เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: หญ้าเจ้าชู้ # รักในหลวง # ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 12:13:21 PM



หัวข้อ: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าเจ้าชู้ # รักในหลวง # ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 12:13:21 PM
คือผมทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการเกษตรที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ประมาณ 15,000 ไร่ เป็นเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ ภายในสวนแบ่งเป็นแปลงย่อยๆมีถนนมากมายภายในสวน ซึ่งตามความเป็นจริงเป็นถนนส่วนบุคคล แต่เนื่องจากเป็นสวนขนาดใหญ่ รอบสวนจึงเป็นหมู่บ้านอยู่รอบๆสวน ถนนหนทางชาวบ้านจึงใช้กันอย่างเสรี คล้ายทางสาธารณะ ที่นี้เรื่องมีอยู่ว่า บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแอบซุ่มจับ ชาวบ้านที่พาปืนลูกกรด หรือปืนแก็ป ที่มายิงหนูยิงกระรอกในสวนบริษัทฯ บางครั้งก็จับยาบ้าจากเด็กวัยรุ่นที่เผอิญผ่านมา ที่นี้ผมเลยสงสัยว่า
1.จริงแล้วเจ้าหน้าที่มีสิทธ์ที่จะมาตั้งด่านแบบนี้ในที่ส่วนตัวได้หรือไม่ เพราะบางครั้งมาตั้งหน้าทางเข้าสวน ก็แจ้งเจ้าของพื้นที่บ้าง แต่หลายครั้งก็แอบเข้าไปซุ่มอยู่ภายในสวนโดยไม่บอกเจ้าของพื้นที่
2.ในกรณีผมเป็นผู้มีหน้าที่ที่ต้องดูแลสวนแห่งนี้ ผมเองก็พาปืน (มีทะเบียนถูกต้อง) ใส่รถไปด้วยเวลาตรวจสวน หากเจอด่านพวกนี้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้หรือไม่ คือบอกตามตรงถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่จะรู้จักว่าใครเป็นใคร แต่หลายก็มีเจ้าหน้าแปลกหน้าเข้ามา


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ไก่เฮง รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 12:39:02 PM
...บางครั้งทฤษฎีกับการปฏิบัติมันก็ขัดแย้งกันนะครับ...รอท่านอัยการมาชี้แนะครับ...


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 12:56:02 PM
การพกพาของ จขกท อยู่ในที่ส่วนบุคคลไม่น่ามีปัญหา แต่ไม่แน่ใจถนนที่ว่าเป็นที่สัญจรของชาวบ้านครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chagreen ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 02:04:59 PM
เจ้าหน้าที่ไม่น่าทำได้นะครับเพราะเป็นที่ส่วนบุคคลถนนก็ส่วนบุคคล ท่านมีหน้าที่ดูแลสวนแห่งนี้ถ้าโดนตรวจค้นเจอปืนก็ไม่น่าผิดนะครับเพราะเป็นที่ส่วนบุคคล


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: purit ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 02:07:05 PM
1. ทางที่ยอมให้ประชาชนทั่วไปใช้สัญจรไปมาเกินกว่า 10 ปีโดยไม่หวงกั้นสงวนเป็นของตนเป็นทางสาธารณะครับ
2. ที่ดินที่จัดแบ่งเกินกว่า10 แปลงขึ้นไป เข้าประกาศคณะปฏิวัติพ.ศ.อะไรผมจำไม่ได้ เป็นถนนครับ
ดังนั้นหากเป็นทางสาธารณะเจ้าหน้าที่มีสิทธิตรวจค้น  จับกุม ครับ ถนนในที่จัดสรร ที่จ.ข.ก.ท. ดูแลควรจะเป็นทางสาธรณะแล้วนะครับ :) :) :)


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 02:13:52 PM
ตามที่คุณภูริตตอบครับ ชาวบ้านผ่านมาผ่านไปมานานหรือยัง หากเกิน10ปีก็เป็นทางสาธารณะครับ
จนท.มีสิทธิแล้วครับ แต่ถ้ายังไถง ก็ควรสงวนสิทธิครับ



หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 04:38:22 PM
          ด้วยความเคารพครับ  ::014::

          ตามความเห็นส่วนตัวของผมการที่บริษัทเจ้าของสวนยินยอมให้บุคคลภายนอกใช้ทางภายในสวนเป็นทางผ่านนั้น

แม้จะเป็นระยะเวลาเกินกว่าสิบปีก็ไม่น่าจะเป็นทางสาธารณะครับ  เพราะเมื่อดูเจตนาของเจ้าของบริษัทแล้วน่าจะเป็นการ

ให้ผ่านในลักษณะที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่อยู่บริเวณนั้นมากกว่า  และการที่ประชาชนใช้ทางผ่านเข้าออกดัง

กล่าวก็เป็นไปในลักษณะที่รับรู้ถึงกรรมสิทธิ์ของบริษัทจึงไม่อาจได้ภาระจำยอมตามกฎหมาย  ตราบใดที่บริษัทยังไม่ได้แสดง

เจตนาชัดแจ้งอุทิศให้เป็นทางสาธารณะที่ดินดังกล่าวก็ยังเป็นที่ส่วนบุคคลอยู่ครับ

          ส่วนที่ดินที่จัดแบ่งเกินกว่าสิบแปลงขึ้นไปที่ต้องกันเป็นถนนนั้น  ผมเห็นว่ากรณีนั้นน่าจะใช้กับการจัดสรรที่ดินตั้งแต่

สิบแปลงขึ้นไปตามกฎหมายเพื่อการจำหน่ายเช่นหมู่บ้านจัดสรรมากกว่านะครับ  ส่วนกรณีนี้ไม่ได้ปรากฏว่ามีการแบ่งแยกโฉนด

ที่ดินเพื่อจัดสรรที่ดินเลยนะครับ  เพียงแต่มีการตัดถนนเพื่อความสะดวกในการเดินทางภายในสวนมากกว่านะครับ

          ข้อ  ๑.  ตามความเห็นของผมเมื่อที่ดินยังคงเป็นที่ดินส่วนบุคคลอยู่เจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเข้ามากระทำการดังกล่าวได้

ครับ  เพียงแต่ในทางกฎหมายเจ้าหน้าที่อาจอ้างว่าเป็นทางที่ประชาชนทั่วไปใช้สัญจรขึ้นมาต่อสู้ได้  และถ้าเจ้าหน้าที่ไม่ได้

ทำความเสียหายหรือว่าทำให้เจ้าของที่ดินเดือดร้อนเกินไปนัก  ก็ไม่มีเหตุที่จะขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่นะครับ  เพราะ

