เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:17:44 PM



หัวข้อ: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:17:44 PM
ถัาร.ร อาชีวโรงเรียนแห่งหนึ่งให้นักเรียน อายุ17ปี ทำงานตั้งแต่22.00น-07.00นจะผิดกฏหมายไหมครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:21:49 PM
ถัาร.ร อาชีวโรงเรียนแห่งหนึ่งให้นักเรียน อายุ17ปี ทำงานตั้งแต่22.00น-07.00นจะผิดกฏหมายไหมครับ

งานอะไรหรอครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:25:29 PM
เขาให้เด็กฝึกงานตรับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:31:43 PM
เขาให้เด็กฝึกงานตรับ
ถ้ามี รายละเอียดมากว่านี้ น่าจะดี นะครับ ::014::
เช่น ทำอะไร  ยังไง ที่ไหน เป็นต้น  ครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:41:04 PM
หวังว่าคงจะไม่ใช่ เซเว่น นะครับ  เพราะ เซเว่น เข้าร่วมกับ  อาชีวะศึกษา  ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:43:45 PM
เป็นโรงเรียน สดวกซื้อครับ ให้เด็กทำงานในร้านสดวกซื้อ เขาบอกมาว่าถ้าไม่ทำจะไม่ผ่านหลักสูตร คีอไม่จบครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:45:06 PM
หวังว่าคงจะไม่ใช่ เซเว่น นะครับ  เพราะ เซเว่น เข้าร่วมกับ  อาชีวะศึกษา  ::014::
ใช่ครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SSG 69 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:47:21 PM
งานเกี่ยวกับการเรียนรึเปล่าครับ.เช่น รายงาน ,ชิ้นงาน ฯลฯ หรือ ทำงานหารายได้เลี้ยงตัวเอง...ช่วยครอบครัว....มันมองได้หลายมุมครับ...ถ้าอะไรนิดก็จะเอากฏหมายมาคุยกัน...คงไม่ต้องทำอะไรกันพอดี.


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:49:17 PM
เป็นโรงเรียน สดวกซื้อครับ ให้เด็กทำงานในร้านสดวกซื้อ เขาบอกมาว่าถ้าไม่ทำจะไม่ผ่านหลักสูตร คีอไม่จบครับ
ถ้าผิด คงจะโดน ทั่วประเทศครับ  เพราะ เซเว่น เข้าร่วมโครงการ กับ วิทยาลัยอาชีวะศึกษา ลองไปดูป้าย
หน้าเซเว่น ที่ท่านคิดว่าผิดดูซิครับ  เค้าจะมีป้าย บอก   และผมคิดว่า เซเว่น สาขานั้นคงจะอยู่ใกล้โรงเรียน ครับ
ส่วนคำถามว่า ผิด หรือไม่ ผมไม่ทราบ ครับ ต้องรอ ท่านผู้รู้อื่น ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:51:30 PM
ลองดูตรงนี้ ซิครับ  ::014::
http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=32647 (http://www.positioningmag.com/magazine/details.aspx?id=32647)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:53:58 PM
http://www.scc.ac.th/course_retail.asp (http://www.scc.ac.th/course_retail.asp)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:55:58 PM
นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033 (http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 21, 2010, 11:58:45 PM
หลังจากได้ส่งเด็กไปเรียนแล้ว จึงได้รู้ทีหลังว่า มีหลายอย่างที่เราไม่รู้ เช่นศูนย์การศึกษา(สาขาย่อย)รับรองภายใต้ม.ต.41หรือ42จำไม่ได้แล้ว แต่เป็นการให้การศึกษาสำหรับลูกจ้างครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 12:15:42 AM
ถ้าเป็นเรื่องที่ดีเราก็ควร สนับสนุนไม่ใช่หรือครับ
ผมเองกลับมองว่า ปล่อยให้เด็ก ได้ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองบ้างก็ดี ครับ เมื่อเรียนจบแล้ว เค้าก็พร้อมที่จะสร้างรายได้ สร้างฐานะ
ของเค้าเองได้  ไม่ใช่ เอะอะ ก็หวังแต่ของพ่อแม่ หวังแต่ ทรัพท์สมบัติ มรดก
อย่างน้อยเค้าจะได้รู้ว่าพ่อแม่ ทำงานหาเงินให้เค้าใช้นั้นเหนื่อย อย่างไร   อย่างน้อยเค้าจะได้ สำนึกถึงคำว่า "เลือดตาแทบกระเด็น " เป็นอย่างไร
 การไป ทำเป็นงานพาสทาม ไม่ว่า  เซเว่น หรือ สเวนเซ่น หรืออะไรก็ตาม  มันเป็นก้าวแรกในการ หาเลี้ยงตัวเอง

