เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ไม่มีถูกไม่มีผิดนะครับ เอาความคิดตัวเอง

2เหตุการณ์ครับ

เหตุการแรกก็คือ  :D~ ขับรถจักยานยนต์โดยไม่ได้สวมหมวกนิรภัยไปบนถนนสายหนึ่ง ทราบว่าข้างหน้ามีตำรวจตั้งด่านอยู่จากรถที่สวนมา
แต่จำเป็นจริงๆที่จะต้องผ่านถนนเส้นนั้น ระยะห่างตอนนั้น100เมตร เป็นทางโค้งซึ่งตำรวจมองไม่เห็นเรา  คนขับจึงจอดรถแล้วปล่อยลมยาง จูงรถผ่านด่านแล้วบอกว่ายางรั่ว อย่างนี้คุณคิดว่าทำได้หรือไม่ และคนขับรถมีความผิดไหมที่จูงรถบนถนนโดยไม่มีหมวกกันน๊อค

เหตุการที่สอง  :D~

ตำรวจ อาสาฯ เจ้าหน้าที่ปกครอง และเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย เข้าทำการตรวจค้นหอพักในเวลา 23.00 น.
โดยไม่มีหมายค้น มากัน 7-8 คน คุณคิดว่า เจ้าหน้าที่เหล่านี้มีสิทธิ์ที่จะตรวจค้นได้ไหม ในเวลาขณะนั้น
ไม่มีใครผิดใครถูกครับ ตอบมาได้เลยความคิดของท่านครับ ::002:: ::002:: ::014::

ทำได้แต่ไม่ควรทั้งสองกรณี

คนเราเวลาทำสิ่งที่เป็น หน้าที่ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมากำกับ

ทำได้แต่ไม่ควรทั้งสองกรณี

คนเราเวลาทำสิ่งที่เป็น หน้าที่ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมากำกับ

           เหตุการณ์แรกแสดงถึงความเขลาของคนขับขี่ จยย.

           เหตุการณ์สองคงเป็นหอพักใน จนท.มหาวิทยาลัยมีสิทธิ์ทำได้

     
           เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นขอ จขกท. อย่าโยงไปเรื่องแนวคิดแผลงๆให้คนออกมารุมด่าอีก ปีใหม่แล้ว

           ถ้าอยากแสดงความคิดเห็นเรื่องการเมือง ต้องกล้าแสดงตัวตนเปิดเผยแล้วเข้ากระดานการเมืองไปเลย


         

...เห็นด้วยกับพี่ปูครับ...  ;D

เห็นด้วยกับพี่ปู อีกหนึ่งเสียงครับ

เหตุการณ์แรก ผมจะกลับไปใส่หมวกกันน๊อค แล้วจะเตือนตัวเองว่า คราวหน้าขับมอเตอร์ไซด์อย่าลืมใส่หมวกกันน็อค :VOV:
เหตุการณ์ที่สอง สิทธิ์ตรงนี้ผมไม่แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ไหม แต่ผมเห็นสมควรที่จะมีการตรวจ เพราะอาจจะมีสิ่งผิดกฎหมายครับ :VOV:

หลังๆมานี้จะมาขอความคิดเห็นอยู่เรื่อยๆไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องจริงหรือเรื่องเท็จ ::005::

แต่ก็อย่างที่พี่ปูแนะนำไปแล้วความคิดเห็นของ สมช ท่านอื่นๆก็คงจะคล้ายๆกันเพราะท่านเป็นผู้ใหญ่
เมื่อมาขอความคิดเห็นพี่เค้าก็มีน้ำใจในการตอบการแนะนำแล่งที่เราควรนำไปใช้ก็คือ ทำตามที่พี่ๆเค้าแนะนำให้ ::002::

เหตุการณ์แรก  ท่านกระบือ ฯ ควรจะทำตามกฎจราจรดีว่ามาหาวิธีหลบหลีกครับ  (การกระทำตัวแบบเหตุการณ์แรกเป็นการแสดงถึงการเป็นคนเอาเปรียบสังคมซึ่งท่านรังเกียจคนประเภทนี่อยู่มิใช่หรือ)

