เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

วันนี้วันแห่งความรัก  ขอมอบความรักให้กับเพื่อนๆทุกคนครับ ::014::  ชีวิตผมเกินครึ่งต้องอยู่ต่างแดนตลอด  โดยเฉพาะญี่ปุ่น  อยู่มา20ปีพอดี
วันวาเลนไทน์นี้ต่างกับบ้านเรามาก  วันนี้เป็นวันที่ผู้หญิงต้องให้ของกับผู้ชายเท่านั้น  ซึ่งส่วนใหญ่จะได้ช้อคโกแลต  ในเทศกาลนี้มีการจำหน่ายช้อคโกแลตนับร้อยตัน  ดาราชายดังๆออกโชว์ตัวจะได้เป็นตันที่เดียวครับ(ผมได้มา5ห่อ...แค่นี้ก้อิ่มหลายวัน)
จะมีวันสีขาวคือ14มีนาคมเป้นวันที่ผู้ชายจะต้องตอบแทนหรือให้ของขวัญกับผู้หญิงแต่ไม่ยักกะเน้นช้อตโกแลต...เหลือเชื่อครับ

....ผมเกิดมาเป็นลูกชาวนา  เป็นมาตั้งแต่บรรพบุรุต  และเป็นต่อไปอีกนาน  มาอยู่นี่ก็ค่อนข้างชิดใกล้ชาวนาชาวสวน  ผมจะซื้อข้าวสารจากชาวนาโดยตรง  ชาวนาเขามีกองทุน เขามีระบบบริหารที่ดี  มีความเข้มแข็ง  มีการจัดหาเครื่องจักร  เครื่องมือ  ปุ๋ย  ยาต่างๆ  (บ้านเราไม่มี)
สิ่งที่เหลือเชื่อคือ...20ปีที่ผมเจอมา  ข้าวสารเคยขึ้นราคามาครั้งเดียว  ขึ้นเพียงนิดหน่อย  ทีแรกๆที่ซื้อ1กระสอบ30โล  8.000เยน  ขึ้นมาเป็น9.000เยน  ในขณะที่บ้านเราขึ้นมาหลายเท่าตัว  ข้าวของเครื่องใช้ส่วนมากนำเข้า  จึงมีราคาถูก  ราคาเดิมๆมาเป็นสิบปีแล้ว
สำหรับผมเหลือเชื่อครับ....
คนญี่ปุ่นไม่มีบัตรประชาชน  ไม่มีสำเนาทะเบียนบ้าน  เพราะเอกสารนี้ไม่ค่อยได้ใช้...ถ้าต้องการไปขอเอาที่อำเภอ  ใช้เวลาไม่ถึง3นาที
คนญี่ปุ่นเกิดมาจะได้คือบัตรประกันสุขภาพ  ซึ่งเหมือนบัตประจำตัว  (ถ้าบ้านเราคงใช้ของกันมั่วไปหมด  เพราะไม่มีรูปติด)    แต่ใช่ว่ามีแล้วจะใช้ได้นะครับ...ต้องเสียภาษี ซึ่งข้อมูลเขาทำเชื่อมถึงกัน

บ้านที่อยู่ทุกหลังทุกแห่งต้องขออนุญาตสร้างและลงทะเบียน  เพื่อการจัดเก็บภาษี(รีด)  ไม่จำเป็นต้องมีและถือเอง  อยากได้ไปขอที่อำเภอ
ย้ายเข้าไปอยู่ที่ไหนต้องแจ้งทางอำเภอภายใน14วัน  ไม่ต้องแจ้งออก   เพราะการแจ้งเข้า  เท่ากับแจ้งออกอยู่แล้วทางอำเภอจะจัดการเอง
อยู่ที่ไหนต้องแจ้งอำเภอนั้นๆ  เพื่อจะต้องเสียภาษี  และการประกันสังคมต่างๆ  ไม่มีการที่คนอยู่ภาคหนึงทะเบียนอยู่ภาคหนึง
บ้านทุกหลังคอนโดทุกห้องต้องเสียภาษี  รายได้ของเราต้องแจ้งที่อำเภอเช่นกัน

มีคำถามมากมายว่านักการเมืองเขาถึงไม่โกง  การประมูลงานจากรัฐทำไมถึงไม่มีใต้โต้ะ...ตอบว่ามันก้มีแต่น้อยครับ  เพราะจะมีการตรวจสอบของรายได้  และต้องแจ้งอย่างชัดเจน  เช่นรับงานมา100เยน  คนรับงานต้องทำบัญชีครับว่า  จ่ายค่าแรง  ค่าสินค้า ไปเท่าใด  ซึ่งสามารถตรวจสอบได้เหมือนลูกโซ่   
นิยายบ้านเรามักจะมีเรื่องของตำรวจไล่จับผู้ร้าย....แต่ที่นี่จะมีเรื่องราวของคนเก็บภาษี  ต่อสู้กับพวกหลบภาษีเช่นผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมือง...หน่วยงานนี้มีหน่วยติดอาวุธด้วยนะครับ  และมีการฝึกเช่นตำรวจ(แต่ไม่ใช่ทุกๆคนนะ)
ตำรวจที่นี่ควบคุม+ดูแลเรื่องใบขับขี่รถยนต์ด้วย  จึงมีตำรวจจำนวนมากที่เป็นแต่ไม่ได้ฝึกหรือใช้อาวุธเลย  เช่นพวกบัญชี
ไม่เคยได้ยินตำรวจไถ+รีด เหลือเชื่อครับ
จะซื้อบ้านหรือรถแพงๆ  ใช่ว่าจะมีเงินแล้วซื้อได้...ต้องไปแจ้งให้ภาษีอำเภอตรวจสอบ  และออกใบรับรองให้ก่อน  ข้าราชการจึงทำตัวรวยหรือรวยไม่ได้  ถ้าไม่สามารถแจ้งที่มาของสมบัติได้ก้จะโดนข้อหาแล้วแหละ
...เป็นเรื่องเหลือเชื่อของเขาสำหรับคนไทยครับ
ขออวยพรให้ทุกคนที่มีรักสมหวังดังปองทุกคนครับ.

                 ขอบคุณครับน้าสน ....... ผมมักแพ้ภัยสีผิวสาวยุ่นกะเกาหลี ..... มียาแก้แพ้แนะนำเปล่าครับ

ผมก็เคยไปมาหลายเที่ยวบางเที่ยวอยู่นานๆเป็นเดือนที่เห็นสาวๆสวยตามรูปพอไปเดินถนนกลับพื้นๆแฮะขาวจริงแต่ไม่ค่อยสวยอันนี้ที่ต่างจังหวัดเขาแต่ถ้าไปโตเกียวก็เจอเยอะ
 ส่วนเรื่องเหลือเชื่อก็ตอนไปเที่ยวหนึ่งที่บริษัทพาไปเที่ยวภูเขาไฟฟูจิที่เราเคยเห็นภาพถ่ายสวยๆใช่ไม๊ครับ...พอไปถึงจริง โหย...ยอดภูเขาลูกรังดีๆนี่เองโล้นๆ ไม่มีต้นไม้ ผิดหวังที่สุด สงสัยเราไปช่วงไม่มีหิมะเลยไม่สวยดังภาพ

เพิ่งทราบครับ ทำงานกับญี่ปุ่นมาสิบปี เข้าออกหลายสิบครั้ง ไม่เห็นคนญี่ปุ่นเล่าให้ฟัง เห็นเขาพกบัตรประจำตัวติดกระเป๋าเหมือนเรา  ข้าวของก็แพงขึ้นทุกปี เขายังบ่นให้ฟังว่าเงินเดือนขึ้นน้อยไม่ทันค่าข้าวสาร  ส่วนเรื่องย้ายที่อยู่ต้องแจ้งนี่ยิ่งเป็นความรู้ใหม่ ผมเห็นเขาย้ายกันไปทั่วทั้งประเทศ ไปอยู่ตามสาขาต่างๆหกเดือน เดียวก็ย้ายอีกแล้ว  ผมยังถามเลยว่าไม่ต้องแจ้งย้ายสำมะโนครัวเหรอ เขาบอกว่าใช้บัตรประกันสังคมหรือบัตรประชาชนใบเดียวก็พอ ไปได้ทั่วประเทศไม่ต้องขออนุญาตหรือแจ้งใคร  สงสัยพวกที่ผมรู้จักนี่มันชอบแหกกฏ

..อีกเรื่องที่ยังไม่รู้.. :OO
..หญิง(สาว)ชาวญี่ปุ่น กับ หญิงไทย.. :VOV: :VOV:

 ;)  เคยไปอยู่มาเหมือนกัน.........สาวญี่ปุ่นขาใหญ่ หน้าหมวย สวยๆก็มีปะปนกันไป..........อิอิ ::005::


 ;D  ที่ชอบญี่ปุ่นเพราะ ประเทศเขาเจริญดี เทคโนฯ ก็เจริญ มีความทันสมัยหลายอย่าง  อยู่แล้วสบาย ความปลอยภัยในชีวิตสูง..... ::002::

เห็นเขาพกบัตรประจำตัวติดกระเป๋าเหมือนเรา ...คงเป็นบัตรใบขับขี่ครับ  ใช้ได้เช่นกัน  ข้อมูลเชื่อมกันได้

การย้ายออกถ้าเป็นคนงานประจำก็แจ้งออฟฟิต  เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเรื่องบัญชีของบริษัทจะทำให้ครับ  การแจ้งโทรแจ้งก็ได้ครับ  เขาต้องแจ้งและทำเรื่องประกันสุขภาพอยู่แล้วครับ    ดูแล้วไม่ยุ่งยาก  และบ้านเราไม่มีเค้าเลยอธิบายให้เราไม่ถูก  ผมก็รู้เองโดยประสบการณ์ครับ

ข้าวของแพงลองถามเขาสิครับ  ว่าเมือ20ปีข้าวสารโลละกี่เยน  วันนี้โลละกี่เยน
น้ำกระป่องเมือ20ปี  ที่ผมมาใหม่ๆ80/กระป๋อง  ทุกวันนี้12-150เยน/กระป๋อง    
โดยรวมๆแล้วผมว่าไม่แพงขึ้นมากเท่าไหร่เลยครับ
ขอบคุณครับ

แฟนน้าปูไง......หยุดเลยโรคนี้.......5555

ไปละ........

อันนี้ผมรู้แล้ว...สรุปสาวไทยน่ารักกว่าแยะครับ(แต่สายไปเสียแล้ว)

                (http://www.pixnice.com/upload/files/viy2gtjjzommtkdkmynz.gif) (http://www.pixnice.com/upload/)                   (http://www.pixnice.com/upload/files/omgmwdjmiiyy1dofdzlm.gif) (http://www.pixnice.com/upload/)               (http://www.pixnice.com/upload/files/znvtgiet2mlkyidy233j.gif) (http://www.pixnice.com/upload/)      (http://www.pixnice.com/upload/files/znvtgiet2mlkyidy233j.gif) (http://www.pixnice.com/upload/)

อยากทราบว่า เงินเดือนกับสวัสดิการของข้าราชการ ตำรวจ เขาดีกว่าบ้านเราไหมครับ  เห็นเพื่อนที่ไปญี่ปุ่นบ่อยๆเขาบอกคนญี่ปุ่นมีประกันสังคมดี  ตอนแก่ไม่ค่อยมีปัญหาแบบบ้านเรา  เขาเลยทำงานแบบไม่ค่อยจะเน้นเก็บออมจนเกินพอดีแบบบ้านเรา

            ขออณุญาติครับ ::007:: ::007:: ::007:: ::014::

แล้วเขาเน้นให้อะไรผู้หญิงตอบแทนครับ  ???

ผมขอเล่าเรื่องชาวญี่ปุ่นในไทยดีกว่า เพราะละแวกที่ผมทำงาน ออฟฟิศชาวญี่ปุ่นเยอะพอควร
เคยเจอแบบสุภาพสตรีชาวญี่ปุ่นผิวขาวมากๆ ชนิด วันหนึ่งไฟโถงหน้าลิฟต์ของตึกชั้นที่ผมอยู่เกิดปัญหา
เล็กน้อยดับพรึ่บ ผมเดินมาถึงตรงนั้นพอดี ผงะเลย นึกว่าผีสาง เพราะเห็นเป็นแขนขาวๆหน้าขาวๆ
เรืองแสงอยู่เล็กๆลอยอยู่ พอดีไฟติดพรึ่บ (ดับไม่ถึง8วินาที) เห็นเธอยืนอยู่ อ้ายที่เห็นขาวๆเรืองๆ คือเธอเอง
ท่าทางเธอก็งงๆกับไฟฟ้าของไทย  แต่ก็ยิ้มให้ผม
วันนั้น ลงลิฟท์มาด้วยกัน เลยแอบสังเกต ผิวเธอขาวคล้ายกระดาษ เอ4มากๆ ขาวแบบไม่เหมือนคนไทยเชื้อสายจีน


บางครั้งอยู่ในลิฟท์ด้วยกัน หากเธอมากับคนไทยในออฟฟิศของเธอ ส่วนใหญ่มักจะคุยกันแบบสาวๆคุยกัน
เธอมักบอกว่าสาวไทย ผิวสวยกว่า ผิวออกแทนๆจะสวยดูดี เธอไม่ชอบผิวขาวๆของเธอ

ช่วงหนึ่งไม่เห็นเห็นเธอหลายวัน พอเจออีกที่หน้าโถงลิฟท์ ขึ้นมาด้วยกัน ผมสงสัย ไปทำอะไรมาล่ะ ผิวเข้มเชียว
(ออกน้ำตาลอ่อนๆ แต่ห่างไกลผิวเดิมเห็นชัด) เธอบอกสาวไทยในออฟฟิศเธอว่า ตอนลาพักร้อนไปเที่ยว
เธอนอนอาบแดดที่ภูเก็ตอย่างเดียวเลย ทั้งวัน ทุกวัน(เธอใช้คำ all time and everyday) ไม่ไปไหนเลย อยากผิวสวยๆ
แบบนี้มานานแล้ว สาวไทยได้แต่อึ้งๆยิ้มๆ 


ผ่านไปราวๆ หนึ่งสัปดาห์สาวญี่ปุ่นผิวสีน้ำผึ้ง ก็กลายเป็นสาวผิวกระดาษเอ4เหมือนเดิม   ;D ;D ;D

(ตอนเธอผิวสีน้ำผึ้ง สวยกว่าเดิมมากครับ)

แล้วเธอไม่ตกใจที่เห็นคุณซับ.เหรอ...เป้นผมคงขนหัวลุกแน่อิอิอิอิ

           ขอวีซ่าไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกยากมั้ยครับอาสน
         
          -ไปกันเองกับเพื่อน(ไม่ไปกับกรุ๊ปทัวร์)

          -ต้องเตรียมหลักฐานอะไรบ้าง

          -ต้องมีเงินในบัญชีอย่างน้อยเท่าไหร(อันนี้ท่าทางผมจะแย่ ;D)

          -สถานทูตเค้าซ้กถามประวัติ(เป็นภาษาญี่ปุ่น)ด้วยหรือเปล่า

แหม....พี่ เด็ดยอดเพชรของไซตามะมาเชยชมซะ20ปี เพิ่งจะมาโอดครวญ

หนัง"เมียผมเป็นลูกสาวเจ้าพ่อ" ก็เอาพล๊อตมาจากชีวิตจริงของพี่สนธ์นี่แหละ  ::005::

เรื่องวีซ่าผมไม่รู้เลยครับ  ไม่ได้เข้าไป10ปีแล้วที่ไม่เคยเข้าไปรู้แต่ว่ายาก+เค้าถามเป้นภาษาไทยหมดครับ
ถ้าเจอญี่ปุ่นถือว่าโชคดีและคุยง่ายกว่าคนไทยครับ  แต่พูดไทยได้ทุกคน.