  ในมุมมองของผม นะครับ
สมัยนี้พ่อแม่ ผิดพลาดอยู่อย่างหนึ่ง ครับก็คือ โอ๋ลูกเกินไป    ไม่อยากให้ลูกทำงานหนักๆ อยากให้ลูกทำงานสบาย ซึ่งจริงๆ ผมเองก็หวังเช่นนั้น ผมก็มีลูกสาว
เหมือนกัน   ข้อผิดพลาดนี้ จากการที่เราหวังดี กลับส่งผลร้ายในภายภาคหน้า  เพราะลูกจะคิดว่า ยังไงๆ เค้าก็จะมีพ่อแม่คอยพึ่งพาเค้าตลอดชีวิต   
              มุมมองนี้ ชีวิตจริงเลย นะครับ  ::004::   
         


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 12:21:20 AM
นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033 (http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033)
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 12:24:30 AM
นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033 (http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033)
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  

 :OO :OO  เรียกน้องก็พอ ครับ  :~)  ผม ยังวัยรุ่นอยู่ ครับ   :~) :~)                       ;D                     ::014::



หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 12:40:58 AM
ถ้าเป็นเรื่องที่ดีเราก็ควร สนับสนุนไม่ใช่หรือครับ
ผมเองกลับมองว่า ปล่อยให้เด็ก ได้ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองบ้างก็ดี ครับ เมื่อเรียนจบแล้ว เค้าก็พร้อมที่จะสร้างรายได้ สร้างฐานะ
ของเค้าเองได้  ไม่ใช่ เอะอะ ก็หวังแต่ของพ่อแม่ หวังแต่ ทรัพท์สมบัติ มรดก
อย่างน้อยเค้าจะได้รู้ว่าพ่อแม่ ทำงานหาเงินให้เค้าใช้นั้นเหนื่อย อย่างไร   อย่างน้อยเค้าจะได้ สำนึกถึงคำว่า "เลือดตาแทบกระเด็น " เป็นอย่างไร
 การไป ทำเป็นงานพาสทาม ไม่ว่า  เซเว่น หรือ สเวนเซ่น หรืออะไรก็ตาม  มันเป็นก้าวแรกในการ หาเลี้ยงตัวเอง

  ในมุมมองของผม นะครับ
สมัยนี้พ่อแม่ ผิดพลาดอยู่อย่างหนึ่ง ครับก็คือ โอ๋ลูกเกินไป    ไม่อยากให้ลูกทำงานหนักๆ อยากให้ลูกทำงานสบาย ซึ่งจริงๆ ผมเองก็หวังเช่นนั้น ผมก็มีลูกสาว
เหมือนกัน   ข้อผิดพลาดนี้ จากการที่เราหวังดี กลับส่งผลร้ายในภายภาคหน้า  เพราะลูกจะคิดว่า ยังไงๆ เค้าก็จะมีพ่อแม่คอยพึ่งพาเค้าตลอดชีวิต   
              มุมมองนี้ ชีวิตจริงเลย นะครับ  ::004::   
         

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ  แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินครับ เพียงแต่อยากให้เด็กเรียนจบอย่างคนทำงานเป็น แต่ไม่เป็นอย่างทีคิดครับ  เขาใช่เด็กเราทำงานเป็น3กระ กระเช้ารับไดัครับ กระบ่ายทำถึง4ทุ่มก็รับได้ครับ แต่ให้เด็กทำงาน4ทุ่ม-7.00น ผมเป็นห่วงเด็กว่าต้องออกจากบ้านไปทำงานในเวลาดึกจไม่ปลอดภัย จึงสอบถามไป เขาบอกว่าไม่ทำเด็กจะไม่ผ่าน เด็ก ปวช ปี2 อายุ17ปี เด็กบอกว่ามาเรียนแล้วไม่เป็นไรลูกทำได้  ผมน้ำตาไหลเลยครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 01:21:58 AM
นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033 (http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033)
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  

 :OO :OO  เรียกน้องก็พอ ครับ  :~)  ผม ยังวัยรุ่นอยู่ ครับ   :~) :~)                       ;D                     ::014::


