ควรจะให้พวกนักโทษคดีอาญา(อื่น) ตุ๋ยซะ แล้วต้องแบบเรียงคิวด้วยนะ จะได้รู้ว่าการถูกยัดเยียดเป็นงัย แต่กลัวมันจะติดใจซะก่อน
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ARTWORK ที่ กันยายน 27, 2005, 09:01:12 PM :OO :OO :OO
สังคมเสื่อมทรามจริงครับเดี๋ยวนี้ ถ้าถูกจับเข้าคุก ก็ควรจะให้พวกนักโทษคดีอาญา(อื่น) ตุ๋ยซะ แล้วต้องแบบเรียงคิวด้วยนะ จะได้รู้ว่าการถูกยัดเยียดเป็นงัย แต่กลัวมันจะติดใจซะก่อน ;D ;D ;Dหัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ กันยายน 27, 2005, 09:12:02 PM ถ้าถูกจับเข้าคุก ก็ควรจะให้พวกนักโทษคดีอาญา(อื่น) ตุ๋ยซะ แล้วต้องแบบเรียงคิวด้วยนะ จะได้รู้ว่าการถูกยัดเยียดเป็นงัย แต่กลัวมันจะติดใจซะก่อน ขอแถมครับสักบนหน้าผากมันประจานครับแล้วออกกฎหมายห้ามหมอลบรอยสักนี้ ตายตกตามกันมันสบายเกินไปครับ ไม่สาสมกับรอยบาปที่มันประทับลงบนเหยื่อครับ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ กันยายน 27, 2005, 09:31:56 PM ถ้าถามโจรที่ทำร้ายเหยื่อถึงแก่ชีวิต ว่าทำไมจึงต้องทำถึงอย่างนั้น
คำตอบหนึ่งคือ มันกลัวเหยื่อจำหน้าได้ กลัวมีเจ้าทุกข์มาชี้ตัว กลัวติดคุก >:( หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: วรกฤษ ที่ กันยายน 27, 2005, 09:51:05 PM โหวตให้แล้วครับ...ตายสถานเดียว :OO
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: korn ที่ กันยายน 27, 2005, 10:34:40 PM ไม่โหวตเช่นกันค่ะเพราะอยากให้เพิ่มตัวเลือกมากกว่านี้ ;D(ขอทรมานๆนะคะ...อิๆ) :D~ ชอบ แบบนี้จึงจะสาสมหัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ กันยายน 28, 2005, 12:58:31 AM ขอเป็นเหตุเป็นผลนะครับ คือว่าตัวเลือกน้อยไปหน่อย แต่ความผิดเกี่ยวกับการละเมิดทางเพศนี้ บทลงโทษควรที่จะรุนแรงสักหน่อย เพราะมันทรมานความรู้สึกคนหลายคนนะครับ พ่อ แม่ พี่ น้อง ญาติ เพื่อน คนรู้จัก สังคม เพื่อนร่วมงาน ฯ มันทรมานจิตใจมากกกกกกก น่าที่จะมีบทลงโทษหนักหน่อย แต่หัวข้อก็มีให้เลือกน้อยจัง ยังไม่โดนใจน่ะ
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: nampueng ที่ กันยายน 28, 2005, 03:06:09 AM ผมจะเล่าเรื่องนึงให้ได้อ่านกันนะครับ มีผู้หญิงคนหนึ่งเป็นชาวเขาเผ่าอาข่า ต้องทำงานช่วยพ่อแม่ตนเองทำงานส่งน้องอีก 6 คนเรียน ตนเองก็ไม่ได้เรียนหนังสือต้องลงไปรับจ้างญาติตนเองขายน้ำเต้าหู้ที่บางนา รับจ้างเลี้ยงเด็ก และกลับมารับจ้างเป็นเด็กขายข้าวต้มที่หน้าตลาดเก่าฝาง