เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

"ทำยากให้ง่าย"
พระอาจารย์ไพศาลวิสาโล


สมปองเข้าไปหาจิตแพทย์ด้วยสีหน้าหม่นหมอง
“หมอครับช่วยผมด้วย ผมนอนไม่หลับมาเป็นปีแล้ว ทุกครั้งที่นอนบนเตียง ผมจะรู้สึกว่ามีใครซ่อนอยู่ใต้เตียง พอผมลงไปนอนใต้เตียง ก็มักตงิด ๆ ว่ามีคนอยู่บนเตียง ผมเป็นอะไรรู้ไหมหมอ หมอช่วยผมที”

“คุณไม่เป็นอะไรมากหรอก คุณคิดมากไปเอง มาหาหมอทุกอาทิตย์ แล้วหมอจะช่วยคุณ แต่ระหว่างที่คุณอยู่บ้าน ขอให้คุณพูดกับตัวเองก่อนนอนสัก ๑๐๐ ครั้งทุกคืนว่าห้องนี้มีฉันคนเดียว ไม่มีใครอยู่ใต้เตียงหรือบนเตียงทั้งสิ้น”


อาทิตย์แล้วอาทิตย์เล่า ที่สมปองทำตามที่หมอว่า ทั้งพูดกับตัวเองคนเดียวและไปคลีนิกฟังหมอบรรยายนานนับชั่วโมง หนึ่งเดือนผ่านไปพร้อมกับเงินอีกหลายพันบาทที่จ่ายเป็นค่ารักษา สมปองก็หายหน้าไปจากคลินิก

แล้ววันหนึ่ง หมอก็เจอสมปองโดยบังเอิญที่ห้าง สรรพสินค้า

“คุณหายไปไหน ไม่เห็นไปหาผมอีกเลย”

“ผมหายแล้วครับ ”

“หายได้ยังไง หมอยังรักษาไม่ครบคอร์สเลย”

“ผมไปเจอหลวงพ่อที่อยุธยา ท่านแนะว่าให้ผมตัดขาเตียงออกซะ ก็เท่านั้นเอง”


สมปองมีปัญหาทางจิตใจ เขาเป็นคนคิดมาก อาจเป็นเพราะมีปมบางอย่างในใจ จิตแพทย์พยายามอธิบายให้เขาเข้าใจ และพาเขาสำรวจปมดังกล่าว ทั้งให้ทำแบบฝึกหัดมากมาย แต่ไม่เป็นผล ผิดกับหลวงพ่อซึ่งเข้าใจนิสัยของคนอย่างสมปองดี แทนที่ท่านจะใช้เหตุผลอธิบายให้เขาหายวิตกกังวล

ท่านแนะวิธีแก้ที่ง่ายกว่านั้น เมื่อตัดขาเตียง ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะมีคนอยู่ใต้เตียง เป็นอันว่าหมดปัญหา

การอธิบายด้วยเหตุผลนั้น ใช้ได้กับบางคน หรือใช้ได้ในบางสถานการณ์ คนที่กำลังทุกข์ร้อนอย่างหนัก เอาเหตุผลหรือแม้แต่ธรรมะมาพูดกับเขา มักจะไม่ได้ผล เพราะสมองไม่รับคำพูดจึงไม่เข้าหัว แต่พอหลวงพ่อรดน้ำมนต์ให้หรือให้สายสิญจน์ เขากลับสงบและเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

วิธีนี้แม้ไม่ช่วยให้เขามีปัญญามากขึ้น แต่ก็ดึงสติของเขาให้กลับมาและตั้งหลักได้เร็ว คนที่มีการศึกษามักดูถูกหลวงพ่อหลวงปู่ ที่ใช้วิธีแบบนี้ หาว่าเป็นไสยศาสตร์ ทำให้หลงงมงาย นั่นเป็นเพราะเขายังไม่เข้าใจจิตวิทยาของชาวบ้าน


เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ววิธีของหลวงพ่อเป็นการทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ตรงกันข้ามกับวิธีการของจิตแพทย์ ซึ่งยุ่งยากซับซ้อน

นอกจากใช้เวลานานแล้ว ยังสิ้นเปลืองทั้งเงินและคำพูด คนที่มีความรู้มาก มีการศึกษามาก แม้จะมีข้อได้เปรียบหลายอย่าง แต่บางครั้งก็ทำให้เรื่องง่ายกลายเป็นเรื่องยาก

การทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ต้องอาศัยการคิดนอกกรอบ ไม่ติดยึดกับทฤษฎีหรือความรู้ที่เรียนมา รวมทั้งหัดมองจากแง่มุมที่ดูเหมือนกลับหัวกลับหางด้วย การมองแบบนี้อาจช่วยให้เราเห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น อย่างศุภมัยในเรื่องข้างล่าง

“รู้ไหมอะไรที่ฉลาดกว่าคน” ศุภมัยถามเพื่อนในวงอาหาร

“ก็ซุปเปอร์แมนไง” เพื่อนตอบ

“ผิด โลมาต่างหาก” ศุภมัยเฉลย

“มันฉลาดกว่าคนยังไง” เพื่อนสงสัย

“แกไม่เห็นเหรอ โลมาไม่ว่าตัวไหน เล็กหรือใหญ่ก็ตาม พอถูกจับได้ไม่กี่วัน ก็สามารถฝึกให้คนมายืนอยู่บนขอบสระและโยนปลาให้มันวันละสามเวลา”


 ::014::

ขอบคุณครับ  :D :D   ::014::

ขอบคุณครับ... ::014::

...แต่ที่ผมเจอมาส่วนมาก... โดยเฉพาะผู้มีอำนาจทั้งหลาย... มักจะทำเรื่องง่ายๆ ให้มันยุ่งยาก... โดยทำให้มันหลายขั้นตอนเล่นๆ ซะงั้น... และบางทีก็ทำเรื่องที่ยากๆ ให้ง่ายซะ... ด้วยการไม่ทำเลย...

ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์

ปัญหา เรื่อง เส้นผมบังภูเขา


แหม.... ไม่งั้น ก็ไม่มีคำว่า นอมินี สิครับ

ขอบคุณมากครับ คุณวัฒน์

หลวงพ่ออาจ แนะนำเพียง ให้ย้ายเตียงออกไป แล้วให้นอนกับพื้น แต่พอแลกเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ประกอบกับชอบนอนในสูงกว่าพื้น จึงออกมาทางตัดขาเตียง  ::005::


อาจเหมือนกับสำนวน "คบคนพาล พาลไปหาผิด .. ..  "

เมื่อเลือกคบคนถ่อย เป็นเพื่อนคู่ใจ เมื่อได้โอกาส มันก็จะมาเสี้ยม เพราะนี่เป็นสันดานของคน..
ทำให้เกิดจริตที่ต้องกับตัวเอง.. ทำให้เรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่   มีบันทึกไว้ ตั้งแต่สมัย มหากาพย์ มหาภารตะ เมื่อ ๓,๐๐๐ ปีก่อน

และบางครั้ง การไม่ รีบจัดการ โดยไม่เข้าใจ ถึง ครรลอง ที่ว่า เมื่อสะสมปริมาณ ไปถึงระดับหนึ่ง มันจะเปลี่ยเป็นคุณภาพใหม่ 
จะเหลือวิสัยที่ไปจัดการอย่าง เดิม ๆ  โดยไม่เสียหาย   :DD

จะจัดการปัญหา ควรต้อง รีบดำเนินการ ให้จบตั้งแต่การเริ่ม สะสมทางปริมาณ ของความขัดแย้ง   นะครับ.  ::002::

แล้ว กลัวผีละครับให้ตัดอะไร ครับ อาวัฒน์
+1 ให้ก่อนเลย ครับ  ::014::

ขอบคุณครับ
การมองสิ่งต่างๆ ปัญหา อุปสรรคแบบอารมณ์ขัน  ..ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่อาจทำให้เรื่องยากเป็นง่ายไปได้

                    ขอบคุณครับอาวัฒน์

ขอบคุณครับ ลุงวัฒน์   ::014::

ขอบคุณครับพี่วัฒน์ ::014::

 :D ตกลง คุณ.ศักดา กลัวผีหรอครับ ไม่กลัวเป็นหนี้บัตรเครดิต

ที่เคยเจอคือคนเก่งจะทำเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องง่าย อธิบายเรื่องยากๆให้คนเข้าใจได้ง่ายๆ

ในทางกลับกัน บางคนชอบจะทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก อธิบายให้คนอื่นไม่เข้าใจ เพื่อจะอวดภูมิของตัวเอง  ::005::

