เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ขอแสดงรูปภาพงานครอบรอบ ๑๐๐ ปี ถนน Gran Via หรือ Great Way กรุงมาดริด สเปนครับ

ถนน แกรน เวีย มีอายุครบ ๑๐๐ ปี ในปีนี้ โดยเมื่อสร้าง ตั้งใจตัดเป็นถนนช้อปปิ้งหรูหรา เลียนแบบ ฟิฟ เอเวนิว ของ นิว ยอร์ค ตัดใหม่ข้ามชุมชนต่างๆ ยาวประมาณ ๒ กม. แต่ถึงสร้างใหม่ ถนนเส้นนี้ไม่ตรงเพราะสร้างหลบโบสถ์โบราณสำคัญๆ ปีนี้มีงานฉลองหลายครั้ง ปลายเดือนเมษาฯ ก็ปิดถนนวันอาทิตย์มาครั้งหนึ่งแล้ว วันนี้เป็นวันของนักบุญ Isidro นักบุญประจำเมืองมาดริด เลยปิดถนนฉลองตั้งแต่วันเสาร์และทำพิเศษ ฟูพรมฟ้าบนผิวถนนทั้งเส้น

ประมาณ ๕ โมงเย็น เดินออกจากแยก Callao เข้าช่วงกลางๆ แกรนเวีย ยังไม่เปิดพื้นที่พรมให้คนเข้า

ยังไม่เปิดให้เข้า :)

ให้เข้าแล้วครับ 8)

 :D

คนมาดริดที่ฟิตๆ จะแต่งชุดพื้นบ้านประจำเมือง ซึ่งจะเห็นต่อไปครับ ส่วนมากที่แต่งเป็นคนแก่ และเด็กที่พ่อแม่จับแต่ง เด็กบางคนเบบี้อยู่ในรถเข็นก็แต่ง บางคนยังดูดจุกนมยางอยู่เลย น่ารักมากครับ

ชุดผู้หญิงจะมีผ้าคลุมไหล่ด้วย บางตึกจึงแงตึกเอาผ้าคลุมมาประดับระเบียง

บ้านนี้นิยมประเพณีใหม่ ขอเชียร์ทีมบอล รีอัลมาดริด

ไปถึงปลายถนนด้านติดกับ พลาซ่า เอสพลาน่า ทีเดียว

คุณป้าแต่งตัวสวยแต่เก๋าใส่แว่นกันแดด และเดินพัด

สุดถนนมีเวทีแต่ยังไม่แสดง

สุดถนนมองย้อนขึ้นไป วันนี้อากาศดี ร้อนสุด ๑๙ องศา ตอนเช้าประมาณ ๖ ตอนบ่ายที่ไปเดินประมาณ ๑๖ กลางแดดอุ่น ในร่มเย็น

(กลับมาตอนนี้เที่ยงคืนพอดี ทีวีถ่ายทอดเวที ยังมีการแสดงอยู่)

เดินย้อนกลับขึ้นไป ประชาชนเริ่มหนาแน่นมาก น่าจะหลายแสนคน

ชุดพื้นเมืองมาดริด ผู้ชายลายเช็กเกอร์ละเอียดเทา ผู้หญิงชุดพื้นเมืองสวยงามติดดอกคาเนชั่นแดงตรงกลางหน้าผาก ผู้ชายติดอกเสื้อ

กลับมาถึงช่วงกลางถนน บริเวณ Callao มีเวทีเล็กๆ ร้องเพลงฝรั่งเศสแฮะ แม่หนูในชุดพื้นเมืองขี่คอพ่อ

เด็กๆ เดินนานๆ มักไม่ไหว ขึ้นคอผู้ใหญ่ นี่พ่อหนูแก้มยุ้ยขี่คอคุณปู่ ถ้าถ่ายจะๆ ต้องไปขอเขาก่อน ซึ่งไปขอถ่ายรูปด้วยเหมือนกันครับแต่ติดหน้าสายลับจึงขอไม่ลง อิ อิ

"หนูไม่ไหวแล้ว นั่งนี่นะแม่"

ป้า ป้า ป้า

เนตช้ามากครับ พรุ่งนี้ขอแสดงรูปเพิ่ม ตอนนี้เที่ยงคืนครึ่ง ทีวี ถ่านทอดที่ถนน คนแน่นเต็มถนน และกำลังจุดพลุ