อ้าว...ผมได้เป็นพระเอกแล้วรึ55555

จากที่เคยใช้ชีวิตที่นั่นมาสักระยะหนึ่ง  ก็ได้รับรู้เรื่องราวทำนองนั้นจากเพื่อนพนักงาน

ชาวญี่ปุ่นเล่าให้ฟัง   รู้สึกว่าเขาบริหารจัดการแบบตรงไปตรงมา  สอดคล้องกับเหตุและผล

ไม่แปลก  และไม่เหลือเชื่อ .......



แต่พอกลับมาบ้านเราได้รับรู้เรื่องราวข่าวสารต่างๆของบ้านเรา  รู้สึกแปลกใจ  รู้สึกเหลื่อเชื่อมากกว่า   ???

เรื่องของตำรวจ..ไม่ค่อยรู้ครับ  เพราะไม่ชอบตำรวจเท่าไหร่  ชอบยากูซ่ามากกว่า  ตำรวจชั้นประทวนขั้นแรกเงินเดือนน้อยมากครับ  ราวๆ6หมื่นบาทหรือ180.000เยน ราชการทุกอย่างเริ่มต้นประมาณนี้  แต่จะได้ส่วนต่างครับ  เช่นราชการในเมืองกับบ้านนอก  จะได้เงินส่วนต่างนี้ไม่เหมือนกัน  และจะเพิ่มเงินเดือนขึ้นๆทุกปี ราชการทุกคนไม่มีสวัสดิการ เหมือนบ้านเรา  แต่จะได้โบนัสปีละ2ครั้ง  ลูกเมียหรือพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์เบิกอะไรทั้งสิ้น  เอกชนหรือราชการสิทธิ์เท่าเทียมกัน  คือเกิดมาได้รับบัตรประกันคนละ1ใบ  ทำงานเสียภาษีเหมือนกัน  ได้มากเสียมากแต่เวลาจ่ายค่ารักษา  จ่ายเท่ากันคือ  เช่นผมคนทำงานเสียเงินจะเสียค่ารักษา2/10  ลูกเมียผมเสีย3/10  ทุกอย่างทุกโรคใช้ประกันได้หมด  ยกเว้นคลอดลูก..ต้องจ่ายเต็ม(ยกเว้นอีกว่าถ้าคลอดแบบผ่า)   แต่ลูกเกิดมาจะได้เงินค่าเลี้ยงดูจากรัฐ.แต่ละเมืองไม่เท่ากัน...เมืองผมอยุ่ได้เดือนละ15.000เยน  2เดือนจ่ายครั้งผ่านธนาคาร  ยิ่งมีมากยิ่งได้มากครับ  คนที่2จะได้20.000เยน
จ่ายจนลูกอายุ7ปี  จ่ายแบบนี้ทั้งลูกราชการและเอกชน(ที่ทำงานเสียภาษีเท่านั้น)
แต่ราชการจะมีเงินบำเน็จหลังเกษียนจะได้หลายล้านบาท  เงินบำนาญจะได้ทุกคนทั้งราชการและเอกชนที่ทำงานแล้วเสียเงินเข้ากองทุนบำนาญได้อย่างน้อยก็2หมื่นบาท  (แม่ยายผมอยู่ระดับเจ้าของกิจการได้รับเดือนละเกือบ2แสนบาท)
ในญี่ปุ่น99/100จะเป็นรพ.ของเอกชน  ของรัฐจะเป้นรพ.ขนาดใหญ่  ที่เป็นที่เรียนผลิตหมอพยาบาลออกมา
ผู้บริหารไม่ใช่หมอเหมือนบ้านเรา(เสียดายงบจัง)  
ตำรวจหรือทหาร  เวลานอกราชการห้ามแต่งเครืองแบบ  ราชการทั่วๆไปไม่มีเครื่องแบบ
...มีอะไรอยากรู้ถามต่อได้ครับ  แม้ผมไม่ได้เรียนมาด้านนี้โดยตรงแต่ประสบการณ์ที่เจอ  รู้ก็จะบอกเล่าให้ฟังครับ

อาหารทั่วไปทำนองข้าวแกง/ข้าวมันไก่บ้านเรา 1อิ่มราคาเท่าไหร่ครับพี่ ?

ร้านในเมืองนอกเมือง  ห้องแอร์  แม้แต่ในสนามบิน  ราคาแทบไม่ต่างกัน  อิ่ม1มื้อราวๆ1.000เยน  อาหารมื้อเที่ยงผมสั่งอาหารชุดหรือที่เรียกปิ่นโต  เขาจะมาส่งให้ราคา500เยนครับ  ค่าใช้จ่ายที่เมียให้คือ1000เยน  ก็จ่ายค่าข้าว500  เหลือนั้นพอเก็บไว้ให้ค่าปิ่นโตสายอื่นครับ

ขอบพระคุณมากครับ   ::014::  ที่นั่นเสียภาษีค่อนข้างสูง  แต่ก็เหมือนได้คืนกลับมาค่อนข้างตรงใจคน คือ พอแก่ก็มีเงินให้ใช้ มีรักษาพยาบาลที่คงไม่แบ่งเกรดแบบบ้านเรา

เมื่อปีที่แล้วเพื่อนไปดูงานที่นั่น  เล่าให้ฟังว่าคนที่นั่นไม่ใส่รองเท้าแตะ ไม่คุยโทรศัพท์บนรถไฟ  เนื่องจากภูมิประเทศเป็นภูเขา  ก็เลยมีสถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์ เป็นร้อยเป็นพันสถานี  แต่ไม่ย่อมเล่าเรื่องรายการทีวีตอนดึกๆ  :D~  ระบบขนส่งรถไฟเที่ยงตรงดีมาก  คนก็ตรงเวลาพอกัน

น่าอิจฉานะครับ มีภรรยาเป็นคนญี่ปุ่น  ใครๆก็ว่าดีที่สุดในโลก  ผิดกับหญิงไทย เวลาโกรธก็ดุยังกับเสือ เวลาปกติก็ art ตัวแม่  ::005::

อะแฮ่ม อะแฮ่ม กล้าแอบนินทารึ....

ไหนลองเอาภาพมายืนยันซิ

ตกลงอ่านไปอ่านมาเรื่อง เหลือเชื่อต่างๆมันก็อยู่บ้านเรานี่เอง ::005:: ::005:: ::005::

ขอบคุณครับน้าสนธ์ ;D

ไม่ได้ถ่ายไว้ครับ ตอนนี้เธอกลับไปญี่ปุ่นแล้วด้วย  ;D

ขอบคุณครับพี่สนธ์ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง  ::014::

แล้วชีวิตในเมืองหลวงโตเกียว ต่างจากรอบนอกมากไหมครับ  :)

เคยดูหนังเรื่อง ชินจูกุ อินซีเดนท์ ของเฉิน หลงน่ะครับ แล้วเห็นพวกยากูซ่าเกลียดชาวจีนมาก
อีกทั้งตามประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นกล่าวหาว่าคนจีนเป็นขี้โรคเอเชีย (รวมทั้งเกาหลีด้วย)

ไม่ทราบว่าปัจจุบันชาวญี่ปุ่นยังคิดแบบนี้อยู่หรือเปล่าครับพี่  ::014::



เผื่อมีโอกาสได้ไปแล้วอดได้จีบสาวญี่ปุ่น  :D~

เยี่ยมเลยลูกพี่... ::002::

 ;D....... ;D........ ;D

หัวอีหยัง...?  :P

ไม่ได้ไปญี่ปุ่นหลายปี  แต่ระยะหลังนี้ ได้ยินว่า ญี่ปู่นเริ่มไม่ปลอดภัย เนื่องจากคนหลบหนีเข้า
ประเทศไปอยู่กันเยอะ และวัยรุ่นเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าว กับคนเครียดเพราะเศรษฐกิจมากขึ้น
สถิติอาชญากรรม กับการฆ่าตัวตายเพิ่มชึ้น ใช่มัยครับ

จริงๆ คนจีนก็ไม่ชอบคนญี่ปุ่นนะ จากเรื่องประวัติศาสตร์ที่นานกิง
ยิ่งคนเกาหลี ยิ่งไม่ชอบคนญี่ปุ่นมาก เพราะตามประวัติศาตร์ ญี่ปุ่นรุกรานเกาหลีไว้เยอะมาก
(ตอนนั้นเกาหลียังไม่แยกประเทศ) บางทีญี่ปุ่นจะยกทัพไปจีนก็ผ่านเกาหลี ยึดเกาหลีเป็นจุดพัก
หาเสบียงอาหารและแรงงาน พอจีนจะรุกกลัก ก็เดินทัพผ่านเกาหลีอีก เหมือนเดิม ยึดเกาหลีไว้เป็นฐาน
หาเสบียงและแรงงานไว้ใช้งานยามศึก

ยุคใหม่เมื่อสัก5-6ปีที่แล้ว คนเกาหลีและคนญี่ปุ่นกลุ่มหนึ่ง(ภายใต้การนำของรัฐบาล) ต้องการลบทิ้ง
ประวัติศาสตร์หน้าเดิมๆ ร่วมกันสร้างซีรี่ส์ประวัติศาสตร์ ถ่ายทำทั้งในเกาหลีและญี่ปุ่น (มาฉายบ้านเราด้วย)
เรื่องFriend ใช้นางเอกญี่ปุ่น (Kyoko Fukada)และพระเอกเกาหลี(Won Bin) พระนางยอดนิยมของ
ทั้งสองประเทศในยุคนั้น

(http://1.bp.blogspot.com/_0yMe9DWTWUU/SwaS56CxdmI/AAAAAAAACKU/H1iRapmmYkM/s1600/Friends.jpg)


(http://img.youtube.com/vi/Gh3lTgygR8o/0.jpg)


ไม่ทราบเหมือนกันว่าหลังจากซีรี่ส์ชุดนี้แล้วสถานการณ์สองประเทศเป็นอย่างไร

ขอบคุณมากครับพี่ อนิกิ

ผมขออนุญาตเล่าเรื่องตำรวจเพิ่มสักหน่อย ตามที่เคยติดต่อกันมาบ้างครับ

องค์กรตำรวจมีแต่ละจังหวัด Prefecture และ นครบาล มีผู้บัญชาการของตนเอง เขาแปลเป็นภาษาอังกฤษว่า Director

นอกจากนี้ มีส่วนกลางเีรียกว่า National Police Agency (NPA) มี สำนัก (Bureau) กอง (Division) ต่างๆ ที่ทำเรื่องส่วนกลาง/ข้ามชาติแบบ FBI DEA ฯลฯ รวมทั้งอาชญากรมข้ามชาติอื่นๆ และ NPA ไม่มีเครื่องแบบ

อย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างตำรวจภูธรกับ NPA นั้นซับซ้อน มีการย้ายข้ามไปมาได้โดยเฉพาะการย้ายระดับผู้บริหาร

ในแบบตำรวจญี่ปุ่น ระดับรอง จะไม่ขึ้นเป็น ผอ. โดยตรง แต่ต้องย้ายไปเป็น ผอ. ที่อื่น และอาจมีการย้ายกลับมาที่หลัง ระดับรองคุมงานมาก ระดับ ผู้ช่วยมีหลายคนแต่ไม่มีอำนาจบริหารนัก

ในการเข้าทำงานเน้นการสอบมาก สอบเข้าเป็นระดับประทวน นายร้อย หรือ ระดับนายพันโดยตรง เป็นพวก Fast track ของ NPA ปีหนึ่งรับนิดเดียวหลักสิบเท่านั้น สอบผ่านต่างกันวันเดียวเข้าไปคนละสายทำงานจนเกษียณไล่กันไม่ทัน พวกฟาสแทรกจบมาแต่ มหาลัยชั้นนำอย่างโตเกียว เกียวโต และเขาว่าต่อๆ ไปคนโตเกียวเท่านั้นจะขึ้นสูงสุดได้

ที่น่าสนใจคือ

1. เขาไม่ให้ จนท. ตำแหน่งสูงแขวนลอยเป็นปู่โสมเฝ้าเก้าอี้โดยไม่มีงานทำ พวกฟาสแทรกที่ขึ้นไม่ได้จะต้้องลาออกก่อนตอน 50 ปลายๆ (ตามธรรมเนียม)

2. เงินเดือนขึ้นกับอายุงานมากกว่า จ่าแก่ๆ ทำงานมานานเงินเดือนมากว่าระดับเทียบเท่านายพลที่เป็นฟาสแทรก เขาถือว่าความจำเป็นในการครองชีพขึ้นกับอายุ ซึ่งเกี่ยกับความรับผิดชอบต่อครอบครัว ส่วนใครเรียนเ่ก่ง มีตำแหน่งสูงก็มีอำนาจบังคับบัญชา หน้าตา่ สถานภาพอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องได้ผลประโยชน์เหนือกว่านัก

3. ตำรวจทำงานหนักกลับบ้าน 5 ทุ่มเที่ยงคืนทุกวัน

4. ขยับตัวทุกอย่างมีระเบียบคุมชัดเจน ละเอียดแบบญี่ปุ่นๆ ผมไปโตเกียงเพื่อนตำรวจพาไปกินข้าว นัดเจอ 1 ทุ่ม เขาว่า "วันนี้เที่ยวเต็มที่ เขียนหนังสือขอลาลงนามลงตราเรียบร้อย" ความหมายคือ ออกมาก่อน 1 ทุ่ม ต้องขออนุญาต และขอออกงานเร็วแค่เย็นวันเดียวต้องทำเป็นหนังสือให้ลงนามลงตราอนุมัติ และผมว่าถ้าไม่เป็นการออกมาพบ จนท. ต่างชาติ นายคงไม่อนุญาต

5. ระบบอาวุโสรุนแรง ตำแหน่งน้อยกว่ามาทำงานก่อน กลับบ้านตามระดับไหล่ คนเด็กสุดปิดที่ทำงาน ที่นี้เวลาจะกลับแต่ละคนก็ต้องทิ้งช่วงนิกหน่อย ไม่ใช่ ผอ. คล้อยหลัง รองก็ลุกทันที ดังนั้นขุั้นตอนการกลับบ้านทุกวันกินเวลานาน เด็กสุดกลับอย่างดึก เรื่องนี้พวก Coast Guard ญี่ปุ่นก็เหมือนกันครับ เรื่องเคารพกับทั่วไปไม่ต้องพูดถึง โค้งกับหายอ้วยครับ นายมาเยี่ยมเวลาขึ้นรถตามกัน ลูกน้องยืนโค้งจนรถนายเคลื่อนแล้ว ถึงวิ่งไปขึ้นรถตามหลัง

6. อาวุธปืนเบิกเมื่อมีหน้าที่เท่านั้น ไม่ให้เอากลับบ้าน (ตำรวจสิงคโปร์จ่ายปืนประจำตัว ให้เอากลับบ้านได้)

7. ห้องทำงานเล็กๆ ตามประสาญี่ปุ่น ระดับ ผอ. ซึ่งเทียบเท่าผู้บัญชาการ ห้องเล็กกว่าผู้กำกับไทย ระดับเทียบเท่าผู้กำกับ นั่งห้องรวม โต๊ะเล็กกว่าโต๊ะทำงานราชการไทยมาตรฐาน ทุกคนใช้แลปทอปส่งงานออนไลน์ ไม่มีกระดาษ เลิกงาน เก็บแลปใส่ลิ้นชักล๊อกกุญแจไม่มีกระดาษกองบนโต๊ะ

ตำรวจญี่ปุ่นไม่ใช้ตำแหน่งแบบทหาร แต่ใช้เป็นตำแหน่งแบบตำรวจฝรั่ง บนลงล่าง ดังนี้

1. Commissioner-General
2. Superintendent General
3. Superintendent Supervisor
4. Chief Superintendent
5. Senior Superintendent
6. Superintendent
7. Inspector
8. Assistant Inspector
9. Police Sergeant
10. Senior Policeman
11. Policeman

                              ขอบคุณครับน้าต๊อก

 ::014::ยินดีครับพี่ปู

เคยเจอสาวญี่ปุ่นเดินผ่ากลางวงกินข้าว  สงสัยเราดันไปนั่งขวางทางเดิน

ขอบคุณพี่ๆครับ...

