เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์--ขณะที่เกิดปรากฎการณ์น้ำในแม่น้ำโขงลดระดับลงต่ำสุดครั้งประวัติการณ์ พร้อมกับเสียงโจมตีจีนกักน้ำไว้ในเขื่อนร่วม 10 หลังที่ตั้งอยู่บริเวณตอนบนของแม่น้ำโขงในประเทศจีน เป็นเหตุสร้างความเดือดร้อนแก่กลุ่มชาติลุ่มน้ำโขง ทั้งกัมพูชา ลาว เวียดนาม และไทย ในครั้งนี้


ในกรุงปักกิ่ง ก็มีการรายงานถึงผลกระทบจากโครงการเขื่อนใหญ่เป็นข่าวเล็กๆ โดยผู้แทนประชาชนของจีนได้เผยถึงความเสี่ยงภัยพิบัติธรรมชาติที่กลัวมากจากเขื่อนสามโตรก หรือซันเสีย (Three Gorges) ซึ่งเป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดในโลกที่จีนได้สร้างขึ้นท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลกเช่นกัน

สื่อจีน เป่ยจิง ไทมส์ เผยว่า นาย ถัง ซีเว่ย รองนายกเทศมนตรีนครฉงชิ่ง ได้แถลงต่อที่ประชุมสมัชชาผู้แทนประชาชนแห่งชาติจีน (เอ็นพีซี) หรือรัฐสภาระหว่างการประชุมประจำปีในสัปดาห์นี้ ระบุว่าขณะนี้พื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำของเขื่อนสามโตรก กำลังประสบปัญหาน่าวิตก จากภัยพิบัติทางธรณีวิทยา การกลายสภาพเป็นทะเลทราย และมลพิษน้ำ


นับจากเขื่อนสามโตรกผุดขึ้นมา ก็มีรายงานข่าวแผ่นดินถล่มบ่อยครั้ง ซึ่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเป็นผลกระทบจากเขื่อน และในการแถลงต่อรัฐสภา นายถัง รองพ่อเมืองฉงชิ่ง สรุปข้อมูลล่าสุดว่า ได้เกิดภัยพิบัติทางธรณีวิทยาแล้ว 252 ครั้งในบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนสามโตรก นอกจากนี้ กลุ่มผู้เชี่ยวชาญยังได้คาดการณ์กันว่าอาจเกิดภัยพิบัติในบริเวณอ่างเก็บน้ำอีก 2,500 แห่ง หากน้ำในอ่างเก็บน้ำเพิ่มสูงขึ้น
       
       ทั้งนี้จีนได้ระงับแผนการเพิ่มระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนสามโตรกในเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา ซึ่งตามแผนฯจะเพิ่มถึง 175 เมตร เนื่องจากกลัวภัยพิบัติแผ่นดินถล่มจะสูงขึ้นตามด้วย นอกจากนั้น ระดับน้ำที่เพิ่มยังอาจทำให้รอยแยกจากแผ่นดินถล่มเดิม เกิดปริแยกออกไปอีก เนื่องจากดินบริเวณรอบเขื่อนจะยิ่งอิ่มน้ำ และอ่อนตัวลง

และก่อนหน้ากลุ่มผู้เชี่ยวชาญจีนได้ชี้ว่าปัญหาภัยพิบัติทางธรณีวิทยาที่เกิดขึ้นดังกล่าว เป็นลางบ่งชี้ถึง “ปัญหาที่ไม่อาจคาดหมาย” จากผลกระทบเขื่อนสามโตรก ดังนั้น นครฉงชิ่งจึงได้เสนอแผนโยกย้ายคนออกจากพื้นที่รอบอ่างเก็บน้ำอีก 4 ล้านคนระหว่าง 10 ปีข้างหน้านี้ มากกว่าการอพยพในช่วงก่อสร้างเขื่อนถึง 3 เท่า! โดยแผนนี้ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลเมื่อปีที่แล้ว

