เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:36:53 PM



หัวข้อ: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:36:53 PM
 :) Civic Type R ของแรง

หลังจากฮอนด้าย้อนรอยส่ง Civic Type R เวอร์ชั่นยุโรปกลับเข้ามาทำตลาดในบ้านของตัวเองที่ญี่ปุ่นเมื่อปี 2009 ส่งผลให้สาวกฮอนด้าของเมืองไทยมีโอกาสได้สัมผัสกับเจ้าตัวแรงของฮอนด้า ได้ง่ายขึ้นทันที เพราะค่ายเกรย์ มาร์เก็ต BRG จัดแจงคว้าตัว Civic Type R เข้ามาทำตลาดเรียบร้อยแล้ว


(http://img.fakrub.com/image.php?id=066F_4B5D88A0)


Civic Type R พกพาหัวใจรหัส K20A ปริมาตรความจุ 1,998 cc. ขุมพลัง 201 แรงม้า ที่ 7,800 รอบ/นาที แรงบิด 193 นิวตันเมตร ที่ 5,600 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยระบบเกียร์แบบธรรมดา 6 สปีด สุดอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ที่ 6.6 วินาที น้ำหนักรถ 1320 กิโลกรัม


(http://img.fakrub.com/image.php?id=ABD1_4B5D88A0)


ภายนอก Civic Type R มากับรูปทรง สปอร์ต แฮชต์แบ็ค 3 ประตู  ออกแบบอย่างกลมกลืนตัวถังคงคอนเซ็ปต์รูปทรง 3 เหลี่ยม ส่วนสปอยเลอร์หลังกลมกลืนไปกับท้ายรถเป็นอย่างดี บ่งบอกความเป็น Type R ด้วยโลโก้ Honda สีแดง ไฟหน้าแบบ HID สเกิร์ตหน้า – หลัง กระจกบานหน้าเป็นแบบตัดรังสี UVส่วนที่เหลือจะเป็นกระจกแบบ Glass Green พร้อมตัดรังสี UV
     
อุปกรณ์ มากมายเช่น ที่ฉีดน้ำทำความสะอาดกระจกหน้าทำงานสัมพันธ์กับที่ปัดน้ำฝน ที่ปัดน้ำฝนกระจกบานหลัง ล้ออัลลอย 18” (18 x 7J 1/2J) พร้อมยางขนาด 225/40 R18 ดิสก์เบรก Brembo ขนาดใหญ่พิเศษ หน้า 300 มม. พร้อมช่องระบายความร้อน / หลัง 260 มม ระบบควมคุมการทำงานของล้อแบบ LSD


(http://img.fakrub.com/image.php?id=5EDF_4B5D88A0)


ภายในสอดคล้องกับภายนอกด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย เบาะนั่งเป็นแบบ Bucket Seat หุ้ม Alcantara สีแดงสลับดำ ให้การโอบกระชับอย่างดี พร้อมที่นั่งสำหรับติดตั้งเก้าอี้นิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX เบาะหลังพับได้แบบ 60:40 พวงมาลัย 3 ก้านแบบสปอร์ตพร้อมหุ้มหนังแท้เฉพาะ Type R แตกต่างด้วยด้ายเย็บ และโลโก้ตรงกลางที่เป็นสีแดง หัวเกียร์แบบสปอร์ตเฉพาะของ TYPE R แป้นเหยียบที่เป็นอะลูมิเนียมทั้งหมด
     
ด้าน อุปกรณ์อำนวยความสะดวกอื่นๆ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ จอแสดงความเร็วแบบ Multiplex จอแสดงผลการทำงานต่างๆของเครื่องยนต์และไฟแสดงการทำงานของเครื่อง i-VTECวิทยุ CD แบบ 6 แผ่นพร้อมลำโพง 6 ตัวช่องเชื่อมต่อ USBปุ่ม Start/Stop พร้อม Keyless Entry


(http://img.fakrub.com/image.php?id=F92F_4B5D88A0)


ส่วนความปลอดภัยมีให้อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยคู่หน้าและด้านข้างสำหรับผู้โดยสารตอนหน้า เข็มขัดนิรภัย ELR/ALR แบบ 3 จุดพร้อมระบบป้องกันการดึงกลับ ระบบเบรก ABS ระบบกระจายแรงเบรก EBDระบบป้องกันการลื่นไถล VSA ระบบควบคุมการทรงตัว TSC ระบบป้องกันการโจรกรรม Immobilizer พร้อมสัญญาณกันขโมย ระบบเตือนแรงดันของลม ยางพวงมาลัยไฟฟ้าปรับระดับตามความเร็วของรถ ระบบควมคุมความเร็ว และอุปกรณ์ดับเพลิงภายในรถ

(http://img.fakrub.com/image.php?id=E3A1_4B5D88A0)     (http://img.fakrub.com/image.php?id=5EDF_4B5D88A0)


(http://img.fakrub.com/image.php?id=B556_4B5D88A0)     (http://img.fakrub.com/image.php?id=D737_4B5D88A0)


ราคาเบาๆ ที่ 2,890,000 บาท


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:38:37 PM
 ::002:: เด็กเก่ง...

tiny kid break dancing (http://www.youtube.com/watch?v=mKWujd-5nog&feature=player_embedded#normal)


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:50:13 PM
 :VOV: แม่ชีน้อยพอฟ้า พรรณเชษฐ์ ...

