เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 09, 2010, 09:29:41 PM



หัวข้อ: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 09, 2010, 09:29:41 PM
อันนี้เล่าเป็นอุทธาหรณ์นะครับ... สำหรับผู้รับเหมานะครับ...

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มย้ายงานใหม่... ประมาณพฤศจิกายน ปีที่แล้ว..

พอย้ายงานปุ๊ป(1)... ได้อีกงาน(2)ที่ดำเนินการเอาไว้กว่า 6 เดือนพอดี... เลยเริ่มจัดคนงาน โดยอีกไซท์งาน(2)ได้ให้รุ่นน้องที่เรียนมาด้วยกันช่วยดูแล และยังมีคนงานยังไม่มาก... แต่ก็ทำงานจนรอดปีใหม่มาได้... พอมกราคม เลยเอาคนงานจากไซท์ที่ย้ายทีแรก(1) ไปช่วยเสริมอีกไซท์งาน(2) แต่พอไปทำไม่ยอมฟังโฟร์แมน(รุ่นน้องผม) บอกว่ามาทำที่นี่ แต่ฟังคำสั่งผมคนเดียว.. โฟร์แมนเลยสั่งให้หยุดงาน.. (เพราะผสมกับคนที่มีอยู่แล้วไม่ได้.. และกลัวจะเสียการปกครอง..)  รอให้ผมมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน...

ผมฟังเหตุผล.. ก็เข้าใจโฟร์แมน เลยให้ลูกน้องกลับไปทำงานที่ไซท์ที่เพิ่งย้ายมา(1) แต่ด้วยศักดิ์ศรี.. เพิ่งย้ายออกมา ไม่อยากกลับไปทำที่เดิม... ขอลาออกไปทำที่อื่น.. ผมก็ไม่รั้ง จะไปก็ไป... เลยสร้างความแค้นให้ลูกน้องชุดนี้...

จากนั้นก็ทำงานกันเรื่อยๆ.. จนทุกอย่างเริ่มลงตัว... และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเอ็ฟเฟ็คอะไร.... เพราะเนื่องจากงานยุ่ง... เลยพลาดไม่ได้แคร์ความรู้สึกลูกน้อง...

จนถึงวันที่ 5 มีนาคม... จ่ายค่าแรงคนงานเสร็จ... แต่ผมบังคับให้ลูกน้องที่ไซท์(1) ทำงาน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกค่างวดงานที่คำนวณไว้... แต่อีกไซท์(2) ให้หยุด...

ผลที่ตามมา... กลายเป็นลูกน้องน้อยใจ(1) คงมีการคุยกับกลุ่มลูกน้องที่ย้ายไปไซท์งาน(2) และลาออกไป... ปลุกปั่นกันจนวันที่ 7 มีนาคม.. ผมเข้าไซท์งาน(1) ลูกน้องไปกันหมดไซท์งาน...

ตอนนี้เลยต้องวุ่นกว่าเดิม... เพราะต้องจัดทัพใหม่หมด... และยังต้องกลับไปเก็บงานเก่าๆที่ยังอยู่ระยะประกันอีก......

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า... อย่ามั่นใจตัวเองซะมากเกินไป... เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้จริงๆ... ลูกน้องเลี้ยงดูกันมา 10 กว่าปียังทิ้งเราได้... ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นอย่างที่เราวางแผน....

สมน้ำหน้าตัวเอง... และก็ได้แต่หวังว่าลูกน้องที่ทิ้งเราไป.. คงต้องได้ดี... แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...

คิดไม่ถึงเหมือนกัน...ว่าการจัดทัพไป... แต่กลายเป็นว่า.. ลูกน้องแต่ละคนอยากเป็นใหญ่กันหมด... จนทำให้งาน(องค์กร) สะดุดได้ขนาดนี้...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: renold ที่ มีนาคม 09, 2010, 09:57:24 PM
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 09, 2010, 10:32:48 PM
อันนี้เล่าเป็นอุทธาหรณ์นะครับ... สำหรับผู้รับเหมานะครับ...

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มย้ายงานใหม่... ประมาณพฤศจิกายน ปีที่แล้ว..

พอย้ายงานปุ๊ป(1)... ได้อีกงาน(2)ที่ดำเนินการเอาไว้กว่า 6 เดือนพอดี... เลยเริ่มจัดคนงาน โดยอีกไซท์งาน(2)ได้ให้รุ่นน้องที่เรียนมาด้วยกันช่วยดูแล และยังมีคนงานยังไม่มาก... แต่ก็ทำงานจนรอดปีใหม่มาได้... พอมกราคม เลยเอาคนงานจากไซท์ที่ย้ายทีแรก(1) ไปช่วยเสริมอีกไซท์งาน(2) แต่พอไปทำไม่ยอมฟังโฟร์แมน(รุ่นน้องผม) บอกว่ามาทำที่นี่ แต่ฟังคำสั่งผมคนเดียว.. โฟร์แมนเลยสั่งให้หยุดงาน.. (เพราะผสมกับคนที่มีอยู่แล้วไม่ได้.. และกลัวจะเสียการปกครอง..)  รอให้ผมมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน...

ผมฟังเหตุผล.. ก็เข้าใจโฟร์แมน เลยให้ลูกน้องกลับไปทำงานที่ไซท์ที่เพิ่งย้ายมา(1) แต่ด้วยศักดิ์ศรี.. เพิ่งย้ายออกมา ไม่อยากกลับไปทำที่เดิม... ขอลาออกไปทำที่อื่น.. ผมก็ไม่รั้ง จะไปก็ไป... เลยสร้างความแค้นให้ลูกน้องชุดนี้...

จากนั้นก็ทำงานกันเรื่อยๆ.. จนทุกอย่างเริ่มลงตัว... และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเอ็ฟเฟ็คอะไร.... เพราะเนื่องจากงานยุ่ง... เลยพลาดไม่ได้แคร์ความรู้สึกลูกน้อง...

จนถึงวันที่ 5 มีนาคม... จ่ายค่าแรงคนงานเสร็จ... แต่ผมบังคับให้ลูกน้องที่ไซท์(1) ทำงาน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกค่างวดงานที่คำนวณไว้... แต่อีกไซท์(2) ให้หยุด...

ผลที่ตามมา... กลายเป็นลูกน้องน้อยใจ(1) คงมีการคุยกับกลุ่มลูกน้องที่ย้ายไปไซท์งาน(2) และลาออกไป... ปลุกปั่นกันจนวันที่ 7 มีนาคม.. ผมเข้าไซท์งาน(1) ลูกน้องไปกันหมดไซท์งาน...

ตอนนี้เลยต้องวุ่นกว่าเดิม... เพราะต้องจัดทัพใหม่หมด... และยังต้องกลับไปเก็บงานเก่าๆที่ยังอยู่ระยะประกันอีก......

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า... อย่ามั่นใจตัวเองซะมากเกินไป... เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้จริงๆ... ลูกน้องเลี้ยงดูกันมา 10 กว่าปียังทิ้งเราได้... ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นอย่างที่เราวางแผน....

สมน้ำหน้าตัวเอง... และก็ได้แต่หวังว่าลูกน้องที่ทิ้งเราไป.. คงต้องได้ดี... แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...

คิดไม่ถึงเหมือนกัน...ว่าการจัดทัพไป... แต่กลายเป็นว่า.. ลูกน้องแต่ละคนอยากเป็นใหญ่กันหมด... จนทำให้งาน(องค์กร) สะดุดได้ขนาดนี้...

ตรงตัวสีแดงเลยครับ แสดงว่าคุณตั้วยังใจนิ่ง(ใจหิน)ยังไม่พอ ลูกน้องเลยคิดไปเองว่าตัวเองเก่ง สามารถยืนบนขาตัวเองได้... แต่ความจริงจะเหมือนความเชื่อได้หรือไม่นั่น ลูกน้องต้องพิสูจน์ตัวเองครับ...
หากใครไม่เคยปกครองคนก็นึกไม่ออกนะครับ คนมันเท่ากันหมดตามรัฐธรรมนูญน่ะใช่... ถ้าอยู่บนถนนหนทางกับประชาชนทั่วไป กับคนรู้จักทั่วไปน่ะเท่ากันแน่ แต่ถ้าเข้ามาทำงานเป็นลูกน้องของเราแล้วมันต้องไม่เท่ากัน การกินการอยู่ การนั่งการนอนต้องไม่เท่ากัน เท่ากันไม่ได้...

หากปล่อยให้เท่ากันแล้ววิธีคิดของลูกน้อง วิธีมองของลูกน้องจะเปลี่ยนไปหมด... ใครอยากเท่ากันต้องไม่ใช่ลูกน้อง หากปรับความคิดไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียนวิชาจากเราครับ...
ลองดูกระทู้นี้ครับ... http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=82592.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=82592.0)

เรื่องนี้จิ๊บจ๊อยครับ เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไปเหมือนสายลมแล้วครับ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 09, 2010, 10:54:51 PM
คุณสมชายอ่านขาดจริงๆครับ...

เนื่องจากการที่ทำหลายที่... และบวกกับต้องวิ่งซื้อของเข้าไซท์งานด้วย เลยไม่ค่อยมีเวลามาเฝ้าแต่ละที่ได้ตลอดเวลาครับ.. เวลาเข้าไซท์ไหน ผมจะเห็นตลอดเวลาว่าแต่ละคนกำลังอู้งานกันอยู่... ผมเลยต้องปิดตาข้างเดียวในการทำงานอยู่ตลอดเวลา... จ้างใครมาดูงานแทนก็อู้  ผมมาทีค่อยกระตือรือร้น... แต่ที่ปล่อยกันมาตลอดเป็นเพราะผมไม่สามารถทำงานด้วยตัวคนเดียวได้เลย... ผมทำใจมาโดยตลอดครับ... เพียงแต่ที่เจ็บใจคือ.. ผมดูแลมากว่าสิบปี แต่ยังมาทิ้งกันได้ลงคอ.. คนที่อยู่ในจังหวัดผมที่รู้จักกันประนามลูกน้องผมกันหมด...

ผมแค่น้อยใจเฉยๆครับ.. ป้อนงานในขณะที่งานเริ่มหายากเข้าทุกที ไม่เคยมีซักวันที่ตกงาน  แต่พอย้ายไปผสมกลับกลุ่มใหม่ มาอ้างว่าเป็นสายตรงจากผมไม่ฟังใคร โดยไม่ได้คิดถึงว่าที่ผมให้ย้ายไปเพื่อช่วยเหลืองาน...

อาจเป็นนิมิตรหมายที่ดีก็ได้ครับ.. เริ่มจากคนใหม่.. จัดระบบใหม่.. เสียเวลาอีกนิด แต่คงจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ...

หรือว่าผมต้องเป็น "โจโฉ" ซักที... หลังจากเป็น "เล่าปี่" มานานครับ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 10, 2010, 12:38:02 AM


พระเดช และ พระคุณ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: การ์ตูน รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 01:37:12 AM
นี่เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้แรงงานต่างด้าวได้เข้ามาทำงานแทนที่แรงงานไทย  :-[ :-[


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มีนาคม 10, 2010, 02:22:39 AM
อันนี้เล่าเป็นอุทธาหรณ์นะครับ... สำหรับผู้รับเหมานะครับ...

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มย้ายงานใหม่... ประมาณพฤศจิกายน ปีที่แล้ว..

พอย้ายงานปุ๊ป(1)... ได้อีกงาน(2)ที่ดำเนินการเอาไว้กว่า 6 เดือนพอดี... เลยเริ่มจัดคนงาน โดยอีกไซท์งาน(2)ได้ให้รุ่นน้องที่เรียนมาด้วยกันช่วยดูแล และยังมีคนงานยังไม่มาก... แต่ก็ทำงานจนรอดปีใหม่มาได้... พอมกราคม เลยเอาคนงานจากไซท์ที่ย้ายทีแรก(1) ไปช่วยเสริมอีกไซท์งาน(2) แต่พอไปทำไม่ยอมฟังโฟร์แมน(รุ่นน้องผม) บอกว่ามาทำที่นี่ แต่ฟังคำสั่งผมคนเดียว.. โฟร์แมนเลยสั่งให้หยุดงาน.. (เพราะผสมกับคนที่มีอยู่แล้วไม่ได้.. และกลัวจะเสียการปกครอง..)  รอให้ผมมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน...

ผมฟังเหตุผล.. ก็เข้าใจโฟร์แมน เลยให้ลูกน้องกลับไปทำงานที่ไซท์ที่เพิ่งย้ายมา(1) แต่ด้วยศักดิ์ศรี.. เพิ่งย้ายออกมา ไม่อยากกลับไปทำที่เดิม... ขอลาออกไปทำที่อื่น.. ผมก็ไม่รั้ง จะไปก็ไป... เลยสร้างความแค้นให้ลูกน้องชุดนี้...

