เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

รวบหนุ่ม27ฆ่าชิงทรัพย์เหยื่อสาวต่อเนื่อง5ครั้ง 
 4 กค. 2553 17:04 น.


พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผบช.น. พ.ต.อ.พีรพล อัจกลับ ผกก.สส.บก.น.7 และพ.ต.อ.พงศ์อนันต์ คล้ายคลึง ผกก.สน.ตลิ่งชัน ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุม นายเอกรัฐ หรือปุ้ย แก้วภักดี อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 94 พระราม2 ซอย 88 ถนนพระราม 2 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับาลจังหวัดตลิ่งชัน ที่ 470/2553 ลงวันที่ 18 มิถุนายน 2553 พร้อมของกลางสร้อยข้อมือไข่มุก 3 เส้น ต่างหูประดับพลอย 1 คู่ นาฬิกายี่ห้อคาซิโอ 1 เรือน เสื้อผ้าที่ใช้สวมใส่ในการก่อเหตุ หมวกนิรภัย 1 ใบ อาวุธปืนยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด.38 จำนวน 1 กระบอก และรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ลขม 504 กทม. อีก 1 คัน

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้ต้องหาได้ก่อเหตุชิงทรัพย์เหยื่อที่เป็นผู้หญิงจำนวนหลายราย และยังใช้อาวุธปืนทำร้ายเหยื่อเสียชีวิต บางรายก็บาดเจ็บสาหัส โดยเมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา ผู้ต้องหาได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทรัพย์ นางผ่องใส คุ้มปรีดี อายุ 71 ปี ภายในหมู่บ้านมหาดไทย ย่านตลิ่งชัน ขณะที่ผู้เสียหายกำลังขับรถเข้าบ้าน ผู้เสียหายพยายามต่อสู้ทำให้ผู้ต้องหาใช้อาวุธปืนยิงใส่ไป 2 นัด กระสุนถูกที่หน้าท้องและขา ผู้ต้องหาจึงได้ทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 2 แสนบาท นอกจากนี้ผู้ต้องหายังเคยก่อเหตุชิงทรัพย์ในหลายท้องที่ โดยเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในท้องที่สน.หลักสอง ผู้ต้องหาได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายถึง 5 นัด จนเสียชีวิตคาที่ ก่อนจะชิงเอาทรัพย์สินหลบหนีไป ถือว่าเป็นการกระทำโหดเหี้ยมอย่างมาก

จากการสอบสวนนายเอกรัฐ ให้การรับสารภาพ ว่า ไม่ได้ทำงานอะไร แต่จะช่วยแม่ขายของบ้างเป็นครั้งคราวที่ย่านแสมดำ ทำให้เงินไม่พอใช้เพราะต้องเลี้ยงภรรยาและลูกอีก 1 คน ทุกครั้งก่อนก่อเหตุจะมีการวางแผนมาก่อนว่าจะไปจุดไหน และจะเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิงเท่านั้น เพราะก่อเหตุได้ง่ายกว่า แต่ที่ต้องใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตและบาดเจ็บนั้นตนไม่ได้ตั้งใจ ส่วนอาวุธปืนที่ได้มาตนขอเงินแม่ไปซื้อต่อจากเพื่อนในราคา 35,000 บาท สำหรับเงินที่ได้มาจากการก่อเหตุก็เอาไปใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ไม่ได้นำเงินไปซื้อเสพยาเสพติดเพราะตนไปได้เสพยาแล้ว แต่ก่อนหน้านี้เคยติดคุกในคดียาเสพติด 2 ปี ท้องที่สน.แสมดำ เมื่อพ้นโทษออกมาก็ตระเวนก่อเหตุชิงทรัพย์ 5 ครั้งจนมาถูกจับกุมตัวได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา พยายามฆ่าผู้อื่น , ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและโดยใช้ยานพาหนะ เพื่กระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวหรือโดยไม่มีเหตุอันควร พร้อมทั้งนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
 

http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=456346 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=456346)
 
 
 