และได้มี ผญบ คนหนึ่งขึ้นอยู่กับตำบลบ้านหลวง แม่อาย ได้มาติดเธอโดยตัวเองก็มีเมียมาเป็นสิบ ผญบคนนี้ก็สอบถามคนที่รู้จัก และก็ตามเธอเข้าไปในหมู่บ้าน ก็เอาใจทุกอย่าง พอดี ผญบ คนนี้ตัดไม้เถื่อนเป็นอาชีพหลัก จากการกินเงินเดื่อนเป็น ผญบ ก็ได้ขนไม้มาฝากเธอว่าจะสร้างบ้านให้ และบอกชาวบ้านว่าถ้าได้เธอมาเป็นเมียแล้วจะทำถนนเข้าหมู่บ้านให้เป็นระยะทาง 3 กก.ให้ และจะเอาตู้เย็นมาฝาก ผมก็บอกเธอว่ามันโม้ที่บ้านไม่มีไฟฟ้าจะเอาเย็นมาทำอะไร และไอ้ที่จะทำถนนให้นะรวยมาจากไหนขี้โม้
มีอยู่วันหนึ่งเธอเดินออกจากหมู่บ้าน พบกับ ผญบ กลางทางมันก็อาสาพาไปส่งที่ร้านถ่ายภาพ เมื่อเสร็จก็พาไปส่งแต่มันกลับขับรถอ้อมไปอ้อมมา เพราะเธอพึ้งกลับมาอยู่ที่แม่อายได้ไม่เท่าไหร่ เธอลงไปทำงานอยู่ที่กทม. ตั่งแต่อายุ 7 ขวบ ทำให้เธอไม่รู้ทาง จนประมาณ 3-4 ทุ่ม มันก็พาเธอไปขมขืน เธอเล่าให้ฟังว่ามันทำกับเธออย่างไรบ้างในคืนนั้น ตอนเช้าก็พาไปส่งที่บ้าน เธอก็เล่าให้พ่อฟัง แม่เธอก็บอกว่าเสียไปแล้วก็ยอมเป็นเมียเขา ตอนหลังเธอมารู้ที่หลังว่า มันมีเมียหลายคน เธอก็หนี หนีครั้งที่ 1 มันตามทันยึดบัตรเธอเอาไว้ " " 2 หนีได้ และลึมของกลับไปเอาเจอมัน ตอนนี้ไม่ว่าใครเข้าใกล้เธอก็จะเอาปืนยิงขู่ไปทั่ว เธอก็โดนเอาปืนจอว่าถ้าหนีก็จะยิง เธอก็เข้าไปร้องไห้ที่ห้องน้ำมันก็ตามไปและเอาปืนตบประตูห้องน้ำ (รอยนี้ตอนนี้ก็ยังอยู่) และยิงปืน 7 นัดขึ้นฟ้าตรงหน้าห้องน้ำ หนีครั้งที่ 3 หนีสำเร็จมาเจอผม ผมก็ได้ร้จักเธอ และก็พาไปอยู่ที่สวนส้ม ครั้งก่อนผมก็เอาช่วงนี้เคยเข้ามาคุยแล้วเมื่อ3-4 ปีที่แล้วตอนนั้นผมยังทำงานในสวนส้มอยู่ ตอนนั้นผมก็ได้เจอกับ ผญบ คนนี้ มันขับรถผ่านบ้านพักก็จะบิบแตร เหยียบคลัทช์และเหยียบคันเร่ง ชลอรถมองสำรวจบ้าน ขู่ฆ่า อวดรวย แบ่งใหญ่พวกมาก ชอบให้คนพูดว่า อาเฮีย พ่อเลี้ยง หรือ เถ้าแก่ ชอบเอาปืนยิงขู่บ่อยมาก และตอแยภรรยากับลูกผมว่าเดียวตูจะเอาทั้งแม่ทั้งลูก ปล่อยข่าวว่าผมเป็นเอดส์ ขู่เผาบ้าน ฯลฯ เจอกันซื่งหน้าครั้งแรก มันไม่มองหน้าผม ผมก็เดินเข้าไปถามว่า ผม คิงเป็นเจ้าพ่อหรือ ใหญ่หรือ จ๋าย และคิงจะเอาอย่างไรกับฮา ผม คิงขู่ฆ่าฮา คิงใหญ่หรือบอกว่าพี่ฮาไปขอชิวิตฮาไว้คิงใหย่หรือ(พี่ผมไปหาเพราะว่าผมโดนจับเรื่องมีปืน เขากลัวผมใจร้อนจะมีเรี่อง พี่ผมเข้าไปรอที่บ้านมัน มันมาถึงก็บอกว่าเฮียมีอะไรพี่ผมบอกว่าผึ้งน้องผมพ่อหลวงอย่ายุ่งและก็เดินขึ้นรถไป) จ๋าย เดียวคิงหน้าดู(เดินกลับไปที่รถ ไปเอาปืนและนั่งอยู่ในรถไม่ลงจากรถ) ผม ก็เอาโทรศัพย์และเอาลูกแตกสองลูกใส่กระเป๋าเดินออกไปโทรข้งนอก ผมกับมันห่างกัน 15 ม. จ๋ายขึ้นลำ แต่ไม่ยิง ผมโทรหาญาติช่วยปิดถนนให้ด้วย แบบว่าไม่อวดใครว่า...... พี่ผมบอกว่าให้ผมเข้าสวนก่อน พี่กับพี่เขยที่เป็นตำรวจออกหาบอกว่าตัวไม่เจอ คืนนั้นมันเอาญาติที่เป็น อบต. ที่รู้จักกับพี่ไปด้วยเข้าหมู่บ้านแต่ไม่เจอ อบต.ก็มาคุยกับญาติผมประมาณว่าเบื่อแล้ว มันไปซ่าไว้หลายที่ กับเมียใหม่ว่าถ้าหนีก็จะข่มขืนหลาน แต่ไม่ได้ทำที่บ้านห้วยงู มูเซอบ้านบงก็เกือบโดยเขาฆ่าแบบว่าจะไปลื้อบ้านเมียจะไปสร้างบ้านให้เมียใหม่ มันกับผมครั้งล่าสุด ที่ตลาดโชคธานี ขี่รถสวนกันมันมองหน้าผมตามผสาไม่ถูกกัน ผมพาลูกมาด้วยก็ต้องพาลูกไปส่งให้แม่เขาเลี้ยง ผมก็ไปตามหามันในตลาดผมไม่มีปืนนะครับเอาไปแค่ใจ มันจะพกตลอด 1.เอาไว้คอนโซนด้านหน้า 2.เอาไว้หลังเบาะ 3.พกติดตัวถ้าวันนั้นใส่เสื้อทับและปล่อยชายเสื้อ มันแวะร้านไหนผมแวะร้านนั้น คือว่ามันมาคอยดูที่บ้านผมตลอดมันไม่ยอมจบหาเรื่องผมกับภรรยาผม ที่เล่ามาเป็นเรื่องย่อๆครับ ???ผมอยากถามว่า ??? 1.ผญบ. มีอำนาจอะไรที่สามารถพกปืนได้ทั่วไปในและนอกพื้นที่การปกครอง และมีอำนาจอะไรที่จะยิงปืนได้ตามอำเภอใจ หรือใช้กฎตู 2.ผญบ. มีอำนาจอะไรที่จะขับรถไม่ต่อภาษีมา 8 ปีหรือได้รับการยกเว้น 3.ภรรยาผมไม่กล้าเอาเรื่อง(อาย)แต่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ว่าทำอะไรบ้าง และเรียกมารับรู้ไว้ แต่ก็ข่มขู่อีก 4.ผญบ.มีสิทธิ์อะไรที่ออกบัตรประชาชนให้คนต่างด้าว ถางป่าสงวนขาย ตัดไม้เถื่อน (ขอข้อมูลท่านใดที่รู้ว่าแจ้งใครใด้บ้างแบบว่าแจ้งโดยตรงไม่ผ่านอำเภอนะครับพวกเขามาก) 5.ลูกตัวเองยังติดยากับภาษาอะไรที่จะปกครองคนอื่น ป.ล. ชื่อที่ใช้เป็นชื่อสมมุดทั้งหมด แต่เป็นเรื่องจริง ผมเข้าใจดีว่าคนที่เรารักโดนเป็นอย่างไร เมื่อเธอเล่าตอนที่มันทำกับเธอ เราโกรธ โมโห อยากฆ่า สุดบรรยาย >:( หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กันยายน 28, 2005, 04:32:56 AM ;D ตาณัฐไปข่มขืนใครมาหรือเปล่า ถึงเอามาถามเนี่ย :DD
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ กันยายน 28, 2005, 07:52:10 AM ;D ตาณัฐไปข่มขืนใครมาหรือเปล่า ถึงเอามาถามเนี่ย :DD ...โห..........( อย่าเล่นมุกนี้ต่อหน้าเมียผมนะ......