จากนั้นก็ทำงานกันเรื่อยๆ.. จนทุกอย่างเริ่มลงตัว... และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเอ็ฟเฟ็คอะไร.... เพราะเนื่องจากงานยุ่ง... เลยพลาดไม่ได้แคร์ความรู้สึกลูกน้อง...

จนถึงวันที่ 5 มีนาคม... จ่ายค่าแรงคนงานเสร็จ... แต่ผมบังคับให้ลูกน้องที่ไซท์(1) ทำงาน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกค่างวดงานที่คำนวณไว้... แต่อีกไซท์(2) ให้หยุด...

ผลที่ตามมา... กลายเป็นลูกน้องน้อยใจ(1) คงมีการคุยกับกลุ่มลูกน้องที่ย้ายไปไซท์งาน(2) และลาออกไป... ปลุกปั่นกันจนวันที่ 7 มีนาคม.. ผมเข้าไซท์งาน(1) ลูกน้องไปกันหมดไซท์งาน...

ตอนนี้เลยต้องวุ่นกว่าเดิม... เพราะต้องจัดทัพใหม่หมด... และยังต้องกลับไปเก็บงานเก่าๆที่ยังอยู่ระยะประกันอีก......

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า... อย่ามั่นใจตัวเองซะมากเกินไป... เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้จริงๆ... ลูกน้องเลี้ยงดูกันมา 10 กว่าปียังทิ้งเราได้... ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นอย่างที่เราวางแผน....

สมน้ำหน้าตัวเอง... และก็ได้แต่หวังว่าลูกน้องที่ทิ้งเราไป.. คงต้องได้ดี... แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...

คิดไม่ถึงเหมือนกัน...ว่าการจัดทัพไป... แต่กลายเป็นว่า.. ลูกน้องแต่ละคนอยากเป็นใหญ่กันหมด... จนทำให้งาน(องค์กร) สะดุดได้ขนาดนี้...

ตรงตัวสีแดงเลยครับ แสดงว่าคุณตั้วยังใจนิ่ง(ใจหิน)ยังไม่พอ ลูกน้องเลยคิดไปเองว่าตัวเองเก่ง สามารถยืนบนขาตัวเองได้... แต่ความจริงจะเหมือนความเชื่อได้หรือไม่นั่น ลูกน้องต้องพิสูจน์ตัวเองครับ...
หากใครไม่เคยปกครองคนก็นึกไม่ออกนะครับ คนมันเท่ากันหมดตามรัฐธรรมนูญน่ะใช่... ถ้าอยู่บนถนนหนทางกับประชาชนทั่วไป กับคนรู้จักทั่วไปน่ะเท่ากันแน่ แต่ถ้าเข้ามาทำงานเป็นลูกน้องของเราแล้วมันต้องไม่เท่ากัน การกินการอยู่ การนั่งการนอนต้องไม่เท่ากัน เท่ากันไม่ได้...

หากปล่อยให้เท่ากันแล้ววิธีคิดของลูกน้อง วิธีมองของลูกน้องจะเปลี่ยนไปหมด... ใครอยากเท่ากันต้องไม่ใช่ลูกน้อง หากปรับความคิดไม่ได้ก็ไม่ต้องเรียนวิชาจากเราครับ...
ลองดูกระทู้นี้ครับ... http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=82592.0 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=82592.0)

เรื่องนี้จิ๊บจ๊อยครับ เดี๋ยวเดียวก็ผ่านไปเหมือนสายลมแล้วครับ...

เสริมพี่สมชายนิดนึงครับ คุมลูกน้องทำงานกลางแจ้ง จังหวะโหมหนักๆทุกคนจะเหนื่อยเหมือนเพิ่งไปไถนามา10แปลง บ่อยครั้งที่แค่เราแสดงออกว่า"มองเห็น"จะช่วยกระตุ้นความภักดีได้มาก

เวลาทำดีเจ้านายรับรู้ เวลาอู้ก็ต้องให้มันรู้ว่า"กรูรู้"ด้วยครับ เจ้านายรู้แต่ไม่ถือสากับรู้แต่ไม่กล้าเอาเรื่องผลต่อเนื่องจะผิดกันลิบ

เวลาจะใช้คนงานไปช่วยงานของอีกร้านนึง ก็จะมีลิโพ/ตังค์ไปซื้อน้ำขวดใส่กระติกให้ทุกครั้ง แล้วเลิกกลับมาค่ำแค่ไหนมันจะยังได้เห็นผมแน่นอน

เคยมีคนขับ10ล้อโดนกระเบื้องหล่นใส่หัวแม่เท้า ผมลากมันมาล้างตีน+ใส่ยา พันแผลให้ ไปโรงพยาบาลแผลนั้นเย็บไป10กว่าเข็ม รุ่งเช้ามันเดินกระเผลกมาทำงาน ถามทำไมไม่พัก(วะ?)มันบอกยกของไม่ได้มันก็ยังขับรถให้ได้

คนขับรถพ่วงอีกคนโดนจับยาบ้า200เม็ด ลูกน้องที่ติดรถไป4คนฉี่ม่วงหมด .... ผมเอารถกับลูกน้องออกมาได้ แต่เจ้าคนขับผมฝากแม่ค้าส่งข้าว ฝากตำรวจส่งบุหรี่แล้วก็ปล่อยให้มันติดคุกไป ส่งคนไปบอกว่ากรูไม่เอามึงออกมาเด็ดๆ แต่เมียท้องแก่ของมึงกูจะส่งให้จนกว่ามึงจะหลุดออกมา.......ฝากลูกน้องเอาเงินเดือนไปให้เมียมันใช้เฉยๆแค่ไม่กี่เดือน มันออกมาได้ก็มาขอทำงานคืน

ไอ้ลูกน้อง4คนนั่น มีคนนึงพี่มันมาขอแบ่งลูกปืนผมไป มารู้อีกทีมันเอาไปปล้นพ่อค้ายา กระทืบเด็กส่งยาซะเละเลย อีก3คนยังอยู่ครบมาจนป่านนี้

เรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนี้ ทำให้คนงานเห็นเราเป็นนายจ้าง+พ่วงตำแหน่งจ่าฝูงเข้าไปด้วย มีผลในการใช้งานคนทำงานกลางแจ้งครับ  ;)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: cybernop -รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 03:03:36 AM
อ่านกระทู้นี้ ได้ความรู้ ได้ข้อคิดเพียบ  ::014::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 06:42:10 AM
ขอบคุณพี่จ้าวมากครับ... ::014::

ช่วยเสริมอีกนิดได้มั๊ยครับ... เกี่ยวกับเรารู้แต่ไม่ถือสา ควรแสดงออกยังไง... ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นครับ....


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 10, 2010, 07:44:07 AM
แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...
 

                     มันก็ไม่หวังกลับมาหรอก ...... เรานี่แหละที่ทุกข์ทั้งกายใจ ...... ต้องสลัดให้หลุดจากวังวนแห่งความคิด

                     


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มีนาคม 10, 2010, 07:49:59 AM
เห็นใจจริงๆ  สมัยนี้จะหาลูกจ้างหรือลูกน้องจริงใจยากมากครับ เพราะพวกเขาก็มีความฝันเหมือนกัน
ลองใช้ระบบ"แบ่งแยกและปกครอง" ดู  แล้วจ่ายงานสลับไปมา โดยอย่าให้ใครชำนาญงานมากหรือ
สนิทกับลูกน้องระดับล่างเกินไป  ควรเปิดใจรับฟังคำร้องทุกข์ และ ชมลูกน้องเมื่อทำงานดีด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:09:19 AM
 
อิอิอิ  ผมโดนมาเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ( ผมไม่ได้ทำ link ไปกระทู้ให้นะครับ  อายตัวเอง ^_^" )

ก็ได้กำลังใจจากพี่ๆเพื่อนๆในเวบฯนี้แหละครับไม่งั้นแย่

แถมปีเดียวกันผมเสียคุณแม่ไปอีก

ตอนนี้พยายามเผยแพร่ธรรมะ ศึกษาธรรมะ นั่งสมาธิ

ก็ได้พี่ GlockGlack กับ โอรสเยาวราช ( ต้น ) ในเวบฯนี้แหละครับที่ช่วยแนะนำ , สอน ผม

เกือบลืม  ผมเอาใจช่วยคุณ dignitua ครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:30:37 AM
ป๋มไม่มีปัญหาแบบนี้กั๊บ

ป๋มเป็นกี้ก้า ที่อยู่ล่างสุดของระบบนิเวศน์กั๊บ

มาถึงบ้าน ยังต้องเป็นกี้ก้าเมีย และเป็นม้าให้ลูกขี่กั๊บ   :~)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:35:18 AM
อันนี้เล่าเป็นอุทธาหรณ์นะครับ... สำหรับผู้รับเหมานะครับ...

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มย้ายงานใหม่... ประมาณพฤศจิกายน ปีที่แล้ว..

พอย้ายงานปุ๊ป(1)... ได้อีกงาน(2)ที่ดำเนินการเอาไว้กว่า 6 เดือนพอดี... เลยเริ่มจัดคนงาน โดยอีกไซท์งาน(2)ได้ให้รุ่นน้องที่เรียนมาด้วยกันช่วยดูแล และยังมีคนงานยังไม่มาก... แต่ก็ทำงานจนรอดปีใหม่มาได้... พอมกราคม เลยเอาคนงานจากไซท์ที่ย้ายทีแรก(1) ไปช่วยเสริมอีกไซท์งาน(2) แต่พอไปทำไม่ยอมฟังโฟร์แมน(รุ่นน้องผม) บอกว่ามาทำที่นี่ แต่ฟังคำสั่งผมคนเดียว.. โฟร์แมนเลยสั่งให้หยุดงาน.. (เพราะผสมกับคนที่มีอยู่แล้วไม่ได้.. และกลัวจะเสียการปกครอง..)  รอให้ผมมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน...

ผมฟังเหตุผล.. ก็เข้าใจโฟร์แมน เลยให้ลูกน้องกลับไปทำงานที่ไซท์ที่เพิ่งย้ายมา(1) แต่ด้วยศักดิ์ศรี.. เพิ่งย้ายออกมา ไม่อยากกลับไปทำที่เดิม... ขอลาออกไปทำที่อื่น.. ผมก็ไม่รั้ง จะไปก็ไป... เลยสร้างความแค้นให้ลูกน้องชุดนี้...

จากนั้นก็ทำงานกันเรื่อยๆ.. จนทุกอย่างเริ่มลงตัว... และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเอ็ฟเฟ็คอะไร.... เพราะเนื่องจากงานยุ่ง... เลยพลาดไม่ได้แคร์ความรู้สึกลูกน้อง...

จนถึงวันที่ 5 มีนาคม... จ่ายค่าแรงคนงานเสร็จ... แต่ผมบังคับให้ลูกน้องที่ไซท์(1) ทำงาน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกค่างวดงานที่คำนวณไว้... แต่อีกไซท์(2) ให้หยุด...

ผลที่ตามมา... กลายเป็นลูกน้องน้อยใจ(1) คงมีการคุยกับกลุ่มลูกน้องที่ย้ายไปไซท์งาน(2) และลาออกไป... ปลุกปั่นกันจนวันที่ 7 มีนาคม.. ผมเข้าไซท์งาน(1) ลูกน้องไปกันหมดไซท์งาน...

ตอนนี้เลยต้องวุ่นกว่าเดิม... เพราะต้องจัดทัพใหม่หมด... และยังต้องกลับไปเก็บงานเก่าๆที่ยังอยู่ระยะประกันอีก......

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า... อย่ามั่นใจตัวเองซะมากเกินไป... เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้จริงๆ... ลูกน้องเลี้ยงดูกันมา 10 กว่าปียังทิ้งเราได้... ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นอย่างที่เราวางแผน....

สมน้ำหน้าตัวเอง... และก็ได้แต่หวังว่าลูกน้องที่ทิ้งเราไป.. คงต้องได้ดี... แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...

