หัวข้อ: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ja yong ที่ มกราคม 03, 2010, 02:31:59 PM เห็นมีข่าวว่ากำลังจัดหามาทดแทน เอ็ม 41 . อยากทราบว่าการจัดหาถึงขั้นตอนไหนแล้วครับ จะได้ ถ. แบบไหนมาหนอ ?. อยากรู้ครับผม
( เอ รึว่ามีกระทู้อื่นในเรื่องนี้อยู่แล้ว รึเปล่าครับผม ? ).. ;D ;D หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ มกราคม 03, 2010, 04:29:24 PM เห็นมีข่าวว่ากำลังจัดหามาทดแทน เอ็ม 41 . อยากทราบว่าการจัดหาถึงขั้นตอนไหนแล้วครับ จะได้ ถ. แบบไหนมาหนอ ?. อยากรู้ครับผม ผมเคยตั้งเกี่ยวกับรถถังยานเกราะครับ www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=66552.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=66552.0)( เอ รึว่ามีกระทู้อื่นในเรื่องนี้อยู่แล้ว รึเปล่าครับผม ? ).. ;D ;D หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 03, 2010, 05:01:12 PM ถึงตอนนี้รถสายพานลำเลียงพลก็ยังไม่มาเลยนะครับ...สงสัยรอเครื่องยนต์อยู่..
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: your-ประชาธิปไตย ที่ มกราคม 03, 2010, 06:18:53 PM ทหารไม่ได้รัฐบาลนี้ จะไปหวังรัฐบาลไหน เดี๋ยวคงได้ครับ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: อู๋ รักในหลวง ที่ มกราคม 03, 2010, 07:05:05 PM โอ้ยไม่ต้องแทนหรอกครับ ภาระกิจหลักM41ใช้แค่เอามาโชว์ตอนปฎิวัติ...........ไม่ได้เอาไปรบตามชายแดนหนิ ::005::
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ มกราคม 03, 2010, 07:33:39 PM โอ้ยไม่ต้องแทนหรอกครับ ภาระกิจหลักM41ใช้แค่เอามาโชว์ตอนปฎิวัติ...........ไม่ได้เอาไปรบตามชายแดนหนิ ::005:: ผมไปยืงที่ ม.พัน4 เห็นยังใหม่อยู่เลย ทหารเขารักษาดีครับหัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 03, 2010, 07:43:26 PM โอ้ยไม่ต้องแทนหรอกครับ ภาระกิจหลักM41ใช้แค่เอามาโชว์ตอนปฎิวัติ...........ไม่ได้เอาไปรบตามชายแดนหนิ ::005:: ::005:: แหม่อู๋ก็.........ขืนเอา ตัวอื่นมา กว่าจะถึง ออกจากที่ตั้งเย็นก็โน้นแหละเช้า กว่าจะวิ่งถึงกรุงเทพ เผลอ ๆ ต้องจอดแวะเติมน้ำมันตามปั๊มอีกต่างหาก....... ::005::หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 03, 2010, 07:45:46 PM ม พัน 4 ไม่น่าจะเอารถถังมาลงแล้วมั้งครั้บ หลังจาก M41 ปลดประจำการ กองพันนี้ขึ้นอยู่กับ กองพลทหารราบ ในความคิดผมน่าจะบรรจะรถรบทหารราบ (IFV) มากกว่าครับ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มกราคม 03, 2010, 08:04:34 PM ม.พัน 4 รอ. เป็นกองพันทหารม้าประเภท "กองพันรถถัง ของกองพลทหารราบ" .................. ดังนั้นรถที่ประจำการในกองพันนี้คือ รถถัง............
ส่วนรถรบทหารราบ(IFV) เป็นยุทโธปกรณ์หลักของกองพันทหารราบยานเกราะ และ กองพันทหารม้าประเภท"บรรทุกยานเกราะ" ................... ซึ่ง ม.พัน 4 รอ. ไม่ใช่กองพันประเภทนี้ครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 03, 2010, 08:49:02 PM ไม่กี่วันก่อน ซ้อมวิ่งในกองพันฝุ่นตลบ... ทั้งรถถังทั้งรถบรรทุก... คราวที่แล้วซ้อมวันที่ ๑๕ พอถึงวันที่ ๑๙ วิ่งออกมาจริงๆ :D
ปลดประจำการเมื่อไหร่ ผมจะขอซื้อต่อซักคัน... โคตรชอบเลย ;D แต่ดูเหมือนว่าน้ำมันหนึ่งถัง วิ่งได้แค่ ๑๖๑ กิโลเมตรเอง หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: chalie27 ที่ มกราคม 03, 2010, 09:16:02 PM ม พัน 4 ไม่น่าจะเอารถถังมาลงแล้วมั้งครั้บ หลังจาก M41 ปลดประจำการ กองพันนี้ขึ้นอยู่กับ กองพลทหารราบ ในความคิดผมน่าจะบรรจะรถรบทหารราบ (IFV) มากกว่าครับ 1 กองพลทหารราบ จะมี 1 กองพันรถถังสนับสนุน สำหรับรถถังที่จะนำมาทดแทน ผมไม่มีความคิดเห็นครับ ต้องมีการทดสอบการใช้งานจริงก่อนตัดสินใจเลือก หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 03, 2010, 10:07:13 PM ม.พัน 4 รอ. เป็นกองพันทหารม้าประเภท "กองพันรถถัง ของกองพลทหารราบ" .................. ดังนั้นรถที่ประจำการในกองพันนี้คือ รถถัง............ ส่วนรถรบทหารราบ(IFV) เป็นยุทโธปกรณ์หลักของกองพันทหารราบยานเกราะ และ กองพันทหารม้าประเภท"บรรทุกยานเกราะ" ................... ซึ่ง ม.พัน 4 รอ. ไม่ใช่กองพันประเภทนี้ครับ ขอบคุณครัับอามะขิ่น ผมนึกว่าจะเป็น IFV น่ะครับ เพราะปืนใหญ่อัตโนมัติก็น่าจะใช้ยิงสนับสนุนทหารราบได้ดีกว่า ปถ น่ะครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 04, 2010, 12:14:44 AM ระหว่างรอรถถังเราน่าจะจัดหา คจตถ ที่ทันสมัยมาใช้ ราคาก็ไม่น่าจะแพงกว่ารถถังนะครับ และก็เอนกประสงค์ด้วย
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ja yong ที่ มกราคม 04, 2010, 11:12:41 AM ผมเข้าเวปของ ค่ายอดิสร ศูนย์การทหารม้า เห็นมีแต่ข้อมูลของ ถ.ตระกูล T ? สงสัยจะให้ข้อมูลมกาก่อนใครเพื่อน. ;D ;D
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ มกราคม 04, 2010, 12:03:26 PM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน
1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: chalie27 ที่ มกราคม 04, 2010, 07:14:35 PM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: HoroHoro ที่ มกราคม 04, 2010, 09:13:51 PM ขอ ถาม แบบ โง่ๆเลย นะครับ พี่
รถถัง กับยานเกราะ นี่ คือ อย่างเดียวกันไหม ครับ ถ้าไม่ใช่ ต่างกันยังไง ครับ ::014:: ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 04, 2010, 09:39:08 PM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มกราคม 04, 2010, 11:41:25 PM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า ที่สำคัญ ราคาต่อคุณภาพ t 90 ล่าสุด อินเดีย ซื้อแบบมาประกอบเองคันละประมาณ 3 us$ ในขณะที่ leopard2 a6 เงินเท่ากันซื้อได้ไม่ถึงครึ่งคัน ปืน 125 mm ก็ไม่ได้ด้อยกว่า ปืน 125 mm ของพวกนาโต้ ที่สำคัญ ปืน125 mm. ยิงจรวดนำวิถีต่อสู้รถถังได้อีกด้วย ระยะยิง 4 km ยิงฮ. พวก mi24 หรือ apache ก็ได้ครับ :D ลองดูรายละเอียดประสิทธิภาพเกราะแต่ละรุ่นในใน link นี้ครับ :D http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm (http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm) http://64.26.50.215/armorsite/main.html (http://64.26.50.215/armorsite/main.html) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ มกราคม 05, 2010, 12:04:02 AM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า ที่สำคัญ ราคาต่อคุณภาพ t 90 ล่าสุด อินเดีย ซื้อแบบมาประกอบเองคันละประมาณ 3 us$ ในขณะที่ leopard2 a6 เงินเท่ากันซื้อได้ไม่ถึงครึ่งคัน ปืน 125 mm ก็ไม่ได้ด้อยกว่า ปืน 125 mm ของพวกนาโต้ ที่สำคัญ ปืน125 mm. ยิงจรวดนำวิถีต่อสู้รถถังได้อีกด้วย ระยะยิง 4 km ยิงฮ. พวก mi24 หรือ apache ก็ได้ครับ :D (http://img215.imageshack.us/img215/7889/t90bhismacropped.jpg) (http://img215.imageshack.us/i/t90bhismacropped.jpg/) (http://img503.imageshack.us/img503/5819/2008060417010021indiana.jpg) (http://img503.imageshack.us/i/2008060417010021indiana.jpg/) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ มกราคม 05, 2010, 12:21:36 AM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ แอ้.............ญี่ปุ่นนี้ สามารถส่งออกอาวุธได้แล้วหรือครับ ท่าน หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ มกราคม 05, 2010, 12:31:32 AM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ แอ้.............ญี่ปุ่นนี้ สามารถส่งออกอาวุธได้แล้วหรือครับ ท่าน หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: EAK1980 รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2010, 11:56:24 AM รูปภาพและข้อมูลส่วนหนึ่งมาจาก http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=9922&topic=%A1%CD%A7%B7%D1%BE%BA%A1%B5%E9%CD%A7%B5%D1%B4%CA%D4%B9%E3%A8%E0%C5%D7%CD%A1%C3%D0%CB%C7%E8%D2%A7%20k1a1%E1%C5%D0%B6.Leopard2A4%E0%BB%E9%B9%C3%B6%B6%D1%A7%E3%CB%C1%E8%20200%A4%D1%B9 (http://www.thaifighterclub.org/webboard.php?action=detailQuestion&questionid=9922&topic=%A1%CD%A7%B7%D1%BE%BA%A1%B5%E9%CD%A7%B5%D1%B4%CA%D4%B9%E3%A8%E0%C5%D7%CD%A1%C3%D0%CB%C7%E8%D2%A7%20k1a1%E1%C5%D0%B6.Leopard2A4%E0%BB%E9%B9%C3%B6%B6%D1%A7%E3%CB%C1%E8%20200%A4%D1%B9)
ถ้าเข้าไม่ได้ลองสมัครสมาชิกดูครับ ข้อมูลดีๆเยอะ น่าจะเป็น PT 91 ของโปแลนด์ครับ (พัฒนามาจากT72 ข้อมูลจากหนังสือสมรภูมิครับ) PT 91 หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 05, 2010, 01:23:44 PM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ แอ้.............ญี่ปุ่นนี้ สามารถส่งออกอาวุธได้แล้วหรือครับ ท่าน เดี๋ยวนี้ อุปกรณ์อะไหล่ปืนบางชิ้นก็ผลิตที่ญี่ปุ่นครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2010, 01:41:04 PM ผมฝันหวานว่า ทบ.อาจจะได้ CV-90 จะมาประจำการต่อจาก JAS-39 ครบฝูง และหลังจากกองทัพบกได้ CV-90 มาประจำการแล้ว กองทัพเรือก็จะได้ Visby และ A-19 มาประจำการ ตามลำดับ ไม่รู้ว่าจะฝันกลางวันหรือเปล่านะครับ........... :VOV:
รูปประกอบการฝันกลางวันครับ (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=79A9_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=79A9_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=1CE8_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=1CE8_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=7011_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=7011_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=5983_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=5983_4B42DE6F) :VOV: :VOV: :VOV: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มกราคม 05, 2010, 03:32:34 PM ถ้างั้นก็ เอาถังผูกไว้กับหลักไว้ก่อนดีไหมครับพี่ๆ ::005:: ::005::
