เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: ART ที่ ตุลาคม 03, 2009, 06:57:17 PM



หัวข้อ: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 03, 2009, 06:57:17 PM
 :) พอดีสนใจศึกษาเรื่องนี้ ว่าโลกร้อนทำให้น้ำท่วมโลก มันมีความเป็นจริงมากน้อยหรือเป็นเรื่อง สร้างกันขึ้นมาครับและถ้าเป็นจริงจะอีกสักกี่ปีครับ  :o สงสัยไม่ได้เห็นแน่ 8) ดูแผนที่ตาม link ครับ www.speedplustech.com/forum/index.php?topic=92.0 (http://www.speedplustech.com/forum/index.php?topic=92.0) ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 03, 2009, 07:05:09 PM
ผมก็ยังไม่เคลียร์เหมือนกันยังคิดเล่นๆอยู่เลย
ผืนดินก็เท่าเดิม ผืนน้ำก็เท่าเดิม
มันจะเอาที่ไหนมาท่วมนักหนา
ถ้าบอกว่าน้ำแข็งละลายก็ เอ้า ไปอยู่แทนที่น้ำแข็งเคยอยู่ซิ
มันละลายจนมาท่วมได้ขนาดนั้นมันก็ต้องมีแผ่นดินที่เหลือโผล่มามั่งแหละมันก็ไม่หนาวมากแล้วล่ะ
อ้าว จะหนาวอะไรอีก ก็ ขนาดน้ำแข็งยังละลาย
บอกตรงๆผมยังลังเลเชื่อครึ่งไม่เชื่อมากกว่าครึ่ง


อิ อิ นักวิชาการอย่าถีบผมนะ บอกแล้วผมคิดเล่นๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tinnakorn 0101 ที่ ตุลาคม 03, 2009, 07:10:26 PM
โดยส่วนตัวครับ ผมไม่เชื่อ
ตามข้อมูลอีก 10 ปี ท่วมหรือไม่ท่วม ผมไม่สนแล้วครับ ถือว่าอยู่จนคุ้ม อิอิ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อู๋ รักในหลวง ที่ ตุลาคม 03, 2009, 07:15:10 PM
ผมก็ยังไม่เคลียร์เหมือนกันยังคิดเล่นๆอยู่เลย
ผืนดินก็เท่าเดิม ผืนน้ำก็เท่าเดิม
มันจะเอาที่ไหนมาท่วมนักหนา
ถ้าบอกว่าน้ำแข็งละลายก็ เอ้า ไปอยู่แทนที่น้ำแข็งเคยอยู่ซิ
มันละลายจนมาท่วมได้ขนาดนั้นมันก็ต้องมีแผ่นดินที่เหลือโผล่มามั่งแหละมันก็ไม่หนาวมากแล้วล่ะ
อ้าว จะหนาวอะไรอีก ก็ ขนาดน้ำแข็งยังละลาย
บอกตรงๆผมยังลังเลเชื่อครึ่งไม่เชื่อมากกว่าครึ่ง


อิ อิ นักวิชาการอย่าถีบผมนะ บอกแล้วผมคิดเล่นๆ

มีเหตุผลครับ ผมก็คิดเหมือนกัน
เช่นเดียวกัน แก้วที่ใส่น้ำกับน้ำแข็งปริ่มๆขอบแก้ว พอน้ำแข็งละลายน้ำก็ไม่ล้นออกจากแก้วเพราะปริมาตรความหนาแน่นเท่าเดิม


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ ตุลาคม 03, 2009, 07:37:01 PM
..ผมก็คิดแบบนักวิชาเกินครับ ผิดถูกอย่างไรก็ต้องขอพระอภัย... ;D น้ำเวลาที่มันอยู่ในรูปของน้ำแข็งมันก็จะเป็นก้อนอย่างที่เราเห็นและบางแห่งจะอยู่ในรูปทรงที่ยื่นขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างที่เราเรียกว่าภูเขาน้ำแข็งซึ่งจะเห็นมากมายในแถบขั้วโลกเหนือและใต้ แต่เมื่อไรที่มันละลายมาเป็นในรูปของเหลว ส่วนที่เป็นก้อนที่ยื่นไปบนท้องฟ้านั้นก็จะมาเพิ่มปริมาตรของน้ำในระดับปกติ... ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 03, 2009, 07:44:04 PM
ผมก็ยังไม่เคลียร์เหมือนกันยังคิดเล่นๆอยู่เลย
ผืนดินก็เท่าเดิม ผืนน้ำก็เท่าเดิม
มันจะเอาที่ไหนมาท่วมนักหนา
ถ้าบอกว่าน้ำแข็งละลายก็ เอ้า ไปอยู่แทนที่น้ำแข็งเคยอยู่ซิ
มันละลายจนมาท่วมได้ขนาดนั้นมันก็ต้องมีแผ่นดินที่เหลือโผล่มามั่งแหละมันก็ไม่หนาวมากแล้วล่ะ
อ้าว จะหนาวอะไรอีก ก็ ขนาดน้ำแข็งยังละลาย
บอกตรงๆผมยังลังเลเชื่อครึ่งไม่เชื่อมากกว่าครึ่ง


อิ อิ นักวิชาการอย่าถีบผมนะ บอกแล้วผมคิดเล่นๆ
ขั้วโลกเหนือ ไม่มีแผ่นดินครับพี่ มีแต่น้ำแข็งเพราะฉะนั้นถ้าละลายหมดคนไปอยู่แทนไม่ได้ครับ

(http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/f/fe/Arctic_Ocean.png)


(http://pics.manager.co.th/Images/551000003574702.JPEG)

บีบีซีนิวส์-ยูเอ็นอีพีเผยข้อมูลธารน้ำแข็งหดตัวก้าวกระโดดจากปีละ 30 เซนติเมตร ขึ้นเป็นปีละ 1.5 เมตรในเวลาไม่ถึง 10 ปี
โครงการสิ่งแวดล้อมของสหประชาชาติ (ยูเอ็นอีพี) เผยข้อมูลธารนำแข็งทั่วโลกหดตัวเฉลี่ยเพิ่มขึ้น จากช่วงปี 2523-2542 ที่ธารน้ำแข็งหดตัวเฉลี่ยปีละ 30 เซนติเมตรเป็น 1.5 เมตรในปี 2549 โดยเฉพาะเทือกเขาแอลป์ส (Alps) และเทือกเขาไพรีนีส (Pyrenees) ในยุโรปที่พบการหายไปของน้ำแข็งจำนวนมาก ทั้งนี้เป็นการวิเคราะห์ธารน้ำแข็งในเทือกเขา 9 แห่ง

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนได้เรียกร้องให้มี "ปฏิบัติการโดยฉับพลัน" เพื่อพลิกแนวโน้มการหดอย่างรวดเร้วของธารน้ำแข็งที่เกิดขึ้นนี้ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดที่สำคัญของการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ (climate change) ทั้งนี้ประมาณกันว่าในปี 2549 มีปริมาณน้ำแข็งหดตัวไป 1.4 เมตร ขณะที่ในปี 2548 หดไป 0.5 เมตร

อชิม สไตเนอร์ (Achim Steiner) ผู้อำนวยการใหญ่โครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ กล่าวว่าผู้คนหลายล้านหรือไม่ก็หลายพันล้านขึ้นตรงต่อทรัพยากรน้ำที่กักเก็บไว้ในธรรมชาตินี้เพื่อดื่ม การเกษตร อุตสาหกรรมและการผลิตกระแสไฟฟ้าในช่วงสำคัญของปี โดยธารน้ำแข็งได้ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศอันเนื่องจากการเผาไหม้ถ่านหินและเราก็สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ พร้อมเผยว่าได้ดำเนินการเบื้องต้นที่จะพัฒนา "ธุรกิจเขียว" โดยการลงทุนด้านพลังงานทดแทนมากขึ้น

ดร.วิลฟรีด ฮาเบอร์ลี (Dr.Wilfried Haeberli) ผู้อำนวยการหน่วยติดตามธารน้ำแข็งโลก (World Glacier Monitoring Service) ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยยูเอ็นดีพี กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดและการสูญเสียน้ำแข็งก็ยังคงเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งในช่วง 25 ปีที่ผ่านมานี้ โดยตั้งแต่ปี 2523 สูญธารน้ำแข็งไปแล้ว 10.5 เมตร โดยค่าเฉลี่ยธารน้ำแข็งที่หดไป 1 เมตรเทียบเท่ากับความหนาของน้ำแข็ง 1.1 เมตร นั่นหมายความว่ากว่า 20 ปีที่ผ่านมาความหนาของน้ำแข็งลดไปแล้ว 11.5 เมตร



