เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผมศึกษาจากกระทู้ต่างๆในเวปนี้ ส่วนใหญ่ จะเจอปัญหาในเรื่องการขอ ป3,ป4, รวมทั้งกฏหมายอื่นๆที่เกี่ยวกับปืน
จึงอยากถามความคิดเห็นและแนวทางที่น่าจะเป็นไปได้ดังนี้ครับ
 1.  จากปัญหาข้อกฏหมาย พรบ.อาวุธปืน เช่นหลักเกณฑ์การขออนุญาตรวมถึง คำสั่งเรื่องขนาดปืนที่อนุญาตทำให้มีปัญหาเวลาขอใบอนุญาติปืนบางขนาดเช่น .357 หรือ.45
 2.  ระเบียบ,กฏกระทรวงต่างๆที่เกี่ยวข้อง

     พวกเราสามารถเข้าชื่อเพื่อขอแก้ไขกฏหมายได้หรือไม่ครับ  น่าจะแก้ไขข้อใดบ้างครับขอความเห็นครับ

ด้วยความเคารพ..... ปัญหาในการขออนุญาตฯอาวุธปืนที่หลายท่านประสบอยู่ มาจากการไม่ปฎิบัติตามกฎหมายของนายทะเบียนฯครับ
ตัวกฎหมายเอง(แทบ)ไม่มีปัญหา......ที่เป็นอยู่คือการใช้ดุลพินิจไม่ชอบ เลือกปฏิบัติ .... รวมถึงข่าวการเรียกรับเงิน ต่างหาก
การเรียกร้องให้แก้ไขตัวพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ เป็นการเข้าทาง .... ที่มท.มีความพยายามแก้ไขเพิ่มอำนาจตัวเองอยู่

ขอเล่าเรื่องเมื่อปี 2551.........

กรมการปกครองได้จัดให้มีการประชุมสัมมนา เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียหรือผู้อยู่ใต้บังคับกฎหมายตามพ.ร.บ.อาวุธปืนฯ เมื่อวันที่ 8 พ.ค. 2551 เพื่อนำความคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาในการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพ.ร.บ.ที่กรมการปกครองได้มีการยกร่างไว้.......

มีการจัดแบ่งกลุ่มสัมมนาเป็น 4 กลุ่ม คือ
1/ผู้เกี่ยวข้องของมหาดไทย
2/ขรก.หน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง
3/ผู้ประกอบการค้าอาวุธปืน
4/ประชาชน

......สพป. ไปในฐานะ...ประชาชน...ผู้อยู่ใต้บังคับกฎหมาย  ;D

ประเด็นเนื้อหา มี 9 ประเด็น เกี่ยวเนื่องด้วย....

1. ตัวพ.ร.บฯ ได้แก่

1.1/ การแก้ไขปัญหา BB Gun และสิ่งเทียมอาวุธปืน
1.2/ สนามยิงปืน
1.3/ อำนาจหน้าที่ของนายทะเบียน และเจ้าหน้าที่
1.4/ การควบคุมการซ่อม เปลี่ยนแปลง แก้ไข อาวุธปืน
1.5/ ยกเว้นการบังคับเรื่อง “ภูมิลำเนา 6 เดือน” ตามมาตรา 13 ให้แก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
1.6/ อำนาจในการออกใบอนุญาต ป.12
1.7/ ดอกไม้เพลิง
1.8/ อำนาจนายทะเบียนในการเปรียบเทียบปรับ
1.9/ เกี่ยวกับบุคคลต้องโทษตามมาตรา 13

2. ข้อกำหนดในกฎกระทรวง

2.1/ ซองกระสุนเกิน 10 นัด
2.2/ ปืนขนาด 11 มม.

............................
หัวข้อในข้อ 1 ส่วนใหญ่เพื่อเพิ่มอำนาจให้มท.
ในข้อ 2.2 อยากออกเป็นกฎหมาย ให้ .45 เฉพาะจนท. (ข้อนี้น่าจะตกไปแล้วเพราะขัดรัฐธรรมนูญ)
ข้อ 2.1 เป็นแรงผลักดันจากหลายฝ่าย จนมีการแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องซองกระสุนไปเรียบร้อยแล้ว -- อันนี้เป็นประโยชน์  ::002::

แต่รายการตาม 1 มันยาวเพราะต้องเสนอผ่านสภาผู้แทนราษฎร หลายกระบวนการและขั้นตอน
จับตาดูกันก็แล้วกันครับ