คิดไม่ถึงเหมือนกัน...ว่าการจัดทัพไป... แต่กลายเป็นว่า.. ลูกน้องแต่ละคนอยากเป็นใหญ่กันหมด... จนทำให้งาน(องค์กร) สะดุดได้ขนาดนี้...
ทางสว่างข้างหน้ามี คนอยากทำงานก็เยอะ เรื่องอย่างนี้น่าเห็นใจครับ

เวลาสิบปีที่ผ่านมาคุณดูแลเขาดีแค่ไหน  หลายปีเข้ามันสะสมเป็นแค้น ที่เราดีเขาไม่คิดหรอกครับ

เอาใจช่วยให้คุณเจอคนงานที่มีความซื่อสัตย์ กว่านี้แต่อย่าลืมทุกคนต้องการ "ความก้าวหน้า"

ยิ่งเขาอยู่นานต้องดูแลเขาให้มากขึ้นครับ ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:17:08 AM
ตัวหัวหน้ามีรถกระบะวีโก้ขับคนละคัน ผมซื้อและผ่อนให้มา 4 ปี (2 คัน สำหรับชุดนี้) ซื้อเป็นชื่อลูกน้องเลย แต่อาศัยให้วิ่งไปทำที่โน่นที่นี่บ้าง ทอยของบ้าง ขนของบ้าง แล้วแต่กรณี... เหลืออีก 1 ปี คงสู้ต่อกันเอง...

ส่วนอีกสาเหตุนึงคือเมียตัวหัวหน้า... ผมเข้าไซท์ 10 ครั้ง เห็นลงงาน 2 ครั้ง แต่ลงค่าแรงทุกวัน... ผมเลยบอกว่ามันเอาเปรียบลูกพี่เกินไป ทำน้อยทำมากแล้วลงค่าแรงยังไม่ว่า ถือเป็นหูเป็นตา... แต่ไมใช่ไม่ทำงานแต่ลงค่าแรง.....


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:25:30 AM
ตัวหัวหน้ามีรถกระบะวีโก้ขับคนละคัน ผมซื้อและผ่อนให้มา 4 ปี (2 คัน สำหรับชุดนี้) ซื้อเป็นชื่อลูกน้องเลย  แต่อาศัยให้วิ่งไปทำที่โน่นที่นี่บ้าง ทอยของบ้าง ขนของบ้าง แล้วแต่กรณี... เหลืออีก 1 ปี คงสู้ต่อกันเอง...

ส่วนอีกสาเหตุนึงคือเมียตัวหัวหน้า... ผมเข้าไซท์ 10 ครั้ง เห็นลงงาน 2 ครั้ง แต่ลงค่าแรงทุกวัน... ผมเลยบอกว่ามันเอาเปรียบลูกพี่เกินไป ทำน้อยทำมากแล้วลงค่าแรงยังไม่ว่า ถือเป็นหูเป็นตา... แต่ไมใช่ไม่ทำงานแต่ลงค่าแรง.....

แสดงว่าไม่ได้ใช้สิทธิตรงนี้หักออกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทเลยครับ... ต้นทุนที่ตกแก่บริษัทจะเป็นราคารถสองคัน+30 เปอร์เซ็นต์นะครับ เพราะหากตัดค่าใช้จ่ายของบริษัทออกได้ไม่หมด แล้วราคารถจะกลายเป็นกำไรบริษัทที่โดน ภงด. เอาไปอีกหนึ่งต่อครับ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:33:23 AM
ตัวหัวหน้ามีรถกระบะวีโก้ขับคนละคัน ผมซื้อและผ่อนให้มา 4 ปี (2 คัน สำหรับชุดนี้) ซื้อเป็นชื่อลูกน้องเลย แต่อาศัยให้วิ่งไปทำที่โน่นที่นี่บ้าง ทอยของบ้าง ขนของบ้าง แล้วแต่กรณี... เหลืออีก 1 ปี คงสู้ต่อกันเอง...

ส่วนอีกสาเหตุนึงคือเมียตัวหัวหน้า... ผมเข้าไซท์ 10 ครั้ง เห็นลงงาน 2 ครั้ง แต่ลงค่าแรงทุกวัน... ผมเลยบอกว่ามันเอาเปรียบลูกพี่เกินไป ทำน้อยทำมากแล้วลงค่าแรงยังไม่ว่า ถือเป็นหูเป็นตา... แต่ไมใช่ไม่ทำงานแต่ลงค่าแรง.....
ส่วนตัวผมรับย่อย งานอลูมิเนียมโดนผู้รับเหมาโกงหน้าตาเฉย

เงินสองแสนทวงทีให้สามพันบ้าง ห้าพันบ้าง ก็ยังดีที่ได้บ้างดีกว่า o ::012::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:37:50 AM
เป็นกำลังใจครับ ในอดีต เคยโดนเหมือนกัน
แต่ผมใช้วิชามาร สอนงานให้ไม่หมด (สอนราวๆ80%ที่ต้องใช้ทั้งหมด)
ยังไง ต้องง้อเรา ให้รู้ซะมั่ง....(บังเอิญระบบงาน เนื้องานมันเอื้อ..)
สุดท้ายต้องยอมผม แต่ของผมไม่ใช่คนทำงานสนาม เป็นคนทำงานออฟฟิศ
ที่มีการศึกษาระดับหนึ่ง

ตอนนี้แต่งงาน ลาออกไปแล้ว... 

เป็นกำลังใจครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:40:18 AM
วงการก่อสร้างมันแคบครับท่าน dignitua คงจะต้องมาพบเจอกันในซักวันหนึ่ง ถ้าไม่ ซมซานกลับมาหา ก็คงต้องหานายใหม่ล่ะครับ ว่าแต่ ลูกน้องชุดนี้ ขัขวีโก้สีอะไร จะได้สั่งยาม ว่าถ้า วีโก้สีนี้กับ กท นี้มาติดต่องานอย่าให้เข้ามาในไซท์  ::001:: ::001:: ::001::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:41:04 AM
+ ให้เป็นกำลังใจครับ ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:44:49 AM
ขอบคุณพี่จ้าวมากครับ... ::014::

ช่วยเสริมอีกนิดได้มั๊ยครับ... เกี่ยวกับเรารู้แต่ไม่ถือสา ควรแสดงออกยังไง... ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นครับ....

 เห็นเดี๋ยวนั้น ด่าเดี๋ยวนั้น หัวเราะเดี๋ยวนั้นครับ ยิ้มแย้มแต่เสียงต้องเด็ดขาด ปรามให้อยู่ครับ  ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:56:35 AM
ด้วยความเคารพ นะครับ ผมกลับมองอีกมุมหนึ่ง
อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นลูกน้อง ผมจะพูดในมุมที่ตรงข้ามกับพี่ตั้วก็ได้
หัวหน้าที่ดี ต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ
ส่วนลูกน้องที่ดี ต้องแสดงความเป็นเจ้าของ และสามารถเป็นหูเป็นตาแทนหัวหน้าหรือเจ้าของได้
แต่ถ้าเราเป็นหัวหน้าที่ดีแล้ว เจอลูกน้องอย่างที่พี่ตั้วว่า ต้องกลับมาดูว่าเราดูแลลูกน้องได้ดีหรือเปล่า
(ดูแลดีหรือไม่ดีนั้น หมายถึงในความรู้สึกของลูกน้องนะครับ ไม่ใช่ในความรู้สึกของหัวหน้า)
แต่ถ้าเราไตร่ตรองแล้วว่าเราดูแลเขาดีแล้ว แต่กลับทำกับเราไม่ดี ทำใจอย่างเดียวครับ ( ช่างแ-่ มัน)
แต่ในส่วนของผม มันดันกลับกันกับของพี่ตั้วครับ ผมเป็นลูกน้อง แต่ทำดีเท่าไรก็ทำไม่ขึ้น
ออกหาลูกค้า ออกไปเก็บเงินเหนื่อยแทบตาย (บริษัทมีผมเป็น Sale อยู่คนเดียวครับ) แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ
ของ MD.ครับ สิ้นปี Bonus ออก 0.4 เท่าของเงินเดือน ไอ้พวกที่ทำงานอยู่ในห้องแอร์ฝ่าย product ซัดกันไป 0.8 เท่า
ตอนประชุมกรรมการ พิจารณา Bonus MD. ซัดไป 1 เท่าของเงินเดือน มันหน้าเศร้าไหมหล่ะ่ครับ
0.4 ของผม = 8,000
1  ของMD.= 120,000

ตอนออกมาเปิดบริษัท เคยบอกตรูว่า จะไม่ทิ้งตรู  :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Skydiver_รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:59:05 AM
คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจครับพี่


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: เห่าดง - รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:05:20 AM
ผู้รับเหมาที่มาสร้างบ้านผมก็เจอเคสคล้ายๆกันครับ ลูกน้องที่อยู่กันมาเกือบ 20 ปี ก็ยังทิ้งไป บ้านผมก็เลยเสร็จช้า งบบานปลาย งานไม่ค่อยเนียน เนื่องจากคนงานชุดใหม่ก็ใหม่เรื่องงานด้วย เราเจ้าของบ้านก็พูดไม่ออกเหมือนกัน



หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:07:55 AM
แฟนผม บอกว่าให้ผมออกมาทำเอง
ผมก็ยังไม่ออก กลัวว่าจะเป็นคนเนรคุณ คนหักหลัง
คนเลี้ยงไม่เชื่อง (มันมีความหมายเดียวกันกับ กบฎไหมครับ  ::005:: ::005:: ::005::)
รู้งี้ไปเป็นลูกน้องพี่ตั้วดีกว่า มีออกรถให้ด้วย  :VOV: :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: chew - รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:11:58 AM
คุณสมชายอ่านขาดจริงๆครับ...

เนื่องจากการที่ทำหลายที่... และบวกกับต้องวิ่งซื้อของเข้าไซท์งานด้วย เลยไม่ค่อยมีเวลามาเฝ้าแต่ละที่ได้ตลอดเวลาครับ.. เวลาเข้าไซท์ไหน ผมจะเห็นตลอดเวลาว่าแต่ละคนกำลังอู้งานกันอยู่... ผมเลยต้องปิดตาข้างเดียวในการทำงานอยู่ตลอดเวลา... จ้างใครมาดูงานแทนก็อู้  ผมมาทีค่อยกระตือรือร้น... แต่ที่ปล่อยกันมาตลอดเป็นเพราะผมไม่สามารถทำงานด้วยตัวคนเดียวได้เลย... ผมทำใจมาโดยตลอดครับ... เพียงแต่ที่เจ็บใจคือ.. ผมดูแลมากว่าสิบปี แต่ยังมาทิ้งกันได้ลงคอ.. คนที่อยู่ในจังหวัดผมที่รู้จักกันประนามลูกน้องผมกันหมด...

ผมแค่น้อยใจเฉยๆครับ.. ป้อนงานในขณะที่งานเริ่มหายากเข้าทุกที ไม่เคยมีซักวันที่ตกงาน  แต่พอย้ายไปผสมกลับกลุ่มใหม่ มาอ้างว่าเป็นสายตรงจากผมไม่ฟังใคร โดยไม่ได้คิดถึงว่าที่ผมให้ย้ายไปเพื่อช่วยเหลืองาน...

อาจเป็นนิมิตรหมายที่ดีก็ได้ครับ.. เริ่มจากคนใหม่.. จัดระบบใหม่.. เสียเวลาอีกนิด แต่คงจะดีขึ้นกว่าเดิมครับ...

หรือว่าผมต้องเป็น "โจโฉ" ซักที... หลังจากเป็น "เล่าปี่" มานานครับ...
คุณตั้ว  ไม่ต้องคิดมากครับ  สมัยอยู่บ้านนอก ผมเคยมีลูกน้องที่เรา  จ้าง  ปั้น  แม่เขาจ็บ -> เสีย ต่างเมือง  ลูกน้องผมลาไปเป็นอาทิตย์   พ่อแม่ผมไปเที่ยวหาน้องสาวที่บ้านนอก ครั้งเดียวในชีวิต  ผมต้องทิ้งตั๋วที่ซื้อมาเป็นเดือนไม่ได้ไปดูแลพวกเขาปล่อยให้น้องสาวดูแลแทน   ....มันแอบไปสมัครงานบริษัทเพื่อนผมทั้งๆที่ผมจะให้ขึ้นแทนผมอยู่แล้ว  เขาโทรมาขอ reference ผมก็ปล่อยเขาไป  ไม่กลั่นแกล้ง  รู้ความจำเป็นว่ามันต้องแทนแม่ดูแลน้องมันแล้วก็โกรธได้ไม่นาน  ผมได้เพื่อนใหม่ที่เก่งกว่ามาแทนคนก่อน  ปัจจุบัน  10 ปีแล้วก็ยังทำแทนผม และดีกว่าผม  ลูกน้องใหม่คุณตั้วอาจจะเป็นแบบคนใหม่ของผมก็ได้ครับ

เดี๋ยวหายๆไปสักพัก ก็กลับมาเป็นเพื่อนกันเองแหละครับ    ::002::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:18:30 AM
ด้วยความเคารพ นะครับ ผมกลับมองอีกมุมหนึ่ง
อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นลูกน้อง ผมจะพูดในมุมที่ตรงข้ามกับพี่ตั้วก็ได้
หัวหน้าที่ดี ต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ
ส่วนลูกน้องที่ดี ต้องแสดงความเป็นเจ้าของ และสามารถเป็นหูเป็นตาแทนหัวหน้าหรือเจ้าของได้
แต่ถ้าเราเป็นหัวหน้าที่ดีแล้ว เจอลูกน้องอย่างที่พี่ตั้วว่า ต้องกลับมาดูว่าเราดูแลลูกน้องได้ดีหรือเปล่า
(ดูแลดีหรือไม่ดีนั้น หมายถึงในความรู้สึกของลูกน้องนะครับ ไม่ใช่ในความรู้สึกของหัวหน้า)
แต่ถ้าเราไตร่ตรองแล้วว่าเราดูแลเขาดีแล้ว แต่กลับทำกับเราไม่ดี ทำใจอย่างเดียวครับ ( ช่างแ-่ มัน)
แต่ในส่วนของผม มันดันกลับกันกับของพี่ตั้วครับ ผมเป็นลูกน้อง แต่ทำดีเท่าไรก็ทำไม่ขึ้น
ออกหาลูกค้า ออกไปเก็บเงินเหนื่อยแทบตาย (บริษัทมีผมเป็น Sale อยู่คนเดียวครับ) แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ
ของ MD.ครับ สิ้นปี Bonus ออก 0.4 เท่าของเงินเดือน ไอ้พวกที่ทำงานอยู่ในห้องแอร์ฝ่าย product ซัดกันไป 0.8 เท่า
ตอนประชุมกรรมการ พิจารณา Bonus MD. ซัดไป 1 เท่าของเงินเดือน มันหน้าเศร้าไหมหล่ะ่ครับ
0.4 ของผม = 8,000
1  ของMD.= 120,000

ตอนออกมาเปิดบริษัท เคยบอกตรูว่า จะไม่ทิ้งตรู  :~) :~) :~)

กรณีนี้ MD คิดแปลกครับ หรือไม่ก็ถือดีว่ามีระบบงานที่ดีสามารถควบคุม Sale ได้อยู่หมัด... คือเชิงธุรกิจนั้นความยุติธรรมไม่มีจริงในโลกครับ ความยุติธรรมอยู่ที่ใครมีความหมาย(ทำเงินให้)แก่บริษัทมากกว่ากัน...

โดยปรกติ MD จะง้อ Sale ถึงแม้ว่าจะมีระบบงานที่ดีรองรับ(ฐานข้อมูลลูกค้า+CRM) เช่นให้กรอกรายละเอียดในบัตรข้อมูลลูกต้า, บันทึกรายละเอียดการเข้าพบลูกค้าแต่ละครั้ง, มีระบบแต้มสะสมให้ Sale พบลูกค้าใหม่/ลูกค้าเก่าตามสัดส่วน, นับจำนวน Visit ลูกค่าเก็บแต้มสะสม ฯลฯ... เพื่อหวังผลให้ได้ตัวเลขจบการขายได้ตามมาตรฐานอุตสาหกรรม(เช่นพบลูกค้า 100 รายจะจบการขายได้ 3 ราย)ก็ตาม...

แต่ถ้านั่งดูประวัติเจ้าของกิจการ จะรู้ว่า"ต้องเคยขายของมาก่อน"ทั้งนั้นครับ... ยกเว้นของบางอย่างที่ Sale ไม่ใช่ปัจจัยสำคัญสำหรับจบการขาย...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:27:34 AM
ขอบคุณพี่สมชายครับ MD. เขาคงมั่นใจว่าผมคงไม่ไปไหนมั้งครับ
ลูกค้าผมส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดครับ ลูกค้าผมอยู่ในภาคอีสาน
เป็นโรงพยาบาลครับ ยอดแต่ละเดือนเฉพาะที่ผมดูแลอยู่ ประมาณ เดือนละ 1 ล้านครับ
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ 80% เป็นลูกค้าที่มี Relationship กับ Sale มากกว่า จุดแข็งของบริษัทครับ
ลองงัด กับ MD.สักตั้งดีไหมครับ พี่สมชาย  ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:36:47 AM
ขอบคุณพี่สมชายครับ MD. เขาคงมั่นใจว่าผมคงไม่ไปไหนมั้งครับ
ลูกค้าผมส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดครับ ลูกค้าผมอยู่ในภาคอีสาน
เป็นโรงพยาบาลครับ ยอดแต่ละเดือนเฉพาะที่ผมดูแลอยู่ ประมาณ เดือนละ 1 ล้านครับ
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ 80% เป็นลูกค้าที่มี Relationship กับ Sale มากกว่า จุดแข็งของบริษัทครับ
ลองงัด กับ MD.สักตั้งดีไหมครับ พี่สมชาย  ::005:: ::005:: ::005::


หนับหนุนให้ลองงัดดูครับพี่  บอกMDว่าจะไปทำงานที่อื่นแล้วครับว่างั้น   ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:44:00 AM
ขอบคุณพี่สมชายครับ MD. เขาคงมั่นใจว่าผมคงไม่ไปไหนมั้งครับ
ลูกค้าผมส่วนใหญ่อยู่ต่างจังหวัดครับ ลูกค้าผมอยู่ในภาคอีสาน
เป็นโรงพยาบาลครับ ยอดแต่ละเดือนเฉพาะที่ผมดูแลอยู่ ประมาณ เดือนละ 1 ล้านครับ
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ 80% เป็นลูกค้าที่มี Relationship กับ Sale มากกว่า จุดแข็งของบริษัทครับ
ลองงัด กับ MD.สักตั้งดีไหมครับ พี่สมชาย  ::005:: ::005:: ::005::


นายสมชายไม่ยุให้ใครกบฎครับ... แฮ่ๆ...

แต่ที่แปลกคือ MD ของโรงบาล ทำไมเงินเดือนแค่นั้นเองนะครับ... โดยปรกติในโรงบาลจะมี MD เป็นหมอ, ซึ่งรายได้หมอจากค่า DF เฉพาะปวดหัวเป็นหวัดคัดจมูกน้ำมูกไหลอย่างเดียวได้รายละประมาณ 400 บาทขึ้นไปนะครับ เอาแค่วันละ 15 รายเช่น 7 คน+บ่าย 8 คนไม่ต้องรับเคสอื่นเช่นบริษัทตรวจร่างกายประจำปีตาม กม.แรงงาน, ตรวจร่างกายไปทำงานต่างประเทศก็ได้ตังค์ (15*400)*20(วัน) = 120,000 บาทแล้วนะครับ ซึ่งของจริงรายได้แยะกว่านี้แน่ๆ เพราะโรงบาลต่างจังหวัดมักประกันรายได้หมอที่หนึ่งแสนขึ้นครับ... แฮ่ๆ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:45:31 AM
อันนี้ว่าตามข้อเท็จจริงในธุรกิจโรงบาลนะครับ Sale ขาดแคลนมาก เพราะต้องมีความรู้ทางการแพทย์ด้วยครับ... หลายแห่งมักเป็นพยาบาลเก่ามาเรียนต่อบริหารฯ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:56:52 AM
หมายถึงลูกค้าเป็น รพ.ครับ ไม่ใช่ ที่ทำงานเป็น รพ.


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:59:02 AM
บริษัทฯเป็นศูนย์แล็บครับ พี่สมชาย
ลูกค้าคือโรงพยาบาล คลินิค ที่ส่งแล็บ มาตรวจกับผมครับ

              ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 11:00:03 AM
มันเหนื่อยคนละแบบครับ... ในกรณีผม ลูกน้องจะเหนื่อยตอนงานโครงสร้าง แต่ตอนนี้ก็เหนื่อยน้อยลงเพราะผมใช้เครนมาช่วย ส่วนงานสถาปัตย์ ก็จะเหนื่อยน้อยลง...

ส่วนผมจะเหนื่อยอีกอย่าง... แค่กว่าจะได้แต่ละโครงการณ์ ต้องไปช่วยหาทำเล ต้องหาความลับในการที่ถนนเส้นไหนจะขยาย ห้างไหนจะมาเปิด กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างจะได้ผลิตบ้านชนิดไหน แนวโน้มเศรษกิจเป็นอย่างไร กำไรจะได้เท่าไหร่ ซื้อที่ดินกับใคร บางทีใช้เวลากว่าครึ่งปี กว่าจะได้งาน...

แต่ทั้งหมดเจ้าของโครงการณ์รวยอย่างเดียวนะครับ... ไม่ใช่ผม.... ผมมีหน้าที่ทำให้เค้ารวยครับ.... :D


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 11:02:36 AM
ผมมีหน้าที่ทำให้เค้ารวยครับ.... Cheesy

ชอบประโยคนี้ ของพี่ตั้วจัง หัวอกเดียวกัน  :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 11:24:03 AM
สำหรับผม ตอนมีผลประโยชน์ หรือ เค้ก มา 1 ก้อน ผมจะได้กินเป็นคนท้ายๆเสมอ ทั้งๆที่ผมเป็นคนหาเค้กก่อนนี้มา  :~) :~) :~)
               แต่ถ้ามีปัญหาให้แก้ไข หรือมี ขี้ มา 1 ก้อน ผมจะเป็นได้คนเก็บคนแรกๆ ทั้งๆที่ผมไม่ใช้คนหามาครับ     ::013:: ::013:: ::013::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 12:21:55 PM
สำหรับผม ตอนมีผลประโยชน์ หรือ เค้ก มา 1 ก้อน ผมจะได้กินเป็นคนท้ายๆเสมอ ทั้งๆที่ผมเป็นคนหาเค้กก่อนนี้มา  :~) :~) :~)
               แต่ถ้ามีปัญหาให้แก้ไข หรือมี ขี้ มา 1 ก้อน ผมจะเป็นได้คนเก็บคนแรกๆ ทั้งๆที่ผมไม่ใช้คนหามาครับ     ::013:: ::013:: ::013::


คิก คิก... ::005::



........ก๊ากกๆๆๆๆ  ::007::  ::007::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 01:44:21 PM
ขำไปเถ..อะ ซักวันพี่ตั้ว จะเป็นแบบผม ::001:: ::001:: ::001::
พ้มเจ็บมาเยอะ  ::004:: ::004:: :~)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 10, 2010, 02:11:44 PM
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 02:20:48 PM
+1 ให้กำลังใจครับคุณ Jane1 ไม่เศร้าน๊า.า.. ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 02:36:30 PM
ตอนนี้ไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่แล้วครับพี่ตั้ว
เพราะเริ่มคิดที่จะเป็นนายตัวเองแล้วครับ
ใครทำใครได้ ชีวิตเรา เรากำหนดเองครับ
ขอให้เป็น สัมมาอาชีวะ(เลี้ยงชีพชอบ)เป็นพอครับ  ::014:: ::014:: ::014::
+1 คืนพี่ตั้วครับ 

              ขอบคุณครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 10, 2010, 03:37:54 PM
ตอนนี้ไม่ค่อยซีเรียสเท่าไหร่แล้วครับพี่ตั้ว
เพราะเริ่มคิดที่จะเป็นนายตัวเองแล้วครับ
ใครทำใครได้ ชีวิตเรา เรากำหนดเองครับ
ขอให้เป็น สัมมาอาชีวะ(เลี้ยงชีพชอบ)เป็นพอครับ  ::014:: ::014:: ::014::
+1 คืนพี่ตั้วครับ 

              ขอบคุณครับ  ::002::


Sale คือผู้กุมชะตาของธุรกิจครับ... เย้...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 03:59:49 PM
เออ พี่สมชายครับ ผมกำลังจะเป็นเจ้าของธุรกิจแล้ว
ผมจะเริ่มยังไงก่อนอะครับ... ??? ??? ???
  คริ..คริ..ถ้าจำไม่ผิดมี คนแถวๆนี้รับปรึกษาเกี่ยวกับนโยบายทางการตลาด
  Strategic plan หรือ Action plan อยู่นะ คุ้นๆว่าเคยอ่านเจอ ตอนกระทู้แนะนำตัว  :VOV: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ มีนาคม 10, 2010, 04:00:12 PM
มันเหนื่อยคนละแบบครับ... ในกรณีผม ลูกน้องจะเหนื่อยตอนงานโครงสร้าง แต่ตอนนี้ก็เหนื่อยน้อยลงเพราะผมใช้เครนมาช่วย ส่วนงานสถาปัตย์ ก็จะเหนื่อยน้อยลง...

ส่วนผมจะเหนื่อยอีกอย่าง... แค่กว่าจะได้แต่ละโครงการณ์ ต้องไปช่วยหาทำเล ต้องหาความลับในการที่ถนนเส้นไหนจะขยาย ห้างไหนจะมาเปิด กลุ่มลูกค้าเป็นอย่างจะได้ผลิตบ้านชนิดไหน แนวโน้มเศรษกิจเป็นอย่างไร กำไรจะได้เท่าไหร่ ซื้อที่ดินกับใคร บางทีใช้เวลากว่าครึ่งปี กว่าจะได้งาน...