มันไม่สนว่าใครจะเป็นอย่างไร
ยิงไว้ก่อน
อันตรายจริง ๆ
หวังว่า ศาลท่านจะตัดสินอย่างเด็ดขาด
คือ รับโทษสูงสุด


โจร ยังไม่สนใจว่าการพกพา มันผิด
เพราะมันไม่สน
แล้วเรา ๆ ยังจะสน ในการพกพา อยู่หรือ
มีอาวุธแล้วได้ใช้
ดีกว่ามีแล้วไม่ได้ใช้
อย่างน้อยเราก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเองและทรัพย์สิน

       เอามันไปโยนให้จระเข้กินเถอะครับ  ;)

ขอให้ศาลตัดสินโทษสูงสุดให้กับคนเลว ๆ อย่างนี้ครับ  ::014::

อยากมาก็ 20ปีครับ แล้วมาก่อเหตุต่อ  หนุ่ม27 ติด 20 ออกมาก็ 47 ปี ยังมีแรงอยู่หวังว่าเค้าคงจะกลับตัว
สงสารเหยื่อครับ   กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาท มันไม่ง่ายเลย  ::004:: ::004::  เวรกรรม เวรกรรม  ::004:: ::014::

ต่างกรรมต่างวาระครับ 5คดีคดีละ20ปี 100ปีพอดี 

ขอให้เป็นเช่นนั้น ครับ   ::014:: ::014:: ::014::

ติดนานๆให้มันป่วยตายในคุก...ป่วยแบบกินข้าวกินน้ำไม่ได้    :<<

                   ยังสนับสนุนให้มีการ " ยิงเป้า " อยู่ครับ  ติดรูปไว้ในตรางเลย ให้พวกขี้คุกได้รู้ได้เห็น โทษน้อยออกมาจะได้สำนึกตัวกลัวตาย

                   โทษหนักก็ให้มันร้อนรนรู้ชะตาอยู่อย่างเป็นทุกข์ หรือชิงฆ่าตัวตายไปก่อน

แต่ละกรรมในคดีไม่เหมือนกัน คงไม่ใช่คดีละ 20 ปี ครับ  "งง"

ฟังในข่าว ตำรวจบอกว่ามันทำแต่กับผู้หญิงครับ เห็นว่าไม่มีทางสู้ได้ โหดเหี้ยมจริงๆครับ น่่าจะปล่อยให้ตายในคุกนะครับ

ขออภัยครับผมนึกว่าก่อคดีมา5ครั้ง หมายถึง พยายามฆ่า 5 คดีครับ  ::014:: :D

เลวจริงๆ >:( >:(

เลวมากครับ...

เลวจริงๆ น่าจะมีโทษแบบว่า... ใส่ในตะกร้อยักษ์ที่มีตะปูทะลุเข้าไปข้างใน... แล้วให้ช้างเตะ...

ครูต้นโหดจัง ::003:: ::003:: ::003:: ::005:: ::014::

       ทำให้สุกก่อนนะครับ  เดี๋ยวเลือดชั่วของมันจะทำให้จระเข้ป่วย    ;D

ยิงเป้าไปเลยครับ

อำมหิตครับแบบนี้ ศาลลงโทษขั้นสูงสุดเลยนะครับ  :D

ยิงเป้าก็ได้ครับ... แต่ยิงด้วยหนังสติ๊กนะ... จับมัดกางแขนกางขา... เอาหนังสติ๊กยิงตรงเป้ากางเกง... จนกว่าจะตาย... ยิงด้วยปืนมันสบายเกินไป...

                                     โห  .......  น้า      :~) :~)

ขออภัยที่ทำให้ลุงปูหวาดเสียว... ::005:: ::005:: ::005::


...ขนาดผมพิมพ์เอง... ยังวูบวาบๆ เลยครับ... ;D ;D ;D

::014::

นี่ก็ตัวนึง ตำรวจจับให้ได้นะครับ อยากให้มันย่ามใจ  ภัยสังคม ::009::


วันที่ 06 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 18:57:12 น.  มติชนออนไลน์