ณัฐขอร้อง :~) ) หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: popeye ที่ กันยายน 28, 2005, 09:26:02 AM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P โหดร้าย ทารุณจังเลย นะครับ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กันยายน 28, 2005, 09:32:27 AM ;D ตาณัฐไปข่มขืนใครมาหรือเปล่า ถึงเอามาถามเนี่ย :DD ...โห..........( อย่าเล่นมุกนี้ต่อหน้าเมียผมนะ......ณัฐขอร้อง :~) ) :DD ไม่เล่นครับไม่เล่น แต่ไม่รับประกันการหลุด....อุ๊บ! :OO :DD หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่153 ที่ กันยายน 28, 2005, 09:38:12 AM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P โหดร้าย ทารุณจังเลย นะครับ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์เจ้า ที่ กันยายน 28, 2005, 09:54:59 AM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P โหดร้าย ทารุณจังเลย นะครับ สวัสดีคะ พี่ momo 153 ตอนขึ้นศาลนะคะ...ผู้หญิงที่เป็นผู้เสียหาย จะโดนซักถามด้วยคำถามที่...แบบว่า...ฟังแล้วเราเจ็บปวดแทน... จันทร์เจ้าไม่สามารถ..กล่าวในที่นี้ได้..แล้วทนายความฝ่ายจำเลย ก็ช่างไม่มีคุณธรรมเอาเสียเลย เห็นแก่เงินที่จะได้จากลูกความของตนฝ่ายเดียว ถ้าทนายที่มีคุณธรรมพอ เขาจะไม่รับทำคดีแบบนี้คะ เพื่อนจันทร์เจ้า เคยเป็นทนายความชุดแรกให้ หมอวิ.......ที่สังหารภรรยา ที่เป็นหมอด้วยกัน แต่ต่อมาต้องถอนตัวเลิกว่าความให้ เพราะเขาบอกว่า ไม่สบายใจที่ต้องว่าความให้ ทนายความ แบบนี้จะมีสักกี่คนหนอ.. ? ? หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 28, 2005, 10:25:17 AM :)..ผู้ที่ทำงานอยู่ในกระบวนการยุติธรรม เป็นการดุลอำนาจ ในเรื่องข้อเท็จจริง. ก่อน
คนที่เข้าไปเกี่ยวข้องและรู้ความจริง คือผู้เสียหาย กับคนที่กระทำผิด.. เพียงเท่านั้น.. ตำรวจ อัยการ ทนาย เป็นผู้ค้นหาข้อเท็จจริงให้เป็นไปตามข้ออ้างของ คู่กรณี ว่าจริงหรือไม่ ในขอบเขตของกฎหมายที่ให้อำนาจ.. และกระทำต่อหน้าศาล.. ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ถ้าทำหน้าที่ได้ดี เข็มแข็ง จะทำให้กระบวนการยุติธรรม แข็งแรง มีคุณภาพทั้งกระบวนการ.. เพื่อให้ได้คนที่กระทำผิด มาลงโทษ.. ไม่หลุดรอดไป. ทนายความหลายคน ปฎิเสธไม่รับว่าความ ในคดียาเสพติด. ในคดีมือปืน. บางคดีที่ขัดศีลธรรม ทั้งที่ ค่าว่าความ ๗-๘ หลัก.. :) หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์เจ้า ที่ กันยายน 28, 2005, 10:34:20 AM ทนายความหลายคน ปฎิเสธไม่รับว่าความ ในคดียาเสพติด. ในคดีมือปืน. บางคดีที่ขัดศีลธรรม ทั้งที่ ค่าว่าความ ๗-๘ หลัก..