เหตุการณ์ ๒   ถ้าเป็นหอพักมหาวิทยาลัย  เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยมีสิทธิเข้าตรวจค้น

                     ถ้าเป็นห้องเช้า   คิดว่าต้องขอหมายก่อน  แต่ถ้าคนอืนแจ้งไปเจ้าหน้าที่ก็ต้องมาดูอยู่ดีครับ  (เช่นแจ้งว่ามั่วสุมยาเสพย์ติด)

ปล. ถ้าไม่กระทำผิดจะกลัวไปไย  ที่ถามมาทั้ง ๒ เหตุการณ์เป็นการหาช่องว่างของกฎหมายเพื่อความเขลาของตัวเอง ครับ

1.ผมไม่เคยลดตัวไปทำแบบนั้นครับ เห็นด่านไม่เคยกลับรถหนี ผิดก็รับผิดโดนจับก็ไปจ่ายใบสั่งที่โรงพัก

เรียนซื่อๆ ว่าสมัยขี่มอเตอร์ไซค์มีหลายครั้งมากที่ตำรวจชี้โน่นผิด-นี่ผิด แต่พอเห็นใบขับขี่แล้วจะไม่ออกใบสั่ง , เดี๋ยวนี้ตอนโดนจับความเร็วก็ยังเป็น ผมต้องยืนยันให้เขียนมาได้เลย...ไหนว่าอยากจะดี ก็อย่าเพาะสันดานเสียให้ตัวเองด้วยเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้เลยครับ

2.เห็นว่าทำได้และควรทำครับ หอพักมหาลัยรับลูกเค้าให้มาพักอาศัย ควรดูแลให้ดี ปล่อยให้เป็นซ่องโจรพอมีเรื่องขึ้นมาพ่อ-แม่ที่ส่งเสียค่าเหล้าให้ลูกเค้ามักด่ามหาลัยก่อนลูกตัวเองครับ

เหตุการแรก สมควรกลับไปใส่หมวกกันน๊อกเสียดีกว่า เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตนเอง
เหตุการที่สอง ต้องลงระเบียบของหอ หรือสัญญาเช่าหอกับทางมหาลัยให้ได้อ่านก่อน ถามแบบนี้ข้อมูลไม่ครบ ตอบได้แค่เพียงว่าเมื่อมี
จนท.มหาวิทยาลัยอยู่ด้วย ก็น่าจะสมควรให้ตรวจค้น เพราะแสดงว่ามหาลัยรับทราบ แต่ถ้าจะอ้างว่า จนท.สนิทกับ ตร. อส.ปกครองกระทำการโดยไม่แจ้งเรื่องให้มหาลัยทราบ อันนี้ก็ให้ค้นแล้วตลบหลังร้องไปมหาลัย รับร้องอ่วม ก่อนจะอ้างสิทธิของตัวเอง สมควรมองดูตัวเองก่อนว่าทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์แล้วหรือยังที่จะอ้างสิทธินั้น

เหตุการณ์แรกไม่ควรทำครับ...ถึงผ่านด่านไปได้แต่ต้องจูงรถต่อไปอีกกี่กิโลล่ะครับ

เหตุการณ์ที่ 2 น่าจะเป็นเรื่องคอขาดบาดตายและจำเป็นเร่งด่วน...สมควรให้เข้าตรวจนะครับ

เหตุการณ์แรก ไม่ควรทำแบบนั้นครับ ทำผิดก็เป็นไปตามกฎหมายสิครับ ไม่ควรหาเรื่องเลี่ยงกฎหมาย
เหตุการณ์ที่สอง เจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ที่จะทำตามหน้าที่ในการตรวจสอบเพื่อความสงบเรียบร้อยอยู่แล้ว ซึ่งก็มีกฎ/ระเบียบ ให้สามารถดำเนินการได้
แถมหน่อย ความคิดเห็นควรเปิดกว้างก็จริง แต่ควรมีถูกหรือผิดครับ ความคิดเห็นควรเป็นไปตามกรอบของความเหมาะสมดีงามของสังคมส่วนรวม มิใช่ถูกหรือผิดตามความรู้สึกของตนเอง