ที่บ้านเรียนแห่งรักและศานติ ได้จัดงาน ‘อบอุ่น สุขสันต์ แบ่งปัน วันครอบครัว’ ขึ้น เพื่อให้พ่อ แม่ ครอบครัว ชุมชน ได้มีส่วนร่วมกันทำกิจกรรมสอดคล้องกับคำว่า ‘บวร’ นั่นก็คือ บ้าน วัด โรงเรียน

เริ่มต้นวิถีชีวิตด้วยการทำบุญตักบาตร โดยคุณยายจ๋า(แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต) ได้เมตตาพาคณะแม่ชี และพุทธสาวิกาฟ้ามารับบาตร นำความเบิกบานและเอิบอิ่มใจแก่ทุกคน

คุณยายจ๋าได้เล่าถึงความตั้งใจของพุทธสาวิกาฟ้า ที่มีความกตัญญูเป็นที่ตั้งบวชอุทิศส่วนกุศลแด่คุณทวด และดำเนินชีวิตด้วยทุนของชีวิตคือจิตที่ไม่ขุ่นมัวให้แก่เด็ก ๆ ฟัง อันเป็นแบบอย่างที่ดีงาม

จากนั้นมาร่วมกันเชียร์ ‘กีฬาสัมพันธ์ฉันท์ครอบครัว’ และจับฉลาก ‘ของขวัญจากฟากฟ้า’ ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครองจิตอาสา เพื่อร่วมกันแบ่งปันความสุขและร่วมบุญมอบทุนการศึกษาแก่เด็ก จบงานด้วยการทานอาหารร่วมกัน เพราะ ‘อาหารอร่อยเพราะกินกันหลายคน’

งานนี้ นอกจากได้รับความสนุกสนาน ความอิ่มใจ ความอิ่มบุญแล้ว ยังอบอวลด้วยพลังอบอุ่นของครอบครัว เพราะพ่อแม่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันสร้างโลกให้มีอริยะ...ด้วยการสร้างเด็ก

แม่ชีน้อย ชื่อจริง 'พอฟ้า พรรณเชษฐ์'   น้องพอฟ้าเป็นเด็กที่วิ่งไปวิ่งมาอยู่ในเสถียรธรรมสถานตั้งแต่เล็กๆและได้รับความเอื้ออาทร ความเมตตากรุณา จากผู้ใหญ่มากมาย โดยเฉพาะคุณยายจ๋า และอาสาสมัครหลายๆท่าน ดังนั้นก้าวนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้ถ้าไม่ได้รับแรงสนับสนุนเหล่านั้น นี่เป็นผลงานชิ้นหนึ่งของโครงการจิดประภัสสร และ โรงเรียนพ่อแม่นะคะ โครงการดีๆอย่างนี้ น่าจะมาร่วมกันสร้างก้าวต่อๆไปนะคะ  แม่ชีน้อยได้บวช เมื่อวันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๒ และขณะนี้แม่ชีน้อยได้ลาสิกขาบทแล้ว หรือในนาม พุทธสาวิกาฟ้า หรือ ด.ญ.พอฟ้า พรรณเชษฐ์ กราบลาสิกขาท่านแม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุตและแม่ชีพี่เลี้ยงเมื่อบ่ายวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๒


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699231;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699236;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699243;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699245;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699249;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699250;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699254;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699257;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699258;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699262;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699263;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699264;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699265;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699270;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699271;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699274;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699276;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699277;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699278;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699280;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699282;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699283;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699286;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699290;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699292;image)


(http://webboard.sanook.com/forum/?action=dlattach;topic=3023864.0;attach=699296;image)


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:52:11 PM
 :) เว็บมหา’ลัย ยอดนิยมเอเชีย

ประกาศ ผลออกมาแล้ว สำหรับ “The 2010 University Web Rankings” หรือเว็บมหาวิทยาลัยยอดนิยม ระดับโลกที่มีการสืบค้นหา เข้าชมมากที่สุดจากตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา ผลปรากฏว่า top 200 ระดับโลก มีมหาวิทยาลัยของประเทศไทย ติดอันดับ 4 สถาบัน
     
      ทั้งนี้เว็บไซต์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บไซต์ยอดนิยมอันดับที่ 20 ของเอเชีย และเป็นอันดับที่ 103 ของโลก จากการจัดอันดับเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัย “The 2010 University Web Rankings”
     
      อันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยนี้ จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีโดย 4icu.org เว็บไซต์สำหรับการค้นหาและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาในระดับสูง โดยมีฐานข้อมูลของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยกว่า 9,200 แห่ง จาก 200 ประเทศทั่วโลก และมีผู้เข้าชมข้อมูลเฉลี่ยวันละ 17,000 คน

      การจัดอันดับดังกล่าวพิจารณาจากตัวชี้วัด 3 ประการคือ ความถี่ในการเรียกแสดงหน้าเว็บไซต์ จำนวนการเข้าชม และการเชื่อมต่อมาจากเว็บไซต์อื่น โดยอ้างอิงจากระบบการสืบค้นสากล เช่น google, alexa, yahoo ฯลฯ
     
      สำหรับอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยยอดนิยมระดับโลกนั้น อันดับ 1-10 ได้แก่
     
      1 Massachusetts Institute of Technology สหรัฐอเมริกา
      2 Stanford University สหรัฐอเมริกา
      3 Harvard University สหรัฐอเมริกา
      4 Universidad Nacional Autónoma de México เม็กซิโก
      5 University of California, Berkeley สหรัฐอเมริกา
      6 Peking University จีน
      7 University of Pennsylvania สหรัฐอเมริกา
      8 Cornell University สหรัฐอเมริกา
      9 Shanghai Jiao Tong University จีน
      10 Yale University สหรัฐอเมริกา
     
      โดยเว็บไซต์มหาวิทยาลัยอื่นๆ จากประเทศไทยที่ติด 200 อันดับแรกของโลก ได้แก่
     
      จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย www.chula.ac.th (http://www.chula.ac.th) (อันดับที่ 103)
      มหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ www.ku.ac.th (http://www.ku.ac.th) (อันดับที่ 113)
      มหาวิทยาลัยมหิดล www.mahidol.ac.th (http://www.mahidol.ac.th) (อันดับที่ 162)
      มหาวิทยาลัยขอนแก่น www.kku.ac.th (http://www.kku.ac.th) (อันดับที่ 195)
     

      ส่วนอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยยอดนิยมในเอเชีย อันดับ 1-10 ได้แก่
     
      1 Peking University จีน
      2 Shanghai Jiao Tong University จีน
      3 Tsinghua University จีน
      4 Fudan University จีน
      5 Xi’an Jiaotong University จีน
      6 Keio University ญี่ปุ่น
      7 National University of Singapore สิงคโปร์
      8 Nanjing University จีน
      9 Indian Institute of Technology Bombay อินเดีย
      10 Indian Institute of Technology Kanpur อินเดีย
     
      ส่วนสถาบันการศึกษาของไทย ที่ติด 1 ใน 100 อันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยยอดนิยมระดับเอเชีย ได้แก่
     
      จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อันดับที่ 20
      มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อันดับที่ 21
      มหาวิทยาลัยมหิดล อันดับที่ 29
      มหาวิทยาลัยขอนแก่น อันดับที่ 31
      มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อันดับที่ 40
      Asian Institute of Technology (AIT) อันดับที่ 86
     
      นอกจากนี้ เว็บไซต์มหาวิทยาลัยอื่นๆของไทยที่ติดอันดับรองลงไป ได้แก่
     
      มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
      มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
      สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
      มหาวิทยาลัยศิลปากร
     
      ตรวจสอบข้อมูลอันดับเว็บไซต์มหาวิทยาลัยยอดนิยมได้ที่ http://www.4icu.org (http://www.4icu.org)


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:54:14 PM
 ::008:: แบบทดสอบ : คุณเจ้าชู้หรือเปล่า

แบบทดสอบ สำหรับผู้อยากรู้ว่าตัวเองเจ้าชู้หรือไม่ ต้องลองเทสดูกันนะ แล้วจะรู้


1. ดึกแล้วแต่คุณยังมีความสุขอยู่ในงานปาร์ตี้ พร้อมกับเพื่อนต่างเพศของคุณ แต่ถ้าหากคุณไม่กลับบ้านตอนนี้คุณจะต้องพลาดรถเที่ยวสุดท้ายของคืน ในสถานการณ์นี้คุณจะ ...
ก. ไม่สนใจ ... ปาร์ตี้กันต่อ (ไปข้อ 2)
ข. ขอให้เพื่อนคุณคนนั้นไปส่งคุณที่บ้าน (ไป ข้อ 3)
ค. บอกราตรีสวัสดิ์กับเค้าซะ แล้วรีบไปขึ้นรถกลับบ้าน (ไป ข้อ 4)


2.ใน ขณะที่คุณกำลังรับประทานอาหารอยู่กับเพื่อนต่างเพศของคุณ แล้วคุณเห็นว่าอาหารจานที่เค้าสั่งนั้นช่าง น่ากินเหลือเกิน คุณจะขอเค้าชิมอาหารจานนั้นหรือไม่
ก. ขอชิมสิ (ไปข้อ 5)
ข. ไม่มีวัน (ไปข้อ 6)