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 05, 2010, 06:20:23 PM เชียร์ t90 ของรัสเซีย รถถังตระกูลรัสเซียมีประสิทธิภาพในการรบสูงมากๆ ยุคสงครามโลกครั้งที่2 รัสเซียมีรถถังที่ดีมากๆ ในยุทธการเคิร์ส t34 ชนะ tiger ของเยอรมันด้วยซ้ำ จุดเด่นของรถถังรัสเซียคือ เกราะด้านหน้าที่หน้า การเคลื่อนที่เยี่ยมแม้แต่ในพื้นที่หล่มโคลน วิ่งไปยิงไปได้ รัสเซียใช้ระบบรองรับแบบอิสระก่อนเยอรมันด้วยซ้ำ ทำให้วิ่งไปยิงไปได้ ในขณะที่tiger ต้องจอดยิงครับ ผมว่าข้อมูลน่าจะผิดพลาดบางส่วนนะครับ ::014::ในสมรภูมิเมือง Kursk ที่เยอรมันต้องล่าถอยกลับมานั้น ไม่ใช่เพราะรถถังเยอรมันไม่มีประสิทธิภาพนะครับ ตอนนั้นเยอรมันได้ผลิตรถถังรุ่นใหม่ คือ รถถัง Panther ออกมาแล้ว ซึ่งใช้แนวคิดของรถถัง T-34 คือ ปรับสายพานให้มีความกว้าง ปรับเกราะด้านหน้าและด้านข้างให้ลาดเอียงมากขึ้นเพื่อเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะ ป้อมปืนก็ใช้วิธีหล่อเป็นชิ้นเดียวกัน จนออกมาเป็นรถถังที่ลงตัวทั้งอำนาจการทำลายล้างและการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศ แต่ปัญหาที่ฝ่ายเยอรมันเจอก็คือพื้นที่รอบเมือง Kursk นั้นเป็นที่ราบขนาดใหญ่ ฝ่ายโซเวียตสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลถึง 10 กว่ากิโลเมตร จึงสามารถใช้ปืนใหญ่สนามและปืนต่อสู้รถถังยิงสกัดยานเกราะของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลเช่นกันครับ ::012:: ลำพังรถถัง T-34 ของโซเวียตถ้าดวล 1:1 กับรถถัง Tiger รับรองว่ารถถัง T-34 พังเป็นเศษเหล็กแน่นอน เพราะปืนใหญ่ 88 มม.ของรถถัง Tiger สามารถยิงเจาะเกราะด้านหน้าที่หนาที่สุดของ T-34 ได้สบาย ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับกระสุนเจาะเกราะแบบ APCR ก็สามารถสอยรถถัง T-34 ได้จากระยะ 3-4 กิโลเมตรเชียวนะครับ ส่วนระบบวิ่งไปยิงไปนั้น ผมว่ารถถัง T-34 ไม่น่าจะทำได้เพราะรถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่มีระบบ Stabilized คอยเลี้ยงเป้าเหมือนรถถังสมัยนี้ ที่วิ่งไปยิงไปน่าจะเป็นการยิงในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำมากกว่าครับ ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มกราคม 05, 2010, 10:57:31 PM เชียร์ t90 ของรัสเซีย รถถังตระกูลรัสเซียมีประสิทธิภาพในการรบสูงมากๆ ยุคสงครามโลกครั้งที่2 รัสเซียมีรถถังที่ดีมากๆ ในยุทธการเคิร์ส t34 ชนะ tiger ของเยอรมันด้วยซ้ำ จุดเด่นของรถถังรัสเซียคือ เกราะด้านหน้าที่หน้า การเคลื่อนที่เยี่ยมแม้แต่ในพื้นที่หล่มโคลน วิ่งไปยิงไปได้ รัสเซียใช้ระบบรองรับแบบอิสระก่อนเยอรมันด้วยซ้ำ ทำให้วิ่งไปยิงไปได้ ในขณะที่tiger ต้องจอดยิงครับ ผมว่าข้อมูลน่าจะผิดพลาดบางส่วนนะครับ ::014::ในสมรภูมิเมือง Kursk ที่เยอรมันต้องล่าถอยกลับมานั้น ไม่ใช่เพราะรถถังเยอรมันไม่มีประสิทธิภาพนะครับ ตอนนั้นเยอรมันได้ผลิตรถถังรุ่นใหม่ คือ รถถัง Panther ออกมาแล้ว ซึ่งใช้แนวคิดของรถถัง T-34 คือ ปรับสายพานให้มีความกว้าง ปรับเกราะด้านหน้าและด้านข้างให้ลาดเอียงมากขึ้นเพื่อเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะ ป้อมปืนก็ใช้วิธีหล่อเป็นชิ้นเดียวกัน จนออกมาเป็นรถถังที่ลงตัวทั้งอำนาจการทำลายล้างและการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศ แต่ปัญหาที่ฝ่ายเยอรมันเจอก็คือพื้นที่รอบเมือง Kursk นั้นเป็นที่ราบขนาดใหญ่ ฝ่ายโซเวียตสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลถึง 10 กว่ากิโลเมตร จึงสามารถใช้ปืนใหญ่สนามและปืนต่อสู้รถถังยิงสกัดยานเกราะของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลเช่นกันครับ ::012:: ลำพังรถถัง T-34 ของโซเวียตถ้าดวล 1:1 กับรถถัง Tiger รับรองว่ารถถัง T-34 พังเป็นเศษเหล็กแน่นอน เพราะปืนใหญ่ 88 มม.ของรถถัง Tiger สามารถยิงเจาะเกราะด้านหน้าที่หนาที่สุดของ T-34 ได้สบาย ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับกระสุนเจาะเกราะแบบ APCR ก็สามารถสอยรถถัง T-34 ได้จากระยะ 3-4 กิโลเมตรเชียวนะครับ ส่วนระบบวิ่งไปยิงไปนั้น ผมว่ารถถัง T-34 ไม่น่าจะทำได้เพราะรถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่มีระบบ Stabilized คอยเลี้ยงเป้าเหมือนรถถังสมัยนี้ ที่วิ่งไปยิงไปน่าจะเป็นการยิงในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำมากกว่าครับ ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2010, 11:09:48 PM ผมฝันหวานว่า ทบ.อาจจะได้ CV-90 จะมาประจำการต่อจาก JAS-39 ครบฝูง และหลังจากกองทัพบกได้ CV-90 มาประจำการแล้ว กองทัพเรือก็จะได้ Visby และ A-19 มาประจำการ ตามลำดับ ไม่รู้ว่าจะฝันกลางวันหรือเปล่านะครับ........... :VOV: ตรงใจผมเลย พี่ + ครับรูปประกอบการฝันกลางวันครับ (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=79A9_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=79A9_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=1CE8_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=1CE8_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=7011_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=7011_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=5983_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=5983_4B42DE6F) :VOV: :VOV: :VOV: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 05, 2010, 11:12:07 PM ผมเล่นในเกมส์รถถังเยอรมันนี่สุดยอดจริง ๆ ครับ เกราะหนา ยิงแรง
รถถังพันธมิตร 3 คันยังสู้รถถังเยอะรมัน 1 คันไม่ได้เลยครับ ;) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 05, 2010, 11:12:55 PM เชียร์ t90 ของรัสเซีย รถถังตระกูลรัสเซียมีประสิทธิภาพในการรบสูงมากๆ ยุคสงครามโลกครั้งที่2 รัสเซียมีรถถังที่ดีมากๆ ในยุทธการเคิร์ส t34 ชนะ tiger ของเยอรมันด้วยซ้ำ จุดเด่นของรถถังรัสเซียคือ เกราะด้านหน้าที่หน้า การเคลื่อนที่เยี่ยมแม้แต่ในพื้นที่หล่มโคลน วิ่งไปยิงไปได้ รัสเซียใช้ระบบรองรับแบบอิสระก่อนเยอรมันด้วยซ้ำ ทำให้วิ่งไปยิงไปได้ ในขณะที่tiger ต้องจอดยิงครับ ผมว่าข้อมูลน่าจะผิดพลาดบางส่วนนะครับ ::014::ในสมรภูมิเมือง Kursk ที่เยอรมันต้องล่าถอยกลับมานั้น ไม่ใช่เพราะรถถังเยอรมันไม่มีประสิทธิภาพนะครับ ตอนนั้นเยอรมันได้ผลิตรถถังรุ่นใหม่ คือ รถถัง Panther ออกมาแล้ว ซึ่งใช้แนวคิดของรถถัง T-34 คือ ปรับสายพานให้มีความกว้าง ปรับเกราะด้านหน้าและด้านข้างให้ลาดเอียงมากขึ้นเพื่อเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะ ป้อมปืนก็ใช้วิธีหล่อเป็นชิ้นเดียวกัน จนออกมาเป็นรถถังที่ลงตัวทั้งอำนาจการทำลายล้างและการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศ แต่ปัญหาที่ฝ่ายเยอรมันเจอก็คือพื้นที่รอบเมือง Kursk นั้นเป็นที่ราบขนาดใหญ่ ฝ่ายโซเวียตสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลถึง 10 กว่ากิโลเมตร จึงสามารถใช้ปืนใหญ่สนามและปืนต่อสู้รถถังยิงสกัดยานเกราะของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลเช่นกันครับ ::012:: ลำพังรถถัง T-34 ของโซเวียตถ้าดวล 1:1 กับรถถัง Tiger รับรองว่ารถถัง T-34 พังเป็นเศษเหล็กแน่นอน เพราะปืนใหญ่ 88 มม.ของรถถัง Tiger สามารถยิงเจาะเกราะด้านหน้าที่หนาที่สุดของ T-34 ได้สบาย ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับกระสุนเจาะเกราะแบบ APCR ก็สามารถสอยรถถัง T-34 ได้จากระยะ 3-4 กิโลเมตรเชียวนะครับ ส่วนระบบวิ่งไปยิงไปนั้น ผมว่ารถถัง T-34 ไม่น่าจะทำได้เพราะรถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่มีระบบ Stabilized คอยเลี้ยงเป้าเหมือนรถถังสมัยนี้ ที่วิ่งไปยิงไปน่าจะเป็นการยิงในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำมากกว่าครับ ::014:: จะว่าไป ปืน 7.5 cm KwK 42 ของ Panther ก็เป็นปืนต่อสู้รถถังที่ถูกกล่าวขวัญอีกแบบของสงครามเลยครับ ด้วยความเร็วต้นที่สูงจัด ในบางแหล่งยังบอกว่า 7.5 cm KwK 42 มีประสิทธิภาพในการทะลวงเกราะมากกว่า 8.8 cm KwK 36 L/56 ของไทเกอร์ ด้วยซ้ำครับ เมื่อใช้กระสุน APCR แบบ Pzgr. 40/42 จะมีความเร็วต้นที่ 1120 m/s ในขณะที่ 8.8 cm KwK 36 L/56 อยู่ที่ 930 m/s และที่ระยะ 2000 เมตร การเจาะเกราะที่ทำมุม 30 องศา 7.5 cm KwK 42 ทำได้ดีกว่าครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 05, 2010, 11:17:25 PM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า ที่สำคัญ ราคาต่อคุณภาพ t 90 ล่าสุด อินเดีย ซื้อแบบมาประกอบเองคันละประมาณ 3 us$ ในขณะที่ leopard2 a6 เงินเท่ากันซื้อได้ไม่ถึงครึ่งคัน ปืน 125 mm ก็ไม่ได้ด้อยกว่า ปืน 125 mm ของพวกนาโต้ ที่สำคัญ ปืน125 mm. ยิงจรวดนำวิถีต่อสู้รถถังได้อีกด้วย ระยะยิง 4 km ยิงฮ. พวก mi24 หรือ apache ก็ได้ครับ :D ลองดูรายละเอียดประสิทธิภาพเกราะแต่ละรุ่นในใน link นี้ครับ :D http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm (http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm) http://64.26.50.215/armorsite/main.html (http://64.26.50.215/armorsite/main.html) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 06, 2010, 12:03:03 AM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า ที่สำคัญ ราคาต่อคุณภาพ t 90 ล่าสุด อินเดีย ซื้อแบบมาประกอบเองคันละประมาณ 3 us$ ในขณะที่ leopard2 a6 เงินเท่ากันซื้อได้ไม่ถึงครึ่งคัน ปืน 125 mm ก็ไม่ได้ด้อยกว่า ปืน 125 mm ของพวกนาโต้ ที่สำคัญ ปืน125 mm. ยิงจรวดนำวิถีต่อสู้รถถังได้อีกด้วย ระยะยิง 4 km ยิงฮ. พวก mi24 หรือ apache ก็ได้ครับ :D ลองดูรายละเอียดประสิทธิภาพเกราะแต่ละรุ่นในใน link นี้ครับ :D http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm (http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm) http://64.26.50.215/armorsite/main.html (http://64.26.50.215/armorsite/main.html) และแล้วเมื่อกาลเวลาผ่านเลยไป... เอ็ม ๑ ที่ว่าแน่ๆ ก็โดนตุ๋ยด้วยอาร์พีจี... จากฝีมือสาวอีรัค... ::005:: ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2010, 12:13:34 AM นี่แหละหนา ปลาตายน้ำตื้น อิอิ โดน เบ 40 ที่เครื่องยนต์ อิอิ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 06, 2010, 12:27:42 AM อ่านในหนังสือเห็นมี4ตัวเลือกครับแต่ไม่รู้จะจริงเท็จแค่ไหน 1.Type 99 จากจีน 2.Type 90 ญี่ปุ่น 3.T-90 รัสเซีย 4.รุ่นอะไรของเกาหลีนี่เหละครับ ในความเห็นของผม ผมมอง leopart ของเยอรมันมากกว่า การซ่อมบำรุง ถูกกว่า ง่ายกว่า ที่สำคัญ ราคาต่อคุณภาพ t 90 ล่าสุด อินเดีย ซื้อแบบมาประกอบเองคันละประมาณ 3 us$ ในขณะที่ leopard2 a6 เงินเท่ากันซื้อได้ไม่ถึงครึ่งคัน ปืน 125 mm ก็ไม่ได้ด้อยกว่า ปืน 125 mm ของพวกนาโต้ ที่สำคัญ ปืน125 mm. ยิงจรวดนำวิถีต่อสู้รถถังได้อีกด้วย ระยะยิง 4 km ยิงฮ. พวก mi24 หรือ apache ก็ได้ครับ :D ลองดูรายละเอียดประสิทธิภาพเกราะแต่ละรุ่นในใน link นี้ครับ :D http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm (http://64.26.50.215/armorsite/T-90S.htm) http://64.26.50.215/armorsite/main.html (http://64.26.50.215/armorsite/main.html) และแล้วเมื่อกาลเวลาผ่านเลยไป... เอ็ม ๑ ที่ว่าแน่ๆ ก็โดนตุ๋ยด้วยอาร์พีจี... จากฝีมือสาวอีรัค... ::005:: ::005:: ::005:: M 1 ที่โดนยิง ถล่มนั้น ไม่มี่ร่องรอย ที่ร้ายแรงที่ป้อมปืน หรือ ด้านหน้ารถเลย แต่ร่องที่เห็นในภาพ เป็นที่ตัวรถ และ สายพาน เชื่อว่า เป็นการยิงที่ตัวรถ หรือ สายพานจนรถ ไม่สามารถไปไหนได้ จากนั้นก็ โดนถล่มจาก อาวุธ นา ๆ ชนิด จนอยู่ในสภาพนั้นได้ (http://3.bp.blogspot.com/_pMw2glgvKOs/R8ryk7SrzDI/AAAAAAAAH3A/RA5q-v9SEh8/s400/US-M1-abrams2.jpg) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 06, 2010, 12:34:00 AM (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/en/thumb/1/1e/DM-SD-04-07075.jpg/800px-DM-SD-04-07075.jpg)
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 06, 2010, 12:40:54 AM (http://data.primeportal.net/m1_iraqp/rob_m1_broken/Iraq_046.jpg)
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ มกราคม 06, 2010, 12:44:44 AM คนในรถรอดหรือเปล่าครับ???