ยุคน้ำแข็ง

Ice Age

ยุคน้ำแข็ง (Ice Age) คือช่วงเวลาที่ภูมิอากาศของโลกเย็นลงกว่าปกติ และปรากฏมีทุ่งน้ำแข็ง (ice sheet) ปกคลุมพื้นที่นอกเขตขั้วโลก สาเหตุของการเกิดยุคน้ำแข็ง เกิดจากมีเหตุปัจจัยทำให้หิมะที่ตกในฤดูหนาว ละลายไม่หมดในฤดูร้อน ทำให้เกิดการสะสมน้ำแข็งข้ามปี และพอกพูนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นทุ่งน้ำแข็งขนาดใหญ่ปกคลุมพื้นนอกเขตขั้วโลก

โลกมียุคน้ำแข็งสำคัญทั้งหมด 4 ครั้ง คือ
1. Precambrian (Cryogenian)
2. Ordovician
3. Late Carboniferus-Permian
4. Pleistocene
ปัจจุบันเรากำลังอยู่ในยุคน้ำแข็งครั้งที่ 4 Pleistocene

ปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เกิดยุคน้ำแข็งมาจากสภาพทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ตำแหน่งของพื้นทวีป ระดับความสูงของแผ่นดิน มหาสมุทรและกระแสน้ำ รวมกันแล้วสร้างสภาวะที่เอื้ออำนวยให้เกิดการสะสมน้ำแข็งข้ามปี

พื้นทวีปบนโลกมีการเปลี่ยนแปลงและเคลื่อนที่ได้อย่างช้าๆ เมื่อประมาณสี่ล้านปีก่อน ปัจจัยทางภูมิศาสตร์บริเวณรอบๆขั้วโลกเหนือเริ่มเอื้อต่อการเกิดยุคน้ำแข็ง โดยในช่วงแรกยุคน้ำแข็งจะมีขนาดเล็ก และแต่ละครั้งจะกินเวลาไม่นาน แต่พอเวลาผ่านไปสภาพต่างๆก็เอื้อต่อการสะสมของน้ำแข็งมากขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อประมาณหนึ่งล้านปีก่อน โลกก็เข้าสู่ยุคน้ำแข็งเต็มตัว เรียกว่ายุคน้ำแข็งไพลอีสโตซีน (Pleistocene Ice Age)

ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ในปัจจุบันโลกจะมีความหนาวเย็นเป็นธรรมชาติปกติ ธารน้ำแข็งจะแผ่ปกคลุมพื้นที่รอบๆขั้วโลกเหนือเป็นเวลาส่วนใหญ่ แต่ทว่าความหนาวเย็นไม่ได้มีอยู่อย่างต่อเนื่อง ทุกๆหลายหมื่นปีความผันแปรในวงโคจรของโลกสามลักษณะที่มีผลต่อฤดูกาล คือ ความรีของวงโคจร (Eccentricity) ความเอียงของแกนโลก(Obliquity) และการหมุนส่ายของแกนโลก (Precession) จะเกิดการเสริมกันในทางที่ทำให้ฤดูร้อนของซีกโลกเหนืออบอุ่นกว่าปกติ ทำให้ธารน้ำแข็งที่สะสมอยู่ ถูกละลายในฤดูร้อนมากกว่าหิมะที่ตกใหม่ในแต่ละปี จึงเกิดการถดถอยของธารน้ำแข็ง เกิดเป็นช่วงอบอุ่นระหว่างยุคน้ำแข็งขึ้น

ช่วงที่ธารน้ำแข็งปกคลุมโลกกว้างขวาง เรียกว่า glacial period ช่วงที่เกิดความอบอุ่นระหว่างยุคน้ำแข็งเรียกว่า interglacial period ในช่วงหนึ่งล้านปีที่ผ่านมาก การเสริมกันของวงโคจรจะทำให้เกิดมีช่วงอบอุ่นทุกๆ 90,000 –130,000 ปี (เฉลี่ย 110,000 ปี) แต่ช่วงเวลาที่โลกอบอุ่นจะค่อนข้างสั้น ประมาณหนึ่งหมื่นถึงสองหมื่นปีเท่านั้น

ปัจจุบันเราอยู่ในยุคอบอุ่นที่เรียกว่า Holocene ซึ่งเริ่มต้นหลังจากยุคน้ำแข็ง Wisconsin (ยุโรปเรียก Weichselian) สิ้นสุดลงเมื่อ 13,000 ปีก่อน ปัจจัยทางฤดูการที่ทำให้โลกอบอุ่นขึ้นถึงจุดสูงสุดเมื่อประมาณ 9,000 ปีก่อนปัจจุบัน ทำให้เกิดเป็นช่วงเวลาที่อากาศค่อนข้างอบอุ่นต่อเนื่องเรียกว่า Holocene optimum ระหว่าง 9,000 - 5,500 ปีก่อนปัจจุบัน หลังจากนั้นโลกก็ค่อยอุ่นน้อยลงตามลำดับ ภูมิอากาศเริ่มไม่มีเสถียรภาพ เกิดเป็นช่วงที่เป็นอุ่นบ้างเย็นบ้าง เนื่องมาจากพลังธรรมชาติตัวอื่นที่มีอิทธิพลรองลงมา ทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่ภูมิอากาศไม่คงที่ เรียกว่า Late Holocene neoglacial fluctuation โดยช่วงที่อากาศเย็นกว่าปกติเรียกว่า Stadial ช่วงที่อากาศอุ่นกว่าปกติเรียกว่า Interstadial นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภูมิอากาศเกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงในช่วง Late Holocene คือความผันแปรของพลังงานจากดวงอาทิตย์ (Solar Variation)


สาเหตุทางภูมิสตร์
การจะเกิดยุคน้ำแข็ง ในเบื้องต้น ในยุคนั้นโลกจะต้องมีโครงสร้างทางภูมิศาสตร์ ซึ่งเอื้ออำนวยให้เกิดยุคน้ำแข็งเป็นพื้นฐาน ได้แก่
1. Orogenic uplift คือการยกตัวสูงขึ้นของแผ่นดิน โดยเฉพาะในเขตละติจูดสูง ช่วยให้น้ำแข็งละลายช้าลงในช่วงฤดูร้อน
2. Epeirogenic คือตำแหน่งพื้นทวีปที่อยู่ใกล้ขั้วโลก ในตำแหน่งที่เหมาะสมต่อการสะสมตัวของมวลน้ำแข็ง
3. Ocean Circulation รูปร่างของมหาสมุทรมีส่วน เพราะการหมุนเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทร เป็นการหมุนเวียนความร้อนระหว่างขั้วโลกกับเขตร้อนอย่างสำคัญ รวมทั้งมีผลต่อปริมาณหิมะที่ตกในแต่ละปี

สาเหตุทางฤดูกาล
เมื่อโลกมีปัจจัยทางภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการเกิดยุคน้ำแข็งแล้ว ก็จะเกิดมียุคน้ำแข็ง Glacial Period และช่วงอบอุ่นระหว่างยุคน้ำแข็ง Interglacial Period สลับกันเป็นคาบที่ค่อนข้างแน่นอน จากอิทธิพลจากความผันแปรของวงโคจรโลก ตามทฤษฎีของ Milankovitch และทฤษฎีที่เป็นอนุพันธ์ ความผันแปรของวงโคจร 3 แบบ คือ
1. Eccentricity (ความรีของวงโคจร) มีผลทำให้ความยาวของฤดูกาลระหว่างฤดูร้อนกับฤดูหนาวไม่เท่ากัน
2. Obliquity (ความเอียงของแกน) แกนโลกจะเอียงระหว่า 22.1 -24.5 การเปลี่ยนแปลงความเอียง มีผลต่อขนาดของวง arctic circle และมีผลทำให้ความอบอุ่นในฤดูร้อนเปลี่ยนแปลง
3. Precession (การส่ายของแกน) ทำให้เกิดการสลับกันข้างฤดูร้อนฤดูหนาว