3.ใน ขณะที่คุณกำลังเดินช้อปปิ้งอยู่ บังเอิญไปเห็นของชิ้นหนึ่งสะดุดตาสะดุดใจคุณมาก แต่คุณไม่ได้ตั้งใจมา เพื่อที่จะซื้อมัน คุณจะ ...
ก. ยักไหล่ทีหนึ่งแล้วคิดซะว่าลืมมันซะเถอะ (ไป ข้อ 7)
ข. ตัดสินใจซื้อในทันที รูดบัตรซะ (ไป ข้อ 6)


4.คุณได้รับข้อเสนองานใหม่ที่ให้เงินเดือนมากกว่าบริษัทที่คุณทำอยู่ตอนนี้ คุณจะ ...
ก. เจ้านายปัจจุบันสามารถดูแลตัวเองได้แล้ว ลาออกไปก็ไม่เป็นไรหรอก รีบตกลงรับข้อเสนอใหม่ทันที (ไป ข้อ 8)
ข. เจ้านายปัจจุบันดูแลคุณดีมากอยู่แล้ว เลือกอยู่ต่อทำที่เก่า (ไป ข้อ 7)


5.คุณคิดอย่างไรต่อกฎและระเบียบของโรงเรียน
ก. ไม่มีวันที่จะทำตาม (ไปข้อ 9)
ข. ดูว่ามีช่องโหวตรงไหนที่จะเล็ดลอดทำได้และลักลอบทำเลย (ไปข้อ 10)
ค. ทำตามกฏระเบียบอย่างเคร่งครัด (ไปข้อ 12)


6.หากจู่ๆ ก็มีเพศตรงข้ามมาบอกรักคุณ คุณจะ ...
ก. ยิ้ม และคิดในใจว่าเรานี่เสน่ห์แรงไม่เบาเลย (ไปข้อ 9)
ข. ปฏิเสธคนที่มาบอกรักคุณ และวางตัวห่างๆ (ไป ข้อ 10)
ค. ไม่ตอบว่าอะไรแล้ววิ่งหนีหายไปเลย (ไป ข้อ 12)


7.ขณะที่คุณไปเยี่ยมแฟนคุณที่บ้านและเมื่อเข้าไปในห้องนอนของแฟนคุณ คุณก็พบรูปคู่แฟนคุณกับแฟนเก่าตั้งอยู่ คุณจะ ...
ก. เห็นแล้วก็แล้วไป ลืมๆมันซะเถอะ มันเป็นอดีตไปแล้ว (ไป ข้อ 10)
ข. โกรธมาก และเดินออกจากห้องไปเลย (ไปข้อ 11)


8.หากว่าคุณจดเล็คเชอร์ด้วยลายมือไก่เขี่ยมากๆจนอ่านไม่ออก คุณจะลงมือมานั่งเขียนใหม่อีกครั้งหรือไม่
ก. ใช่ (ไปข้อ 12)
ข. ไม่ใช่ (ไป ข้อ 11)


9.เมื่อคุณนึกอยากใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้น คุณจะเลือกเสื้อท่อนบนเป็นเสื้อประเภทไหน
ก. เสื้อยืดรัดๆ (ไปข้อ 13)
ข. เสื้อยืดหลวมๆ (ไปข้อ 14)


10.ใน คณะทัวร์คณะหนึ่งที่คุณไปเที่ยวด้วย ไกด์คนหนึ่งบอกว่าอย่าไปเดินเล่นในบริเวณหนึ่ง เพราะว่ามันอันตราย คุณคิดว่าคุณจะสงสัยจนกระทั่งทนไม่ไหวไม่ฟังเสียงใครทั้งนั้น ต้องไปให้ได้ ใช่หรือไม่
ก. ใช่ (ไปข้อ 13)
ข. ไม่ใช่ (ไปข้อ 14)


11.คุณเคยเดินจูงมือกับเพื่อนคุณบ้างหรือเปล่า
ก. เคย (ไป ข้อ15)
ข. ไม่เคย (ไป ข้อ 16)


12.เมื่อ คุณไปว่ายน้ำและได้ใส่ชุดว่ายน้ำที่เพิ่งจะซื้อมาใหม่เป็นครั้งแรก เคยบ้างไหมที่รู้สึกว่าตัวเองดึงดูดจน มีสายตาหลายคู่จ้องมองคุณอยู่ และรู้สึกว่าตัวเองแจ๋วเลย ตอนเดินข้างๆ สระ
ก. เคย (ไป ข้อ 14)
ข. ไม่เคย (ไปข้อ 16)


13.คุณ เป็นคนประเภทด่วนตัดสินเกินไปหรือเปล่า แสดงออกในทันที หรือตัดสินใจพูด หรือกระทำอะไรอย่างเร็วเกินไปโดยยังมิได้ไตร่ตรองดูให้รอบคอบก่อน
ก. ใช่ (คุณเป็นคนประเภท A)
ข. ไม่ใช่ (ไปข้อ 14)