เดินต่อไปคนเริ่มแน่นมากๆ ถึงอีกเวที มีนักแสดงเต้นฟลามิงโก้จากอาร์เจนติน่า

 :D

 8)

ลุงป้าคู่นี้ออกมาเต้นโชว์สมัครเล่น คนเลยแหวกทางให้

แสดงว่าสปอนเซ่อร์โดยโมบิสตาร์ บริษัทโทรคมนาคม

ต้องแวะเติมน้ำมันหน่อยครับ หมวกแบบมาดริด

มีแรงเดินต่อ

คู่แต่งงานก็มาเดินเที่ยว จ๊าบมากๆ

สุดหัวถนนครับ

ข้ามถนนไปอีกฝั่ง

คู่เมื่อกี้ก็เดินข้ามเหมือนกัน

เริ่มไม่มีอะไรทำ ถ่ายมอไซด์เล่น

 8)

 :)

 :D

เดินหาที่กินข้าวเย็น และจะกลับไปดูทีวีต่อ

บ้านนี้น่าสนใจครับ

อยู่ใกล่ พลาซ่า เด ซานตาอันนา

คาสซาโนว่าพำนักอยู่บ้านนี้เมื่อครั้งมามาดริดปี ค.ศ. ๑๗๖๗ - ๑๗๖๘ (บนสุดของป้ายเป็นตราเมืองมาดริดรับประกันข้อมูล)

อือม์ เสียดายที่สมัยนั้นไม่มีกล้อง รปภ. ติดตามถนน

ขอบคุณครับ พี่ Don Quixote 
 
เมืองน่าอยู่ครับ  ศิลปกรรม ก็ขรึมดี

มีกลิ่นอาย....

ขอรูปแยะ ๆ ครับ

+1 ครับต๊อก...

ถ้าหันมาใช้ DSLR ว่าจะบวกให้สัก 5 เลยครับ... :D

ยินดีครับคุณยอด ขอบคุณที่เยี่ยมชมครับ

.....

ขอบคุณครับพี่รุต ผมกำลังศึกษาตามที่พี่รุตแนะนำครับ

แสดงรูปเพิ่มครับ ตึกสวยงามในบริเวณ พกกล้อง ออกไปแล้ว เลยถ่ยไปเรื่อง

ตึก เมโทรโปลิส หัวถนน แกรนเวีย ด้าน ถนน เซบีย่า ตึกนี้อายุ ๑๐๐ ปีเท่าถนน ดั้งเดิมเป็นตึก ของบริษัทปรกันภัย ฟินิกซ์ เลยมีรูปนกฟินิกซ์ ที่ฟื้นขึ้นจากขี้เถ้าได้เป็นสัญลักษณ์

ตึกอะไรไม่รู้ สถาปัตกรรมผสมปนเปยุ่งไปหมด ไร้ซึ่งความสมดุล อิ อิ

ถนนนี้เป็นทางลอดลงมาประมาณ ๓๐๐ กว่าเมตร ก่อนสัญญาณไฟคนข้าม บางครั้งเวลารถโล่งมีเด็กซิ่ง โรลเล่อร์ เบลด ลงมาเฉย กลางเลนกลางๆ เลยครับ มากที่สุดเคยเห็นซึ่งแข่งกันลงมา ๔ คน

ฝั่งตรงข้ามที่ข้ามถนนมาเป็นแบงค์ชาติสเปน

มีหน้าตาผนัง ดีที่ไม่หน้าเลือด

นนายแบงค์หน้าตายไม่รู้ไม่ชี้

อีกฝั่งเป็น สถาบันเซอบานเตส ตามชื่อนักเขียนชื่อดังผู้เขียนเรื่อง ดอน กิโฮเต้ เมื่อ ๔๐๐ ปีก่อน เป็นสถาบันส่งเสริมวัฒนธรรมผ่านภาษาแบบ สถาบันเกอเต้ ของเยอรมัน

เดินไปหาของกินละ ตึกนี้ทรงสามเหลี่ยม ตรงสามแยก ตอนนี้สองทุ่มสิบห้า นาฬิกายอดตึกตามภาพครับ ฤดูร้อยมืดช้า และที่จริงสเปนอยู่ทางละติจูดตะวันตกมากกว่ายุโรปชาติอื่นแต่ใช่โซนเวลา GMT+1 เท่ากับภาคพื้นทวีป ทำให้เวลาตามนาฬิกาเดินช้ากว่าที่ควร แถมตอนนี้ไขนาฬิกาเร้วขึ้น ๑ ชม. ซะอีก กว่าจะมือดสนิทจริงสามทุ่มครึ่ง เดือนหน้าจะประมาณสี่ทุ่มครับ