ปกติทางขั้วโลกเหนือน้ำจะกลายเป็นน้ำแข็ง แล้วน้ำทะเลส่วนที่เป็นน้ำแข็งจะกลายเป็นมีเกลือเข้มข้นขึ้นและจมสู่พื้นมหา สมุทรแล้วไปผ่านใต้พื้นมหาสมุทรสู่ตอนใต้ น้ำจากเส้นศูนย์สูตรก็จะไหลขึ้นไปแทนที่เกิดเป็นกระแสน้ำอุ่นต่างๆ

กระแสน้ำอุ่นนี้มีอิทธิพลมากในการทำให้แผ่นดินต่างๆเกิดความอบอุ่น

การละลายของน้ำแข็งทำให้กระบวนการนี้หยุด สายพานที่ทำให้เกิดกระแสน้ำอุ่นหยุดลง แล้วแผ่นดินต่างๆจะหนาวเย็นยิ่งขึ้นในหน้าหนาว ต่อไปจะเกิดหิมะปกคลุมพื้นทวีปตอนบนนานขี้น สีขาวของหิมะจะสะท้อนความร้อนออกไป และจะเกิดหิมะปกคลุมมากขึ้นๆ จนโลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งสมบูรณ์อย่างรวดเร็วในระยะเวลาแค่ทศวรรต

อธิบายเพิ่มอีกนิด
โลกร้อนสภาวะเรือนกระจก -> น้ำแข็งขั้วโลกละลาย -> น้ำทะเลไม่เป็นน้ำแข็งปล่อยน้ำทะเลเข้มข้นตกลงสู่พื้นสมุทร ->กระแสน้ำอุ่นหยุดไหลขึ้น -> แผ่นดินทวีปตอนบนหนาวเย็นขึ้นในหน้าหนาว(อย่างตอนนี้) ->หิมะปกคลุมพื้นดินมากขึ้นๆ ความร้อนสะท้อนกลับไปมากขึ้น ->โลกเข้าสู่ยุคน้ำแข็งอย่างรวดเร็ว


ผมไม่ได้มาบอกให้ใครเชื่อนะครับ แต่ของที่มันเกิดเป็นวัฎจักรมาตลอด มันก็ต้องเกิดขึ้นอีกหลักฐานที่ยืนยันว่ามันเคยเกิดก็มีให้เห็น อยู่ที่ว่ามันจะเกิดช้าหรือเร็วแค่ไหนเท่านั้น ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruk™-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 03, 2009, 09:34:48 PM
:) พอดีสนใจศึกษาเรื่องนี้ ว่าโลกร้อนทำให้น้ำท่วมโลก มันมีความเป็นจริงมากน้อยหรือเป็นเรื่อง สร้างกันขึ้นมาครับและถ้าเป็นจริงจะอีกสักกี่ปีครับ  :o สงสัยไม่ได้เห็นแน่ 8) ดูแผนที่ตาม link ครับ www.speedplustech.com/forum/index.php?topic=92.0 (http://www.speedplustech.com/forum/index.php?topic=92.0) ::004::
   ผมคนหนึ่งครับไม่เชื่อในทฤษฎีนี้ เพราะน้ำก็ปริมาตรเท่าเดิม พอเป็นน้ำแข็งแล้วละลาย ก็จำนวนเท่าเดิม
ถูกทั้งแดดเผา ถูกทั้งอากาศระเหย ผมเชื่อว่ามันจะน้อยลงด้วยซ้ำไป


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ ตุลาคม 03, 2009, 09:56:26 PM
-โลกร้อนจนน้ำท่วมโลก ไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ คิดว่าเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติมากกว่า เพราะโลกสมัยยังไม่มีมนุษย์น้ำมันก็ท่วม แล้วแห้ง แล้วท่วม.. มาแล้วหลายครั้ง


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 03, 2009, 11:25:14 PM
-โลกร้อนจนน้ำท่วมโลก ไม่อยากเชื่อว่าเป็นฝีมือมนุษย์ คิดว่าเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติมากกว่า เพราะโลกสมัยยังไม่มีมนุษย์น้ำมันก็ท่วม แล้วแห้ง แล้วท่วม.. มาแล้วหลายครั้ง
ตรงส่วนนี้ ต้องบอกก่อนว่าเป็นมุมมองของผมเองนะครับ
ผมเชื่อครับว่ามันเป็นวัฏจักรตามธรรมชาติ แต่มนุษย์เป็นตัวแปรที่จะทำให้วัฎจักรนั้นเดินเร็วขึ้นเพราะก่อนหน้านี้ ไม่มีสัตว์โลกชนิดไหนเอาเชื้อเพลิงคาร์บอนมาใช้
ซึ่งก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มันเป็นตัวบ่งชี้ว่าโลกจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งเมื่อไหร่  ผมเชื่อตามสิ่งที่เห็นและพิจารณาแล้วว่ามันเป็นไปได้ผมจึงเชื่อ

(http://www.whyworldhot.com/images/650000yrs.jpg)
จากภาพ จะเห็นปริมาณ CO2 ในชั้นบรรยากาศ ในช่วง 650000 ปีที่ผ่านมา ปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ มีการขึ้นๆลงๆตลอด เราผ่านยุคน้ำแข็งมาแล้วประมาณ 6 ครั้ง (ช่วงที่กราฟลงต่ำ)
ซึ่งการตรวจสอบนี้ทำได้โดยการขุดชั้นน้ำแข็งออกมาหาปริมาณ CO2 ในน้ำแข็ง จึงทำให้สามารถรู้ถึง CO2 ในช่วงปีนั้นๆ

(http://www.whyworldhot.com/images/co2now.jpg)
นี่คือปริมาณ CO2 ในปัจจุบัน (จุดสีเหลือง)
ซึ่งตลอด 650000 ปีที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีปริมาณ CO2 สูงกว่า 300 ppm (300 ใน ล้านส่วน) เลย จนกระทั่งปัจจุบัน

ภาพจาก An Inconvenient Truth




จากปัญหาภาวะโลกร้อน อะไรกำลังจะเกิดขึ้นตามมา

รายงานของ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาระบุว่า ในอนาคต อาจเกิดภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำ
และภัยพิบัติต่อสัตว์ป่า ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้นระหว่าง 7-23 นิ้ว ซึ่งระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเพียง 4 นิ้วก็จะเข้าท่วมเกาะ และพื้นที่จำนวนมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ผู้คนนับร้อยล้านที่อยู่ในระดับความสูงไม่เกิน 1 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล อาจะต้องย้ายถิ่น โดยเฉพาะในสหรัฐ รัฐฟลอริดา และหลุยส์เซียนาก็เสี่ยงเช่นกัน
ธารน้ำแข็งละลายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อาจส่งผลต่อการขาดแคลนน้ำจืดได้ พายุที่รุนแรง ภาวะแห้งแล้ง คลื่นความร้อน ไฟป่า
และภัยธรรมชาติต่างๆ จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น จนกลายเป็นเรื่องปกติ ทะเลทรายจะขยายตัวทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารในบางพื้นที่ สัตว์นับล้านสปีชี่ส์ จะสูญพันธุ์
จากการไม่มีที่อยู่ ระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลง และน้ำทะเลเป็นกรด การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรอาจเปลี่ยนทิศทาง ส่งผลให้เกิดยุคน้ำแข็งย่อยๆ ในยุโรป
และภาวะอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ ในอนาคต เมื่อภาวะโลกร้อนอยู่ในขั้นที่ควบคุมไม่ได้ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Positive Feedback Effect
ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกเก็บ อยู่ในส่วนชั้นน้ำแข็งที่ไม่เคยละลาย (Permafrost) และ ใต้ทะเลออกมา หรือคาร์บอนที่ถูกน้ำแข็งกับเก็บไว้
ส่งผลให้ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น 

พี่ๆท่านใดสนใจลองอ่านได้ที่นี่ครับ  ::014:: ::014::
http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99 (http://www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99)




ไปไกลระดับโลกแล้ว ลองกลับมาดูที่บ้านเราบ้าง
10 กว่าปีก่อน วัดขุนสมุทรจีนอยู่ห่างจากแนวชายฝั่งทะเลประมาณ 2 กม. ปัจจุบันโดนน้ำทะเลหนุนจนท่วมหมดแล้ว

(http://www.naturetravelling.com/webboard/photo/r-54733022.jpg)

(http://www.naturetravelling.com/webboard/photo/r-54733025.jpg)

(http://www.naturetravelling.com/webboard/photo/r-54733024.jpg)


ภาพนี้ลองสังเกตุแนวเสาไฟฟ้านะครับ ตรงนั้นเคยเป็นถนนครับ
(http://www.naturetravelling.com/webboard/photo/r-54733028.jpg)

(http://www.naturetravelling.com/webboard/photo/r-54733026.jpg)

(http://www.naturetravelling.com/webboard/photo/r-54733029.jpg)


ส่วนตรงนี้เป็นปัจจัยเสริมที่จะทำให้กรุงเทพโดนน้ำท่วม
การที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลตั้งอยู่บริเวณที่ราบลุ่ม ซึ่งมีชั้นดินเหนียวที่อ่อนและหนาปกคลุม และแทรกสลับกับชั้นน้ำบาดาล ถึงแม้จะไม่มีการใช้น้ำบาดาล การทรุดตัวของพื้นดินนั้นจะยังคงต้องเกิดขึ้นต่อไป ตามปัจจัยภายในคือการอัดตัวของดินอ่อนซึ่งเกิดตามธรรมชาติ และปัจจัยภายนอก อันได้แก่ การรับน้ำหนักจากสิ่งก่อสร้าง และการสั่นสะเทือนจากการจราจร เป็นต้น

ข้อมูลจาก กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
มีให้อ่านอีกเยอะครับ
http://www.dgr.go.th/webboard/index.php?topic=51.0 (http://www.dgr.go.th/webboard/index.php?topic=51.0)


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 03, 2009, 11:37:13 PM
ขอบคุณครับท่านอรชุนสำหรับข้อมูลทางวิชาการครับ+ ::002::





ส่วน นักวิชาเกินอย่างผม ขอตัวไปเตรียมเรือ เตรียมพาย ครับ อิ อิ ไม่ประมาท ท่วมมาพายโลด ::005:: ::005:: ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ ตุลาคม 04, 2009, 03:06:56 AM
ดูสารคดี เขาก็ว่ามันเป็นวัฏจักรครับ แล้วเมื่อก่อนกรุงเทพก็เป็นทะเล เคยขุดพบกระดูกวาฬได้แถวบางเขน


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ ตุลาคม 04, 2009, 01:05:57 PM
หาหนังเรื่อง The Day After Tomorrow มาดูครับ... ผมว่าเขาสร้างอิงหลักวิชาการดี... ถึงแม้ว่าจะโอเวอร์เกินไปนิด... แต่ก็ยังไม่ทิ้งหลัดวิชาการครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ ตุลาคม 04, 2009, 02:25:12 PM
น้ำแข็งมันเป็นก้อนซ้อนกันอยู่ครับ ซ้อนกันสูงในอากาศเหมือนคอนโดฯ แต่เวลาละลายมันก็ไหลลงมาไม่ยอมอยู่ในอากาศครับ... นี่ยังไม่นับพวกที่เป็นก้อนอยู่บนภูเขาสูง เวลาร้อนมันก็ไม่เป็นก้อนอยู่บนเขา ต่างพากันไหลลงมาข้างล่างเลยท่วมข้างล่างครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: vvv_v ที่ ตุลาคม 04, 2009, 08:11:06 PM
ดูแล้ว ฟังแล้วก็กลัวครับ  ว่าหากเกิดจริงคงแย่กันทั้งหมด  ภาวนาอย่าให้เกิดเลยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ ตุลาคม 04, 2009, 08:41:03 PM
น้ำแข็งขั้วโลกเหนือละลาย ผมว่าไม่น่ากลัว แต่น้ำแข็งขั้วโลกใต้ละลาย น่ากลัวกว่า เพราะเป็นน้ำแข็งบนแผ่นดิน  :OO


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 04, 2009, 09:10:45 PM
ผมว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงของแกนหมุนของโลก

ตัวอย่างที่เกิดแล้วคือเรื่องฤดูกาล เดี่ยวนี้มันผิดไปหมด



หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ตุลาคม 04, 2009, 09:48:44 PM
เกิดจากน้ำมือมนุษย์ครับ  เราเอาทรัพยากรต่าง ๆ มาใช่จนเิกินความพอดี เกินที่ธรรมชาติจะรับไหว

ก๊าซคาบอร์นไดออกไซด์เพิ่มขึ้นจากเมื่อก่อนมาก  ทำให้โลกร้อนขึ้นเรื่อย ๆ  ที่ผมเคยเรียนมาเหมือนข้อมูลของท่าน ArjunA

เรื่องน้ำท่วมโลกอาจจะไม่ท่วมแผ่นดินทั้งหมด แต่แผ่นดินที่อยู่ระดับต่ำ จะได้รับผลกระทบแน่นอนครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: nick357 "รักในหลวง" ที่ ตุลาคม 05, 2009, 02:47:57 AM
น้ำจะท่วมโลก...รีบขายปืน...หรือรีบ..ซื้อปืนดี กลัวไม่ได้ยิง ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 05, 2009, 05:50:07 AM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 05, 2009, 08:37:03 AM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ ตุลาคม 05, 2009, 10:39:12 AM
เวลาน้ำแข็งละลาย ปริมาตรจะลดลงเหลือ 10 ใน 11 ส่วนของเมื่อเป็นน้ำแข็ง

ทฤษฎีน้ำท่วมเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายนั้น ผมเชื่อแบบไม่เต็มร้อยนั่นคือ ระดับน้ำสูงขึ้นแน่ แต่ไม่สูงมากเหมือนที่คิดไว้ เพราะน้ำแข็งจะมีปริมาตรลดลงเมื่อละลาย

คิดง่าย ๆ น้ำแข็งขั้วโลกในปัจจุบันเหลือไม่ถึง 65 % ของเมื่อ 30 ปีก่อน ถามว่าระดับน้ำวันนี้สูงขึ้นกว่าเมื่อ 50 ปีก่อนเท่าไร และเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเหลือ 25 % ระดับน้ำจะสูงขึ้นเท่าไร

จาก 65 % เหลือ 25 % อาจใช้เวลาน้อยกว่าจาก 100 % เหลือ 65 % แต่ระดับน้ำที่สูงขึ้นคงไม่แตกต่างกันมาก


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ ตุลาคม 05, 2009, 10:53:23 AM
เวลาน้ำแข็งละลาย ปริมาตรจะลดลงเหลือ 10 ใน 11 ส่วนของเมื่อเป็นน้ำแข็ง

ทฤษฎีน้ำท่วมเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายนั้น ผมเชื่อแบบไม่เต็มร้อยนั่นคือ ระดับน้ำสูงขึ้นแน่ แต่ไม่สูงมากเหมือนที่คิดไว้ เพราะน้ำแข็งจะมีปริมาตรลดลงเมื่อละลาย

คิดง่าย ๆ น้ำแข็งขั้วโลกในปัจจุบันเหลือไม่ถึง 65 % ของเมื่อ 30 ปีก่อน ถามว่าระดับน้ำวันนี้สูงขึ้นกว่าเมื่อ 50 ปีก่อนเท่าไร และเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเหลือ 25 % ระดับน้ำจะสูงขึ้นเท่าไร

จาก 65 % เหลือ 25 % อาจใช้เวลาน้อยกว่าจาก 100 % เหลือ 65 % แต่ระดับน้ำที่สูงขึ้นคงไม่แตกต่างกันมาก


น้ำแข็งบางที่อย่างเช่น ขั่วโลกใต้ มีแผ่นดินอยู่ข้างล่างครับพี่ เมื่อน้ำแข็งส่วนที่ทับถมบนแผ่นดินละลายก็จะกลายเป็นน้ำเพิ่มขึ้นเพียวๆ เหมือนในแก้ว ออน เดอะ ร๊อค

ส่วนขั้วโลกเหนือเป็นก้อนน้ำแข็งลอยตุ๊ปป่องอยู่ในทะเลเหมือน แก้ว วิสกี้/น้ำ

อย่างไรก็ตามเมื่อโลกร้อนขึ้นจะมีปัจจับดูดน้ำเพิ่มด้วย อากาศที่ร้อนขึ้นจะเก็บไอน้ำในอากาศได้มากขึ้น เช่น หน้าหนาวอากาศเย็น ไอน้ำอยู่ได้น้อยอากาศจะแห้งไปหมด น้ำแข็งที่ละลายจึงไม่ได้อยู่แต่ในทะเล แต่ผมไม่มีข้อมูลว่านักวิทย์เขาคำนวนตรงนี้เผื่อไว้แค่ไหนครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ ตุลาคม 05, 2009, 11:03:13 AM
ผมว่ามาจากการเปลี่ยนแปลงของแกนหมุนของโลก

