หัวข้อ: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: เด็กควงปืน ที่ กันยายน 15, 2004, 11:43:05 AM หวัดดีครับพี่ ๆ คือตอนนี้ผมเป็นนักกีฬียิงปืนยาวอัดลมของจังหวัดแต่ยังไม่มีปืนเลย กะว่าจะซื้อและมีคนจะขายให้ในราคา หมื่นกว่าเนี่ยแหละ อยากจะทราบว่าแพงมั้ยครับ???
หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: ช.ช้าง ที่ กันยายน 15, 2004, 01:36:50 PM ก็ราคาประมาณนี้ครับ... :)
แต่ถ้าจะเอามาใช้แข่งจะค่อนข้างเสียเปรียบนะครับ เพราะเป็นระบบสปริงมีการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนต่างๆมาก :-\ หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ กันยายน 16, 2004, 05:28:38 AM ไม่แนะนำให้ซื้อครับ คนที่ซ่อมปืนรุ่นนี้ได้ในประเทศไทยเหลือไม่กี่คนแล้วครับ อะไหล่ก็หายาก
หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: ช.ช้าง ที่ กันยายน 16, 2004, 02:35:12 PM ในชมรมยิงปืน มข. ก็มีทิ้งเป็นซากเพราะไม่มีอะไหล่ครับ... :-\
หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: engine1 รักในหลวง ที่ กันยายน 16, 2004, 04:26:32 PM นานที จะมีกระทู้เกี่ยวกับปืนสากล จึงขออนุญาตแทรกคำถามถึง อ.ผณิศวร และคุณ ช.ช้าง เกี่ยวกับปืนสั้นอัดลมแข่งขันว่า
1. แบบ CO2 กับ แบบอากาศอัด (Pre-compressed air) ต่างกันอย่างไรในด้านการบำรุงรักษา ความแรง หรือความสม่ำเสมอของแรงดัน ที่จะมีผลต่อจุดตกกระสุนในนัดต่อนัด แบบไหนเหมาะสมกับสนามยิงแบบ Outdoor? 2. ในด้านของ Fluid ที่บรรจุในถัง CO2 หรืออากาศอัด อันตรายกว่ากันในเรื่องของการเสี่ยงต่อถังระเบิดเมื่อถูกความร้อนสูง แล้วอากาศอัดมันคือชนิดเดียวกับออกซิเจนอัดหรือปล่าว แบบที่ใช้ในโรงพยาบาลนะครับ? 3. ถ้าให้เปรียบเทียบปืนสั้นอัดลมแบบอากาศอัดยี่ห้อ Steyr LP10, Morini 162EI, Feinwerkbau P34 ในด้านความแม่นยำ ความง่ายในการปรับตั้งไก ความทนทาน อะไหล่หาง่าย ความนิยมในบ้านเรา และราคาเป็นอย่างไรครับ? ขอขอบคุณไว้ล่วงหน้าครับ หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: เด็กควงปืน ที่ กันยายน 16, 2004, 06:22:11 PM ขอบคุณท่านอาจารย์ ผณิศวร กับพี่ ช.ช้าง มากครับ ตอนแรกกะว่าจะเขียนจดหมายไปถามท่านอาจารย์ ผณิศวรอยู่แล้ว ผมได้อ่านในซื้อ-ขายปืนเก่า ว่า พี่ ช.ช้าง ขาย ไฟแวกบาวน์ M 600 ราคา 37000 ช่วยโพสรูปมาให้ดูได้มั้ยครับ
เผื่อว่าถูกใจจะซื้้้้อ ;) หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ กันยายน 17, 2004, 06:43:19 AM เรียน คุณ Engine1
>1. แบบ CO2 กับ แบบอากาศอัด (Pre-compressed air) ต่างกันอย่างไรในด้านการบำรุงรักษา ความแรง หรือความสม่ำเสมอของแรงดัน ที่จะมีผลต่อจุดตกกระสุนในนัดต่อนัด แบบไหนเหมาะสมกับสนามยิงแบบ Outdoor? การบำรุงรักษา - เหมือนๆ กันครับ ยกเว้น M2 ของไฟน์แวคบาว เป็นปืน CO2 ที่ดูแลง่ายที่สุดไม่ว่าจะเทียบกับระบบไหนยี่ห้ออะไร ความแรง - ทางทฤษฎีแล้วแบบอากาศอัดแต่งให้แรงได้มากกว่า แต่สำหรับปืนสั้นที่ยิงๆ กันมา CO2 แรงกว่าครับ ความสม่ำเสมอ - อากาศอัดเหนือกว่า อุณหถูมิเปลี่ยนไม่ค่อยมีผล >2. ในด้านของ Fluid ที่บรรจุในถัง CO2 หรืออากาศอัด อันตรายกว่ากันในเรื่องของการเสี่ยงต่อถังระเบิดเมื่อถูกความร้อนสูง แล้วอากาศอัดมันคือชนิดเดียวกับออกซิเจนอัดหรือปล่าว แบบที่ใช้ในโรงพยาบาลนะครับ? ในถัง CO2 เป็นของเหลว แต่สำหรับอากาศอัดเป็นก๊าซครับ แรงดันถัง แบบอากาศอัดสูงกว่าประมาณเท่าตัว อากาศอัดไม่ใช่อ็อกซิเจนนะครับ แต่ใกล้เคียงกับไนโตรเจนครับ (แบบที่ใช้ช่วยในการเชื่อมโลหะ - พ่นคุมขณะเชื่อมเพื่อกันสนิม) เพื่อนที่มีโรงงานใช้ไนโตรเจนประจำทำ adapter