หัวข้อ: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 12:05:37 PM พรุควนเคร็งเป็นป่าพรุ ชุ่มน้ำ เขตรอยต่อ 3 จว.คือ พัทลุง สงขลา และนครศรีธรรมราช พื้นที่หลายหมื่นไร่ ต้นไม้ที่มีมากคือเสม็ดขาว ในหน้าแล้งพรุแห้งจึงเกิดไฟป่า ระยะ 2 เดือนมานี้มีควันไฟจากป่าพรุปกคลุมพื้นที่ในอำเภอรอบ ๆ รบกวนชาวบ้านมาตลอด บางวันมาก บางวันน้อย บางวันต้องเปิดไฟหน้ารถ ตั้งแต่เดือน ตค.2552 - ปัจจุบัน(9 เดือน)เกิดไฟไหม้ป่าแล้วจำนวน 258 ครั้ง เกิดจากฝีมือมนุษย์ทั้งหมดที่พยายามเผาป่าเพื่อเอาพื้นที่ปลูกปาล์มน้ำมัน กองทัพได้ขอใช้พื้นที่เพื่อฝึกซ้อมรบ สส.พัทลุง ออกมาคัดค้าน การดับไฟเป็นไปอย่างยากลำบากมาก ในความคิดผมว่าถ้าซื้อเครื่องบินปีกแข็ง ดับไฟป่าสักฝูงหนึ่ง เอาแค่ 3 ลำก่อน จะเอาอยู่ไหมครับ ? และยังสามารถนำไปใช้ดับไฟป่าได้ในพื้นที่อื่นทั่วประเทศ
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 12:09:24 PM หาสาเหตุที่เกิดไฟไหม้ก่อนครับ ....... แล้วกำจัดที่จุดนั้น หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 12:10:39 PM เรื่องไปป่าผมว่ารัฐน่าจะจัดหางบได้แล้ว :<><>
เพราะผลกระทบโดยรวมมันมากกว่างบที่จัดเครื่องบินมาก เครื่องบินของราชการก็น่าจะเอามาปรับปรุง+ดัดแปลงนำมาใช้ได้ หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 12:47:09 PM เรื่องสำคัญต้องให้ความรู้กับชาวบ้านก่อนครับ ให้เค้ารักและหวงแหนป่าไม้ ผมว่าต้นเหตุสำัคัญคือชาวบ้าน ::014::
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: R2D2 ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 12:54:02 PM เรื่องสำคัญต้องให้ความรู้กับชาวบ้านก่อนครับ ให้เค้ารักและหวงแหนป่าไม้ ผมว่าต้นเหตุสำัคัญคือชาวบ้าน ::014:: รักป่าน่ะรักแน่ครับ แตเค้าก็รักเงินด้วย เหมือนที่พระพยอมเทศน์ไม่ผิดเลย คนยุคนี้กลัวจนมากกว่ากลัวบาป น้องชายผมชอบเสนอว่าคนต้องอยู่กับป่า ต้องอยู่กันให้ได้..ไม่ใช่ไล่คนออกจากป่า..คนเข้าไปอยู่แล้วมันจะเป็นป่าอยู่ได้ไงว้า..งง หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 01:07:35 PM ลองดูบลูพริ้นท์ (คนเดี๋ยวนี้เรียกแม็ปโร้ด) ของป่าพรุโต๊ะแดงครับ
เคยมีไฟป่าเหมือนกัน ราวๆ6-7ปีที่แล้ว(หรือมากกว่าหว่า) สุดท้ายดับครับ ห ป่าพรุไฟจะคุอยุ่ข้างล่างตามการทับถมของต้นไม้แห้ง ไม้ล้ม ข้างบนเหมือนดับ แต่โดนลมเข้า ข้างล่างก็กระพือขึ้นมาอีก ดับยากครับ หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 01:13:19 PM เรื่องสำคัญต้องให้ความรู้กับชาวบ้านก่อนครับ ให้เค้ารักและหวงแหนป่าไม้ ผมว่าต้นเหตุสำัคัญคือชาวบ้าน ::014:: รักป่าน่ะรักแน่ครับ แตเค้าก็รักเงินด้วย เหมือนที่พระพยอมเทศน์ไม่ผิดเลย คนยุคนี้กลัวจนมากกว่ากลัวบาป น้องชายผมชอบเสนอว่าคนต้องอยู่กับป่า ต้องอยู่กันให้ได้..ไม่ใช่ไล่คนออกจากป่า..