เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

นั่งมองดูทำให้ึนึกสงสัยว่าอะไรทำให้มันเดือดได้ขนาดนี้ ทั้งๆที่โลกเราเย็นลงมาหลายพันปีแล้ว

อะไรเป็นเชื้อเพลิง หรือมันร้อนด้วยตัวของมันเอง หรือโลกเราต้องอยู่ให้ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่านี้

Most incredible volcano footage ever (http://www.youtube.com/watch?v=IAxj2ob_JoU#ws)

ตอนนี้ที่น่ากลัวที่สุดค์อ ซาอุดีอาระเบีย ครับมีแนวโน้มที่ลาวา อาจจะปะทุขึ้นมาได้สูง :OO

แกนโลกร้อนประมาณว่าเป็นแม็กม่าเลยนะครับ  ที่เห็นน่ะรูรั่วเล็กๆเท่านั้นเอง   :D

โลกเราไม่ได้เย็นครับ   เปลือกโลกที่เป็นดินเป็นแค่ชั้นบาง ๆ ของโลกเรา  ด้านล่างลงไปเป็นชั้น mantle  และ core    ;)

มีไว้แหละครับ มันมีผลกับอุณหภูมิของโลกครับ ไม่มีลาวาข้างใน ป่านนี้หิมะตกเมืองไทยไปแล้วก็ได้
สิ่งมีชิวิต ต้องการอุณหภูมิที่เหมาะสมกับการดำรงชีพ
ที่ร้อนๆ ขึ้นอยู่ทุกวัน ไม่ใช่เพราะใต้โลกครับ  ผิวโลกนี่แหละ ที่ทำกัน

 :) ในเยอรมัน ต่อท่อน้ำลงไปให้ความร้อนเผาน้ำให้เดือด เอามาขับเทอร์ไบ หมุนเครื่องผลิตไฟฟ้าครับ

อยากเห็นเมืองไทยพัฒนาแบบนี้จังเลย พลังลม พลังแสง พลังความร้อน ใช้ไม่มีวันหมด แต่นักการเมืองชอบพลังดูด สมใจอยากทั้งผู้ถูกดูดและผู้ดูด

ประเทศไทยมีแต่จะคิดเอาแต่ทรัพยากรธรรมชาติขึ้นมาใช้ให้หมดครับ ไม่เคยคิดถึงพลังงานทดแทนเลย  :~)

เมืองไทยทำได้ แต่ว่าทุนสร้างสูงกว่าประเทศอื่นราว2เท่าครึ่ง  และได้Plantที่ศักยภาพต่ำกว่าคนอื่นราว50%

ถ้ามีไข่ไก่ติดมือไปด้วยแจ่มเลยครับ จะได้กินไข่ปิ้งร้อนๆ  ;D

ดิน น้ำ ลม ไฟ : เราอยู่บนดิน ใต้ดินมีน้ำ ลม ไฟ ทีละชั้นตามลำดับครับ     

รู้ไปหมด  ::005:: ::005:: ::005::

 ผมขอแบบ ไข่ขาวดิบๆเหลวๆ แต่ไข่แดงสุกเป็นก้อนกลมดิ๊ก ทำได้ไม๊ ขอสามลูก  ::005:: ::005:: ::005::

ขอให้ช่วยเอาไข่คนที่คิดมิดีมิร้ายกับประเทศไทยไปก็แล้วกัน เผื่อว่าพันธุ์อย่างนั้นจะได้น้อยลงบ้าง

ถ้าจำไม่ผิด ที่ จ.ลำปางจะมีการนำพลังงานความร้อนใต้พิภพ มาใช้ขับเทอร์ไบน์เพื่อผลิตไฟฟ้าอยู่นะครับ แต่ไม่ได้ใหญ่มาก (ผมคลับคล้ายคลับคลาจริงๆ)

ขอแก้ไขครับ ที่ ฝาง จ.เชียงใหม่ครับผม
http://teenet.chiangmai.ac.th/sci/fang_th.php (http://teenet.chiangmai.ac.th/sci/fang_th.php)

ตั้งแต่โลกหลุดออกมาเป็นดาวเคราะห์ ก็ค่อยๆ เย็นลงจากผิวครับ แต่อายุทางธรณีวิทยานั้นนานมากๆ ประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่ามนุษย์นั้นสั้นนิดเดียว ตั้งแต่คนยังเดินหลังไม่ตรงถึงยุคถ่ายคลิปข้ามโลกผ่านมือถือในปัจจุบัน ทางธรณีวิทยาไม่เปลี่ยนอย่างมีนัยยะสำคัญเลย

ใครที่ชอบมาทำนายว่าอีกกี่ปีจะเกิดแผ่นดินไหว โลกแยก ฯลฯ ถ้าเป็นผู้ศึกษามาในสาขานั้น ผมถือว่าเป็นการลดความน่าเชื่อถือทางวิชาการของตนเองครับ

 :) พวกนี้ไม่กลัวครับ คุณ.ต๊อก ทาย 10 ถูก 1 ดังเป็นพลุแตก เมื่อปีที่แล้วก็ทีบอกว่าจะเกิดสตอมเซิร์จ แนวชายฝั่งอ่าวไทย เล่นเอาคนไทยฝันหนีดีฟ่อไปตามๆ กัน ขนาดเพื่อนผม เตรียมซื้อที่ไว้ที่โคราช บอกว่ากรุงเทพฯ น้ำกำลังจะจมน้ำ จะหนีไปอยู่อีสาน มาปีนี้เอาอีกบอกว่าสถานการณ์โลกร้อนบอกว่าจุดจบของโลกใกล้เข้ามามากขึ้นทุกที... กลุ้มเลย

