เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ตื่นมาตอนเช้าๆไปอ่านเจอข่าวนี้เลยเอามาบอกต่อ..  :)



เมื่อเวลา 22.30 น.วานนี้ (7 ม.ค.) พ.ต.ท.วสันต์ วิจิตรพุทธิกุล พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ท่าพระ รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในอาคารทีคอร์ท อพาร์ทเมนท์ ตั้งอยู่เลขที่ 26/158 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 6 ถนนจรัญสนิทวงศ์ แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พล.ต.ต.ไพศาล เชื้อรอด ผบก.น.7 พ.ต.อ.กฤตภาส เพ็ญกิตติ รอง ผบก.น.7 พ.ต.อ.พุฒิพงศ์ ภู่เพียนเลิศ ผกก.สน.ท่าพระ พ.ต.ท.ภาคภูมิ ระวิโรจน์ สว.สส.สน.ท่าพระ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าพระ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวชจากโรงพยาบาลศิริราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู
       
       ที่เกิดเหตุเป็นอพาร์ทเมนท์แบ่งให้เช่าสูง 3 ชั้น บริเวณหน้าห้องเลขที่ 309 ชั้น 3 เจ้าหน้าที่พบศพนายเกรียงไกร แซ่โง้ว อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/951 หมู่ 3 แขวงและเขตบางบอน สภาพศพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อโปโลสีขาว นุ่งกางเกงเลสีน้ำตาลอ่อน ตรวจสอบตามร่างกายพบบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ชายโครงและใต้รักแร้ขวา รวม 3 นัด
       
       นอกจากนี้ยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 ราย รายแรกคือ นางเหวียน ทองสิน อายุ 47 ปี ภรรยานายเกรียงไกรผู้ตาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่กลางหลัง 1 นัด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลบางไผ่ อีกรายคือนางฉวีวรรณ พงษ์พิพิธ อายุ 41 ปี แม่บ้านอพาร์มเมนต์ดังกล่าว มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่หน้าท้อง 1 นัด ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลศิริราช
       
       จากกรสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนายเกรียงไกร ผู้ตาย กับนางเหวียน ภรรยา ซึ่งพักอยู่ชั้นล่างของอพาร์ทเมนท์ที่เกิดเหตุ ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า คัมรี่ สีบรอนซ์เงิน หมายเลขทะเบียน ศข-3058 กทม.เข้ามาในซอยเพื่อจะจอดรถที่บริเวณข้างอพาร์ทเมนท์ซึ่งเป็นจุดที่ผู้ตายจอดประจำทุกวัน แต่ก็พบว่ามีรถจยย.ยี่ห้อซูซูกิ อาร์จีวี ไม่ทราบสีและหมายเลขทะเบียน ของนายอภิรัตน์ รัตน์วันธุ์ ที่ขี่มาหาแฟนสาวในอพาร์ทเมนท์ จอดขวางอยู่บริเวณดังกล่าว ทำให้ผู้ตายต้องขับรถไปจอดไว้ที่โรงแรมเวสต์อินน์โฮเต็ลฝั่งตรงข้าม
       
       จากนั้นผู้ตายก็เดินลงมามีปากเสียงกับนายอภิรัตน์ อย่างรุนแรงบริเวณหน้าอพาร์ทเมนท์ ก่อนที่นายอภิรัตน์ จะเดินขึ้นไปหาแฟนสาวที่ห้องเลขที่ 308 จากนั้นผู้ตายก็เดินถือท่อนเหล็กยาวประมาณ 1 เมตร ตามขึ้นไปจะเอาเรื่องนายอภิรัตน์ถึงห้องพักจนมีปากเสียงกันอย่างรุนแรงอีกรอบ ทำให้นายอภิรัตน์ ทนไม่ไหวชักปืนขึ้นมายิงใส่ผู้ตายจนเสียชีวิต และกระสุนก็ไปถูกนางเหวียน ภรรยาผู้ตายซึ่งตามขึ้นไปห้ามปราม และนางฉวีวรรณ แม่บ้าน จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ก่อนที่นายอภิรัตน์ จะลงมาจากอพาร์ทเมนท์ แล้วขี่รถจยย.หลบหนีไป
       