หนุ่มใหญ่ตัณหากลับลวงด.ญ.ป.5ข่มขืน3ครั้ง ระหว่างลงมือบีบคอไปด้วย



เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 6 กรกฎาคม นางเจน (นามสมมุติ) อายุ 29 ปี พร้อมด้วยนายนิด (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี ได้พา ดญ.เอ (นามสมมุติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ร.ร.ชุมชนประชาธิปัตย์วิทยาคาร ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.อ.ยุทธภูมิ โพธิ์อุดม ร้อยเวรสอบสวน สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เนื่องจาก ด.ญ.เอ ลูกสาว ถูกชายสูงอายุ ล่อลวงไปทำการข่มขืนกระทำชำเราก่อนจะถูกปล่อยตัวกลับมา

 

  นางเจน เปิดเผยว่า ดญ.เอ ลูกสาวของตน พักอาศัยอยู่ที่บ้านของนางสวย ผู้เป็นยายที่บริเวณข้างห้างแมคโคร สาขารังสิต ส่วนตนพักอยู่กับสามีที่บ้านเช่าอีกหลังหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 กรกฏาคม ที่ผ่านมา ด.ญ.เอ เดินทางไปเรียนหนังสือตามปกติ และจนถึงเวลาเลิกเรียนลูกสาวก็ยังไม่กลับบ้าน ตนและสามีจึงได้ออกตามหาก็ไม่พบ  จึงแจ้งความไว้ที่ สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์  ต่อมาก็มีครูประจำชั้นของลูกสาวโทรศัพท์มาแจ้งว่า ด.ญ.เอ ได้มาที่โรงเรียนมีสภาพผิดปกติ แต่งกายไม่เรียบร้อย เอาแต่ร้องไห้ ตนจึงรีบเดินทางมาที่โรงเรียน สอบถามถึงเหตุการณ์ต่างๆที่ลูกสาวของตนหายตัวไป


 นางเจน กล่าวต่อว่า ลูกสาวเล่าว่า หลังจากเลิกเรียน ระหว่างที่กำลังเดินกลับบ้านพบกับผู้ชายรายหนึ่ง อายุ ประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกงขาสั้น เข้ามาถามว่า ด.ญ.เอ รู้จักโรงเรียนธัญบุรี หรือไม่ ถ้ารู้จักขอให้ช่วยพาเขาไปส่ง จะให้ค่าจ้าง 100 บาท ด.ญ.เอ หลงเชื่อจึงพาชายคนดังกล่าวไปยังโรงเรียนธัญบุรี ซึ่งอยู่ห่างออกไปราว 1 กม. พอไปถึงหน้าโรงเรียน ชายคนนั้นได้เรียกรถแท็กซี่ ก่อนจะพา ด.ญ.เอ ขึ้นไปบนรถ แล้วให้แท็กซี่ขับไปทางด้านถนนลำลูกกา ย่านคลองสี่ ก่อนจะพา ด.ญ.เอ เดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว และดึงตัวเข้าไปในป่าข้างทาง แล้วขู่บังคับว่าจะฆ่าให้ตายถ้าดิ้นรนหรือขัดขืน จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ถอดเสื้อผ้าของ ด.ญ.เอ และลงมือข่มขืนกระทำชำเราจนสำเร็จความไคร่ 1 ครั้ง


จากนั้นก็ให้ ดญ.เอ แต่งตัวสวมเสื้อผ้า แล้วพาเดินกลับออกมาที่ถนนใหญ่ ก่อนจะเรียกให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างไปส่งที่บ้านญาติของชายคนนั้นภายในหมู่บ้านร่มเย็น ย่านคลองสี่ โดยชายคนนั้นบอกว่าเป็นบ้านญาติ และขอยืมเงินจากเจ้าของบ้านหลังนั้นจำนวน 1,000 บาท จากนั้นก็เรียกรถแท็กซี่ พา ด.ญ.เอ ไปที่เพื่อนรัก รีสอร์ท ย่านมีนบุรี  ก่อนจะเข้าไปภายในห้อง และลงมือข่มขืนอีก 2 ครั้ง โดยระหว่างทำการข่มขืนก็ใช้มือบีบคอไว้พร้อมทั้งขู่บังคับว่าจะฆ่าให้ตายถ้าไม่ยินยอม


