หัวข้อ: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: kojima ที่ มีนาคม 18, 2010, 02:14:41 PM Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ ::014::
หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ มีนาคม 18, 2010, 02:40:54 PM ตอบสั้นๆนะครับ
2 คือ ภายในประเทศที่มีการปรับคลาสได้ 3 คือ ระดับภูมิภาคที่มีนักกีฬาต่างชาติมาแข่งด้วย นักกีฬาภายในประเทศสามารถปรับคลาสได้ ส่วนรายละเอียดรอท่านอื่นมาเพิ่มเติมอีกครั้งนะครับ ผมตอบไปเดี๋ยวผิดละหน้าแตกเลย ::005:: หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ มีนาคม 18, 2010, 04:23:27 PM IPSC Match Ratings
LEVEL I Match (example: local weekend club match) LEVEL II Match (example: inter-club monthly match) LEVEL III Match (example: large Regional match) LEVEL IV Match (example: Continental Championship) LEVEL V Match (example: World Shoot) ;D หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: Orange ที่ มีนาคม 18, 2010, 09:26:43 PM APPENDIX A1 IPSC Match Levels
Recommended minimum rounds Level II 75 Round Level III 150 Round Recommended minimum stages Level II 5 Stage Level III 8 Stage Recommended minimum competitors Level II 50 Person Level III 120 Person Level I & II......................... A minimum of 5 competitors per Division(recommended) Level III.............................. A minimum of 10 competitors per Division(mandatory) Level IV & V ..................... A minimum of 20 competitors per Division(mandatory) ศึกษาได้จากที่นี่ครับ http://www.ipsc.org/ (http://www.ipsc.org/)ตอนนี้เป็นฉบับปี 2009 Second Edition หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: Tonyman ที่ มีนาคม 18, 2010, 11:02:27 PM เพิ่มเติมอีกนิดครับ
ในระดับของการแข่งขัน ที่พี่ๆ ได้กล่าวมาข้างต้น สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทยจะทำการรับรองผลตั้งแต่ Level II ขึ้นไป สมาคม หรือ ชมรมฯ ที่เป็นผู้จัดการแข่งขันต้องทำการขอรับรองมาที่สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย ในการขอรับรอง ผู้จัดการแข่งขันยังต้องปฎิบัติในข้อต่อไปนี้โดยเคร่งครัดเพื่อให้การแข่งขันในทั่วประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกันครับ - ใช้กฎ IPSC ฉบับปัจจุบันบังคับใช้เท่านั้น - ใช้เป้าที่ถูกต้องตามกฎ IPSC ฉบับปัจจุบัน - ผู้จัดการแข่งขันเป็นสมาชิกสมทบประเภทสมาคม หรือ ชมรม ของสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย และ จ่ายค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด - นักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันต้องเป็นสมาชิกของสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย - มีการแต่งตั้ง Match Director, Range Master, และ Stat Director - ผู้จัดการแข่งขันจะทำการส่งแบบฟอร์มขอตัว Range Officer มาที่ THNROI อย่างน้อยเป็นเวลา 14 วันก่อนทำการแข่งขัน - Range Office ที่ทำหน้าที่ในการแข่งขันเป็นผู้ตัดสินที่ผ่านการอบรม และ อนุมัติให้ทำการติดสินจาก THNROI - จำนวน Range Officer ที่ทำหน้าที่ในการแข่งขันจะเป็นไปตามที่ THNROI เห็นสมควร - มีการวัดกระสุน (Chronograph) ในการแข่งขัน - การแข่งขันจะคิดคะแนนโดยใช้ระบบ WinMss โดยใช้ข้อมูล Classification ของนักกีฬาจาก THNROI - ผู้จัดการแข่งขันจะส่ง RM Report และ Database ของการแข่งขันกลับมายัง THNROI ภายใน 7 วันหลังการแข่งขันเสร็จสิ้น เพื่อทำการตรวจสอบความถูกต้องและประกาศปรับ Class ให้นักกีฬา - สำเนาหนังสือฉบับนี้จะถูกติดไว้ในบริเวณสนามแข่งขันอย่างเห็นได้ชัด - การแข่งขันระดับ Level II ควรจะมีอย่างน้อย 6 Stage (Speed - 3, Medium - 2, Field - 1) และ ควรใช้กระสุนอย่างน้อย 90 นัด (การแข่งขัน Level III จะใช้เกณฑ์ตามกฎของสมาพันธ์กีฬายิงปืนรณยุทธ [IPSC]) - ผู้จัดการแข่งขันจะปฎิบัติตามคำแนะนำจาก สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธไทย และ Thai National Range Officer Institution (THNROI) ซึ่งในการจัดการแข่งขันระดับ Level III ผู้จัดการแข่งขันจะต้องปฎิบัติตามข้อกำหนดของสมาพันธ์ IPSC ซึ่งในการขอรับรองจากสมาพันธ์ฯ ต้องเป็นได้รับการอนุมติจาก สมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทย และ Regional Director ก่อน ขอบคุณครับ ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: Tonyman ที่ มีนาคม 18, 2010, 11:11:41 PM และก็มีข้อแตกต่างอีกอันระหว่าง Level II และ III ขึ้นไป คือ เรื่องการปรับ Class ครับ