ส่วนการเข้าชื่อแก้ไขกฎหมาย ลองดูบัญญัติเงื่อนไขในรัฐธรรมนูญให้ชัด... ถ้าทำๆได้..ค่อยมาร่างพ.ร.บ.อาวุธปืน ฉบับประชาชนก็แล้วกัน  ;)

ถ้า สมช. เว็ป อวป. จะเข้าชื่อขอแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืน  ให้ไม่ต้องผ่านความเห็นชอบจากนายทะเบียน

แค่มีคุณสมบัติครบตามกฎหมายกำหนดก็ขอมีอาวุธปืนได้ จะได้รึไม่ครับ (สมาชิกเว็ป อวป. น่าจะมีหลายหมื่น)   ::014::

           ปัญหากับนายทะเบียนที่เลือกปฏิบัติหรือไม่ทำตามที่กฏหมายกำหนด เรามีศาลปกครองไว้ต่อกรกับพวกนายทะเบียนที่มีเขาอยู่หน้าบ้านแล้วครับ
 
                               ผมกลับมองว่าปัญหาของอาวุธปืนบ้านเราจริงๆแล้ว มาจากระบบการนำเข้า(ที่ทำให้ปืนแพง มหาโหด)มากกว่า ซึ่งตรงนี้ใครจะช่วยเราหรือเข้ามาแก้ไข เพราะมันเอื้อกันไปหมดทั้ง พ่อค้า ข้าราชการ และนักการเมือง ดูอย่างโครงการต่างๆที่มีตอนนี้สิครับ ชาวบ้านตาดำๆ คิดกันไปเองว่าเมื่อมีปืนถูกๆเข้ามาเพื่อให้ จนท.(อันนี้ก็งงครับ จนท.ปฏิบัติหน้าที่ราชการ กลับต้องซื้อปืนใช้เอง)ไม่ต้องมาแย่งโควต้ากับประชาชนทั่วไป แล้วจะทำให้ปืนมีราคาสมเหตุสมผลขึ้น (ไม่ได้ต้องการให้ถูกเหมือนกับที่เมืองลุงแซมนะครับ) กลับไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะว่าร้านค้าปืนได้กำไรจากการขายปืนโครงการแล้ว เวลาขายปืนหน้าร้านก็ไม่ต้องง้อลูกค้ากันอีกต่อไป สมาคมผู้ประกอบการธุรกิจฯ จึงได้รวมตัวกันตั้งราคามหาโหดแบบตามใจชอบอย่างทุกวันนี้

         จากสมองอันน้อยนิดที่มี  ผมคิดว่าทางแก้ง่ายๆ ไม่ต้องยกเลิกระบบโควต้าที่บรรดาร้านค้าฯ ต่างๆหวงนักหวงหนาไม่อยากให้ไปแตะต้อง ก็คือ ออก ป ๒. (โดยเรียกเก็บค่าใบอนุญาต แบบว่าใบละหมื่นสองหมื่น ผมว่ายังมีคนพร้อมที่จะจ่ายเพราะรวมแล้วจะก็ยังถูกกว่าทุกวันนี้) ส่วนบุคคลให้เหมือนกับในอดีตที่ผ่านมาแสนจะยาวนานโดยไม่ต้องผ่านโควต้าของร้านครับ เมื่อนำเข้าได้เอง รายได้ทุกอย่างทีรัฐสมควรจะได้มันก็จะตรวจสอบง่าย ทั้งภาษีการนำเข้า สรรพสามิต มูลค่าเพิ่มทั้งหลายแหล่ ไม่ต้องคอยมาหลบมาเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาแบบทุกวันนี้  ได้เวลาตื่นไปทำงานแล้วครับ ขอตัวก่อนนะครับผม  ::007::  ::014::

   

การเข้าชื่อหนึ่งหมื่นคนเสนอกฎหมายตามรัฐธรรมนูญมาตรา 163 นั้น ต้องเป็นพระราชบัญญัติในหมวด 3 และหมวด 5
หมวด 3 ว่าด้วยสิทธิและเสรีภาพของชนชาวไทย  หมวด 5 ว่าด้วยแนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ

ผมเกรงว่ากฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนจะไม่อยู่ทั้งในหมวด 3 และหมวด 5 ........... ผมจึงคิดว่า ทำไม่ได้ครับ