เขื่อนสามโตรก เป็นเขื่อนใหญ่ที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในพื้นที่หุบเขาซีหลิงเสีย เมืองอี๋ชัง ในมณฑลหูเป่ย ที่มีระบบนิเวศวิทยาที่เปราะบาง ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อกับเขตตะวันออกเฉียงเหนือของมหานครฉงชิ่ง ความมโหฬารของเขื่อนสามโตรก เฉพาะตัวเขื่อนมีความยาวร่วม 3 กิโลเมตร และต้องปล่อยน้ำท่วมเมืองต่างๆที่ตั้งอยู่ริมฝั่งแยงซีเกียง 116 เมือง เพื่อเป็นอ่างเก็บน้ำซึ่งมีความยาว 640 กิโลเมตร ในตอนนั้น จีนต้องโยกย้ายประชากรออกจากพื้นที่ 1.4 ล้านคน ซึ่งได้ทุบสถิติด้านการย้ายคนออกจากพื้นที่ครั้งใหญ่สุดในโลกเช่นกัน จีนใช้เวลาสร้างเขื่อนยักษ์นี้นาน 15 ปี เริ่มจากปี 2537 โดยเฟสสุดท้ายแล้วเสร็จเมื่อปี 2552 สำหรับงบประมาณก่อสร้างเขื่อนสามโตรกที่เปิดเผย เท่ากับ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ.

ที่มา >>http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000034492 (http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000034492)

เขื่อนนี้ละครับที่แนลชั่นแนลจีโอฯเคยทำสารคดีผลกระทบต่อการสร้างออกมา มีปัญหาใหย่อยู่หลายเรื่อง เช่นเมื่อทำการกักน้ำจนได้ตามแผนจะทำให้แกนโลกเอียงและทำให้เวลาการหมุนรอบตัวของโลกเปลียนไป เมื่อแกนดลกเอียงเวลาการหมุนเปลี่ยนจะทำให้เกิดภัยธรรมชาติตามมา เพราะโลกจะทำการปรับสมดุลใหม่ และที่หนักๆ การเขื่อนทั้งหมดจะสูญเปล่าเพราะสายแม่น้ำที่ใช้ในการสร้างเขื่อนจะเป็นสายน้ำที่ขุ่นมีตะกอนมากและไหลเร็ว เมื่อถูกกักน้ำจะนิ่งละเกิดการตกตะกอนทำให้เขื่อนตื่นเขินเร็ว...

จีนใช้เวลาสร้างเขื่อนยักษ์นี้นาน 15 ปี เริ่มจากปี 2537 โดยเฟสสุดท้ายแล้วเสร็จเมื่อปี 2552

ของเขา เตรียมการ และ สร้างแล้วเสร็จ

ของไทยเรา เตรียมการ เป็นแผนงาน อยู่ในลิ้นชัก

รอการปัดฝุ่น เป็นคราว ๆ  

เรื่องปกติของนักการเมืองไทยครับพี่..และขุดมาศึกษากันอีกรอบ(ผาลงบไปแล้ว)...แล้วก็เก็บ
เปลี่ยนขั่วที ขุดมาศึกษากันอีกรอบ(ผาลงบไปแล้ว)......แล้วก็เก็บ...เฮ้อ  นักการเมืองไทย :~) :~)

อ่านแล้วรู้สึกไม่ดีกับจีนเลย  ถ้าเขื่อนมันทำกันง่ายๆ  ผมอยากให้ไทยกับลาวทำเขื่อนบ้าง  ไม่มีน้ำขึ้น ไม่มีน้ำลง คงจะมีแต่น้ำเน่าๆสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนฝีหนองที่ไม่มีทางออก มีแต่จะบวมขึ้นเรื่อยๆ จะได้สำนึกถึงเพื่อนร่วมโลกกันบ้าง

ผมว่า คนเอาเปรียบธรรมชาติมามากนะครับ
คิดว่าตัวเองเอาชนะธรรมชาติได้ทุกอย่าง
แค่ คงลืมคิดไปว่า ตัวเองเป็นแค่สิ่งมีชีวิตเล็กๆ
ที่เวลาธรรมชาติเอาคืน ก็หนีไปไหนไม่ได้

เขื่อนมันเป็นสิ่งที่มนุษย์ทำเพื่อหวังเอาชนะธรรมชาติ...

ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางเอาชนะได้ครับ...