ซึ่งเกณฑ์การปรับ Class ของสมาคมกีฬายิงปืนรณยุทธแห่งประเทศไทยมีดังนี้ครับ นักกีฬาที่ไม่เคยเข้าแข่งระบบ IPSC เมื่อมีความประสงค์จะลงทำการแข่งขัน สามารถสมัครได้ใน Class U เมื่อทำการแข่งขันครั้งนั้นแล้ว นักกีฬาทำการยิงได้เปอร์เซ็นต์เท่าใดจากผลการตัดสิน Overall Standing ก็จะนำไปเที่ยบกับเปอร์เซ็นต์ ที่ใช้ในการแบ่ง Class หากเปอร์เซ็นต์ไปอยู่ใน Class ใด ก็จะได้รับการจัดชั้นให้อยู่ Class นั้น ในการ แข่งขันคราวต่อไป. หลังจากนี้ ถ้านักกีฬาคนดังกล่าวไปยิงใน Division อื่นที่ยังไม่เคยยิง ก็จะต้องลงใน Class U อีกครั้ง และปรับคลาสตามระบบที่กล่าวไว้ข้างบน. นักกีฬาที่มี Class อยู่แล้ว จะได้รับการปรับคลาส เมื่อเข้าเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1. เมื่อนักกีฬาทำการแข่งขันใน Match ที่จัดโดยสมาคมฯ หรือชมรมที่เป็นสมาชิก สมาคมฯ แล้วติดอันดับ 1-2 ใน Class ของตัวเอง สมาคมฯจะนำผลการยิงของแต่ละคนมาตรวจสอบว่า ได้เปอร์เซ็นต์จาก Overall Standing เท่าใด หากนักกีฬาผู้นั้นได้เปอร์เซ็นต์อยู่ใน Class เดิม ก็จะไม่มีการปรับ Class แต่หากได้เปอร์เซ็นต์สูงกว่า Class เดิม ก็จะได้รับการปรับ Class ให้ไป อยู่ใน Class ที่สูงกว่า 1 ขั้น ยกเว้น Match Level III ได้เปอร์เซ็นต์เท่าไหร่ก็จะได้รับการปรับ ให้ไปอยู่ใน Class นั้น ๆ 2. เมื่อนักกีฬาทำการแข่งขันใน Match ที่จัดโดยสมาคมฯ หรือ ชมรมฯ อื่น ๆ ที่สมาคมฯ รับรอง และในการแข่งขันมีนักกีฬา Grand Master Class ในmatch อย่างน้อย 3 คนใน Open Division ซึ่ง match นั้นใช้กระสุนอย่างน้อย 120 นัด มีการตรวจวัดค่าความเร็วกระสุน สมาคมฯจะใช้ผลการแข่งขันครั้งนั้น ๆ มาทำการปรับ Class โดยใช้วิธีเช่นเดียวกับที่กล่าวมาแล้วข้างบน สำหรับ Standard Division และ Production Division การแข่งขัน Level II จะต้องใช้กระสุนอย่างน้อย 120 นัด มีการตรวจวัดค่ากระสุน มี Grand Master อย่างน้อย 1 คนจึงจะมีการปรับคลาสในคลาส M,A,B,และ C ได้ และจะต้องมี Grand Master อย่างน้อย 3 คน จึงจะมีการปรับนักกีฬา Master ขึ้น Grand Master ได้ ส่วนการแข่งขัน Level III ให้ใช้วิธีเดียวกับ Open Division สำหรับใน Revolver Division จะมีการแบ่ง Class เป็น 3 Class คือ A. B. และ C ซึ่งการปรับ Class จะต้องมี นักกีฬาใน Class A มาทำการแข่งขันอย่างน้อย 3 คนในการแข่งขันครั้งนั้น การขอลด Class ของตัวเอง นักกีฬาที่มีความประสงค์จะขอลด Class ของตัวเอง สามารถร้องขอต่อสมาคมฯ เพื่อพิจารณา ลด Class ได้ โดยต้องมีเงื่อนไข ดังนี้ ทำการแข่งขันแล้วผลการแข่งขันจาก Overall Standing ได้ต่ำกว่า Class ของตัวเองอยู่ อย่างน้อย 2 Match ติดต่อกัน โดย 1 ใน 2 Match นั้นจะต้องจัดโดยสมาคมฯ และ อีก 1 Match เป็น Match ที่สมาคมฯ นำมาใช้ปรับ Class ด้วย ได้รับการรับรองจากนักกีฬาใน Class ที่ตัวเองจะขอลดลงไป ว่าเห็นสมควรให้นักกีฬาผู้นั้นลด Class ลงมาทำการแข่งขันได้อย่างน้อย 6 ท่าน ลงนามรับรอง เปอร์เซ็นต์ที่ใช้ในการแบ่ง Class เริ่มใช้ตั้งแต่การแข่งขัน match หลังวันที่ 26 เม.ย. 2008 เป็นต้นไป สำหรับ Open, Standard และ Production Division Grand Master 95-100 % Master 85-94.999 % Class A 75-84.999 % Class B 60-74.999 % Class C 0-59.999 % สำหรับ Revolver Class A 100%-75% Class B 74.99%-60% Class C 0- 59.99% หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: kojima ที่ มีนาคม 19, 2010, 01:27:54 PM ขอคุณมากๆครับ
หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 21, 2010, 04:45:49 PM ชัดเจนดีครับคุณ Tonyman ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: Match Level II ต่างจากMatch Level III อย่างไรครับ เริ่มหัวข้อโดย: lim4, ที่ มีนาคม 22, 2010, 09:12:21 AM โห........มีลด คลาสด้วย :o :o :o :o แสดงว่าต้องมีซาปิริตน่าดู........ ;D ;D ;D ;D
|