ต้องแสดงความนับถือ ทนายความท่านที่ คุณ Ro@d กล่าวคะ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: BONZ ที่ กันยายน 28, 2005, 10:44:36 AM ;) ;) ;) เอามันไปตัด(.....)ทิ้งค่ะ...ถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียมทั่วประเทศ พอแผลหายแล้วค่อยรับโทษประหารชีวิตอีกที :P :P :P คือ ผมเห็นว่าประหารแบบฉีดยามันเบาไปอ่ะคับ น่าจะให้ทรมานกว่านั้นอ่ะ น่าจะให้ยิงเหมือนเดิมดีแล้ว ไม่งั้น จะมีพวกไม่กลัวฉีดยาเหมือน คนร้ายที่แทงเด็กอีก เห็นด้วยครับ ไม่ควรเปลี่ยนวิธีประหารเลย บางประเทศประหารด้วยการยิงเป้าแล้วยังมีการถ่ายทอดสดให้ดูอีกต่างหาก คนจะได้กลัว ถ้าคนทำผิดได้รับผิด คนทำชั่วได้รับกรรมตามที่ก่อ ก็จะกลัวที่จะทำผิด แต่.................. ทุกวันนี้ทำผิด ไม่ได้รับผิด.......... หรือได้รับผิดน้อยกว่าที่ควรจะได้รับ.................. ..............คนชั่วเลยเต็มเมือง............... หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กันยายน 28, 2005, 12:36:36 PM จันทร์เจ้า เคยคุยกับทนายความที่เป็นเพื่อนกัน บอกว่า ผู้หญิงที่โดนข่มขืน เวลาขึ้นศาลจะน่าสงสารมาก โดนทนายฝ่ายจำเลย กระหน่ำซักถามถึง ขณะเกิดเหตุการณ์แบบละเอียดยิบ.. จน...แทบเสียสติ...น่าสงสารมาก คือทนายพยามยาม ต้อน..ให้เป็นการสมยอมกัน...ด้วยคำถามที่ผู้เสียหาย อับอาย..และไม่สามารถตอบได้คะ..เศร้าแทน.. เขาถึงบอกว่า ผู้หญิง ถ้าถูกข่มขืน ถ้าแจ้งความต้องขึ้นโรงขึ้นศาล เหมือนถูกข่มขืนอีกครั้ง ในศาล... เพราะต้องเล่าเรื่องราวที่น่าอับอายให้คนอื่นฟัง หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กันยายน 29, 2005, 04:31:59 PM งั้นขอเพิ่มตัวเลือกให้ดีกว่าทรมานโดยหั่นของกลางทีละนิด...ทีละนิด...ทีละนิด...จนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นทำไรต่อดีน๊า...อิๆ 555...ซาดิสม์ไปเปล่าเนี่ยเรา ;D แล้วถ้าเกิดเป็นการร่วมกันกระทำความผิด เช่นภรรยาช่วยจับแขนจับขาให้สามีข่มขืน กฎหมายถือว่าทำผิดทั้งคู่ ถูกลงโทษเท่ากัน แบบนี้หนูโอ จะให้ทำอะไรกับจำเลยที่เป็นผู้หญิงดีล่ะ จ๊ะอู๋ย...งั้นทำไงดีหล่ะคะ ถ้าเป็นอย่างงั้นโอว่าผู้หญิงคนนั้นเค้ามีปัญหาทางจิตแหงมๆ ถ้าจะให้เป็นลักษณะหนามยอกเอาหนามบ่งเนี่ย จำเลยคนนั้นคงจะถูกใจเป็นแน่แท้...ทำไงดีน๊อ...ขอเวลาคิดซักวัน2วันแล้วมาให้คำตอบดีก่า...เครียดๆๆๆๆ...อิๆ หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กันยายน 29, 2005, 04:37:17 PM งั้นขอเพิ่มตัวเลือกให้ดีกว่าทรมานโดยหั่นของกลางทีละนิด...ทีละนิด...ทีละนิด...จนเหลือแต่ตอ หลังจากนั้นทำไรต่อดีน๊า...อิๆ 555...ซาดิสม์ไปเปล่าเนี่ยเรา ;D แล้วถ้าเกิดเป็นการร่วมกันกระทำความผิด เช่นภรรยาช่วยจับแขนจับขาให้สามีข่มขืน กฎหมายถือว่าทำผิดทั้งคู่ ถูกลงโทษเท่ากัน แบบนี้หนูโอ จะให้ทำอะไรกับจำเลยที่เป็นผู้หญิงดีล่ะ จ๊ะอู๋ย...