เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: .38 SUPER_SI ที่ สิงหาคม 22, 2009, 04:54:02 PM



หัวข้อ: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: .38 SUPER_SI ที่ สิงหาคม 22, 2009, 04:54:02 PM
ท่านใดพอมีทราบบ้างครับ....ว่าผลิตปีไหน...มีกี่รุ่น...กี่ขนาดครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ สิงหาคม 22, 2009, 06:14:31 PM
สมิธฯ ถ้าเรียกว่า Model 10 ชื่อเดิม Military & Police เรียกกันว่า "เอ็มพี" มีขนาดเดียวครับ คือ .38 S&W Special (จุดสามแปดสเปเชียล)
โมเดล 10-4, 10-5 ผลิตปีเดียวคือ 1962 ครับ  ช่วงปลายปีเริ่มผลิต 10-6 ด้วย  มีทั้งแบบรมดำและชุบนิเกิล
ความยาวลำกล้อง 4 นิ้วเป็นส่วนมาก, 2 นิ้วก็พอหาดูได้  หายากหน่อยคือ 5, 6 นิ้วครับ  3 นิ้วต้องสั่งพิเศษ โดยต่อมาเสนอขายเป็นสินค้าปกติในช่วง 10-8 ครับ
จุดเปลี่ยนมาเป็น 10-5 คือศูนย์หน้าหนา (จาก 1/10 เป็น 1/8 นิ้ว)


หัวข้อ: Re: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 22, 2009, 06:29:47 PM
ขอบคุณอาจารย์ครับ  ::014::

ผมชอบรุ่นลำกล้อง 3 นิ้วครับ ดูลงตัวที่สุดเลย  :D~


หัวข้อ: Re: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: nap.p ที่ สิงหาคม 22, 2009, 06:35:20 PM
   ตามลิ้งนี้ ครับ ชัดเจน    http://www.gungold.com/forums/index.php?topic=5769.0 (http://www.gungold.com/forums/index.php?topic=5769.0)