14.คุณยังคงรักษาสัมพันธภาพที่ดีกับแฟนเก่าของคุณหรือไม่
ก. ใช่ (คุณเป็นคนประเภท B)
ข. ไม่ใช่ (ไปข้อ 15)


15.เมื่อคุณจะไปเที่ยวที่ไหนๆ แล้วต้องทำการจัดกระเป๋าเดินทาง คุณเคยรู้สึกหรือไม่ว่าสุดท้ายกลายเป็นว่าคุณมักเอาของไปมากเกินจำเป็น
ก. ใช่ (ไป ข้อ 16)
ข. ไม่ใช่ (คุณเป็นคนประเภท C)


16.คุณรังเกียจที่จะใช้แก้วร่วมกับผู้อื่นหรือไม่
ก. รังเกียจ (คุณเป็นคนประเภท D)
ข. ไม่รังเกียจ (คุณเป็นคนประเภท C)









คำเฉลย
Check ความเจ้าชู้กันเถอะ


คนประเภท A --- 90% เจ้าชู้
คุณ เป็นคนที่ตกหลุมรักใครง่ายหลายๆ ครั้งที่คุณนั่นแหละเอาตัวเข้าไปพัวพันกับสัมพันธภาพแบบ"รักสามเส้า" โธ่ถัง !!! ประกอบรวมๆกับความจริงที่ไม่ตายที่ว่าคุณไม่ยอมที่จะผูกมัดตัว เองเอาไว้กับหุ้นส่วนของคุณคุณมีความสุขมากกว่าที่จะมีผู้ที่เหมาะสมกับคุณ หลายๆ คน พูดง่ายๆ ก็คือคุณยังห่างจาก คนที่มีศรัทธาในรักมากนัก


คนประเภท B --- 70% เจ้าชู้ ฮา ฮา
ไม่ อยากจะบอกเลยว่าคุณเป็นคนเจ้าชู้กลายๆโดยธรรมชาติ คุณมีความสุขจริงๆกับการที่ถูกเอาใจและดูแลเอาใจใส่อย่างใกล้ชิดจนกระทั่งมี บ่อยที่ดูเหมือนคุณจะเหยียบ เรือ 2 แคม แต่ว่า !!!เพราะความที่คุณเป็นคนที่ Sensitive มากๆกับความรู้สึกต่อคนรักของคุณ คุณจึงพยายามที่จะดึงๆรั้งๆความรู้สึก และความประพฤติของคุณเอาไว้บ้าง


คนประเภท C --- 40% เจ้าชู้
คุณ เป็นคนขี้อายโดยธรรมชาติเลยหละ และมีกลุ่มเพื่อนเฉพาะวนเวียน อยู่ในสังคมของคุณนิสัยแบบนี้ของคุณนี่แหละที่ทำให้ตัวคุณนั้นยาก ที่จะไปตกอยู่ในสถานการณ์ รักสามเส้าเมือนคนอื่นๆ น้า ... โชคดีไปุณ


คนประเภท D --- 0% เจ้าชู้ ว้าว
คุณ นี่ช่างเป็นคนที่มีศีลธรรมในใจที่สูงส่งมาก ใครก็ตามที่ได้หัวใจคุณ ไปครองหรือเป็นคู่ที่คุณเลือกแล้วละก้อ ช่างโชคดีซะเหลือเกินจริงๆ แต่อีกทางหนึ่งพึ่งระวังไว้ และภาวนาให้คนที่คุณรักนั้นไม่ได้เป็นคนประเภทอื่นๆ ข้างต้นนี่เลยยยย ... ไม่งั้นคงวุ่นหัวใจเหมือนกัน


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 04:56:25 PM
 ::014:: อดีตเป็นเหตุ ปัจจุบันเป็นผล

เราต้องยอมรับความจริงว่า อดีตผ่านไปแล้ว เรายังไม่อาจแก้ไขอะไรได้ อนาคตก็ยังมาไม่ถึง แต่ปัจจุบันเราเลือกได้ว่า จะใช้ชีวิตอย่างไร?