 ;D

ไปกินข้าวเย็นที่ พลาซ่า เด ซันตาอันนา เสร็จแล้วออกมายังไม่มืดดี ฟ้าสีสวย ตึกนี้เป็นโรงแรม

อีกข้างของพลาซ่าเป็นโรงละคร ตอนนโปเลียนมายึกสเปนเคยสั่งให้รื้อเพื่อโชว์เพาเวอร์เล่นๆ แต่คนสเปนไม่ยอม

มอไซดแถวนั้นครับ คนสเปนชอบขี่มอไซด์เพราะอากาศดีฝนน้อย มีหลายยี่ห้อ ญี่ปุ่น Hyosong? ไม่แน่ใจเกาหลีหรือจีน มอไซด์อิตาเลี่ยน เยอรมัน และฮาเลย์

คนสเปนตัวไม่สูง ผู้ชายสูงอายุ๕๐ ปลายๆ หรือ ๖๐ ขึ้นไปส่วนมากสูงไม่ถึง ๑๗๐ ซ.ม. ขนาด ๑๖๐ หรือเตี้ยกว่าก็มี คนรุ่นใหม่เตี้ยกว่า ๑๗๐ ก็มีมาก มอไซด์ญี่ปุ่นมีการทำเบาะให้บางลงครับ มอไซด์ฝรั่งก็เห็นพวกอิตาเลี่ยนมากกว่าเยอรมัน

ร้านสวยงามแถวนั้น ผนังเป็นกระเบื้อง

เดินกลับออกทางเดิม ตึกใหญ่ๆ กลางเมืองจะเปิดไฟส่องทุกคืนครับ

 :)

 :D

เอ๋พี่เคยตอบคำถามหรืออธิบายไปหรือยังครับว่า ทำไมการแต่งกายของสเปน ถึงได้คล้าย ๆ พวกอิสลามครับ ??? ::014::
+1 ให้กับการพาเที่ยวครับพี่ ::014::

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;topic=85465.0;attach=144362;image)

ตึกเค้านี่
ฝีมือปั้นกัน สวย ๆ ทั้งนั้น
บางครั้งก็แฝงอารมณ์

เอ น่าจะนิดหน่อยแล้วครับ คุยกันใหม่แล้วกัน

คนสเปนมีหลายเชื้อสายมีตั้งแต่ผมทองไปจนถึงผมดำ เป็นฝรั่งยุโรปใต้ปนกับชนเผ่าวิสิโกธ (โกธตะวันตก)  ที่อพยพจากยุโรปกลางในยุคโรมัน นอกจากนี้ก็มีเชื้อสายมัวร์ (มุสลิมจากอัฟริกาเหนือพื้นที่โมรอคโคปัจจุบัน ซึ่งในยุคโรมันและยุคกลางเรียก มัวริตาเนีย) วัฒนธรรมสเปนเป็นอัตลักษณ์ของคนสเปนมากกว่ารูปลักษณ์กายภาพครับ

มีหลักฐานว่ามีคนตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ประเทศสเปนมาแล้วหลายหมื่นปี ตั้งแต่ยุคโบราณพันกว่าปีก่อน ค.ศ.  สเปนเป็นเมืองท่าเส้นทางเดินเรือ เช่น อาณาจักรฟินีเซี่ยนมาตั้งเมืองหลายเมืองในสเปน เช่น คาดิซ กรีก โรมัน ก็มาตั้งเมืองในสเปนเพิ่มเติม พื้นที่สเปนซึ่งมีชนเผ่าท้องถิ่นจำนวนมากกลายเป็นแคว้นหนึ่งของโรมัน โรมันสร้างเมืองใหญ่และสถาปัตยกรรมใหญ่โตจำนวนมาก โดยที่สเปนเป็นแหล่งเหมืองแร่สำคัญ และที่พื้นที่แย่งชิงอิทธิพลระหว่างโรมันกับอาณาจักรอื่นเช่น คาร์เธจ (พื้นที่ประเทศตูนีเซียในอัฟริกาเหนือปัจจุบัน)

ประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งที่สำคัญของสเปนคือการที่พวกมัวร์มุสลิมจากอัฟริกาเหนือ (ชื่อเรียกในขณะนั้นคือ  มัวริตาเนีย) รุกรานข้ามช่องแคบยิบรอลต้าในปี ค.ศ. ๗๑๑ และยึดครองพื้นที่หลายส่วนหลายร้อยปี ตั้งเมืองสำคัญ เช่น เมือง เซบีย่า เกรนาดา คอร์โดบา ฯลฯ เมื่อพวกมัวร์มาตั้งและตีเมืองมากก็มีสเปนฝรั่งเปลี่ยนไปนับถืออิสลามด้วย ประมาณกันว่าประมาณปี ค.ศ. ๑๐๐๐ ประชากรสเปนทั้งมัวร์ทั้งฝรั่งเป็นมุสลิม ๗๕% ด้วยซ้ำไป

พวกมัวร์ยังไปรุกรานขึ้นไปถึงฝรั่งเศส แต่แพ้พระเจ้าชาลส์ มาเตล ที่ เมืองตูร์ อย่างเด็ดขาด เลยถอยร่นกลับมาอยู่แค่ในสเปน พระเจ้าชาลส์ มาเตล เป็นพระบิดาของพระเจ้าเปแปง เดอะ ชอร์ต ซึ่งเป็นพระบิดาของพระเจ้าชาลส์ เลอ มาน ผู้โด่งดัง ในยุคของพระเจ้าชาลส์ เลอ มาน ยังมีการรบกับมัวร์ต่อเนื่องในสเปน เช่น การรบที่เมือง ซาราโกซ่า ทางตอนเหนือของสเปนซึ่งเป็นที่มาของวรรณกรรมมีชื่อ La Chanson de Roland (เพลงแห่งโรรอง) โรรอง เป็นทหารเอกของ พระเจ้าชาลส์ เลอ มาน มีวีรกรรมมาหลายเรื่อง มีดาบมีชื่อชื่อ ดูริดาน่า ม้ามีชื่อๆ เบย์ยาร์ด (ม้าแดง) (อุปกรณ์ดีเด่นแบบขุนแผน แต่ไม่มีสาวมาก) ในการศึกครั้งนั้น โรรอง คุมกองระวังหลังเมื่อยกทัพกลับฝรั่งเศส แต่โดนข้าศึกซุ่มโจมตีที่ช่องแคบ รอสวาลส์ ในเทือกเขา ปีเรนีส  โรรอง เป่าเขาขอความช่วยเหลือ พระเจ้าชาลส์ เลอ มาน ก็ได้ยิน แต่พวกขี้อิจฉา โรงรอง ทูลว่า น่าจะเป็นเสียงลมมากกว่า ในที่สุด พระเจ้าชาลส์ เลอ มาน ทนไม่ไหว สั่งเดินทัพกลับไปดู พบว่า โรงรอง ตายในการรบเสียแล้ว

กว่าสเปนคริสต์จะไล่มัวร์กลับไปอัฟริกาเหนือได้หมดจริงๆ ก็ปี ค.ศ.1492 สมัยพระเจ้าปิลิปเป้ ที่ ๒ เป็นปีที่โคลัมบัสค้นพบอเมริกาพอดี ทั้งนี้ทำให้ ศิลปะสเปนโดยเฉพาะในภาคใต้มีลักษณะของมุสลิมผสมอยู่มาก 

ตึกลายวิจิตรแบบนี้ศัพท์เขาเรียกว่าตึกหน้าขนมเค้กครับพี่ยอด ตึกที่เป็นแถวแนวต่อกันไม่ใช่ตึกใหญ่เฉพาะตัวก็ชอบทำเหมือนกัน สวยลายตาดีครับ อิ อิ

คุยเรื่องมุสลิมเข้ายุโรปในยุคกลาง เลยขอแนะนำหนังสือภาษาไทยเกี่ยวกับยุคกลางในยุโรปครับ ที่ผมว่าดีเด่น สนุกสนาน คือ

๑. "ยุคกลางในยุโรป" โดย พระราชวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ พระนามแฝง น.ม.ส. เป็นเรื่องตำนานเกี่ยวกับพระเจ้าชาลส์ เลอ มาน

๒. "ฝรั่งศักดินา" โดย ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นสารคดีเกี่ยวกับระบบ ฟิวดัล ของยุโรปยุคกลาง

คะแนนที่ 700 เป็นของผมครับพี่ ::014::
ขอบคุณครับพี่ที่แทรกเกร็ดที่เป็นสาระดี ๆ ให้ได้เพิ่มรอยหยักในสมอง ::002::