งั้นทำไงดีหล่ะคะ ถ้าเป็นอย่างงั้นโอว่าผู้หญิงคนนั้นเค้ามีปัญหาทางจิตแหงมๆ ถ้าจะให้เป็นลักษณะหนามยอกเอาหนามบ่งเนี่ย จำเลยคนนั้นคงจะถูกใจเป็นแน่แท้...ทำไงดีน๊อ...ขอเวลาคิดซักวัน2วันแล้วมาให้คำตอบดีก่า...เครียดๆๆๆๆ...อิๆ คิอ่อแล้...อุดซีลีโคนตรงนั้นแก่ผู้ร่วมกระทำผิดที่เป็นผู้หญิงให้ใช้งานไม่ได้...ดีมั๊ยคะ(แต่ซีลีโคนคงอุดไม่อยู่แน่เลย...อิๆ ล๊อกด้วยกุญแจก็พอม๊างงงงง) :~) หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: ozero++รักในหลวงมากค่ะ++ ที่ กันยายน 29, 2005, 04:41:45 PM :D โอ้โห คุณโอ แล้วถ้าขนาดของมันเกิดใหญ่มาก หั่นทีละนิด ทีละนิด เมื่อไหร่จะถึงตอ...... แฮ่ แฮ่ แฮ่ ล้อเล่นนน ;D ;D ;D โอว่าถ้ายิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งทรมานนานเท่านั้นอ่ะค่ะ เพราะแผลไม่หายซ๊ากทีก็โดนหั่นอีกแย๊ว หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 29, 2005, 06:59:57 PM โอว่าถ้ายิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งทรมานนานเท่านั้นอ่ะค่ะ เพราะแผลไม่หายซ๊ากทีก็โดนหั่นอีกแย๊ว อีตอนจะโดนหั่น คงไม่ใหญ่แล้วละครับ ตอนอยู่บรูไน มีหมอ (อาจารย์ของหมอต้นอีกที) เล่าเรื่อง "โตมิโต" ให้ฟัง มีคนไข้ ถูกรถชนแขนขาหักหมดเข้ามารักษาตัว (แต่ไม่ใช่ รพ.หมอต้น) พอดีพยาบาลติดงานอื่นหมด หัวหน้าพยาบาลก็เลยไปดูแลเช็ดตัวให้ เสร็จแล้วก็มาเล่าให้ลูกน้องฟังว่า ที่ตรงนั้น ของคนไข้ สักไว้ด้วย แต่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร พยาบาลหัวหน้าตึก (อายุน้อยกว่าหัวหน้าพยาบาล) ก็ไปดู เสร็จแล้วมาเล่าให้พรรคพวกฟังว่า เขาสักว่า "สุ" อะไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเป็นชื่อแฟน ตอนเย็น พยาบาลจบใหม่ ยังวัยรุ่นเอ๊าะ ๆ อยู่ ไปเข้าเวรตรงนั้นพอดี ก็เลยมาเฉลย เขาสักว่า "สุราษฎร์ธานี" หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: mb154cm ที่ กันยายน 29, 2005, 07:22:12 PM โอว่าถ้ายิ่งใหญ่เท่าไหร่ก็ยิ่งทรมานนานเท่านั้นอ่ะค่ะ เพราะแผลไม่หายซ๊ากทีก็โดนหั่นอีกแย๊ว อีตอนจะโดนหั่น คงไม่ใหญ่แล้วละครับ ตอนอยู่บรูไน มีหมอ (อาจารย์ของหมอต้นอีกที) เล่าเรื่อง "โตมิโต" ให้ฟัง มีคนไข้ ถูกรถชนแขนขาหักหมดเข้ามารักษาตัว (แต่ไม่ใช่ รพ.หมอต้น) พอดีพยาบาลติดงานอื่นหมด หัวหน้าพยาบาลก็เลยไปดูแลเช็ดตัวให้ เสร็จแล้วก็มาเล่าให้ลูกน้องฟังว่า ที่ตรงนั้น ของคนไข้ สักไว้ด้วย แต่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร พยาบาลหัวหน้าตึก (อายุน้อยกว่าหัวหน้าพยาบาล) ก็ไปดู เสร็จแล้วมาเล่าให้พรรคพวกฟังว่า เขาสักว่า "สุ" อะไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเป็นชื่อแฟน ตอนเย็น พยาบาลจบใหม่ ยังวัยรุ่นเอ๊าะ ๆ อยู่ ไปเข้าเวรตรงนั้นพอดี ก็เลยมาเฉลย เขาสักว่า "สุราษฎร์ธานี" หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ กันยายน 29, 2005, 11:41:15 PM ไม่เอาประหาร แต่เอาตัด+ตอนจะดีกว่านะครับ