อ่านแล้วอดคิดถึงเพื่อนๆชาวญี่ปุ่นไม่ได้...

                      ::005::

เคยอ่านเว็บนายทหารไปเรียนเสธฯที่ญี่ปุ่น แกบอกว่าระบบราชการของญี่ปุ่นถ้ายิ่งตำแหน่งสูงขึ้น ต้องมีการสอบประเมินการทำงานอย่างเข้มข้น

ให้โอกาสไม่เกินสามครั้ง ถ้าสอบไม่ผ่านต้องออก บางคนออกแล้วไปทำงานเอกชนต่อเค้าเรียกว่าOB(Old Boy)

ถ้าเป็นจริงตามที่นายทหารท่านนั้นกล่าวจริง ข้าราชการระดับสูงของญี่ปุ่นคงมีแต่ระดับสุดยอด

มาเทียบกับราชการไทยซึ่งขึ้นอยู่กับ ด.(เด็กใคร) ว.(วิ่งหรือเปล่า) ง.(เงินถึงมั้ย) แล้วเศร้านะครับ ::014::

พวก Fast track ของคุณต๊อก ไม่ใช่พวกมีเส้นนะครับ   แต่เป็นพวกหัวกะทิ  ที่เขาคัดเลือกกันมาตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยปี 1
อาจารย์ จะเล็งไว้  และเคี่ยวจนได้ที่   เมื่อเข้าทำงานก็จะเป็นพวก Fast track และมีแนวทางเลื่อนตำแหน่งของตัวเอง  ไม่จำเป็นต้องวิ่งเต้น  แต่ระบบงานจะดูแลให้เอง  ทำให้คนพวกนี้อุทิศเวลาทำงานได้เต็มที่

พวก Fast track อาจจะมาทำงานสาย   แต่คนพวกนี้จะกลับบ้านดึกมาก    ระบบครอบครัวแบบญี่ปุ่น ทำให้พวก Fast track ไม่มีปัญหากับครอบครัว

 ::014:: ผมก็ไม่ได้หมายความว่าีมีเส้นครับท่านผู้การ ทุกคนสอบผ่านได้มากกว่าและมีคุณสมบัติดีกว่าคนอื่นจริงๆ แต่ ตร. เขาบอกว่าในกลุ่มฟาสแทรกนี้ต่อไปสูงสุดจริงๆ เหลือแต่โตเกียว จากที่ถามถึงกลุ่มฟาสแทรกที่รู้จักกันพบว่าบางคนไปหยุดอยู่ที่ Director ของ Prefector หรือ Director ระดับสำนัก บางคนที่จบโตเกียวยังไหลไปได้ เป็นรูปแบบเองไม่ได้วิ่งเต้นครับ ทุกคนรู้กันว่าใครๆ จะไปได้แคไหน พูดถึงใครเขาบอกได้และเป็นอย่างนั้นจริงๆ

แต่ทำงานก็ห้ามพลาด เกิดเรื่องรับผิดชอบด้วยเส้นทางอนาคตจนเกษียณ ระดับผู้บัญชาการคนหนึ่งถูกย้ายไปตำแหน่งไร้ความหมายนั่งข้างหน้าต่าง เพราะตอนย้ายสำนักงานเอกสารหาย ไม่เกี่ยวกับแก แต่ในระบบญี่ปุ่นแกต้องรับผิดชอบ

..เท่าที่เคยเจอ พวกที่สอบเข้าประทวนแล้วข้ามไปเป็น Superintendent ได้ ผมเห็นคนเดียวเป็น ตร. ที่เคยไปสังกัด UNTAC ในเขมรแล้วรถโดนยิงเพื่อนตาย 1 แกรอดมาได้ทหารสวีเดนผ่านไปช่วยทันนำส่ง รพ. ฝั่งไทยครับ เลยมีประวัติพิเศษ แต่ก็คงไปได้ไม่มากกว่านี้

ผมก็เชื่อว่าคุณต๊อกรู้อยู่แล้ว  แต่เพื่อนสมาชิกอื่น ๆ น่าจะไม่ทราบ  เพราะระบบนี้มีแต่ในญี่ปุ่นเท่านั้น
พวก Fast track ไม่ได้มีแต่ตำรวจ  มีทุกหน่วยงาน  แต่เกือบทั้งหมดจะเป็นข้าราชการ  และพวก Fast track ของญี่ปุ่นนี่ละครับ ทำให้นักการเมืองเกรงใจระบบราชการ

 ::008::กินเหล้า อยู่ดึก ญี่ปุ่นไม่เคย (ไม่ต้อง) โทรบอก (ขออนุญาต) เมีย ไปงานคนอื่นเชิญก็ไม่เอาเมียไป แต่ตัวเองจัดงานวันประสูติเอมเปอเรอ วันกองทัำพ ต้องเอาเมียไปแต่งกิโมโนยืนต้อนรับตามมารยาทสากล ::005::

เพื่อนญี่ปุ่นผู้หญิงเขาว่า ผู้ชายญี่ปุ่นดูแลทางโลกนอกบ้าน ผู้หญิงดูแลทางจิต คอยเอาใจ คอยยกยอ คอยฟังผู้ชายบ่นเรื่องโดนนายด่า และคอยทำงานบ้านทำอาหารเลี้ยง :<><>

เพื่อนเขาว่าถ้าเมียตายก่อนผู้ชายส่วนมากมักเฉาตายตามไปภายในเวลา 1 ปีครับ อยู่กินเองไม่ได้ และไม่ีใครคอยดูแลด้านจิตใจ ::011::

 ::014::ครับ ผมว่าเขามีความเป็นมืออาชีพสูง ทุ่มเทตัวเองมากจริงๆ ถ้าใครอยู่ทำงานจนรถใต้ดินหยุดเดินเขามีค่าแทกซี่ให้กลับบ้าน NPA บอกครับ ไม่รู้ว่าหน่วยอื่นเป็นอย่างไร? กระทรวง กต. เขาบอกว่ามีห้องนอนไว้เลย ช่วงไหนใครมีงานมาก ทำงานจนดึก อาบน้ำนอนที่กระทรวงตื่นมาทำต่อ เป็นเรื่องปรกติ ::009::

ที่คุณต๊อก บอกว่าที่ทำงานมีค่าแท็กซี่ให้
ขออธิบายเพิ่มว่าค่าแท็กซี่ในญี่ปุ่นแพงมาก   อาจารย์ผณิศวรเคยเล่าให้ฟังว่า เครื่องดีเลย์ ต้องนั่งแท็กซี่ไปโรงแรม  คำนวณออกมาแล้ว ค่าแท็กซี่จากสนามบินไปโรงแรม แพงกว่าค่าเครื่องบินที่มาจากเมืองไทยเสียอีก

ถ้าสงสัยว่า แล้วทำไมไม่ใช้รถส่วนตัว   ข้าราชการญี่ปุ่น ถ้าทำตัวเกินฐานะ  สังคมจะแคลงใจ ออกจะดูถูกด้วยซ้ำ  ไม่เกรงใจเหมือนเมืองไทย
แม้แต่พ่อค้าเอง  ถ้าไปใช้รถยุโรปหรู ๆ   ก็เตรียมตัวถูกสรรพากรตรวจสอบได้เลย

..เข้ามาอ่านเอาความรู้ครับ.. ::002:: ::014::

เรื่องความขาวนี้สุดยอดจริงๆ ยอมรับ :D~ :D~ :D~
(http://image.ohozaa.com/it/dsc0267300.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=3691e20cae0b44fc12977ae5ce39f95c)

แต่สัญญาลักษณ์นี้ผมไม่เข้าใจเวลาถ่ายรูปต้องชูสองนิ้ว  ::013:: ::013:: ::013::
(http://image.ohozaa.com/ic/dsc0270200.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=f8450fec413a4eea9da69658b0d10a8a)

เวลาเมาก็เต็มที่กันจริงๆ..นับถือ  ::014:: ::014:: ::014::
(http://image.ohozaa.com/ie/dsc0260600.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=bba389482bf2a19168db8e8e9d02c3c2)

พอได้ที่ก็หลุดโลกลืมไปเลยว่าใครคือหัวหน้าหรือลูกน้อง  ::003:: ::003:: ::003::
(http://image.ohozaa.com/iw/dsc0262300.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=78306acf9809a9de151bf0be5e503393)

รู้นะว่าท่านประธานปาร์คคิดอะไนอยู่... ::008::

 ;)  ถ้าทำงานดึก รถไฟฟ้าหมด  บางคนไม่กลับแท็กซี่ เขาไปนอนในแคปซูลอ่ะครับ  แต่พวกผมเรียก"โลงศพ"  อิอิ ;D

 :) อ่านกระทู้นี้แล้วได้ความรู้เรื่องญี่ปุ่นอีกพะเรอเกวียนเลยครับ  :)

 ผมสงสัยว่าสาวญี่ปุ่น ทำไมต้องร้อง อิคึ  อิคึ .. （　行く…行く…　）.  ::005::

นั่นไงข้อความข้างบนงานเข้าแล้วไหมล่ะ? แซวเล่นขำขำนะครับ  ::014::

ความจริงแล้วมีคำถามที่อยากจะถามเรื่องญี่ปุ่นๆอีกเยอะ  :D~  แต่เกรงว่าจะถามในนี้ไม่ได้ครับ!!!  ;D

เห็นคนสงสัยไม่ได้คำตอบแล้วนอนไม่หลับถ้าเราหาคำตอบให้ได้...อิ อิ อิ ไม่อยากนิ่งดูดาย

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=3854.msg2420987#msg2420987 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=3854.msg2420987#msg2420987)


เครดิต แด่ท่านสมาชิก sig228-kolok

ขอบคุณครับ   ;D


ขออนุญาตถามอีก  จริงไหม  ที่สาวๆญี่ปุ่น ไม่ได้อาบน้ำทุกวัน  ???

ขออภัยที่ตอบช้าครับ  ต่างกันมากครับท่านผู้การ  ค่าครองชีพต่างกัน  ค่าแรงก็ต่างกัน  ราชการจะได้ค่าส่วนต่างเพิ่มครับ    ในโตเกียวอะไรๆก็แพงครับ  ค่าจอดรถ2-3ปี  ก็ซื้อรถใหม่ได้คันหนึงครับ

นั่นมันในหนังครับ  อย่าไปอินมากนัก  ทุกวันนี้ไม่ว่าจีนหรือญี่ปุ่น คนรุ่นใหม่ต่างๆก็ลืมอดีตกันไปเยอะแล้วหรือหมดไปแล้ว  ปีหนึงๆมีนักท่องเที่ยวจากจีนเข้ามาญี่ปุ่นหลายล้านคน  มีคนจีนอาศัยในญี่ปุ่นหลายแสนคน(คนไทยราวๆ7หมื่นคน)

มีเหตุขึ้นบ่อยครับ  แต่เมื่อเทียบประชากร  หรือเทียบบ้านเราแล้วยังห่างกันมาก  เมืองผมอาศัยอยู่ประชากร3.5หมื่นคน  ไม่มีสถานีตำรวจครับ   คนหลบหนีเข้าเมือง....เมื่อ20ปีที่แล้วคนไทยมีเป็นแสนครับ  ถามพี่เสือ  ไทเกอร์วุฒ  ดูได้   เขาก็แก้ง่ายๆด้วยเพียงแค่เอาผิดกับนายจ้างที่จ้างแรงงานผิดกฎหมาย  ถูกจับจะเสียค่าปรับแพงมาก  และให้ตำรวจท้องที่จับกุมได้  (เมื่อก่อนตม.เท่านั้นที่มีหน้าที่จับกุม)
...เรื่องความเครียด....เป็นปัญหาที่รัฐบาลปวดหัวมาก  แก้ๆอย่างไรก็ไม่ลดลง  ปีะละ3หมื่นกว่าคน  แค่ฟังก้เครียดครับ

ต้องขอขอบคุณคุณต้อกและท่านผู้การสุพินท์มากครับที่มาเพิ่มเติม...ต้องยอมรับว่าหน่วยงานของราชการเป็นองค์กรที่เข้มแข็ง  ประชาชนให้ความไว้ศรัทธามาก(เขียนแบบนี้ ไหมหว่า)  นักการเมืองเข้าไปล้วงลูกไม่ได้  และไม่เคยมีข่าวด้วยซ้ำ
มีเรื่องที่เหลือเชื่อสำหรับคนไทยอย่างหนึง  เด็กๆที่นี่มีน้อยคนมากที่จะใฝ่ฝันอยากเป็นตำรวจ-ทหาร  ลูกชายผมอยู่ชั้นป.2  ในทุกปีจะทำหนังสือทำเนียบชั้น  โดยจะให้นักเรียนเขียนลงไว้ว่าอนาคตอยากเป็นอะไร....อยากเป็นช่างไม้  ช่างก่อสร้างยังเยอะกว่าครับ
...เด็กๆที่นี่จะถูกฝึกให้รับผิดชอบ  ให้เคารพกติกาสังคม  ให้รู้จักขอโทษและขอบคุณ 
...ในโรงเรียนห้ามเอาของเล่นไปด้วยเด็ดขาด  ในโรงเรียนไม่มีของขาย  จนป่านนี้ลูกชายผมยังไม่เคยไปซื้อของเอง  ถึงให้ไปซื้อก้ไม่มีร้านไหนขายให้ครับ...แกจึงไม่รู้ค่าของเงินคือใช้เงินไม่เป็น  อยากได้อะไรก็จะมาขอ...โดยกำหนดไว้แล้วว่า1เดือนจะซื้อได้กี่ชิ้น.
เด็กไปโรงเรียนจะเดินกันไปเป็นกลุ่มๆ1-2โลนี่เดินได้สบายมาก..มีด็กม.ปลายที่ใกล้บ้านต้องปั่นจักรยานไปโรงเรียน เที่ยวละ8กม.  สุดยอดครับ.