จะทำอะไรทำได้ทั้งนั้นครับ

แต่ทำแล้ว ถูก ผิด กฎหมายเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ทำแล้ว ถูก หรือ ผิดใจใคร ก็อีกเรื่องนึง

สุดท้ายแล้วสามัญสำนึกจะเป็นตัวกำหนดว่า

อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

เหตุการที่2 เวลา 23.00น นะครับ
ซึ่งผมคิดว่าเป็น ยามวิการณ์ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้ามาตรวจค้นได้
หากมากลางวันผมคิดว่าน่าจะค้นได้ครับ
เพราะไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนอะไร

ส่วนเหตุการที่1 ผมก็เห็นด้วยกับพี่ๆ ว่าไม่ควรทำ เพราะผมก็ไม่เคยทำ
และขอประนามพวกที่ชอบฝ่าฝืนกฏหมายทุกอย่างด้วยครับ

1.
แค่ขับจักรยานยนต์แล้วยกหมวกกันน้อคสวมหัว รัดสายที่คางให้แน่น มันยากเย็นตรงไหนไม่ทราบ บางคนขับแต่เอาหมวกกันน้อคไว้ในตะกร้าหน้ารถ หรือไม่ก็สวมหัวไว้หลวมๆ เพื่อให้ ตร.จร. เห็นว่าสวมแล้ว .. พอตำรวจตั้งด่านจับก็ไม่พอใจ บ้านเมืองมีกฎหมายก็ปฎิบัติตนไม่ฝ่าฝืนกฎหมายทั้งทางตรงทางอ้อมสิครับ

2. ลองคิดเอาเองว่าควรมั้ย เพราะอะไร น่าจะคิดออกไม่ยาก  ขี้เกียจตอบ ครับ

ทู่   แล้วยังอวดฉลาด    ถ้าไม่มีเหตุ  เขาจะมาค้นทำไม

ถ้า มี จนท.ของมหาลัย  ถือว่าเป็นเจ้าบ้านอนุญาตแล้ว

ผมก็ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาทำไม  นั้นนะสิจะเข้ามาทำไม
(รู้สึกว่าจะเป็นการตรวจหอพักประจำปีมั้ง)
ส่วนเจ้าหน้าที่ของมหาลัย ถือว่าเป็นเจ้าของบ้านเลยหรือ
เพราะหอพักที่ผมเช่าอยู่ เป็นลักษณะบ้านเช้า ที่เป็นหลังๆไม่ใช่เป็นห้องติดๆๆกัน
และในสัญญาบอกว่า "ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสิทธิเข้าตรวจบ้าน ตามความเหมาะสม ไม่ว่าผู้เช่าจะจะอยู่ในขณะนั้นหรือไม่"

และผมคิดว่าเวลา 23.00 น. เป็นเวลาที่ไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะไม่มีเหตุสมควรอันใด
และผมถือว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลที่ไม่ควรจะ ปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ

สัญญาบอกว่า "ผู้เช่ายอมให้ผู้ให้เช่าหรือตัวแทนหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐมีสิทธิเข้าตรวจบ้าน ตามความเหมาะสม ไม่ว่าผู้เช่าจะจะอยู่ในขณะนั้นหรือไม่"

นั่นมันเหตุผลของคุณกระบือฯ  ครับที่คิดว่าไม่เหมาะสม  ในสัญญาก็บอกชัดเจนแล้วครับ  :D

  ข้อแรก เรื่องจราจร ผมเชื่อว่าหลาย  ๆท่านคิดตรงกัน แบบเดียวกับกฎหมายคาดเข็มขัดนิรภัย แรก ๆ ผมก็ว่ามันขัด ๆ

หลัง ๆ มาคิดดู มันก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเราเอง

  ข้อสอง  ....  ผมอยากให้มองที่เจตนาของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก   ที่บ้านโดนบ่อยจนมีความรู้สึกคุ้นเคย

                  แต่ทุก ๆครั้งไม่เคยหลบหนีหรือไม่ยอมให้ตรวจค้น  (ที่บ้านมีแรงงานต่างด้าว )

                  หลายครั้งที่เจตนาของ จนท.  แสดงออกอย่างไม่น่าให้อภัย ผมกับแฟนก็ต่อว่ากันตรง ๆ

                  เคยเอารูปมาด่ากันหน้าเวป ก็บ่อย  ...... ตัวผมเฉย ๆ ไม่กลัว

                  หลาย ๆครั้งที่ จนท. มาตรวจ โดยหน้าที่ ก็ต้องชื่นชม เป็นปกติ

                  และบ่อย ๆครั้งที่ผมเชิญให้เจ้าหน้าที่มาตรวจ .......  สิ่งที่เป็นผลดีคือ

                  อย่างน้อยเป็นการป้องปรามเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้น

เอาให้แน่ที่คุณอยู่เขาจดทะเบียนเป็นหอพัก หรือบ้านเช่า

ถ้าจดทะเบียนเป็นหอพัก ก็ต้องปฎิบัติตามพระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2507 มาตรา 31 นายทะเบียนหรือพนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจเข้าไปในหอพักในเวลาระหว่างพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตก เพื่อตรวจตราควบคุมให้การปฏิบัติได้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ บุคคลที่อยู่ในสถานที่นั้นต้องให้ความสะดวกตามสมควร

บ้านมีกฎ เมืองมีกฎหมาย จะนึกตามใจว่าอะไรไม่ถูกใจจะอ้างการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลไม่ได้ อย่ามั่ว
 

   กวนอีกแล้วจขกท.  นี้ขนาดระดับนายตำรวจเข้ามาตอบยังแสดงอาการแถอีก
ถ้าไม่เข้าใจว่าเขาเข้าไปตรวจหอพักทำไมในเวลา 23.00 น.  ก็ให้ถามคนที่เขาเข้าไปตรวจโดยตรง
และปากบอกว่าถามให้แสดงความคิด"ไม่มีถูกไม่มีผิดนะครับ เอาความคิดตัวเอง"  พอสมช.เขาตอบ
ก็ดันเอาความคิดตัวเองมาขวาง  ตรูว่าจะไม่เข้ามายุ่งแล้วหน่า.................
  แล้วทีหน้าทีหลังจะถามอะไรถามให้มันชัดๆหน่อย  ตกลงเป็นหอพักของมหาวิทยาลัยหรือบ้านเช่า
ถึงจะเป็นบ้านเช่าถ้าเขาจะตรวจถ้าเจ้าของบ้านอนุญาตเราก้ไม่มีสิทธิ์ขัดขวาง
  เสียดายน้ำลายที่ชมไปในกระทู้ก่อนหน้านี้น่าดูเลยตรู

ขอโทษด้วยที่แสดงความคิดขัดกับหัวข้อ
โอเค ถ้าเขามาตรวจตอนกลางคือผมจะลองถามเขาเอง
ต้องลองจะได้รู้
ขอบคุณครับ

เหตุการณ์แรก... มันเป็นวิธีแก้ปัญหาโดยคิดว่าตัวเองกะล่อน..และคิดว่าจะรอดได้...  แต่อย่าลืม... เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้โง่..  คิดว่าไม่น่ารอดครับ...

เหตุการณ์สอง... จนท.มาค้น ก็ต้องมีการไตร่ตรองก่อนอยู่แล้ว.. คงไม่เกี่ยวกับเรื่องเวลา.. แต่น่าจะอยู่ที่สาเหตุมากว่า... คิดว่าเจ้าหน้าที่ไม่ผิดหรอกครับ...

กระบือน้ำกร่อย ลองครองการตั้งกระทู้ลักษณะแบบนี้ไปเรื่อยๆนะครับ.. ไม่เอาความคิดตัวเองเป็นใหญ่.. รับฟังผู้อื่นที่เข้ามาขัดเกลาอีกที... ผมว่าคุณจะมีเพื่อนที่ดีๆ และจะเยอะมากๆด้วยครับ,,,

มีอะไรเราเข้ามาคุยกัน..  แลกเปลี่ยนประสบการณ์กันดู.. เชื่อผมเถอะ.. ถ้าคุณไม่รั้น... ชีวิตคุณดีแน่นอนครับ ::002::

เอาเข้าไป....