ครับพี่วัฒน์ ตั้งแต่ตอนปีนั้นผมก็คุยกับเพื่อนว่าถ้าดูกันตามภูมิศาสตร์จริงๆ ปัจจัจต่างๆ ไม่ส่งผลให้เกิดคลื่นยักษ์ในอ่าวไทย เพราะความลึก ลักษณะก้นอ่าว และเส้นทางการก่อตัวของพายุไม่เอื้ออำนวย

สำหรับเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ พายุจะมาตามเส้นละติจูดจากหมาสมุทรแปซิฟิก ก่อตัวเคลื่นเข้ามาจากทะเลฟิลิปปินส์ ประเทศเวียดนามถึงเจอพายุบ่อยมาก ส่วนในมหาสมุทรอินเดียก็จะเคลื่อนตัวขื้นไปก้นอ่าวเบงกอลเข้าบังคลาเทศ โอกาสแบบแหลมตะลุมพุกมีน้อยมาก และก็เป็นพายุฝนไม่ใช่ลักษณะพายุที่ไปเกื้อหนุนในทิศที่จะทำให้เกิดคลื่นยักษ์ตามคำนิยาม Storm surge 

เทียบกับพื้นที่เกิดคลื่นรุนแรงแล้ว อ่าวไทยตื้นและเป็นพื้นที่ค่อนข้างปิด ไม่เหมือนฮาวายที่เป็นหินภูเขาไฟโผล่สูงกลางมหาสมุทรแปซิฟิกที่ลึกมาก แรงคลื่นสะสมมาได้ไกล เมื่อชนกับแนวเกาะชันก็เกิดคลื่นง่าย เช่นตามธรรมดาเขาก็มีคลื่นให้โต้ได้

จะเกิดคลื่นได้ใหญ่ขนาดไหนต้องมีปัจจับความกว้างของทะเล ทิศทางน้ำ ลักษณะความลาดชายฝั่งประกอบด้วย ไม่ใช่ว่าแค่เป็นทะเลสุดสายตาเราก็น่ากลัวเกิดคลื่นยักษ์ได้ทั้งนั้น

ทะเลขนาดใหญ่ไม่เท่ากันตามธรรมดาก็ส่งผลต่อคลื่นชายฝั่งอยู่แล้วโดยไม่ต้องมีเหตุการณ์พายุ เช่น จำนวนลูกคลื่น/ นาที ที่พัดเข้าชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ก็ไม่เท่ากับที่พัดเข้าชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกครับ เพราะความใหญ่ไม่เท่ากัน

ทีนี้บ้านเรานักวิชาการก็ชอบโม้กันไป คำว่า "มีโอกาส" ใครพูดก็ถูกทั้งนั้น เพราะวิชาการในเรื่องธรรมชาติไม่มีใครฟันธงว่าไม่มีโอกาสเลย แต่โอกาสแค่ไหน เปรีบยเทียบกับภูมิภาคอื่นในโลกแล้วเป็นอย่างไร ไม่พูดให้ชัดเจน ความเป็นไปได้ของแต่ละภูมิภาคมันต่างกัน ไม่ใช่ว่านักวิชาการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นที่หนึ่งเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้ แล้วจะต้องวิเคราะห์ว่าผลเดียวกันจะเกิดที่อื่นได้

คนไทยเกรงใจกันใครโม้มั่วๆ แล้วต่อมาเห็นชัดว่าผิดก็ไม่มีใครชี้ คนในวงการเองก็ขี้เกียจผิดใจ เพราะคนไทยแยกเรื่องส่วนตัวกับเรื่องงานไม่ออก ใครอยากโม้ก็โม้ไป คนอื่นที่รู้ก็นั่งอมยิ้มไปครับ

น่าขันพอกับคำพูดทำนอง "ตุ๊กๆ มีโอกาสแข่งชนะเฟอร์รารี่" มันก็ได้ถ้าเฟอรรารี่เครื่องเสีย คนขับหัวใจวายกลางสนาม แค่เห็นว่าพูดอย่างนี้ได้ คนอื่นก็ไม่อยากถกด้วยแล้วครับ

ส่วนสื่อก็ชอบตีข่าวตื่นเต้นหากินกันไป เรื่องพวกนี้บางทีสื่อเอกชนก็มั่วเอาเองให้เข้ากับแฟชั่นเลย ตอนสึนามิมีนิยสารเล่มหนึ่งเขียนซะว่าเป็นเพราะมนุษย์ทำลายสิ่งแวดล้อม มันไม่เกี่ยวกันเลยครับ นอกจากนี้คนเรามักให้ความสำคัญกับตนเองมากเกินไป อะไรที่คนทำไม่ได้มีผลต่อธรรมชาติอย่างที่ชอบเชื่อ/ หรืออยากจะเชื่อกัน เช่น ทดลองระเบิดนิวเคลียร์ ต่อให้ลูกใหญ่ ๑๐๐ เมกกะตันอย่างที่โซเวียตเคยทดลองช่วง ๖๐ มันก็ไม่มีผลอะไรต่อธรณีวิทยาและการหมุนของโลกอะไรเลย พลังกงานธรรมชาติทางธรณีวิทยามากกว่านี้แยะมากเทียบไม่ได้

ประชาชนรับข่าวสารก็เป็นเหยื่อสับสนไป

พวกที่ชอบทำนายทายทักคุณภาพแบบนี้ ลองเอาไปเสนอในวงวิชาการระหว่างประเทศสิครับ มหาลัยที่เรียนจบมาเขาอาจขอปริญญาคืนด้วยซ้ำ เหอะๆ