ขอบคุณครับพี่ อนิกิ ขอคุยต่อละกันครับ ผมก็ไม่ได้มีประสบการณ์แบบไปอยู่ที่โน่นระยะยาว แต่เคยทำงานกับเขาบ้าง

พวกตำรวจ ผมถามบางคนว่าอยากเป็น ตร. แต่เด็กๆ หรือเปล่า ไม่ได้ถามพวกฟาสแทรกนะครับ คำตอบที่ได้คือ

1. ตอนนั้นทำงานอยู่โรงงานที่อยุธยานี่แหละ แม่อยากให้เป็นข้าราชการเลยให้สมัคร ลาออกจากบริษัทกลับไปเป็น ตร. (โอ้ว ชวนป๋วยจริงหนอ)

2. ตอนนั้นช่วง 80 เศรษฐกิจ ธุรกิจบูม คนสมัคร ตร. น้อย เลยไปลองดู

3. โดนเลย์ออฟจากบริษัท เป็นตำรวจเหนื่อย แถม (ร่างกาย) สกปรก

ผมถามอีกว่าเด็กทั่วไปอยากเป็นตำรวจหรือทหารมากกว่ากัน? เขาบอกว่าไม่ค่อยอยากเป็นทั้งสองอย่าง แต่คนหนึ่งเขาว่าทหารระดับเดียวกันเงินเดือนมากกว่าตำรวจครับ แกเน้นเสียงว่า เพราะทหารต้องโพรเทคประเทศ ! (จนตัวตาย..)

อย่างไรก็ตามตำรวจเขาตั้งใจทำงานกันดีทั้งนั้น และถ้าทำผิดกฎหมายแม้ไม่ร้ายแรงเช่น กฎจราจร ตำรวจจะโดนหนักกว่าประชาชน

เรื่องความปลอดภัน อิ อิ เท่าที่เคยเห็นที่อังกฤษคนญี่ปุ่นจะโดนล้วงกระเป๋า วิ่งราว ฯลฯ มากกว่าชาติอื่น เพราะในบ้านปลอดภัย ไม่มีนิสัยคอยระวังตัว

เรื่องในโรงเรียนญี่ปุ่น

รุ่นน้องคนหนึ่งไปเรียนญี่ปุ่นตั้งแต่มัธยม

ที่โรงเรียนนั้นนักเรียนจะหิ้วกล่องอาหารกลางวันมากินเอง ของแต่ละคนก็ทำมาดีๆ ดูสวยงามโดยฝีมือแม่บ้านญี่ปุ่น แต่ตานี่ (ให้ชื่อสมมติว่าแจ๊ก) เป็นเด็กผู้ชายอยู่คนเดียงก็ทำข้าวกล่องมาอย่างเซ็ง หน้าตาน่าเกลียด (วัยรุ่นชายทำกับข้าวให้สุกได้ก็เก่งแล้ว ฮ่า ฮ่า)

วันหนึ่งเพื่อนเด็กญี่ปุ่นมาเห็น "เอ้อ นี่ข้าวกล่องของนายเหรอ"

โนบิตะ เอ๊ย ตาแจ๊ก "เออสิ" (สีหน้าไม่รู้ไม่ชี้)

วันต่อมาตอนเที่ยงเพื่อนคนนั้นมาหาตาแจ๊ก "ี่นี่แน่ แม่เราทำข้าวกล่องมาฝากนาย"

ตาแจ๊ก "โอ้ ขอบคุณหลายๆ..."

แล้วแม่เด็กญี่ปุ่นคนนี้ก็เอาเรื่องไปประชุมสมาคมผู้ปกครอง...

"อาโหน่ๆ ลูกชายของดิฉันมีเพื่อนในห้องเป็นเด็กคนไทย เขาอยู่คนเดียวต้องทำกับข้าวเองทุกวัน เด็กผู้ชายทำอาหารไม่เก่งท่าทางลำบาก เรามาคิดช่วยเขากันเถอะ"

ที่ประชุมสมาคมผู้ปกครองมีมติให้แม่บ้านแต่ละคนผลัดเวรทำข้าวกล่องมาให้ไอ้ เอ๊ย ตาแจ๊ก ทุกวัน

คุณแจ๊ก ก็สบายอิ่มเอมเปรมปรีย์สิครับ ได้ข้าวกล่องฟรีทุกวัน แถมป๊อปปูล่าเพื่อนฝูงในโรงเรียนรู้จักหมด เพราะผลัดเวรกันหิ้วข้างกล่องมาส่งให้ และแม่บ้านแต่ละคนคงตั้งใจทำข้าวกล่องให้ตาแจ๊กดีพิเศษด้วย จะได้ไม่น้อยหน้าข้าวกล่องบ้านอื่น

...ตาแจ๊กได้กินข้าวกล่องฟรีเป็นเวลา 1 ปี เต็ม แต่แล้วโครงการ รวมใจข้าวกล่องสวยก็สะดุดหยุดลงเพราะการแทรกแซงของอาจารย์ใหญ่

"เอ้อ คุณแม่ทุกท่านครับ กระผมขอเรียนพวกท่านให้พิจารณาหยุดส่งข้าวกล่องให้นายแจ๊กนักเรียนไทยเถิดครับ เพราะว่าโรงเรียนของเรายังมีนักเรียนต่างชาติอีกหลายน ถ้าเป็นอย่างนี้นักเรียนคนอื่นอาจจะรู้สึกน้อยใจนะครับ"

บัดนี้ตาแจ๊กเรียนจบมหาลัยกลับมาทำงานเมืองไทย ผมบอกพรรคพวกว่า

"ถ้าไอ้แจ๊กทำงานกับญี่ปุ่นต้องระวังให้ดีนะ เดี๋ยวญี่ปุ่นส่งคนที่เคยทำข้าวกล่องให้มันมาเจรจาด้วยแล้วจะเสียท่าเขา ฮ่า ฮ่า ฮ่า"




 

ผมเคยเจอข้อมูลหนึ่งครับ เขาว่าคนญี่ปุ่นเที่ยวเมืองนอก มาเมืองไทยเป็นอันดับ 4 โดย 3 อันดับแรกคือ เกาหลี จีน เมกา

ความเขี้ยวของญี่ปุ่นบ้างครับ

เคยเจอคนนึงเค็มมาก ไปทริปประเทศรอบบ้านโครงการความร่วมมือซึ่งในการเดินทางต่างประเทศทางญี่ปุ่นต้องจ่ายหมด พอเสร็จงานตานี่ให้แชร์ค่ารถจากสนามบิน ไปกลับโรงแรมสองเที่ยวรวม 2 ดอลฯ...

เหรอ ไหนตามหลักการบอกว่าออกให้หมด ไม่ได้ตั้งงบไทนมา จ่ายเอง 70 บาท ไม่เดือดร้อนหรอก อือม์ แต่แค่นี้ไม่มีปัญญาคิดรวมอยู่ในงบประมาณก็อย่าริอ่านทำงานใหญ่ระดับหลายชาติเลยวะ...  ผมคุยกับคนที่ดูโครงการสำนักงานมันเพราะอยากให้รู้ (ไม่ใช่ตำรวจญี่ปุ่นนะครับ) เขาขอโทษแล้วครั้งต่อไปให้ตานี่คิดรวมในงบ.. ::005::

เพื่อนผมกระทรวงอื่นไปเจรจาที่ญี่ปุ่น พี่แกจับไปอยู่โรงแรมนอกเมือง คุยต่อรองกันเช้ายันดึก ต่อเนื่องหลายวันไม่หยุดไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน แกล้งกดดันไม่มีเวลาพัก ต้องให้เราขอเบรก ขอพักเข้าห้องน้ำเอง ฝ่ายญี่ปุ่นใครเหนื่อยก็เปลีี่ยนคนใหม่มาโซ้ยกับเราต่อ ข้างเราคนเดียว ไม่มีตัวช่วย แถมญี่ปุ่นมันเอ็ดตะโรด่าลูกน้องมันเองข่มขวัญเป็นช่วงๆ ซะอีก ::006::  

แหม....คุณต๊อกตลกรัฐศาสตร์เลยนะนั่น.....
ว่าแต่คุณอนิกิ พอเล่าเรื่องการปกครองส่วนท้องถิ่นระดับจังหวัดของเขาให้ฟังหน่อยได้ไหม

อิ อิ ญี่ปุ่นการข่าวดีครับท่านซับ ต้องลดความเสียเปรียบในสงครามจิตวิทยาหน่อย อิ อิ

ได้ที่ขอเอาวาระนี้ตามหาเพื่อนเลยครับ...ชื่อศุภฤกษ์ รักษ์เดช ไปเรียนที่ญี่ปุ่นตั้งแต่ ม.4 แล้วเข้าเรียนมหลัยที่โน้น แต่จำไม่ได้ว่าโตเกียว หรือ เกียวโต ขาดการติดต่อมาเกือย 20 ปีแล้วครับ ขอบคุณมากครับ ::014:: ::014::
....วีระกรรมที่ทำไว้ตอนเรียนที่ รร.อนุบาลสุพรรณบุรีด้วยกันคือ หลอกให้ครูจับไฟเย็นจนมือพอง ::012:: ::012::

ญี่ปุ่นชอบเจรจาในบ้าน รบในบ้านตลอดครับ

อย่างน้อยไม่ใช่คนนี้ครับคุณหนุ่ม ตานี่เรียนตรีญี่ปุ่น แล้วไปต่อเยอรมัน เพิ่งจบมาทำงานปีเดียว อายุยี่สิบกลาง

งานนั้นล่อให้เข้าบ้านเขาครับ คนไปก็กระหยิ่มใจ กลางวันทำงาน ตอนเย็นเดินชอปปิ้ง ชมเมือง กลับต้องนั่งด่า เอ้อ เจรจากันดึกดื่น สลบขึ้นห้อง ตื่นมาลุยต่อ แถมอยู่โรงแรมปล่อยเกาะวิวหน้าต่างยังไม่มีอะไรจะดู

ขอบคุณมากครับ....หากันต่อไปครับ

อิๆ.....รู้แต่เหล้าญี่ปุ่นอย่างเดียว....เพราะทํางานกับญี่ปุ่นอยู่4ปี....นายที่เป็นญี่ปุ่นลากไปกินข้าวเย็นแถวทองหล่อเกือบทุกคืน......

ครบเทอม3ปี....คนเก่ากลับ..คนใหม่มาก็เหมือนเดิม.......

กินข้าวเย็น......แต่เมาแอ๋กลับบ้านทุกครั้ง.....เริ่มด้วยเบียร์....ตามด้วยสาเก ร้อนและเย็น...ตบด้วยโชวจิวใส่บ๊วย.....

ถึงสาเกร้อน....สติก็หายไปเกินครึ่งแล้ว.....


อ้อ.....อีกอย่างที่ผมจําแม่น....พวกนี้เวลาเมา....ลามกทั้งคู่

ขอบคุณมากครับคุณต้อก...ฮามากเลยครับ  เสียดายผมไม่โชคดีแบบนั้น  มีแต่คนมาทำปิ่นโตให้ที่บ้านเลย  แถมต้องรับเลี้ยงเธอและลูกเพิ่มภาระไปอีก....เฮ้อ....
...เรื่องการเมืองท้องถิ่น...ไม่ทราบจริงๆครับคุณซับ  รู้แต่เพียงว่า  สมาชิกอำเภอ  นายอำเภอ  ผู้ว่า.ล้วนมาจากการเลือกตั้ง  4ปีครั้ง  ผมได้วีซ่าถาวรแต่ยังถือสัญชาติไทยเลยไม่ได้บัตรไปเลือกตั้ง  รู้แต่ว่านักการเมืองเขาซื่อสัตย์มาก  ผมได้รู้จักนายอำเภอข้างๆกัน  แกยังเช่าบ้านอยู่ครับ  จริงๆแล้วแกเช่าอยู่มานานแล้วครับ.