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 06, 2010, 01:08:46 AM 2 อาทิตย์ก่อนผมดู history chanel ตอน tank เป็นเรื่องเกี่ยงกับรถถังสมัยใหม่ m1 abram เกี่ยวกับพัฒนาการต่างๆ เช่น ช่วงล่างแบบอิสระ ทำให้ m1 วิ่งนิ่มมาก เหมือน คาดิลแล็ค แล้วก็กล่าวไปถึงว่ารถถังยุคสงครามโลกเช่น tiger t34ที่ใช้ช่วงล่างอิสระแบบนี้ได้ผลคือ t34 ทำให้ วิ่งไปแล้วยังพอจะยิงไปได้โดยยังพอมีโอกาสยิงถูกเป้าหมายอยู่บ้าง ส่วนเรื่องเกราะนี่ปืน 75 ไม่สามารถยิง tiger เข้าด้านหน้า แต่รถถังtiger มีปืนที่แรงสะท้อนสูงและช่วงล่างที่กระโดกกระเดกกว่าทำให้เวลายิงต้องหยุดเคลื่อนที่ ไม่ทราบว่าเรื่องนี้ history chanel มั่วหรือไม่ครับ เพราะ สารคดีนี้ usa เป็นผู้ผลิตคงไม่ค่อยอยากให้เครดิต tiger มากนักก็เป็นได้ครับ :D ช่วงล่างของรถถัง M1 Abrams ใช้ระบบช่วงล่างอิสระ (Torsion bar) (http://en.wikipedia.org/wiki/Torsion_bar) เหมือนกับรถถังรุ่นหลังๆของนาซีเยอรมันครับ โดยเฉพาะรถถัง Panther ที่ถือว่าเป็นต้นแบบของรถถังในสมัยใหม่ที่ถูกลอกเลียนเทคโนโลยีไปมากมาย ซึ่งระบบช่วงล่างแบบนี้สามารถวิ่งได้อย่างนิ่มนวลและทำความเร็วได้ดีในภูมิประเทศ ในขณะที่รถถัง T-34 ยังใช้ระบบช่วงล่างแบบรุ่นเก่าเป็นแหนบและสปริงซึ่งมีแรงสะเทือนมากกว่า ถ้าวิ่งด้วยความเร็วสูงในภูมิประเทศครับ ส่วนปืนใหญ่รถถังขนาด 88 มม. แม้จะมีแรงสะท้อนสูง แต่ถ้ามันอยู่ในมือของคนที่ชำนาญเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ปัยหาใหญ่ครับ อีกทั้งยังมีระยะยิงกับอำนาจทำลายล้างที่สูงมากด้วย ลองคิดดูสิครับว่าถ้าเราสามารถยิงทำลายยานเกราะข้าศึกได้จากระยะไกลประมาณ 3-4 กิโลเมตร กับการที่เราต้องขับรถถังเข้ามายิงในระยะประมาณ 1 กิโลเมตรซึ่งเป็นระยะที่ปืนใหญ่รถถังของข้าศึกก็ยิงถึงได้ คุณว่าแบบไหนมีโอกาสสูญเสียมากกว่ากันครับ ส่วนเรื่องการวิ่งไปยิงไปนั้น ก็อย่างที่ทราบกันแล้วว่ารถถังในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่มีระบบเลี้ยงเป้าหรือระบบ Stabilizer เหมือนในปัจจุบัน แล้วตัวรถเองก็บรรทุกกระสุนปืนใหญ่ได้จำกัดด้วย การจะยิงออกไปแต่ละครั้งจึงต้องหยุดรถเพื่อเล็งเป้าหมายแล้วค่อยทำการยิง เพราะถ้ายิงไม่โดนนอกจากจะเสียกระสุนไปเปล่าๆ 1 นัดแล้ว ยังมีสิทธิ์โดนยิงสวนกลับมาด้วยครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นกรณีรถถัง T-34 เจอกับรถถัง Tiger หรือรถถัง Panther ของฝ่ายเยอรมัน ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 06, 2010, 01:18:55 AM นี่แหละหนา ปลาตายน้ำตื้น อิอิ โดน เบ 40 ที่เครื่องยนต์ อิอิ รถถังคันนี้น่าจะโดนยิงทางด้านหลังเข้าตำแหน่งห้องเครื่องพอดี ด้วยลูกจรวดแบบหัวรบทวิประสงค์ (Dual Warhead) รุ่น PG-7VR แบบในภาพด้านล่างครับ ตามสเปคแล้วหัวรบแบบนี้เจาะเกราะ 2 ครั้งรวมกันได้ลึกถึง 600-700 มม. เลย เอาไว้จัดการกับพวกรถถังที่ติดตั้งเกราะปฏิกิริยา (Reactive Armor) โดยเฉพาะ ส่วนที่ไหม้ทั้งคันก็คงโดนระเบิดขวด Molotov Cocktail ปาซ้ำเข้าให้อีกครับ ::014:: (http://img215.imageshack.us/img215/4603/rpg7pg7vr.jpg) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2010, 01:27:11 AM โซเวียตเค้าชอบคิดว่า ปริมาณคือคุณภาพ ครับ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มกราคม 06, 2010, 03:19:21 AM เชียร์ t90 ของรัสเซีย รถถังตระกูลรัสเซียมีประสิทธิภาพในการรบสูงมากๆ ยุคสงครามโลกครั้งที่2 รัสเซียมีรถถังที่ดีมากๆ ในยุทธการเคิร์ส t34 ชนะ tiger ของเยอรมันด้วยซ้ำ จุดเด่นของรถถังรัสเซียคือ เกราะด้านหน้าที่หน้า การเคลื่อนที่เยี่ยมแม้แต่ในพื้นที่หล่มโคลน วิ่งไปยิงไปได้ รัสเซียใช้ระบบรองรับแบบอิสระก่อนเยอรมันด้วยซ้ำ ทำให้วิ่งไปยิงไปได้ ในขณะที่tiger ต้องจอดยิงครับ ผมว่าข้อมูลน่าจะผิดพลาดบางส่วนนะครับ ::014::ในสมรภูมิเมือง Kursk ที่เยอรมันต้องล่าถอยกลับมานั้น ไม่ใช่เพราะรถถังเยอรมันไม่มีประสิทธิภาพนะครับ ตอนนั้นเยอรมันได้ผลิตรถถังรุ่นใหม่ คือ รถถัง Panther ออกมาแล้ว ซึ่งใช้แนวคิดของรถถัง T-34 คือ ปรับสายพานให้มีความกว้าง ปรับเกราะด้านหน้าและด้านข้างให้ลาดเอียงมากขึ้นเพื่อเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะ ป้อมปืนก็ใช้วิธีหล่อเป็นชิ้นเดียวกัน จนออกมาเป็นรถถังที่ลงตัวทั้งอำนาจการทำลายล้างและการเคลื่อนที่ในภูมิประเทศ แต่ปัญหาที่ฝ่ายเยอรมันเจอก็คือพื้นที่รอบเมือง Kursk นั้นเป็นที่ราบขนาดใหญ่ ฝ่ายโซเวียตสามารถตรวจจับความเคลื่อนไหวของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลถึง 10 กว่ากิโลเมตร จึงสามารถใช้ปืนใหญ่สนามและปืนต่อสู้รถถังยิงสกัดยานเกราะของฝ่ายเยอรมันได้จากระยะไกลเช่นกันครับ ::012:: ลำพังรถถัง T-34 ของโซเวียตถ้าดวล 1:1 กับรถถัง Tiger รับรองว่ารถถัง T-34 พังเป็นเศษเหล็กแน่นอน เพราะปืนใหญ่ 88 มม.ของรถถัง Tiger สามารถยิงเจาะเกราะด้านหน้าที่หนาที่สุดของ T-34 ได้สบาย ยิ่งถ้าใช้ร่วมกับกระสุนเจาะเกราะแบบ APCR ก็สามารถสอยรถถัง T-34 ได้จากระยะ 3-4 กิโลเมตรเชียวนะครับ ส่วนระบบวิ่งไปยิงไปนั้น ผมว่ารถถัง T-34 ไม่น่าจะทำได้เพราะรถถังสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังไม่มีระบบ Stabilized คอยเลี้ยงเป้าเหมือนรถถังสมัยนี้ ที่วิ่งไปยิงไปน่าจะเป็นการยิงในขณะเคลื่อนที่ด้วยความเร็วต่ำมากกว่าครับ ::014:: แปลก หลายปีก่อนผมดูhistory chanelเหมือนกัน แต่อันนี้เค้าบอกว่าตอนสงครามโลกครั้งที่2 รถถังรัสเซียสู้รถถังเยอรมันไม่ได้เลย อัตราสูญเสียรัสเซีย/เยอรมันอยู่ที่4/1 ในการสู้รบระหว่างรถถังด้วยกัน ฝ่ายรัสเซียต้องใช้รถถังคราวละอย่างน้อย3คัน ถึงจะหยุดรถถังของเยอรมันได้1คันโดยต้องรู้ล่วงหน้าและมีการวางแผนล่อเป้า,ลอบยิงที่ดีด้วย สิ่งที่ทำให้ฝ่ายรัสเซียชนะในด้านนี้ คือ"ปริมาณ"การผลิตที่ต่างกันลิบๆ อันนี้จำได้ไม่ชัดว่ารัสเซียผลิตรถถังได้มากกว่าเยอรมัน10-15เท่านี่แหละ ::012:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2010, 03:28:14 AM ถ้าเยอรมันเริ่มสงครามwwIIช้าไปสัก สิบปีผลคงจะออกมาในอีกรูปแบบหนึ่ง(หรือเปล่านะ)
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มกราคม 06, 2010, 03:43:29 AM พูดถึงWW II ผมเคยมีเพื่อนเยอรมันคนนึง หมอนี่ฉลาด ช่างสังเกตุ โผงผางและปากจัดมาก
วันหนึ่งกำลังนั่งกินเบียร์+เล่นทอยเต๋ากันอยู่ มีอิตาเลี่ยนกลุ่ม3คนเข้ามาเอะอะเสียงดังในร้าน เพื่อนผมมันคงรำคาญหันไปตะโกนถาม ว่า... ไอ้Verner เฮ้...จริงหรือเปล่า ที่พ่อกรูบอกว่ารถถังที่อิตาลี่มี4เกียร์ อิตาเลี่ยน...งง ? ? ? ไอ้Verner พ่อกรูบอกว่ารถถังอิตาเลี่ยนมี1เกียร์ไว้เดินหน้า กับ อีก3เกียร์ไว้ถอยหนี ทิ้งเพื่อนให้ตายalone ;D หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 06, 2010, 04:28:44 AM นี่แหละหนา ปลาตายน้ำตื้น อิอิ โดน เบ 40 ที่เครื่องยนต์ อิอิ รถถังคันนี้น่าจะโดนยิงทางด้านหลังเข้าตำแหน่งห้องเครื่องพอดี ด้วยลูกจรวดแบบหัวรบทวิประสงค์ (Dual Warhead) รุ่น PG-7VR แบบในภาพด้านล่างครับ ตามสเปคแล้วหัวรบแบบนี้เจาะเกราะ 2 ครั้งรวมกันได้ลึกถึง 600-700 มม. เลย เอาไว้จัดการกับพวกรถถังที่ติดตั้งเกราะปฏิกิริยา (Reactive Armor) โดยเฉพาะ ส่วนที่ไหม้ทั้งคันก็คงโดนระเบิดขวด Molotov Cocktail ปาซ้ำเข้าให้อีกครับ ::014:: (http://img215.imageshack.us/img215/4603/rpg7pg7vr.jpg) ผมว่าไม่ได้เป็นหัวรบแบบทวิประสงค์ครับ น่าจะเรียกว่าจรวดแบบสองหัวรบมากกว่า(Tandem Charge Warhead) เพราะจุดประสงค์ของมันคือ เอาไว้เจาะเกราะ โดยเฉพาะเจาะเกราะปฏิกริยา หรือเกราะ ที่เป็นลูกกรง หัวรบแรกจะเบิกทางให้หัวรบถัดไป ครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 06, 2010, 10:05:24 AM ผมว่าไม่ได้เป็นหัวรบแบบทวิประสงค์ครับ น่าจะเรียกว่าจรวดแบบสองหัวรบมากกว่า(Tandem Charge Warhead) เพราะจุดประสงค์ของมันคือ เอาไว้เจาะเกราะ โดยเฉพาะเจาะเกราะปฏิกริยา หรือเกราะ ที่เป็นลูกกรง หัวรบแรกจะเบิกทางให้หัวรบถัดไป ครับ แฮะๆ :D พอดีผมจำชื่อแบบนี้มาจากกระสุนแบบ High Explosive Dual Purpose (HEDP) ของ ปรส. แบบ M3 ขนาด 84 มม. หนะครับ เห็นทางทหารเรียกว่า "กระสุนระเบิดแรงสูงวัตถุประสงค์ควบคู่" แล้วก็เห็นว่าลูกจรวด RPG มันมี 2 หัวรบด้วยก็เลยเรียกแบบนี้ ขอบคุณคุณโจ๊กที่มาอธิบายเพิ่มเติมให้ด้วยครับ ::014:: ภาพกระสุนขนาด 84 มม.ของ ปรส. แบบ M3 ครับ :VOV: (http://img64.imageshack.us/img64/7235/mspo200740.jpg) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มกราคม 06, 2010, 10:52:55 AM ขออนุญาตนอกเรื่อง ถ.หลักของไทยไปนะครับ ................ผมเองก็ไม่ค่อยทราบ เพราะไม่ได้ทำงานในจุดนี้ ครั้นจะไปถามพรรคพวกที่ทำงานจุดนี้ เดี๋ยวมันจะแดกดันให้ระคายหูอีกว่า .................... อยากรู้เรื่องอะไรอีกล่ะ(มรึงนี่!!!!!)