กระทั่งรุ่งเช้า ดญ.เอ ได้ขอร้องชายคนดังกล่าวว่า อยากกลับบ้านและจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครรู้ ชายคนดังกล่าวจึงยอมให้กลับโดยมอบเงินค่ารถให้ ด.ญ.เอ จำนวน 200 บาท แล้วพา ด.ญ.เอ ไปส่งขึ้นรถตู้เดินทางกลับมาตลาดรังสิต พอมาถึง ด.ญ.เอ จึงได้นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปที่โรงเรียน จนครูประจำชั้นพบเห็นความผิดปกติ จึงแจ้งผู้ปกครองและพามาแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

 

 ต่อมา พ.ต.อ.วัฒนา วงศ์จันทร์ ผกก.สภ.ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ได้สั่งการให้นำตัว ด.ญ.เอ ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลประชาธิปัตย์เพื่อตรวจร่างกาย ไว้เป็นหลักฐาน และจะได้ประสานงานไปยังผู้เกี่ยวข้องทั้งอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ เพื่อสอบปากคำเด็กตามระเรียบเนื่องจากเป็นผู้เยาว์ พร้อมทั้งสั่งการให้ชุดสืบสวนออกหาข่าวและติดตามตัวชายที่ก่อเหตุคนดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปอย่างเร่งด่วนต่อไป

    :OO :OO :OO

มันเก่งเนอะ หนักขนาดนี้ยังยกเฉย  ::013::

ตีนแมวงัดบ้านเศรษฐีนี เมืองย่าโม กวาด 5 ล้าน
   
 6 กค. 2553 21:15 น.


พ.ต.ต.มงคล แก้วโพธิ์ สารวัตรสืบสวน สภ.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จอหอ ทำการตรวจสอบตู้เซฟยี่ห้อ ลีโค ขนาด 70 x 80 ซม. น้ำหนักกว่า 100 กิโลกรัม ที่ถูกคนร้ายโจรกรรมและนำไปงัดแงะเอาทรัพย์สินมีค่า ก่อนนำไปทิ้งไว้ที่บริเวณป่าละเมาะข้างรางรถไฟ ติดกับหมู่บ้านจัดสรรพัฒนาแลนด์ หมู่ที่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อหาหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี

โดยสภาพของตู้เซฟมีร่องรอยการงัดแงะด้วยของแข็งคล้ายชะแลง บริเวณประตูของตู้เซพจนพังยับ ตู้เซฟดังกล่าวเป็นตู้เซฟของนางสาวพรรษมนตร์ จริยะวรกุล อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 156 หมู่ที่ 9 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เศรษฐีณีเมืองย่าโม เจ้าของสถานบริการน้ำมันจิริยะปิโตเลียมที่ตั้งอยู่ติดกันกับบ้านพัก เลขที่เดียวกัน ได้มาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จอหอไว้ ว่าถูกกลุ่มคนร้ายงัดบ้านพักและโจรกรรมตู้เซฟไปจากบ้าน ซึ่งอยู่ห่างจากสถานที่พบตู้เซฟประมาณ 7 กม. ตั้งแต่เมื่อเวลา 22.00 น. ของวันที่ 5 ก.ค.2553 ที่ผ่านมา โดยทางนางสาวพรรษมนตร์ฯ ระบุว่า ภายในตู้เซพมีเงินสดจำนวน 1 ล้านบาท ทองรูปพรรณและเครื่องประดับอัญมณีมีค่าสมัยโบราณอีกจำนวน 18 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งหมดภายในตู้เซฟมากกว่า 5 ล้านบาท


 http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=456751 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=456751)
 
 
 

รายการนี้ขอเถอะครับคุณตำรวจที่รักขออย่าจับเลย รู้ตัวแล้วก็เอามันไปรีดคำสารภาพแล้วก็ทุบหัวใส่ถังน้ำมันสองร้อยลิตรเผาเลยเป็นๆ

(http://image.ohozaa.com/if/12785004271278500499l.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=9555508ce4233af0526150d29f8a889a)