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กันยายน 29, 2005, 11:49:41 PM :)..กระทู้นี้ ถูกใจ คุณระเบียบรัตน์ ที่สุดเลย.. ;D
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2005, 02:16:01 AM อีตอนจะโดนหั่น คงไม่ใหญ่แล้วละครับ ตอนอยู่บรูไน มีหมอ (อาจารย์ของหมอต้นอีกที) เล่าเรื่อง "โตมิโต" ให้ฟัง มีคนไข้ ถูกรถชนแขนขาหักหมดเข้ามารักษาตัว (แต่ไม่ใช่ รพ.หมอต้น) พอดีพยาบาลติดงานอื่นหมด หัวหน้าพยาบาลก็เลยไปดูแลเช็ดตัวให้ เสร็จแล้วก็มาเล่าให้ลูกน้องฟังว่า ที่ตรงนั้น ของคนไข้ สักไว้ด้วย แต่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร พยาบาลหัวหน้าตึก (อายุน้อยกว่าหัวหน้าพยาบาล) ก็ไปดู เสร็จแล้วมาเล่าให้พรรคพวกฟังว่า เขาสักว่า "สุ" อะไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเป็นชื่อแฟน ตอนเย็น พยาบาลจบใหม่ ยังวัยรุ่นเอ๊าะ ๆ อยู่ ไปเข้าเวรตรงนั้นพอดี ก็เลยมาเฉลย เขาสักว่า "สุราษฎร์ธานี" :DD พี่สุพินท์เล่าตกไปหน่อยคับ... พี่พยาบาลอาวุโสเขาอ่านได้ว่า"สุนี"คับ... :DD หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ กันยายน 30, 2005, 07:38:15 AM อีตอนจะโดนหั่น คงไม่ใหญ่แล้วละครับ ตอนอยู่บรูไน มีหมอ (อาจารย์ของหมอต้นอีกที) เล่าเรื่อง "โตมิโต" ให้ฟัง มีคนไข้ ถูกรถชนแขนขาหักหมดเข้ามารักษาตัว (แต่ไม่ใช่ รพ.หมอต้น) พอดีพยาบาลติดงานอื่นหมด หัวหน้าพยาบาลก็เลยไปดูแลเช็ดตัวให้ เสร็จแล้วก็มาเล่าให้ลูกน้องฟังว่า ที่ตรงนั้น ของคนไข้ สักไว้ด้วย แต่ดูไม่ออกว่าเป็นอะไร พยาบาลหัวหน้าตึก (อายุน้อยกว่าหัวหน้าพยาบาล) ก็ไปดู เสร็จแล้วมาเล่าให้พรรคพวกฟังว่า เขาสักว่า "สุ" อะไรก็ไม่รู้ สงสัยจะเป็นชื่อแฟน ตอนเย็น พยาบาลจบใหม่ ยังวัยรุ่นเอ๊าะ ๆ อยู่ ไปเข้าเวรตรงนั้นพอดี ก็เลยมาเฉลย เขาสักว่า "สุราษฎร์ธานี" :DD พี่สุพินท์เล่าตกไปหน่อยคับ... พี่พยาบาลอาวุโสเขาอ่านได้ว่า"สุนี"คับ... :DD เอ สงสัยเรื่องนี้ คงเกิดขึ้นแถว ๆ บ้านโป่ง ;D หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: จันทร์เจ้า ที่ กันยายน 30, 2005, 09:59:25 AM :)..กระทู้นี้ ถูกใจ คุณระเบียบรัตน์ ที่สุดเลย.. ;D จันทร์เจ้า...ก้อว่าง้าน...เหมือนกัลล์...ค่ะ พี่ Ro@d... หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ ตุลาคม 03, 2005, 05:10:53 PM อย่าหาว่าผมขุดกระทู้เลยนะครับ ตั้งแต่วันที่ผมเปิดกระทู้จนถึงวันนี้ มีคดีแบบนี้ตลอด
ปีที่ 56 ฉบับที่ 17422 วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม 2548 เดนนรกขืนใจ เชือดคอ ด.ญ.14 หมกศพป่าไผ่! เมื่อเวลา 08.00 น. วานนี้ ( 2 ต.ค. ) ร.ต.ท.ยอดชาย เสมแก้ว ร้อยเวร สภ.อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ได้รับแจ้งเหตุเด็กหญิงถูกข่มขืนฆ่าในป่าละเมาะข้างโรงเรียนบ้านควนนกหว้า หมู่ 5 ต.หารเทา อ.ปากพะยูน จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อนันต์ เทพไพฑูรย์ ผกก. พ.ต.ท.รังสี มั่นจิตร รอง ผกก.