เติมไนโตรเจนยิงกับปืน P34 สบายมาก ถ้าใช้อ็อกซิเจนปืนจะพังเร็วเพราะสนิม >3. ถ้าให้เปรียบเทียบปืนสั้นอัดลมแบบอากาศอัดยี่ห้อ Steyr LP10, Morini 162EI, Feinwerkbau P34 ในด้านความแม่นยำ ความง่ายในการปรับตั้งไก ความทนทาน อะไหล่หาง่าย ความนิยมในบ้านเรา และราคาเป็นอย่างไรครับ? ความแม่นยำ ไม่ต่างกัน การปรับตั้งไก โมรินี (ไกไฟฟ้า) แต่งง่ายสุด ความรู้สึกดีมาก ความทนทาน ยังยกให้ P34 อะไหล่ Steyr หาง่ายเพราะนิยมใช้กันมากกว่าเพื่อนครับ ราคารู้สึกว่า Morini จะกันเองหน่อย ลองสอบถามสมาคมฯ ที่หัวหมากครับ หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: MedCadet ที่ กันยายน 17, 2004, 06:54:42 AM ราคาที่ติดประกาศไว้ที่สมาคม โมรินี กับ สไตเออร์ หกหมื่นถ้วน เท่ากันครับ ส่วน P34 ทางสมาคมไม่ได้สั่งครับ
หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: ช.ช้าง ที่ กันยายน 17, 2004, 12:48:33 PM ตอบคุณเอนจิ้นวัน
1.เหมือนอาจารย์ครับ 2.เหมือนถังดำน้ำครับ 3.ความแม่นยำใกล้เคียงกันครับ แต่ผมชอบน้ำหนักสไตรเออร์มากกว่า โมรินีเบาไปหน่อย ถือแล้วแกว่ง P34 ไม่เคยยิงครับ ตอบคุณเด็กควงปืน ไม่ใช่ปืนผมครับ...ของคนรู้จัก ได้ยินว่าขายไปแล้ว :) หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: engine1 รักในหลวง ที่ กันยายน 18, 2004, 04:35:21 PM รบกวนเรียนถาม อ.ผณิศวร เพิ่มเติมว่า
การอัด N2 เข้าท่อให้ได้ความดันสูงตั้ง 200 bar ทำได้อย่างไรครับ เพราะโรงงานที่ผมทำงานอยู่ก็มีถังบรรจุ Liquid nitrogen แต่ความดันหัวถังมันแค่ 125 psig (8.6 bar) แค่นั้นเอง ถามเป็นความรู้นะครับ ผมไม่ไปยุ่งกับถังแบบ Pressure vessel ในโรงงานหรอก เพราะไม่ใช่ของผมเอง และขอถามอีกเรื่อง (คุณลูก-Medcadet ช่วยตอบก็ได้นะครับ) กรณีซื้อปืนจากสมาคมฯ ถ้าเป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้ว และถ้าสมมติว่าจะสั่งซื้อ Steyr LP10 1. นานไหมครับ กว่าจะได้ปืน โทรไปถามเจ้าหน้าที่บอกว่าแค่ 1-2 เดือน แต่บางคนก็บอกเป็นปี คิวก็ยาวเหยียด เท็จจริงอย่างไรครับ 2. การขอซื้อเราเลือกสีปืน สีท่อ ระบุขนาดด้าม ได้เลยใช่ไหม? หรือว่าทางสมาคมซื้อมาเป็น Lot เวลาปืนมา ผู้ขอซื้อคนไหนมาก่อนมีสิทธิ์เลือกไปก่อน เลือกสีตามชอบ เลือกด้ามพอดีมือ 2. การยื่นขอ ป.3, ป.4 ทางสมาคมดำเนินการให้หมด เรามีหน้าที่ยื่นขอและจ่ายตังอย่างเดียว แต่ได้ยินมาว่าใบ ป.4 ชื่อเป็นของสมาคม จริงหรือครับ? ผมฟังแล้วก็งง ว่าตังเราซื้อแต่ทำไมชื่อเป็นของสมาคม เวลาจะขายต่อจะทำได้หรือ? ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: ผณิศวร เกิดในรัชกาลที่ ๙ ที่ กันยายน 19, 2004, 05:34:25 AM Liquid N2 ที่เห็นว่าแรงดันต่ำก็เพราะมันเย็นจัดครับ ในรูปก๊าซอัดถังที่เพื่อนผมใช้อยู่นี่ ณ อุณหภูมิบ้านเรา 150 BAR สบายๆ เปรียบเทียบกับ CO2 ที่ใช้แช่แข็งกุ้งนะครับ ในรูป Liquid รักษาอุณหภูมิ 1-2 องศา ได้แรงดันเพียง 300 psi ก็ไม่ถึง 20 BAR แต่ในปืนที่เราใช้กัน แรงดันจะประมาณ 1200-1300 psi ครับ เป็นแรงดันไออิ่มตัวคือมีทั้ง Liquid และ Gas ในท่อครับ
เรื่องซื้อปืนสมาคม รอคุณเม็ด หรือท่านอื่นที่มีประสพการณ์นะครับ หัวข้อ: Re: ไฟแวกบาว รุ่น 300s เริ่มหัวข้อโดย: MedCadet ที่ กันยายน 20, 2004, 12:50:02 AM รายละเอียดเรื่องซื้อปืนกับทางสมาคมนี่ โทรถามกับ คุณ สุวัฒน์ นิยม ที่สมาคมได้เลยครับ เพราะว่าเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องสั่งปืนโดยตรง เจ้าหน้าที่คนอื่นๆอาจจะไม่ทราบ
รายละเอียดอื่นๆไม่ทราบจริงครับ ไม่เคยสั่งเหมือนกัน เคยแต่เห็นคนมารับปืนที่สมาคม ตอนที่ผมไปต่อคิวซื้อลูกกระสุนอยู่ เลยไม่ทราบรายละเอียดครับ |