แต่ทั้งหมดเจ้าของโครงการณ์รวยอย่างเดียวนะครับ... ไม่ใช่ผม.... ผมมีหน้าที่ทำให้เค้ารวยครับ.... :D


      ถ้าแบบนี้ผมแนะนำให้เปลี่ยนอาชีพครับ   เปิดบริษัทที่ปรึกษา ผมว่าไปรุ่งแน่ครับไม่เหนื่อยกับลูกน้องด้วย  ปัญหาบุคลากรเป็นปัญหาโลกแตกมีทุกที่ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: KCharng ที่ มีนาคม 10, 2010, 04:22:10 PM
อ่านแล้วเหนื่อยแทนจริงๆครับ

ขอเข้ามาเก็บความรู้เรื่องการบริหารบุคคลากรนะครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: K@RN # รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 04:39:15 PM
อันนี้เล่าเป็นอุทธาหรณ์นะครับ... สำหรับผู้รับเหมานะครับ...

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มย้ายงานใหม่... ประมาณพฤศจิกายน ปีที่แล้ว..

พอย้ายงานปุ๊ป(1)... ได้อีกงาน(2)ที่ดำเนินการเอาไว้กว่า 6 เดือนพอดี... เลยเริ่มจัดคนงาน โดยอีกไซท์งาน(2)ได้ให้รุ่นน้องที่เรียนมาด้วยกันช่วยดูแล และยังมีคนงานยังไม่มาก... แต่ก็ทำงานจนรอดปีใหม่มาได้... พอมกราคม เลยเอาคนงานจากไซท์ที่ย้ายทีแรก(1) ไปช่วยเสริมอีกไซท์งาน(2) แต่พอไปทำไม่ยอมฟังโฟร์แมน(รุ่นน้องผม) บอกว่ามาทำที่นี่ แต่ฟังคำสั่งผมคนเดียว.. โฟร์แมนเลยสั่งให้หยุดงาน.. (เพราะผสมกับคนที่มีอยู่แล้วไม่ได้.. และกลัวจะเสียการปกครอง..)  รอให้ผมมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน...

ผมฟังเหตุผล.. ก็เข้าใจโฟร์แมน เลยให้ลูกน้องกลับไปทำงานที่ไซท์ที่เพิ่งย้ายมา(1) แต่ด้วยศักดิ์ศรี.. เพิ่งย้ายออกมา ไม่อยากกลับไปทำที่เดิม... ขอลาออกไปทำที่อื่น.. ผมก็ไม่รั้ง จะไปก็ไป... เลยสร้างความแค้นให้ลูกน้องชุดนี้...

จากนั้นก็ทำงานกันเรื่อยๆ.. จนทุกอย่างเริ่มลงตัว... และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเอ็ฟเฟ็คอะไร.... เพราะเนื่องจากงานยุ่ง... เลยพลาดไม่ได้แคร์ความรู้สึกลูกน้อง...

จนถึงวันที่ 5 มีนาคม... จ่ายค่าแรงคนงานเสร็จ... แต่ผมบังคับให้ลูกน้องที่ไซท์(1) ทำงาน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกค่างวดงานที่คำนวณไว้... แต่อีกไซท์(2) ให้หยุด...

ผลที่ตามมา... กลายเป็นลูกน้องน้อยใจ(1) คงมีการคุยกับกลุ่มลูกน้องที่ย้ายไปไซท์งาน(2) และลาออกไป... ปลุกปั่นกันจนวันที่ 7 มีนาคม.. ผมเข้าไซท์งาน(1) ลูกน้องไปกันหมดไซท์งาน...

ตอนนี้เลยต้องวุ่นกว่าเดิม... เพราะต้องจัดทัพใหม่หมด... และยังต้องกลับไปเก็บงานเก่าๆที่ยังอยู่ระยะประกันอีก......

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า... อย่ามั่นใจตัวเองซะมากเกินไป... เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้จริงๆ... ลูกน้องเลี้ยงดูกันมา 10 กว่าปียังทิ้งเราได้... ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นอย่างที่เราวางแผน....

สมน้ำหน้าตัวเอง... และก็ได้แต่หวังว่าลูกน้องที่ทิ้งเราไป.. คงต้องได้ดี... แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...

คิดไม่ถึงเหมือนกัน...ว่าการจัดทัพไป... แต่กลายเป็นว่า.. ลูกน้องแต่ละคนอยากเป็นใหญ่กันหมด... จนทำให้งาน(องค์กร) สะดุดได้ขนาดนี้...

กบเพิ่งโทรมาเล่าให้ฟังเมื่อวานนี้เองพี่


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 10, 2010, 05:28:11 PM
กลับไปอ่านตั้งแต่หน้าแรก กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพี่ตั้วไป
แต่ถ้ากลับไปวิเคราะห์ ดีดี คนเป็นลูกน้องก็มีปัญหา อยากเป็นเจ้าของ
อยากได้โน่น อยากได้นี่ คนเป็นหัวหน้าหรือเจ้าของธุรกิจ ก็มีปัญหาเรื่องลูกน้อง
ลูกน้องทำงานไม่คุ้ม อู้งาน ไม่จงรักภักดี ถ้าวันใดวันหนึ่ง ผมเป็นหัวหน้าหรือ
เจ้าของกิจการ ก็คงมีปัญหาเหมือนพี่ตั้วเช่นกัน
มันมีทางออก สำหรับปัญหานี้ไหมจ๊ะ พี่สมชาย(ฮา) ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มีนาคม 10, 2010, 05:55:39 PM
ขอบคุณพี่จ้าวมากครับ... ::014::

ช่วยเสริมอีกนิดได้มั๊ยครับ... เกี่ยวกับเรารู้แต่ไม่ถือสา ควรแสดงออกยังไง... ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นครับ....

ผมจะใช้หมอนั่นไปซื้อโค้ก2ลิตร น้ำแข็ง10บาทมาใส่กระติกให้เพื่อนๆในชุดกินกันครับ....สลับกับให้มันอยู่โยงเฝ้าโกดัง กวาดโกดัง/ขัดห้องน้ำคนงาน แล้วแต่อารมณ์ พวกคนงานอื่นๆมันก็เฮ/เยาะเย้ยกันไป....แต่ผมจะไม่ด่า ไม่พูดว่าอะไร เรียกไปใช้ทำนองนั้นพวกคนงานมันก็รู้ตัวแล้ว

มีขู่เล่นๆเหมือนกัน ว่าวันไหนกรูหมั่นไส้ขึ้นมาจะใช้ให้ไปล้างรถพ่วง แต่ยังไม่เคยเอาจริงซักที   ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ มีนาคม 10, 2010, 06:39:43 PM
ผมใช้วิธี  ดีใจหาย .. ร้ายสุดโต่ง ครับ

บทจะดีก็ดีจนเพื่อนลูกน้องไปกระซิบบอกลูกน้องว่า กูขอมาทำงานด้วยได้ไหม
เศษเงินร้อยสองร้อย ลูกน้องมาตอดขอได้ทุกวัน

บทร้ายก็ร้ายจน ถ้าไม่เคยดีด้วยมาก่อน ลูกน้องทิ้งงานเดี๋ยวนั้น แน่นอน ...

ช่วงรัดเข็ดขัดก็รัดด้วยกัน บอกให้รู้ ... ช่วงอู้ฟู่ก็ต้องกระเป๋าตุงทั้งลูกพี่ลูกน้อง เช่นกัน


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: chonthai-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 06:58:12 PM
หัวอกเดียวกันเลยครับ เจอมาเหมือนๆกัน ให้กำลังใจน๊ะครับขอให้ปัญหาผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ขอให้มีสติ และกำลังใจในการก้าวต่อไปครับ ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:33:26 PM
อันนี้เล่าเป็นอุทธาหรณ์นะครับ... สำหรับผู้รับเหมานะครับ...

เรื่องเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เริ่มย้ายงานใหม่... ประมาณพฤศจิกายน ปีที่แล้ว..

พอย้ายงานปุ๊ป(1)... ได้อีกงาน(2)ที่ดำเนินการเอาไว้กว่า 6 เดือนพอดี... เลยเริ่มจัดคนงาน โดยอีกไซท์งาน(2)ได้ให้รุ่นน้องที่เรียนมาด้วยกันช่วยดูแล และยังมีคนงานยังไม่มาก... แต่ก็ทำงานจนรอดปีใหม่มาได้... พอมกราคม เลยเอาคนงานจากไซท์ที่ย้ายทีแรก(1) ไปช่วยเสริมอีกไซท์งาน(2) แต่พอไปทำไม่ยอมฟังโฟร์แมน(รุ่นน้องผม) บอกว่ามาทำที่นี่ แต่ฟังคำสั่งผมคนเดียว.. โฟร์แมนเลยสั่งให้หยุดงาน.. (เพราะผสมกับคนที่มีอยู่แล้วไม่ได้.. และกลัวจะเสียการปกครอง..)  รอให้ผมมาก่อน แล้วค่อยคุยกัน...

ผมฟังเหตุผล.. ก็เข้าใจโฟร์แมน เลยให้ลูกน้องกลับไปทำงานที่ไซท์ที่เพิ่งย้ายมา(1) แต่ด้วยศักดิ์ศรี.. เพิ่งย้ายออกมา ไม่อยากกลับไปทำที่เดิม... ขอลาออกไปทำที่อื่น.. ผมก็ไม่รั้ง จะไปก็ไป... เลยสร้างความแค้นให้ลูกน้องชุดนี้...

จากนั้นก็ทำงานกันเรื่อยๆ.. จนทุกอย่างเริ่มลงตัว... และผมก็ไม่ได้คิดว่าจะมีเอ็ฟเฟ็คอะไร.... เพราะเนื่องจากงานยุ่ง... เลยพลาดไม่ได้แคร์ความรู้สึกลูกน้อง...

จนถึงวันที่ 5 มีนาคม... จ่ายค่าแรงคนงานเสร็จ... แต่ผมบังคับให้ลูกน้องที่ไซท์(1) ทำงาน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการเบิกค่างวดงานที่คำนวณไว้... แต่อีกไซท์(2) ให้หยุด...

ผลที่ตามมา... กลายเป็นลูกน้องน้อยใจ(1) คงมีการคุยกับกลุ่มลูกน้องที่ย้ายไปไซท์งาน(2) และลาออกไป... ปลุกปั่นกันจนวันที่ 7 มีนาคม.. ผมเข้าไซท์งาน(1) ลูกน้องไปกันหมดไซท์งาน...

ตอนนี้เลยต้องวุ่นกว่าเดิม... เพราะต้องจัดทัพใหม่หมด... และยังต้องกลับไปเก็บงานเก่าๆที่ยังอยู่ระยะประกันอีก......

ที่เล่าให้ฟังก็เพราะว่า... อย่ามั่นใจตัวเองซะมากเกินไป... เราไม่สามารถบังคับจิตใจใครได้จริงๆ... ลูกน้องเลี้ยงดูกันมา 10 กว่าปียังทิ้งเราได้... ดังนั้นแล้วไม่มีอะไรเลยที่จะเป็นอย่างที่เราวางแผน....

สมน้ำหน้าตัวเอง... และก็ได้แต่หวังว่าลูกน้องที่ทิ้งเราไป.. คงต้องได้ดี... แต่อย่าหวังจะกลับมา... เพราะผมคงไม่รับเข้าทำงานอีกแล้ว... เล่นตัดแขนตัดขากันเลย...

คิดไม่ถึงเหมือนกัน...ว่าการจัดทัพไป... แต่กลายเป็นว่า.. ลูกน้องแต่ละคนอยากเป็นใหญ่กันหมด... จนทำให้งาน(องค์กร) สะดุดได้ขนาดนี้...

อย่าท้อแท้ครับ ผมชื่อว่ายังมีคนเก่งและคนดี มีความซื่อสัตย์ มาร่วมงานกับคุณอีกครับ
ไม่ได้อยู่ในสายงานเดียวกับคุณตั้วนะครับ ผมเคยเป็นลูกจ้างไม่น้อยว่า 12 ปี ทำงานแค่บริษัทเดียวมีหัวหน้าเพียงคนเดียว ผมลาออกมาทำธุรกิจตัวเองย่างเข้าปีที่ 6 แล้ว ปัจจุบันนายเก่า (หัวหน้า) ยังระลึกถึงและเมตตา ติดต่อผมอยู่เสมอ ทุกวันปีใหม่ จะมีซองขาวข้างในมีธนบัตร จำนวนเงินเล็กๆน้อย ฝากถึงลูกชายผมเสมอ

ในโลกของธุรกิจเป็นเรื่องของผลประโยชน์ แต่ระหว่างนาย เพื่อน ลูกน้อง เป็นเรื่องของจิตใจ ครับ จิตมนุษย์นั้นไซร้ ยากแท้ หยั่งถึง ครับ

+ 1 ให้เป็นกำลังใจ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:35:48 PM
เจ้ากบนั่นแหล่ะ... ต้นเรื่องเลย แต่ตอนนี้พี่เฉยๆแล้ว... คิดว่าวันข้างหน้าน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม... นานๆทีล้างไพ่ซะทีก็ดีเหมือนกันครับ...