เสริมหน่อยหนึ่งนะครับ ............. ระบบการผลิตรถถังของรัสเซีย จากช่วงWW II ที่เยอรมันเปิดฉากบุกรัสเซีย ................ เริ่มแรกวันเดียวทะลุไปร่วมๆ150ไมล์ .............รถถังของรัสเซียเวลานั้น ถือว่าล้าสมัยครับ ............ ทั้ง T35 (5ป้อม) ...T28 (3 ป้อม) ..........BT-5 BT-7 ฯลฯ ล้วนล้าสมัย .............เจอ Panzer III Panzer IV ของเยอรมัน ไม่กี่ยกก็โดนยิงทำลายสูญเสียไปเยอะ ............. รัสเซียก็ตื่นจากหลับ หลังจากที่นอนฝันหวานจากการโดนหลอกเซ็นต์สัญญาไม่รุกรานกันกับเยอรมัน .................ก็เริ่มผลิตอาวุธใหม่ๆ ทั้งเครื่องบินและรถถังรุ่นใหม่ๆออกมาต่อกรกับเยอรมันผู้รุกราน...............เรียกว่าทั้งอาวุธเบา อาวุธหนัก รถถังรัสเซีย เริ่มการผลิตแบบ"คู่ขนาน" ตั้งแต่ช่วงนี้ ............การผลิตแบบคู่ขนานคือ ทำการออกแบบและผลิตรถถังออกมา 2 Versoin คู่กันไป ............. แบบแรกคือ ใช้เทคโนโลยี่ที่สูงที่สุดเท่าที่ทำได้ในขณะนั้น ผลิตรถถังออกมาแบบทันสมัยสุดๆ ร้ายแรงสุดเท่าที่สายการผลิตจะทำได้ (ทำให้ผลิตออกมาได้ไม่มาก) และต้นทุนสูง............... แบบที่สองที่คู่ขนานกับแบบแรกคือ ใช้เทคโนโลยี่สูงพอควรแต่ทำง่ายๆ ต้นทุนต่ำ ผลิตได้เร็ว จำนวนมากๆ ................ คู่แรกเริ่มคือ ........... JS-1 JS-2 และ JS-3 Stalin ที่เป็น ถ.หนัก ติดปืน 122 มม. กับ ขวัญใจยอดนิยมคือ T-34/76 ตั้งแต่ T-34 1941 1942 1943 ติดปืน 76.2 มม. ไปเรือยๆจนถึง T-34/85 ติดปืน 85 มม. ................ คู่ต่อมา ช่วงสงครามลัทธิและสงครามเย็น ..............คือ T-62 ติดปืน 115 มม. ของแพง ............. กับ T-54/55 ติดปืน 100 มม. ของถูก คู่ที่สาม ช่วงต่อมา ..................... คือ T-64 ของแพง .............กับ T-72 ของถูก ช่วงต่อมาผมคิดว่ารัสเซียเลิกระบบคู่ขนานแล้วหรือไม่ เพราะช่วงนี้เป็นช่วงก่อนที่โซเวียตล่มสลายแตกออกเป็นหลายประเทศ คือผลิต T-80 กับ T-90 ออกมาจนถึงปัจจุบัน............... ปล. ช่วงที่กองทัพที่ 6 ของเยอรมันโดนล้อมที่สตาลินกราด ........ แล้วถูกนายพลซูคอฟ ของโซเวียตเข้าโจมตีขั้นแตกหัก ในช่วงที่อุณหภูมิหนาวจัดจนน้ำมันเครื่องในยานพาหนะของเยอรมันเริ่มหนืดและแข็งตัวจนสตาทเครื่องยนต์ไม่ได้ ................ จนกองทัพที่ 6 เยอรมันพ่ายแพ้ โดยที่รถถังรัสเซียวิ่งบุกตะลุยเข้ามาได้ เพราะเทคโนโลยี่น้ำมันหล่อลื่นของรัสเซียที่ยังใช้งานได้แม้ในอุณหภูมิต่ำมากได้ ............. ประการหนึ่ง ส่วนที่เยอรมันพ่ายแพ้ อีกหลายเรื่อง ไม่ขอกล่าวครับเพราะจะยาวมาก ปล. เคยสังเกตุภาพถ่ายรถถังรัสเซียสมัย WW II ไหมครับ ................. ที่เขียนเป็นตัวหนังสือยาวๆข้างป้อม บางคันก็เขียน บางคันก้ไม่เขียน ................ ผมได้รับความรู้จากครูท่านหนึ่งว่า จริงตัวหนังสือเหล่านั้น คือชื่อหมู่บ้านที่เป็นคอมมูนต่างๆของโซเวียต ............. ที่ร่วมแรงร่วมใจทั้งแรงงาน เงินทุน ฯลฯ ผลิตรถถังคันนั้นๆออกมาเพื่อทำสงครมปกป้องแผ่นดินแม่ ................ ถ้าเป็นชื่อไทย เราคงเห็นรถถังเหล่านั้นมีชื่อข้างๆป้อมปืนว่า บ้านโนนไทย บ้านอ้อ บ้านมาบข่า บ้านหนองประดู่ ฯลฯ เป็นแน่ ;) (http://img189.imageshack.us/img189/1649/atcrussiant34s1.jpg) (http://img189.imageshack.us/i/atcrussiant34s1.jpg/)(http://img189.imageshack.us/img189/atcrussiant34s1.jpg/1/w1005.png) (http://g.imageshack.us/img189/atcrussiant34s1.jpg/1/) T-34/85 ........... หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มกราคม 06, 2010, 11:01:53 AM พูดถึงWW II ผมเคยมีเพื่อนเยอรมันคนนึง หมอนี่ฉลาด ช่างสังเกตุ โผงผางและปากจัดมาก วันหนึ่งกำลังนั่งกินเบียร์+เล่นทอยเต๋ากันอยู่ มีอิตาเลี่ยนกลุ่ม3คนเข้ามาเอะอะเสียงดังในร้าน เพื่อนผมมันคงรำคาญหันไปตะโกนถาม ว่า... ไอ้Verner เฮ้...จริงหรือเปล่า ที่พ่อกรูบอกว่ารถถังที่อิตาลี่มี4เกียร์ อิตาเลี่ยน...งง ? ? ? ไอ้Verner พ่อกรูบอกว่ารถถังอิตาเลี่ยนมี1เกียร์ไว้เดินหน้า กับ อีก3เกียร์ไว้ถอยหนี ทิ้งเพื่อนให้ตายalone ;D ฮึ่ม แต่ทหารอิตาเลี่ยนไม่ใส่รองเท้ากลับหลังเอาไว้วิ่งหนีนะครับ พี่แกวิ่งลุยข้างหน้าตลอด ......วิ่งไปยอมแพ้ ที่อัฟริกาเหนือ กองทัพอิตาเลี่ยน 3 แสนคน ยอมแพ้กองทัพอังกฤษไม่ถึง 5 หมื่นคน ในบันทึกของรอมเมล ตอนแรกเมกันไปอัฟริกาเหนือยัีงรบไม่เก่ง ทหารเยอรมันบอกเชลยอังกฤษว่า "ยูมีเมกันเป็นตัวถ่วง ส่วนไอก็มีไอ้เลี่ยนเป็นตัวถ่วง" หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มกราคม 06, 2010, 11:55:09 AM ผมฝันหวานว่า ทบ.อาจจะได้ CV-90 จะมาประจำการต่อจาก JAS-39 ครบฝูง และหลังจากกองทัพบกได้ CV-90 มาประจำการแล้ว กองทัพเรือก็จะได้ Visby และ A-19 มาประจำการ ตามลำดับ ไม่รู้ว่าจะฝันกลางวันหรือเปล่านะครับ........... :VOV: ตรงใจผมเลย พี่ + ครับรูปประกอบการฝันกลางวันครับ (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=79A9_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=79A9_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=1CE8_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=1CE8_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=7011_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=7011_4B42DE6F) (http://www.khonkaenlink.info/share/image.php?id=5983_4B42DE6F&jpg) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=5983_4B42DE6F) :VOV: :VOV: :VOV: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 06, 2010, 06:28:13 PM รถถังบ้านเราที่ทันสมัยที่สุดก็น่าจะเป็นเอ็ม 60 ของเก่าที่คุณกันขายให้ถูก ๆ ส่วนสตริงเรย์ไม่แน่ว่าจะยังมีอะไหล่หรือเปล่า ส่วนไทพ์ 69 ได้ยินว่าไปอัพเกรดอยู่ไม่ทราบว่าไปถึงไหนแล้ว....
