เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: sada ที่ กันยายน 21, 2010, 09:39:18 PM



หัวข้อ: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 21, 2010, 09:39:18 PM
ผมมีเรื่องๆนึงจะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องจริงที่เกิด ในประเทศอิโดนีเซีย เรื่องๆนี้ ผมอยากจะแบ่งปันกับทุกท่านในที่แห่งนี้ครับ
มีครอบครัว ๆ นึง อยู่ที่ประเทศอินโด ครอบครัวนี้เป็นครอบครัวที่อบอุ่นก็ว่าได้ สมาชิกในบ้านก็มี พ่อซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว และแม่

 และก็ลูกสาววัยกำลังซน อยู่1 คน ครอบครัวนี้ มีฐานะปานกลาง พ่อทำงานบริษัทแห่งนึงในตัวเมือง ทุกวัน ทั้งพ่อและลูกสาวจะต้องขึ้นรถเมล์เพื่อไปส่งลูกสาว ที่โรงเรียน อนุบาลแห่งหนึ่งหลังจากนั้นตัวเองก็จะต่อรถเพื่อไปทำงาน อีกที จนกระทั้ง วันหยุด ลูกสาวก็นั่งวาดรูปอยู่ที่บ้าน
 ผู้เป็นพ่อ ซึ่งกลับมาจากธุระข้างนอกเดินเข้ามาในบ้าน เห็นลูกสาวกำลังวาดรูปอยู่จึงเข้าไปทัก
พ่อ   ทำอะไรหรือจ๊ะ คนเก่งของพ่อ
ลูก    หนูกำลังวาดรูปอยู่ค่ะ
พ่อ   ไหนให้พ่อดูซิสวยมั้ย  โอ้ !หนูวาดรูปสวยที่สุดในโลกเลย ลูกสาวพ่อ เก่งที่สุดในโลกเลย
ลูกเมื่อได้ยินเช่นนั้น จึงดีใจ กับการชมของพ่อ
ลูก จริงหรือค่ะ พ่อ หนูวาดรูปสวยจริงๆหรือค่ะ 
พ่อ    จริงซิ หนูวาดรูปสวยมากๆ
ลูก    งั้นหนูจะวาดรูป ให้พ่อดูเยอะๆเลย นะค่ะ
พ่อ    จ๊ะ 
เด็กน้อยก็ ตั้งใจวาดรูป เพือ่ให้พ่อได้ชมอีก หลายๆรูป
             ครั้งนึงผู้เป็นพ่อ  นั่งคิดว่า  ถ้าเรา ยังนั่งรถเมล์อยู่อย่างนี้ เราก็จะไปทำงานสายทุกวัน เราน่าจะถอยรถซักคัน แต่เงินดาวน์เราก็ไม่มี
ผู้เป็นพ่อจึงตั้งใจอยู่หลายเดือนเพื่อจะเก็บเงินเพื่อดาวน์รถ  จนกระทั่ง รถก็ได้ดังใจหวัง ด้วยความที่เป็นรถใหม่ ผู้เป็นพ่อจึง ถนุถนอม
 รถคันนี้มาก ตื่นมาเช็ดเช้าเช็ดเย็น  เพราะรักรถคันนี้มากซึ่งเป็นคันแรกในชีวิต   

   เวลาผ่านไปไม่นาน  ซึ่งเป็นวันหยุด เด็กน้อย ก็ออกมาเดินเล่นนอกบ้าน แล้วเหลือบเห็นรถคันนี้ จึง คิดว่า  "ถ้าเราวาดรูปสวยๆบนรถ
พ่อคงจะชมเราอีกแน่ๆ เพราะรถคันนี้พ่อก็รัก เราจะวาดรูปที่สวยที่สุดและจะวาดสุดฝีมือเลย  ขณะนั้นเด็กน้อยก็เหลือบไปเห็นไขควง วางอยู่ใกล้ๆกับ กล่องเครื่องมือช่างของพ่อ     เด็กน้อยก็เริ่มใช้ไขควงวาดขีดเขียนบนสีรถด้วยความตั้งใจ หลังจากนั้นเมื่อเด็กน้อยวาดเสร็จ
 จึงเข้าไปตามพ่อซึ่งนั่งอยู่ในบ้าน
 ลูก           พ่อค่ะ! หนูมีอะไรจะให้พ่อดูค่ะ
พ่อ           อะไรหรือลูก พ่อถามด้วยความสงสัย
ลูก          ไม่บอกค่ะ แต่พ่อต้องตามหนูมาค่ะ แต่พ่อต้องสัญญา ก่อนนะค่ะว่าจะไม่แอบดู
    เด็กน้อยก็เอามือปิดตาพ่อ พร้อม พาพ่อไปที่รถ
 ลูก        เปิดตาได้ค่ะ หนูวาดสวยมั้ย  เด็กน้อย ถามด้วยความภูมิใจ
เมื่อพ่อลืมตาขึ้นมา และเห็น สิ่งที่ ลูกสาวอันเป็นที่รักทำในขณะนั้น ความโมโห ทำให้ผู้เป็นพ่อ หน้ามืดตามัว
 พ่อจึงถามลูกสาว ว่า
พ่อ        ใช้มือไหนวาด
ลูกสาว ก็ดีใจนึกว่าพ่อ จะให้รางวัล   จึงตอบไปว่า” มือนี้”ค่ะ พร้อมยกมือขวาขึ้นมา
 ทันใดนั้นเอง ความโกรธของพ่อจึงใช้มือคว้า สิ่งของที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด  สิ่งที่พ่อเจอก็คือ “ค้อน”

เมื่อลูกสาวยกมือขวาขึ้นผู้เป็นพ่อ จึงใช้ ค้อน  ทุบไปที่มือลูกสาวอย่างแรง ด้วยอารมณ์ ชั่ววูบ   
 ปัง !ปัง!  ปัง!  สามครั้ง สิ้นเสียงค้อน   เลือดจากมือเด็กน้อยก็พุ่งออกมา  ทำให้ผู้เป็นพ่อ ถึงกับ อึ้งพักใหญ่