ปล. อย่าไปบอกมันล่ะว่าพี่เอาเรื่องนี้มาเล่าในเวป... พี่น่ะรักน้องๆทุกคนเหมือนเดิมครับ ;D

........แต่ถ้าน้องไม่รักพี่ล่ะก็......  :<<


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:49:54 PM
ขอบคุณมากๆครับคุณซิก สุราษฎร์... +ทอนคืนครับ... ท่านช.ลิ้วเฮียง ด้วยครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 08:54:39 PM
ขอบคุณพี่จ้าวมากครับ... ::014::

ช่วยเสริมอีกนิดได้มั๊ยครับ... เกี่ยวกับเรารู้แต่ไม่ถือสา ควรแสดงออกยังไง... ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นครับ....

 เห็นเดี๋ยวนั้น ด่าเดี๋ยวนั้น หัวเราะเดี๋ยวนั้นครับ ยิ้มแย้มแต่เสียงต้องเด็ดขาด ปรามให้อยู่ครับ  ;D

ลูกน้องไม่งงร๋อครับ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 09:32:35 PM
กลับไปอ่านตั้งแต่หน้าแรก กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพี่ตั้วไป
แต่ถ้ากลับไปวิเคราะห์ ดีดี คนเป็นลูกน้องก็มีปัญหา อยากเป็นเจ้าของ
อยากได้โน่น อยากได้นี่ คนเป็นหัวหน้าหรือเจ้าของธุรกิจ ก็มีปัญหาเรื่องลูกน้อง
ลูกน้องทำงานไม่คุ้ม อู้งาน ไม่จงรักภักดี ถ้าวันใดวันหนึ่ง ผมเป็นหัวหน้าหรือ
เจ้าของกิจการ ก็คงมีปัญหาเหมือนพี่ตั้วเช่นกัน
มันมีทางออก สำหรับปัญหานี้ไหมจ๊ะ พี่สมชาย(ฮา) ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
  ::014:: ::014:: ::014::

เรียนตรงๆนะครับ.. คุณ jane1 น่าจะเป็นผู้นำที่ดีกว่าผม...

บางครั้งผมมัวแต่คิดว่าต้องมีงานเพื่อไม่ให้ลูกน้องทิ้งเราไป... จนไม่ได้สังเกตุเห็นถึงความต้องการของลูกน้อง...

เรื่องนี้อาจเป็นผมที่ผิดจริงๆ... ที่นำลูกน้องไปผสมกับงานใหม่.... เพราะมัวแต่คิดว่าตรงไหนคนไม่พอ ต้องเอาคนไปเพิ่ม จนลืมนึกถึงจิตใจของลูกน้องที่อยู่กับเรามานาน แต่เรากลับไม่ง้อเค้าเลยตอนเค้าออกไป...

ไม่มีทางที่ลูกน้องจะไปจากผมจากที่อยู่กันมา 10 กว่าปี... ถ้าผมไม่ทำอะไรผิด...

ผมมัวแต่คิดถึงผลลัพธ์มากเกินไป... จนทำให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้....

ลูกน้องไม่ได้ทรยศผมหรอก... ผมนั่นแหละ... ทรยศจิตใจลูกน้อง...

ถ้าไม่ได้โพสต์ความในใจออกมา... ผมก็จะไม่สามารถคิดถึงมุมมองอย่างนี้ได้เลย...

ขอบคุณทุกความเห็น... และกำลังใจครับ...

ผมคิดถึงลูกน้องของผมจัง........ :-\


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ช.ลิ้วเฮียง ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:32:04 PM
กลับไปอ่านตั้งแต่หน้าแรก กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามกับพี่ตั้วไป
แต่ถ้ากลับไปวิเคราะห์ ดีดี คนเป็นลูกน้องก็มีปัญหา อยากเป็นเจ้าของ
อยากได้โน่น อยากได้นี่ คนเป็นหัวหน้าหรือเจ้าของธุรกิจ ก็มีปัญหาเรื่องลูกน้อง
ลูกน้องทำงานไม่คุ้ม อู้งาน ไม่จงรักภักดี ถ้าวันใดวันหนึ่ง ผมเป็นหัวหน้าหรือ
เจ้าของกิจการ ก็คงมีปัญหาเหมือนพี่ตั้วเช่นกัน
มันมีทางออก สำหรับปัญหานี้ไหมจ๊ะ พี่สมชาย(ฮา) ช่วยชี้แนะหน่อยครับ
  ::014:: ::014:: ::014::

เรียนตรงๆนะครับ.. คุณ jane1 น่าจะเป็นผู้นำที่ดีกว่าผม...

บางครั้งผมมัวแต่คิดว่าต้องมีงานเพื่อไม่ให้ลูกน้องทิ้งเราไป... จนไม่ได้สังเกตุเห็นถึงความต้องการของลูกน้อง...

เรื่องนี้อาจเป็นผมที่ผิดจริงๆ... ที่นำลูกน้องไปผสมกับงานใหม่.... เพราะมัวแต่คิดว่าตรงไหนคนไม่พอ ต้องเอาคนไปเพิ่ม จนลืมนึกถึงจิตใจของลูกน้องที่อยู่กับเรามานาน แต่เรากลับไม่ง้อเค้าเลยตอนเค้าออกไป...

ไม่มีทางที่ลูกน้องจะไปจากผมจากที่อยู่กันมา 10 กว่าปี... ถ้าผมไม่ทำอะไรผิด...

ผมมัวแต่คิดถึงผลลัพธ์มากเกินไป... จนทำให้เหตุการณ์เป็นอย่างนี้....

ลูกน้องไม่ได้ทรยศผมหรอก... ผมนั่นแหละ... ทรยศจิตใจลูกน้อง...

ถ้าไม่ได้โพสต์ความในใจออกมา... ผมก็จะไม่สามารถคิดถึงมุมมองอย่างนี้ได้เลย...

ขอบคุณทุกความเห็น... และกำลังใจครับ...

ผมคิดถึงลูกน้องของผมจัง........ :-\
::002:: ::002:: ::002::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: K@RN # รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:36:25 PM
เจ้ากบนั่นแหล่ะ... ต้นเรื่องเลย แต่ตอนนี้พี่เฉยๆแล้ว... คิดว่าวันข้างหน้าน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม... นานๆทีล้างไพ่ซะทีก็ดีเหมือนกันครับ...

ปล. อย่าไปบอกมันล่ะว่าพี่เอาเรื่องนี้มาเล่าในเวป... พี่น่ะรักน้องๆทุกคนเหมือนเดิมครับ ;D

........แต่ถ้าน้องไม่รักพี่ล่ะก็......  :<<

อ่าวหรอพี่เรื่องราวเป็นไงพรุ่งนี้โทรหาผมด้วยครับจะได้เข้าใจ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 10, 2010, 10:56:40 PM
เจ้ากบนั่นแหล่ะ... ต้นเรื่องเลย แต่ตอนนี้พี่เฉยๆแล้ว... คิดว่าวันข้างหน้าน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม... นานๆทีล้างไพ่ซะทีก็ดีเหมือนกันครับ...

ปล. อย่าไปบอกมันล่ะว่าพี่เอาเรื่องนี้มาเล่าในเวป... พี่น่ะรักน้องๆทุกคนเหมือนเดิมครับ ;D

........แต่ถ้าน้องไม่รักพี่ล่ะก็......  :<<

อ่าวหรอพี่เรื่องราวเป็นไงพรุ่งนี้โทรหาผมด้วยครับจะได้เข้าใจ

ก็ตามเนื้อเรื่องนั้นแหล่ะ... แต่กบมันฮาร์ดคอร์กว่าพี่... พี่โอ๋คนงาน.. แต่กบมันโหด... แต่ก็ดีแล้ว... ไว้วันพรุ่งนี้พี่โทรไปคุยครับ....


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มีนาคม 10, 2010, 11:02:41 PM
อ่านของคุณ jane1 แล้วทำไมมันตรงข้ามกับบริษัทที่ผมเคยอยู่มาหว่า  ของผม sale ค่อนข้างจะอิสระในการทำงาน จนเป็นที่อิจฉาของแผนกอื่น ไม่ว่าจะเข้าออกออฟฟิทไม่ต้องลงเวลา สามารถตัดสินใจใช้งบรับรองลูกค้าได้ทุกสถานที่ร้านอาหาร ผับ บาร์ อาบน้ำ  มีค่าน้ำมัน มีมือถือ(สมัยก่อนมันคือสัญญลักษณ์ของคนรวย)   มีค่าคอม มีโบนัส ได้รับการปฎิบัติต่างๆ สนิทสนมจากผู้ใหญ่เป็นอย่างดี


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ มีนาคม 11, 2010, 06:25:58 AM
เจ้านายเก่าผมคนหนึ่ง เป็นทั้งนาย ทั้งพี่ ทั้งครู

ท่านสอนไว้เรื่องหนึ่งครับ...

ท่านว่าอย่าเป็นเจ้านายกับลูกน้อง ให้เราอยู่กันอย่างพี่กับน้อง...

แม้ท่านก็ไม่เคยทำตัวเป็นนาย....แต่ท่านเป็นนายเก่าคนเดียวที่ผมเคารพ..



หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 11, 2010, 08:22:11 AM
ขอบคุณพี่จ้าวมากครับ... ::014::

ช่วยเสริมอีกนิดได้มั๊ยครับ... เกี่ยวกับเรารู้แต่ไม่ถือสา ควรแสดงออกยังไง... ส่วนใหญ่ผมจะแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นครับ....

 เห็นเดี๋ยวนั้น ด่าเดี๋ยวนั้น หัวเราะเดี๋ยวนั้นครับ ยิ้มแย้มแต่เสียงต้องเด็ดขาด ปรามให้อยู่ครับ  ;D

ลูกน้องไม่งงร๋อครับ...

ไม่งงหรอกครับ รู้ๆกันอยู่ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง
ทำให้รู้ทางกัน แค่นั้นเอง


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 11, 2010, 08:41:55 AM
อ่านของคุณ jane1 แล้วทำไมมันตรงข้ามกับบริษัทที่ผมเคยอยู่มาหว่า  ของผม sale ค่อนข้างจะอิสระในการทำงาน จนเป็นที่อิจฉาของแผนกอื่น ไม่ว่าจะเข้าออกออฟฟิทไม่ต้องลงเวลา สามารถตัดสินใจใช้งบรับรองลูกค้าได้ทุกสถานที่ร้านอาหาร ผับ บาร์ อาบน้ำ  มีค่าน้ำมัน มีมือถือ(สมัยก่อนมันคือสัญญลักษณ์ของคนรวย)   มีค่าคอม มีโบนัส ได้รับการปฎิบัติต่างๆ สนิทสนมจากผู้ใหญ่เป็นอย่างดี

ตอนนี้ ทางMD.ให้ผมมา set ค่าตอบแทน Commission  ใหม่แล้วครับ เพราะผมทิ้งทวนไปว่า
ถ้าผมทำ ผมต้องได้ ถ้าไม่ได้ ผมไม่ทำครับ  แล้วเขาถามผมว่า อยากจะออกหรอ
ผมตอบไปว่าผมยังไม่ออกหรอกครับ แต่ถ้าเลือกได้ผมอยากทำธุรกิจ ของผมเองดีกว่า
จะไปทำอาชีพอะไร ก็ได้ ( ขายของ ขายก๋วยเตี๋ยว ,เกษตรกร ) ดีกว่าไปทำให้คนอื่นเขารวยครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 11, 2010, 10:27:35 AM
ดีใจด้วยครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 11, 2010, 11:09:53 AM

เพิ่มเงินให้คนเก่า รู้งาน ทำแทนได้

ดีกว่า ไปเริ่มกับคนใหม่ ที่ต้องเสียเวลา เทรนอีกนาน

ค่าใช้จ่าย กับ รายรับ ไม่คุ้มกัน....