ม้าเหล็กของเราที่เก่าแต่ยังวิ่งฉิวอยู่ก็น่าจะเป็นสกอร์เปียนนะครับ.... ส่วนรถถังใหม่ ๆ นี่ผมรู้สึกเฉย ๆ นะครับ แต่กลับชอบ รสพ ล้อยางมากว่า เพราะคล่องตัวมาก และเอนกประสงค์ดี นน เบา แถมวิ่งได้เร็วและไม่กลัวติดหล่ม.... (http://www.pixnice.com/upload/files/dlnzmobm5wk2my2ytjyt.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) สเป็คของรถถังสำหรับ ทบไทยที่จะมาแทนแบบ เอ็ม 41 เอ 3 คร่าว ๆ ครับ.... ุณลักษณะเฉพาะของรถถังหลัก (MBT) ที่จะจัดหาเพื่อใช้ในกองทัพไทย คุณลักษณะเฉพาะจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. คุณลักษณะเฉพาะทางยุทธวิธี 2. คุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค คุณลักษณะเฉพาะทางยุทธวิธี 1. ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ 1.1 มีขีดความสามารถปฏิบัติการรบในเวลากลางวัน/กลางคืนและ ในขณะทัศนะวิสัยจำกัดได้เป็นอย่างดี 1.2 เครื่องยนต์มีอัตราส่วนกำลัง : น้ำหนักไม่น้อยกว่า 18 แรงม้าต่อ ตัน* 1.3 ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 400 กิโลเมตร 1.4 ความเร็วสูงสุดบนถนนไม่น้อยกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง 1.5 สามารถข้ามเครื่องกีดขวางได้ไม่น้อยกว่า 0.70 เมตร 1.6 สามารถข้ามคูกว้างได้ไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร 1.7 ความสามารถในการไต่ลาดตรงไม่น้อยกว่า 60% , ลาดข้างไม่น้อย กว่า 30% 1.8 น้ำหนักกดพื้นไม่มากกว่า 0.91 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร* 1.9 การลุยข้ามน้ำ ไม่น้อยกว่า 1 เมตร 2. ความอยู่รอด 2.1 มีระบบอุปกรณ์ผจญเพลิง 2.2 มีระบบป้องกันนิวเคลียร์ชีวเคมี - 10 - 3. อำนาจการยิง/การทำลายสามารถทำการยิงระบบอาวุธประจำรถถัง ในขณะเคลื่อนที่ ทั้งในเวลากลางวัน/กลางคืน และทัศนะวิสัยที่จำกัดได้ หมายเหตุ * อัตราส่วนกำลัง : น้ำหนักไม่น้อยกว่า 18 แรงม้า/ตัน พิจารณาจาก เครื่องยนต์ที่มีใช้ในรถถังหลัก (MBT) ที่มีประจำการ * เป็นน้ำหนักกดพื้นของรถถังที่มีประจำการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน (ถ. PT- 91) คุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค 1. ตัวรถ - แผ่นเกราะเป็นวัสดุผสมที่มีใช้ในรถถังหลักและมีสายการผลิตใน ปัจจุบัน 2. ระบบขับเคลื่อน - เครื่องยนต์ดีเซล สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลายประเภท ระบาย ความร้อนด้วยน้ำหรืออากาศ - เครื่องเปลี่ยนความเร็ว เป็นแบบอัตโนมัติ 3. ระบบเครื่องพยุงตัวรถ ใช้คานรับแรงบิดร่วมกับระบบไฮดรอลิค 4. เครื่องควบคุมการยิง - มีระบบควบคุมการยิงด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย - มีระบบกล้องตรวจการณ์และกล้องเล็งเป็นแบบจับภาพด้วยความร้อน ( Termal Imaging system ) - มีเครื่องหาระยะด้วยแสงเลเซอร์ - มีระบบรักษาการทรงตัวของปืน - เครื่องควบคุมการยิงเล็งตรงหลัก/รอง/เพิ่มเติม 5. ระบบเครื่องควบคุมป้อมปืน เป็นแบบควบคุมด้วยมือและระบบ ไฮดรอลิคควบคุมด้วยไฟฟ้า 6. อาวุธหลัก ปถ.ประเภทลำกล้องมีเกลียวหรือประเภทลำกล้องเรียบ กว้าง ปากลำกล้อง ตั้งแต่ 105 มิลลิเมตรขึ้นไป พร้อมด้วยอาวุธรอง ปืนกลร่วมแกน และ ปืนกลต่อสู้อากาศยานมีเครื่องยิงลูกระเบิดควัน 7. มีกล้องตรวจการณ์เวลากลางคืนของพลขับ 8. เครื่องมือสื่อสารเป็นระบบ เอ็ฟ.เอ็ม. ที่สามารถ ใช้งานกับทุกโหมด (Mode) ที่มีประจำการอยู่แล้วใน ทบ. ซึ่งสามารถรองรับระบบสื่อสารที่ทันสมัย ได้ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบควบคุมสั่งการ ภายใน รถ (Intercom) 9. การซ่อมบำรุง การใช้งาน และปรนนิบัติบำรุงระดับ พลประจำรถ สามารถทำได้โดยพลประจำรถและช่างซ่อมบำรุงของหน่วย 10. สามารถให้การสนับสนุนชิ้นส่วนซ่อมได้ในระยะเวลาไม่ น้อยกว่า 15 ปี ;D หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 06, 2010, 08:34:08 PM ผมว่าในระหว่างจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่เข้าประจำการ ระหว่างนี้ถ้ากองทัพบกสนใจจะนำรถถัง M41 ไปเปลี่ยนปืนใหญ่รถถังจากขนาด 76 มม. เป็น 105 มม. จะดีไหมครับ เพราะผมก็เคยเห็นรถถัง M4 Sherman ของอิสราเอลเปลี่ยนปืนขนาด 75 มม. เป็นปืนขนาด 105 มม. เช่นกัน
แล้วก็ทำการเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะด้านหน้าและด้านข้าง เปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แก็สโซลีนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คาดว่าคงใช้ต่อได้อีกหลายปีครับ ลำพังถ้าจัดหารถถังใหม่เลยคงใช้งบประมาณอีกมาก แล้วต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยครับ ::012:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มกราคม 06, 2010, 09:50:53 PM ผมว่าในระหว่างจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่เข้าประจำการ ระหว่างนี้ถ้ากองทัพบกสนใจจะนำรถถัง M41 ไปเปลี่ยนปืนใหญ่รถถังจากขนาด 76 มม. เป็น 105 มม. จะดีไหมครับ เพราะผมก็เคยเห็นรถถัง M4 Sherman ของอิสราเอลเปลี่ยนปืนขนาด 75 มม. เป็นปืนขนาด 105 มม. เช่นกัน ราคาป้อมปืน แบบมี stabilizer ของยิวไม่ใช่ถูกเลยนะครับ แต่105 mm น่าจะถูกกว่า 120 mm. ล่าสุด turkey ให้ IMI upgrade m60 ตกคันละเกือบ 4 mus$ เคยคิดเล่นๆเหมือนกันว่าถ้า upgrade m48 กับ m60 ราคานี้ ซื้อ ถ. t90 ก็ราคาพอๆกันครับ :Dแล้วก็ทำการเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะด้านหน้าและด้านข้าง เปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แก็สโซลีนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คาดว่าคงใช้ต่อได้อีกหลายปีครับ ลำพังถ้าจัดหารถถังใหม่เลยคงใช้งบประมาณอีกมาก แล้วต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยครับ ::012:: The prototype was delivered to Turkey in late 2005 and is now undergoing tests. Several other prototypes are being tested in Israel as part of a USD700 million contract to upgrade 170 Turkish M60A1 MBTs. Israeli armour officers described the upgraded Turkish M60A1 configuration, also known as the Sabra Mk III, as "a totally new tank", with one IDF armour specialist claiming that "in some areas it even supersedes the [Israeli] Merkava Mk 4". http://forum.pakistanidefence.com/lofiversion/index.php/t54214.html (http://forum.pakistanidefence.com/lofiversion/index.php/t54214.html) http://en.wikipedia.org/wiki/Sabra_(tank) (http://en.wikipedia.org/wiki/Sabra_(tank)) (http://img20.imageshack.us/img20/3627/sabra.jpg) (http://img20.imageshack.us/i/sabra.jpg/) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 06, 2010, 10:39:37 PM ผมว่าในระหว่างจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่เข้าประจำการ ระหว่างนี้ถ้ากองทัพบกสนใจจะนำรถถัง M41 ไปเปลี่ยนปืนใหญ่รถถังจากขนาด 76 มม. เป็น 105 มม. จะดีไหมครับ เพราะผมก็เคยเห็นรถถัง M4 Sherman ของอิสราเอลเปลี่ยนปืนขนาด 75 มม. เป็นปืนขนาด 105 มม. เช่นกัน แล้วก็ทำการเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะด้านหน้าและด้านข้าง เปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แก็สโซลีนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คาดว่าคงใช้ต่อได้อีกหลายปีครับ ลำพังถ้าจัดหารถถังใหม่เลยคงใช้งบประมาณอีกมาก แล้วต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยครับ ::012:: มีจ่า ม. พัน ๔ ท่านหนึ่ง บอกว่าตามโครงการเปลี่ยนเครื่องยนต์เดิมนานมาแล้วนั้น เครื่องยนต์ดีเซลที่ว่ากับเกียร์ (ลูกเดิม?) ไม่แมทช์กัน เลยยกเลิกโครงการ ผมไม่ทราบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างนั้นหรือไม่ แต่ส่วนตัว คิดว่าเครื่องยนต์ใหม่น่าจะมีเกียร์มาด้วย ครั้งนั้น ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนปืนใหญ่ไปเป็นขนาด ๙๐ ม.ม. ด้วย หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: -Joke- ที่ มกราคม 06, 2010, 10:42:26 PM ผมว่าในระหว่างจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่เข้าประจำการ ระหว่างนี้ถ้ากองทัพบกสนใจจะนำรถถัง M41 ไปเปลี่ยนปืนใหญ่รถถังจากขนาด 76 มม. เป็น 105 มม. จะดีไหมครับ เพราะผมก็เคยเห็นรถถัง M4 Sherman ของอิสราเอลเปลี่ยนปืนขนาด 75 มม. เป็นปืนขนาด 105 มม. เช่นกัน ราคาป้อมปืน แบบมี stabilizer ของยิวไม่ใช่ถูกเลยนะครับ แต่105 mm น่าจะถูกกว่า 120 mm. ล่าสุด turkey ให้ IMI upgrade m60 ตกคันละเกือบ 4 mus$ เคยคิดเล่นๆเหมือนกันว่าถ้า upgrade m48 กับ m60 ราคานี้ ซื้อ ถ. t90 ก็ราคาพอๆกันครับ :Dแล้วก็ทำการเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะด้านหน้าและด้านข้าง เปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แก็สโซลีนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คาดว่าคงใช้ต่อได้อีกหลายปีครับ ลำพังถ้าจัดหารถถังใหม่เลยคงใช้งบประมาณอีกมาก แล้วต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยครับ ::012:: The prototype was delivered to Turkey in late 2005 and is now undergoing tests. Several other prototypes are being tested in Israel as part of a USD700 million contract to upgrade 170 Turkish M60A1 MBTs. Israeli armour officers described the upgraded Turkish M60A1 configuration, also known as the Sabra Mk III, as "a totally new tank", with one IDF armour specialist claiming that "in some areas it even supersedes the [Israeli] Merkava Mk 4". http://forum.pakistanidefence.com/lofiversion/index.php/t54214.html (http://forum.pakistanidefence.com/lofiversion/index.php/t54214.html) http://en.wikipedia.org/wiki/Sabra_(tank) (http://en.wikipedia.org/wiki/Sabra_(tank)) (http://img20.imageshack.us/img20/3627/sabra.jpg) (http://img20.imageshack.us/i/sabra.jpg/) อะบรามส์น้อย อิอิอิ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 06, 2010, 10:49:53 PM ผมว่าในระหว่างจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่เข้าประจำการ ระหว่างนี้ถ้ากองทัพบกสนใจจะนำรถถัง M41 ไปเปลี่ยนปืนใหญ่รถถังจากขนาด 76 มม. เป็น 105 มม. จะดีไหมครับ เพราะผมก็เคยเห็นรถถัง M4 Sherman ของอิสราเอลเปลี่ยนปืนขนาด 75 มม. เป็นปืนขนาด 105 มม. เช่นกัน แล้วก็ทำการเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะด้านหน้าและด้านข้าง เปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แก็สโซลีนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คาดว่าคงใช้ต่อได้อีกหลายปีครับ ลำพังถ้าจัดหารถถังใหม่เลยคงใช้งบประมาณอีกมาก แล้วต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยครับ ::012:: M41 เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน ครับ ถ้าจะ อัพเกรด จริง ๆ เปลี่ยนเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบควบคุมการยิง เกราะปฎิกิริยา ฯลฯ. ซื้อ มือ 2 คุ้มกว่า อย่าง M60 ล๊อตหลังได้ข่าวว่า ซื้อมาคันละ $1 ล้าน(ตอนนั้น 1 ดอลล่า = 40 บาท) เอง ราคามิตรภาพ (แต่ซื้อ ไทป์ 69 คันละ ล้านบาท ถูกกว่า รถเบ็นส์ อีก) รถถังไทย ซื้อแบบ ถูก ๆ ครับ แพง ไม่ต้องถาม อัพเกรด ยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงเลย เห็นมีข่าว อัพเกรด M41 มากกว่า 2 ครั้ง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ อ้าง งบประมาณ ไม่พอ หรือไม่ก็ ยกเลิกไป หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 06, 2010, 11:06:48 PM M41 เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน ครับ "เครื่องยนต์แก็สโซลีน (Gasoline Engine)" คือชื่อทางการของเครืองยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซีนนี่เองครับ ไม่ได้หมายถึงพวกเครื่องยนต์ก๊าซเทอร์ไบน์เลย (Gas Turbine Engine) ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 06, 2010, 11:16:47 PM ผมว่าในระหว่างจัดหารถถังหลักรุ่นใหม่เข้าประจำการ ระหว่างนี้ถ้ากองทัพบกสนใจจะนำรถถัง M41 ไปเปลี่ยนปืนใหญ่รถถังจากขนาด 76 มม. เป็น 105 มม. จะดีไหมครับ เพราะผมก็เคยเห็นรถถัง M4 Sherman ของอิสราเอลเปลี่ยนปืนขนาด 75 มม. เป็นปืนขนาด 105 มม. เช่นกัน แล้วก็ทำการเพิ่มความหนาของแผ่นเกราะด้านหน้าและด้านข้าง เปลี่ยนเครื่องยนต์จากเครื่องยนต์แก็สโซลีนเป็นเครื่องยนต์ดีเซล คาดว่าคงใช้ต่อได้อีกหลายปีครับ ลำพังถ้าจัดหารถถังใหม่เลยคงใช้งบประมาณอีกมาก แล้วต้องใช้เวลาอีกหลายปีด้วยครับ ::012:: M41 เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน ครับ ถ้าจะ อัพเกรด จริง ๆ เปลี่ยนเครื่องยนต์ ระบบขับเคลื่อน ระบบควบคุมการยิง เกราะปฎิกิริยา ฯลฯ. ซื้อ มือ 2 คุ้มกว่า อย่าง M60 ล๊อตหลังได้ข่าวว่า ซื้อมาคันละ $1 ล้าน(ตอนนั้น 1 ดอลล่า = 40 บาท) เอง ราคามิตรภาพ (แต่ซื้อ ไทป์ 69 คันละ ล้านบาท ถูกกว่า รถเบ็นส์ อีก) รถถังไทย ซื้อแบบ ถูก ๆ ครับ แพง ไม่ต้องถาม อัพเกรด ยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงเลย เห็นมีข่าว อัพเกรด M41 มากกว่า 2 ครั้ง แต่พอเอาเข้าจริง ๆ อ้าง งบประมาณ ไม่พอ หรือไม่ก็ ยกเลิกไป งั้นเรามาคิดแบบรัสเซียในอดีตก็ดีนะครับ... ปริมาณบางครั้งก็หมายถึงคุณภาพ... เอางบซักห้าพันล้าน... ซื้อรถถังไทป์ ๖๙ มาใช้ซักห้าพันคัน... ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 06, 2010, 11:32:03 PM ผมคิดว่าหากจะอัพเกรดเอ็ม 41 ผมว่าซื้อมือ 2 รุ่นที่ไหม่ดีกว่า ยกตัวอย่างเช่น เลโอพาร์ทมือ 2 หรือใหม่ ๆ อย่างไทป์ 69 III ... ;)
ผมดูสภาพของเอ็ม 41 แล้วไม่ใช่ว่าจะแค่ยกเครื่องยนต์ใหม่หรือป้อมปืนใหม่นะครับ แต่จะต้องยกเกือบทั้งหมดเลย ทั้งระบบสายพาน ระบบการสื่อสาร ฯลฯ...นึกถึงกระดองเต่านะครับ จะต้องถอดอุปกรณ์ทั้งหมดเลยให้เหลือแค่โครงสร้าง ลองเช็คสภาพของเหล็กตัวถังแล้วจะเห็นว่าสนิมงี้เขลอะไปหมด ที่เห็นดูดี ๆ น่ะก็เพราะสีครับ ไม่แน่ว่าหากเปลียนป้อมปืนใหม่เข้าไปแล้วโครงสร้างของโครงเดิมจะยังรับ นน ของป้อมปืนได้หรือเปล่า.. :P อีกอย่างอายุรุ่นแรกก็ตั้ง 59 ปีมาแล้วส่วนรุ่น เอ 3 ก็ตั้ง 48 ปี ประเทศอื่น ๆ เขาเอาเข้าไปเป็นพิพิธภัณฑ์กันหมดแล้วครับ... ;D The M-41 Walker Bulldog Light Tank was fielded in 1951, equipped with a long barrel 76mm main gun, an improvement on the M24 Chaffee tank. In development it was known as the Light Tank T37, designed to be air-transportable and highly mobile but with a powerful main gun as a counter to the massed armor of the Soviet Red Army. It was also intended to be a platform for other armored vehicles that would share the chassis and engine (see M42 Duster). As development concluded in 1949, the tank was redesignated the T41E1 and finally standardized as M41. Other variants were produced up to the M41A3 in year 1962 . ::012:: (http://www.pixnice.com/upload/files/ynmwwyddtzyi2rjigztz.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: pimuk ที่ มกราคม 07, 2010, 10:34:17 AM M41 เป็นเครื่องยนต์ เบนซิน ครับ "เครื่องยนต์แก็สโซลีน (Gasoline Engine)" คือชื่อทางการของเครืองยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซีนนี่เองครับ ไม่ได้หมายถึงพวกเครื่องยนต์ก๊าซเทอร์ไบน์เลย (Gas Turbine Engine) ::014:: อเมริกัน vs อังกฤษ ;D ระวัง Benzene เป็นสารเคมีอีกตัวด้วย หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ja yong ที่ มกราคม 07, 2010, 11:20:26 AM ::014::ขอบคุณทุกๆท่าน ที่ให้ความร้คร๊าบบบ ::002:: ::002::
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: nithi i ที่ มกราคม 07, 2010, 04:08:09 PM สเป็คของรถถังสำหรับ ทบไทยที่จะมาแทนแบบ เอ็ม 41 เอ 3 คร่าว ๆ ครับ.... ุณลักษณะเฉพาะของรถถังหลัก (MBT) ที่จะจัดหาเพื่อใช้ในกองทัพไทย คุณลักษณะเฉพาะจะแบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. คุณลักษณะเฉพาะทางยุทธวิธี 2. คุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค คุณลักษณะเฉพาะทางยุทธวิธี 1. ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ 1.1 มีขีดความสามารถปฏิบัติการรบในเวลากลางวัน/กลางคืนและ ในขณะทัศนะวิสัยจำกัดได้เป็นอย่างดี 1.2 เครื่องยนต์มีอัตราส่วนกำลัง : น้ำหนักไม่น้อยกว่า 18 แรงม้าต่อ ตัน* 1.3 ระยะปฏิบัติการไม่น้อยกว่า 400 กิโลเมตร 1.4 ความเร็วสูงสุดบนถนนไม่น้อยกว่า 60 กิโลเมตร/ชั่วโมง 1.5 สามารถข้ามเครื่องกีดขวางได้ไม่น้อยกว่า 0.70 เมตร 1.6 สามารถข้ามคูกว้างได้ไม่น้อยกว่า 1.80 เมตร 1.7 ความสามารถในการไต่ลาดตรงไม่น้อยกว่า 60% , ลาดข้างไม่น้อย กว่า 30% 1.8 น้ำหนักกดพื้นไม่มากกว่า 0.91 กิโลกรัม/ตารางเซนติเมตร* 1.9 การลุยข้ามน้ำ ไม่น้อยกว่า 1 เมตร 2. ความอยู่รอด 2.1 มีระบบอุปกรณ์ผจญเพลิง 2.2 มีระบบป้องกันนิวเคลียร์ชีวเคมี - 10 - 3. อำนาจการยิง/การทำลายสามารถทำการยิงระบบอาวุธประจำรถถัง ในขณะเคลื่อนที่ ทั้งในเวลากลางวัน/กลางคืน และทัศนะวิสัยที่จำกัดได้ หมายเหตุ * อัตราส่วนกำลัง : น้ำหนักไม่น้อยกว่า 18 แรงม้า/ตัน พิจารณาจาก เครื่องยนต์ที่มีใช้ในรถถังหลัก (MBT) ที่มีประจำการ * เป็นน้ำหนักกดพื้นของรถถังที่มีประจำการอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน (ถ. PT- 91) คุณลักษณะเฉพาะทางเทคนิค 1. ตัวรถ - แผ่นเกราะเป็นวัสดุผสมที่มีใช้ในรถถังหลักและมีสายการผลิตใน ปัจจุบัน 2. ระบบขับเคลื่อน - เครื่องยนต์ดีเซล สามารถใช้น้ำมันเชื้อเพลิงได้หลายประเภท ระบาย ความร้อนด้วยน้ำหรืออากาศ - เครื่องเปลี่ยนความเร็ว เป็นแบบอัตโนมัติ 3. ระบบเครื่องพยุงตัวรถ ใช้คานรับแรงบิดร่วมกับระบบไฮดรอลิค 4. เครื่องควบคุมการยิง - มีระบบควบคุมการยิงด้วยคอมพิวเตอร์ที่ทันสมัย - มีระบบกล้องตรวจการณ์และกล้องเล็งเป็นแบบจับภาพด้วยความร้อน ( Termal Imaging system ) - มีเครื่องหาระยะด้วยแสงเลเซอร์ - มีระบบรักษาการทรงตัวของปืน - เครื่องควบคุมการยิงเล็งตรงหลัก/รอง/เพิ่มเติม 5. ระบบเครื่องควบคุมป้อมปืน เป็นแบบควบคุมด้วยมือและระบบ ไฮดรอลิคควบคุมด้วยไฟฟ้า 6. อาวุธหลัก ปถ.ประเภทลำกล้องมีเกลียวหรือประเภทลำกล้องเรียบ กว้าง ปากลำกล้อง ตั้งแต่ 105 มิลลิเมตรขึ้นไป พร้อมด้วยอาวุธรอง ปืนกลร่วมแกน และ ปืนกลต่อสู้อากาศยานมีเครื่องยิงลูกระเบิดควัน 7. มีกล้องตรวจการณ์เวลากลางคืนของพลขับ 8. เครื่องมือสื่อสารเป็นระบบ เอ็ฟ.เอ็ม. ที่สามารถ ใช้งานกับทุกโหมด (Mode) ที่มีประจำการอยู่แล้วใน ทบ. ซึ่งสามารถรองรับระบบสื่อสารที่ทันสมัย ได้ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงมีระบบควบคุมสั่งการ ภายใน รถ (Intercom) 9. การซ่อมบำรุง การใช้งาน และปรนนิบัติบำรุงระดับ พลประจำรถ สามารถทำได้โดยพลประจำรถและช่างซ่อมบำรุงของหน่วย 10. สามารถให้การสนับสนุนชิ้นส่วนซ่อมได้ในระยะเวลาไม่ น้อยกว่า 15 ปี ;D [/quote] สเปคอย่างนี้.. รถถังสติงเรย์เข้าข่ายพิจารณาด้วยมั้ยครับ ? ผมว่า ถ้าสเปคได้ ก็น่าสนใจนะ เพราะ ทบ.ไทยมีอยู่แล้ว ก็จะทำให้สะดวกต่อการฝึกใช้งาน , การซ่อมบำรุง และการสะสมชิ้นส่วนอะไหล่ น้ำหนักรถก็ไม่มาก มีความคล่องตัวสูง ติดตั้งปืนใหญ่รถถังขนาด 105 มม. สามารถยิงลูกเจาะเกราะสลัดครอบทิ้ง (APFSDS)ได้ ถ้าเพิ่มเกราะปฏิกริยาเข้าไปอีกหน่อย ก็ไม่ต้องเกรงใจรถถังหลักของประเทศรอบบ้านเราแล้ว หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ART ที่ มกราคม 07, 2010, 08:32:48 PM สเปคอย่างนี้.. รถถังสติงเรย์เข้าข่ายพิจารณาด้วยมั้ยครับ ?