มีเรื่องราวของชายชาย ญี่ปุ่น คนหนึ่ง เขาได้เขียนเล่าเรื่องชีวิตตัวเอง และติดอันดับหนังสือขายดีในญี่ปุ่น และได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษา ในภาษาอังกฤษใช้ชื่อว่า No One's Perfect เมื่อแปลเป็นภาษาไทย ก็ใช้ชื่อตามต้นฉบับของญี่ปุ่นว่า " ไม่ครบห้า "

" ไม่ครบห้า " เป็นชีวิตจริงของ ฮิโรทาดะ โอโตตาเกะ ชายชาวญี่ปุ่นเกิดที่โตเกียว แต่เขากลับไม่มีแขนขาเลยตั้งแต่เกิด แต่น่าแปลกตรงที่เขากลับมองความพิการของตนเองว่านั่นคือ ลักษณะพิเศษทางร่างกาย ไม่ต่างไปจาก คนอ้วน คนผอม คนสูง คนเตี้ย คนตัวดำ หรือ ตัวขาว ความพิการของเขานั้น เป็นเพียงความไม่สะดวก แต่ไม่ใช่ความไม่สบาย

โอโตตาเกะเล่าว่า วันแรกที่หมออนุญาตให้แม่ของเขาได้พบกับเขา เป็นครั้งแรกหลังจากที่คลอดเขาออกมาได้  3 สัปดาห์นั้น ทางโรงพยาบาลเตรียมการไว้พร้อม เตรียมเตียงว่างไว้หนึ่งเตียง เผื่อกรณีที่แม่เห็นเขาแล้วเกิดเป็นลมไปด้วยความตกใจ ทุกฝ่ายเคร่งเครียดกันไปหมด ทั้งทางโรงพยาบาล พ่อและแม่ของเขา แต่ปรากฏว่าประโยคแรกที่คุณแม่เขาอุทานเมื่อได้เห็นลูกชายเป็นครั้งแรกคือ " เธอช่างเป็นเด็กที่น่ารักเหลือเกิน

อารมณ์ครั้งแรกที่คุณแม่มีต่อโอโตตาเกะไม่ใช่อารมณ์ของการตกใจหรือเศร้าโศก แต่เป็นอารมณ์ของความปิติยินดีที่มีต่อตัวลูก ความรักที่ถ่ายทอดมาสู่เขาเป็นพลังผลักดันให้เขาสามารถพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้แตกต่างจากคนอื่น

พ่อแม่ เลี้ยงดูโอโตตาเกะ ให้เป็นเด็กที่เข้มแข็งมาตั้งแต่เล็กๆ ไม่ให้หนีจากสิ่งต่างๆ โดยเอาความพิการเป็นข้ออ้าง ไม่ให้คิดว่าความพิการเป็นปมด้อย ด้วยเหตุนี้ โอโตตาเกะ จึงเติบโตมาเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่ยอมแพ้ต่ออะไรง่ายๆ พยายามทำในสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเอง เขียนหนังสือได้ ใช้คอมพิวเตอร์เป็น เล่นกีฬาได้หลายอย่าง เขานั่งรถเข็นที่ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ไปไหนมาไหนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาใคร เขาสามารถใช้ชีวิตทำกิจกรรมร่วมกับคนอื่น โดยไม่รู้สึกแตกต่างไปจากคนอื่น เรียนหนังสือจนจบมหาวิทยาลัยชั้นนำโดยไม่ต้องใช้อภิสิทธิ์ใดๆ เลย

โอโตตาเกะ ไม่ได้มองว่าการไม่มีแขนขาเป็นปมด้อย แต่เขากลับมองในแง่บวกว่าสิ่งเหล่านี้ต่างหากที่เป็นจุดแข็งของเขาที่ไม่มีใครเหมือน เขาไม่เคยโทษโชคชะตาฟ้าลิขิตที่สร้างเขามาให้มีรูปร่างไม่สมประกอบ ไม่เคยคิดฆ่าตัวตาย แต่กลับภูมิใจในสิ่งที่ตนเป็น เขาคิดว่าโลกนี้ไม่ควรมีพรมแดน และสิ่งกีดขวางระหว่างมนุษย์ด้วยกัน เพียงเพราะคนใดคนหนึ่งเกิดมาพิการเท่านั้น เขาได้เรียกร้องให้สังคมเปิดใจให้กว้าง ให้ทุกหัวใจในสังคมเป็นหัวใจที่ไร้สิ่งกีดขวาง

เขาใช้ชีวิตได้อย่างสง่างาม และน่าชมเชย

ทุกวันนี้ โอโตตาเกะ กำลังใช้ร่างกายเล็กๆ ของเขาขับเคลื่อนสังคมอยู่ เขาช่วยเหลือให้กำลังใจแก่คนพิการ เขาต้องการสร้างโลกแบบหัวใจไร้สิ่งกีดขวางให้ได้ ด้วยการเขียนหนังสือและเดินทางไปเผยแพร่แนวความคิดดังกล่าวทั่วญุี่ปุ่น

เรื่องของ ฮิโรทาดะ โอโตตาเกะ น่าจะเป็นตัวอย่างให้คนอืกหลายๆ คนที่คิดท้อแท้ กลับมามองตัวเองแล้วมีกำลังใจที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไปด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง

หนึ่งบทความดีๆ ที่อยากแบ่งปันให้เพื่อนๆ ได้อ่าน หวังว่าจะเป็นกำลังใจ ให้คนที่กำลังหมดไฟ ได้ลุกขึ้นแล้วสู้ต่อไป