จำนวนคนอ่านล่าสุด 291 คน
วันที่ 07 กรกฎาคม พ.ศ. 2553 เวลา 17:54 น.  ข่าวสดออนไลน์


ภ.3รวบโจ๋หื่นขยี้2พี่น้อง มีดกรีดหน้าเหยื่อ


     เมื่อเวลา 16.10 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่บริเวณด้านหน้า สนง.ตำรวจภูธรภาค 3 ถ.สรรพสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผบช.ภ.3 พร้อม พล.ต.ต.อำนาจ  อันอาตม์งาม รอง ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.สมบัติ  คงพิบูลย์ ผบก.จ.บุรีรัมย์ และ พ.ต.อ.พิษณุ  วัตถุ ผกก.สภ.พุทไธสง บุรีรัมย์ แถลงข่าวจับกุม 2 ผู้ต้องหาก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์ ตามประกบใช้มีดจี้น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี เรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง บุรีรัมย์ สองพี่น้องขณะกำลังขับรถกลับบ้าน จากนั้นได้ใช้กำลังบังคับลากลงป่าข้างทาง บริเวณ ถ.พุทไธสง-บ้านใหม่ไชยพจน์ ก่อนสองคนร้ายจะชกต่อยทำร้าย และใช้มีดกรีดใบหน้า แล้วลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ เหตุเกิดเมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยคนร้ายคือนายปัญญา แนนอุดร อายุ 19 ปี ที่อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 7 ต.โนนสว่าง อ.เกษตรวิสัย จ.ร้อยเอ็ด และนายธันวา บุญหนา  อายุ 18 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 221 หมู่ 14 ต.บรบือ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิกไอ สีแดงดำ ทะเบียน 493 บุรีรัมย์ รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิ๊กไอ สีแดง-ขาว ทะเบียน 712 ร้อยเอ็ด พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และมีดปลายแหลมที่ใช้ก่อเหตุ 1 เล่ม

 

     พล.ต.ท.เดชาวัต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ จนท.ได้สอบสวนหาข้อมูลจากผู้เสียหายทั้งสองคน โดยได้ข้อมูลเป็นภาพสเก็ตช์รูปพรรณ สัณฐานของคนร้าย และถุงยางอนามัยที่พบบริเวณใกล้เคียงที่เกิดเหตุ ทราบว่าคนร้ายทั้งสองคนเป็นชายวัยรุ่นที่เป็นเด็กแว้น ในแก๊งซิ่งรถจักรยานยนต์อยู่ในเขตพื้นที่ อ.พุทไธสง จึงให้ตำรวจในพื้นที่ติดตาม จนกระทั่งทราบว่าทั้งสองหลบหนีไปกบดานในเขตพื้นที่ อ.เกษตรวิสัย ร้อยเอ็ด จึงประสานงานกับตำรวจในพื้นที่ระดมกำลังติดตามจับกุม ก่อนที่จะสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองได้ที่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในเขต อ.เกษตรวิสัย ผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าก่อนที่จะร่วมมือกันก่อเหตุได้รู้จักกันในสถานพินิจ จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกคุมขังในข้อหาลักทรัพย์ ทำร้ายร่างกาย และข่มขืน หลังพ้นโทษมาพบกันจึงชักชวนกันก่อเหตุชิงทรัพย์ รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิกไฮ สีแดง ขาว มาจากหญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย ในเขตพื้นที่ อ.เมือง ร้อยเอ็ด ก่อนที่จะนำมาใช้เป็นยานพาหนะในการประกอบเหตุครั้งนี้อีก โดยนายธันวาเป็นคนลงมือข่มขืนน.ส.เอ ส่วนนายปัญญาคอยใช้มีดจี้บังคับเพื่อคุมเชิง ผู้ต้องหาทั้งสองอ้างว่าสาเหตุที่ประกอบเหตุ เพราะความคึกคะนอง และอยากมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว รวมทั้งอยากได้ทรัพย์ไปขายเพื่อหาเงินมากินเหล้าเที่ยวเตร่ จนท.จึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

แช่งให้มันโดนตุ๋ยในคุก  แผลอักเสบติดเชื้อตายอย่างทรมาณ ::003::