ผมว่า ถ้าสเปคได้ ก็น่าสนใจนะ เพราะ ทบ.ไทยมีอยู่แล้ว ก็จะทำให้สะดวกต่อการฝึกใช้งาน , การซ่อมบำรุง และการสะสมชิ้นส่วนอะไหล่ น้ำหนักรถก็ไม่มาก มีความคล่องตัวสูง ติดตั้งปืนใหญ่รถถังขนาด 105 มม. สามารถยิงลูกเจาะเกราะสลัดครอบทิ้ง (APFSDS)ได้ ถ้าเพิ่มเกราะปฏิกริยาเข้าไปอีกหน่อย ก็ไม่ต้องเกรงใจรถถังหลักของประเทศรอบบ้านเราแล้ว สนับสนุน สติงเรย์เวอร์ชั่นใหม่ๆครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: indojeen@รักในหลวง ที่ มกราคม 07, 2010, 09:04:17 PM สถานะการณ์ (ทางการเงิน) แบบนี้ถ้าอนุมัติให้ซื้อจริง ๆ คงหนีไม่พ้น type 99 จากจีนแน่ ๆ ครับ ::005::
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: NemesisII ที่ มกราคม 07, 2010, 11:13:38 PM รถถังSTINGRAY เป็นรถถังเบาครับที่ทบ.ต้องการ เป็นMBTตามสเปคที่กำหนดน้ำหนักต้องมากกว่า27ตันขึ้นไปครับ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 07, 2010, 11:38:51 PM รถถัง จีน มีปัญหา เรื่อง การควบคุม คุณภาพ ครับ รถถังที่ ไทยซื้อมา มีปัญหา เพียบ
รถถัง สติงเรย์ ซื้อมา 20 ปี ตัวถังส่วนรับน้ำหนัก ร้าว บริษัท GM ส่งช่างมาซ่อมให้ บริการดีกว่า จีน ครับ เพราะ รถถัง จีน ซื้อมาเกือบเหมือนได้เปล่า (เฉพาะ ล๊อตแรก ล๊อตหลัง จ่ายเต็ม) รถถังหลักที่จะมาแทน M41 ผมว่า น่าจะลองติดต่อ ซื้อ M60 ที่ปลดประจำการ จาก นาวิกฯ. สหรัฐ ดูครับ เพราะ แทนที่ด้วย M1 หมดแล้ว หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 08, 2010, 08:08:17 AM เอาสติงเรย์ III ให้นาวิกโยธิน สัก 1 กองพันก็ดีนะครับ แล้วก็น่าจะเปลี่ยนปืนของ Scorpion ด้วย เป็น 90 มม. จะได้ไม่ต้องสำรองกระสุนมากมายหลายแบบ
http://www.kitsune.addr.com/Rifts/Rifts-Pre-Rifts-Vehicles/SD_Stingray_III_Light_Tank.htm (http://www.kitsune.addr.com/Rifts/Rifts-Pre-Rifts-Vehicles/SD_Stingray_III_Light_Tank.htm) http://www.armyrecognition.com/belgium_belgian_light_heavy_weapons_uk/lcts90_weapon_system_90_mm_turret_armoured_armored_cockerill_gun_vehicle_design_development_product.html (http://www.armyrecognition.com/belgium_belgian_light_heavy_weapons_uk/lcts90_weapon_system_90_mm_turret_armoured_armored_cockerill_gun_vehicle_design_development_product.html) รถถังจีนหรือค่ายคอมฯ ทั้งหลาย ส่วนมากมีปัญหาเรื่อง Interface ระหว่างคนกับเครื่องจักร หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 08, 2010, 09:35:46 AM สเปคอย่างนี้.. รถถังสติงเรย์เข้าข่ายพิจารณาด้วยมั้ยครับ ? ผมว่า ถ้าสเปคได้ ก็น่าสนใจนะ เพราะ ทบ.ไทยมีอยู่แล้ว ก็จะทำให้สะดวกต่อการฝึกใช้งาน , การซ่อมบำรุง และการสะสมชิ้นส่วนอะไหล่ น้ำหนักรถก็ไม่มาก มีความคล่องตัวสูง ติดตั้งปืนใหญ่รถถังขนาด 105 มม. สามารถยิงลูกเจาะเกราะสลัดครอบทิ้ง (APFSDS)ได้ ถ้าเพิ่มเกราะปฏิกริยาเข้าไปอีกหน่อย ก็ไม่ต้องเกรงใจรถถังหลักของประเทศรอบบ้านเราแล้ว สติงเรย์คอมมานโด... จัดเป็นรถถังเบาครับ... เกราะก็บางกว่า... ไม่ทราบว่ามีประเทศไหนประจำการบ้างครับ... หลังจากเราสั่งซื้อมาเป็นประเทศแรกราวๆ ร้อยกว่าคัน... รถถัง จีน มีปัญหา เรื่อง การควบคุม คุณภาพ ครับ รถถังที่ ไทยซื้อมา มีปัญหา เพียบ รถถัง สติงเรย์ ซื้อมา 20 ปี ตัวถังส่วนรับน้ำหนัก ร้าว บริษัท GM ส่งช่างมาซ่อมให้ บริการดีกว่า จีน ครับ เพราะ รถถัง จีน ซื้อมาเกือบเหมือนได้เปล่า (เฉพาะ ล๊อตแรก ล๊อตหลัง จ่ายเต็ม) รถถังหลักที่จะมาแทน M41 ผมว่า น่าจะลองติดต่อ ซื้อ M60 ที่ปลดประจำการ จาก นาวิกฯ. สหรัฐ ดูครับ เพราะ แทนที่ด้วย M1 หมดแล้ว อยากได้เอ็มหกสิบอีกหนึ่งเสียงครับ... หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ มกราคม 08, 2010, 10:02:53 AM สเปคอย่างนี้.. รถถังสติงเรย์เข้าข่ายพิจารณาด้วยมั้ยครับ ? ผมว่า ถ้าสเปคได้ ก็น่าสนใจนะ เพราะ ทบ.ไทยมีอยู่แล้ว ก็จะทำให้สะดวกต่อการฝึกใช้งาน , การซ่อมบำรุง และการสะสมชิ้นส่วนอะไหล่ น้ำหนักรถก็ไม่มาก มีความคล่องตัวสูง ติดตั้งปืนใหญ่รถถังขนาด 105 มม. สามารถยิงลูกเจาะเกราะสลัดครอบทิ้ง (APFSDS)ได้ ถ้าเพิ่มเกราะปฏิกริยาเข้าไปอีกหน่อย ก็ไม่ต้องเกรงใจรถถังหลักของประเทศรอบบ้านเราแล้ว สติงเรย์คอมมานโด... จัดเป็นรถถังเบาครับ... เกราะก็บางกว่า... ไม่ทราบว่ามีประเทศไหนประจำการบ้างครับ... หลังจากเราสั่งซื้อมาเป็นประเทศแรกราวๆ ร้อยกว่าคัน... เข้าใจว่ามีไทยประเทศเดียวที่ซื้อเข้าประจําการ...... หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 08, 2010, 10:46:11 AM ยังไงถ้างบพอ ก็ตัวนี้ล่ะกัน :VOV:
(http://image.ohozaa.com/iy/t90_large.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=636fe9a97b6c55eee7971bc50d53d491) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ตึก ที่ มกราคม 08, 2010, 10:48:09 AM ถ้ายังไม่มีเงินชื้อรถถังก็ชื้อคจตถของดีๆใช้ก่อนละกัน
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 08, 2010, 10:50:00 AM T-90 อีกเสียงครับ มือสองก็ได้ ราคาถุกกว่าตั้งเยอะ ::002::
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 08, 2010, 10:51:11 AM รึ T-72 ก็น่าสนนะครับ เก่าหน่อยแต่ก็ถูกดี ;D
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 08, 2010, 11:05:30 AM ยังไงถ้างบพอ ก็ตัวนี้ล่ะกัน :VOV: (http://image.ohozaa.com/iy/t90_large.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=636fe9a97b6c55eee7971bc50d53d491) ที90 ปืนกลที่อยู่ด้านบนเป็นปืนร่วมแกนกับปืนรถถังกระบอกล่างหรือเปล่าครับ หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 08, 2010, 11:08:10 AM ตามนี้ครับพี่ซับ
http://en.wikipedia.org/wiki/T-90 (http://en.wikipedia.org/wiki/T-90) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 08, 2010, 02:29:51 PM ที90 ปืนกลที่อยู่ด้านบนเป็นปืนร่วมแกนกับปืนรถถังกระบอกล่างหรือเปล่าครับ ปืนกลร่วมแกน (Coaxial Machine Gun) จะอยู่ตำแหน่งเดียวกับปืนใหญ่รถถังครับน้าซับฯ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นขนาด 7.62 มม. (0.30 นิ้ว) นี่เอง เอาไว้ยิงชี้ตำบลก่อนยิงกระสุนปืนใหญ่รถถังตามไป หรือเอาไว้ยิงกวาดพวกเป้าหมายบุคคลก็ได้ ส่วนปืนกลที่อยู่บนป้อม จะเป็นปืนกลต่อสู้อากาศยานขนาด 12.7 มม. (0.50 นิ้ว) เอาไว้ยิงสกัดอากาศยาน เป้าหมายบุคคล หรือยานยนต์ครับ ถ้าเป็นของรถถัง T-90 ปืนกลร่วมแกนคงเป็นปืนกล PK ขนาด 7.62x54 mm. R ส่วนปืนกลบนป้อมน่าจะเป็นปืนกล DShK ขนาด 12.7x108 mm. ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: nithi i ที่ มกราคม 08, 2010, 02:45:01 PM รถถังSTINGRAY เป็นรถถังเบาครับที่ทบ.ต้องการ เป็นMBTตามสเปคที่กำหนดน้ำหนักต้องมากกว่า27ตันขึ้นไปครับ A1:เคยมีการวิเคราะห์แล้วกำหนดมั้ยครับว่า สถาพพื้นดินอ่อน แบบท้องนาในบ้านเรา รถถังไม่ควรหนักเกิน..กี่..ตัน จึงจะเคลื่อนที่ในภูมิประเทศได้คล่องตัวที่สุด ? ( ตอนเด็กๆเคยเห็นรูป M 48 A 5 ซ้อมรบในทุ่งมีน้ำขัง แล้วล้อกดสายพานจมเลนไปเกินกว่าครึ่ง อาจจะไม่ติด แต่ก็คงไม่เร็วและคล่องตัวเท่าที่ทำได้บนถนน ) A2: MBT.เกราะหนาหนัก เจอกับรถถังเบาที่เร็วและคล่องแคล่วกว่า ( ภายใต้เทคโนโลยีทันสมัย กับปืนใหญ่เท่าเทียมกัน ) ในพื้นที่แบบของเรา... อะไรจะเหมาะกับประเทศไทยมากกว่ากัน ??? ( คำถามนี้ไว้ถกกันเล่นๆครับ ;D ) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 08, 2010, 06:53:39 PM ส่วนตัวของผมคิดว่าแบบนี้เหมาะที่สุดสำหรับบ้านเราครับ เอนกประสงค์มาก ติดจรวจต่อต้านรถถังก็ได้ ต่อต้านอากาศยานก็ได้ หรือจะใช้ถล่มทหารราบก็ได้ แถมวิ่งเร็วด้วย คล่องตัวมาก.... ;)
http://www.clipmass.com/movie/11527880329334 (http://www.clipmass.com/movie/11527880329334) ส่วนตัวของผมแล้วคิดว่าด้วยเทคโนโลยีของอาวุธต่อต้านรถถังสมัยใหม่สมัยใหม่จะทำให้รถถังเป็นเป้านิ่งเลยนะครับ.... :o http://www.clipmass.com/movie/309368165166070 (http://www.clipmass.com/movie/309368165166070) ไม่รวมตัวนี้อีกนะครับ.... ;) http://www.clipmass.com/movie/170218954489820 (http://www.clipmass.com/movie/170218954489820) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 08, 2010, 09:38:03 PM น่าจะเป็น LAV-25 รึเปล่าครับ ส่วนตัวผมชอบ BTR-90 มากกว่าเมื่อก่อนเล่นในแบทเทิลฟิลท์ทีไรดวลกันตัวต่อตัว LAV-25 โดน BTR-90 อัดเละทุกที ::005::
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 09, 2010, 01:10:05 AM ส่วนใหญ่แล้วในคลิ๊บวีดีโอเป็น LAV 25 ครับ ในสเป็คคร่าว ๆ BTR-90 น่าจะเหนือกว่าแต่ในสมรภูมิจริง ๆแล้วยังไม่เคยได้รับรายงานเลยว่าใครเจ๋งกว่าใครระหว่าง LAV 25 กับ BTR -90 :D
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 09, 2010, 01:10:14 AM รถถัง ตระกูล T ของ รัสเซีย มีข้อเสียอีกอย่าง คือ ความสูง ทั้งตัวรถ และ ป้อมปืน เตี๊ย และ แคบกว่า รถถังของ อเมริกา ข้อดีคือ ลดหน้าตัดในการเป็นเป้า ข้อเสียคือ พื้นที่สำหรับพลประจำรถ น้อย ทำให้ต้องเอาเครื่องบรรจุกระสุนอัตโนมัติมาแทนพลบรรจุ และยังมีพื้นที่ให้ติดตั้งอุปกรณ์ ค้นหา และตรวจจับได้น้อย