จริงครับยืนยัน...หลังเลิกงานชอบเมา  แล้วลามก  ทั้งหนุ่มทั้งสาว  ดึกๆดูได้ตามสถานีรถไฟ  สาวๆเมาจนรองเท้าหาย  แต่มีอีกจำพวกหนึง...ทำแต่งาน  ไม่สนใจเรื่องลามกหรืออะไรทั้งสิ้น   

              ขอบคุณทุกความเห็นครับ .... อ่านแล้วรู้สึกมีความสุขครับ

ตามมาอ่านกระทู้ลูกพี่ ครับ ::002::
จะ+1 ให้เรื่อยนะครับลูกพี่......... ::014::

ผมชอบเกมส์โชว์ของญี่ปุ่นมาก
อย่างโหดมันฮา เกมส์ซ่าส์ท้ากึ๋น ทีวีแชมป์เปี้ยน เกมส์หินพลังนินจา
ดูๆไปบ้านเค้ามีหลายที่เปิดโอกาศให้แสดงความสามารถ
เด็กหรือผู้ใหญ่ พ่อแม่ลูก ก็มาแข่งเกมส์ร่วมกันได้
ไม่เหมือนบ้านเรา เปิดไปช่องไหน
เจอแต่ประกวดร้องเพลง มอมเมาวัยรุ่น เซ็งจริงๆ

โอ ใช้จิตวิทยาเยอะจัง กะไม่ให้เกิดการผ่อนคลายไม่ว่าทางใดๆเลย
เขาว่าบางที วิว ทิวทัศน์สามารถลดความเครียดได้
ปกติวิธีนี้ไม่ให้เกิดความผ่อนคลาย เขาใช้กับพวกสายลับ จารชนฝ่ายตรงข้าม
หากถูกจับได้จะเอามารีดความจริง จะทอนศักยภาพด้านความอดทนอดกลั้นด้วยวิธีนี้

เกมส์ซ่าท้ากึ๋น ดูบันนี่สาวที่วิ่งมาวิ่งไปหรือเปล่าครับ  ;D ;D ;D

ว่าไปแต่งหวือนะ แต่การแสดงออกดูเป็นธรรมชาติ เลยดูดี ไม่เน้นการแอคติ้ง
ทางด้านเซ็กซี่ แต่แต่งเซ็กซี่

ที่ได้ยิน/เห็นมากรณีนั้นโหดสุดครับ ทั่วไปที่เจอมาต้อนรับดีมาก แนวเอเซียต้อนรับดีกว่าฝรั่ง ส่งคนไปรับที่สนามบินทั้งนั้น ญี่ปุ่นจะเลี้ยงรับ เลี้ยงส่ง มีผู้ใหญ่มา วันอื่นๆ พวกที่เคยทำงานก็จะจัดโปรแกรมให้ :VOV:

ญี่ปุ่นทำงานถี่ถ้วน เมื่อเราถึงที่สนามบินชะเง้อดูป้ายชื่อ ญี่ปุ่นคนมารับเดินมาทักแล้วครับ ทั้งที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ถามว่ารู็จักเราได้ไง เขาควักรูปคนในคณะให้ดูเป็นปึก รูปที่ถ่ายกันเล่นตอนปาร์ตี้ในเมืองไทยนี่แหละครับ ทางนี้ส่งไปให้ไว้หมดแล้ว ไม่แน่อาจจัดเป็นแฟ้มบุคคลไว้ลับๆ ::005::

..ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาคบเพื่อเอาแต่งานนะครับ ถ้าคนไหนสนิทเป็นเพื่อนกันแล้วจริงใจดีมากๆ และเขารักษาน้ำใจกันดีมากครับ สรุปว่า เป็นเพื่อนที่ดี เป็นคู่แข่งที่ร้าย อิ อิ :VOV: ::012::

ตอนไปญี่ปุ่น..ได้ฟังคนญี่ปุ่นพูดกันเขาบอกว่าอยากมาทำงานที่เมืองไทยกันมาก คนที่เคยมาแล้วก็จะเล่าเรื่องโน้นเล่าเรื่องนี้ให้คนที่ยังไม่เคยมาฟัง...โดยเฉพาะเรื่อง Massage นี้ชอบที่สุด เขาบอกว่าหมอไทยนี้จับเส้นได้ดีจริงๆ ::006:: ::006:: ::006::

เอ้อ เขาว่าหมอญี่ปุ่นทำงานตามคิวครับ คนไข้เลือกหมอไม่ได้

แต่อยากมาเมืองไทนนี่แน่นอนครับ แย่งกันมาแทบตาย ความเป็นอยู่สบายกวส่าอย่างแรง โทรมือถือเรียก โชเฟอร์ขับรถมารอหน้าตึก อยู่ญี่ปุ่นโหนแล้วโหนอีก ผมยังจำคำคนหนึ่งได้แกพูดไทยด้วย "ต๊อกจัง คนญี่ปุ่นยืนหลับในรถไฟได้ทุกคน ถึงบ้านแล้วตื่นเอง"

นึกถึงเรื่องที่รุ่นน้องเล่าให้ฟัง เหตุการณ์ปีที่แล้วนี้เองครับ

เขาเรียนที่ออกซ์ฟอร์ด ในชั้นมี ซาลารี่แมนญี่ปุ่นคนหนึ่ง ทำงาน โตเกียว มิซูบิชิ แบ๊งค์ ระดับครีมจบโตเกียวมา แกไม่เคยคิดเรื่องไปเรียนเมืองฝรั่งอะไร วันหนึ่งบริษัมสั่งให้ไปเรียนแกก็ไปเรียน มีเมียกับลูกชายเล็กๆ อีก 1 คน ไปอยู่ด้วย..

ภาษาอังกฤษแกไม่เก่งนัก เรียน ม.ชั้นนำนักเรียนถกกันตลอดแกลำบากมาก แต่แกก็ใช้ความอึดเข้าสู้ อ่านหนังสือดึกทุกวัน

ผมเรียนโทที่น๊อตติงแฮม ชั้นเรียนเป็นเลกเชอร์กึ่งคุย สลับกับสัมมนาซึ่งต้องมีคนไปเตรียมเรื่องมานำเสนแแล้วคนอื่นถก อาจารย์เป็นคนชี้และแนะนำ เสริมเนื้อหา/ข้อคิด

..ที่ออกซ์ฟอร์ดโหดกว่าอีกครับ มีการชี้ให้นำเสนอโดยไม่รู้หัวข้อมาก่อน คราวญี่ปุ่นโดน แกนำเสนอมี Power Point เรียบร้อย เนื้อหาแน่น ระละเอียดตรึม บทวิเคราะห์เข้มข้น หลังเรียนเพื่อนถามว่าแกรู้หัวข้อได้ยังไงถึงเตรียมมา แกว่า ไม่รู้หรอก แต่แกเตรียมไว้ก่อนแล้วทุกหัวข้อ (โอ้ มายบูชิโด) แกอ่านหนังสือ "เตรียมการเรียน" ตีสองทุกคืน

คราวหนึ่งแกจัดปาร์ตี้ที่แฟลต (อังกฤษเรียกห้องชุดว่าแฟลตหมดครับ จะหรูขนาดร้อยล้านก็เรียกแฟลต) แต่ตัวเองติดธุระไปถึงบ้านช้าหน่อย บอกให้เพื่อนในั้นไปที่แฟลตเลย เมียแกรอรับอยู่แล้ว

สองคนแรกที่ไปถึง เป็นอังกฤษกับแขกอินเดีย วันนั้นฝนตกนิดหน่อย สองเกลอตัวเปียกเล็กน้อย เปิดประตูเข้าไปเจอเมียญี่ปุ่นนั่งคุกเข้ารออยู่

อังกฤษตะลึงครับ Culture shock ไม่เคยเห็นคนนั่งคุกเข่าต่อหน้า สมัยนี้ฝรั่งสิทธิเท่าเทียมครอดๆ ผู้หญิงยุโรปหลายชาติเป็นนายกฯ เป็น รมต. กลาโหม อังกฤษมีนักบินหญิงขับอปาเช่ไปรบในอัฟกานิสถาน ฯลฯ

ฝ่ายเมียญี่ปุ่นเห็นเพื่อนสามีหัวเปียกก็ลลุกขึ้นวิ่งดุ๊บๆ หายไป กลับมาพร้อมกับผ้าเช็ดตัว คุกเขาเหมือนเดิมแล้วยกผ้าเทินขึ้นให้เหนือหัวตัวเอง ตามองพื้น

อังกฤษ "What!! What the... Why is she on her knees like this?!!!"

แขก "Just pick it up man !"

สามีญี่ปุ่นและเพื่อนๆ ก็ทยอยกันมาบ้าน เมียญี่ปุ่นก็บริการอย่างเดียวไม่นั่งร่วมโต๊ะด้วย จนกระทั้งรุ่นน้องผมที่เป็นผู้หญิงมานั่นละครับ แกถึงมานั่งด้วยเป็นเพื่อน

พอจะจบชั้นต้องกลับบ้านลูกร้องไห้ครับ อยู่อังกฤษเห็นหน้าพ่อทุกวัน ที่ญี่ปุ่นวันทำงานพ่อออกไปทำงานก่อนตื่น กลับหลังลูกหลับ

ขอบคุณมากครับคุณต้อก เอาอีกๆๆ เล่าได้เห็นภาพเลย ;D  ผมโชคดีที่ได้เป็นกรรมกร ;D  ไม่ได้กลับบ้านดึก  แถมเมียคุกเข่ารับไม่เป็นอีก :~)

 ::014::โอ้ว ใครๆ ทั้งโลกเขาอิจฉาชายที่มีภรรยาญี่ปุ่นไม่ใช่หรือครับพี่? แบบว่าภรรยาญี่ปุ่น บ้านฝรั่ง รถเยอรมัน อาหารจีน ที่เขาชอบพูดกัน ::008::

ผมเคยได้ยินว่าตามธรรมเนียมแล้ว ภรรยามีหน้าที่ดูแลบ้านโดยสามีหาเลี้ยง สามีจึงต้องมอบซองเงินเดือนให้ภรรยาโดยไม่เปิดก่อนเลยด้วยซ้ำ สมัยนี้สามีส่วนใหญ่เขายังทำกันอยู่หรือเปล่าครับ? อาจต้องให้ภรรยาถือ ATM บัญชีเงินเดือนแทน ::002::

 ::014::เดี๋ยวผมขอนึกก่อนครับ ผมเคยเช่าบ้านอยู่กับเพื่อนนักเรียน ชายเยอรมัน 1 คน ผู้หญิงญี่ปุ่น 2 คน (ทั้งสองคนมีแฟนฝรั่ง) มีเรื่องน่าสนใจเหมือนกันครับ :D~

โอ้..... เห็นภาพเลยครับ

 :D~ :D~ :D~  ...มานั้งรอคนแรกเลยครับ... :D~ :D~ :D~

::005:: ว่าแต่พี่สนธ์จะตอบยังไงครับเนี่ย ::005::

ไม่ต้องตอบครับ......นิ่งๆไว้ไม่มีใครรู้หรอก....

แต่บอกให้สบายใจก่อนว่า.......เพื่อนผมหลายคน.....กดเอทีเอ็มไม่เป็น....เบิกงานที่ธนาคารก็ไม่เป็น.....ทุกอย่างมีคนทําให้หมด..

สบายจะตาย...เช้าๆขึ้นมา.....ก็มีคนเอาเงินมาวางไว้ที่กระเป๋า200บาท.......นี่ก็สบายอีก.....ไม่ต้องอยากได้อยากมีอะไร.....

แค่คิดแต่ว่า....200บาทวันนี้ตูจะใช้ยังไงดี.......ไม่กลุ้ม....ไม่มีเรื่องให้คิดมาก....



อีกไม่นาน.....น้องDonก็มาเข้าสมาคมละ.......ยินดีต้อนรับครับ

กดเอทีเอ็มไม่เป็น....เบิกงานที่ธนาคารก็ไม่เป็น.....ทุกอย่างมีคนทําให้หมด..

สบายจะตาย...เช้าๆขึ้นมา.....ก็มีคนเอาเงินมาวางไว้ที่กระเป๋า200บาท.......นี่ก็สบายอีก.....ไม่ต้องอยากได้อยากมีอะไร.....

แค่คิดแต่ว่า....200บาทวันนี้ตูจะใช้ยังไงดี.......ไม่กลุ้ม....ไม่มีเรื่องให้คิดมาก....

๕๕๕

โหย....  :~)


เวปลิงค์ (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th) (http://bp2.blogger.com/_1NO55IM51Jo/R48uwDxNQ-I/AAAAAAAAAGE/46ak9JfRTik/s400/relax0002.gif)

lat=12.6819766386, lon=101.275454466  (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th)




http://urbany.multiply.com/ (http://urbany.multiply.com/)

ใช้อะไรตั้ง 200 ครับ ผมแค่วันละ 25 บาท บุหรี่ 3 ตัว กาแฟไปชงกินตอนเช้าที่ทำงาน เดือน ๆ เงินเก็บเพียบเลยครับ :~)
วันไหนมีเลี้ยงข้าวกลางวันก็ไม่ต้องใช้เงิน สบายจะตายไป :~)
อยากได้อะไรก็สะกิดบอกเอาว่า เขาอยากได้อะ :~)

 ::007:: ::007:: ::007::

เงินเดือนทั้งสองคนผมเป็นคนเก็บครับ  ::008::

  กระทู้นี้สนุกดีครับ  ......  อ่านตั้งแต่ต้น 

ที่สงสัยคือทำไมพี่ทรัพย์  ติดใจกระทู้นี้นัก  ....  อิอิอิ 

คุณต๊อกต้องลองใหม่ครับ หาเมียเยอรมัน รถจีน บ้านญี่ปุ่น อาหาร(ประจำวัน)ฝรั่งดู  ::005::

ขอบคุณมากครับคุณต้อก...อย่างฮาเลย ในสถานการแบบนี้เอาเรื่องเบาๆมาคุยดีกว่า....
ใช่ครับ..เงินเดือนออกต้องเอาซองเงินให้เมียครับ  เราจะได้เท่าไหร่แล้วแต่เธอจะกรุณา(ฮา)....เป็นแบบนี้แทบทุกบ้านครับ  ยกเว้นชายโสด+
สำหรับผม  เมียญี่ปุ่น  บ้านแม่ยาย  รถฝรั่ง(ให้เมียขับ)  รถเจ้าของของญี่ปุ่นมิร่า  คันเล็กๆ(คันใหญ่ๆเมียบอกว่าเปลือง) :~)
เงินไม่ค่อยได้ถือ  เมียให้บัตรเครดิตมาใบหนึง  บอกว่า  ใช้บัตรตามรอยได้ง่ายกว่าเงินสด :OO
เมียเคยคิดทำอาหารไทย....ทีแรกทำส้มตำมะละกอ  แต่หล่อนขูดแบบไม่ปลอกเปลือก....พอเราบอก...เธอก็เถียง...ทีตำแตงตำหัวแครอท  ไม่เห็นปลอกเปลือกเลย  จ้ากกกกก :~)
....ในญี่ปุ่นมีอีกเรื่องหนึงที่เราไม่รู้คือ  วัฒนธรรมการอาบน้ำร่วมกัน  ทุกวันนี้ผม3คนพ่อแม่ลูกยังอาบน้ำด้วยกันเสมอ
หลายๆครอบครัว  อาบด้วยกันจนลูกโตเป็นหนุ่มเป็นสาวเลยทีเดียว ::002::
ทำให้ผมติดโรคนี้เมื่อไปเมืองไทย ต้องหาคนมาอาบน้ำด้วยทุกครั้งอิอิอิ ::010::

ทำให้ผมติดโรคนี้เมื่อไปเมืองไทย ต้องหาคนมาอาบน้ำด้วยทุกครั้งอิอิอิ  


นี่ถือได้ว่า เป็นข้ออ้าง หรือ ข้อแก้ตัวครับ พี่ สน......