เมื่อ ตั้งสติได้ จึงนำลูกสาวส่งโรงพยาบาล  หลังจากที่เด็กน้อยเข้าห้องผ่าตัดแล้ว  หมอก็เดินมาบอกผู้เป็นพ่อว่า
หมอ      ผมขอแสดงความเสียใจด้วยครับที่ต้องตัดมือลูกสาวคุณทิ้ง เพราะว่า กระดุกที่ข้อมือแตกละเอียดไม่สามารถรักษาได้
      พ่อถึงกับ ช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงขอพบลูกสาว เมื่อพ่อเห็นลูกสาวนอนร้องไห้อยู่
จึงเข้าไปปลอบ
พ่อ             ไม่เจ็บนะ  พ่อขอโทษ น่ะ 
ลูกสาว      พ่อค่ะหนูขอโทษค่ะ ที่ วาดรูปบนรถของพ่อ
พ่อ          ไม่เป็นไรจ๊ะ  นะ พ่อจะไม่ว่าหนูอีกแล้ว
ลูกสาว      พ่อไม่โกรธหนูนะค่ะ   พร้อมเสียงสะอื้น
พ่อ           จ๊ะ   จ๊ะ  พ่อไม่โกรธหนูแล้ว พร้อม เข้าสวมกอดลูกสาว ไว้ในอกทั้งน้ำตา
ลูกสาว      พ่อค่ะ หนูขออะไรซักอย่างได้มั้ย ค่ะ
พ่อ           จ๊ะ ลูกจะเอาอะไร ขอให้บอกพ่อจะหาให้หมดทุกอย่างขอให้หนูบอกพ่อมา   
ลูกสาว       พ่อค่ะ หนูขอมือหนูคืนได้มั้ยค่ะ  หนูสัญญาว่าหนูจะไม่วาดรูปบนรถพ่ออีกแล้ว


 ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ::014::

คำถาม ครับ   วันนี้เราทำงานเพื่ออะไรกันแน่ ครับ เพื่อครอบครัว หรือ เพื่อ............  ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: เขรางค์-รักในหลวง ที่ กันยายน 21, 2010, 09:46:50 PM
 ::004::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 21, 2010, 10:24:03 PM
แสดงว่าคุณศักดา เข้าใจคำว่า "มุมมอง" แล้ว... ::002::

มันมีจากล่างขึ้นบน และจากบนลงล่าง...

อยู่ที่เราจะมองเห็นได้ทุกมุมมองในแต่ละเหตุการณ์ได้หรือเปล่า...

เด็กไม่มีใคร.. ถ้าขาดพ่อแม่ก็ตาย... แต่ผู้ใหญ่...ถ้าไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ตาย...

เรื่องมันเศร้าเกี่ยวกับ "มุมมอง"..ครับ... :-[


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 21, 2010, 11:06:19 PM
    ผมได้ยินเรื่องนี้ ครั้งแรก ต้องขอบอกแบบนี้ ครับ  บ่อน้ำตาแตก ครับ
ผมรู้แต่ว่า สิ่งที่ผมทำวันนี้ ต้องยอมรับ ครับว่า  ทำงานเพื่อลูกและครอบครัวจริงๆ แต่ ผมกลับไม่ให้เวลากับลูกเลย
แต่กลับมานั่งคิดเรื่องงาน  เรื่องการเป็นอยู่ ของครอบครัว ว่า เราจะสร้างอะไรเพิ่ม  และเพิ่มเท่าไหร่ พรุ่งนี้ จะมีกินหรือไม่ 
ร้านเรา จะดีขึ้นหรือไม่   แต่... สิ่งที่ผมลืมคิด ครับ ว่า    ลูกรอเราสอนการบ้านหรือไม่เค้าอยากให้เราสอนการบ้านหรือไม่ 
 เค้าอยากจะไปไหนในวัน  สุดสัปดาห์ 
                  ผมเคยตีลูกเพราะเค้าใช้ปากกาเคมี เขียนในรถถึงแม้ว่าวันนั้น จะตีไม่แรงแต่เด็ก เมื่อรู้ว่าถูกตี ก็ต้องร้องเป็นธรรมดา
    วันนั้นผมตีกับ ไม้บรรทัด อันละ1บาท(พลาสติก) ไม่มีแม้แต่รอยแดงๆซึ่ง เป็นเรื่องที่เหมือนเรื่องนี้  ดีครับที่ลูกผมไม่เลือดตกยางออก
  ทุกวันนี้ รอยปากกาเคมี นั้นยังคงอยู่และเป็น เหมือนตราบาปเล็กๆของผม 
               กิจวัตร ประจำวันผมเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ตื้นมา ต้องไปส่งลูกไปโรงเรียน กลับมา ลูกจะซื้อขนมมาฝาก นั่งกินกัน 2คน
ผมป้อนเค้า เค้าป้อนผม  ก่อนนอน ผมต้องไปนวดเค้าจนหลับ หรือเล่าเรื่องต่างๆให้ฟัง วันหยุดก็ชวนเค้าไปกินไอติม
 สอนเค้าทำการบ้านถ้ามีเวลา ถ้าไม่มีเค้าก็จะมานั่งทำการบ้านอยู่ใกล้ๆ   ถ้าผมว่างก็จะเล่นเกมส์คอม กับเค้า   
                 ชีวิตคนเราก็มีเท่านี้ครับ   80ปีที่แล้ว อาจจะมีเราแต่80 ปีข้างหน้าไม่มีเราแน่ๆ วันนี้เราทำอะไรที่เป็นความทรงจำที่ดี
และห่วงใย คนที่เรารัก คนที่รู้จัก ได้มากพอที่จะทำให้เค้าจดจำเราไปตราบนานเท่านานแล้วหรือยัง ครับ 
 ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ กันยายน 21, 2010, 11:50:09 PM
+๑  ขอบคุณครับพี่ศักดา   ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 21, 2010, 11:53:00 PM
สิ่งที่เหนือกว่ามุมมอง... คือ "จินตนาการ" ครับ... คนรอบกายผมชอบจินตนาการต่างๆนานา เลยกลายเป็นการกดดันผม โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง...