ขอโทษครับไม่เห็นหน้าเรียกอาไว้ก่อนครับ ผนเลยหลักสี่จะถึงดอนเมืองอยู๋แล้ว ที่บอกมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับร.ร เขาหลอกครับ เพียงแต่เสียใจที่วางทางเลือกให้ลูกผิดไป  ลูกเป็นเด็กเรียนดีได้3กว่าตลอดจนจบม3 ผมเห็นว่าเรามีกิจการของเราเอง จึงบอกเด็กว่าให้เรียนที่นี่ด้วยเหตุผลว่า การเรียนทื่นื่ต้องง่ายกว่า และจะให้ลงรามไปด้วย ปวชไม่เป็นปัญหาได้4ตลอดรามก็สอบผ่าน ผมให้รับผิดชอบการเรียนและการทำงานด้วยตัวเองตลอด เด็กทำงานมา1ปี6เดือนไม่สายไม่ลาไม่ป่วย ผมถามไปว่าเด็กไม่ทำกลางคืนถึงเชาไม่ได้หรือ ได้คำตอบว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาที่จะเรียนที่นี่ ฟังแล้วคิดถึงเวลา2ปีของลูก+กับลูกเคยพูดกับผมว่า ทำไมหนูตัองมาเรียนที่นี่ด้วย เพื่อนหนูเรียนเตียม หนูก็มีความสามาถรเรียนได้แต่ หนูเชื่อพ่อน๊ะ ผมคงเสียใจไปตลอดกับการตัดสินใจครังนี้  ขอโทษลูกจริงๆ  ขอบคูณทุกท่านที่ให้ผมได้ระบายความทุกใจของผม  ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 08:27:58 AM
ลูกมีความสามารถน่าจะให้ลูกต่อสายสามัญนะ  มีกิจการของตัวเองเรียนบริหารก็ได้ครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 09:13:26 AM
ร้านสะดวกซื้อฯ ใช้งานพนักงาน โหดกว่าที่ใคร ๆ คิด  กว่าจะฝ่าฟันขึ้นไปถึงระดับสูงได้

ถ้าไม่เข้าไปสำผัส เพียงมองผ่านผิวเผิน จะมองไม่ออกเลย

คนใกล้ชิดผม เคยไปทำงานอยู่ครึ่งปี ทั้งที่เขาเป็นประเภท สู้งานมาก ๆ

เขายังบอก มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน ถ้าไม่สิ้นไร้งานจริง ๆ แล้ว อย่าไปทำ....


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 09:21:29 AM
ร้านสะดวกซื้อฯ ใช้งานพนักงาน โหดกว่าที่ใคร ๆ คิด  กว่าจะฝ่าฟันขึ้นไปถึงระดับสูงได้

ถ้าไม่เข้าไปสำผัส เพียงมองผ่านผิวเผิน จะมองไม่ออกเลย

คนใกล้ชิดผม เคยไปทำงานอยู่ครึ่งปี ทั้งที่เขาเป็นประเภท สู้งานมาก ๆ

เขายังบอก มีลูกสอนลูก มีหลานสอนหลาน ถ้าไม่สิ้นไร้งานจริง ๆ แล้ว อย่าไปทำ....

จริงแท้แน่นอน ครับ เพื่อนผม(เด็กเก่า) ทำเซเว่น อยู่ 2 ปี สภาพ ดูไม่ได้เลย ครับ
เปลี่ยนกะ ทุกอาทิตย์  อาทิตย์ นี้ อยู่ กลางวัน อีกอาทิตย์อยู่กลางคืน ปรับตัวไม่ทัน 
งานเซเว่น ถ้าไม่มีงานทำจริงๆเน้น ไม่มีงานทำจริงๆ หลีกได้หลีก ครับ  ::014::   :~) :~) :~)

สวัสดีตอนเช้า ครับ ;D ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 09:24:43 AM
ถ้าเป็นเรื่องที่ดีเราก็ควร สนับสนุนไม่ใช่หรือครับ
ผมเองกลับมองว่า ปล่อยให้เด็ก ได้ทำงานด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเองบ้างก็ดี ครับ เมื่อเรียนจบแล้ว เค้าก็พร้อมที่จะสร้างรายได้ สร้างฐานะ
ของเค้าเองได้  ไม่ใช่ เอะอะ ก็หวังแต่ของพ่อแม่ หวังแต่ ทรัพท์สมบัติ มรดก
อย่างน้อยเค้าจะได้รู้ว่าพ่อแม่ ทำงานหาเงินให้เค้าใช้นั้นเหนื่อย อย่างไร   อย่างน้อยเค้าจะได้ สำนึกถึงคำว่า "เลือดตาแทบกระเด็น " เป็นอย่างไร
 การไป ทำเป็นงานพาสทาม ไม่ว่า  เซเว่น หรือ สเวนเซ่น หรืออะไรก็ตาม  มันเป็นก้าวแรกในการ หาเลี้ยงตัวเอง