ที่ผมเห็น ชูสองนิ้ว  ก็คงจะประมาณนี้ หรือเปล่าครับ ....    ::005::



เวปลิงค์ (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th) (http://bp2.blogger.com/_1NO55IM51Jo/R48uwDxNQ-I/AAAAAAAAAGE/46ak9JfRTik/s400/relax0002.gif)

lat=12.6819766386, lon=101.275454466  (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th)




http://urbany.multiply.com/ (http://urbany.multiply.com/)

5555.....เดี๋ยวผมจะไปบอกภรรยาเพื่อนครับว่า200มากไป......555555

เกลียดคนรู้ทันอิอิอิ

ตาสนธ์ ซีอุส  ชีวิตมีความสุขดีไหม   ;D ;D ;D

ตราบเท่าที่ .......  กระมั่งครับ พี่ ซับ    ::007::
 




 เวปลิงค์ (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th) (http://bp2.blogger.com/_1NO55IM51Jo/R48uwDxNQ-I/AAAAAAAAAGE/46ak9JfRTik/s400/relax0002.gif)

 lat=12.6819766386, lon=101.275454466  (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th)


 http://urbany.multiply.com/ (http://urbany.multiply.com/)

อีกโรคที่พี่สนธ์เป็นคือนอนคนเดียวไม่ได้ครับ ต้องมีคนนอนเป็นเพื่อน ::005::

ช่าย ๆ พี่ 200 มันมากไป ผมประเภทหมาหางด้วนไม่ยอมด้วนคนเดียวหรอก ;D

พี่ซับก๊าบบ ผมสนเฉย ๆ ครับ ถ้าสนธ์นะพี่aniki :D
สุขสบายตามสมควรแก่ฐานะ และสถานภาพทางสัมคมของทาส เอ๊ยสามีครับ :~)

::006:: แต่เมียผมใจดีน่า พี่ ไม่เชื่อถามคนที่เคยเจอเมียผมก็ได้ :~)
ไม่เอาละ ฟังพี่สนธ์กับพี่ดอนว่ากันต่อดีกว่า ::014::

เพิ่มเติมนิดหน่อยนะครับ
ที่เกาหลีเกลียดญี่ปุ่นเพราะญี่ปุ่นได้ฆ่าราชินีของเกาหลีด้วยครับ เพื่อผมที่เป็นคนเกาหลีเล่าให้ฟัง

รออะไรมั้งครับคุณรู..
ช่วงนี้หน้าหนาว  เป็นเหลือเชื่อที่มีคนพื้นเมืองบางกลุ่มไม่กลัวหนาว
(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=F018_4B7FD934) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=F018_4B7FD934)

(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=F351_4B7FD934) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=F351_4B7FD934)
หนาวแค่ไหนก็บ่ยั่น

(http://www.khonkaenlink.info/share/thumb.php?id=4A4B_4B7FD934) (http://www.khonkaenlink.info/share/share.php?id=4A4B_4B7FD934)
และร้อนแค่ไหนก็ไม่สน  ว่าผิวจะเสียผิวจะไหม้

ไม่ชัด น่ะครับ พี่ สน

ทางหลังบ้านก็ได้ครับ

( เฮ้อ )........



เวปลิงค์ (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th) (http://bp2.blogger.com/_1NO55IM51Jo/R48uwDxNQ-I/AAAAAAAAAGE/46ak9JfRTik/s400/relax0002.gif)

lat=12.6819766386, lon=101.275454466  (http://freshbakery.tarad.com/product_596107_th)




http://urbany.multiply.com/ (http://urbany.multiply.com/)

สาวญี่ปุ่นนี่ขาโตจัง :o

                        ฐานรากแข็งแรงครับ  มีระบบป้องกันแผ่นดินไหวด้วย  ....  อิ อิ ไทยเราไม่มีนะน้า

เพื่อนนักเรียนหญิงญี่ปุ่นคนหนึ่งที่เช่าบ่้านอยู่ด้วยกันนั้นเป็น "เด็กวัด" ครับ

ครอบครัวเขาเป็นพระ เป็นนิกายที่พระแต่งงานได้ และผู้สืบตระกูลชายเป็นพระสืบเนื่องกันมา

เรื่องศาสนาความเชื่อญี่ปุ่นผมไม่ได้สนใจพิเศษ ดังนั้นข้อมูลต่างๆ นี้คือที่ได้ยินมาจากเพื่อนเล่าให้ฟังนะครับ ขอให้รอผู้รู้จริงมาอธิบายหรือแก้ไขเพิ่มเติม

เพื่อนเขาว่าพุทธในญี่ปุ่นมีหลายรูปแบบ นิกายของบ้านคนนี้พระแต่งงานได้ จะเป็นที่รู้กันว่าบ้านไหนที่ถือนิกายนี้ขึ้นกับวัดนี้ มีงานทางศาสนา เช่น งานศพก็จะนิมนต์หลวงพ่อวัดนี้มาสวดเท่านั้น ญี่ปุ่นคนอื่นบอกว่าพวกบ้านเป็นวัดนี่รายได้ดีเพราะซองถวายพระนี้เขาใส่กันไม่ใช่น้อย

บ้านวัดของคนนี้อยู่ที่ฟุกูโอกะ ปู่เขาเป็นหลวงพ่ออยู่ พ่อเป็น อ.มหาลัยฟุกูโอกะสอนวรรณคดีอังกฤษ ตัวลูกก็เรียนวรรณคดีอังกฤษเหมือนกัน จบโทที่ญี่ปุ่นแล้ว แต่ไหนๆ เรียนวิชานี้ก็เลยมาเรียนที่อังกฤษสักหน่อยทำวิทยานิพจน์เรื่องกวี เวิธเวิร์ด พ่อแกสอนวรรณคดีอังกฤษแล้วก็เลยมีรสนิยมอังกฤษเข้าเนื้อ ใช้รถจากัวร์ แถมชอบกิน เบกบีน (Bake bean) คือถั่วอบซอสมะเขือเทศที่คนอังกฤษกินกับแฮม ไส้กรอก และไข่ดาว เจ้า เบกบีนนี้เละๆ เปรี้ยวหวาน ฝรั่งชาติอื่นยังไม่ชอบ คนไทยส่วนมากเกลียดกัน ที่ผมรู้ว่าพ่อแกชอบบริโภคอังกฤษขนาดชอบกิน เบกบีน นี้เพราะครั้งหนึ่งคนนี้แกซื้อ เบกบีน กระป๋องมาโหลนึงแล้วส่งแอร์เมล์กลับไปบ้าน (เว่อร์ซะ)

เขาว่าพ่อที่เป็น อ. ไม่ยอมเป็นพระสืบตระกูลเพราะชอบเป็น อ. แถมการเป็นพระต้องเตรียมตัวอยู่ที่วัดตลอด ถ้ามีชาวบ้านนิมนต์หลวงพ่อต้องไปได้ทันที ไปเที่ยวไหนไม่ได้  วัดนี้จึงต้องรับพระฝึกใหม่นอกตระกูลมารับเข้าตระกูล ใช้นายสกุลขอลตัวเพื่อเป็นพระสืบต่อไปครับ

พุทธนิกายนี้ปฏิบัติง่ายมาก เพื่อนผมซึ่งเป็นแนวคุณหนูสนใจแฟชั่นมากกว่าความเชื่อเหนือโลกบอกว่า แค่สวดมนต์ก็ขึ้นสวรรค์แล้ว...

นอกจากพุทธนิกายต่างๆ แล้ว เพื่อนญี่ปุ่นอีกคนบอกว่า ชินโต นั้นต่างอกไปจากพุทธเลย เป็นความเชื่อสำหรับคนญี่ปุ่นเท่านั้น ไม่ใช่ญี่ปุ่นนับถือชินโตไม่ได้ และผู้นำสูงสุดของชินโตคือพระจักรพรรดิญี่ปุ่นครับ

...คนญี่ปุ่นเดินเยอะครับ  :D

เพื่อนญี่ปุ่นอีกคนมาจากเมือง นาโกย่า เป็นแนวสมัยใหม่หัวก้าวหน้า เป็นสมาชิกองค์กรนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ไม่เห็นด้วยกับโทษประหาร ต่อต้านการล่าปลาวาฬ ฯลฯ ทำนองนี้ แต่บุคลิกโดยทั่วไปก็ธรรมดา ไม่ได้แต่งแฟชั่น NGO หรือชอบขัดคอนายทุน จักรวรรดิ และพวกทำลายดาวเคราะห์โลกคนอื่นๆ คนนี้เรียนรัฐศาสตร์ชั้นเดียวกับผมและมีแฟนเป็นอังกฤษเพื่อนในชั้นนั่งเอง เรียนจบแล้วก็แต่งงานกันและแฟนตามไปอยู่ที่ญี่ปุ่นด้วย ตอนแรกไปสอนภาษาอังกฤษ ตอนนี้ทำอะไรไม่แน่ใจ ท่าทางก็แฮปปี้ดี คู่นี้มีลูกสาว 1 คนครับ

ผู็หญิงญี่ปุ่นในบ้านผมเป็แนวหัวก้าวหน้าทั้งคู่ อีกคนก็คนหนึ่งแนวคุณหนูแฟชั่นดังกล่าว ไม่ชอบทำตัวกุลสตรีญี่ปุ่นดั้งเดิม ไปเจอพวกนักเรียนญี่ปุ่นบ้านอื่นเลยรู้ว่าผู้หญิงญี่ปุ่นเขาจะรินน้ำรินเหล้าผู้ชายเสมอ ไม่ว่าจะแก่กว่า/คุณวุฒิสูงกว่าหรือไม่ แค่เป็นเพื่อนกันก็ต้องรินน้ำให้แล้ว

กลับมาเรื่องเพื่อนเด็กวัดครับ

ถึงพ่อเขาจะเป็น อ.สอนวรรณคดีอังกฤษ ใช้รถอังกฤษ กินถั่วอังกฤษ แต่เรื่องครอบครัวยังไม่ยอมอังกฤษ (ฮา) คือเพื่อนคนนี้ตอยเรียนอยู่เขามีแฟนชายอังกฤษที่เรียในชั้นเดียวกันครับ ตานี่และแฟนอังกฤษของญี่ปุ่นอีกคนจึงชอบมาที่บ้านผมกินเบีนร์ ดูทีวีในหห้องนั่งเล่น กินข้าว ฯลฯ แฟนของเด็กวัดนี้ที่จริงเรียบร้อยดีมาก นิสัยดี

คราวหนึ่งพ่อ อ. แกมาเยี่ยม พักโรงแรมในเมืองแล้วมากินข้าวที่บ้า่น นั่งคุยกันในห้องนั่งเล่น 3 คน อ. พ่อ ผม และอังกฤษแฟนลูกสาว ส่วนลูกสาวทำครัวห้องถัดไป อ. วรรณคดีอังกฤษคุยกับนักเรียนอังกฤษถูกคอกันดี ตอนหนึ่งตาชายหนุ่มดันถามว่า "ยูว่าอะไรหรือเปล่า ถ้าลูกสาวมีแฟนคนต่างชาติ?" ก๊าก ถามเผาขนจ่อยิงจริงๆ อ.พ่อ แกเอื้อมมือไปผลักประตูห้องนั่งเล่นปิดแบบเนียนๆ ก่อนตอบว่า "อ๋อ.. ไอไม่มีปัญหาอะไรร๊อก" (ฮา)

อย่างไรก็ตามเมื่อเรียนจบคู่นี้ก็เลิกกันครับ

คุณต๊อก เรื่อง bakebean เป็นไงไม่รู้นะ แต่ทาง
ญี่ปุ่นก็มี นัตโตะ(nutto) ถั่วเน่าญี่ปุ่น เห็นคนญี่ปุ่นชอบกินกัน
ชอบเอาตะเกียบคนๆจนเหนียวอ่ะ แล้วถึงใส่ปาก

ที่ทำงานเก่าผมทางโรงงานจะทำอาหารเลี้ยงพนักงานทุกวัน และจะมีคนญี่ปุ่นอยู่สองคนที่จะกินอาหารไทย ส่วนคนที่เหลือจะกินอาหารญี่ปุ่น  มีอยู่วันหนึ่งทางโรงอาหารทำแกงขี้เหล็กเลี้ยง ไม่รู้อีท่าไหนพวกจับถ้วยยกซดเสียงดังเลย ...ซูดดดดด....อ๊ากกก!!!!!... ::010:: ::010:: ::009:: ::009:: ฮาจริงๆ ::007:: ::007:: เล่นขำกันทั้งโต๊ะ หากวันไหนมีแกงหน่อไม้ดองวันนั้นจะไม่มีญี่ปุ่นคนไหนมากันข้าว.. ::003:: ::003:: ::003::

หุ หุ หุ งั้นคุณจ้าวคงได้เห็นผมเป็น "ไอ้อ้วนนั่งแกร่วข้างถนนตอนดึก เพราะหนีเมียออกจากบ้านแล้วรถเสีย" แน่ๆ ครับ

อือม์ ขอบคุณครับพี่ ผมนึกว่าอาบรวมแต่ตามสปาน้ำพุร้อน หรือร้านอาบน้ำเสียอีก ใช้อ่างใหญ่ หรืออาบแบบฝักบัวครับ?

โห.....อธิบายท่อนกลางของชะตากรรมได้แจ่มแจ้งมาก  ::002:: ::007:: ::007:: ::007::

ผมกลัวจะสบายจนซื้อปืนไม่เป็นด้วยนะครับพี่ :~)

ตอนนี้เลยขอตุนไว้ก่อน อิ อิ :D~ ::007::

ครั้งหนึ่งเคยไปเยี่ยมชมที่ศูนย์ควบบคุมของตำรวจปฏิบัติการพิเศษ นครบาลญี่ปุ่นครับ

ห้องควบคุมขนาดใหญ่ จนท. ประจำโต๊ะ มีหัวหน้าอยู่ด้านหลังนั่งบนยกพื้น

เมื่อมีโทรสายดวนเข้ามาแจ้งเหตุ ใครรับไฟที่โต๊ะก็จะขึ้น จนท. คุยกับคนแจ้งเหตุ รู้ว่าอยู่ที่ไหนก็จะดึงภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่แถวนั้นขึ้นมาดู และมีอีกจอแสดงตำแหน่งของรถสายตรวจ/ตำรวจที่อยู่แถวนั้น สั่งตำรวจในพื้นที่ใกล้ที่สุดให้เข้าไประงับเหตุ พร้อมกับดูภาพในวงจรปิดประกอบช่วยสนับสนุนได้เผื่อมีการวิ่ง ฯลฯ

ถ้าเหตุร้ายแรง จนท. โต๊ะ อาจกดไฟแดง ให้หัวหน้าที่มีประสบการณ์มากกว่าดึงเรื่องไปสั่งการเองได้ครับ

พูดถึงเรื่องโอนงานยากไปให้หัวหน้าแล้วเลยนึกได้ว่าในการรักษาการต่างๆ ของญี่ปุ่น เขาจะกลับกับไทยเรา ของไทยถ้าหัวหน้าหรือ ผอ. ไม่ว่าง รอง ก็ รกท. แทน แต่ของญี่ปุ่นเขาจะให้หัวหน้าระดับสูงขึ้นไป 1 ขั้น รกท. แทน ลูกน้องครับ เขาถือว่ารองยังไม่มีประสบการณ์ความรับผิดชอบผม จึงให้หัวหน้าที่เคยอยู่ในตำแหน่งนั้นมารักษาการแทนครับ ใระบบนี้ หัวหน้าจะคิดหนักกว่าเวลาส่งใครไปอบรมนานๆ แบบที่ไม่ค่อยมีประโยชน์จริง ส่วนลูกน้องก็ต้องคิดหนักเวลาขอลางาน

...พูดถึงความเหลือเชื่อ ผมว่าโตโยต้าเรียกคืนรถมากมายขนาดนี้ นับว่าเหลือเชื่อหรือ "เกินคาด" พอสมควรครับ