ผมอ่านข้อความแรกก็เศร้าแล้วครับ... แต่ที่ผมสู้อยู่ได้คือต้องทำตัวเหมือนคนไม่มีความรู้สึก... มองทุกอย่างมันเป็นเหตุและผล ทำดีต้องได้ดี ใครไม่เห็นช่างมัน...

พอเริ่มมองความเป็นจริงได้... จะเริ่มทบทวนความผิดพลาดในสิ่งต่างๆที่ผ่านมา และก็จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆหลังจากที่เคยยึดติดจากความคิดของตัวเอง...

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด... แต่อย่าท้อแท้ในสิ่งที่เรามุ่งมั่นไปหา... มีไหล่ทาง มีทางขรุขระ มีหลุมมีบ่อบ้าง.. ที่ทำให้เราไปถึงปลายทางช้าหน่อยเพื่อเลี่ยงการปะทะ... แต่ยังไงซักวันถ้าไม่ท้อก็ไปถึง...

ครอบครัวคือสิ่งที่เราต้องต่อสู้ เพื่อตอบโจทย์ในใจ....

คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว ก็คือคนอื่นครับ...

รักษาสุขภาพด้วยนะครับคุณศักดา... :D ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 22, 2010, 08:37:35 AM
สิ่งที่เหนือกว่ามุมมอง... คือ "จินตนาการ" ครับ... คนรอบกายผมชอบจินตนาการต่างๆนานา เลยกลายเป็นการกดดันผม โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง...

ผมอ่านข้อความแรกก็เศร้าแล้วครับ... แต่ที่ผมสู้อยู่ได้คือต้องทำตัวเหมือนคนไม่มีความรู้สึก... มองทุกอย่างมันเป็นเหตุและผล ทำดีต้องได้ดี ใครไม่เห็นช่างมัน...

พอเริ่มมองความเป็นจริงได้... จะเริ่มทบทวนความผิดพลาดในสิ่งต่างๆที่ผ่านมา และก็จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆหลังจากที่เคยยึดติดจากความคิดของตัวเอง...

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด... แต่อย่าท้อแท้ในสิ่งที่เรามุ่งมั่นไปหา... มีไหล่ทาง มีทางขรุขระ มีหลุมมีบ่อบ้าง.. ที่ทำให้เราไปถึงปลายทางช้าหน่อยเพื่อเลี่ยงการปะทะ... แต่ยังไงซักวันถ้าไม่ท้อก็ไปถึง...

ครอบครัวคือสิ่งที่เราต้องต่อสู้ เพื่อตอบโจทย์ในใจ....

คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว ก็คือคนอื่นครับ...

รักษาสุขภาพด้วยนะครับคุณศักดา... :D ::014::
ขอบคุณครับพี่ ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 22, 2010, 09:07:30 AM
สิ่งที่เหนือกว่ามุมมอง... คือ "จินตนาการ" ครับ... คนรอบกายผมชอบจินตนาการต่างๆนานา เลยกลายเป็นการกดดันผม โดยไม่คำนึงถึงความเป็นจริง...

ผมอ่านข้อความแรกก็เศร้าแล้วครับ... แต่ที่ผมสู้อยู่ได้คือต้องทำตัวเหมือนคนไม่มีความรู้สึก... มองทุกอย่างมันเป็นเหตุและผล ทำดีต้องได้ดี ใครไม่เห็นช่างมัน...

พอเริ่มมองความเป็นจริงได้... จะเริ่มทบทวนความผิดพลาดในสิ่งต่างๆที่ผ่านมา และก็จะได้เห็นมุมมองใหม่ๆหลังจากที่เคยยึดติดจากความคิดของตัวเอง...

อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด... แต่อย่าท้อแท้ในสิ่งที่เรามุ่งมั่นไปหา... มีไหล่ทาง มีทางขรุขระ มีหลุมมีบ่อบ้าง.. ที่ทำให้เราไปถึงปลายทางช้าหน่อยเพื่อเลี่ยงการปะทะ... แต่ยังไงซักวันถ้าไม่ท้อก็ไปถึง...

ครอบครัวคือสิ่งที่เราต้องต่อสู้ เพื่อตอบโจทย์ในใจ....

คนอื่นที่ไม่ใช่ครอบครัว ก็คือคนอื่นครับ...

รักษาสุขภาพด้วยนะครับคุณศักดา... :D ::014::
ผมอยากให้พี่ตั๊วซื้อหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ครับ  ::014::
หนังสือเล่มนี้  ตอบโจทย์ชีวิต ผมได้ ครับ ผมคิดว่า มันเหมาะกับทุกคน ครับ  ::014:: ::002::
(http://www.picza.net/uppic/pic/2010_09_22/263/263942d22a702315dad6a77f83450ab6.gif) (http://www.picza.net/show.php?id=263942d22a702315dad6a77f83450ab6)
Thanks:  (http://www.game-ragnarok-ro.com/)   (http://www.picza.net)