ขอขอบคุณ หนังสือ เรา เกิดมาทำไม ของพระอาจารย์มิตซูโอะ เควสโก


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 27, 2010, 05:01:33 PM
วินทร์ เลียววาริณ
23 มกราคม 2553

ดาวอังคารเหนือต้นเชอร์รี

เป็นเวลาหนึ่งปีหลังจากเขาอ่านหนังสือนวนิยายวิทยาศาสตร์ของ เอช. จี. เวลล์ส เรื่อง The War of the Worlds เรื่องของมนุษย์ดาวอังคารบุกโลก ตั้งแต่นั้นเขาก็หมกมุ่นอยู่กับความฝันเกี่ยวกับการเดินทางในอวกาศไปทั้ง ชีวิต

รอเบิร์ต กอดดาร์ด รูปร่างผอมบาง อ่อนแอ เจ็บออดแอดเสมอ เขาสนใจวิทยาศาสตร์ตั้งแต่วัยห้าขวบ วันที่พ่อสาธิตการสร้างกระแสไฟฟ้าสถิตจากพรมที่บ้าน เด็กหนุ่มเป็นนักอ่าน กระหายความรู้ตลอดเวลา เขาสนใจเรื่องการบิน ชอบหมกมุ่นทดลองการบินด้วยว่าวและบอลลูน

เมื่อไต่ลงมาจากต้นเชอร์รีในวันนั้น วิสัยทัศน์ของเขาก็เปลี่ยนไปถาวร เป็นวันที่พิเศษที่สุดในชีวิตของเขา เมื่อความฝันของเขาก่อตัวเป็นรูปธรรม เขามองเห็นภาพมนุษย์เดินทางไปดาวอังคารด้วยจรวดเชื้อเพลิงเหลว



กอดดาร์ดเรียนดีจนจบชั้นปริญญาเอก เป็นอาจารย์ทางฟิสิกส์ แต่ยังคงหมกมุ่นกับการเดินทางไปนอกโลกด้วยจรวด เขาสร้างจรวดโดยผสมน้ำมันกับออกซิเจนเหลวเป็นเชื้อเพลิง ที่ฐานจรวดของเขาประกอบด้วยถังสองถัง ถังหนึ่งใส่ออกซิเจนเหลว อีกถังใส่น้ำมัน มีท่อเชื่อมให้เชื้อเพลิงทั้งสองตัวผสมกัน และปากพ่นสำหรับให้อากาศร้อนขับออกมา

ใครๆ ก็หาว่าเขาบ้า ในสายตาของคนภายนอก เขาเป็นเพียงศาสตราจารย์สติเฟื่องคนหนึ่งผู้ไม่รู้จักโต ชอบของเล่นอย่างเด็ก แต่การสร้างจรวดเป็นของเล่นที่แพงกว่าเงินเดือนของเขา ยังโชคดีที่ไม่ทุกคนเห็นว่ามันเป็นความฝันไร้สาระของเด็ก บางองค์กร เช่น สถาบันสมิธโซเนียน ให้เงินอุดหนุนแก่เขาในการทดลอง

ผลงานของเขาทยอยออกสู่สาธารณะ แต่คนส่วนมากมองว่ามันเป็นความฝันโง่ๆ สื่อส่วนใหญ่มองเขาในด้านลบ ในปี 1920 หนังสือพิมพ์ นิวยอร์ก ไทม์ส โจมตีเขาอย่างรุนแรงหลังจากกอดดาร์ดเสนอความคิดเรื่องการใช้จรวดเป็นยาน พาหนะเดินทางไปดวงจันทร์ กล่าวหาเขาถึงขั้นว่า 'ขาดการศึกษาชั้นมัธยม' และการทดลองจรวดของเขาเป็นความคิดที่บ้าสิ้นดี แม้ถูกค่อนแคะรอบทิศ กอดดาร์ดก็ทดลองของเขาไปเงียบๆ

หกปีต่อมา จรวดเชื้อเพลิงเหลวของเขาก็ทะยานขึ้นฟ้าสำเร็จ จรวดของเขาขึ้นสูงในอากาศราว 2.5 วินาที สูง 12.5 เมตร ตกห่างห้าสิบหกเมตรจากจุดยิงจรวด แต่ยังห่างไกลจากการเดินทางไปดวงจันทร์หรือดาวอังคารนัก

ช่วงปี 1930-1935 เขาส่งจรวดหลายลำขึ้นฟ้า ส่วนมากไปได้ไม่ไกล แต่เขาไม่ได้มองว่าเป็นความล้มเหลว เขาว่า "คุณสามารถเรียนรู้จากการทดลองเสมอ" แม้แต่การทดลองกับว่าวและบอลลูนในวัยเด็กก็กลายเป็นประสบการณ์ในการทดลอง จรวด

นานมาแล้ว เขาเคยกล่าวในสุนทรพจน์พิธีจบโรงเรียนมัธยมปลายว่า "มันยากที่จะบอกว่าอะไรเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะความฝันของเมื่อวานนี้คือความหวังของวันนี้ และความจริงของพรุ่งนี้"