...เพราะเคยได้รับการยอมรับนับถือว่าระบบการผลิตยอดเยี่ยมกระเทียงดอง จนมีคนเขียนเป็นตำรา

...................................................เมืองไทยก็มีเรื่องเหลือเชื่อมากมายเหมือนกันครับ......................... ::007::........................ ::014::

ไม่อยากจะบอกว่าสาวฟุกุโอกะ หุ่นดีหน้า สวยที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ

สาวโตเกียว สาวโอซาก้า สาวนาโกยา สู้สาวฟุกุโอกะไม่ได้จริงๆ

สาวเมืองอื่นมักจะเตี้ยล่ำ แต่สาวเมืองนี้สูงเฉียดๆ 180 หุ่นดีมากๆๆๆๆ

ถ้าท่านเป็นข้าราชการทำงานกับสถานทูตญี่ปุ่น ลองสอบถามเรื่องโครงการศิลปวัฒนธรรมของเขาครับ เป็นโครงการพาเที่ยวญี่ปุ่น ที่เขาจัดให้สำหรับข้าราชการประเทศเอเซียตะวันออกเฉียงใต้บางประเทศคือ ไทย พม่า เขมร ลาว เวียดนาม ประเทศละ 6 คน ไม่จำกัดสาขา ไปประมาณ 10 วัน ผมเคยไปเมื่อหลายปีก่อน เยี่ยมชมเมืองและสถานที่ต่างๆ ที่สำคัญ เช่น

1. โตเกียว
- เข้าเฝ้าเจ้าชาย อากิชิโน่ ได้สัมผัสพระหัตถ์และเลี้ยงขนมในสวน ในอีกวังหนึ่งในโตเกียวไม่ใช่วังใหญ่
- ดูตลาดหุ้น
- ดูบริษัทโซนี่
- ดูการชงชา ที่สำนักชงชาแห่งหนึ่งจำชื่อไม่ได้แล้วครับ ตอนนั้นเจ้าสำนักยังมีชีวิตอยู่ เคยเป็นนักบินเครื่องขับไล่ซีโร่ตอนสงครามโลก
- พักกับครอบครัวญี่ปุ่น 1 คืน แต่ละประเทศแยกกันไปครับ คนไทยไปที่เมืองคาวาซากิ ตอนแรกไปที่ศูนย์ของเมือง พวกครอบครัวที่เข้าร่วมโครงการก็มา แล้วเขาก็เรียกชื่อให้มารับเด็ก เอ๊ย คนต่างชาติไปเลี้ยงที่บ้าน ผมไปกับสาวแบงค์คนหนึ่ง พูดภาษาอังกฤษได้ ขับโตโยต้า โคโรลล่ามารับไปบ้าน อยู่บ้านกับแม่และน้องสาวอีกคน ช่วงนั้นพ่อไปทำงานเมืองอื่นพอดี เขาก็พูดคุย จัดห้องให้นอนถุงนอนแบบโนบิตะ วันต่อมาพาไปเที่ยวในโตเกียว สวนเมจิ อากิฮาบาร่า ฯลฯ ตอนเย็นโครงการมารับกลับ

2. เกียวโต
- ดูวัดที่อยู่บนเนินเหนือเมือง วัดที่มีพระพุทธรูปไม้เต็มไปหมด ศาลาคินคาคุจิ และการเดินแฟชั่นโชว์กิโมโน

3. นากาซากิ
- เยี่ยม Ground zero และดูพิพิธภัณฑ์ระเบิดนิวเคลียร์ (ญี่ปุ่นออกตังค์ให้ต่างชาติไปเที่ยวต้องพาไปดูที่ฮิโรชิม่า หรือนากาซากิเสมอ)
- เกาะ เดชิม่า ซึ่งเคยเป็นเขตพิเศษให้ฝรั่งดัชท์ติดต่อค้าขายกับคนญี่ปุ่นได้ช่วงหนึ่ง ตอนนี้ถมทะเลเพิ่มเติม เกาะกลายเป็นเขตบนบกไปแล้วครับ
 

โอ้ จริงเหรอครับ? แต่ไม่ใช่เพื่อนผมแน่ ฮ่า ฮ่า ที่จริงก็ค่อนข้างสูงกว่าสาวญี่ปุ่นทั่วไป แต่หน้าตา เอ้อ ไม่นินทาดีกว่า ฮิ ฮิ ส่วนหุ่น ผู้ชายญี่ปุ่นในชั้นผมมันเคยพูดอ้างถึง flat mate ผมคนนี้ว่า "Your so flat mate" ::012:: ::007::

ตอนนี้ตำรวจญี่ปุ่นเขาว่าฟุกูโอกะเป็นเมืองที่ยากูซ่าคึกคักที่สุดครับ :OO

 ::014:: ขอบคุณครับพี่...  ;)

ผมเห็นราชการไทยส่งคนไปดูงานกันตั้งมากมายหลายหน หลายคน หลายครั้งมาแล้ว

ทำไมไม่เก็บเอาข้อดีหลายๆอย่างมาใช้กันบ้างนะ

ส่วนตัวผมเท่าที่อ่านมา นึกนิยมชมชอบใน "จิตสาธารณะ" ของคนญี่ปุ่นจัง

ต่างกับเมืองไทย ที่มีแต่ระบบเส้นสายและอภิสิทธิ์ชน

มีหลายอย่างที่นำมาใช้ครับ แต่ก็มีบางการดูงานที่ผมคิดว่าใช้ไม่คุ้ม

ส่วนที่ผมไปดูงานงบญี่ปุ่นทั้งนั้น สำหรับเวลางานที่ใช้ไปดูส่วนมากไปดูเรื่องอื่นของผมตำรวจนครบาลของแถมครับ ผมไม่ได้เป็นตำรวจนครบาล

สำหรับเรื่องระบบปฏิบัติการพิเศษ ตร. ญี่ปุ่นหน่วยนี้เคยมาวางระบบการสื่อสารและฝึกอบรม 191 อยู่หลายเดือน

ในโครงการเที่ยวของ กต. เขาพาไปชมตึกรัฐสภาญี่ปุ่น

มีห้องโถงเล็กๆ ห้องหนึ่ง (ห้องในญี่ปุ่นมักเล็กๆ ทั้งนั้นครับ อิ อิ) มีรูปปั้นรัฐบรุษในอดีตตั้งอยู่ 3 มุม มุมหนึ่งว่าง เขาบอกว่าตั้งใจว่างไว้ให้เป็นสัญลักษณ์เตือนใจว่าชาติยังต้องการรัฐบุรุษคนใหม่ๆ อีกเสมอ ::002::

ที่ทำการรัฐบาลสำคัญๆ อยู่บริเวณเดียวกันก็มี รัฐสภา / NPA / ตำรวจนครบาล และกระทรวงการต่างประเทศครับ ญี่ปุ่นถือว่ารถสีดำคือสีทางการและสุภาพ รถหลวงในสถานที่ราชการสีดำหมด เห็นมีโตโยต้าคราวน์มาก

ในตึก NPA จัดเป้นระเบียบมุ่มการใช้งานอย่างเดียว ตรงกลางเป็นปล่องโล่ง ระเบียงเดินรอบด้านเหมือนกันทุกด้านจนพรมต้องใช้คนละสี จะได้เดินง่ายๆ ไม่หลงทิศ ไม่มีกระถามต้นไม้ หรือของประดับอื่นใด ในแต่ละสำนักงานมีห้องทำงานอย่างเดียว มีส่วนพักผ่อน ตู้เย็น บาร์ชงกาแฟของส่วนกลางอยู่มุมตึก ห้องประชุมบางห้องอยู่ส่วนกลางของตึก คือไมมีหน้าต่างเลยครับ ผนังขาวโล่งหมด ไม่มีโล่/รูปภาพที่ระลึก ฯลฯ ติดเลย พวกผมเข้าไปกระซอบกันเองว่า "พามาคุยในห้องสอบสวนเหรอ อิ อิ"

ที่สังเกตได้คือไม่มีรูปถ่ายผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งปัจจุบันและในอดีตติดผนังเลยครับ และไม่ตั้งชื่อห้องประชุม/ตึกตามชื่อคน  เขาถือมากว่าสถาบันคือสิ่งสำคัญ คนแค่ผ่านมาผ่านไปทำงานตามหน้าที่เท่านั้น

มาแอบอิจฉาพี่ๆครับ..ผมยังไม่เคยไปญี่ปุ่นเลย  ::011:: ::011::

ฟูกูโอกะหรือโออิตะเมืองตอนใต้ของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่จะหุ่นดี หน้าตาดี
คาดว่าอุณหภูมิอุ่นกว่าที่อื่น ผมเคยพาคนไปดูงานเรื่อง1ตำบล1ผลิตภัณฑ์
ที่ญี่ปุ่นหลายรอบ กลับมาได้ผลบ้าง ไม่ได้ผลบ้าง เพราคนที่ไปดูงาน
กลับมาเอาจริงเอาจังเรื่องการควบคุมคุณภาพ และการจัดการระบบ ก็อยู่นาน
บางคนทำเหมือนเดิม ก็อยู่ไม่นาน ทางใต้ของญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องออนเซ็น
อาจเป็นส่วนที่ทำให้คนแถวนี้ สูง หุ่นดี หน้าตาดี

ปืนรุ่นไหนครับ เห็นที่ร้านอาหารที่ญี่ปุ่นครับ แต่ไม่รู้ว่าจริงหรือปลอมครับ

(http://img717.imageshack.us/img717/9366/tatsuya032.jpg) (http://img717.imageshack.us/i/tatsuya032.jpg/)

(http://img220.imageshack.us/img220/2888/tatsuya033.jpg) (http://img220.imageshack.us/i/tatsuya033.jpg/)

(http://img522.imageshack.us/img522/4357/tatsuya034.jpg) (http://img522.imageshack.us/i/tatsuya034.jpg/)

อิอิ ออนเซ็นไม่เกี่ยวกับความสูงหรอกค่ะ คุณซับ  :D ... เกี่ยวกับสุขภาพ ทำให้ผิวดี เลือดลมดีค่ะ ส่วนเรื่องความสูง สาวญี่ปุ่นสูงไม่สูงไม่รู้แต่ใส่ส้นสูงเดินทุกคน เดินกันเก่งด้วย เพราะหลายเมืองมีแต่เนิน

 ที่ประทับใจตอนไปญี่ปุ่นก็คือ มารยาทของคนญี่ปุ่น ดิฉันเดินดูเมืองที่เกียวโตอยู่ก็ได้ยินเสียงกระแอมเบาๆ หันไปถึงรู้ว่า เรายืนขวางเลนจักรยานอยู่ คนญี่ปุ่นที่เขาขี่จักรยานมาเขาจะขอทางนั่นเอง ซึ่งเป็นที่อื่น (อาทิ เวียดนาม อินเดีย หรือจีน) คงโดนเสียงกระดิ่งไล่ หรือโดนร้องด่า นี่คุณผู้ชายญี่ปุ่นแกแค่กระแอมเบาๆ ตอนเข้ามาใกล้แล้ว เท่านั้นเอง 
เหมือนกับตอนขึ้นรถใต้ดิน ถ้ามีเป้สะพาย ก็ต้องปลดลงวางกับพื้นรถ อย่าสะพายไว้เดี๋ยวเกะกะคนอื่น (คนญี่ปุ่นไม่ว่าหรอกค่ะ แต่จะมองเหล่ว่า คนนี้ต่างชาติแหงๆ ไม่ค่อยเกรงใจคนอื่น) บนรถไฟ ถ้ามีมือถือก็ต้องปิดไม่ใช้เสียง ใช้แต่ sms เพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น เข้าห้างก็ไม่ควรถือร่มเปียกเข้าไป ให้มองหาพนักงานถือถุงพลาสติกซองให้ใส่ร่ม จะได้ไม่หยดเลอะเทอะร้าน เวลาขึ้นบันไดเลื่อนก็ต้องยืนชิดข้างที่ถูกต้อง เพื่อคนอื่นที่รีบจะได้ผ่านไปได้ (แต่ งง ตรงที่โตเกียวกับโอซากามันยืนคนละข้างเนี่ยสิคะ ดิฉันยืนผิดตลอด) ดังนั้น เดินๆ ในญี่ปุ่นก็รู้สึกได้ว่า ต้องหัดสังเกตและนึกไว้ตลอดว่าเราไม่ได้ทำอะไรเกะกะคนอื่น ก็ขนาดบนรถไฟชินคันเซ็น คนเสริฟที่เข็นรถขายขนมเข้ามา พอเข้ามาแล้วก็โค้งคำนับทุกคน พอจะออกก็หันมาโค้งคำนับลาอีก.. (อะไรมันจะสุภาพขนาดนั้น....)  :o อย่างไรก็ตามก็รู้สึกเหมือนกันว่า การคอยระวังดูอะไรๆ ก็น่าจะทำให้คนญี่ปุ่นเครียดเหมือนกัน เพราะแค่ไปเที่ยว 5 วันก็ได้เจอเหตุการณ์รถไฟชินคันเซ็นดีเลย์ เพราะมีคนฆ่าตัวตายโดยกระโดดลงบนรางรถไฟค่ะ เล่นเอาสยองไปเลย.. ::004::

สถานีรถไฟใต้ดินที่โตเกียวเพดานต่ำมากถ้าเดินไม่ก้มหัวจะชนเพดาน
และรู้สึกว่าจะไม่ติดแอร์เคยไปตอนอากาศร้อน แทบเป็นลม ร้อน คนแน่น

จริงครับระบบการผลิตดีแต่ ไม่ได้หมายถึงตัวสินค้าด้วยครับ
แปลก ของฝรั่งระบบการผลิตธรรมดาแต่ตัวรถดี
          ของญี่ปุ่น ระบบการผลิตดีกว่าแต่คุณภาพตัวรถก็งั้นๆ

อืม แต่เห็นในสภาสหรัฐฯ มีเรียกให้ผู้แทนโตโยต้าไปชี้แจงเรื่องรถ Prius มีปัญหาเบรคอยู่นะคะ ไม่ได้ตามรายละเอียดเหมือนกัน ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร

อยากให้รัฐสภาไทย ทำแบบนี้กับ "ไม้ล้างป่าช้า" มั่งจัง ...  ::010::

...ประธานโตโยต้ากล่าวขอโทษ บอกว่าบริษัทเติบโตเร็วเกินไปจนเกิดปัญหาขึ้น เขาโดน ส.ส.สหรัฐเล่นงานหนักทีเดียว

                   ลุงแก้วนอนดึกนะครับ

ว่าไปแล้ว ทางญี่ปุ่น จักรยานมีกระดิ่งหรือเปล่าไม่ทราบ แต่ว่าทางยุโรปบางประเทศ จะไม่มีกระดิ่ง เพราะถือว่าคนปั่นจักรยาน มีหน้าที่ต้องระวังคนเดินถนน ไม่ใช่ให้คนเดินระวังจักรยาน