มองอีกด้านหนึ่งก็เป็นการช่วยลดปัญหาอาชญากรรมในพื้นที่ไปได้ส่วนหนึ่ง

          ข้อ  ๒.  เมื่อพื้นที่เป็นที่ส่วนบุคคลแล้วท่านจะพกพาปืนไปอย่างไรก็ไม่มีความผิดครับ  ขออย่างเดียวอย่าเป็นปืนผิดมือ

หรือเป็นปืนเถื่อนก็แล้วกัน

          รอฟังความคิดเห็นของพี่สิงห์ กับพี่ Ro@d  เพื่อเป็นความรู้ด้วยครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 06:24:08 PM
ผมขอออกความเห็นเฉพาะเรื่องทางครับ ;D

การที่ทางในที่ดินเอกชน จะตกเป็นทางสาธารณะได้นั้น มีอยู่กรณีเดียวครับ (นอกจากถูกเวนคืน)
คือเจ้าของที่ดินซึ่งเป็นเอกชน ได้ยกหรืออุทิศให้ทางดังกล่าว เป็นทางสาธารณะ
ไม่ว่าจะโดยนิติกรรม หรือโดยวาจา และไม่สำคัญว่าจะได้จดหรือขึ้นทะเบียนเป็นทางสาธารณะหรือไม่
หากเจ้าของที่ดิน มีเจตนายกให้ทางเป็นทางสาธารณะประโยชน์แล้ว ทางดังกล่าวย่อมตกเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทั้นที

ซึ่งเรื่องนี้ จึงมิใช่เรื่องภาระจำยอมในที่ดินของผู้อื่นที่จะเอาอายุความ ๑๐ ปี มาใช้บังคับ ดั่งเช่นท่านโยชิกิได้แนะนำไว้แล้ว เพราะคนละเรื่องกัน
และไม่เกี่ยวกับเรื่องการบ้านจัดสรร หรือ ตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร เพราะในกฎหมายดังกล่าว แม้จะมีคำว่าทางสาธารณะก็ตาม
แต่เป็นเพียงนิยามและข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าอย่างไรคือ ทางสาธารณะ เท่านั้น ซึ่งไม่แน่นอนเสมอไป
หากมีข้อเท็จจริงอื่นแสดงให้เห็นนอกเหนือจากบทสันนิษฐานของกฎหมายครับ

แต่ในบางกรณี (บางคดี)  การที่เจ้าของที่ดินยอมให้ประชาชนทั่วไปใช้ทางในที่ดินของตน สัญจรไปมาเป็นเวลานานหลายสิบปี
ศาลฎีกามองว่าเจ้าของที่ดินได้อุทิศที่ดินให้เป็นทางสาธารณะโดยปริยายแล้ว

 ไม่ใช่เรื่องใช้ทางมาแล้วกี่ปี กี่เดือน

แต่ก็ไม่ใช่ทุกรณี ที่ประชาชนทั่วไปใช้ทางในที่ดินเอกชนแล้ว ทางดังกล่าวจะตกจะเป็นทางสาธารณะทุกกรณีครับ

ในความเห็นผม จุดสำคัญคือ พฤติการณ์ที่ให้ชาวบ้านใช้ทาง ของเจ้าของที่ดินครับ

เมื่อปรากฎว่าทางดังกล่าว เจ้าของที่ดินทำไว้เพื่อประโยชน์ในกิจการเกษตรของตน
มีการดูแลซ่อมแซมด้วยกำลังของเจ้าของที่ดินเอง มีการตรวจตรา และมีการควบคุมบุคลเข้าออกพอสมควรแล้ว 
เพียงแต่ทางในที่ดินของตนนั้น พอเหมาะกับทางที่ชาวบ้านสามารถใช้ทางดังกล่าว เข้าออกได้สะดวกขึ้นจากเดิม

นอกจากนี้ หากการที่ให้ราชฎรใช้ทางนั้น เป็นเพียงการอนุญาตให้เข้าสัญจรเพื่อความสะดวกแก่ชาวบ้านเท่านั้น
ตรงนี้จะถือว่าเจ้าของที่ดินอุทิศทางให้เป็นสาธารณะประโยชน์โดยปริยายไม่ได้ครับ
ยังคงต้องถือว่าทางดังกล่าวยังเป็นกรรมสิทธิ์ของเจ้าของที่ดิน ไม่เป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน

แต่อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่ยังไม่มีคำพิพากษาของศาล หรือคำสั่งทางปกครองใด อันเป็นที่สุดว่า ทางดังกล่าวเป็นทางสาธารณะแล้ว
ต้องถือไว้ก่อนครับ ว่าทางดังกล่าว ยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ครอบครองหรือเจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่ทางนั้นอยู่ครับ

ผมจึงมีความเห็นในทำนองเดียวกับที่ท่านโยชิกิให้ความเห็นไว้ในเรื่องทางครับ ;D

ปล. ที่ท่านโยชิกิเคยกล่าวไว้ว่า เรื่องแพ่งและพาณิชย์สนิมขึ้นแล้ว ไม่จริงเลย  ;D ;D



หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: คนส่องกล้อง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 06:55:22 PM
             ผมว่าบริษัทที่สามารถซื้อที่ดินแปลงผืนติดต่อกันถึง 15,000 ไร่ หรือ 24 ตารางกิโลเมตร น่าจะมีที่ปรึกษาด้านกฎหมายประจำบริษัท เป็นผมจะใช้ช่องทางนั้น

             อีกอย่างผมว่าทางบริษัทก็น่าจะล้อมรั้วหรือประกาศอณาเขตพื้นที่ให้เป็นที่สังเกตุได้ว่าเป็นที่ส่วนบุคคล ห้ามรุกล้ำ แล้ว(หรือ)นำความไปบอกกับ สน.ที่ชอบมาตั้งด่านว่า ที่ดินแปลงน้เป็นที่ส่วนบุคคลกรุณาอย่าเข้ามายุ่งห้ามมาตั้งด่านแถวนี้ เขาถึงจะทราบ ครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 07:20:53 PM
Ha ha ยายขออนุญาตเปิดประเด็นเรื่อง "ถนน" ต่อน๊ะคร๊า
   
ก่อนปี 2540  โฉนดที่ถูกระบุว่า "เป็นถนน ในโครงการจัดสรร"  ตอนนั้นสถาบันการเงินรับจำนอง
ต่อมา  ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้  ธนาคารเจ้าหนี้
ก็ขายหนี้ต่อให้  "บริษัทบริหารสินทรัพย์" 
บริหารสินทรัพย์นำที่ดินแปลงที่เป็นถนน รวมถึงที่ดินแปลงอื่น  ออกขายทอดตลาด
โดยกรมบังคับคดี ในคดี"ศาลล้มละลายกลาง"