       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจะเร่งออกติดตามจับกุมตัวนายอภิรัตน์ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ที่มา : http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000002327 (http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9530000002327)

ถ้าข้อเท็จจริงเป็นไปตามข่าว ลองมาคุยในเรื่อง ข้อกฎหมายกันดูครับ

เพื่อนๆว่าเหตุนี้จะเป็นป้องกันตัวหรือไม่ หรือ เป็นการบันดาลโทสะ เพราะยิงผู้ตายไปตั้ง 3 นัด



อยากทราบไว้เป็นความรู้ เห็นว่าเหตุการณ์นี้คอปืนคงจะอยากทราบกันเกี่ยวกับการป้องตัวโดยชอบฯ

ไม่ยอมกันแท้ๆ...

คนหนึ่งตาย คนหนึ่งติดคุก

  พูดคุยกันดีดีไม่เป็นก็ไม่รู้จะว่ายังไงครับ

แค่เค้ามาจอดแย่งที่หน่อยเดียว  (จากข่าวนี่จะเป็นที่สาธารณะ)  คว้าท่อนเหล็กไปหาเรื่องเค้า  .....  ::014::

เมื่อวานซืน .....  ;D

พวกเ่ร่งเครื่องแซงแล้วปาดหน้าเลี้ยวซ้ายนี่เจอบ่อยครับ   ::010::

เรื่องไม่เป็นเรื่องกลายมาเป็นเรื่องเศร้าแบบนี้ มีเยอะครับ

เอาแค่เรื่องความรู้สึก..คือถ้าเป็นที่จอดที่เค้าเช่าเป็นรายเดือน มีเลขทะเบียนพ่นกำกับไว้หรือแปะแขวนไว้ให้เห็นชัดเจน อันนี้น่าเคืองเพราะ จยย.เบ่งไม่สนใจ ในใจอาจคิดว่าตัวเองมีปืนเลยทำให้เกิดอัตตาสุดขั้ว แต่ถ้าเป็นที่จอดทั่วไปอันนี้ รถยนต์สมควรโดนเพราะเบ่งไม่เข้าเรื่อง ส่วนในด้านกฏหมาย รถยนต์น่าจะเสียเปรียบเพราะเป็นฝ่ายถือท่อนเหล็กเดินขึ้นไป ย้ำว่าขึ้นคือไม่ใช่ทางผ่านมันมีความตั้งใจไปหาเรื่องถึงหน้าห้อง จยย.ป้องกันตัวโดยใช้ปืนก็ไม่ถือว่าเกินกว่าเหตุเพราะเหตุการณ์นั้นจวนตัว และไม่ใช่ฝ่ายที่มีเจตนาทำร้ายร่างกายแต่เริ่ม อีกทั้งจะไปหาท่อนเหล็กที่ไหนมาตีสู้กันให้เกิดความสูสีได้ทัน คือถ้าไม่สู้อาจโดนตีตายได้ง่ายๆ เลยเอาปืนที่ติดตัวมาใช้เป็นอาวุธป้องกัน แต่อาจมีความผิดเรื่องการพกพา

หากจะให้ดูต้องถามพยานว่าได้ยินเสียงปืนกี่นัดด้วย

สงสัยจะหมดโม่ล่ะเจ๊ 3นัดอยู่ที่ผู้ตาย 1นัดอยู่ที่เมียผู้ตาย 1นัดอยู่ที่แม่บ้าน

ไม่น่าเลยครับ  ::004:: ::004::

อาจจะโม่6/7นัดก็ได้นะ ::008::
ผู้หญิง2คนนั้นได้รับกระสุนที่หลังกับที่ท้องด้วยความบังเอิญหน่ะ