ขอบคุณครับ น้าวัฒน์
ฝรั่งเอิ้น take it easy  ,  make it simply

  กลัวซิครับผี  ส่วนหนี้บัตรเครดิต ผมจะกลัวทำไม ครับในเมื่อผมไำม่เคยทำบัตรเครดิตและไม่คิดจะทำด้วย ครับ ::007:: ::007::
ผมใช้ วีซ่า ของผม อย่างเดียวก็พอ ครับ มีเท่าไหร่ใช้เท่านั้น   ::007:: ::007::  จริงมั้ยครับอาวัฒน์

บัตรเครดิต มันมีตัวตน เรายังจับต้องมันได้ และมันมีขี้ คือสลิ๊ป หรือไม่ก็ ใบแจ้งหนี้ คือขี้ของบัตรเครดิต

บังเคยเห็นขี้ผี ไม๊ครับ? หุๆ

ขอบคุณครับพี่ Ro@d จริงๆ แล้วผมต้องการเห็นสังคมในอุดมคตินะครับ... แต่บางครั้งบางทีมันก็ติดที่คำว่า "ระบบ" คือผู้มีอำนาจที่ผมเอ่ยถึง... ก็คือบรรดาผู้บริหารในสายงานของผมนี่แหละครับ... จริงๆ แล้วผมก็เรียนจบสายบริหารและเคยคลุกคลีกับผู้บริหารหลายๆ คน... แต่โชคร้ายไปบ้างที่ส่วนใหญ่ที่ผมเจอนั้นเป็นประเภททำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยาก... แต่ก็มีที่เจอผู้บริหารที่ทำเรื่องยากๆ ให้เป็นเรื่องง่าย... แต่เจอน้อยมากครับ... ::014::

เป็นมุมมองที่ดีมากๆ เลยครับ
ขอบคุณครับ

เรื่องหลายเรื่องมันก็แปลกครับ เอาตัวอย่างใกล้ตัวคือสมัยก่อนก๊อกน้ำในบ้านต้องใช้มือหมุน แล้วทีนี้เวลามือลื่นๆเช่นล้างจานมือเลอะน้ำยาล้างจานมันหมุนยากครับ ตัวอย่างเช่นกำลังล้างจานอยู่แล้วต้องวิ่งไปรับโทรศัพท์... นายสมชายเลยเอาก๊อกน้ำแบบก้านโยก ที่เขาออกแบบสำหรับใช้ในสนามหญ้ามาใช้ที่อ่างล้างจาน ตอนนั้นคนอื่นส่ายหัวบอกว่า"ผิด"...

แต่ในที่สุด 10 ปีให้หลัง... มาวันนี้ก๊อกน้ำมือหมุนไม่มีขายในตลาดแล้วครับ เพราะไม่มีใครซื้อใช้ ต้องผลิตก๊อกก้านโยกให้หรูๆ สำหรับใช้งานในบ้านที่อ่างล้างจาน ที่ห้องน้ำครับ... ฮา...

อีกเรื่องนึง... อันนี้เกี่ยวกับวงการคอมพิวเตอร์เมื่อเกือบ 20 ปีมาแล้ว, สมัยโน้นนายสมชายยังนั่งเขียนโปรแกรมอยู่...

สมัยนั้นเขาเถียงกันเรื่อง Ms Access กับ Visual Basic 6 ว่าอะไรดีกว่ากัน... ฝ่ายที่เล่น VB6 มักอ้างว่า Access มัน"ง่ายเกินไป", ทำให้ควบคุมอะไรละเอียดไม่ได้...

มีช่วงนึงนายสมชายออกรับจ๊อบไซด์ไลน์ ได้เงินเยอะแยะเพราะคู่แข่งใช้ VB6 แล้วนั่งคุยกับลูกค้าไม่รู้เรื่อง, แต่นายสมชายได้ตังค์บ่อยเพราะนายสมชายใช้ Access นั่งทดลองเขียนระบบฐานข้อมูลให้ดู้เป็นตัวอย่างกัน"ตรงนั้น"และ"เดี๋ยวนั้น"เลยครับ... ลูกค้าดูแล้วบอกว่าใช่แหละแบบนี้แหละถามว่ากี่บาท และเมื่อไหร่เสร็จ... ฮา...