ถามว่า "เป็นการขายโดยชอบหรือไม่"   ฮา  เพราะที่ดินส่วนที่นำออกขาย
มันมีส่วนควบ คือ เสาไฟฟ้า  ระบบท่อน้ำประปา ทางเท้า   ทางระบายน้ำ
ซึ่งส่วนควบเหล่านี้พวกเราเรียกว่า "สาธารณูประโภค" ฮา


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 07:44:15 PM
ผมขอเติมแบบกว้าง ๆ แล้วกันครับ 

ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ  ม.๘ ทวิวรรหนึ่ง  "ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ  โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว 
เว้นแต่เป็นกรณีที่ต้องมีติดตัว เมื่อมีเหตุจำเป็นและเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ "

ประเด็น มิใช่อยู่ที่ทางสาธารณะ เท่านั้น แต่ถ้าในข้อเท็จจริง (ที่ถนนหนทาง สวนหย่อม ถูกจัดให้เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ ถึงประชาชนในหมู่นั้นมีสิทธิใช้สอยร่วมกัน) 

แต่ที่ดินได้มีการแบ่งแยกจัดสรร มีสภาพเป็นหมู่บ้าน ที่ประชาชนมาอาศัยอยู่ร่วมกัน  ก็จะเข้าตาม ม.๘ ทวิวรรคหนึ่ง นี้แล้ว จักต้องปฎิบัติตาม พรบ.อาวุธปืนฯ  ด้วย

เมื่อมีการพาอาวุธปืนติดตัว ฯ ไปในถนนหนทางของ หมู่บ้าน น่าจะถือว่าผิดต่อกฎหมาย ในมาตรานี้ .
จนท. เมื่อพบเห็นการกระทำละเมิดต่อกฎหมาย ย่อมมีสิทธิจับกุม ได้ครับ   






หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ban.cha ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 07:55:44 PM
ต้องแยกให้ได้ว่าอย่างไหนคือ ที่ทางส่วนบุคคล
อย่างไหนคือ ที่ทางสาธารณะ ผมเข้าใจถูกต้องไหมครับ ::014::


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:01:03 PM
          ขอบคุณพี่สิงห์ และพี่ Ro@d  มากครับที่ช่วยอธิบายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น  ::014::

          แต่ผมก็ยังยืนยันนะครับว่ากฎหมายแพ่งของผมสนิมเกาะแล้ว  ก่อนจะตอบได้ก็ต้อง

เสียเวลาเคาะสนิมกันพักใหญ่ ๆ เลยทีเดียว  ไม่รู้เป็นอะไรนึกถึงกฎหมายแพ่งที่ไรแล้วสมอง

ตื้อขึ้นมาทุกที  ;D


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:33:32 PM
ต้องขอแก้ไขแล้วครับ  เพราะเข้าใจผิดว่า ที่ดินแปลงใหญ่ ถูกจัดสรรเป็นบ้านจัดสรร ไปแล้ว ..  ซึ่งความจริงแล้ว ที่ดิน ๑๕,๐๐๐ ไร่ ยังเป็นที่ดินส่วนบุคคล

ฉะนั้น ถนนหนทางใน ส่วนนี้ ถือเป็นที่ส่วนบุคคล  ไม่ใช่ที่ ไม่ใช่ทางสาธารณะ และไม่ใช้ทางภาระจำยอม.  ยังเป็นที่ดิน และถนนส่วนบุคคล 
คำว่าถนนส่วนบุคคล คือการสงวนไว้สำหรับตนเอง   

ฉะนั้น จนท. ไม่มีสิทธิ์เข้ามาตรวจค้น หรือจับอาวุธปืน ในที่ดินแปลงนี้   จขกท. สามารถนำพาอาวุธปืน รวมถึงพาได้อย่างเปิดเผย ในพื้นที่ส่วนตัวนี้ ครับ

แต่บางครั้ง จนท. อาจจะไม่ทราบถึงข้อเท็จจริงว่า ที่ดินแปลงใหญ่นี้ เป็นที่ดินส่วนบุคคล ...
ควรที่จักต้องบอกกล่าวเพื่อให้ จนท.ทราบถึงสิทธิ ก่อนที่จะเข้าดำเนินการใด ๆ  ในที่ดินแปลงนี้  ;D


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:43:06 PM
คือผมทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการเกษตรที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ประมาณ 15,000 ไร่ เป็นเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ ภายในสวนแบ่งเป็นแปลงย่อยๆมีถนนมากมายภายในสวน ซึ่งตามความเป็นจริงเป็นถนนส่วนบุคคล แต่เนื่องจากเป็นสวนขนาดใหญ่ รอบสวนจึงเป็นหมู่บ้านอยู่รอบๆสวน ถนนหนทางชาวบ้านจึงใช้กันอย่างเสรี คล้ายทางสาธารณะ ที่นี้เรื่องมีอยู่ว่า บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแอบซุ่มจับ ชาวบ้านที่พาปืนลูกกรด หรือปืนแก็ป ที่มายิงหนูยิงกระรอกในสวนบริษัทฯ บางครั้งก็จับยาบ้าจากเด็กวัยรุ่นที่เผอิญผ่านมา ที่นี้ผมเลยสงสัยว่า
1.จริงแล้วเจ้าหน้าที่มีสิทธ์ที่จะมาตั้งด่านแบบนี้ในที่ส่วนตัวได้หรือไม่ เพราะบางครั้งมาตั้งหน้าทางเข้าสวน ก็แจ้งเจ้าของพื้นที่บ้าง แต่หลายครั้งก็แอบเข้าไปซุ่มอยู่ภายในสวนโดยไม่บอกเจ้าของพื้นที่
2.ในกรณีผมเป็นผู้มีหน้าที่ที่ต้องดูแลสวนแห่งนี้ ผมเองก็พาปืน (มีทะเบียนถูกต้อง) ใส่รถไปด้วยเวลาตรวจสวน หากเจอด่านพวกนี้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้หรือไม่ คือบอกตามตรงถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่จะรู้จักว่าใครเป็นใคร แต่หลายก็มีเจ้าหน้าแปลกหน้าเข้ามา


ขอถามขยายความเพื่อท่านอื่นจะให้คำตอบที่ชัดขึ้น ที่แบ่งเป็นแปลงย่อยนี้มีการเพาะปลูกใช่ หรือไม่ครับ ทางที่ทำไว้นี้เพื่อการขนส่งผลิตผลใช่ หรือไม่ครับ และหมู่บ้านที่ว่านี้อยู่ภายใน หรือภายนอกสวนครับ