                       เห็นด้วยครับ

(http://www.lifepitlok.com/images_news/1225523194.jpg)

(http://www.localtalk2004.com/V2005/local_upfiles/cp_b2_31082006_01.jpg)

(http://www.bloggang.com/data/kunichiwa/picture/1184428985.jpg)

(http://fukduk.tv/files/imagecache/notephoto_big/files/productionnote/faay1.JPG)

(http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:770wXu1IgkSx7M::www.suanboard.net/userimage/31465_191376.jpg&t=1&h=195&w=260&usg=__8JXx_vBsj4S1yluCOOG-8LDid5E=)


ลงแรง กั้นฝายแม้ว ช่วยคราว ก่อนดีมั้ย

กักน้ำเป็นช่วง ๆ ไป

คงจะดีกว่า ปล่อยให้ไหลลงทะเล

  อันนี้ผมว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสียของระบอบการปกครองมากกว่าครับ
จีน คอมมิวนิสต์ทำอะไรรวดเร็วถ้ารัฐบาลจะทำไม่ต้องไปฟังใครทำเลย......แต่ข้อเสียคือถ้าทำในสิ่งที่ผิดแล้วไม่ฟังเสียงค้านก็เสียหายมาก

ไทยแลนด์ ประชาธิปไตยทำอะไรเสียงส่วนใหญ่ต้องเห็นด้วยจึงชักช้าถ้าขืนดันทุรังก็โดนคัดค้านไปไม่รอด

ทำอะไรเร็วอย่าคิดว่าดีอย่างเดียวนะผมว่า

แล้ง ร้อน

มาแล้วนะครับ.....

กักเก็บน้ำไว้พร้อมใช้กันหรือยังครับ

               เหนือ  อีสาน  กลาง ....... กลัวภัยแล้ง

               ใต้ วิตกสึนามิ .......

     
                ปล่อยแล้วครับ  ถึงเวลาอะไรจะเกิดทำไม่ทัน  แล้วแต่บุญกรรมครับน้ายอด

พูดลำบาก บ้านเรา ทางเอเชียและแอฟริกาชอบสร้างเขื่อนใหญ่ๆ แบบอันเดียวคุ้ม
ในขณะที่ฝั่งยุโรป มักคำนึงถึงระบบนิเวศน์เป็นหลัก ไม่ยอมสร้างเขื่อนใหญ่ๆ เพราะกระทบระบบนิเวศน์สูงกว่า
แต่สร้างเขื่อนเล็ก เขื่อนน้อยกระจายๆไป

เห็นบอกว่าเขื่อนเล็กกระทบระบบนิเวศน์น้อยกว่า  บางประเทศอย่างนอร์เวย์ มีเขื่อนมากกว่า800เขื่อน
แต่เป็นเขื่อนเล็กเขื่อนน้อย กระจายๆอยู่ทั่วประเทศ  พลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากเขื่อน ยังมากพอเลี้ยง
คนประเทศได้  โดยที่ระบบนิเวศน์โดยรวมยังใกล้เคียงของเดิม

    ข้อดีของเขื่อน คือชลอและกักเก็บน้ำไม่ให้ไหลมาท่วมพื้นที่ลุ่ม และสามารถกักเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้งได้
แต่สิ่งที่สูญเสียคือระบบนิเวศน์และพื้นที่จำนวนมาก
    จีนสร้างเขื่อนกักเก็บน้ำ เพื่อหวังผลในการชะลอน้ำไม่ให้ไหลมาท่วมพื้นที่บริเวณใต้เขื่อนลงมา แต่การกัก
เก็บน้ำ จึงมีผลกระทบต่ออีกหลายประเทศ เพราะแม่น้ำโขงเป็นแม่น้ำนานาชาติที่หลายประเทศใช้ประโยชน์
ร่วมกัน
   รวมถึงทำให้ระบบนิเวศน์ในน้ำและวงจรการสืบพันธุ์และการวางไข่ของปลาบางชนิดต้องเปลี่ยนแปลงไป
ตลอดกาล โดยเฉพาะปลาบึกที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดในโลก รวมทั้งน้ำที่ค่อนข้างขุ่นและมีตะกอนเป็นจำนวนมาก
เมื่อน้ำไหลช้าลง ก็เป็นสาเหตุทำให้ตะกอนสะสมและตื้นเขินได้ง่าย หากหน้าแล้งจะสังเกตุได้ง่ายมาก
   เขื่อนขนาดเล็กก็มีเหตุผล เพราะสร้างด้วยงบประมาณไม่มาก และกระจายได้หลายๆที่มากกว่าและดูเหมาะสม
กับสภาพพื้นที่ของประเทศไทยมากกว่า เพราะพื้นที่ที่เป็นที่ราบสูง น้ำจะไหลลงที่ต่ำไวมาก การสร้างฝาย/เขื่อน
ขนาดเล็กจึงเหมาะสมมากกว่าสร้างเขื่อนขนาดใหญ่