หัวข้อ: Re: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ สิงหาคม 22, 2009, 08:52:19 PM
เริ่มเลยนะครับในปี ค.ศ. 1899 สมิธ แอนด์ เวสสัน นำปืน โมเดล 10 มิลลิทารี แอนด์โพลีช ขนาด .38 สเปฯหรือที่เรียกกันสั้งๆว่าเอ็ม 10 เอ็ม&พี ที่มักเรียกสั้งๆว่า เอ็มพี มีความยาว 4 นี้ว เพื่อให้เป็นสำหรับประจำการในกองทัพและหน่วยงานของของเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ จากปี ค.ศ. 1899 จนถึงปี ค.ศ. 1942 มีจำนวนการผลิตกว่า 700,000 กระบอกและยังคงได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
   จากเอ็ม 10 เอ็มพีก็ได้รับการนำเอามาพัฒนาเป็นรุ่นต่างๆอีกหลายรุ่น ด้วยความยอดเยี่ยมในด้านต่างจึงได้ผลิตในขนาดความยาวลำกล้อง 6 นิ้วออกมา พร้อมกับติดตั้งศูนย์แบบปรับได้ 4 ทิศทาง เพิ่อให้เป็นปืนสำหรับยิงเป้า เรียกปืนรุ่นนี้ว่า เค 38 มาสเตอร์พีช ผลิตออกมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1946 ในปี ค.ศ. 1961 ได้ผลิต เค 38 มาสเตอร์พีช ที่ใช้ระบบลั่นไกแบบชิงเกิ้ลออกมาอีกด้วยซึ้งในช่วงจากปี ค.ศ. 1946 จนถึงปี ค.ศ. 1957 สมธฯยังไม่ได้นำเอาตัวเลขมาใช้เป็นรหัสโมเดล เค 38 มาสเตอร์พีช เป็นปืที่มีความแม่นยำสูงมากและได้รับความนิยมในการแข่งขันตลอดมา ปัจจุบันก็ยังคงอยู่ในสายการผลิตแต่มีการพัฒนาให้มีฝักเก็บคันคัดปลอกกระสุนยาวเสมอปลายลำกล้อง เอทำหน้าที่เป็นเวทถ่วงลำกล้องไปในตัว แต่ไม่เรียกว่า เค 38 มาสเตอร์พีช  แต่เรียกว่า เอ็ม 14
ซึ่งหลังจากปี ค.ศ. 1957 เป็นต้นมาสมิธฯได้เปลี่ยนรหัสโมเดลของปืนแต่ละรุ่นเป็นตัวเลข โดยปืนในโครง เค ได้ทำการประทับ
ไว้ที่โครงปืนบริเวณบานพับโม่
   จากความสำเร็จของ เค 38 มาสเตอร์พีช ที่ยอดเยี่ยมในสมรรถนะและความแม่นยำเป็นเลิศ อันเป็นผลมาจากการพัฒนาขึ้งมาเพื่อการยิงเป้าโดยตรง จึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้ต่อสู้ป้องกันตัว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฏหมายจำนวนการที่ต้องการ
เค 38 มาสเตอร์พีช ในแบบลำกล้อง 4 นิ้ว เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งให้ความกะทัดรัดคล่องตัวกว่าลำกล้องมาตรฐานของ
เค 38 ซึ่งมีลำกล้อง 6นิ้วเพียงขนาดเดีย
   ในปี ค.ศ. 1949 บริษัทสมิธ แอนด์ เวสสันจึงได้ผลิต เค 38 มาสเตอร์พีช ออกมาในขนาดลำกล้อง 4 นิ้วและเรียกปืนรุ่นี้ว่า
เค 38 คอมแบ็ท มาสเตอร์พีช มีการผลิตในขนาดลำกล้อง 2 นิ้ว ออกมาด้วยเช่นเดียวในปี ค.ศ. 1962 แต่เรียกว่า เอ็ม 56 โดยมีรหัสอย่างเป็นทางการว่า เคเอ็กที 38 ยูเอสเอเอฟ ( KXT 38 USAF ) คำว่า ยู เอส เอ เอฟ เป็นตัวย่อของ ยู เอส แอร์ ฟอร์ซ ( U.S. Air Force ) มีจำนวนการผลิตออกมา 15,205 กระบอก ยุติสายการผลิตลงในไป ค.ศ. 1964 โดยประทับตัวอักษร US บนสันด้ามด้านหลังเป็นที่ผลิตขึ้นมาเพื่อป้อนให้แก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ ปัจจุบันหาได้ยากไปแล้วเป็นปืนที่แสวงหาของนักสะสม สภาพสมบูรณ์ราคาสูงถึง 2,500 เหรียญสหรัฐฯเลยที่เดียว
   หลังจากปี ค.ศ. 1957 สมิธฯก็เปลี่ยนการเรียกชื่อโมเดลจาก เค 38 คอมแบ็ท มาสเตอร์พีช มาเป็น เอ็ม 15 คอมแบ็ท มาสเตอร์ชีพ มีการผลิตติดต่อกันมาจนถึง ค.ศ. 1987 จึงยุติสายการผลิตโดยในปี ค.ศ. 1972 ได้ผลอตออกมาด้วยสเตนเลสทั้งกระบอกเรียกรุ่นี้ว่า เอ็ม 67 ซึ่งยังคงอยู่ในสายการผลิตมาจนถึงปัจจุบันครับ

แถมให้อีกครับเอ็ม 19 คอมแบ็ท แม็กนั่ม ก็พัฒนามาจากโครงสร้างพื้นฐานของ เอ็ม 15 มาสเตอร์ชิพ กระบอกนี้เช่นเดียวกันครับ   