  ในมุมมองของผม นะครับ
สมัยนี้พ่อแม่ ผิดพลาดอยู่อย่างหนึ่ง ครับก็คือ โอ๋ลูกเกินไป    ไม่อยากให้ลูกทำงานหนักๆ อยากให้ลูกทำงานสบาย ซึ่งจริงๆ ผมเองก็หวังเช่นนั้น ผมก็มีลูกสาว
เหมือนกัน   ข้อผิดพลาดนี้ จากการที่เราหวังดี กลับส่งผลร้ายในภายภาคหน้า  เพราะลูกจะคิดว่า ยังไงๆ เค้าก็จะมีพ่อแม่คอยพึ่งพาเค้าตลอดชีวิต   
              มุมมองนี้ ชีวิตจริงเลย นะครับ  ::004::   
         

ผมก็คิดอย่างนั้นเหมือนกันครับ  แต่ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินครับ เพียงแต่อยากให้เด็กเรียนจบอย่างคนทำงานเป็น แต่ไม่เป็นอย่างทีคิดครับ  เขาใช่เด็กเราทำงานเป็น3กระ กระเช้ารับไดัครับ กระบ่ายทำถึง4ทุ่มก็รับได้ครับ แต่ให้เด็กทำงาน4ทุ่ม-7.00น ผมเป็นห่วงเด็กว่าต้องออกจากบ้านไปทำงานในเวลาดึกจไม่ปลอดภัย จึงสอบถามไป เขาบอกว่าไม่ทำเด็กจะไม่ผ่าน เด็ก ปวช ปี2 อายุ17ปี เด็กบอกว่ามาเรียนแล้วไม่เป็นไรลูกทำได้  ผมน้ำตาไหลเลยครับ
อืม... จริงด้วย ซิครับ  ถ้าลูกผู้หญิง นี้ก็น่ากลัว มากๆ  :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 09:28:57 AM
การฝึกฝนให้เด็กรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ รู้ทันโลก รู้ทันเรื่องแรงงาน การที่เด็กได้ลงมือทำงานด้วยตนเองก็เป็นวิธีการที่ได้ผลค่อนข้างสูงครับ
อีกไม่กี่ปีไทยมีพันธะต้องเปิดเสรีในการค้าระหว่างกันใน Asian ตอนนี้คนไทย นักธุรกิจไทย โรงเรียน วิทยาลัยแล้วก็มหาวิทยาลัยมีการปรับการเรียนการสอนให้ทันโลกบ้างไหมหนอ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 09:30:04 AM

ขอโทษครับไม่เห็นหน้าเรียกอาไว้ก่อนครับ ผนเลยหลักสี่จะถึงดอนเมืองอยู๋แล้ว ที่บอกมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับร.ร เขาหลอกครับ เพียงแต่เสียใจที่วางทางเลือกให้ลูกผิดไป  ลูกเป็นเด็กเรียนดีได้3กว่าตลอดจนจบม3 ผมเห็นว่าเรามีกิจการของเราเอง จึงบอกเด็กว่าให้เรียนที่นี่ด้วยเหตุผลว่า การเรียนทื่นื่ต้องง่ายกว่า และจะให้ลงรามไปด้วย ปวชไม่เป็นปัญหาได้4ตลอดรามก็สอบผ่าน ผมให้รับผิดชอบการเรียนและการทำงานด้วยตัวเองตลอด เด็กทำงานมา1ปี6เดือนไม่สายไม่ลาไม่ป่วย ผมถามไปว่าเด็กไม่ทำกลางคืนถึงเชาไม่ได้หรือ ได้คำตอบว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาที่จะเรียนที่นี่ ฟังแล้วคิดถึงเวลา2ปีของลูก+กับลูกเคยพูดกับผมว่า ทำไมหนูตัองมาเรียนที่นี่ด้วย เพื่อนหนูเรียนเตียม หนูก็มีความสามาถรเรียนได้แต่ หนูเชื่อพ่อน๊ะ ผมคงเสียใจไปตลอดกับการตัดสินใจครังนี้  ขอโทษลูกจริงๆ  ขอบคูณทุกท่านที่ให้ผมได้ระบายความทุกใจของผม  ขอบคุณครับ