เห็นด้วยครับ

ทั้งคู่คงเคยทำเวรทำกรรมแก่กันเอาไว้ จึงได้ตามมาจองกรรมกัน

..คนก่อเหตุขอให้หนีอาญาแผ่นดินให้พ้น20ปีนะครับ แล้วคนที่เสียชีวิตก็ขอให้ไปสู่สุขติ.. ::012::

ผมว่าเจ้าของกระทู้เปิดหัวเรื่องได้ดีนะครับ  ::014::

เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมากและอาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน

เมื่อก่อนตอนอยู่บ้านกทม.เจอประจำ ในซอยซึ่งเป็นทางสาธารณะ แต่จับจองกันอย่างกะยุคคาวบอย

บางคนก็เอากระถางต้นไม้มาตั้ง ใครมายกออก ... โกรธอีกแน่ะ

บางคนหนักเข้าไปอีก ทำหลังคาผ้าใบแบบมีล้อเลื่อน ... (แต่ไม่เคยเห็นมันเลื่อนไปไหนเลย)

หรือบางคนมานิ่มๆ มากดออดถึงบ้านแล้วบอกเราว่า ... ช่วยไปขยับรถหน่อย เจ้าของที่มาแล้ว  :<<

อยากให้แสดงความเห็นตามที่เจ้าของกระทู้เค้าตั้งใจถามเอาไว้ น่าจะมีประโยชน์กับส่วนรวมมากกว่า

งานนี้สงสัยต้องรบกวน "พี่ธำรง" ...  ::014::

ไม่น่ายิง
เป็นผมจะแค่ยกมือไหว้ขอโทษ ๆๆ หลายๆครั้ง
   เข้าใจว่าเค้าแบ่งที่จอด จยย. หรือ รถยนต์ไว้หรือเปล่า
แถมรถเก๋งอาศัยอยู่ที่นั่น

    แต่น่าจะจบตั้งแต่คุยแล้ว ๆๆ กันไป
ไม่น่ากร่างขนาดถือท่อนเหล้กไปหาเค้าถึงห้อง

คนตายก็ตายไป คนไม่ตายก็คุกไป

เป็นเรื่องของมารยาทและการใช้อารมณ์ล้วนๆเลยครับ เลยต้องจบแบบนี้ ไม่น่าเลยครับ คนเมืองเดี๋ยวนี้เครียดกันง่าย

อืม..ถ้ามันหลายนัดก็ส่อเจตนาฆ่า ไม่ใช่เจตนาแค่ป้องกันครับ

        ความนิ่งคือหนทางของคนฉลาด ครับ

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=425797 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=425797)

ความอะไรก็ไม่รู้

การนั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถ จะเกิดความเครียดได้ง่ายมาก ยิ่งสมัยนี้รถเยอะมาก และยิ่งเมืองใหญ่ ที่จอดรถยิ่งหายาก หากแต่ ใครจะคิด จะทำเอาอย่างไร

พูดถึงเรื่องเจ้าที่จอดรถบนถนน (สาธารณะ) ผมเจอมากับตัวเอง เมื่อวันที่ 4/1/2553 นี้แหละ ขับรถไปส่งของ แล้วมันง่วงมาก จนแอบเข้าข้างทาง ตรวจดูล๊อคประตู เรียบร้อย กะว่า จะนอนแบบงีบครับ เพราะจะรู้ตัวเองว่า ขอให้นอนหลับตาแบบนิ่งๆ สักประมาณ 10นาที อาการง่วงแบบนี้ มันจะหาย แล้วผมจะไปต่อได้ ร่างกายมันจะตื่นเองโดยอัตโนมัติ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจนอนหลับ ผมนอนในรถกระบะตอนเดียวครับ ผมสูงประมาณ 175 ขณะนั้นรวมส้นรองเท้าผมด้วย อิๆ คิดดูว่าผมจะนอนได้สบายหรือเปล่า

