เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: มะเอ็ม ที่ มิถุนายน 22, 2010, 04:11:57 PM



หัวข้อ: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ มิถุนายน 22, 2010, 04:11:57 PM
ได้เมล์มาครับ...ลองอ่านดูยาวหน่อย แต่ได้กำลังใจขึ้นเยอะครับ ::002::

ชนะโทรไปบริษัทนี้เป็นหนที่สองในรอบสัปดาห์นี้
บริษัทนี้เป็นลูกค้ารายใหม่ที่เขากำลังติดตามเรื่องอยู่
เสียงของโอเปอร์เรเตอร์ซึ่งรับสายด้วยเสียงที่เป็นมิตร
และอ่อนโยนกล่าวว่า
' สวัสดีคะบริษัทเอบีซีอิงค์ ยินดีต้อนรับคะ '
คุณชนะกล่าวว่า ' ผมขอเรียนสายกับคุณสมจิต
ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์หน่อยครับ '
โอเปอร์เรเตอร์กล่าวทักขึ้นมาว่า ' นั่นคุณชนะใช่ไหมคะ'
ชนะรู้สึกแปลกใจความสามารถในการจดจำเสียงของพนักงานคนนี้ได้
เขากล่าวตอบด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความประทับใจ
' ใช่แล้วครับ ขอบคุณที่จำได้ครับ ' เธอกล่าวว่า
' ยินดีคะ ดิฉันจะโอนสายให้นะคะ '

หลังจากที่ชนะสนทนาเรื่องงานกับสมจิตจบ
ชนะจึงถามสมจิตขึ้นมาว่า ' คุณสมจิต ผมขอชม
พนักงานรับโทรศัพท์ของคุณหน่อยครับ
เธอเก่งจริงๆเลยที่จำเสียงผมได้
เป็นการให้บริการที่เกินความคาดหวังของผมจริงๆเลยครับ
ผมเองไม่ได้เป็นลูกค้าประจำ และก็ไม่ได้โทรมาบ่อยๆ
ขนาดที่เธอจะจำเสียงผมไ! ด้ด้วย เธอมีเคล็ดลับอะไรครับ '

สมจิตพูดว่า ' เธอชื่อเรณูคะ เธอได้รับคำชมอย่างนี้บ่อยๆ
หากคุณฟังเรื่องของเธอมากขึ้นกว่านี้คุณจะ ยิ่งประทับใจ
สนใจฟังไหมละคะ'

ชนะรีบกล่าวตอบด้วยความกระตือรือร้นว่า
' สนใจสิครับ ช่วยกรุณาเล่าให้ฟังหน่อยครับ '

สมจิตเริ่มต้นเล่าอย่างอารมณ์ดี ' คุณเรณูเธอตาบอดคะ
เธอจึงต้องอาศัยการฟังเพียงอย่างเดียว
ทำให้! เธอสามารถจดจำชื่อคนได้ดี
เธออาศัยอยู่ที่สมุทรปราการและมาทำงานที่ออฟฟิศนี่
ซึ่งอยู่แถวดอนเมือง ซึ่งถือว่าไกลมากโดยเฉพาะสำหรับเธอ
ซึ่งต้องเดินทางโดยรถเมล์เหมือนคนปกติ
ส่วนใหญ่ก็ จะมีคนตาดีอย่างพวกเราที่คอยช่วยดูสายรถเมล์
และส่งเธอขึ้นรถให้ เธอไม่เคยมาสายเลย
และก็ไม่เคยเรียกร้องขอรถรับส่งแต่อย่างใด
ไม่เหมือนพนักงานปกติของพวกเราหลายคน
ตอนที่เราย้ายสำนักงานจากในเมือง ต้องขอรถรับส่งให้ด้วย
แถมหลายๆคนที่มีรถส่วนตัวก็ยังมาทำงานสาย
พร้อมกับเหตุผลสารพัด คิดแล้วอายแทนคนตาดีเลยคะ '

เธอหยุดเว้นจังหวะสักครู่ก่อนจะเล่าต่อว่า
' คุณเรณูมีทัศนคติที่ดีมากๆกับงานของเธอ
เธอเคยเล่าให้ดิฉันฟังว่าสำหรับเธอแล้วการรับโทรศัพท์ไม่ใช่งานแต่มันคือชีวิต  เงินเดือนที่บริษัทให้กับเธอ ทำให้เธอสามารถเลี้ยงตัวเอง
และครอบครัวได้อย่างดี นอกจากนี้เธอยังมีเงินเหลือกว่าครึ่งสะสมไว้อีก ที่จริงแล้วเพื่อนคนตาดีหลายคนเคยหยิบยืมจากเธอในยามฉุกเฉิน
คุณเรณูกล่าวว่าบริษัทเรา เพื่อนร่วมงาน ลูกค้า และสังคมมอบโอกาสให้เธอได้พิสูจน์ว่าเธอมีคุณค่าและสามารถมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับสังคมได้
 เธอบอกว่าเธอพยายามทำงานของเธออย่างสุดความสามารถ ซึ่งรวมทั้งพยายามจำชื่อของผู้ที่โทรเข้ามาด้วย