ขอบคุณครับคุณอาธำรง ผมเพิ่งทราบจากที่คุณอาโพสต์เนี่ยแหละครับ  ::014::

รวบรวมรายชื่อทั่วประเทศขอ ป. 12 ดีกว่าครับ....
         อยากฮา....แต่ฮา...ไม่ออก...ครับท่านพี่น้อง ::007:: ::007:: ::007::

ข้อนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของปัญหาครับผมเห็นด้วยทุกประการ ไม่ทราบว่าจากประเด็นนี้เราพอจะมีแนวทางเรียกร้องได้หรือเปล่าครับ เพราะจากปัญหาปืนถูกต้องตามกฏหมายมีราคาแพง ( มากๆ ) อาจทำให้หลายท่านหันไปคบหาปืนที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งน่าไม่เป็นการดีนักต่อความปลอดภัยของประชาชนและความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ( ความเห็นส่วนตัวครับ )
เนื่องจากเมื่อนำไปก่อเหตุร้ายจะยากต่อการตรวจสอบที่มาที่ไป เหมือนกับว่า เป็นการกึ่งๆกีดกันให้คนที่จำเป็น ( อยาก ) มีปืนไว้ในครอบครอง ทำถูกกฏหมายได้ยากหรือเปล่าครับ

1. ตัวพ.ร.บฯ ได้แก่

1.1/ การแก้ไขปัญหา BB Gun และสิ่งเทียมอาวุธปืน
1.2/ สนามยิงปืน
1.3/ อำนาจหน้าที่ของนายทะเบียน และเจ้าหน้าที่
1.4/ การควบคุมการซ่อม เปลี่ยนแปลง แก้ไข อาวุธปืน
1.5/ ยกเว้นการบังคับเรื่อง “ภูมิลำเนา 6 เดือน” ตามมาตรา 13 ให้แก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ
1.6/ อำนาจในการออกใบอนุญาต ป.12
1.7/ ดอกไม้เพลิง
1.8/ อำนาจนายทะเบียนในการเปรียบเทียบปรับ
1.9/ เกี่ยวกับบุคคลต้องโทษตามมาตรา 13

2. ข้อกำหนดในกฎกระทรวง

2.1/ ซองกระสุนเกิน 10 นัด
2.2/ ปืนขนาด 11 มม.

จากหัวข้อตามที่คุณธำรงเล่ามา ผมก็พึ่งทราบครับมองแล้วยังไม่เห็นว่ามีข้อใดที่ประชาชน ( ผู้นิยมปืน ) ได้ประโยชน์เลยซักข้อ
ต้องขอบพระคุณครับที่ให้ความรู้  ส่วนข่าวคราวความคืบหน้ากรณีดังกล่าวหากพอมีข้อมูลคงต้องรบกวนให้ความรู้ต่อด้วยครับ ::014::

ข้อ 2.1 ได้ประโยชน์ครับ ... เคยมีผู้ถูกจับกุมดำเนินคดีเพราะมีซองกระสุนจุเกิน 10 นัด

ตอนนี้ได้มีการแก้ไขแล้ว....
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=71078.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=71078.0)
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/A/054/1.PDF (http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2552/A/054/1.PDF)

ตัวกระผมเองมีความรู้น้อยครับ แต่อยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยครับ



   ทางแก้ก็เข้าชื่อกันเป็นหางว่าวสิครับ แล้วส่งเรื่องให้ผู้ตรวจการแผ่นดิน พิจารณา ตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2552 มาตรา 14 (1) , (2) และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังทำข้อเสนอแนะความเห็นถึง รมต.มท. ยังได้นะครับ

ตามที่ คุณ ธำรง บอกมา ครับ  ไม่เกี่ยวกับ ข้อบัญญัติของกฎหมาย  แต่มันเกี่ยวกับ ตัวบุคคล ที่กระทำแบบผิดหลง คิดว่ากฎหมายให้อำนาจไว้

เมื่อกระทำไม่ถูกต้อง กฎหมายยังได้เปิดช่องทางไว้ ให้ดำเนินการ กับคำสั่งที่ไม่ชอบนั้น .

ขอบคุณครับท่านrambo1th  ประเด็นเป็นอย่างที่ท่านRo@dชี้ เราอาจต้องใช้มาตรา ๑๓ .......