หัวข้อ: Re: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: .38 SUPER_SI ที่ สิงหาคม 23, 2009, 10:06:38 AM
สมิธฯ ถ้าเรียกว่า Model 10 ชื่อเดิม Military & Police เรียกกันว่า "เอ็มพี" มีขนาดเดียวครับ คือ .38 S&W Special (จุดสามแปดสเปเชียล)
โมเดล 10-4, 10-5 ผลิตปีเดียวคือ 1962 ครับ  ช่วงปลายปีเริ่มผลิต 10-6 ด้วย  มีทั้งแบบรมดำและชุบนิเกิล
ความยาวลำกล้อง 4 นิ้วเป็นส่วนมาก, 2 นิ้วก็พอหาดูได้  หายากหน่อยคือ 5, 6 นิ้วครับ  3 นิ้วต้องสั่งพิเศษ โดยต่อมาเสนอขายเป็นสินค้าปกติในช่วง 10-8 ครับ
จุดเปลี่ยนมาเป็น 10-5 คือศูนย์หน้าหนา (จาก 1/10 เป็น 1/8 นิ้ว)
   ตามลิ้งนี้ ครับ ชัดเจน    http://www.gungold.com/forums/index.php?topic=5769.0 (http://www.gungold.com/forums/index.php?topic=5769.0)

เริ่มเลยนะครับในปี ค.ศ. 1899 สมิธ แอนด์ เวสสัน นำปืน โมเดล 10 มิลลิทารี แอนด์โพลีช ขนาด .38 สเปฯหรือที่เรียกกันสั้งๆว่าเอ็ม 10 เอ็ม&พี ที่มักเรียกสั้งๆว่า เอ็มพี มีความยาว 4 นี้ว เพื่อให้เป็นสำหรับประจำการในกองทัพและหน่วยงานของของเจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐฯ จากปี ค.ศ. 1899 จนถึงปี ค.ศ. 1942 มีจำนวนการผลิตกว่า 700,000 กระบอกและยังคงได้รับการผลิตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
   จากเอ็ม 10 เอ็มพีก็ได้รับการนำเอามาพัฒนาเป็นรุ่นต่างๆอีกหลายรุ่น ด้วยความยอดเยี่ยมในด้านต่างจึงได้ผลิตในขนาดความยาวลำกล้อง 6 นิ้วออกมา พร้อมกับติดตั้งศูนย์แบบปรับได้ 4 ทิศทาง เพิ่อให้เป็นปืนสำหรับยิงเป้า เรียกปืนรุ่นนี้ว่า เค 38 มาสเตอร์พีช ผลิตออกมาครั้งแรกในปี ค.ศ. 1946 ในปี ค.ศ. 1961 ได้ผลิต เค 38 มาสเตอร์พีช ที่ใช้ระบบลั่นไกแบบชิงเกิ้ลออกมาอีกด้วยซึ้งในช่วงจากปี ค.ศ. 1946 จนถึงปี ค.ศ. 1957 สมธฯยังไม่ได้นำเอาตัวเลขมาใช้เป็นรหัสโมเดล เค 38 มาสเตอร์พีช เป็นปืที่มีความแม่นยำสูงมากและได้รับความนิยมในการแข่งขันตลอดมา ปัจจุบันก็ยังคงอยู่ในสายการผลิตแต่มีการพัฒนาให้มีฝักเก็บคันคัดปลอกกระสุนยาวเสมอปลายลำกล้อง เอทำหน้าที่เป็นเวทถ่วงลำกล้องไปในตัว แต่ไม่เรียกว่า เค 38 มาสเตอร์พีช  แต่เรียกว่า เอ็ม 14
ซึ่งหลังจากปี ค.ศ. 1957 เป็นต้นมาสมิธฯได้เปลี่ยนรหัสโมเดลของปืนแต่ละรุ่นเป็นตัวเลข โดยปืนในโครง เค ได้ทำการประทับ
ไว้ที่โครงปืนบริเวณบานพับโม่