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ กันยายน 22, 2010, 09:21:08 AM
ขอบคุณ คุณศักดา เช่นกันครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: renold ที่ กันยายน 22, 2010, 09:30:37 AM
+1 ครับท่าน คนละมุมมองครับ คุณพ่อไม่อยากให้ลูกซน ::004::แต่อาจจะอารมณ์ร้ายไปหน่อย ส่วนลูกสาว พัฒนาการครับ วัยกำลังอยากรู้อยากเห็น ::002::
เด็กวัยนี้กำลังซนครับ ประสบการณ์ตรง ที่บ้านผมนะครับ ลูกสาว 2 คน ช่วงกำลังเรียนอนุบาล ฝาผนังบ้านเป็นพื้นสีขาว แกเล่นเขียนก. - ฮ.
เขียนชื่อพ่อ ชื่อแม่ ชื่อตัวเอง ทุกห้องเลยครับ ทั้งในบ้าน นอกบ้าน แต่ผมไม่ว่าหรอก แต่ห้ามไว้ ว่าห้ามมาเขียนในรถยนต์เด็ดขาด แกก็เชื่อครับ ::002::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 22, 2010, 10:00:00 AM
ขอบคุณ คุณศักดา เช่นกันครับ... ::014::
จริงๆครับพี่ตั้ว  หนังสือเล่มนี้ ดีมากๆ ทำไมถึงบอกอย่างนั้นเพราะว่า การปรับทัศนคติของตัวเราเอง เป็นเรื่องที่ ดี ครับ
วันนี้ เรากำลังอญุ่กับทัศนะคติที่เป็น ลบ เช่น ดูหนัง นางร้ายตบกัน ตื่นมาก็อ่านหนังสือพิมพ์ที่มีแต่เรื่องฆ่ากันตาย โกงชาติบ้านเมืองกันต่างๆ
นานา  ดารา คนโน้น เอากับคนโน้นที คนนี้ที  คนโน้นแย่งสมบัติคนนี้  คนนี้ โดนรถชน  พวกเราเสพข่าวเหล่านี้ ทุกวันทุกวัน ทุกวัน
สิ่งที่เราได้รับกลับมาก็คือ การคิด ลบ พูดถึงกระทู้คิด บวกต้องยกให้ อาวัฒน์ ครับ อาวัฒน์เค้าเก่งจริงๆ ครับต้องยอมรับ
 ครับต่อ   การคิดลบด้วยการเสพสื่อที่เป็นลบ ย่อมส่งผล ที่ตามมาอย่างช้าๆและต่อเนื่อง ผลที่ได้เราก็รู้ๆกันอยู่
  ครั้งนึงผมเคยเป็นคนที่คิดลบ สุดขั่ว แต่เมื่อมาเจอหนังสือเหล่านี้ ซึ่งตอนแรกก็มอง ว่าเป็นหนังสือพวกจิตวิทยาโง่ๆ หลอกลวงไปวันๆ
 คิดบวก ห่ากันอะไรนักหนา งั้นกูก็ไม่ต้อง ขังตัวอยู่ในบ้านคิดบวกอยู่คนเดียวหรือว่ะ  555  ครับ ผมคิดแบบนั้นจริงๆในช่วงแรกครับ
แต่เมื่ออ่าหนังสือ  คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก   มึงสู้จริงหรือปล่าว   ดีชั่วอยู่ที่ตัวคุณ  อีกเยอะครับ  ผมอ่านอยู่เล่มนั้นซ้ำไปซ้ำมา ผมก็ได้พบ
ความจริงที่ไม่มีใครรู้  บางสิ่งบางอย่าง   
            ผมไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหนังสือเหล่านี้ผมไม่ได้เปอร์เซน แต่อย่างใดแต่ ขอให้ พี่ๆทุกคนลองซื้อมาอ่าน ครับ ::014::
 


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กันยายน 22, 2010, 10:21:53 AM
แวะเข้ามาบวกแต้มให้บังฟีน... สำหรับข้อคิดเตือนใจดีๆ ครับ... ::014::



หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ กันยายน 22, 2010, 10:25:28 AM
ลูกสาว       พ่อค่ะ หนูขอมือหนูคืนได้มั้ยค่ะ  หนูสัญญาว่าหนูจะไม่วาดรูปบนรถพ่ออีกแล้ว

 ::004::

Tears !!....


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 22, 2010, 10:30:09 AM
พ่อขี้โมโหแบบนี้ไม่น่าอายุยืนมาได้จนมีลูกนะครับ แสดงว่าที่ผ่านมานั้นโชคช่วยตลอด... ฝรั่งเขาบอกว่า "People judge you by your writing" แปลความหมายได้ว่าคนอื่นจะประเมินท่านด้วยวิธีการที่ท่านสื่อสารกับผู้อื่น, เพราะมันจะบอกว่าท่านมีตรรกะในสมองแค่ไหน...

ตามท้องเรื่องในกระทู้พ่อไม่สามารถสื่อสารกับลูกสาวได้ว่าที่ไหนควรวาดรูปได้ ที่ไหนไม่ควรวาดรูป... เด็กก็คือเด็ก ต้องสอนครับ...


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ กันยายน 22, 2010, 10:41:17 AM
เรื่องแต่งกระมังครับมีหลายเวอร์ชั่นจัง ที่ผมเคยอ่านเป็น ฉากเมืองฝรั่งก็มี

แต่ข้อคิดดี


อย่าให้เป็นเรื่องจริงเลย


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กันยายน 22, 2010, 11:18:06 AM


หลายเวอร์ชั่น
แต่ สิ่งที่ทำให้คิด
คือ ความไร้เดียงสาของเด็ก
การแสดงออก ที่จริงใจ ไม่แต่งเติม

มุมมอง ภาวะวุฒิ การมีโทสะครอบงำ


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กันยายน 22, 2010, 11:23:44 AM



วิธีคิด ดีมากๆ...   

(http://statics.atcloud.com/files/entries/6/68424/images/1_display.jpg) (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=86507.0)


ลิงค์ที่รูปครับ


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sada ที่ กันยายน 22, 2010, 11:27:06 AM



วิธีคิด ดีมากๆ...   