อิ อิ ว่าไปคุณ bluebunny มีเรื่องราวน่าอ่านเยอะแยะ......
แต่ว่าพิมพ์ติดเรียงเป็นพรืดเหมือนใครสักคนที่ผมรู้จักเลย..... ;D ;D ;D

ชุดนักเรียนญี่ปุ่นครับ ไม่กล้าถ่ายใกล้ๆครับ


(http://img130.imageshack.us/img130/6346/tatsuya019.jpg) (http://img130.imageshack.us/i/tatsuya019.jpg/)

อยากเข้าไปในภาพ แล้วเดินอยู่ใกล้ๆกับสาวในเครื่องแบบ อิอิ  :D~ :D~

มีครับพี่ซับฯ

ได้ข่าวว่าโดนย่างสดเลยครับ ขึ้นเสียง ชี้นิ้ว แบบว่าญี่ปุ่นที่ไม่รู้ตัวมาก่อนช๊อคตายแน่ครับ

อย่างหนึ่งก็คือนักการเมืองเขาก็ต้องแสดงให้ประชาชนเห็นด้วยว่าเอาจริงเอาจังไล่เบี้ยของที่ทำให้คนเจ็บตาย

ใน บางกอกโพส มีบทความข่าว AFP อ.เมกันวิเคราะห์เกี่ยวกับความต่างทางวัฒนธรรมของเหตุการณ์นี้ โดยนายโตโยดะทยาทรุ่น 3 หลายปู่ของผู้ก่อตั้งโตโตต้าพยายามแสดงกิริยาฝรั่ง ขแโทษ ชี้แจง แต่และไม่โค้งอย่างผู้บริษัทญี่ปุ่นคนก่อนจากบิษัทยางที่ไปให้การกับสภาเหมือนกัน

เขาว่าความแตกต่างทางวัฒนธรรมเคยเป็นเรื่องตอนปี 2006 เมื่อลิฟท์ ชิลเล่อร์ ของสวิส หล่น ทำให้เด็กนักเรียนหญิงญี่ปุ่นเสียชีวิต บริษัทสวิสแถลงว่ากำลังดำเนินการสอบสวนอยู่ คาดว่าอาจจะมาจากการบำรุงรักษาก็ได้ แต่ไม่ได้แสดงกิริยาขอโทษต่อสังคม กว่าฝรั่งจะรู้ว่าควรแสดงตัวรับผิดชอบมากกว่าทางเทคนิก และผู้บริหารบินไปโค้งขอโทษที่ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นก็สั่งหยุดใช้/ตรวจสอบลิฟท์ ชิลเล่อร์ ทั่วประเทศ และบริษัท ชิลเล่อร์ ในญี่ปุ่นโดนตำรวจเข้าค้น..

...มีขาวว่างานนี้คนญี่ปุ่นเองก็ไม่ค่อยพอใจนักการเมืองอเมริกันครับ

 ::002::เป็นข้อมูลที่ดีมากเลย ::002::

ญี่ปุ่นคงตกใจละครับพี่ คนหนึ่งเขาเคยบอกว่าญี่ปุ่นมีคำด่าไม่มาก ถ้าโกรธกันด่ากันข้ามวันไม่ได้ และไม่มีลักษณะแสดงกิริยาโกรธไำด้นาน ถ้าถึงขั้นตะโกนกันละก็ แป๊ปเดียวก็ต่อยกันแล้ว

อาจเป็นเรื่องการบริหารจัดการภาวะเผชิญหน้า ขาว - ดำ ชัดเจน ไม่ค่อยอยู่ในสีเทา อาจเป็นเรื่องวัฒนธรรมจงรักภักดีต่อกลุ่ม และความยึดมั่นในหลักการอย่างรุนแรง ทำให้ไม่เขาก็เรา ไม่รักก็เกลียด ไม่ดีก็ชั่ว ชัดเจน

อิ อิ เคล็ดลับแห่งความผอมครับ โค้งอย่างน้อย 200 ครั้งต่อวัน

...ที่ผมว่าญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดีคือการบริการของพนักงานขาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้างสรรพสินค้าครับ  พนักงานจะให้ข้อมูลดีมาก ไม่มีการคะยั้นคะยอหรือกดดันให้ซื้อ  และแม้ว่าเราจะไม่ซื้อสินค้าหลังจากขอดูขอเลือกไปตั้งมากมาย  เขาจะไม่แสดงกิริยาอะไรที่ไม่ดีเลยครับ ยังยิ้มแย้มเหมือนเดิม  แถมยังขอบคุณที่เราสนใจสินค้าอีก  ผมคิดว่าพวกเขาได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี  มี service mind สูงมาก

...คนละเรื่องกับห้างฯ แบบไทยๆ เลย (ต่อให้เป็นห้างใหญ่ๆ ก็ตาม) ถ้าพนักงานขายคิด (ไปเอง) ว่าเราถาม/ขอดูแต่ (ท่าทาง) จะไม่ซื้อ  ส่วนใหญ่จะหน้างอ บางคนมีกระแทกด้วยอ่ะ  แค่เลือกนาน ดูสินค้านานไปหน่อย  พนักงานบางคนก็ออกอาการครับ  อย่างเซ็งเลย  ::009::

...พนักงานบางคนถึงกับแสดงกิริยาดูถูกลูกค้าด้วยซ้ำ  ::010:: ::010::

...ผมเองเคยตัดสินใจไม่ซื้อของที่ตั้งใจจะซื้อเพราะความห่วยของพนักงานขายครับ

ท่านประธานฯ ฉลาดล้ำลึกจริงๆ  ::002::

แอบอ่านมานาน สนุกดีครับ ข้อมูลดีด้วย  ขอบคุณมากครับ  ::014:: ::014::


ตอนนี้ผมมีคำถามครับ  ตัวผมชอบกินแกงกะหรี่ญี่ปุ่นมาก อยากจะถามซักหน่อยว่าเครื่องแกงสำเร็จรูปยี่ห้อไหนถูกปากพี่ๆ ที่สุดครับ แล้วมีสูตรการทำอย่างไรกันบ้างครับ

ปกติผมใช้ เครื่องแกงยี่ห้อ  golden curry แบบเผ็ดมากครับ  ::014:: ::014::

แล้ววัฒนธรรมการกินของญี่ปุ่นเขาพิธีรีตรองกันขนาดไหนครับ  ::014:: ::014::

เรื่องแกงกะหรี่ญี่ปุ่นต้องถามท่านบ้านชายหาดครับ

ผมเองก็ชอบครับ  แต่วีธีทำไม่รู้จริงๆ

อืม แกงกะหรี่ญี่ปุ่นมีสูตรที่ทางญี่ปุ่นเขาจะเอาไปจดทะเบียนลิขสิทธิ์ด้วยนิคะ แต่โดนอินเดียคัดค้านเลยอดจดไป.. เท่าที่เคยลอง รู้สึกต้องใช้แต่ผงกะหรี่เขาเท่านั้นมั๊งคะ เพราะว่า เครื่องของแท้ ของอินเดียมันจะแรงเกินไป ไม่ค่อยนุ่มนวล  ???

ส่วนวัฒนธรรมการกินนี่เท่าที่เคยอ่านเจอ และเคยมีเพื่อนญี่ปุ่นเล่าให้ฟัง ถ้าว่ากันตามมารยาทการกินแบบสุภาพ เขาก็มีข้อห้ามเยอะแยะค่ะ เช่น ต้องทานข้าวในถ้วยให้หมดก่อนขอเพิ่ม ต้องจับตะเกียบให้ถูก ห้ามเอาตะเกียบปักค้างกลางถ้วยข้าว (เดี๋ยวเหมือนข้าวไว้เซ่นไหว้) แม้กระทั่งวิธีเอาวาซาบิใส่น้ำโซยุ ของแท้ต้องวางไว้ข้างๆ ขอบจานน้ำจิ้ม ค่อยๆ ลากปลาผ่านทั้งโซยุและวาซาบิแล้วทาน ไม่ให้ตำๆ แบบบ้านเรา (แต่ตอนนี้ไปเห็นในญี่ปุ่นก็เห็นตำๆ คนๆ แบบบ้านเราเหมือนกันนะคะ อิ อิ) ห้ามแยกตะเกียบออกจากกันเขี่ยๆ หั่นๆ ถ้าเป็นงานเลี้ยงดีๆ หรูๆ ถ้าแบบมีมารยาทต้องเปิดฝาถ้วยแกง หรือถ้วยชาแบบประคองฝาด้วยสองมือ แต่ถ้าเป็นอาหารมีหลายๆ อย่างข้างไหนใกล้ก็เปิดไปเลย ไม่ต้องประคองไปมา ฯลฯ  ::012::

และถ้ากินบะหมี่ก็ควรจะทำเสียงซดดังๆ ซึ่งดิฉันไปทานบะหมี่ญี่ปุ่น ดิฉันก็ทำใจไม่ได้จะซดบะหมี่เสียงดัง (อายค่ะ) ปรากฏนอกจากบะหมี่และน้ำซุปเกือบลวกปากแล้ว ก็พบว่า พ่อครัวชะโงกมามองด้วยหน้าตาสงสัยกึ่งเป็นห่วง จนเพื่อนญี่ปุ่นบอกว่า เขากลัวยูกินไม่อร่อยนะ ซดหน่อยเหอะนะ ก็เลยต้องพยายาม ก็พบว่า อุณหภูมิบะหมี่พอดีทานได้ (แต่ถ้าให้ไปทานบะหมี่แบบซดต่อหน้าคนไทยด้วยกันนี่คงไม่เอาด้วยค่ะ)  ::005::

ส่วนที่เห็นในการ์ตูนว่า ต้องพูดว่า "ทานแล้วนะครับ" หรือ อิตาดากิมัส นั้น ปัจจุบัน คนหนุ่มสาวไม่ค่อยพูดกันแล้วค่ะ มีแต่คนแก่ หรือหัวโบราณหน่อยค่ะ

พูดเรื่องตะเกียบ(chopsticks ) ญี่ปุ่นกะจีนต่างกันตรงไหน เคยมีคนบอก

ญี่ปุ่นเคร่งครัดเรื่องการใช้ตะเกียบมากกว่าจีน แต่ว่ากันว่า วัฒนธรรมการใช้ตะเกียบมาจากจีน
คนญี่ปุ่นเรียกตะเกียบว่าฮาชิจะมีปลายตะเกียบแหลม แต่ของจีนปลายมน เกาหลีออกแบนๆ

การคีบอาหารส่งให้กันเป็นทอดๆ ทางญี่ปุ่นถือว่าไม่สุภาพอย่างมากๆ เพราะวิธีแบบนี้ใช้ในพิธีศพซึ่งใช้ตะเกียบ
คีบกระดูกคนตายส่งต่อเป็นทอดๆ

ปกติในวงอาหารจะมีตะเกียบกลางไว้ให้เหมือนเรามีช้อนกลาง หากไม่มีให้ใช้ตะเกียบของเราด้านบน ที่เราไม่ได้ใช้
เข้าปากกลับด้านลงมาใช้คีบอาหารในถ้วยอาหาร พอลงถ้วยเราก็พลิกกลับเอาอีกด้านปกติมาใช้คีบเข้าปาก

การคีบอาหารวางในจานของผู้อื่นเพื่อแสดงความเอาใจใส่และเอื้อเฟื้อ ควรใช้ตะเกียบด้านปลายที่เราไม่ได้ใช้
เข้าปากคีบให้ โดยกลับด้านลงมาใช้ เมื่อใช้เสร็จแล้ว ค่อยพลิกกลับที่เดิม (เหมือนข้างบน)

ห้ามใช้ตะเกียบดันถ้วยเลื่อนไปมา ไม่สุภาพครับ

วางตะเกียบลงบนที่วางตะเกียบก่อนที่จะใช้มือหยิบถ้วยอาหาร อย่ายื่นมือไปหยิบถ้วยอาหารโดยที่คีบตะเกียบอยู่ด้วย
เสียมารยาทมากครับ

อย่าชี้ปลายตะเกียบไปที่บุคคลอื่น ไม่สุภาพ ห้ามใช้ตะเกียบประกอบการสนทนาแบบยกวนๆประกอบการพูดคุย 
ใครที่เคยพูดไปมือไม้ต้องออกตามคำพูด ควรระวังครับ

ห้ามคายเศษอาหารลงบนโต๊ะ พึงเขี่ยเศษก้างปลาหรือกระดูกออกจากเนื้อก่อนรับประทานในถ้วยเราเอง (อันนี้ต่างจากจีนมาก)


อีกอย่างพูดถึงตะเกียบแล้ว ต้องพูดถึงช้อน เพราะ น้ำซุปจะให้ตะเกียบพุ้ยก็ไม่ได้  หากมีช้อนก็ใช้ช้อนครับ
หากไม่มีช้อนใช้วิธีของคุณBlueberryครับ ยกซดเลย เสียงดังถือ่ว่าอร่อยถือว่าให้เกียรติคนปรุง
(อันนี้ทำลำบากครับ ขนาดที่จีนเขาจิบชาดังโฮก ถือว่าปกติ ธรรมเนียมการดื่มชาต้องแบบนั้น ผมลองทำดู
เสียงดังไม่เท่าเขาแฮะ ได้ไม่ถึงครึ่งของเขาด้วย )

ที่เหลือก็ที่คุณBluebunnyยกมาครับ
"ห้ามเอาตะเกียบปักค้างกลางถ้วยข้าว (เดี๋ยวเหมือนข้าวไว้เซ่นไหว้) "

หมายถึงการทิ่มแทงด้วยครับ

ตอนนี้นึกออกแค่นี้ครับ  ::014::

ขอบคุณมากครับ พี่bluebunny   พี่ซับ  ::014:: ::014::

เพิ่งนึกออกอีกอัน
ในบ้านญี่ปุ่นแท้ๆแบบขนบนิยม ตะเกียบจะแยกกันชัดเจน ของใครของคนนั้น
ใส่กล่องเก็บไว้ของใครของมันครับ
และจะมีแยกไว้สำหรับแขกด้วยครับ

แหะ แหะ อีกอย่างครับ คนญี่ปุ่นกินตะเกียบ ไม่เน้นให้ตะเกียบโดนปากหรือใช้ปากดูดตะเกียบ โดยถือมารยาทเป็นสำคัญ  แต่ของจีนไม่ถือตรงนี้ครับ

 ::002::น้าซับรู้เรื่องญี่ปุ่นเยอะเนาะ...ผลพวงจากโครงการแลกเปลี่ยวัฒนธรรมกับน้องรูหรือเปล่าครับ

คุณซับคะ bluebunny ค่ะ ไม่ใช่ blueberry ค่ะ   ;D

 ::011:: ::011:: ::011:: ::011::

รู้งี้ ก๊อปชื่อมาก็ดีนิ...

 :D

แปลว่ากระต่ายเศร้าหรือเปล่าครับ ::005:: ::005::

ไม่เศร้าแล้วค่ะ ;D สีฟ้ามาจากสีเสื้อ bunny ค่ะ