แม้ว่ากอดดาร์ดจะไม่ประสบความสำเร็จในการส่งจรวดไปถึงชั้นอวกาศ แต่แนวคิด ผลงานสร้างสรรค์ และการทดลองนับครั้งไม่ถ้วนของเขากลายเป็นรากฐานของจรวดในปัจจุบัน นักสร้างจรวดชาวเยอรมัน-อเมริกัน เวอร์เนอร์ ฟอน บราวน์ กล่าวถึงกอดดาร์ดว่า "จรวดทั้งหลายของเขาอาจจะดูหยาบไปบ้างเมื่อเทียบกับมาตรฐานปัจจุบัน แต่พวกมันก็ส่งเปลวสว่างไสวเป็นทาง และรวมชิ้นส่วนมากมายที่ใช้ในจรวดยุคใหม่และยานอวกาศ"

กอดดาร์ดไม่มีชีวิตอยู่ดูจรวด อจีนา ดี ทะยานขึ้นจากพื้นโลกสู่อวกาศ ส่งยานอวกาศมาริเนอร์ 4 ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 1964 บินนานเจ็ดเดือนครึ่งจนถึงดาวอังคารสำเร็จเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ของมนุษยชาติ

พวกเขาไม่พบมนุษย์ดาวอังคารในจินตนาการของ เอช. จี. เวลล์ส แต่ 'ความฝันของเมื่อวานนี้' บนต้นเชอร์รีกลายเป็นจริงในที่สุด

ห้าปีถัดมา จรวดขนาดยักษ์ก็นำมนุษย์ทะยานเหนือขอบฟ้า มุ่งหน้าสู่ดวงจันทร์ ในโครงการอพอลโล 11

หนึ่งวันถัดมา นิวยอร์ก ไทม์ส ตีพิมพ์คำขอโทษต่อชายผู้ถูกหาว่าฝันในเรื่องบ้าๆ



คมคำคนคม

เพราะความฝันของเมื่อวานนี้คือความหวังของวันนี้ และความจริงของพรุ่งนี้


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มกราคม 27, 2010, 05:06:49 PM


ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มกราคม 27, 2010, 05:32:16 PM
ขอบคุณครับ  ผมสำรวจความเจ้าชู้ได้ตั้ง ๗๐ % เลยครับ  ;D


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ มกราคม 27, 2010, 05:54:47 PM
ขอบคุณครับลุงวัฒน์  ::014::  ชอบแม่ชีน้อยจังเลยครับ  ::002::  ส่วนเรื่องตรวจสอบเจ้าชู้รู้ผลอยู่แล้วครับ ของมันชัวร์  8)


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 27, 2010, 06:00:46 PM

              ผมยอมรับว่าเป็นคนดีจริงๆครับ ---- 0 %  .....  คนอะไรหายากนะเนี่ย



หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มกราคม 27, 2010, 06:37:15 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มกราคม 27, 2010, 07:11:36 PM

              ผมยอมรับว่าเป็นคนดีจริงๆครับ ---- 0 %  .....  คนอะไรหายากนะเนี่ย



โอ้ววววววววววววววววววววว..... :OO :OO :OO   ::005::


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: pasuta ที่ มกราคม 27, 2010, 08:35:09 PM
ขอบคุณครับท่านวัฒน์ ::014:: ::014:: ชอบเด็กเก่งกับน้องพอฟ้ามาก ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: som36 ที่ มกราคม 27, 2010, 09:16:31 PM
ขอบคุณครับ น้าวัฒน์


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: cybernop -รักในหลวง ที่ มกราคม 27, 2010, 10:52:10 PM
ขอบคุณมากครับคุณวัฒน์
ที่ยอมสละเวลานำสิ่งดีๆมาให้อ่านให้ชม อย่างสม่ำเสมอ  ::014::


หัวข้อ: Re: [27-01-10] เรื่องเก็บมาเล่า...
เริ่มหัวข้อโดย: ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง ที่ มกราคม 27, 2010, 11:35:42 PM
เรื่อง ไม่ครบห้า นะครับ
       ผมเพิ่งดูรายการ "คนค้นฅน" เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน
ในเมืองไทยก็มีแบบคุณ โอโตตาเกะ อยู่เหมือนกันครับ
เป็นผู้หญิง ชื่อคุณ "มะกุด  ต่ออำนาจ"  ไม่มีแขน-ขา ตั้งแต่เกิด
คนที่สอง เป็นชาย  แขน ขา อ่อนแรงซีกหนึ่ง
คนที่สาม ชายหนุ่ม ล่ำสัน แข็งแรง  แต่สายตามองเห็นแค่ระยะใกล้ๆ
รวมตัวกันทำมาหากินเป็นทีมเดียวกัน
ดูแล้วได้สิ่งดีดีเยอะครับ