(http://statics.atcloud.com/files/entries/6/68424/images/1_display.jpg) (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=86507.0)


ลิงค์ที่รูปครับ
::002::แบบนี้ซิของจริง  ::002::  ::014::
+1ให้พี่ยอดครับ ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ กันยายน 22, 2010, 01:23:25 PM
ผมก๊อบมาให้อ่านเล่นๆครับ
หลักการ 90/10 จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ (หรืออย่างน้อยก็ปฏิกิริยาของคุณในสถานการณ์ต่างๆ)

หลักการนี้บอกว่า 10% ของชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ อีก 90% คือสิ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของคุณ

แปลว่าอะไร? แปลว่าเราไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถป้องกันรถไม่ให้เสีย เราไม่มีทางห้ามเครื่องบินที่มาสาย ทำให้แผนการเราพังไปหมด รถคันอื่นอาจตัดหน้าเรากลางถนน เราไม่มีอำนาจควบคุม 10% นี้

แต่อีก 90% ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตเราไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนตัดสินอีก 90% ด้วยปฏิกิริยาของคุณ จริงอยู่ คุณห้ามไฟแดงไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของคุณ(ต่อไฟแดงนั้น)ได้ อย่ายอมให้คนอื่นหลอก คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของตัวเองได้

ลองมาดูตัวอย่างกัน คุณกำลังรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ลูกสาวคุณปัดถ้วยกาแฟหกใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของคุณ คุณไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตัวคุณเอง คุณสบถ คุณด่าลูกสาวใหญ่โต ทำให้เธอร้องให้โฮ หลังจากนั้นคุณก็หันไปดุภรรยาของคุณว่าทำไมวางถ้วยไว้ชิดกับขอบโต๊ะขนาดนี้ ทำให้คุณกับเธอปะทะคารมกัน คุณวิ่งขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อคุณกลับลงมาใหม่ ก็พบว่าลูกสาวมัวแต่ร้องไห้จนทานอาหารเช้าไม่เสร็จและเตรียมตัวไปโรงเรียนไม่ทัน ก็เลยไปไม่ทันรถโรงเรียน ภรรยาของคุณต้องออกจากบ้านไปทำงานแล้ว คุณวิ่งไปที่รถ ขับไปส่งลูกสาว เพราะคุณกำลังจะไปทำงานสาย คุณก็เลยขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง เลยอัตรา 30 ไมล์ต่อชั่วโมงตามกฎหมาย

หลังจากที่เสียเวลา 15 ไปกับตำรวจจราจร ที่เรียกปรับคุณ $60 ฐานขับรถเร็ว คุณก็ไปถึงโรงเรียนลูกจนได้ ลูกสาวคุณวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ร่ำลา หลังจากที่ไปถึงที่ทำงานสายไป 20 นาที คุณก็นึกขึ้นได้ว่า คุณลืมกระเป๋าเอกสารไว้ที่บ้าน วันนี้ของคุณเริ่มต้นได้แย่มากๆ และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

คุณอยากเลิกงานเร็วๆ จะได้กลับบ้าน เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับภรรยาและลูกสาวเริ่มมีรอยร้าว ทำไม? ก็เพราะปฏิกิริยาของคุณตอนเช้า ทำไมวันนี้ของคุณจึงแย่นัก?

A) เพราะกาแฟเป็นต้นเหตุ
B) เพราะลูกสาวเป็นต้นเหตุ
C) เพราะตำรวจเป็นต้นเหตุ
D) เพราะคุณเป็นต้นเหตุ

คำตอบคือ “D” คุณไม่มีทางป้องกันไม่ให้กาแฟหกได้ แต่ปฏิกิริยาของคุณในช่วง 5 วินาทีหลังจากนั้น คือสาเหตุที่คุณมีวันแย่ๆ อย่างนี้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กาแฟหกใส่เสื้อคุณ ลูกสาวคุณทำหน้าเบ้เตรียมจะร้องไห้ คุณบอกเธอเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกแค่ต้องพยายามระวังกว่านี้นะ” คุณฉวยกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นข้างบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อและหยิบกระเป๋าเอกสารลงมาข้างล่าง คุณก็มาทันเห็นลูกสาวกำลังขึ้นรถโรงเรียน เธอหันมาและโบกมือให้ คุณถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลางาน 5 นาที ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างร่าเริง เจ้านายคุณบอกว่าดูเหมือนวันนี้ของคุณกำลังไปได้สวย

เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ? สถานการณ์สองแบบที่เริ่มต้นเหมือนกันเป๊ะ แต่ลงท้ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไม? เพราะปฏิกิริยาของคุณ คุณไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีก 90% ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของคุณแน่ๆ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีใช้หลักการ 90/10 ถ้ามีใครพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ อย่าซึมซับมันไว้เหมือนฟองน้ำ ปล่อยให้คำโจมตีนั้นไหลลงไปเหมือนหยดน้ำบนใบหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องให้คำพูดนั้นมีผลกับคุณ! มีปฏิกิริยาที่ถูกต้อง แล้วมันจะไม่ทำให้วันของคุณกลายเป็นวันแย่ๆ ปฏิกิริยาที่ผิดพลาดอาจทำให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก รู้สึกเครียด ฯลฯ

คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเจอรถตัดหน้าบนถนน? คุณจะอารมณ์เสียหรือเปล่า? ทุบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย? เพื่อนผมคนหนึ่งทำให้พวงมาลัยหลุดเพราะอย่างนี้ คุณจะสบถหรือเปล่า? ความดันคุณพุ่งสูงปรี๊ดเลยหรือเปล่า? คุณพยายามขับตามไปชนหรือเปล่า? มีใครบ้างล่ะที่จะแคร์ถ้าคุณถึงที่ทำงานสายไป 10 วินาทีเพราะโดนตัดหน้า? ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นทำลายวันดีๆ? จำหลักการ 90/10 ให้ดี อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้

เจ้านายเดินมาบอกว่าคุณถูกบริษัทเชิญออก ทำไมต้องอดหลับอดนอนและอารมณ์เสีย? ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอาพลังงานและเวลาที่หมดไปกับการนั่งกังวลไปหางานใหม่ดีกว่า เครื่องบินมาช้า กำลังจะทำให้แผนการของคุณพัง ทำไมต้องไประเบิดอารมณ์ใส่แอร์โฮสเตส? เธอไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะทำแบบนั้น ใช้เวลาไปทำความรู้จักเพื่อนร่วมทางของคุณดีกว่า ไปเครียดกับมันทำไม? ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง

ตอนนี้คุณก็รู้จักหลักการ 90/10 แล้ว ลองใช้หลักการนี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ ไม่มีอะไรที่คุณจะเสียถ้าคุณลองใช้ เพราะมันเป็นหลักการที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยคนที่รู้จักและใช้หลักการนี้ ผลน่ะหรือ? คนเป็นล้านๆ คนต้องประสบปัญหาเครียด วิตกจริต และปวดใจโดยไม่จำเป็นเลย เราทุกคนต้องเข้าใจและใช้หลักการ 90/10 เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้.