ตุ๊บๆๆๆๆๆ เสียงไม่เห็นว่าทุบหรือเคาะ แต่ฟังจากเสียง ไม่น่าจะเคาะบวกทุบหน่อยๆ แล้วห้องขับห้องโดยสาร เล็กแค่นั้น ความดังมันจะขนาดใหน ปิดกระจกหมด

ตกใจตื่นครับ หันไปเห็นยืนจ้องมองอยู่ข้างนอกรถมองผม ใอ้นี่แน่ มันธุระอะไร งัวเงียเปิดประตู มันถาม มาทำอะไรอยู่ เลื่อนรถๆ ตรงนี้ ที่จอดรถเหลือง(รถรับจ้าง) ผมก็ไม่มองเห็นป้าย อะไรของมันสักอย่าง


จี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆขึ้นหัว ใอ้ตอนที่มันไล่ให้เลื่อนรถ ว่าที่จอดมัน ผมปิดประตูปัง.............นั่งพักหนึ่ง.......

ไม่มีอะไรครับ ผมแค่สงบสติตัวเอง หายงง หาย มึนขี้ตา หัวใจเต้นช้าลง มองดูกระจกข้าง มันยืนมองอยู่ ผมก็ออกรถไปครับ ผมได้เวลาไปแล้ว อย่าอยู่เลยตรงนี้

แล้วค่อยๆ ตะล่อมสติกลับมา ขับรถไปทำงาน ตามปกติ

มิได้ยกยอตัวเอง หรืออะไรทั้งสิ้น เพียงแค่ นำมาเล่าสู่กันฟัง เท่านั้นเองครับ

ด้วยความเคารพ วันนั้นผมเดินทางคนเดียว แต่มีเพื่อน อยู่50@

พีเข้ม ไม่ใช่คนแถวนี้ นิ...........


ถ้าเป็นคนแถวนี้  ไม่กล้าไปไล่ พี่เข้ม หร๊อก

ทำตัวแบบกุ๊ยก้ต้องตายแบบกุ๊ย 
บ้านเมืองมีกฎหมาย คนทำกรรมที่อยังอยู่ก็หนีกรรม หรือต่อสู่กับกรรมนั้นต่อไปตามแนวทางของกระบวนกฎหมายให้สู้ ถ้าคิดว่าตัวเองไม่ผิด

ปืนมันสวย แต่จับมันครั้งได ต้องตั้งสติก่อนทุกครั้ง ระลึกอยู่เสมอว่ามันใช้ฆ่าคนได้ 
คุกอยู่กับที่ไม่เคยเดินมาหาเรา แต่คนหลายคนเดินเข้าไปหามันเอง ไม่อยากเข้าไปก็ต้องหนีและหนี
 

กล้าจะมีเรื่องถ้ามีได้ไม่ถึงที่สุดอย่ามี 

สงสารทั้ง คนยิง และคนตาย ขาด.... ด้วยกันทั้งคู่
- ขาดสติ
- ขาดความยับยั้งชั่งใจ
- ขาดความเป็นคน(ย่างน้อยก็คนหนึ่งล่ะ)

ตามเนื้อข่าว  หากเป็นที่สาธารณะจริง " สมควรตายครับคนประเภทนี้  อยู่มา ๕๔ ปีแล้วคิดได้  ทำได้แค่นี้เอง " 
เกลียดจริงๆ  พวกที่ชอบแสดงกรรมสิทธิ์ในที่สาธารณะ  เอาของส่วนรวมมาเป็นของส่วนตัว  เบ่งสิทธิ์ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์

เห็นใจคนยิงครับ  ป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย  แต่ว่าการกระทำเกินกว่าเหตุครับ

ปัญหาที่จอดรถ ร้ายแรงพอๆกับแย่งที่ดินมรดกเลย คนเรา  ::013::