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 11, 2010, 11:12:14 AM

แต่ รายการนี้ อาจจะต้องมีคนใหม่ ไปร่วมด้วย ก็ได้

เรียกว่า ตัวแทน


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: K@RN # รักในหลวง ที่ มีนาคม 11, 2010, 04:48:14 PM
เจ้ากบนั่นแหล่ะ... ต้นเรื่องเลย แต่ตอนนี้พี่เฉยๆแล้ว... คิดว่าวันข้างหน้าน่าจะดีขึ้นกว่าเดิม... นานๆทีล้างไพ่ซะทีก็ดีเหมือนกันครับ...

ปล. อย่าไปบอกมันล่ะว่าพี่เอาเรื่องนี้มาเล่าในเวป... พี่น่ะรักน้องๆทุกคนเหมือนเดิมครับ ;D

........แต่ถ้าน้องไม่รักพี่ล่ะก็......  :<<

อ่าวหรอพี่เรื่องราวเป็นไงพรุ่งนี้โทรหาผมด้วยครับจะได้เข้าใจ

ก็ตามเนื้อเรื่องนั้นแหล่ะ... แต่กบมันฮาร์ดคอร์กว่าพี่... พี่โอ๋คนงาน.. แต่กบมันโหด... แต่ก็ดีแล้ว... ไว้วันพรุ่งนี้พี่โทรไปคุยครับ....

วันนนี้โทรคุยกับกบแล้วครับพี่มันอธิบายให้ฟังแล้ว เนื้อร้ายตัดทิ้งครับ พี่


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ มีนาคม 11, 2010, 06:43:32 PM

หลายๆบริษัทเลื่อนตําแหน่งพนักงานขึ้นมาเป็นระดับหัวหน้างาน....ในสมัยก่อนมักพิจารณาจาก Functional Skill...

คือทักษะในงานที่ทํา......

ปัจจุบันนี้.....เริ่มหันมามองและเน้นในด้าน People Skill......

ถ้าหัวหน้าขาดPeople Skill....หน่วยงานนั้นจะมีปัญหาการเข้าออกของพนักงานเยอะมาก....

คนที่อยู่....ก็ทํางานแบบไปวันๆ.......

ทักษะพวกนี้...ฝึกสอนได้.......และมีประโยชน์มากครับ....สําหรับคนที่มีลูกน้อง....


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: woodenowl ที่ มีนาคม 11, 2010, 09:22:01 PM
กระทู้นี้ได้มุมมองและแง่คิดเยอะ ขอบคุณครับ

สุดยอดของเรื่องงานคือการบริหารจัดการคนครับ ทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งพระเดชและพระคุณ ตึงไปก็เครียด หย่อนไปก็ไม่ได้งาน ก็ต้อง 'คน' ให้เข้ากันได้มากที่สุด


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มีนาคม 11, 2010, 11:10:56 PM
ดีใจกับคุณjane1 ด้วยนะครับ ที่ MD ยังแคร์อยู่บ้าง  แต่ก้รู้สึกแปลกๆอยู่บ้างที่ MD ได้โบนัสมากกว่าคนอื่นไม่ว่าจะเปอร์เซ็นหรือเม็ดเงิน แถมเป็นที่ทราบทั่วกันอีก  ผมว่ามันผิดธรรมชาติยังไงไม่รู้  เรื่องพวกนี้มักจะปกปิดทำเงียบๆ แต่ถ้า MD ได้น้อยๆไม่ว่าจะโบนัส คอม ขึ้นเงินเดือน เขามักจะประกาศดังๆ  ;D

เขาว่ากันว่า  คนเป็นหัวหน้าจะต้องมี ๓เก่ง คือ เก่งคน เก่งงาน เก่งคิด ถ้าหัวหน้าเล็กๆก็ต้องเก่งคนให้มากๆ  เก่งงานพอควร เก่งคิดนิดหน่อย  แต่ถ้าหัวหน้าระดับสูงก็จะสลับกันเป็นเก่งคิด ใช้สมองให้มากๆมองล่วงหน้ากันหลายปี เก่งงานแค่กลางๆ ส่วนเก่งคนก็น้อยลง  แต่บ้านเราหลายๆที่  พอได้เป็นหัวหน้าก็จะมุ่งแต่โชว์ความสามารถตัวเอง(เท่านั้น) มุ่งแต่คิดใหม่ มุ่งแต่ทำใหม่ โดยใช้คนเก่าทำงาน  ไปๆมาๆลูกน้องชอบเปรยๆในวงสุราว่า  เสียเพื่อนดีๆไปหนึ่งคน  แล้วได้หัวหน้า...มาหนึ่งคน  :~)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ มีนาคม 11, 2010, 11:57:29 PM
ผมไม่ค่อยมีหลัก  และไม่เคยศึกษาการเป็นผู้นำ....

จุดบกพร่องของผมคือ การที่คิดว่าที่เราทำดีกับบุคคลอื่น... ไม่เคยโกงใคร... ผลตอบกลับมาน่าจะเป็นอย่างที่มีคนเคยพูดว่า... "ทำดี... ต้องได้ดี..."

แต่ความดี...ไม่เคยเป็น "เกราะ"ให้เราเลย... กลับเป็นตัว "เชื้อเชิญ" ให้คนเข้ามาหาผลประโยชน์..... ผมโดนมาเยอะ แม้แต่เพื่อนที่คบกันมาสิบกว่าปี...

คนชั่ว... กลับมีแต่คนกลัว และไม่กล้าทรยศหักหลัง...

ความเลวในตัวผมก็มีเยอะ... คุณ Karn หรือใครที่เคยรู้จักกับผมก็จะรู้... แต่ผมไม่เคยใช้....

เพียงแต่การทำความดีมันยาก... และต้องใช้พลังงานของจิตใจขนาดไหน ถึงจะทำให้ผลของการที่ตั้งใจกระทำจะประสพผลซะที...

ผมยังไม่อยากเป็นผู้นำที่เลวๆครับ..... ::014::

อาชีพอย่างผม... ถ้าจะทำเลว... ง่ายนิดเดียว....


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ มีนาคม 12, 2010, 12:01:18 AM


วันนี้ ยังไม่มีใครเห็น
วันข้างหน้า ก็ยังมีครับ



มีดที่ปักลึกแค่ไหน
เวลาที่ดึงออกมา
ก็เจ็บมากเท่านั้น


http://urbany.multiply.com/ (http://urbany.multiply.com/)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 12, 2010, 09:16:36 AM
ดีใจกับคุณjane1 ด้วยนะครับ ที่ MD ยังแคร์อยู่บ้าง  แต่ก้รู้สึกแปลกๆอยู่บ้างที่ MD ได้โบนัสมากกว่าคนอื่นไม่ว่าจะเปอร์เซ็นหรือเม็ดเงิน แถมเป็นที่ทราบทั่วกันอีก  ผมว่ามันผิดธรรมชาติยังไงไม่รู้  เรื่องพวกนี้มักจะปกปิดทำเงียบๆ แต่ถ้า MD ได้น้อยๆไม่ว่าจะโบนัส คอม ขึ้นเงินเดือน เขามักจะประกาศดังๆ  ;D

เขาว่ากันว่า  คนเป็นหัวหน้าจะต้องมี ๓เก่ง คือ เก่งคน เก่งงาน เก่งคิด ถ้าหัวหน้าเล็กๆก็ต้องเก่งคนให้มากๆ  เก่งงานพอควร เก่งคิดนิดหน่อย  แต่ถ้าหัวหน้าระดับสูงก็จะสลับกันเป็นเก่งคิด ใช้สมองให้มากๆมองล่วงหน้ากันหลายปี เก่งงานแค่กลางๆ ส่วนเก่งคนก็น้อยลง  แต่บ้านเราหลายๆที่  พอได้เป็นหัวหน้าก็จะมุ่งแต่โชว์ความสามารถตัวเอง(เท่านั้น) มุ่งแต่คิดใหม่ มุ่งแต่ทำใหม่ โดยใช้คนเก่าทำงาน  ไปๆมาๆลูกน้องชอบเปรยๆในวงสุราว่า  เสียเพื่อนดีๆไปหนึ่งคน  แล้วได้หัวหน้า...มาหนึ่งคน  :~)
                           ขอบคุณพี่ Suprem ครับ
เหตุการณ์มันมีเรื่องราวอยู่ว่า ผมและเพื่อนๆ และน้องๆ รวมกันทั้งหมด 4 คนและ MD.อีก 1 คน เคยทำงานอยู่ในรพ.แห่งหนึ่ง และชักชวนกันมาเปิดบริษัทๆศูนย์แล็บกันเอง
MD.เคยเป็นหัวหน้าแล็บ ผมและน้องๆเป็นลูกน้องระดับปฏิบัติการ  เริ่มเปิดบริษัทมาในปี 2546 ครับ  ผมและน้องๆจึงมีหุ้นส่วนในบริษัทฯด้วยครับ ( คนละ 2%)
แต่ทุกๆคนที่มาด้วยก็ลาออกกันไปหมดแล้ว มีบางคนที่กลับมาช่วยบริษัทอีก ส่วนผมอยู่ที่นี่มาตลอดครับ รหัสพนักงานก็เป็นคนแรกของบริษัทฯครับ
ส่วนตัวผม ทาง MD.ให้ความไว้วางใจมาตลอดครับ(ให้เขาประชุมกรรมการบริษัทด้วยจึงทราบ Bonusและตัวเงินเดือน  ของ MD.ครับซึ่งผมก็เคยทราบเรื่องเงินเดือนของMD.มาบ้างแล้ว ส่วนพนักงานคนอื่นไม่มีใครทราบ) ตอนแรก ส่วนตัวผมก็รักและนับถือแกมาตลอด มีช่วงหลังๆ ที่สังเกตว่าแกไม่ค่อยให้ความสำคัญกับบริษัทฯเท่าไรนัก  ส่วนใหญ่จะเข้าส่วนตัวเสียมากกว่า ผมจึงเริ่มระแคะระคายครับ ว่าคำพูดที่แกเคยสอนมาว่าบริษัท คือ"บ้านของเรา" " บริษัทฯของเราทุกคน"  หรือ"เราต้องทำเพื่อบริษัทฯ" คำพูดพวกนี้มันกลับกลายเป็นคำตรงกันข้ามกับความประพฤติของแก เมื่อก่อนแกไม่ใชคนแบบนี้ ยังมีคำว่า พี่น้อง  ทุกข์ ทุกข์ด้วยกัน สุข สุขด้วยกัน แต่ทำไมวันเวลา เงินตรา ถึงทำให้คนเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ครับ
มีคนเคยบอกว่าการทำธุรกิจ ไม่มีความยุติธรรมในโลก แต่ผมคิดว่า เราเป็นคนกำหนดมากกว่าครับ ว่าเราจะเลือกทำธุรกิจแบบไหน ผมว่าบางครั้งความยุติธรรม เพือนพ้องและมิตรภาพ กับผลประโยชน์มันก็น่าจะเดินไปด้วยกันได้ครับ

                                   ขอบคุณครับ
  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: เขาใหญ่ ที่ มีนาคม 12, 2010, 09:45:02 AM
ด้วยความเคารพ นะครับ ผมกลับมองอีกมุมหนึ่ง
อาจเป็นเพราะว่าผมเป็นลูกน้อง ผมจะพูดในมุมที่ตรงข้ามกับพี่ตั้วก็ได้
หัวหน้าที่ดี ต้องมีทั้งพระเดชและพระคุณ
ส่วนลูกน้องที่ดี ต้องแสดงความเป็นเจ้าของ และสามารถเป็นหูเป็นตาแทนหัวหน้าหรือเจ้าของได้
แต่ถ้าเราเป็นหัวหน้าที่ดีแล้ว เจอลูกน้องอย่างที่พี่ตั้วว่า ต้องกลับมาดูว่าเราดูแลลูกน้องได้ดีหรือเปล่า
(ดูแลดีหรือไม่ดีนั้น หมายถึงในความรู้สึกของลูกน้องนะครับ ไม่ใช่ในความรู้สึกของหัวหน้า)
แต่ถ้าเราไตร่ตรองแล้วว่าเราดูแลเขาดีแล้ว แต่กลับทำกับเราไม่ดี ทำใจอย่างเดียวครับ ( ช่างแ-่ มัน)
แต่ในส่วนของผม มันดันกลับกันกับของพี่ตั้วครับ ผมเป็นลูกน้อง แต่ทำดีเท่าไรก็ทำไม่ขึ้น
ออกหาลูกค้า ออกไปเก็บเงินเหนื่อยแทบตาย (บริษัทมีผมเป็น Sale อยู่คนเดียวครับ) แต่ก็ยังไม่เป็นที่พอใจ
ของ MD.ครับ สิ้นปี Bonus ออก 0.4 เท่าของเงินเดือน ไอ้พวกที่ทำงานอยู่ในห้องแอร์ฝ่าย product ซัดกันไป 0.8 เท่า
ตอนประชุมกรรมการ พิจารณา Bonus MD. ซัดไป 1 เท่าของเงินเดือน มันหน้าเศร้าไหมหล่ะ่ครับ
0.4 ของผม = 8,000
1  ของMD.= 120,000