มาตรา ๑๓  ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอำนาจหน้าที่ ดังต่อไปนี้
   (๑) พิจารณาและสอบสวนหาข้อเท็จจริงตามคำร้องเรียนในกรณี
      (ก) การไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หรือปฏิบัตินอกเหนืออำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น
      (ข) การปฏิบัติหรือละเลยไม่ปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ หรือราชการส่วนท้องถิ่น ที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ร้องเรียนหรือประชาชนโดยไม่เป็นธรรม ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ก็ตาม
.........................................
 

ปล. เพิ่มเติมว่า....ผมชักเห็นแนวทางว่าการสู้ทางศาลปกครองต้องอาศัยเวลา การร้องเรียนผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินอาจรวดเร็วกว่า ... น่าลองดูครับ

       ผมให้ความเห็นเรื่องระบบโควต้าที่เป็นสาเหตุให้ปืนมีราคาแพงขึ้น 3- 4 เท่าของราคาต่างประเทศ แต่ไม่ว่า
จะแพงขึ้นมากขนาดไหน ก็ยังมีคนต้องการซื้อมาครอบครองเพื่อเป็นหลักประกันในความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์
สิน แม้บางคนอาจต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับใบอนุญาตต่างๆ นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด ก็ต้องยอมจ่ายเพื่อให้
ได้รับอนุญาต เพราะความปลอดภัยในชีวิตสำคัญกว่าทรัพย์สินที่ต้องจ่ายมากกว่า
       สิ่งนี้เองครับที่เป็นเครื่องยืนยันว่าว่า จนท.รัฐ(บางคน)อาศัยความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชา
ชน เรียกรับผลประโยชน์ต่างๆเพื่อแลกกับการได้รับอนุญาต ครั้นจะนำไปฟ้องศาลปกครองก็ใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าจะ
เสร็จสิ้นกระบวนการ และไม่ใช่เรื่องสนุกแน่ที่ไปมีเรื่องฟ้องร้องกับเจ้าคนนายคนที่เป็นข้าราชการปกครองบนอำเภอ
เพราะเขาสามารถเข้าถึงกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านใน คิดดูเถอะครับ มีโครงการอะไรที่เป็นสวัสดิการของรัฐ ไม่มีทางตกถึงมือ
เราแน่ ข่าวสารต่างๆของทางราชการที่ควรจะได้รับก็ถูกปิดกั้น ก็ทำไงได้ครับ ไปมีเรื่องฟ้องร้องกับเจ้านายแบบนั้น
    ด้วยความเคารพ..... ปัญหาในการขออนุญาตฯอาวุธปืนที่หลายท่านประสบอยู่ มาจากการไม่ปฎิบัติตามกฎหมายของนายทะเบียนฯครับ
ตัวกฎหมายเอง(แทบ)ไม่มีปัญหา......ที่เป็นอยู่คือการใช้ดุลพินิจไม่ชอบ เลือกปฏิบัติ .... รวมถึงข่าวการเรียกรับเงิน ต่างหาก
การเรียกร้องให้แก้ไขตัวพ.ร.บ. อาวุธปืนฯ เป็นการเข้าทาง .... ที่มท.มีความพยายามแก้ไขเพิ่มอำนาจตัวเองอยู่   
    ยกเว้นกรุงเทพมหานคร ผมเชื่อได้เลยครับว่านายทะเบียน(หลายๆคน)ใช้ดุลพินิจโดยไม่เป็นธรรมกับประชาชนในการออก
ใบอนุญาตเกี่ยวกับอาวุธปืน บางท้องที่ปากบอกไม่ออกใบอนุญาตขนาด.45 ให้กับประชาชน แต่ผมเห็นเจ้าของบ่อดินลูกรังก็
ได้รับอนุญาต.45 ตั้งหลายกระบอก เจ้าของร้านอาหารก็ไปขอทั้ง.357 และ.45 ได้ในการยื่นเรื่องในวันเดียวกัน ก็ได้มาแล้ว
ตัวอย่างเล็กๆน้อยๆเหล่านี้ แม้ผมจะไม่สามารถนำหลักฐานมายืนยันได้ว่าเป็นเรื่องจริง แต่ผมยืนยัน(ในเบื้องต้น)ว่านี่คือเรื่องจริง
ที่อยากสะท้อนให้อีกหลายๆคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้ดุลพินิจของนายทะเบียน
    สิ่งที่ผมอยากให้แก้กฎหมายพรบ.อาวุธปืนมากที่สุด คืออยากให้กฎหมายมองชีวิตสำคัญกว่าทรัพย์สินครับ  เพราะทุกวันนี้ ลอง
ไปอ่านดูหลายๆมาตรา หลายๆข้อ รวมทั้งหลายๆประกาศที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน หากไม่มีทรัพย์สินแล้ว ชีวิตท่านไม่ได้ดีมีสำคัญ
อะไรเลย พูดง่ายๆว่าพรบ.อาวุธปืน ร่างขึ้นมาเพื่อบังคับใช้กับคนรวย คนมีเงินเท่านั้น ไม่มีเงิน ไม่มีทรัพย์สิน จะไม่มีสิทธิ์มี ใช้หรือ
พกปืน ทุกวันนี้ปืนเปรียบเสมือนเครื่องประดับอย่างหนึ่งของคนรวยไปแล้ว