ตัวอย่างที่เกิดแล้วคือเรื่องฤดูกาล เดี่ยวนี้มันผิดไปหมด



ครับ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอย่างไรก็ตาม ความวุ่ยวายในชีวิตมนุษย์ในปัจจุบัน และอนาคตต่อไปเกิดจากฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงมากขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่การผลิตอาหารเปลี่ยนรไป โครงสร้างทางอำนาจของภูมิประชากรก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย จะเกิดความขัดแย้งระหว่างชุมชนหรือประเทศที่ใช้ทรัพยากรในการผลิตอาหารร่วมกัน เช่น ปัญหาแย่งชิงลำน้ำข้ามชาติ ความขัดแย้งจากการอพยพย้ายถิ่นเนื่องจากถิ่นเดิมไปสามารถผลิตอาหารได้อีกต่อไป ฯลฯ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: A B A C U S รั ก ใ น ห ล ว ง ที่ ตุลาคม 05, 2009, 11:15:25 AM
 :OO :OO :OO :~)


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ ตุลาคม 05, 2009, 11:42:49 AM
เวลาน้ำแข็งละลาย ปริมาตรจะลดลงเหลือ 10 ใน 11 ส่วนของเมื่อเป็นน้ำแข็ง

ทฤษฎีน้ำท่วมเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกละลายนั้น ผมเชื่อแบบไม่เต็มร้อยนั่นคือ ระดับน้ำสูงขึ้นแน่ แต่ไม่สูงมากเหมือนที่คิดไว้ เพราะน้ำแข็งจะมีปริมาตรลดลงเมื่อละลาย

คิดง่าย ๆ น้ำแข็งขั้วโลกในปัจจุบันเหลือไม่ถึง 65 % ของเมื่อ 30 ปีก่อน ถามว่าระดับน้ำวันนี้สูงขึ้นกว่าเมื่อ 50 ปีก่อนเท่าไร และเมื่อน้ำแข็งขั้วโลกเหลือ 25 % ระดับน้ำจะสูงขึ้นเท่าไร

จาก 65 % เหลือ 25 % อาจใช้เวลาน้อยกว่าจาก 100 % เหลือ 65 % แต่ระดับน้ำที่สูงขึ้นคงไม่แตกต่างกันมาก


จากปัญหาภาวะโลกร้อน อะไรกำลังจะเกิดขึ้นตามมา

รายงานของ IPCC (Intergovernmental Panel on Climate Change) ในเดือนเมษายนที่ผ่านมาระบุว่า ในอนาคต อาจเกิดภาวะขาดแคลนอาหารและน้ำ
และภัยพิบัติต่อสัตว์ป่า ระดับน้ำทะเลอาจสูงขึ้นระหว่าง 7-23 นิ้ว ซึ่งระดับน้ำทะเลสูงขึ้นเพียง 4 นิ้วก็จะเข้าท่วมเกาะ และพื้นที่จำนวนมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ผู้คนนับร้อยล้านที่อยู่ในระดับความสูงไม่เกิน 1 ฟุต เหนือระดับน้ำทะเล อาจะต้องย้ายถิ่น โดยเฉพาะในสหรัฐ รัฐฟลอริดา และหลุยส์เซียนาก็เสี่ยงเช่นกัน  ธารน้ำแข็งละลายอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น อาจส่งผลต่อการขาดแคลนน้ำจืดได้ พายุที่รุนแรง ภาวะแห้งแล้ง คลื่นความร้อน ไฟป่า
และภัยธรรมชาติต่างๆ จะเกิดขึ้นบ่อยขึ้น จนกลายเป็นเรื่องปกติ ทะเลทรายจะขยายตัวทำให้เกิดการขาดแคลนอาหารในบางพื้นที่ สัตว์นับล้านสปีชี่ส์ จะสูญพันธุ์
จากการไม่มีที่อยู่ ระบบนิเวศน์เปลี่ยนแปลง และน้ำทะเลเป็นกรด การไหลเวียนของกระแสน้ำในมหาสมุทรอาจเปลี่ยนทิศทาง ส่งผลให้เกิดยุคน้ำแข็งย่อยๆ ในยุโรป
และภาวะอากาศแปรปรวนในหลายพื้นที่ ในอนาคต เมื่อภาวะโลกร้อนอยู่ในขั้นที่ควบคุมไม่ได้ จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า Positive Feedback Effect
ซึ่งอุณหภูมิที่สูงขึ้นจะปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ถูกเก็บ อยู่ในส่วนชั้นน้ำแข็งที่ไม่เคยละลาย (Permafrost) และ ใต้ทะเลออกมา หรือคาร์บอนที่ถูกน้ำแข็งกับเก็บไว้
ส่งผลให้ภาวะโลกร้อนทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น 

พี่ birdwhistle ลองกลับไปอ่านที่ผมโพสไว้ก่อนหน้านะครับ
10 กว่าปีก่อน วัดขุนสมุทรจีนอยู่ห่างจากแนวชายฝั่งทะเลประมาณ 2 กม. ปัจจุบันโดนน้ำทะเลหนุนจนท่วมหมดแล้ว น้ำไม่ต้องขึ้นมากหรอกครับ เมตร 2เมตรก็เดือดร้อนอยู่กันไม่ได้แล้ว


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ ตุลาคม 05, 2009, 11:49:31 AM
ใครจะเชื่อหรือใครจะไม่เชื่อก็ช่วยกันดูแลโลกนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ ตุลาคม 05, 2009, 11:52:57 AM
...ทำให้นึกถึงสมัยที่โรคเอดส์ระบาดใหม่ๆ มีคนบอกว่า โรคนี้ไม่มีจริงหรอก เป็นแค่อุบายให้คนไม่เที่ยว ไม่มัวเซ็กส์


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ ตุลาคม 05, 2009, 12:09:02 PM
นำทะเลสูงขึ้นซักแค่ ๑ เมตร... กรุงเทพก็นะจะกลายเป็นเมืองบาดาลแล้วครับ... อาจจะไม่เหมือนในหนัง... แต่คนก็คงอยู่กันลำบากกว่าน้ำท่วมธรรมดาแน่ๆ ครับ....


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ตุลาคม 05, 2009, 01:46:51 PM
ใครไม่เชื่อ แต่ผมเชื่อ....

ผมต้องเกี่ยวข้องกับสภาพอากาศอยู่ทุกวัน

สองสามปีมานี้ ลมแรงพายุแรง ที่ที่เคยสงบก็กลายเป็นรุนแรง

อันตรายมากขึ้นทุกวัน


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ ตุลาคม 05, 2009, 03:45:07 PM
ผมเองก็เชื่อครับ และไม่ได้เชื่อเฉพาะเรื่องน้ำที่จะท่วมโลกเท่านั้น ผมยังเชื่อเรื่องภัยพิบัติอย่างอื่น ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องรอยแตกของโลกที่เพิ่มขึ้น แผ่นดินไหว  ฯลฯ

ผมว่าการเปลี่ยนแปลงของโลกนั้นมีมานานแล้วและก็มีมาตลอด และโดยเฉพาะในปัจจุบันนี้มีมนุษย์ที่เห็นแก่ตัวมีส่วนร่วมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้วย... :P.


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 05, 2009, 04:47:46 PM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ ตุลาคม 05, 2009, 05:17:27 PM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ


แถวนี้ดีกว่าครับ...