คนเข้าไปอยู่แล้วมันจะเป็นป่าอยู่ได้ไงว้า..งง ก็เข้าทำนองน้ำพึ่งเรือ... เสือพึ่งป่าไงครับ... ให้คนรอบๆ พื้นที่ป่าได้อาศัยป่าเป็นแหล่งทำมาหากิน... เขาก็จะเกิดสำนึกรักป่าและรู้จักหวงแหนป่า... แต่ถ้าไปกีดกันไม่ให้คนรอบๆ พื้นที่ไม่ให้สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตจากป่าได้... ก็จะเกิดความคิดที่ว่า... รักษาไปก็กินไม่ได้... รับจ้างเผาดีกว่า... ได้เงินมาเลี้ยงลูกเลี้ยงเมีย... ป่าเตียนลงก็ยังได้รับจ้างทำงานในสวนยางสวนปาล์ม... ...อนึ่ง... ไฟป่าที่เกิดในป่าพรุ... จะเป็นประเภทไฟใต้ดิน... ซึ่งจะดับยากกว่าไฟที่เกิดบนผิวดินครับ... หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 01:36:57 PM ต้องให้ภาครัฐจัดงบสนับสนุนด้วยครับ ซื้อเครื่องบินทำฝนเทียม เครื่องบินดับไฟ คิดว่างบคงไม่มาก ฯลฯ
แต่ในระดับหมู่บ้านคงต้องหาอาสาสมัครดับไฟป่าด้วยครับ อปพร. ฯลฯ ::014:: หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 02:02:57 PM อัดน้ำลงไปมาก ๆ ครับ พื้นที่จะอุ้มน้ำไปเอง หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 02:56:18 PM ใช้น้ำกันราวๆครึ่งเขื่อนเลยครับ แนวไฟกว้างครับ
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:03:03 PM อย่างแรก คือ ทำแนวกันชนก่อนครับ เพื่อไม่ให้มีเชื้อไฟ ที่จะลุกลาม ให้การเกิดคุไฟ กำจัดอยู่ในบริเวณ หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:07:10 PM ล่าสุดเพิ่งมอดลงได้สักสองสัปดาห์ (ย้ำว่ามอดลง) ...... กินเนื้อที่ไปเกือบสองหมื่นไร่ ถ้าใช้ จนท.ดับไฟป่า ระดมทั่วประเทศนี้จะไหวหรือเปล่านะ รอวันปะทุ หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:13:43 PM (http://www.rid.go.th/2009/_data/_users/530623-5.jpg) เอาแบ๊กโฮ เข้าไปขุดร่องขวาง และ เปิดผิวหน้า เอาเครื่องสูบน้ำ ไปหล่อเลี้ยง และ ฉีดคลุมผิว หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:27:32 PM (http://www.rid.go.th/2009/_data/_users/530623-5.jpg) เอาแบ๊กโฮ เข้าไปขุดร่องขวาง และ เปิดผิวหน้า เอาเครื่องสูบน้ำ ไปหล่อเลี้ยง และ ฉีดคลุมผิว คิดว่าไฟไม่ได้เกิดแค่จุดเดียวนะครับพี่ยอด... ไฟที่เกิดเกิดจากคนลักลอบจุด... เพื่อให้กลายเป็นป่าเสื่อมโทรม... จากนั้นก็จะกลายเป้นที่ทำกินของชาวบ้าน... โดยมีเจ้าของที่แท้จริงเป็นนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง... ...หาวิธีป้องกันไม่ให้คนเข้าไปเผาดีกว่าครับ... ทำให้เขารู้สึกว่า... ถ้าเผาป่า... มันจะเหมือนทุบหม้อข้าวตนเอง... ต่อจากนั้น... ถ้ามีคนมาจ้างให้เผา... ก็คงลำบากขึ้น... ::014:: หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:29:23 PM ดับไฟด้วยไฟครับ ชิงเผาเป็นแนวก่อน เพื่อป้องกันไฟลามครับ แล้วทำความเข้าใจกับชาวบ้าน จัดชุดดูแลเหมือน ชรบ.