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ กันยายน 22, 2010, 02:18:37 PM
 ::014:: ขอบคุณครับ +ให้คุณ.ศักดา และคุณ.ยอด ครับ


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ กันยายน 22, 2010, 02:33:28 PM
ผมก๊อบมาให้อ่านเล่นๆครับ
หลักการ 90/10 จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ (หรืออย่างน้อยก็ปฏิกิริยาของคุณในสถานการณ์ต่างๆ)

หลักการนี้บอกว่า 10% ของชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ อีก 90% คือสิ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของคุณ

แปลว่าอะไร? แปลว่าเราไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถป้องกันรถไม่ให้เสีย เราไม่มีทางห้ามเครื่องบินที่มาสาย ทำให้แผนการเราพังไปหมด รถคันอื่นอาจตัดหน้าเรากลางถนน เราไม่มีอำนาจควบคุม 10% นี้

แต่อีก 90% ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตเราไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนตัดสินอีก 90% ด้วยปฏิกิริยาของคุณ จริงอยู่ คุณห้ามไฟแดงไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของคุณ(ต่อไฟแดงนั้น)ได้ อย่ายอมให้คนอื่นหลอก คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของตัวเองได้

ลองมาดูตัวอย่างกัน คุณกำลังรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ลูกสาวคุณปัดถ้วยกาแฟหกใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของคุณ คุณไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตัวคุณเอง คุณสบถ คุณด่าลูกสาวใหญ่โต ทำให้เธอร้องให้โฮ หลังจากนั้นคุณก็หันไปดุภรรยาของคุณว่าทำไมวางถ้วยไว้ชิดกับขอบโต๊ะขนาดนี้ ทำให้คุณกับเธอปะทะคารมกัน คุณวิ่งขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อคุณกลับลงมาใหม่ ก็พบว่าลูกสาวมัวแต่ร้องไห้จนทานอาหารเช้าไม่เสร็จและเตรียมตัวไปโรงเรียนไม่ทัน ก็เลยไปไม่ทันรถโรงเรียน ภรรยาของคุณต้องออกจากบ้านไปทำงานแล้ว คุณวิ่งไปที่รถ ขับไปส่งลูกสาว เพราะคุณกำลังจะไปทำงานสาย คุณก็เลยขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง เลยอัตรา 30 ไมล์ต่อชั่วโมงตามกฎหมาย

หลังจากที่เสียเวลา 15 ไปกับตำรวจจราจร ที่เรียกปรับคุณ $60 ฐานขับรถเร็ว คุณก็ไปถึงโรงเรียนลูกจนได้ ลูกสาวคุณวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ร่ำลา หลังจากที่ไปถึงที่ทำงานสายไป 20 นาที คุณก็นึกขึ้นได้ว่า คุณลืมกระเป๋าเอกสารไว้ที่บ้าน วันนี้ของคุณเริ่มต้นได้แย่มากๆ และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

คุณอยากเลิกงานเร็วๆ จะได้กลับบ้าน เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับภรรยาและลูกสาวเริ่มมีรอยร้าว ทำไม? ก็เพราะปฏิกิริยาของคุณตอนเช้า ทำไมวันนี้ของคุณจึงแย่นัก?

A) เพราะกาแฟเป็นต้นเหตุ
B) เพราะลูกสาวเป็นต้นเหตุ
C) เพราะตำรวจเป็นต้นเหตุ
D) เพราะคุณเป็นต้นเหตุ

คำตอบคือ “D” คุณไม่มีทางป้องกันไม่ให้กาแฟหกได้ แต่ปฏิกิริยาของคุณในช่วง 5 วินาทีหลังจากนั้น คือสาเหตุที่คุณมีวันแย่ๆ อย่างนี้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กาแฟหกใส่เสื้อคุณ ลูกสาวคุณทำหน้าเบ้เตรียมจะร้องไห้ คุณบอกเธอเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกแค่ต้องพยายามระวังกว่านี้นะ” คุณฉวยกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นข้างบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อและหยิบกระเป๋าเอกสารลงมาข้างล่าง คุณก็มาทันเห็นลูกสาวกำลังขึ้นรถโรงเรียน เธอหันมาและโบกมือให้ คุณถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลางาน 5 นาที ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างร่าเริง เจ้านายคุณบอกว่าดูเหมือนวันนี้ของคุณกำลังไปได้สวย

เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ? สถานการณ์สองแบบที่เริ่มต้นเหมือนกันเป๊ะ แต่ลงท้ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไม? เพราะปฏิกิริยาของคุณ คุณไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีก 90% ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของคุณแน่ๆ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีใช้หลักการ 90/10 ถ้ามีใครพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ อย่าซึมซับมันไว้เหมือนฟองน้ำ ปล่อยให้คำโจมตีนั้นไหลลงไปเหมือนหยดน้ำบนใบหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องให้คำพูดนั้นมีผลกับคุณ! มีปฏิกิริยาที่ถูกต้อง แล้วมันจะไม่ทำให้วันของคุณกลายเป็นวันแย่ๆ ปฏิกิริยาที่ผิดพลาดอาจทำให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก รู้สึกเครียด ฯลฯ

คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเจอรถตัดหน้าบนถนน? คุณจะอารมณ์เสียหรือเปล่า? ทุบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย? เพื่อนผมคนหนึ่งทำให้พวงมาลัยหลุดเพราะอย่างนี้ คุณจะสบถหรือเปล่า? ความดันคุณพุ่งสูงปรี๊ดเลยหรือเปล่า? คุณพยายามขับตามไปชนหรือเปล่า? มีใครบ้างล่ะที่จะแคร์ถ้าคุณถึงที่ทำงานสายไป 10 วินาทีเพราะโดนตัดหน้า? ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นทำลายวันดีๆ? จำหลักการ 90/10 ให้ดี อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้

เจ้านายเดินมาบอกว่าคุณถูกบริษัทเชิญออก ทำไมต้องอดหลับอดนอนและอารมณ์เสีย? ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอาพลังงานและเวลาที่หมดไปกับการนั่งกังวลไปหางานใหม่ดีกว่า เครื่องบินมาช้า กำลังจะทำให้แผนการของคุณพัง ทำไมต้องไประเบิดอารมณ์ใส่แอร์โฮสเตส? เธอไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะทำแบบนั้น ใช้เวลาไปทำความรู้จักเพื่อนร่วมทางของคุณดีกว่า ไปเครียดกับมันทำไม? ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง

ตอนนี้คุณก็รู้จักหลักการ 90/10 แล้ว ลองใช้หลักการนี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ ไม่มีอะไรที่คุณจะเสียถ้าคุณลองใช้ เพราะมันเป็นหลักการที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยคนที่รู้จักและใช้หลักการนี้ ผลน่ะหรือ? คนเป็นล้านๆ คนต้องประสบปัญหาเครียด วิตกจริต และปวดใจโดยไม่จำเป็นเลย เราทุกคนต้องเข้าใจและใช้หลักการ 90/10 เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้.


โอ้... เยี่ยมครับ, เห็นด้วยทั้งหมด...


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: บ้านชายหาด ที่ กันยายน 22, 2010, 03:07:13 PM
ผมก๊อบมาให้อ่านเล่นๆครับ
หลักการ 90/10 จะเปลี่ยนชีวิตคุณได้ (หรืออย่างน้อยก็ปฏิกิริยาของคุณในสถานการณ์ต่างๆ)

หลักการนี้บอกว่า 10% ของชีวิตประกอบด้วยสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ อีก 90% คือสิ่งที่เกิดจากปฏิกิริยาของคุณ

แปลว่าอะไร? แปลว่าเราไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้นกับเรา เราไม่สามารถป้องกันรถไม่ให้เสีย เราไม่มีทางห้ามเครื่องบินที่มาสาย ทำให้แผนการเราพังไปหมด รถคันอื่นอาจตัดหน้าเรากลางถนน เราไม่มีอำนาจควบคุม 10% นี้

แต่อีก 90% ที่ประกอบขึ้นเป็นชีวิตเราไม่เหมือนกัน คุณเป็นคนตัดสินอีก 90% ด้วยปฏิกิริยาของคุณ จริงอยู่ คุณห้ามไฟแดงไม่ได้ แต่คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของคุณ(ต่อไฟแดงนั้น)ได้ อย่ายอมให้คนอื่นหลอก คุณสามารถควบคุมปฏิกิริยาของตัวเองได้

ลองมาดูตัวอย่างกัน คุณกำลังรับประทานอาหารเช้ากับครอบครัว ลูกสาวคุณปัดถ้วยกาแฟหกใส่เสื้อเชิ้ตทำงานของคุณ คุณไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่จะเกิดต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของตัวคุณเอง คุณสบถ คุณด่าลูกสาวใหญ่โต ทำให้เธอร้องให้โฮ หลังจากนั้นคุณก็หันไปดุภรรยาของคุณว่าทำไมวางถ้วยไว้ชิดกับขอบโต๊ะขนาดนี้ ทำให้คุณกับเธอปะทะคารมกัน คุณวิ่งขึ้นชั้นบนไปเปลี่ยนเสื้อ เมื่อคุณกลับลงมาใหม่ ก็พบว่าลูกสาวมัวแต่ร้องไห้จนทานอาหารเช้าไม่เสร็จและเตรียมตัวไปโรงเรียนไม่ทัน ก็เลยไปไม่ทันรถโรงเรียน ภรรยาของคุณต้องออกจากบ้านไปทำงานแล้ว คุณวิ่งไปที่รถ ขับไปส่งลูกสาว เพราะคุณกำลังจะไปทำงานสาย คุณก็เลยขับรถด้วยความเร็ว 40 ไมล์ต่อชั่วโมง เลยอัตรา 30 ไมล์ต่อชั่วโมงตามกฎหมาย

หลังจากที่เสียเวลา 15 ไปกับตำรวจจราจร ที่เรียกปรับคุณ $60 ฐานขับรถเร็ว คุณก็ไปถึงโรงเรียนลูกจนได้ ลูกสาวคุณวิ่งเข้าไปในโรงเรียนโดยไม่ร่ำลา หลังจากที่ไปถึงที่ทำงานสายไป 20 นาที คุณก็นึกขึ้นได้ว่า คุณลืมกระเป๋าเอกสารไว้ที่บ้าน วันนี้ของคุณเริ่มต้นได้แย่มากๆ และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ ด้วยซ้ำ

คุณอยากเลิกงานเร็วๆ จะได้กลับบ้าน เมื่อคุณกลับมาถึงบ้าน คุณก็พบว่าความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับภรรยาและลูกสาวเริ่มมีรอยร้าว ทำไม? ก็เพราะปฏิกิริยาของคุณตอนเช้า ทำไมวันนี้ของคุณจึงแย่นัก?