(http://www.tourvtthai.com/home/images/stories/introduce_travel/chaiyapoom/phahumhod/phahumhod01.jpg)


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 05, 2009, 07:07:21 PM
555555


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: C-bird รักในหลวง ที่ ตุลาคม 05, 2009, 07:26:59 PM
อีกประเด็นที่น่าห่วงคือลักษณะภูมิอากาศครับ เกรงกันว่าถ้าโลกร้อนจะส่งผลกระทบต่อระบบกระแสน้ำในมหาสมุทรของโลก แลัวจะส่งผลต่อเนื่องถึงสภาพภูมิอากาศ อาจทำให้เกิดพายุรุนรงและบ่อยครั้งขึ้น น้ำท่วมก็อาจจะมาทั้งจากปริมาณน้ำฝนและอันตรายจากสตอร์มเซริจจากอิทธิพลพายุเหมือนที่พม่าโดนตอนไซโคลนนาร์กิส ( ::014::ป.ล.ลอกเข้ามาล้วนๆครับ จาก Inconvenient truth)   ยังไงก็ต้องให้ผู้เชี่ยวชาญมาอธิบายละครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 06, 2009, 05:50:47 AM
ไม่ต้องรอให้น้ำแข็งละลายหรอกครับ ..............แค่ฝนตก น้ำก็ท่วมแล้ว ................แล้วก็แห้งแล้งเหมือนเดิม .........หนาวรุนแรงอีกต่างหาก

สังเกตุดูเมื่อก่อน เมื่อมีพายุเข้า น้อยครั้งที่จะมี ความเร็วลม จะถึงระดับไต้ฝุ่น อยากมากก็แค่ ดีเปรสชั่น เดี๋ยวนี้ไต้ฝุ่น ถี่เหลือเกิน

นี่ก็เพิ่งเกิด เครื่องบินทั้งลำโดนลมหอบ หลุดจากตำแหน่งจอดมาแล้ว ไม่เคยเจอ ก็เจอแล้ว


  Six degrees could change the world


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 06, 2009, 08:05:02 AM
ไม่ต้องรอให้น้ำแข็งละลายหรอกครับ ..............แค่ฝนตก น้ำก็ท่วมแล้ว ................แล้วก็แห้งแล้งเหมือนเดิม .........หนาวรุนแรงอีกต่างหาก

สังเกตุดูเมื่อก่อน เมื่อมีพายุเข้า น้อยครั้งที่จะมี ความเร็วลม จะถึงระดับไต้ฝุ่น อยากมากก็แค่ ดีเปรสชั่น เดี๋ยวนี้ไต้ฝุ่น ถี่เหลือเกิน

นี่ก็เพิ่งเกิด เครื่องบินทั้งลำโดนลมหอบ หลุดจากตำแหน่งจอดมาแล้ว ไม่เคยเจอ ก็เจอแล้ว


  Six degrees could change the world
ที่สุวรรณภูมิหรือครับ ผมเคยเห็น ที่ JFK ที่  NEW YORK


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 08, 2009, 06:42:03 PM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ
จะไปอยู่ ปากช่องแล้วครับ ญาติขายที่ให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 550 เมตรครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 08, 2009, 06:59:24 PM
 :) โลกร้อนทำให้ปริมาณน้ำมากขึ้นเป็นไปได้ครับ แต่มนุษย์มีวิวัฒนาการอยู่ร่วมกับธรรมชาติมาโดยตลอด เชื่อว่าอีก 10-20 ปีเราก็ยังมีกรุงเทพฯอยู่ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ตุลาคม 08, 2009, 07:45:19 PM
:) โลกร้อนทำให้ปริมาณน้ำมากขึ้นเป็นไปได้ครับ แต่มนุษย์มีวิวัฒนาการอยู่ร่วมกับธรรมชาติมาโดยตลอด เชื่อว่าอีก 10-20 ปีเราก็ยังมีกรุงเทพฯอยู่ครับ

น่าจะมีการสร้างเขื่อนป้องกันน้ำครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เมียหลวงสั่งถอย เมียน้อยสั่งลุย ที่ ตุลาคม 08, 2009, 08:09:30 PM
ผมว่าท่วมนะ แล้วก็ค่อยๆกลับมาแห้งใหม่ โลกเราก็หมุนเวียนไปแบบนี้แหละครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ ตุลาคม 09, 2009, 11:07:07 AM
ผมว่าท่วมนะ แล้วก็ค่อยๆกลับมาแห้งใหม่ โลกเราก็หมุนเวียนไปแบบนี้แหละครับ

แฮ่ แฮ่ รอให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้งก็ได้ครับ น้ำจะแห้งมาก ตามอายุของโลกแล้วแป๊ปเดียวครับ ไม่กี่หมื่นปี

คนเราเราเป็นแค่แขกขาจรในดาวดวงนี้เท่านั้น มหาสมุทรแอตแลนติด ที่คนเราดีใจกันใหญ่ตอนบินข้ามไม่หยุดได้เป็นครั้งแรกนั้น เกิดเป็นมหาสมุทรได้เพราะทวีปเมกาซึ่งเคยติดกับทวีปอัฟริกาเคลื่อนออกจากกันปีละ 1 นิ้ว จนกลายเป็นมหาสมุทร บรรยากาศก็เปลี่ยนมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

สิ่งมีชีวิต 2 ขา จะเกิดมาอย่่างไร อยู่อย่างไร ตายไปอย่างไร ไม่มีความสำคัญอะไรกับเนื้อแท้ของดาวดวงนี้นัก


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ ตุลาคม 09, 2009, 08:55:17 PM
ผมว่าท่วมนะ แล้วก็ค่อยๆกลับมาแห้งใหม่ โลกเราก็หมุนเวียนไปแบบนี้แหละครับ

แฮ่ แฮ่ รอให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้งก็ได้ครับ น้ำจะแห้งมาก ตามอายุของโลกแล้วแป๊ปเดียวครับ ไม่กี่หมื่นปี

คนเราเราเป็นแค่แขกขาจรในดาวดวงนี้เท่านั้น มหาสมุทรแอตแลนติด ที่คนเราดีใจกันใหญ่ตอนบินข้ามไม่หยุดได้เป็นครั้งแรกนั้น เกิดเป็นมหาสมุทรได้เพราะทวีปเมกาซึ่งเคยติดกับทวีปอัฟริกาเคลื่อนออกจากกันปีละ 1 นิ้ว จนกลายเป็นมหาสมุทร บรรยากาศก็เปลี่ยนมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

สิ่งมีชีวิต 2 ขา จะเกิดมาอย่่างไร อยู่อย่างไร ตายไปอย่างไร ไม่มีความสำคัญอะไรกับเนื้อแท้ของดาวดวงนี้นัก


แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งมีชีวิตสองขาที่ว่านี้... เป็นตัวการหลักที่ทำให้โลกถึงกาลวิบัติเร็วขึ้นครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ ตุลาคม 09, 2009, 09:08:11 PM
ผมว่าท่วมนะ แล้วก็ค่อยๆกลับมาแห้งใหม่ โลกเราก็หมุนเวียนไปแบบนี้แหละครับ

แฮ่ แฮ่ รอให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้งก็ได้ครับ น้ำจะแห้งมาก ตามอายุของโลกแล้วแป๊ปเดียวครับ ไม่กี่หมื่นปี

คนเราเราเป็นแค่แขกขาจรในดาวดวงนี้เท่านั้น มหาสมุทรแอตแลนติด ที่คนเราดีใจกันใหญ่ตอนบินข้ามไม่หยุดได้เป็นครั้งแรกนั้น เกิดเป็นมหาสมุทรได้เพราะทวีปเมกาซึ่งเคยติดกับทวีปอัฟริกาเคลื่อนออกจากกันปีละ 1 นิ้ว จนกลายเป็นมหาสมุทร บรรยากาศก็เปลี่ยนมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

สิ่งมีชีวิต 2 ขา จะเกิดมาอย่่างไร อยู่อย่างไร ตายไปอย่างไร ไม่มีความสำคัญอะไรกับเนื้อแท้ของดาวดวงนี้นัก


แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งมีชีวิตสองขาที่ว่านี้... เป็นตัวการหลักที่ทำให้โลกถึงกาลวิบัติเร็วขึ้นครับ... ::014::

มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดเดียวบนโลกที่รู้ว่าทำอะไรลงไปแล้วผลออกมาจะทำร้ายตัวเอง แต่ก็ยังทำต่อไปโดยไม่สนใจ 

เหมือนก่อไฟต้มตัวเองโดยที่น้ำค่อย ๆ ร้อนขึ้น ๆ  แต่เรายังทะนงตัวเองว่าตัวเองฉลาด  ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ ตุลาคม 10, 2009, 12:23:35 AM
ก็ เราดันมีสมองที่เป็นเลิส นี่นะ แต่เอาไปใช้ในทางไม่ดีซะมาก...............