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:37:19 PM แนวที่เราเผา จะเป็นแนวใหม่ครับ แนวเก่าไล่มาหาแล้วดับ แต่แนวของเราจะไหม้ต่อ
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: นายรัก-รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:42:28 PM แนวที่เราเผา จะเป็นแนวใหม่ครับ แนวเก่าไล่มาหาแล้วดับ แต่แนวของเราจะไหม้ต่อ :~) :~) :~) :~) :~) :~) ทำไงล่ะครับพี่ซับ รอพี่ๆ ท่านอื่นๆ มาแนะกว่า หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:47:23 PM ที่พรุโต๊ะแดงดับด้วยฝนจริงและฝนเทียมกระหน่ำครับ ถ้าจำไม่ผิด
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:54:25 PM ที่พรุโต๊ะแดงดับด้วยฝนจริงและฝนเทียมกระหน่ำครับ ถ้าจำไม่ผิด นี่แหละครับ ที่ผมบอกว่าต้องให้ภาครัฐจัดงบสนับสนุน ไม่อย่างนั้นคงดับยากครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 03:55:51 PM ที่พรุโต๊ะแดงดับด้วยฝนจริงและฝนเทียมกระหน่ำครับ ถ้าจำไม่ผิด อย่าเครียดครับน้า ..... พื้นทีไม่ใช่ ๕๐ ไร่ / ร้อยไร่ นี่มันกินพื้นที่หลายร้อยตารางกิโลเมตร เดินเท้าเป็นเดือนๆยังไม่ทั่ว ภาวะโลกร้อนถูกเร่งเร้าด้วยความโลภของมนุษย์ ป่าไฟไหม้ ฝนแล้ง พายุรุนแรง ฝนไม่ตก น้ำไม่มี ..... เหลือกี่ปีแล้วนี่ครับ (รอฟังคำตอบเสาร์หน้าก็แล้วกัน ..... อิอิ วันนั้นฤกษดีน้ำเยอะ ::007:: ) ::005:: ::005:: หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ กรกฎาคม 06, 2010, 05:56:30 PM สมมุติถ้าน้ำในอ่างอาบน้ำหนึ่งอ่างเท่ากับ200ลิตร ถ้าเราช่วยกันนำน้ำตามอาบอบนวดต่างๆๆไปดับไฟป่า ผมว่าน่าจะพอนะครับ เพียงช่วยกันคนละไม้คนละมือ หนีทางบ้านไปเที่ยวคนละรอบสองรอบ เราก็สามารถมีน้ำที่จะใช้ดับไฟได้สบายๆๆแล้ว :D~ :D~ :D~ :D~ เหมือนผมจะเป็นคนดีเลยนะครับ
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 07, 2010, 06:27:13 PM ป่าพรุ ไม่เหมือนป่าประเภทอื่นครับ น้ำดับไฟไม่ได้ เพราะมันไหม้ใต้กองใบไม้ที่ทับถมกันหนาๆ และยังคุระอุอยู่เรื่อยๆ
แนวทางป้องกัน ต้องศึกษาระบบนิเวศก่อนครับ ไม่ใช่จะเอาอะไรมาเทมาทิ้งเพื่อดับไฟ ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือ ไขน้ำเข้าพื้นที่บริเวณใกล้ถนนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอื่นตามมา และคอยควมคุมไม่ให้มีการวางเพลิงบริเวณอื่นๆเพิ่มขึ้นอีก ส่วนที่ใหม้ก็ต้องคอยควบคุมกันไป จะเข้าไปดับเลยคงไม่ได้ ป่าพรุนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีไฟป่า ครับ เพราะมันชุ่มไปด้วยน้ำอยู่แล้ว (เหมือนป่าดิบชื้น) แต่ที่เกิดขึ้นมานี้แสดงว่าระบบนิเวศของ "พรุ" ได้เปลียนสภาพไป ซากพืชที่ทับถมกันแห้งลง พอแห้งก็กลายไปเชื้อไฟดีๆนี้เอง สาเหตุเกิดจากการบุกรุกพื้นที่รอบชายขอบ การขวางทางเดินน้ำ ฯลฯ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ป่าพรุที่ชุ่มชื้นแห้ง ที่นี้อะไรๆมันก็ติดไฟง่ายขึ้น การแก้ไข ต้องทำให้สภาพป่าคืนคงเดิมให้มากที่สุด เริ่มจกาการจัดแนวป้องกันชายขอบโดย การกันพื้นที่แล้วปล่อยให้เกิดต้นไม้ พืชอื่นๆ ตามธรรมชาติ แนววงนี้จะเป็นแนวรักษาความชุ่มชื้นของพื้นที่ไว้ได้ ดูทางเดินน้ำ ศึกษา ผังเมือง ถนน คลองชลประทาน และอาจจะร่วมถึงอ่างเก็บน้ำ ฯลฯ ตรงจุดนี้สำคัญ เพราะบ้านเรา ไม่เคยศึกษาอะไรให้รอบด้าน คนทำถนนก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ดูว่าขวางทางเดินน้ำ คนทำชลประทานก็ทำไป ไม่ดูว่าจะทำให้พื้นที่ปลายน้ำเสียหายหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น น้ำท่วมฉับพลันในตัวเมืองอุดร และหาดใหญ่ สาเหตุที่เกิดเพราะผังเมืองไม่เคยศึกษาทางเดินน้ำ คิดว่าถ้าน้ำไหลมาก็เจาะช่องขุดคลองให้น้ำมันไหลไปก็จบ แต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น ระบบความสูงของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ก็ทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยน ป่าพรุ เกิดขึ้นเพราะมีน้ำ แต่น้ำหายไป ต้องค้นหาคำตอบให้ได้ว่าน้ำหายไปไหน หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 07, 2010, 06:33:35 PM (http://upic.me/i/v5/p553453835.gif) (http://upic.me/show.php?id=538f10374ad9d9bbf8b4fc8fdfb26c85) หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: Bird ที่ กรกฎาคม 08, 2010, 02:38:42 AM + คุณโทน73 ครับ
หัวข้อ: Re: ระดมสมอง..การปราบไฟป่าพรุควนเคร็ง เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กรกฎาคม 08, 2010, 09:36:52 AM ป่าพรุ ไม่เหมือนป่าประเภทอื่นครับ น้ำดับไฟไม่ได้ เพราะมันไหม้ใต้กองใบไม้ที่ทับถมกันหนาๆ และยังคุระอุอยู่เรื่อยๆ แนวทางป้องกัน ต้องศึกษาระบบนิเวศก่อนครับ ไม่ใช่จะเอาอะไรมาเทมาทิ้งเพื่อดับไฟ ปัญหาเฉพาะหน้าตอนนี้คือ ไขน้ำเข้าพื้นที่บริเวณใกล้ถนนให้เยอะที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุอื่นตามมา และคอยควมคุมไม่ให้มีการวางเพลิงบริเวณอื่นๆเพิ่มขึ้นอีก ส่วนที่ใหม้ก็ต้องคอยควบคุมกันไป จะเข้าไปดับเลยคงไม่ได้ ป่าพรุนี้ ไม่ว่ายังไงก็จะไม่มีไฟป่า ครับ เพราะมันชุ่มไปด้วยน้ำอยู่แล้ว (เหมือนป่าดิบชื้น) แต่ที่เกิดขึ้นมานี้แสดงว่าระบบนิเวศของ "พรุ" ได้เปลียนสภาพไป ซากพืชที่ทับถมกันแห้งลง พอแห้งก็กลายไปเชื้อไฟดีๆนี้เอง สาเหตุเกิดจากการบุกรุกพื้นที่รอบชายขอบ การขวางทางเดินน้ำ ฯลฯ ทั้งโดยตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ ทำให้ป่าพรุที่ชุ่มชื้นแห้ง ที่นี้อะไรๆมันก็ติดไฟง่ายขึ้น การแก้ไข ต้องทำให้สภาพป่าคืนคงเดิมให้มากที่สุด เริ่มจกาการจัดแนวป้องกันชายขอบโดย การกันพื้นที่แล้วปล่อยให้เกิดต้นไม้ พืชอื่นๆ ตามธรรมชาติ แนววงนี้จะเป็นแนวรักษาความชุ่มชื้นของพื้นที่ไว้ได้ ดูทางเดินน้ำ ศึกษา ผังเมือง ถนน คลองชลประทาน และอาจจะร่วมถึงอ่างเก็บน้ำ ฯลฯ ตรงจุดนี้สำคัญ เพราะบ้านเรา ไม่เคยศึกษาอะไรให้รอบด้าน คนทำถนนก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ไม่ดูว่าขวางทางเดินน้ำ คนทำชลประทานก็ทำไป ไม่ดูว่าจะทำให้พื้นที่ปลายน้ำเสียหายหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น น้ำท่วมฉับพลันในตัวเมืองอุดร และหาดใหญ่ สาเหตุที่เกิดเพราะผังเมืองไม่เคยศึกษาทางเดินน้ำ คิดว่าถ้าน้ำไหลมาก็เจาะช่องขุดคลองให้น้ำมันไหลไปก็จบ แต่จริงๆมันไม่ใช่อย่างนั้น ระบบความสูงของสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ก็ทำให้ทิศทางน้ำเปลี่ยน ป่าพรุ เกิดขึ้นเพราะมีน้ำ แต่น้ำหายไป ต้องค้นหาคำตอบให้ได้ว่าน้ำหายไปไหน นี่แหละครับ... วิธีการแก้ปัญหาไฟป่าแบบยั่งยืน... ::002:: +๑ แต้มครับ... |