ขอโทษด้วยครับ ลืมตัว

เมื่อขอความเห็นจากผู้อื่น...เมื่อมีคนให้ความเห็นมาแล้ว...ท่านก็ควรที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่น....

รู้จักคิดและวิเคราะห์ในความเห็นนั้นๆ...นึกถึงหลักความเป็นจริงตามข้อกฎหมาย...

ซึ่งบางครั้งมันอาจจะดูเหมือนว่าขัดกับความคิดของเรา....กฎหมายไม่ได้ระบุว่า ผมคิดว่า/ผมถือว่า..

ท่านควรรู้จักคิด...วิเคราะห์และนึกถึงความเป็นจริงให้มากที่สุด....ไม่เช่นนั้นแล้ว...ท่านก็จะเป็นคนเขลาโดยไม่มีวันสิ้นสุด....

ทั้งสองประเด็น
ทั้งพระพุทธเจ้า และพระเจ้าของผมสอนเหมือนกันว่า
เกราะป้องกันชีวิตที่ดีที่สุด คือการกระทำดีนะครับ (ไม่กระทำผิด)
ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ
(ขออนุญาติ ยกอ้างข้อพระธรรมในศาสนา ให่แก่ จขกท นะครับ)

ครับฟังแล้วครับ ขอบคุณทุกความเห็น ::014::

คำสอนก็คือคำสอนครับ ขอบคุณ ::014::

ถ้าในแง่ของกฎหมาย ผู้ไม่รู้คือผู้ไม่ผิด คงเป็นไปไม่ได้เพราะกฎกติกาของสังคมที่เป็นตัวบทกฎหมายบังคับใช้ให้คนปฎิบัติตนภายใต้ข้อบังคับของกฎหมาย จะอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เมื่อคุณถามเพราะไม่รู้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่หากถามเพราะเพื่อหลบหลีกเลี่ยง โดยใช้ช่องว่างของกฎหมาย คุณคงเป็นแฟนรายการ คนหัวหมอ ที่มีจินตนาการกว้างดีครับ  ;D

 ผมถามเพราะผมไม่รู้ครับ ผมไม่เคยทำด้วย
ผมเห็นว่าการหลบหลีกเพื่อเอาเปรียบสังคม เป็นสิ่งที่ไม่ดี
และผมก็ไม่ชอบด้วย
และผมก็ไม่โกรธที่ มีบางคนใช้คำพูดเสียดสีผม ผมเข้าใจครับ
ว่าคนเรา ความคิดความอ่านต่างกัน ไม่โกรธครับ

ไม่เป็นไรครับ อย่าคิดมาก คนเรามีความคิด มีคำถาม ไม่ไช่เรื่องเสียหายอะไร เป็นผู้เยาว์ถามผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ตอบ คำตอบอาจจะไม่สบอารมณ์ผู้ถาม เราก็เป็นแค่ผู้ฟังที่ดี ก็จบ ครับ  ผ่านไปอีกสัก 8-9 ปี มีคนถามแบบ จขกท. - จขกท. ก็อาจจะตอบแบบผู้อาวุโสในที่นี้ก็ได้

ขอบคุณครับ

ขอตัวนอนก่อนนะครับ รู้สึกไม่ค่อยสบาย มาจากกำแพงเพชรด้วยฃ
เคยอยู่อากาศร้อน มาเจออากาศเย็นที่พะเยา สงสัยจะป่วย
เดี๋ยวหายากินก็จะนอนแล้วครับ

เป็นกำลังใจให้นะครับ สังคมที่ดีในอนาคต อาจจะอยู่ในมือของคนที่กล้าคิด กล้าทำ อย่างคุณ(ดีกว่าพวกที่ไม่ยอมคิด หรือทำอะไรดีๆให้สังคมเลย)
ขอแค่รักษาสติและความดี ไว้ให้ได้นะครับ  ขอพระเจ้าอวยพระพรครับ