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ ตุลาคม 10, 2009, 10:23:00 AM
ผมว่าท่วมนะ แล้วก็ค่อยๆกลับมาแห้งใหม่ โลกเราก็หมุนเวียนไปแบบนี้แหละครับ

แฮ่ แฮ่ รอให้เกิดยุคน้ำแข็งอีกครั้งก็ได้ครับ น้ำจะแห้งมาก ตามอายุของโลกแล้วแป๊ปเดียวครับ ไม่กี่หมื่นปี

คนเราเราเป็นแค่แขกขาจรในดาวดวงนี้เท่านั้น มหาสมุทรแอตแลนติด ที่คนเราดีใจกันใหญ่ตอนบินข้ามไม่หยุดได้เป็นครั้งแรกนั้น เกิดเป็นมหาสมุทรได้เพราะทวีปเมกาซึ่งเคยติดกับทวีปอัฟริกาเคลื่อนออกจากกันปีละ 1 นิ้ว จนกลายเป็นมหาสมุทร บรรยากาศก็เปลี่ยนมาไม่รู้เท่าไหร่แล้ว

สิ่งมีชีวิต 2 ขา จะเกิดมาอย่่างไร อยู่อย่างไร ตายไปอย่างไร ไม่มีความสำคัญอะไรกับเนื้อแท้ของดาวดวงนี้นัก


แต่ผมรู้สึกว่าสิ่งมีชีวิตสองขาที่ว่านี้... เป็นตัวการหลักที่ทำให้โลกถึงกาลวิบัติเร็วขึ้นครับ... ::014::

ที่จริงตัวดาวเคราะห์โลกจริงๆ ไม่วิบัติครับ เพียง "แค่" ไม่เหมาะกับการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต 2 ขานี้เท่านั้น


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 10, 2009, 10:58:52 AM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ

 ท่วมแน่นอนครับมีที่รีบๆปล่อยออกเลยครับ ::005:: ::005::

ปล ผมพอจะช่วยๆรับไว้ได้บ้างครับ ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ตุลาคม 10, 2009, 02:22:51 PM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ

 ท่วมแน่นอนครับมีที่รีบๆปล่อยออกเลยครับ ::005:: ::005::

ปล ผมพอจะช่วยๆรับไว้ได้บ้างครับ ::008:: ::008::

 :D น้ำยังไม่ท่วมเลย... ลงอวนหาปลาแล้วหรอครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 10, 2009, 02:30:03 PM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ

 ท่วมแน่นอนครับมีที่รีบๆปล่อยออกเลยครับ ::005:: ::005:: ::007::

ปล ผมพอจะช่วยๆรับไว้ได้บ้างครับ ::008:: ::008::

 :D น้ำยังไม่ท่วมเลย... ลงอวนหาปลาแล้วหรอครับ
55555


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 10, 2009, 03:59:57 PM
เรียบเก็บเงินไปซื้อบ้านบนภูเขาดีกว่า แต่ไม่รู้จะเก็บทันมั้ยน้า
กำลังเก็บเงินซื้อเหมือนกัน
แถวบนเขา ปากช่องรอดน้ำท่วมเปล่าครับ

 ท่วมแน่นอนครับมีที่รีบๆปล่อยออกเลยครับ ::005:: ::005::

ปล ผมพอจะช่วยๆรับไว้ได้บ้างครับ ::008:: ::008::

 :D น้ำยังไม่ท่วมเลย... ลงอวนหาปลาแล้วหรอครับ


    ;D ;Dบ้านผมเรียกดักไซแห้งครับ แหะ แหะ ยกตัวอย่างเช่น เย็นๆ อยากกินเบียร์แต่เม้มเงินเมียมาไม่ได้ก็แกล้งเดินเตร่ๆ
ไปแถวๆร้านค้าหากเจอคนรู้จักนั่งกินอยู่เขาก็เรียกกินสบายพุงไป ::008:: ::008::
 แต่ถ้าแห้วก็เข้ากับสำนวนที่ว่า ฝัดด้งเปล่า ;D ;D ด้งคือเครื่องจักสานที่ชาวบ้านเอาไว้ฝัดข้าว
คือประมาณหวังลมๆแล้ง ผิดหวังเสียเวลา ซัมติงไหลแด่ด ครับ ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Tืa์M๊ ┇รัnใuxaวJ ที่ ตุลาคม 10, 2009, 07:19:42 PM
อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา  เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป   
มันเป็นไปตามกฎของการกระทำครับ   ทำอะไรก็ได้อย่างนั้น


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ตุลาคม 10, 2009, 07:23:19 PM

         อ้อ .... บังดุลหยบมาฝัดด้งเปาอยู่ที่นี่เอง ..... อิ อิ



หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ ตุลาคม 10, 2009, 07:25:21 PM

         อ้อ .... บังดุลหยบมาฝัดด้งเปาอยู่ที่นี่เอง ..... อิ อิ



 ลุงปูเปิดขวด ให้กลิ่นมันโชยมาซิครับมาจะไปปรากฏตัวในทันใด ::008:: ::008::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 16, 2009, 10:03:19 AM
สงสัย 10 ปีเห็นผลน้ำท่วมแน่ครับ    จาก Mcot.net
เตือนอีก 10 ปี น้ำแข็งขั้วโลกเหนือช่วงฤดูร้อนจะละลายหมด ครับ  http://news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTM3NTQ1Jm50eXBlPWNsaXA= (http://news.mcot.net/international/inside.php?value=bmlkPTM3NTQ1Jm50eXBlPWNsaXA=)


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ ตุลาคม 24, 2009, 04:26:19 PM
ออสเตรเลียเริ่มรณรงค์ เรื่องโลกร้อนแล้วครับออสเตรเลียเปิดฉาก รณรงค์โลกร้อนทั่วโลก
 24 ตค. 2552 15:15 น. กรุงเทพธุรกิจ on line


นักเคลื่อนไหวด้านการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศโลกจำนวนหลายพันคน ออกมาชุมนุมกันที่โอเปร่าเฮ๊าซ์ ในเมืองซิดนี่ย์ และตามสถานที่สำคัญอื่นๆทั่วออสเตรเลียวันนี้ เพื่อเปิดฉากการชุมนุมทั่วโลก ที่เชื่อว่าเป็นการเพื่อผลักดันครั้งใหญ่ที่สุด เพื่อให้โลกเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

ที่โอเปร่าเฮ๊าซ์ ก็มีผู้มารวมตัวกันราว 2 พันคน และด้วยความช่วยเหลือของร่มสีน้ำเงิน พวกเขาจัดขบวนเป็นรูปเลข 350 อย่างที่หาดแมนลี่ ผู้ชุมนุมก็จัดขบวนเป็นรูปตัวเลข 350 บนผืนทราย ขณะที่ทั่วรัฐนิวเซ๊าธ์เวลส์ ก็มีงานชุมนุมรณรงค์ในเรื่องนี้ราว 50 งาน

ทางผู้จัดงานบอกว่า การชุมนุมคล้ายๆกันนี้ ยังจะมีขึ้นตามจุดต่างๆของประเทศมากกว่า 150 จุด ขณะที่ใน 170 ประเทศทั่วโลก ก็จะมีการชุมนุมมากมายหลายพันจุด เพื่อเรียกร้องให้โลกช่วยกันลดปริมาณก๊าซคาร์บอนในชั้นบรรยากาศให้อยู่ที่ระดับ 350 ส่วนต่อล้านส่วน ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นระดับที่ปลอดภัย เพราะไม่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ
 
 
 






หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: vuttichai ที่ ตุลาคม 24, 2009, 07:07:57 PM
ผมเชื่อว่าเป็นจริงแต่คงอีกนานเกิดแล้วตายหลายๆรอบ เมือก่อนไม่เชื่อเดี๋ยวนี้เชื่อ ปีนี้บ้านผมโดนน้ำท่วมเข้าบ้านน้ำป่าทะลักเข้ามาตอนดึกๆพร้อมเลนดำๆแดงๆเต็มบ้านทั้งหลัง ผมเข้านอนหลับแล้วด้วยแล้วลูกผมยังนั่งเล่นคอมอยู่ มาปลุกบอกว่าน้ำเข้าบ้าน ผมก็นึกว่าเล็กน้อยที่ไหนใด้เต็มทั้งบ้านยันเตียงนอน งงครับขนของไม่ทันน้ำป่าใหลแรงมาก งงจริงๆอายุ 49 เพิ่งเจอน้ำท่วมบ้านเพราะเขาพัง บ้านอย่ใกล้เขาครับ ล้างบ้าน 3-4 วันโครตเหนื่อยมากๆๆๆ บ้านอยู่ใกล้เขาธรรมชาติดีแต่จากนั้นมาพอฝนตกแรงๆผมนอนสะดุ้งผวาตอนฟ้าผ่าฟ้าร้องแถมชอบออกมาดูน้ำหน้าบ้านกรรมจริงๆ เชื่อมั๊ยเวลาน้ำป่าพัดมาแรงๆของมันลอยออกหน้าบ้านผมยืนเซ่อเก็บของไม่ทันเลย ยังดีที่เป็นบ้าน 2 ชั้น เมียกับลูกเดินขึ้นเดินลง 2 ชั้นมีแต่เลนตามบันใดเศร้าครับ.โอ่งมังกรมันยังวิ่งตามน้ำเฉยเลยครับ. ::004::


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤศจิกายน 02, 2009, 05:48:17 AM
เมื่อคืนดู เรื่อง การเตือน ในปี 2012 ใน ubc history channel ไม่รู้จะเกิด อะไรขึ้น ท่านใดมีข้อมูลมาเล่าให้ฟังบ้างนะครับ แต่อย่างมงาย ผมว่า :)


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤศจิกายน 12, 2009, 12:26:01 PM
จาก ไทยรัฐ on line ครับ

กองทุนสัตว์ป่าโลกเผยผลศึกษา 11 เมืองใหญ่ในเอเชีย รวมถึง กทม. เสี่ยงภัยจากสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง กรุงธากา-มะนิลา-จาการ์ตา จะได้รับผลกระทบมากที่สุดจากระดับน้ำทะเลสูงขึ้น และลมพายุ..

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 12 พ.ย. ว่า กองทุนสัตว์ป่าโลก (ดับเบิลยูดับเบิลยูเอฟ) ได้ศึกษาถึงภัยคุกคาม 11 เมืองใหญ่ในเอเชีย ที่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลและสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ โดยให้คะแนน 1-10 ประเมินผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและความสามารถในการปรับตัว พบว่านครกัลกัตตาในอินเดีย กรุงพนมเปญ นครโฮจิมินห์ ซิตี นครเซี่ยงไฮ้ กรุงเทพฯ ฮ่องกง กรุงกัวลาลัมเปอร์ และสิงคโปร์ เป็นเมืองแรกๆ ที่จะได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางรับมือเพื่อหลีกเลี่ยงอันตราย เพราะนอกจากเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตประชากรหลายล้านคนแล้วยังมีผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและการเติบโตของตัวเลขจีดีพีอีกด้วย

อย่างไรก็ดี ผลการศึกษายกให้กรุงธากา นครหลวงของบังกลาเทศ เป็นเมืองใหญ่ในเอเชียที่ตกอยู่ในอันตรายมากที่สุด โดยให้คะแนนความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 9 เต็ม 10 เนื่องจากเมืองนี้มีประชากรมาก และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลปัจจุบันไม่กี่เมตร อีกทั้งมักได้รับผลกระทบจากพายุไซโคลนส่งผลให้เกิดอุทกภัย ขณะที่ความสามารถในการปรับตัวของกรุงธากาก็มีอยู่อย่างจำกัดมาก

กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซีย และกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 8 เท่ากัน เนื่องจากเป็นเมืองขนาดใหญ่ที่มีโอกาสเกิดอุทกภัยอยู่เป็นประจำ และมีความสามารถในการปรับตัวต่ำเมื่อเทียบกับเมืองอื่น โดยผลสำรวจพบว่า กรุงจาการ์ตามีความเสี่ยงในการสูญเสียผืนดินอย่างรวดเร็ว เพราะระดับน้ำทะเลในอ่าวจาการ์ตาจะสูงขึ้นปีละ 2 นิ้ว ทำให้พื้นที่ทางตอนเหนือจำนวน 160 ตารางกิโลเมตร จะจมอยู่ใต้น้ำในปี 2593 และบางพื้นที่จะถูกน้ำท่วมถาวร 

ด้านฮ่องกง กัวลาลัมเปอร์ และสิงคโปร์ มีความอ่อนแอน้อยที่สุดเมื่อพบกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากเมืองเหล่านี้มีฐานะร่ำรวยและรัฐบาลที่เข้มแข็ง โดยที่ฮ่องกงจะพบกับภัยคุกคามจากพายุและระดับน้ำทะเล ส่วนกรุงกัวลาลัมเปอร์จะพบภัยคุกคามสำคัญจากน้ำท่วมและดินถล่มจากลมพายุ 

ทั้งนี้ แถลงการณ์ของกองทุนสัตว์ป่าโลก ระบุว่า เมืองในเอเชียขยายตัวอย่างรวดเร็ว ดังนั้นพื้นที่เขตเมืองจะเป็นสมรภูมิสำคัญในการต่อสู้กับสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤศจิกายน 20, 2009, 11:10:51 AM
อันนี้มี 2012 ปนอยู่ด้วยครับ ข้อมูลจาก ไทยรัฐ on line ครับ
www.thairath.co.th/content/life/47664 (http://www.thairath.co.th/content/life/47664)


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤศจิกายน 25, 2009, 10:42:50 AM
ใช้น้ำเพิ่มช่วยลดน้ำท่วม ได้เปล่าครับ
จาก ไทยรัฐ on line ครับ


 ภายในปี 2030 ปริมาณความต้องการใช้น้ำทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์จากความต้องการใช้น้ำในปัจจุบัน โดยเฉพาะในประเทศอินเดียที่คาดว่าจะเพิ่มถึง 2 เท่าเลยทีเดียว

สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานเมื่อ 24พ.ย.ว่า “กลุ่มทรัพยากรน้ำ 2030” ซึ่งทำการศึกษาความต้องการใช้น้ำในชาติเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างจีน อินเดีย แอฟริกาใต้และนครเซา เปาโลในบราซิล พบว่าความต้องการใช้น้ำของอินเดียจะเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในปี 2030 ซึ่งอาจถึงกับทำให้ลุ่มแม่น้ำหลายแห่งในประเทศต้องแห้งขอดเลยทีเดียว

ขณะที่ความต้องการใช้น้ำทั่วโลกภายในปี 2030 จะเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์จากความต้องการใช้น้ำในปัจจุบัน โดยมีภาคการเกษตร คาดว่าจะต้องการน้ำมาใช้สูงถึง 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนปริมาณความต้องการใช้น้ำของ 4 พื้นที่ที่ทำการศึกษาข้างต้นภายในปี 2030 จะใช้น้ำรวมกันคิดเป็น 42 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการใช้น้ำทั่วโลก

กรณีของอินเดีย ความต้องการข้าว ข้าวสาลีและน้ำตาล มาเลี้ยงพลเมืองที่มีจำนวนมากติดอันดับต้นๆของโลก จะผลักดันให้ภาคเกษตรของอินเดีย ใช้น้ำมากถึง1.5ล้านล้านลูกบาศก์เมตรภายในปี2030 หรือเกือบสองเท่าที่จีนต้องการใช้ ส่วนครึ่งหนึ่งของการต้องการน้ำของจีนภายในปี2030 คาดว่าจะมาจากภาคเกษตร ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการใช้ 32 เปอร์เซ็นต์

รายงานข้างต้น ยังแนะนำด้วยว่าการลงทุนและนโยบายใหม่ๆ สามารถลดช่องว่างระหว่างปริมาณและความต้องการใช้น้ำได้ เช่น การพัฒนาเพิ่มแหล่งและปริมาณน้ำรวมทั้งให้ปรับหันมาทำการเกษตรแบบยั่งยืน ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม

 
 


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Twitter 125 ที่ พฤษภาคม 12, 2013, 03:10:06 PM
อาจจะดูจากที่เห็นแล้วจึงตั้งเป็นทฤษฎีความน่าจะเป็น
ซึ่งความจริงอาจเกิดหรือไม่เกิดก็ได้


หัวข้อ: Re: เรื่องโลกร้อนทำให้น้ำท่วมเรื่องจริงหรือโกหกครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ พฤษภาคม 13, 2013, 03:35:03 PM
ครับผมไปซื้อที่ดินสูงๆไว้แล้วครับ