ป. นำกำลังตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่วิทยาการ แพทย์เวร รพ.ปากพะยูน และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศล ไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะอยู่ใกล้หมู่บ้านมีกอไผ่ ขึ้นอยู่จำนวนมาก พบศพเหยื่อฆาตกรรมเป็น ด.ญ.อายุ 14 ปี นอนคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่กลางป่าไผ่ห่างจากบ้านไปประมาณ 1 กิโลเมตร สภาพศพสวมเสื้อยืดคอโปโลสีน้ำตาลถูกถลกขึ้นบนหน้าอก ท่อนล่างเปลือย กางเกงขาสั้นสีเทาและกางเกงในสีขาวถูกถลกลงไปกองที่ปลายเท้า อวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืน คราบอสุจิเปรอะเปื้อน ที่ลำคอถูกของมีคมปาดเป็นแผลเหวอะหวะลึกถึงหลอดลมขาดกระจุย และถูกตีด้วยของแข็งที่ท้ายทอยบวมเป่ง ใกล้ศพพบหน่อไม้ในตะกร้า มีดขุดหน่อไม้ และรองเท้าแตะ 2 คู่ คาดว่าเป็นของผู้ตายกับของคนร้าย จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำศพส่ง รพ.ปากพะยูน ชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง สอบสวนทราบว่า ผู้ตายเป็นเด็กวัยรุ่นหน้าตาดีคนหนึ่งในหมู่บ้าน ก่อนเกิดเหตุเมื่อตอนบ่ายวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ออกจากบ้านไปขุดหน่อไม้ในป่าละเมาะใกล้หมู่บ้าน เพื่อนำมาให้ผู้ปกครองทำอาหารถวายพระที่วัดเนื่องในงานบุญเดือนสิบ ตามประเพณีอันดีงามของชาวปักษ์ใต้ จากนั้นได้หายตัวไปไม่กลับบ้าน จนกระทั่งช่วงค่ำวันเดียวกัน ผู้ปกครองได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน พร้อมพาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกว่า 100 คนกระจายกำลังออกตามหาตลอดทั้งคืนแต่ไม่พบตัว จนกระทั่งรุ่งเช้าถึงมีชาวบ้านเข้าไปพบเป็นศพถูกข่มขืนฆ่าปาดคอทิ้งศพอยู่ในป่าไผ่ดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ฆาตกรหื่นกามน่าจะเป็นคนในหมู่บ้านที่รู้จักกับผู้ตายเป็นอย่างดี เมื่อเห็นว่าผู้ตายเดินเข้าป่าไปขุดหน่อไม้ตามลำพังจึงสะกดรอยตามไป จนกระทั่งสบโอกาสใช้ท่อนไม้ฟาดเข้าท้ายทอยเหยื่อเคราะห์ร้ายอย่างจังจนล้มลงสลบเหมือด แล้วลงมือปลุกปล้ำข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความใคร่ หลังเสร็จกามกิจเกรงว่าผู้ตายจะจำหน้าได้นำความเข้าแจ้งตำรวจ จึงใช้มีดปาดคอฆ่าปิดปากอย่างโหดเหี้ยมอำมหิตก่อนเผ่นหนีไป ฝ่ายสืบสวนได้กระจายกำลังลงพื้นที่ตามล่าฆาตกรใจโหดรายนี้มาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ ตุลาคม 03, 2005, 05:21:00 PM เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครับ ขอให้จับคนร้ายมาลงโทษได้โดยเร็วครับ
หัวข้อ: Re: คดีข่มขืนควรประหารชีวิตหรือไม่ เริ่มหัวข้อโดย: BONZ ที่ ตุลาคม 03, 2005, 06:28:06 PM ถ้าเกิดเรื่องแบบนี้กับคนใกล้ตัว คงเสียใจน่าดู :'( :'( :'(
อยากให้ญาติผู้เสียหายจัดการให้ดูเป็นตัวอย่างสัก 3-4 ราย โดยที่เจ้าหน้าที่ แกล้งไม่รู้อ่ะครับ (แบบนี้ชาวบ้านคงไม่ว่าครับ) |