A) เพราะกาแฟเป็นต้นเหตุ
B) เพราะลูกสาวเป็นต้นเหตุ
C) เพราะตำรวจเป็นต้นเหตุ
D) เพราะคุณเป็นต้นเหตุ

คำตอบคือ “D” คุณไม่มีทางป้องกันไม่ให้กาแฟหกได้ แต่ปฏิกิริยาของคุณในช่วง 5 วินาทีหลังจากนั้น คือสาเหตุที่คุณมีวันแย่ๆ อย่างนี้

ต่อไปนี้คือสิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น กาแฟหกใส่เสื้อคุณ ลูกสาวคุณทำหน้าเบ้เตรียมจะร้องไห้ คุณบอกเธอเบาๆ ว่า “ไม่เป็นไรจ้ะ ลูกแค่ต้องพยายามระวังกว่านี้นะ” คุณฉวยกระดาษเช็ดหน้าแผ่นหนึ่งแล้ววิ่งขึ้นข้างบน หลังจากเปลี่ยนเสื้อและหยิบกระเป๋าเอกสารลงมาข้างล่าง คุณก็มาทันเห็นลูกสาวกำลังขึ้นรถโรงเรียน เธอหันมาและโบกมือให้ คุณถึงที่ทำงานเร็วกว่าเวลางาน 5 นาที ทักทายเพื่อนร่วมงานอย่างร่าเริง เจ้านายคุณบอกว่าดูเหมือนวันนี้ของคุณกำลังไปได้สวย

เห็นความแตกต่างมั๊ยครับ? สถานการณ์สองแบบที่เริ่มต้นเหมือนกันเป๊ะ แต่ลงท้ายแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไม? เพราะปฏิกิริยาของคุณ คุณไม่มีทางควบคุม 10% ของสิ่งที่เกิดขึ้น แต่อีก 90% ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของคุณแน่ๆ

ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างวิธีใช้หลักการ 90/10 ถ้ามีใครพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับคุณ อย่าซึมซับมันไว้เหมือนฟองน้ำ ปล่อยให้คำโจมตีนั้นไหลลงไปเหมือนหยดน้ำบนใบหญ้า คุณไม่จำเป็นต้องให้คำพูดนั้นมีผลกับคุณ! มีปฏิกิริยาที่ถูกต้อง แล้วมันจะไม่ทำให้วันของคุณกลายเป็นวันแย่ๆ ปฏิกิริยาที่ผิดพลาดอาจทำให้คุณเสียเพื่อน ถูกไล่ออก รู้สึกเครียด ฯลฯ

คุณจะมีปฏิกิริยาอย่างไร ถ้าเจอรถตัดหน้าบนถนน? คุณจะอารมณ์เสียหรือเปล่า? ทุบพวงมาลัยอย่างหัวเสีย? เพื่อนผมคนหนึ่งทำให้พวงมาลัยหลุดเพราะอย่างนี้ คุณจะสบถหรือเปล่า? ความดันคุณพุ่งสูงปรี๊ดเลยหรือเปล่า? คุณพยายามขับตามไปชนหรือเปล่า? มีใครบ้างล่ะที่จะแคร์ถ้าคุณถึงที่ทำงานสายไป 10 วินาทีเพราะโดนตัดหน้า? ทำไมต้องปล่อยให้คนอื่นทำลายวันดีๆ? จำหลักการ 90/10 ให้ดี อย่าไปสนใจกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้

เจ้านายเดินมาบอกว่าคุณถูกบริษัทเชิญออก ทำไมต้องอดหลับอดนอนและอารมณ์เสีย? ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น เอาพลังงานและเวลาที่หมดไปกับการนั่งกังวลไปหางานใหม่ดีกว่า เครื่องบินมาช้า กำลังจะทำให้แผนการของคุณพัง ทำไมต้องไประเบิดอารมณ์ใส่แอร์โฮสเตส? เธอไม่มีทางป้องกันสิ่งที่เกิดขึ้น แทนที่จะทำแบบนั้น ใช้เวลาไปทำความรู้จักเพื่อนร่วมทางของคุณดีกว่า ไปเครียดกับมันทำไม? ถ้าทำอย่างนั้นทุกอย่างมีแต่จะแย่ลง

ตอนนี้คุณก็รู้จักหลักการ 90/10 แล้ว ลองใช้หลักการนี้ดู แล้วคุณจะรู้สึกทึ่งกับผลลัพธ์ ไม่มีอะไรที่คุณจะเสียถ้าคุณลองใช้ เพราะมันเป็นหลักการที่ใช้ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ มีน้อยคนที่รู้จักและใช้หลักการนี้ ผลน่ะหรือ? คนเป็นล้านๆ คนต้องประสบปัญหาเครียด วิตกจริต และปวดใจโดยไม่จำเป็นเลย เราทุกคนต้องเข้าใจและใช้หลักการ 90/10 เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตคุณได้.



 ::002::

 ::014::


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: binlaart @ รักในหลวงด้วยคนครับ ที่ กันยายน 22, 2010, 03:20:33 PM
ในฐานะคนมีลูกสาว 4 ขวบ  อ่านแล้วซึมเหมือนกัน  เพราะผมเวลาโมโหจะตีลูก เจ็บทุกครั้ง(โดยเฉพาะเวลาลืมตัว  มีแต่หัวกับใส้)
บางที ก็เสียใจที่ตีลูกไป   แต่ยังไงก็ยังต้องตี  ไม่อยากให้ลูกกลายเป็นลูกเทวดา

แต่ช่วงหลังนี้ จะไม่ตีพร่ำเพรื่อ เพราะว่า ตอนนี้แค่ดุ ลูกก็กลัวแล้ว


หัวข้อ: Re: อยากแบ่งปัน ครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กันยายน 22, 2010, 03:27:26 PM


สติมาปัญญาเกิด

สติเตลิดมักเกิดปัญหา



สิ่งของ มีไว้ให้ใช้งาน

ควรใช้ให้สมราคาค่าตัว