ตอนออกมาเปิดบริษัท เคยบอกตรูว่า จะไม่ทิ้งตรู  :~) :~) :~)
[/quote

ผมทำงานเป็นเซลขายอะไหล่ ภาคตะวันออกทำงานเต็มที่ รักษาผลประโยชน์ให้บริษัท

เลยเปิดร้านอะไหล่ไปด้วย ธุรกิจไปได้พอสมควร เงินเดือน 6,500 (หกพันห้าร้อยบาท) ทำงานได้ 4ปีเงินเดือนไม่เคยปรับขึ้น ไม่เคยขอ

ขับฟอร์จูนเนอร์ไปทำงาน ผ่อนเดือนละ 20,000 ไม่เคยโกงบริษัท ไม่เคยยักยอก ไม่เคยโขมยของบริษัทขาย ถึงจุดหนึ่งอยากออกจากงาน

แต่ก้อกลัวคำว่า "เณรคุณ วัวลืมตีน"จนต้องทำงานเรื่อยไป จนถึงเวลาที่บริษัทเชิญออกเมื่อทำงานได้ 6ปี เงินเดือน 6,500 (หกพันห้าร้อยบาท)

ปรับครั้งสุดท้ายเมื่อ 4ปีที่แล้ว ได้เพิ่ม 1,000 ออกมาพร้อมกับตัวที่สะอาด และประวัติที่ดี

จึงรู้ว่า "สบายจริงโว้ย"ไม่ต้องรับผิดชอบ ไม่ต้องเป็นคนเณรคุณ วัวลืมตีน

ปัจุบันอยู่ร้านวันเสาร์เข้าสนามยิงปืน กับวัย 35ปีผมว่ามีความสุขแล้ว

   จากที่เคยเป็นลูกจ้างเงินเดือน 6,500 มาเป็นนายคนเงินเดือนลูกน้อง 15,000 คนละความรู้สึกกัน

มันคนละเรื่อง สิ่งที่ผมเบื่อ หน่าย สมัยที่เราเป็นลูกจ้างเค้า ไม่เคยนำมาใช้ ปกครองลูกน้องทั้งพระเดช พระคุณ

ทำอาหารเลี้ยง ได้กินด้วยกันกินเหมือนกันทั้งลูกพี่ลูกน้อง อาจได้ใจหรือไม่ ไม่ทราบ ทราบแต่ว่าผมได้ทำหน้าที่ "นายจ้างที่ดี"

หลังจากที่เคยเป็น "ลูกจ้างที่ดี" มาแล้ว ผมว่าแค่นี้ก้อสุขใจแล้วนะ


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: jane1 ที่ มีนาคม 12, 2010, 11:17:25 AM
บางครั้ง การที่เรารู้มากเกินไป อาจทำให้เราเป็นทุกข์ก็ได้มั้งครับ
ผมพยายามที่จะไม่คิดถึงเรื่องเหล่านี้ แต่บางครั้งที่เราทำงานเหนื่อยๆ
แต่สุดท้ายมาไล่บี้เรา ให้หารายได้มาเพิ่มอีก กลับทำให้ผมอดคิดไม่ได้ครับ
  ::004:: ::004:: ::004::


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: จินตา <Jinta> ที่ มีนาคม 12, 2010, 12:54:07 PM
เป็นกำลังใจให้ครับ... ทำก่อสร้างเหมือนกันครับ

สำหรับผม ส่วนใหญ่จะปวดหัวจะเซ็ง ก็เรื่องลูกน้องนี่หละครับ...


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ มีนาคม 12, 2010, 01:47:15 PM
เรื่องมันเป็นแบบนี้เอง  เมื่อก่อนผมก็เคยทำงานบริษัทเหมือนกัน  ตอนที่บริษัทยังไม่มั่นคงนัก  เจ้าของก็ทุ่มเท และเป็นตัวอย่างที่ดีกับลูกจ้าง ประเภทได้ใจ มีสุขร่วมเสพ มีปัญหาร่วมกันแก้  แต่พอบริษัทเริ่มมั่นคง มีกำไรเป็นกอบกำ  แกก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวเกินกว่าที่ควร ประเภทความอยากมีอยากได้ส่วนตัวก็มาให้บริษัทจ่าย  ที่นี้บริษัทที่ผมอยู่เขาเป็นกงสี  มีพี่น้องสี่คน(ต่างแม่กันอีก)  เวลาผ่านไปก็เข้ามาถือหุ้นแล้วบริหารกันทั้งสี่คนเลย  ต่างคนก็ต่างอยาก ขาดทุนทุกปี  พนักงานก็ได้แต่เซ็ง  ผมออกมานานเป็นสิบปีแล้ว เท่าที่ทราบบริษัทก็ไม่ได้เจริญมากขึ้นสักเท่าไหร่ ทรงๆทรุดๆ

ถ้าผมเป็นคุณjane1  คงทำเหมือนคุณjane1เหมือนกัน  นานๆทีคนเราก็ต้องเล่นตัวให้เกรงใจ ให้รู้สึกว่าเราก็สำคัญมีประโยชน์อยู่นะ  ถ้าอ่อนโยนง่ายเป็นของตายก็มักจะล่วงเกินมองข้ามแบบลืมไปเลย  แต่ถ้าแข็ง กร้าวร้าวเล่นตัวมากเกินไปเราจะถูกเปลี่ยนตัวเมื่อมีโอกาส  :'(  และอีกข้อคือ การที่ MD ทำแบบนี้ แสดงว่า บริษัท คงจะเริ่มมั่นคงพอสมควรแล้วมั้ง  เขาก็เลยให้รางวัลกับตัวเองบ้าง  แต่มันคงผิดธรรมเนียมการบริหารไปหน่อย  ขออนุญาตอีกนิดคือ  อนาคตคนเราก็จะมีภาระ มีครอบครัว หรือต้องการความมั่นคงในชีวิตมากขึ้น ยังไงก็อย่าปักใจกับอย่างใดอย่างหนึ่งมากนัก  ควรมีทางออกที่สองไว้ให้ตัวเองด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะโตเพื่อกลับมาฆ่าหรือแข่งกับลูกพี่เรา  เราอาจจะเป็นคู่ค้า หรือคู่บัดดี้ เป็นเพื่อนกันก็ได้  นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน บินสูงไม่ได้หรอกครับ  แต่ถ้าเราตั้งใจโตเพื่อกลับมาล้างแค้น อันนี้เป็นเรื่องเสียเวลา เสียโอกาสจริงๆ

ผมไม่ค่อยมีหลัก  และไม่เคยศึกษาการเป็นผู้นำ....

จุดบกพร่องของผมคือ การที่คิดว่าที่เราทำดีกับบุคคลอื่น... ไม่เคยโกงใคร... ผลตอบกลับมาน่าจะเป็นอย่างที่มีคนเคยพูดว่า... "ทำดี... ต้องได้ดี..."

แต่ความดี...ไม่เคยเป็น "เกราะ"ให้เราเลย... กลับเป็นตัว "เชื้อเชิญ" ให้คนเข้ามาหาผลประโยชน์..... ผมโดนมาเยอะ แม้แต่เพื่อนที่คบกันมาสิบกว่าปี...

คนชั่ว... กลับมีแต่คนกลัว และไม่กล้าทรยศหักหลัง...

ความเลวในตัวผมก็มีเยอะ... คุณ Karn หรือใครที่เคยรู้จักกับผมก็จะรู้... แต่ผมไม่เคยใช้....

เพียงแต่การทำความดีมันยาก... และต้องใช้พลังงานของจิตใจขนาดไหน ถึงจะทำให้ผลของการที่ตั้งใจกระทำจะประสพผลซะที...

ผมยังไม่อยากเป็นผู้นำที่เลวๆครับ..... ::014::

อาชีพอย่างผม... ถ้าจะทำเลว... ง่ายนิดเดียว....

พี่dignitua ครับ  ทำดีก็ได้ดีจริงๆครับ  อย่าพึ่งน้อยใจ  ขอให้มั่นคงหนักแน่นเข้าไว้  การทำดีก็เหมือนปลูกต้นไม้ที่ให้คุณ การทำชั่วก็เหมือนปลูกต้นไม้ที่ให้โทษ  ถ้าเราทำไปสักวันต้นไม้นั้นก็จะให้ดอกผลตามชนิดของมัน  แต่ถ้าเราทำไปแบบเรื่อยๆแบบไม่คาดหวังว่าจะได้กินเมื่อไหร่ เราก็ต้องรอธรรมชาติรอฤดูกาลไปตามเรื่อง หรือเราก็คงต้องปลูกๆๆตั้งหน้าตั้งตาสะสมไปเรื่อยๆ จนสามารถมีดอกผลได้เก็บกินเรื่อยๆตลอดปี  แต่ถ้าหากเราใจร้อน เราก็ต้องสร้างปัจจัยให้ต้นไม้ออกดอกผลทันกินทันใช้ ก็ต้องใส่ปุ๋ยเร่งครับ  ซึ่งการสร้างปัจจัยให้เกิดก็คือ วิธีทั้งหลายที่เขาวิเคราะห์กันมาจนสรุปเป็นหลักการ  ให้เอาไปประยุกต์ใช้กันเอง  เพราะมันไม่มีวิธีการที่ตายตัว  มันเลยเป็นทั้งศาสตร์และศิลป เป็นเกมส์ไขปัญหาสร้างความเร้าใจและปวดหัวผู้บริหารทั้งหลาย

ความดีทำไว้ สักวันที่จะส่งผล  ต่อให้เทวดาก็ห้ามกันไม่ได้ ส่วนคนโกง ของที่ได้มาโดยไม่ชอบธรรม มันจะอยู่ได้ไม่นานครับ บางคนที่อยู่ได้ก็เพราะอาจจะมีบุญเก่าอยู่บ้าง ก็ช่างเขาเถอะ ไปได้ไม่กี่น้ำหรอกครับ ไม่ฟ้าดินลงโทษ สดุดขาตัวเอง ก็โดนพวกเดียวกันเองเหยียบขึ้นไป ดังบ้างไม่ดังบ้าง ก็ลงหนังสือพิมพ์ทุกวัน  เราอาจจะไม่รวยมีเงินเท่าพวกนั้นก็ไม่เป็นไร ใครทำอะไรไว้ย่อมรู้อยู่แก่ใจ  เมื่อก่อนผมโดนโกง ไอ้คนโกงไม่กล้ามาแถวบ้านผมเลยครับ  ::007::  รุ่นพี่ผม เล่นงานผม เขาก็ไม่กล้าเดินมาที่ห้องผมเลยครับ  เวลาสั่งงานคนในห้องก็ต้องผ่านคนอื่นบ้าง หนังสือบ้าง   แต่ผมกล้าเดินไปหาเขา  นี่ก็ได้ข่าวว่ากำลังจะขอย้ายไปที่อื่น  ฮ่าๆๆๆ ภูมิใจตัวเองจริงๆ  :~)


หัวข้อ: Re: เมื่อลูกน้อง... กบฏ!!!
เริ่มหัวข้อโดย: K@RN # รักในหลวง ที่ มีนาคม 12, 2010, 03:50:20 PM
ผมไม่ค่อยมีหลัก  และไม่เคยศึกษาการเป็นผู้นำ....

จุดบกพร่องของผมคือ การที่คิดว่าที่เราทำดีกับบุคคลอื่น... ไม่เคยโกงใคร... ผลตอบกลับมาน่าจะเป็นอย่างที่มีคนเคยพูดว่า... "ทำดี... ต้องได้ดี..."

แต่ความดี...ไม่เคยเป็น "เกราะ"ให้เราเลย... กลับเป็นตัว "เชื้อเชิญ" ให้คนเข้ามาหาผลประโยชน์..... ผมโดนมาเยอะ แม้แต่เพื่อนที่คบกันมาสิบกว่าปี...

คนชั่ว... กลับมีแต่คนกลัว และไม่กล้าทรยศหักหลัง...

ความเลวในตัวผมก็มีเยอะ... คุณ Karn หรือใครที่เคยรู้จักกับผมก็จะรู้... แต่ผมไม่เคยใช้....

เพียงแต่การทำความดีมันยาก... และต้องใช้พลังงานของจิตใจขนาดไหน ถึงจะทำให้ผลของการที่ตั้งใจกระทำจะประสพผลซะที...

ผมยังไม่อยากเป็นผู้นำที่เลวๆครับ..... ::014::

อาชีพอย่างผม... ถ้าจะทำเลว... ง่ายนิดเดียว....

:D ฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอครับ คุณพี่ตั้ว :D KEEP WALKING ครับ พี่ :D