สิ่งที่คุณTherukกล่าวถึงเป็นความจริงในสังคมของเรา
และสิ่งเหล่านี้ต้องอาศัยพวกเราที่พอมีกำลัง(และมีความกล้า)ช่วยกันต่อสู้เพื่อสิทธิที่ชอบด้วยกฎหมาย

ผมเห็นว่าส่วนที่เป็น"กฎ" ของการควบคุมอาวุธปืนฯส่วนบุคคล ไม่มีส่วนใดที่ให้เลือกปฎิบัติด้วยเกณฑ์ของทรัพย์สิน
แม้มีแนวทางปฎิบัติซึ่งตกทอดกันมา กรมฯรวมเล่มได้ถึง 3 เล่ม ให้นายทะเบียนฯปฏิบัติ ก็เป็นเรื่องภายใน ไม่ใช่กฎหมาย

บัญญัติเรื่องความเสมอภาค (เพิ่ง)ถูกเขียนไว้ชัดเจนในรัฐธรรมนูญ มาตั้งแต่ปี 2540 (ในมาตรา 30 และ 31)
ซึ่งภาครัฐมีหน้าที่ต้องปรับแก้กฎหมายให้สอดคล้องและไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ชีวิตสำคัญกว่าทรัพย์สินนั้น มันเป็นหลักพื้นฐานของกฎหมายอยู่แล้ว .... จนบางคนก็เลือกที่จะชอบหรือไม่ชอบ
เช่น การยิงโจรให้ตายเพื่อป้องกันทรัพย์ การตั้งโรงงานโดยหย่อนเกณฑ์คุมสารพิษ ... ก็แล้วแต่ว่าจะยืนในจุดใด
ออกนอกเรื่องไป.....กลับมาที่พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ...ต้องเจาะจงว่า....อยากแก้มาตราใดบ้าง และด้วยเหตุผลใดครับ

จะได้ร่วมใจ... ร่วมแรงกัน.... ทำ....อย่างเป็นรูปธรรม.....อย่างมีเป้าหมายและมีทิศทาง  ::014::


 

สุดยอดครับพี่  ขอบคุณอีกครั้งนะครับสำหรับคำปรึกษา

ผมไม่ค่อยรู้เรื่องกฏหมายมากนัก  จากอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน แสดงว่าต้องเกิดปัญหาก่อนจึงร้องเรียนใช่ไหมครับ  แล้วการเสนอขอแ้ไขระเบียบปฏิบัติให้สอดคล้องกับความเป็นจริง กับ ให้เกิดความเสมอภาคทุกท้องที่เราสามารถเสนอได้ไหมครับ

อาจต้องศึกษาและสอบถามดูครับ.....เวบไซท์สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ---> http://www.ombudsman.go.th/2008/index1.html (http://www.ombudsman.go.th/2008/index1.html)
ทราบว่าเคยมีผู้ร้องเรียนเรื่องการขออนุญาตป.3 แต่ผมไม่ทราบรายละเอียดและผล

    ผมขออนุญาตตอบเลยนะครับ ไม่จำเป็นต้องรอให้เกิดปัญหาก่อนค่อยร้องเรียนก็ได้ ในกรณีที่ท่านเห็นว่าบทบัญญัติใดของกฎหมาย หรือ กฎ ระเบียบ คำสั่งใด มีลักษณะเลือกปฏิบัติก็เสนอเรื่อง พร้อมความเห็นให้พิจารณาได้เลยครับ (ปล มีเพื่อนทำงานอยู่ที่นี่ครับ เลยพอทราบ) ผมยินดีรับเป็นธุระให้