   จากความสำเร็จของ เค 38 มาสเตอร์พีช ที่ยอดเยี่ยมในสมรรถนะและความแม่นยำเป็นเลิศ อันเป็นผลมาจากการพัฒนาขึ้งมาเพื่อการยิงเป้าโดยตรง จึงไม่เหมาะกับการนำมาใช้ต่อสู้ป้องกันตัว แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฏหมายจำนวนการที่ต้องการ
เค 38 มาสเตอร์พีช ในแบบลำกล้อง 4 นิ้ว เพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งให้ความกะทัดรัดคล่องตัวกว่าลำกล้องมาตรฐานของ
เค 38 ซึ่งมีลำกล้อง 6นิ้วเพียงขนาดเดีย
   ในปี ค.ศ. 1949 บริษัทสมิธ แอนด์ เวสสันจึงได้ผลิต เค 38 มาสเตอร์พีช ออกมาในขนาดลำกล้อง 4 นิ้วและเรียกปืนรุ่นี้ว่า
เค 38 คอมแบ็ท มาสเตอร์พีช มีการผลิตในขนาดลำกล้อง 2 นิ้ว ออกมาด้วยเช่นเดียวในปี ค.ศ. 1962 แต่เรียกว่า เอ็ม 56 โดยมีรหัสอย่างเป็นทางการว่า เคเอ็กที 38 ยูเอสเอเอฟ ( KXT 38 USAF ) คำว่า ยู เอส เอ เอฟ เป็นตัวย่อของ ยู เอส แอร์ ฟอร์ซ ( U.S. Air Force ) มีจำนวนการผลิตออกมา 15,205 กระบอก ยุติสายการผลิตลงในไป ค.ศ. 1964 โดยประทับตัวอักษร US บนสันด้ามด้านหลังเป็นที่ผลิตขึ้นมาเพื่อป้อนให้แก่กองทัพอากาศสหรัฐฯ ปัจจุบันหาได้ยากไปแล้วเป็นปืนที่แสวงหาของนักสะสม สภาพสมบูรณ์ราคาสูงถึง 2,500 เหรียญสหรัฐฯเลยที่เดียว
   หลังจากปี ค.ศ. 1957 สมิธฯก็เปลี่ยนการเรียกชื่อโมเดลจาก เค 38 คอมแบ็ท มาสเตอร์พีช มาเป็น เอ็ม 15 คอมแบ็ท มาสเตอร์ชีพ มีการผลิตติดต่อกันมาจนถึง ค.ศ. 1987 จึงยุติสายการผลิตโดยในปี ค.ศ. 1972 ได้ผลอตออกมาด้วยสเตนเลสทั้งกระบอกเรียกรุ่นี้ว่า เอ็ม 67 ซึ่งยังคงอยู่ในสายการผลิตมาจนถึงปัจจุบันครับ

แถมให้อีกครับเอ็ม 19 คอมแบ็ท แม็กนั่ม ก็พัฒนามาจากโครงสร้างพื้นฐานของ เอ็ม 15 มาสเตอร์ชิพ กระบอกนี้เช่นเดียวกันครับ   
ขอบคุณท่านอาจารย์ผณิศวร และท่าน nap.p , ท่าน  c.tong อย่างมาก ๆ ครับ..กระจ่างเลยครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: อยากทราบประวัติ S&W mod 10 - 5 ครับ....
เริ่มหัวข้อโดย: กอดเมืองไทย..รักในหลวง ที่ สิงหาคม 23, 2009, 11:56:04 AM
สัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่ ต้องขออนุญาต ตั้งกระทู้ซ้อน เพราผมตั้งใหม่ไม่เป็นครับ
คือผมอยากรบกวนให้พี่ๆ สมาชิกช่วยเปรียบเทียบปืน S&W m15-3 กับ m67 ว่าตัวไหนน่าใช้กว่ากัน คือผมมี m15-3อยู่ว่าจะไปทำHC หรือจะหาm67มาเเทน รบกวนพี่ๆสมาิชิกด้วยครับ  (ใช้อย่างเดียวครับไม่ขาย)