ส่วนข้อความเห็นในการพกปืน ผมว่าคุณน่าจะมีสิทธ์นี้นะครับ เพราะบริษัทมอบหมายในคุณเป็นผู้ดูแลสวน หรือดูแลทรัพย์สินของบริษัท ถ้าถูกจับอยู่ภายในสวนจริง ผมว่าบริษัทคงเคลียร์ให้ได้นะครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:47:28 PM
คุณ Ro@d ตอบใหม่แล้ว ตามนั้นเลยครับ พื้นที่ส่วน ครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: คนส่องกล้อง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:51:29 PM
             เห็นตัวเลขที่นายทุนสามารถกว้านซื้อที่ได้ขนาดนี้ น่ากลัวครับ อีกหน่อยบ้านเราคงเหมือน "อเจนติน่า" ไม่ทราบว่าท่านใดเคยดูแล้วหรือยัง  ::004:: ::004:: ::004:: นี่ประเทศไทย ของใคร  ::004::


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 08:58:52 PM
คือผมทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการเกษตรที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ประมาณ 15,000 ไร่ เป็นเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ ภายในสวนแบ่งเป็นแปลงย่อยๆมีถนนมากมายภายในสวน ซึ่งตามความเป็นจริงเป็นถนนส่วนบุคคล แต่เนื่องจากเป็นสวนขนาดใหญ่ รอบสวนจึงเป็นหมู่บ้านอยู่รอบๆสวน ถนนหนทางชาวบ้านจึงใช้กันอย่างเสรี คล้ายทางสาธารณะ ที่นี้เรื่องมีอยู่ว่า บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแอบซุ่มจับ ชาวบ้านที่พาปืนลูกกรด หรือปืนแก็ป ที่มายิงหนูยิงกระรอกในสวนบริษัทฯ บางครั้งก็จับยาบ้าจากเด็กวัยรุ่นที่เผอิญผ่านมา ที่นี้ผมเลยสงสัยว่า
1.จริงแล้วเจ้าหน้าที่มีสิทธ์ที่จะมาตั้งด่านแบบนี้ในที่ส่วนตัวได้หรือไม่ เพราะบางครั้งมาตั้งหน้าทางเข้าสวน ก็แจ้งเจ้าของพื้นที่บ้าง แต่หลายครั้งก็แอบเข้าไปซุ่มอยู่ภายในสวนโดยไม่บอกเจ้าของพื้นที่
2.ในกรณีผมเป็นผู้มีหน้าที่ที่ต้องดูแลสวนแห่งนี้ ผมเองก็พาปืน (มีทะเบียนถูกต้อง) ใส่รถไปด้วยเวลาตรวจสวน หากเจอด่านพวกนี้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้หรือไม่ คือบอกตามตรงถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่จะรู้จักว่าใครเป็นใคร แต่หลายก็มีเจ้าหน้าแปลกหน้าเข้ามา

็Ha ha ประเด็นนี้  ยายมองว่า "ลักษณะการรวบรวมพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยมีวัตถุุประสงค์เพื่อทำการเกษตร
เป็นการแสดงถึง "ความเป็นเจ้าของ" อ่ะคร๊า  ซี่งโยงไปถึงคำจำกัดความว่า "ถนนส่วนบุคคล สงวนสิทธิ์"
ส่วนการยินยอมให้บุคคลเข้ามาใช้ประโยชน์ เป็นทางเข้าออก  ยายเข้าใจว่า "บุคคลที่ใช้ทาง"
ก็น่าจะหมายความว่า "เพื่อประโยชน์ ต่อการทำการเกษตร" อ่ะคร๊า  ฮา


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:02:01 PM
            เห็นตัวเลขที่นายทุนสามารถกว้านซื้อที่ได้ขนาดนี้ น่ากลัวครับ อีกหน่อยบ้านเราคงเหมือน "อเจนติน่า" ไม่ทราบว่าท่านใดเคยดูแล้วหรือยัง  ::004:: ::004:: ::004:: นี่ประเทศไทย ของใคร  ::004::

็Ha ha ยายมา ฮา เฉยๆ  อิอิ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าเจ้าชู้ # รักในหลวง # ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:05:44 PM

ขอถามขยายความเพื่อท่านอื่นจะให้คำตอบที่ชัดขึ้น ที่แบ่งเป็นแปลงย่อยนี้มีการเพาะปลูกใช่ หรือไม่ครับ ทางที่ทำไว้นี้เพื่อการขนส่งผลิตผลใช่ หรือไม่ครับ และหมู่บ้านที่ว่านี้อยู่ภายใน หรือภายนอกสวนครับ

ส่วนข้อความเห็นในการพกปืน ผมว่าคุณน่าจะมีสิทธ์นี้นะครับ เพราะบริษัทมอบหมายในคุณเป็นผู้ดูแลสวน หรือดูแลทรัพย์สินของบริษัท ถ้าถูกจับอยู่ภายในสวนจริง ผมว่าบริษัทคงเคลียร์ให้ได้นะครับ
ขอขยายความครับ ที่ดินแปลงนี้เป็นสวนปาล์มครับ พื้นที่ทั้งหมดประมาณ 15,000 ไร่ จริงแล้วที่ดินแปลงนี้เป็น 2 ส่วน เป็นที่ดินฉโนดของบริษัท ประมาณ 4000 ไร่ และเป็นที่ดินสัมปทาน ป่าไม้ส่วนที่เหลือ โดยที่ดินต่อกันเป็นพื้นใหญ่ พื้นที่ปลูกปาล์มนี้บุกเบิกกันมาประมาณ 40 ปีแล้ว ก่อนหมู่บ้านจะเกิด มีถนนสายหลักผ่ากลางสวน เป็นถนนที่บริษัทสร้างเองเพื่อใช้ในการขนส่งปาล์ม แล้วมีการสร้างถนนย่อยเพื่อเข้าหาแปลงปลูกปาล์ม ซึ่งถนนหลักกลางสวนเป็นที่ชาวบ้านในสัญจรไปมา จนคล้ายถนนสาธารณะ แต่ความเป็นจริงบริษัทเป็นคนดูแล 100 % ครับ ทั้งถม เกรด ซ่อม ส่วนเรื่องการประกาศสิทธิ์อะไรนั้นบอกได้ตามตรงครับ ว่าคนทั้งอำเภอแทบทุกคนรู้ว่าเป็นสวนปาล์มของบริษัท เพราะสวนตั้งมานานคนหลายคนก็เคยมาทำงานในสวน เจ้าหน้าที่เองก็รู้


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:18:07 PM
ผมว่าสำหรับตัวคุณ คนทำสวน เองก็ไม่จะมีปัญหานะครับ เป็นเรื่องน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่าครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sa-ea-ba-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:22:19 PM
ขอถามเพิ่มเติมจากท่านผู้รู้หน่อยครับ ถ้าในกรณีเจ้าของกระทู้ทำงานในสวนนี้ซึ่งพิจรณาดูแล้วว่าน่าจะเป็นที่ดินส่วนบุคลแต่ได้พกพาอาวุธปืนที่ไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเจ้าของที่หรือเป็นผุ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินส่วนนั้น นำมาใช้พกพาจะเข้าข่ายปืนผิดมือหรือไม่ครับ(ปืนมีทะเบียนครับ ::014::)


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:24:30 PM
คือผมทำงานอยู่ในบริษัทเกี่ยวกับการเกษตรที่มีพื้นที่สวนขนาดใหญ่ ประมาณ 15,000 ไร่ เป็นเป็นพื้นที่แปลงใหญ่ ภายในสวนแบ่งเป็นแปลงย่อยๆมีถนนมากมายภายในสวน ซึ่งตามความเป็นจริงเป็นถนนส่วนบุคคล แต่เนื่องจากเป็นสวนขนาดใหญ่ รอบสวนจึงเป็นหมู่บ้านอยู่รอบๆสวน ถนนหนทางชาวบ้านจึงใช้กันอย่างเสรี คล้ายทางสาธารณะ ที่นี้เรื่องมีอยู่ว่า บางครั้งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาแอบซุ่มจับ ชาวบ้านที่พาปืนลูกกรด หรือปืนแก็ป ที่มายิงหนูยิงกระรอกในสวนบริษัทฯ บางครั้งก็จับยาบ้าจากเด็กวัยรุ่นที่เผอิญผ่านมา ที่นี้ผมเลยสงสัยว่า
1.จริงแล้วเจ้าหน้าที่มีสิทธ์ที่จะมาตั้งด่านแบบนี้ในที่ส่วนตัวได้หรือไม่ เพราะบางครั้งมาตั้งหน้าทางเข้าสวน ก็แจ้งเจ้าของพื้นที่บ้าง แต่หลายครั้งก็แอบเข้าไปซุ่มอยู่ภายในสวนโดยไม่บอกเจ้าของพื้นที่
2.ในกรณีผมเป็นผู้มีหน้าที่ที่ต้องดูแลสวนแห่งนี้ ผมเองก็พาปืน (มีทะเบียนถูกต้อง) ใส่รถไปด้วยเวลาตรวจสวน หากเจอด่านพวกนี้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่ส่วนตัวได้หรือไม่ คือบอกตามตรงถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ในเขตพื้นที่จะรู้จักว่าใครเป็นใคร แต่หลายก็มีเจ้าหน้าแปลกหน้าเข้ามา

็Ha ha ประเด็นนี้  ยายมองว่า "ลักษณะการรวบรวมพื้นที่ขนาดใหญ่ โดยมีวัตถุุประสงค์เพื่อทำการเกษตร
เป็นการแสดงถึง "ความเป็นเจ้าของ" อ่ะคร๊า  ซี่งโยงไปถึงคำจำกัดความว่า "ถนนส่วนบุคคล สงวนสิทธิ์"
ส่วนการยินยอมให้บุคคลเข้ามาใช้ประโยชน์ เป็นทางเข้าออก  ยายเข้าใจว่า "บุคคลที่ใช้ทาง"
ก็น่าจะหมายความว่า "เพื่อประโยชน์ ต่อการทำการเกษตร" อ่ะคร๊า  ฮา

ว๊าววว

จมูกหมาของยาย  :o :o :o


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าเจ้าชู้ # รักในหลวง # ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:31:38 PM
ขอถามเพิ่มเติมจากท่านผู้รู้หน่อยครับ ถ้าในกรณีเจ้าของกระทู้ทำงานในสวนนี้ซึ่งพิจรณาดูแล้วว่าน่าจะเป็นที่ดินส่วนบุคลแต่ได้พกพาอาวุธปืนที่ไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเจ้าของที่หรือเป็นผุ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินส่วนนั้น นำมาใช้พกพาจะเข้าข่ายปืนผิดมือหรือไม่ครับ(ปืนมีทะเบียนครับ ::014::)
ผมเองเคยคิดเหมือนกันครับ ยกตัวอย่างเช่นบริษัทซื้อปืนแต่ให้ยามเบิกไปใช้ ก็ได้แต่คิดครับเพราะมันคงมอบอำนาจไม่ได้ แต่ความเป็นจริงของผมตอนนี้ ยามสวนเองก็ใช้ปืนส่วนตัว (ทะเบียนถูกต้อง)


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:32:23 PM
ขอถามเพิ่มเติมจากท่านผู้รู้หน่อยครับ ถ้าในกรณีเจ้าของกระทู้ทำงานในสวนนี้ซึ่งพิจรณาดูแล้วว่าน่าจะเป็นที่ดินส่วนบุคลแต่ได้พกพาอาวุธปืนที่ไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเจ้าของที่หรือเป็นผุ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินส่วนนั้น นำมาใช้พกพาจะเข้าข่ายปืนผิดมือหรือไม่ครับ(ปืนมีทะเบียนครับ ::014::)

เมื่อปืนมาอยู่ในความครอบของตน และตนเจตนาครอบครองอาวุธปืนนั้น
แม้ว่าการครอบครองจะอยู่ในที่ดินของเอกชนก็ตาม และจะเป็นอาวุธปืนของเจ้าของที่ดินก็ตาม
ยังเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย
 ตามมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๗๒ วรรคสอง สาม และมาตรา ๗๒ ทวิครับ ::014::



หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: INTERCEPTER - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:38:33 PM
สวนแถวบ่อไร่หรือเปล่าครับ??


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: หญ้าเจ้าชู้ # รักในหลวง # ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:39:51 PM
สวนแถวบ่อไร่หรือเปล่าครับ??
กระบี่ครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 09:51:16 PM
ขอถามเพิ่มเติมจากท่านผู้รู้หน่อยครับ ถ้าในกรณีเจ้าของกระทู้ทำงานในสวนนี้ซึ่งพิจรณาดูแล้วว่าน่าจะเป็นที่ดินส่วนบุคลแต่ได้พกพาอาวุธปืนที่ไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเจ้าของที่หรือเป็นผุ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินส่วนนั้น นำมาใช้พกพาจะเข้าข่ายปืนผิดมือหรือไม่ครับ(ปืนมีทะเบียนครับ ::014::)

เมื่อปืนมาอยู่ในความครอบของตน และตนเจตนาครอบครองอาวุธปืนนั้น
แม้ว่าการครอบครองจะอยู่ในที่ดินของเอกชนก็ตาม และจะเป็นอาวุธปืนของเจ้าของที่ดินก็ตาม
ยังเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย
 ตามมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๗๒ วรรคสอง และมาตรา ๗๒ ทวิครับ

Ha ha ฮา  พี่สิงห์ขร๊า  ลืมเรื่องจมูกของยายน๊ะคร๊า  ฮา คริคริ

ยายคิดว่า ขาดองค์ประกอบเรื่อง "การยึดถือเป็นส่วนตัว เจตนาเป็นเจ้าของ" อ่ะคร๊า
อย่างบริษัท พวก Security ต่างๆอ่ะคร๊า   ถือมาใช้ เมื่อถึงเวลาต้องเอาไปคืน

ฮ๋า ฮ่า จ๊วบ จ๊วบ พี่สิงห์น๊ะคร๊า ฮา


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 10:04:29 PM
ไม่รู้สิครับ แต่จากที่ประสบมา ปัญหาไม่ได้อยู่ว่า ผู้กระทำ จะต้องมีเจตนาจะเป็นเจ้าของในปืนนั้นด้วยครับยาย
เพียงแต่ดูว่า การยึดถืออาวุธปืนดังกล่าวนั้น ผู้กระทำมีเจตนาครอบครองอาวุธปืนดังกล่าวไว้ที่ตนเองและเพื่อใช้อาวุธปืนหรือไม่

การที่พนักงาน ลูกจ้างครอบครองอาวุธปืนของนายจ้าง แม้ไม่ได้ครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของก็ตาม
แต่การครอบครองดังกล่าว หากมีเจตนาครอบครองอาวุธปืนเพื่อตนเองใช้งาน ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามแล้ว
ย่อมอยู่ในความหมายของคำว่า มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว

ซึ่งข้อเท็จจริงจะต่างจากฎีกาเรื่องรับฝากไว้ชั่วคราว กับคนร้ายยื่นอาวุธปืนให้เรา เรารับแล้วโยนทิ้งทันทีครับยาย :D


ฮ๋า ฮ่า จ๊วบ จ๊วบ พี่สิงห์น๊ะคร๊า ฮา

ห้ามใจไม่ตอบสนอง  ::007::






หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 10:13:22 PM
Ha ha ยายขออนุญาตเปิดประเด็นเรื่อง "ถนน" ต่อน๊ะคร๊า
   
ก่อนปี 2540  โฉนดที่ถูกระบุว่า "เป็นถนน ในโครงการจัดสรร"  ตอนนั้นสถาบันการเงินรับจำนอง
ต่อมา  ลูกหนี้ไม่สามารถชำระหนี้ได้  ธนาคารเจ้าหนี้
ก็ขายหนี้ต่อให้  "บริษัทบริหารสินทรัพย์" 
บริหารสินทรัพย์นำที่ดินแปลงที่เป็นถนน รวมถึงที่ดินแปลงอื่น  ออกขายทอดตลาด
โดยกรมบังคับคดี ในคดี"ศาลล้มละลายกลาง"

ถามว่า "เป็นการขายโดยชอบหรือไม่"   ฮา  เพราะที่ดินส่วนที่นำออกขาย
มันมีส่วนควบ คือ เสาไฟฟ้า  ระบบท่อน้ำประปา ทางเท้า   ทางระบายน้ำ
ซึ่งส่วนควบเหล่านี้พวกเราเรียกว่า "สาธารณูประโภค" ฮา

ยากจังยาย  ::011:: ฮาาา  ::005::




หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: sa-ea-ba-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 10:58:50 PM
ขอถามเพิ่มเติมจากท่านผู้รู้หน่อยครับ ถ้าในกรณีเจ้าของกระทู้ทำงานในสวนนี้ซึ่งพิจรณาดูแล้วว่าน่าจะเป็นที่ดินส่วนบุคลแต่ได้พกพาอาวุธปืนที่ไม่ใช่ของตนเองแต่เป็นของเจ้าของที่หรือเป็นผุ้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับที่ดินส่วนนั้น นำมาใช้พกพาจะเข้าข่ายปืนผิดมือหรือไม่ครับ(ปืนมีทะเบียนครับ ::014::)

เมื่อปืนมาอยู่ในความครอบของตน และตนเจตนาครอบครองอาวุธปืนนั้น
แม้ว่าการครอบครองจะอยู่ในที่ดินของเอกชนก็ตาม และจะเป็นอาวุธปืนของเจ้าของที่ดินก็ตาม
ยังเป็นความผิดฐานมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นอาวุธปืนของผู้อื่นซึ่งได้รับใบอนุญาตให้มีและใช้ตามกฎหมาย
 ตามมาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๗๒ วรรคสอง และมาตรา ๗๒ ทวิครับ
เอ่.....แล้วอย่างนี้ทางเจ้าหน้าที่เขาจะพออนุโลมหรือพูดคุยกันได้หรือไม่ครับว่าเจ้าของสวนหรือเจ้าของที่ดินเขาให้เอาไว้ติดตัวไว้เฝ้าสวนใช้ในพื้นที่เฉพาะบริเวณนั้นเพราะ จขกท. ก็ทำงานเป็นคนดูแลสวน แล้วอีกกรณียามเฝ้าธนาคารหรือพวกรับจ้างขนเงินแบบนั้นจะเข้าข่ายผิดหรือไม่ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 04, 2010, 11:36:32 PM
เรื่องนี้ ไม่ใช่จะจับกุมกันง่ายๆครับ เหตุผลคือ ลูกจ้างแม้ดูแลสวนโดยใช้อาวุธปืนของนายจ้างก็ตาม ก็อยู่ในที่ดินเอกชน อันเป็นที่รโหฐาน ซึ่งไม่ใช่เป็นที่สาธารณสถาน
งานนี้ต้องพิจารณาหลักการจับกุมในที่รโหฐานพอสมควรครับ เว้นแต่ไม่สนกฎหมาย ไม่สนใจใคร ไม่แคร์สื่อ ก็ว่ากันไปอีกเรื่องครับ

แต่อย่างไรก็ดี หากมองด้วยความสุจริตและเหตุผลแล้ว ความเข้าใจในหน้าที่การงาน ที่จำเป็นต้องมีอาวุธปืน
ตรงนี้ย่อมมีมากกว่า พวกที่มีปืนไว้ แสดงอำนาจ และมีไว้เพื่อข่มเหงคนอื่น อย่างแน่นอนครับ  ;)


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: purit ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 12:24:13 AM
ขออนุญาตให้ความเห็นแย้ง นะครับ
1.รับทราบจากข้อเท็จจริง ทางสาธารณะได้มาโดยผลของกฏหมายไม่ใช่การโต้แย้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ "[รอบสวนจึงเป็นหมู่บ้านอยู่รอบๆสวน ถนนหนทางชาวบ้านจึงใช้กันอย่างเสรี คล้ายทางสาธารณะ " ผมจึงตีความว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์ มิได้แสดงเจตนาหวงกั้น,ทักท้วงหรือยินยอม ไม่ให้ประชาชนเข้าใช้ทาง หากเกินกว่า 10ปี จึงเป็นกันได้มาตามผลของกฏหมาย กรณีนี้กรรมสิทธิ์ยังคงเดิมครับ แต่เพิ่มภาระติดพันที่ดินที่เรียกว่าทางสาธารณะเข้าไป ไม่ต้องจดทะเบียนก็เกิดสิทธิครับ หากเจ้าของโต้แย้งหรือปิดกั้นทาง สามารถฟ้องเปิดทางโดยถือคำพิพากษาของศาลแทนการ เพื่อจดทะเบียนฯอันนี้กรรมสิทธิยังคงเดิมนะครับ
2. กรณีที่ว่า "ภายในสวนแบ่งเป็นแปลงย่อยๆมีถนนมากมายภายในสวน" หากจัดแบ่งเกินกว่า10 แปลงถือเป็นที่ดินจัดสรรฯตามกฏหมายแล้วครับ ดังนั้นหากถนนพวกนี้ไม่ได้ทักท้วงหวงกั้น ก็กลายเป็นทางสาธารณะจากเหตุและผลข้างต้น
จึงเชื่อว่าเป็นทางสาธารณะและเป็นการตรวจค้นจับกุมโดยชอบครับ
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ ด้วยความเคารพ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 01:08:59 AM
การนำเหตุผลทางกฎหมาย มาวิเคราะห์แลกเปลี่ยนกัน ในรูปแบบสัมนาทางกฎหมายแบบนี้ ชอบครับ
ทำให้นึกถึงบรรยากาศสมัยเรียน ที่ต่างฝ่ายนำเหตุผลมาโต้แย้งกัน แต่ไม่ขัดแย้ง
ส่งผลให้ผู้ร่วมสนทนาเข้าใจหลักกฎหมายในเรื่องนั้นๆดียิ่งขึ้นครับ  ขอบคุณครับ ;)


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: smitxx2005'รักในหลวง' ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 09:06:38 AM
แล้วถ้าทำป้ายปิดประกาศว่าเป็นที่ส่วนบุคคลโดยรอบ มีเจตนาเพื่อให้รับทราบ(แต่ไม่ได้บังคับห้ามผ่าน)ประมาณว่าบอกแจ้งแล้วมีป้ายเป็นหลักฐานแต่เขาไม่เชื่อฟัง


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: c.tong - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 09:30:13 AM
ผมว่านะ ทางฝ่ายผู้บริหารระดับสูงคงรู้อยู่แล้วแหละ ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจปฎิบัติหน้าที่อยู่ในเขตสวนของบริษัท หรืออาจทางบริษัทอนุญาตแล้วก็ได้

ซึ่งเป็นการดีเสียอีกที่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยสอดส่อง เป็นหูเป็นตาให้อีกทาง ถ้าคนของบริษัทถูกจับในสวนเอง บริษัทเคลียร์ให้อยู่แล้ว แต่ถ้าคนนอกถูกจับก็จะเป็นหนทางหนึ่งในการกีดกันครับ


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 10:50:54 AM
ตามความคิดผม ที่ 15,000.-ไร่ อาจจะมีพื้นที่บางส่วนติดทางสาธารณประโยชน์ ตรงจุดนี้อาจจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งด่านได้


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Yoshiki_Silencer - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 03:47:02 PM
ขออนุญาตให้ความเห็นแย้ง นะครับ
1.รับทราบจากข้อเท็จจริง ทางสาธารณะได้มาโดยผลของกฏหมายไม่ใช่การโต้แย้งหรือเปลี่ยนแปลงกรรมสิทธิ์ "[รอบสวนจึงเป็นหมู่บ้านอยู่รอบๆสวน ถนนหนทางชาวบ้านจึงใช้กันอย่างเสรี คล้ายทางสาธารณะ " ผมจึงตีความว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์ มิได้แสดงเจตนาหวงกั้น,ทักท้วงหรือยินยอม ไม่ให้ประชาชนเข้าใช้ทาง หากเกินกว่า 10ปี จึงเป็นกันได้มาตามผลของกฏหมาย กรณีนี้กรรมสิทธิ์ยังคงเดิมครับ แต่เพิ่มภาระติดพันที่ดินที่เรียกว่าทางสาธารณะเข้าไป ไม่ต้องจดทะเบียนก็เกิดสิทธิครับ หากเจ้าของโต้แย้งหรือปิดกั้นทาง สามารถฟ้องเปิดทางโดยถือคำพิพากษาของศาลแทนการ เพื่อจดทะเบียนฯอันนี้กรรมสิทธิยังคงเดิมนะครับ
2. กรณีที่ว่า "ภายในสวนแบ่งเป็นแปลงย่อยๆมีถนนมากมายภายในสวน" หากจัดแบ่งเกินกว่า10 แปลงถือเป็นที่ดินจัดสรรฯตามกฏหมายแล้วครับ ดังนั้นหากถนนพวกนี้ไม่ได้ทักท้วงหวงกั้น ก็กลายเป็นทางสาธารณะจากเหตุและผลข้างต้น
จึงเชื่อว่าเป็นทางสาธารณะและเป็นการตรวจค้นจับกุมโดยชอบครับ
ขออนุญาตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนะครับ ด้วยความเคารพ

          ยินดีที่ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นครับจะได้ถือโอกาสเคาะสนิมกฎหมายแพ่งไปในตัว  อาจจะหน้าแตกเสียผู้เสียคนคราวนี้ก็เป็นได้  :D

         ก่อนอื่นขออ้างอิงหลักกฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อนนะครับ  

         ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  

         มาตรา  ๑๓๘๒  บุคคลใดครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบ

ครองติดต่อกันเป็นเวลาสิบปี  ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลาห้าปีไซร์ท่านว่าบุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์