ทหารปรจำรถถัง จึงคัดแต่ทหารที่ตัวเล็ก ส่วนสูงต่ำกว่า 160 ซม. เพราะ ถ้าเอาทหารที่สูง 190 ซม. มาเป็นพลประจำรถ จะปฎิบัติการในรถลำบากมาก โดยเฉพาะ ทหาร ที่ตัวใหญ่ ๆ หมดสิทธิ์ ที่จะเป็นพลประจำรถถังตระกูล T ตรงกันข้ามกับ รถถัง M1 ที่ออกแบบให้ พลประจำรถ มีพื้นที่ใหญ่กว่า ทหารทั่วไป สามารถเป็นพลประจำรถถังได้ ไม่ต้อง คัดแต่ทหารที่ตัวเล็ก ๆ มาประจำรถ อย่างรถถังตระกูล T หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มกราคม 09, 2010, 04:12:57 AM ปลัดกลาโหมน้อยใจ กองทัพเมินซื้ออาวุธที่มีแบรนด์ไทย ต่างชาติกลับซื้อ
พล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาระบบจรวดหลายลำกล้อง ระหว่างกองทัพบกกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) โดยมี พล.ท.เอกชัย วัชระประทีป เจ้ากรมสรรพาวุธ และสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (องค์การมหาชน) เป็นผู้แทนกองทัพบก และมี พล.ท.ฐิตินันท์ ธัญญสิริ ผู้อำนวยการสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ร่วมพิธีลงนาม ที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อวันที่ 7 มกราคม พล.อ.อภิชาตกล่าวว่า จรวดหลายลำกล้องที่ได้วิจัยพัฒนาได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากมิตรประเทศ สามารถต่อยอดและวิจัยไปได้เร็วขึ้น แต่คงต้องใช้เวลา 1-2 ปี ถึงจะผลิตเข้าประจำการในกองทัพ จากนั้นจะต่อยอดการวิจัยไปสู่อาวุธนำวิถี ขณะเดียวกัน แผนยุทธศาสตร์และแผนแม่บทในการวิจัยพัฒนาอาวุธประเภทอื่น สถาบันจะปรับปรุงให้สอดคล้องกับคณะกรรมการบริหารและนำเข้าสู่การพิจารณาของสภากลาโหมในเดือนมกราคมนี้ "น่าน้อยใจที่ส่วนใหญ่ผู้ใช้จะไม่ค่อยมั่นใจในผลผลิตที่เกิดจากคนไทยด้วยกันเอง อย่างกรณีของบริษัทชัยเสรีหรือเลดี้แท็งค์ ที่ทำสายพานรถยานเกราะขายทั่วโลก 37 ประเทศรับซื้อหมดเว้นประเทศไทย ไปดูงานประเทศไหนในต่างประเทศ รถถังที่เอามาวิ่ง ส่วนหนึ่งของแทร็ค (ตีนตะขาบรถถัง) เขาจะพูดถึงประเทศไทย เป็นความภาคภูมิใจที่มีธงชาติไทยไปประดับอยู่ในงานดีเฟ้นด์ เอ็กซิบิชั่น ที่จัดขึ้นในหลายประเทศ สิ่งที่นำเสนอคือต้องการสร้างความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่เราพยายามทำต้องการให้เกิดความเชื่อมั่นเชื่อถือกับคนไทยด้วยกัน" พล.อ.อภิชาต กล่าว http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1262870315&grpid=04&catid=01 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1262870315&grpid=04&catid=01) รถถังหรือรถเกราะนี่ผมว่าเราทำเองก็น่าจะดี เพราะมันยังสามารถผิดพลาดได้ไม่เหมือนเครื่องบินที่พลาดแล้วตกเกิดการสูญเสีย รถเกราะเรานำเข้าแต่เพียงปืนก็พอ เพราะไทยเรามีอุตสาหกรรมรถยนต์ที่แข็งแกร่งมาก โรงงานผลิตรถแทรกเตอร์เราก็มี โรงหล่อก็มี เกราะ composite ก็ทำได้ไม่ยากเท่าไหร่แต่ในความเป็นจริงแล้ว ภัยคุกคามรอบบ้านเรา เอาแค่เกราะเหล็กหล่อผสม polymer sheet และชั้น ceramic บวกกับเกราะปฏิกิริยาแบบ เกราะ t90 ก็หรูแล้ว แค่รถถัง หรือรถลำเลียงพลเราทำได้สบายมาก นำเข้าแต่เฉพาะปืนก็พอ คิดว่ารถถัง 1 คันต้นทุนเราไม่น่าจะเกิน 50 ล้านบาท ส่งเสริมอุตสาหรรมป้องกันประเทศด้วย ในวงเงินงบประมาณเท่ากันผมมั่นใจว่าผลิตเองย่อมดีกว่าไปซื้อ m60 เก่าๆ ที่จอดทิ้งไว้มาใช้แน่นอนเพราะเทคโนโลยีเกราะที่ไทยทำได้ในตอนนี้ย่อมเหนือกว่าเกราะเหล็กหล่อที่ผลิตเมื่อเกือบครึ่งศตวรรษที่แล้วแน่นอน หรืออย่างน้อยที่สุดหากจะซื้อmbtใหม่เอี่ยม แต่รถเกราะลำเลียงพลขนาด 10- 20 t น่าจะผลิตเองเพราะไม่ได้ใช้เทคโนโลยีเกราะขั้นสูงซื้อเฉพาะปืน 30 mm busmaster หรือ 40 mm bofors หรือ เกียต ก็ใช้ได้แล้วครับ ในความคิดส่วนตัว ปืน 40 mm นี่เหมาะมากสำหรับรถลำเลียงพล ไม่จำเป็นต้องติดmissile ต่อสู้รถถังอีกให้บำรุงรักษาและเล็งยิงยาก เพราะกระสุนขนาดนี้อัตรายิง 200 นัด/นาที ซึ่ง มีแบบ ชนวนเฉียดระเบิดและมีอัตรายิงเพียงพอที่จะ ยิงฮ. หรืออากาศยานบินระดับต่ำ และ อำนาจการยิงสูงพอจะทำลายที่มัน หรือทำลายยานเกราะด้วยกระสุน apfsds เจอจังๆหน้า หาก รถเกราะเล็งยิงได้ก่อนที่mbt จะหมุนป้อมปืนมาที่ตำแหน่งยิงได้กินเวลา 2.-3 วินาทีระยะ1-2 km. abram ก็ abram เถอะ เจอ กระสุน ชาโบต์ apfsds 40 mm สัก 2-3 วินาที 7-10 นัด(เทียบกับกระสุนdepleet uranium 30 mm จาก เครื่องบิน a10 50 นัด กับกระสุน apfsds 10 นัดapfsds น่าจะมีอำนาจทำลายสูงกว่า) ก็ท่าจะไม่รอดครับ :D (http://img97.imageshack.us/img97/654/apfsds.jpg) (http://img686.imageshack.us/img686/7249/40mmgiatturret.jpg) ป้อมปืน 40 mm.ของ giat และ spec. This turret is designed for fitment to future reconnaissance vehicles and infantry fighting vehicles (in particular EBRCs and FRESs). The turret demonstrator includes a mechanical structure, the 40 CTA cannon with its linkless ammunition feed system, a stabilised aiming system, the electrical power, a panoramic sight, a fire-control system and, when a suitable chassis is used, the gunners station. The architecture of a remote-controlled turret with the crewmembers in the chassis enables to save weight and space and, as a result, to enhance the survivability and mobility capabilities. - 40 mm case telescoped ammunition cannon (maximum rate of fire 200 rds/min). - 7.62 mm secondary armament with two racks of each 800 rounds. - Electric laying: . traverse: 360° ; 0.6 rad/s, . elevation/depression: - 10° to + 45° ; 0.6 rad/s. - Electrical power at 28 V. - Stabilised in elevation and traverse. - 3rd generation panoramic gunners sight. - 68 ready-use rounds (eg., 51 HE and 17 APFSDS) with automatic loading (loading of the selected type of ammunition from the first shot). - First-round hit probability in a three-round burst: . stationary target 2.3 m x 2.3 m: > 95%, . moving target 4.6 m x 2.3 m: > 80%. - Length: 2,160 mm. - Width: 1,795 mm. - Height: 538 mm (without panoramic sight). - Gun-ring diameter: 1,475 mm. - Weight/protection compromise according to the customers requirement http://www.giat-industries.fr/index.php?option=com_content&view=section&layout=categoryblog&id=15&Itemid=90&lang=en (http://www.giat-industries.fr/index.php?option=com_content&view=section&layout=categoryblog&id=15&Itemid=90&lang=en) หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: JC ที่ มกราคม 09, 2010, 10:40:39 AM จริงๆ รถถังไม่น่าจะยาก ทบ. น่าจะดูตัวอย่าง ทร. ครับ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: chalie27 ที่ มกราคม 09, 2010, 04:08:04 PM ถ้าเลือกได้ผมขอเชียร์ Leopard 2 A6 ครับ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ มกราคม 09, 2010, 11:43:27 PM เมื่อไหร่จะปรับปรุง ป้อมปืน รสพ. M113 ซะที นะ
หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: 686 ที่ มกราคม 12, 2010, 10:56:25 PM เมื่อไหร่จะปรับปรุง ป้อมปืน รสพ. M113 ซะที นะ ผม เห็น M113 ที่ ราบ 11 ปรับปรุงโดยการ เอา แผ่นไม้อัดหนา ๆ แล้ว ทาสีเขียว มาปิดแทน แผ่นเกราะ เหล็กด้านหน้าครับ ::005:: ::005:: ::005:: สงสัย เอาใว้ ลดน้ำหนัก หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 12, 2010, 11:25:49 PM เมื่อไหร่จะปรับปรุง ป้อมปืน รสพ. M113 ซะที นะ ผม เห็น M113 ที่ ราบ 11 ปรับปรุงโดยการ เอา แผ่นไม้อัดหนา ๆ แล้ว ทาสีเขียว มาปิดแทน แผ่นเกราะ เหล็กด้านหน้าครับ ::005:: ::005:: ::005:: สงสัย เอาใว้ ลดน้ำหนัก มันจะป้องกันปืนได้มั้ยครับ ::011:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 13, 2010, 02:52:35 AM เมื่อไหร่จะปรับปรุง ป้อมปืน รสพ. M113 ซะที นะ ผม เห็น M113 ที่ ราบ 11 ปรับปรุงโดยการ เอา แผ่นไม้อัดหนา ๆ แล้ว ทาสีเขียว มาปิดแทน แผ่นเกราะ เหล็กด้านหน้าครับ ::005:: ::005:: ::005:: สงสัย เอาใว้ ลดน้ำหนัก มันจะป้องกันปืนได้มั้ยครับ ::011:: ผมว่าถ้าจะให้ได้ประสิทธิผลจริง แผ่นเกราะโดยเฉพาะบริเวณด้านหน้าและด้านข้างของ รสพ. ควรจะเป็นวัสดุคอมโพสิตทำจากแผ่นเหล็กกล้ากับแผ่นเซรามิคมากกว่า อย่างน้อยถ้าโดนยิงซ้ำจุดเดิมก็ยังมีโอกาสรอดตายมากกว่าแผ่นไม้ครับ ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: รพินทรนาถ -รักในหลวงและสยามประเทศ ที่ มกราคม 13, 2010, 03:06:12 AM เมื่อไหร่จะปรับปรุง ป้อมปืน รสพ. M113 ซะที นะ ผมว่ามันปรับปรุงไม่ไหวเลยมากกว่าครับ รถ APC M113 ออกแบบมาเพื่อเน้นใช้ในการบรรทุกทหารเข้าสู่สนามรบ ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการรบโดยตรงเหมือนรถถัง ตัวรถก็เบา เกราะก็บางแค่ 12-38 มม. เจอ RPG หรือ ปรส. ยิงใส่ลูกเดียวก็หมดสภาพแล้ว ถ้าให้ติดปืนใหญ่เข้าไป รถอาจจะมีปัญหาเรื่องศูนย์ถ่วงและการบรรทุกกระสุนที่ทำได้ไม่มากครับ เพราะพื้นที่ในรถมันเพียงพอสำหรับบรรทุกทหารไปประมาณ 1 หมู่เท่านั้น ผมว่าถ้าจะปรับปรุงจริงๆ ควรจะจัดหา คจตถ. TOW กับเครื่องยิงลูกระเบิดอัตโนมัติขนาด 40 มม. มาติดตั้งเพื่อเอาไว้ใช้ในการป้องกันตัวเองดีกว่าครับ แต่ผมว่าจริงๆแค่ป้อมปืน ปก. 93 ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้วนะครับ ::014:: หัวข้อ: Re: การจัดหารถถังหลัก...ถึงไหนแล้วครับ เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มกราคม 13, 2010, 08:34:01 AM เปลี่ยนไปเป็นรุ่นนี้เลยก็ไม่เลวนะครับ.... ;D
(http://www.pixnice.com/upload/files/jjkcw3dznzwyi4mrmimd.jpg) (http://www.pixnice.com/upload/) |