เธอบอกว่าทุกคืนก่อนเข้านอน เธออยากรีบนอนไวๆ
เพื่อจะได้รีบตื่นข ึ้นมาทำงาน เธออดใจรอจะมาทำงานไม่ไหว
แหมอย่าหาว่าดิฉันบ่นเลยคะ แต่พวกตาดีๆอย่างพวกเรากลับภาวนา
ให้ถึงวันหยุดเร็วๆเสียนี่กระไร' สมจิตจบเรื่องด้วยเสียงหัวเราะเบาๆอย่างคนอารมณ์ดี

เมื่อชนะมาเล่าเรื่องนี้ให้กับผมฟังในรถระหว่างที่เราเดินทางไปพบลูกค้าที่นวนคร
ผมจึงเสริมความเห็นของผมไปว่า ' เราน่าจะเล่าเรื่องนี้ให้คนที่มาเข้าอบรม กับเราฟังบ้างนะ
บ่อยครั้งเรามักจะได้ยินคนบ่นว่างานหนัก หรือไม่ก็ปัญหาเรื่องงานมีมาก
สิ่งที่คุณเรณูมีแตกต่างกับเรา ไม่ใช่ว่าเธอตาบอดหรอกครับ ความจริงพวกเราต่างหากที่บอด   
เราทัศนคติบอดไงละ  เราได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆมากมาย จากนายจ้างจนเคยชิน
กระทั่งมองไม่เห็นคุณค่าของสิ่งเหล่านั้น

ยิ่งนานวันเรายิ่งเรียกร้องมากขึ้นโดยเฉพาะช่วงปลายปีแบบนี้
ในขณะที่คุณเรณูกลับมองแตกต่างกับเราอย่างสิ้นเชิง
บางคนเบื่องานจนอยากลาออกไปอยู่กับบ้านเฉยๆ  


มัน ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของ Dr. Denis Waitley
ผู้แต่งหนังสือขายดีชื่อ 'The psychology of winning'
เขายกรายงานวิจัยในอเมริกาที่บอกว่าผู้เกษียณอายุออกจากงานไป
โดยไม่มีภาระกิจอะไรทำมีอายุเฉลี่ยเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น พวกเขาตายเพราะความรู้สึก
ด้อยคุณค่า หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่าเฉาตายนั่นเองครับ

เราบางคนมีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ตนเองรักในขณะที่คนจำนวนมาก
ไม่มีโอกาสอย่างนั้น อย่างไรก็ตามเรามีสิทธิที่จะเปลี่ยนมุมมองโดย
หันมารักและหลงไหลในสิ่งที่เราทำได้ โดยไม่ต้องรอให้ตาบอดแบบคุณเรณูก็ได้ '

 ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: Little Tanowsri ที่ มิถุนายน 22, 2010, 04:20:00 PM
พ...   พึ่งพาอาศัยกันได้
ว...    ไว้วางใจกันได้         
ก...    มีความเกรงใจซึ่งกันและกัน
  "จึงจะเรียกว่าเป็นพวกกัน"

****** หนุ่มหน้ามล ทำงานเมืองชล  คนยะลา ******
แหม...ผมชอบคำลงท้ายนี้จัง


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ มิถุนายน 22, 2010, 05:08:35 PM
ขอบคุณครับ  ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มิถุนายน 22, 2010, 06:00:12 PM

       ขอบคุณครับน้าเอ็ม  ..... 

       ผมมักเจอแต่คนจำสิ่งที่ผิดพลาดนิดหน่อยแล้วก็พูดต่อไม่หยุดหย่อนไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหน

       สำหรับสิ่งดีๆที่เขาได้รับกลับไม่พยายามที่จะจดจำ และพูดถึงมันเลย  ......



หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มิถุนายน 22, 2010, 06:04:59 PM
+๑  ขอบคุณบทความดี ๆ ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มิถุนายน 23, 2010, 12:05:08 AM
ขอบคุณครับ... ::014::



หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: neunang-นิ้วนาง ที่ มิถุนายน 23, 2010, 01:20:58 AM
ขอบคุณครับ .......


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มิถุนายน 23, 2010, 01:21:19 AM
 ::002::ขอบคุณครับน้ามะเอ็ม


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: Middle ที่ มิถุนายน 23, 2010, 01:26:54 AM
เที่ยบกับเขาแล้วทำให้ผมรู้สึกอายตัวเองเพราะบางครั้งผมก็คิดว่าเมื่อไรจะถึงถึงวันหยุดสักทีน๊า..ในขณะที่กำลังทำงานอยู่.....


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ มิถุนายน 23, 2010, 07:10:14 AM
ผมว่าสิ่งที่คุณเรณูทำได้ คือผลจากการมีความเพียร ความตั้งใจอย่างมากต่องานที่ทำ น่าเอาอย่างครับ


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: Wachira1973 ที่ มิถุนายน 23, 2010, 02:25:59 PM

   อ่านแล้วให้ข้อคิดดีๆเยอะเลยครับ...ขอบคุณครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ทัศนคติบอด
เริ่มหัวข้อโดย: dimple8 ที่ มิถุนายน 23, 2010, 02:40:46 PM
ขอบคุณนะคะ

ชอบๆๆๆๆ   :VOV: :VOV: :VOV: :VOV: