เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

มันหายากจริงๆๆอ่ะครับบ

หาไม่เจอเลย  ผมอยู่เมืองกาญหาทั่วยังไม่เจอ

ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไรครับ

นอกจากหายากแล้ว ราคาก็พอควรเลยครับ

ผมก็ชอบขนาดปืนแต่ต่างจังหวัดหาซื้อกระสุนยาก
ได้แต่ดูรูปปืนไม่กล้าซื้อ

ยังมีครับ แต่ราคา ไม่อยากพูดถึงเลย ...

เป็นปืนที่มีขนาดสามารถพกพา ซุ่นซ่อนได้เนียน จึงทำให้ถูกจำกัดปริมาณการนำเข้า และจำหน่ายมั้งครับ

ผมเดาเอานะ

ไม่เกี่ยวครับในบ้านเรา100คนที่มีปืนไม่นับคนที่เล่นและสะสม
จะมี380สักกี่กระบอกในเมื่อมีเป็นจำนวนน้อย
โรงงานเขาก็ผลิตขนาดอื่นๆก่อนเป็นหลัก

เป็นเพราะปัจจัยอย่างเดียวเองครับคือ
- จำนวนปืนในเมืองไทย เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคากระสุนถูก หรือแพง และหายาก 
เนื่องจากว่า กระสุนปืนในเมืองไทยที่เป็นลูกจริง คุณภาพดี ล้วนนำเข้าจากฝรั่งทั้งสิ้น  ไม่ว่าฝรั่่งยุโรป หรือฝรั่งแฮมเบเกอร์
พ่อค้า แม่ค้า หลังวังบูรพา เขาซื้อกระสุนเข้ามาขาย เขาต้องลงทุนจ่ายเงินซื้อกระสุนเข้ามาก่อน ลงทุนไม่ใช่ทีละบาท สองบาท
ลงทุนที หลายสตางค์อยู่  ทีนี้่
 ถ้าซื้อลูก .38 สเปเชี่ยล เข้ามา 1000 นัด  คนเมืองไทย ตาสีตาสา .38 สเปเช่ี่ยล ใช้กันเกร่อทั้งประเทศ ลำกล้องสั้นยาว ว่ากันไป กระสุน 1000 นัด ก็มักจะขายหมดภายในเวลาอันรวดเร็ว เงินทุนที่ลงไป  ก็จะกลับมาพร้อมกำไร  พ่อค้าแม่ขาย ก็แฮปปี้ คนซื้อ ก็แฮป...แต่ไม่ค่อยปี้ เพราะราคา .38 สเปเชี่ยล ตอนนี้ ก็สาหัส เหมือนกัน

แต่ถ้าพ่อค้า  นำเข้า .380 มาเก็บไว้ สัก 1000 นัด คนใช้ .380 มีไม่มากเท่า .38 สเปเชี่ยลแน่นอน
ดังนั้น 1000 นัด  ถ้าขายหมดช้า หรือคนไม่ค่อยมาซื้อ   เงินทุนมันก็แช่อยู่   
พ่อค้า ก็คงเอาเข้ามาน้อย ก็ขายแพงกว่า .38  สเปเช่ี่ยล  แล้วก็ส่งผลให้หายาก  และราคาแพง เป็นธรรมดา

พ่อค้าก็อยากได้  แต่ใบอนุญาตมันไม่ออก

พอเข้ามาที  คนที่มีปืนขนาดนี้  ก็ซื้อไปตุนเอาไว้ใช้จนหมดตลาดอย่างรวดเร็ว   :D

หมดตลาดด้วยความรวดเร็วครับ .................เมื่อหายาก ราคาก็ถูกปั่นขึ้นศุงกว่าเดิมมาก ทั้งๆที่เป็นขนาดกระสุนที่แพงกว่าปกติอยู่แล้ว ..........

ช่วงที่ผ่านมาปืนขนาด .380 ถูกสั่งเขามาในโครงการ สน.สก.เป็นจำนวนมาก (คิดว่าเป็นหลักพัน)...............เมื่อผู้ซื้อได้รับปืนไปแล้ว ก็ต้องหากระสุนไว้ติดปืน+ซ้อมอย่างน้อยคนละกล่อง สองกล่อง ..............

ร้านค้าสั่งเข้ามาเท่าไหร่ก็ขายได้ ขายหมด ............ขึ้นราคาแค่ไหนก็มีคนซื้อ

ไม่เชิงครับ จากที่คุยกะเจ้าหน้าที่สนาม เวลาเอาเข้ามาจริงๆ  มันก็มียอดขาย เดินช้า อยู่นั้นเอง จะแห่ซื้อเฉพาะแรกๆเท่านั้น  แล้วของพวกนี้ยิ่งซื้อเก็บยิ่งขายไม่ออก  ไม่เหมือนซื้อมายิงแบบ ลูกซ้อม .38 , .45 , 9 มม พาราฯ  ..... เพราะปืนขนาดนี้ไม่ค่อยนำมายิงเล่นทางสันทนาการสักเท่าไหร่  

ขนาดลูกซ้อม .380 ยังเดินช้าเลย  เห่อ ตอนของมาใหม่ๆเท่านั้น ซื้อคนละกล่อง แล้วก็เงียบหาย   นายสนามหน้าบูดต่อไป  ;)

อีกช่วง สมัยที่ยุคเศรษฐกิจฟองสบู่  ลูกซ้อม .380 ยังไม่มีผลิตในประเทศ (หรืออาจเริ่มมีแล้วแต่ไม่แพร่หลาย)  คนซื้อ วอลเธอร์ , ซิก กันว่าเล่น สนามต่างจังหวัด บางวันมีปืนแบบนี้มาชนกันพร้อมกันๆ 4-5 ช่อง ยิง กระสุนมีแต่ของนอกนัดละ 25-35 บาท ก้ยิงกันหน้าตาเฉยยิงบ่อยซื้อบ่อยซะด้วย

ปืนขนาด .380 (และปืนพกซ่อนขนาดอื่นด้วย) ยิงจริงๆ น้อยกว่าพวก .38 สเปฯ หรือ 9 พาราฯ มาก  จะบอกว่าส่วนใหญ่ซื้อไว้ดูเล่นก็อาจแสลงหูบางท่าน
ที่ยิงน้อยส่วนหนึ่งเป็นเพราะยิงแล้วไม่สนุก  คือกลุ่มสู้พวกลูกโม่ หรือออโตฯ ตัวใหญ่หน่อยไม่ได้  และยิงไม่ทันจะหมดกล่องก็เจ็บง่ามมือครับ (เจ็บกระเป๋าด้วย)
เมื่อยิงน้อย กระสุนก็ขายไม่ค่อยออก  ก็เลยแพงยิ่งๆ ขึ้นไป

ลองเทียบกับกระสุนลูกโม่ .32 ครับ  เข้าข่ายเดียวกันหรือเปล่า

ปืนขนาดนี้...ไม่ใช่ปืนที่เอามาซ้อมยิงประจํา....

สนามสั่งกระสุนมาก็ค้างขายออกได้ช้า..นานๆเข้าก็เลิกสั่ง...

สั่งขนาดมาตรฐานดีกว่า....ขายคล่อง

.พอหาได้อยู่หรอกน่า.. เมื่อวาน สอบถามร้านปืนย่านวังบูรพา ของ บุลเล็ต หัว FMJ กล่องล่ะ2200 บ.  ( ร้าน วิทยาพร )

ลูกซ้อมก็พอหาได้ครับช่วงนี้  ของ Bullet Master สัปดาห์ก่อน
ผมซื้อกล่องละ 950 บาทครับ (ร้านริมคลอง)

เห็นตามสนามยิงปืนในกรุงเทพฯ....มีพอสมควร...และราคาก็ไม่แพงแบบบ้าดีเดือดด้วยครับ...

จริงครับ แค่พันต้นๆเอง ถูกกว่า 9mm.หัวรูซะอีก