          มาตรา  ๑๓๘๗  อสังหาริมทรัพย์อาจต้องตกอยู่ในภาระจำยอมอันเป็นเหตุให้เจ้าของต้องยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตน
 
หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น  เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น

          มาตรา  ๑๔๐๑  ภาระจำยอมอาจได้มาโดยอายุความ  ท่านให้นำบทบัญญัติว่าด้วยอายุความได้สิทธิอันกล่าวไว้ในลักษณะ  ๓  แห่งบรรพนี้

มาใช้บังคับโดยอนุโลม
  

          ข้อ  ๑.  ผมอ่านแล้วเข้าใจว่าภาระติดพันที่คุณ purit  หมายถึงในทีนี้คือภาระจำยอมใช่ไหมครับ  ก่อนอื่นขออธิบายให้ สมช.ท่านอื่นที่ไม่ได้

เรียนกฎหมายมาเข้าใจก่อนนะครับว่าในกรณีที่เราครอบครองที่ดินของคนอื่นเป็นไปตามเงื่อนไขตามมาตรา  ๑๓๘๒  ข้างต้น  จะทำให้ผู้ครอบครอง

ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว  ซึ่งภาษากฎหมายเรียกว่าครอบครองปรปักษ์  อันเป็นการได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินโดยผลของกฎหมาย  

          ส่วนภาระจำยอมตามกฎหมายนิยามก็เป็นไปตามมาตรา  ๑๓๘๗  ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นมีที่ดินอยู่สองแปลง  เจ้าของที่ดินแปลงแรกเดินผ่าน

ที่ดินแปลงที่สองเป็นเวลานานเกินกว่าสิบปีแล้ว  อย่างนี้เมื่อครบสิบปีแล้วเจ้าของที่ดินแปลงแรกก็มีสิทธิเดินผ่านที่ดินแปลงที่สองได้โดยเจ้าของที่

ดินแปลงที่สองไม่มีสิทธิหวงห้ามอีกต่อไป  อันเป็นการได้ภาระจำยอมโดยอายุความตามมาตรา  ๑๔๐๑  ประกอบมาตรา  ๑๓๘๒  แต่กรรมสิทธิ์ยังคง

เป็นของเจ้าของที่ดินแปลงที่สองอยู่  ซึ่งการได้ภาระจำยอมโดยอายุความนั้นกฎหมายให้เอาเรื่องครอบครองปรปักษ์ตามมาตรา  ๑๓๘๒  มาใช้บังคับ

โดยอนุโลม

          ทีนี้ก็ขอลงรายละเอียดในมาตรา  ๑๓๘๒  ซึ่งนำมาใช้ในเรื่องภาระจำยอมด้วยโดยอนุโลมนะครับ  ซึ่งเงื่อนไขหนึ่งที่สำคัญก็คือต้องครอบครอง

ด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ  คำว่าเป็นเจตนาเป็นเจ้าของในทีนี้ก็คือการครอบครองในลักษณะที่เข้ายึดเอาเพื่อตนเองโดยไม่สนใจในกรรมสิทธิ์ของเจ้าของ

ที่ดิน  แต่ตามข้อเท็จจริงตามกระทู้ผมมองว่าเป็นการที่บริษัทเจ้าของสวนเปิดให้ใช้ทางเพื่อประโยชน์ของประชาชนมากกว่า  และประชาชนก็ใช้ในทาง

โดยรับรู้ว่าบริษัทเป็นเจ้าของทางดังกล่าวอันเป็นการรับรู้สิทธิของบริษัท  จึงขาดองค์ประกอบในข้อที่ว่าครอบครองด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ  ถ้าเป็นกรณี

เช่นนี้แม้ใช้ทางนานเท่าใดก็ไม่ได้ภาระจำยอม  ซึ่งเคยมีตัวอย่างจากคำพิพากษาฎีกาที่คล้าย ๆ กันก็คือที่ดินที่อยู่ด้านในเดินผ่านที่ดินแปลงด้านนอก

เป็นเวลานานกว่าสิบปี  โดยเจ้าของที่ดินแปลงด้านนอกก็รับรู้ตลอดแต่ไม่ได้หวงห้ามอะไร  ซึ่งในชนบทก็มักถือปฏิบัติกันเช่นนี้เนื่องจากมีที่ดินติดต่อกัน

โดยศาลฎีกาวินิจฉัยว่าในกรณีนี้เจ้าของที่ดินแปลงด้านในเดินผ่านที่ดินโดยรับรู้ในสิทธิความเป็นเจ้าของของที่ดินแปลงด้านนอก  จึงขาดเจตนาเป็น

เจ้าของจึงไม่ได้ภาระจำยอมโดยอายุความครับ


         ข้อ  ๒.  ผมเห็นว่าการที่ตัดถนนเป็นสายย่อย ๆ มากมายภายในสวนก็เพื่อความสะดวกของเจ้าของสวนเอง  โดยที่โฉนดก็ยังเป็นแปลงเดียวกัน

เจ้าของก็ยังเป็นคนเดียวกัน  และไม่ได้เป็นการแบ่งเพื่อจัดสรรให้แก่บุคคลอื่น  จึงไม่เป็นการจัดสรรที่ดินตามกฎหมายครับ  ทางที่แบ่งจึงไม่ใช่ทาง

สาธารณะ  ผมขอย้อนถามด้วยคำถามง่ายสมมุติท่านปลูกสวนยางพาราสักร้อยไร่  ท่านจึงตัดถนนเพื่อสะดวกในการบำรุงรักษา  หรือขนย้ายยางพารา

เช่นนี้ผมถามว่าถนนที่ท่านตัดเพื่อใช้เพื่อประโยชน์ของท่านเอง  หากมีคนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงกันใช้ถนนดังกล่าวด้วยก็เป็นเรื่องผลพลอยได้และ

เป็นเรื่องน้ำใจของบ้านใกล้เรือนเคียงมากกว่า  ท่านว่าที่ดินที่ท่านอุตส่าห์เก็บหอมรอบริบซื้อมาอย่างยากลำบากหากต้องกลายเป็นทางสาธารณะ

เพราะความมีน้ำใจของท่านเองมันสมควรหรือไม่ครับ         


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ค..ควาย...ใส่ชฎา ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 04:00:38 PM
Ha Ha ขอบคุณท่าน Yoshiki_Silencer  อ่ะคร๊า ฮา


หัวข้อ: Re: อยากทราบว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธิ์ทำแบบนี้ไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mat031 ที่ พฤศจิกายน 05, 2010, 09:08:49 PM
ใช่สหฟาร์มหรือเปล่าครับ