สบายใจเถอะครับ  คนแถวนี้ ใจดี ทั้งนั้น มีอะไร ก็บอกกล่าวกัน  ทุกความเห็น คือ 1 ความคิดครับ  ::002::
มีเพื่อน 1000 คน พลัดแจกเงิน คนละบาท  ผลสุดท้ายกลับบ้านก็เหลือ เงิน 1 บาท
มีเพื่อน1000 คนพลัดแลกเปลี่ยนคนละ1 ความคิด กลับบ้าน ได้ 999 ความคิด  ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 11:08:22 AM
การฝึกฝนให้เด็กรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ รู้ทันโลก รู้ทันเรื่องแรงงาน การที่เด็กได้ลงมือทำงานด้วยตนเองก็เป็นวิธีการที่ได้ผลค่อนข้างสูงครับ
อีกไม่กี่ปีไทยมีพันธะต้องเปิดเสรีในการค้าระหว่างกันใน Asian ตอนนี้คนไทย นักธุรกิจไทย โรงเรียน วิทยาลัยแล้วก็มหาวิทยาลัยมีการปรับการเรียนการสอนให้ทันโลกบ้างไหมหนอ
ใช่ครับ ผมไปเทียวสิงค์โป ได้ไปคุยกับเด็กที่นั้น ผนถามภเษาจีนเด็กตอบจีน แม่บ้านถามภาษาอังกฤษเด็กตอบพาษาอังกฤษ ทำให้ผมสนใจการศึกษาสิงค์โป ได้สอบถามจึงได้รู้ว่าเขาเน้นเด็กมีความรู้และทำงานได้ด้วย พอกลับมาเมืองไทยผมก็มาดูการศึกษาของเรา ลูกผมเรียนดีสอบเข้าโรงเรียนอันดับต้นๆของเราได้ทั้งสองคน แต่ผมรู้ศึกว่าเด็กเรามุ่งแต่เรียนและสอบแข่งกันมากกว่า การมีความสามารถในการมีความรู้ในการทำงาน กว่าจะจบ แล้วมาฝึกงานสามารถทำงานได้ใช้เวลาอีกหลายปี และได้เห็นหลักสูตรของเขาจึงคิดว่าถ้าเรียนแบบนี้ ปวชเด็กจะเรียนอย่างสบายๆ และใช้ความสามารถที่มีอยู่เรียนม.รามไปด้วย คุยกับลูกว่าระหว่างที่เรียนปีแรกให้ลูกไปดูว่าเวลาเรียนเป็นอย่างไร แล้วปี2หนูลงม.ราม เราตั้งเป้าว่าลงรามสองปีครึง เก็บหมดจะจบ ปวช3ปี และอีก7เดือนก็จบราม จะลัดได้สองปีกว่า หนูจะได้ประสบการทำงานมา3ปี+ป.ตรี อายุ18ปีครึ่ง แล้วจะส่งไปทำงานกับญาติในต่างประเทศ 2 ปีกลับมาหนูจะมีป.ตรี+ประสบการทำงาน5ปี พร้อมเพื่อนที่จบป.ตรีแต่ยังไม่เคยทำงานเลย แต่ลูกจะไม่มีชีวิตเด็กมหาลัยเลย เพราะจะต้องรับผิดชอบตัวเองอย่างมาก ลูกบอกว่า หนูทำได้ ผมจึงให้มาอยู่ในกรุงเทพ โดยอยู่ด้วยตัวเอง ตื่นเอง ซักผ้าเอง ไปเรียนเอง โดยบอกลูกว่า ต้องฝึกไว้เวลาไปต่างประเทศ หนูต้องช่วยตัวเอง ลองทำดูมีปัญหาอะไรจะได้แก้ก่อน หนึ่งปีผ่านไปได้ตามแผน. จนเมื่อเข้าปีสองเด็กทำแผนการเรียนว่า อีก1ปีข้างหน้า จะเรียนปวชอย่างไร สอบรามวันไหน เพื่อจะจัดการให้สอดคล้องกับการทำงาน แล้วไปบอกผู้จัดการว่า หนูจะมีวันสอบวันไหนบ้าง. จะขอเลือนเวลาทำงานไม่ตรงวันสอบ(เลือนไม่ได้หยุด) ผู้จัดการให้เด็กทำเข้าทำงาน4ทุ่มออก7โมงเช้า แล้วไปสอบตอน9โมง เด็กก็ไม่ไดว่าอะไร แต่บนมาว่าไม่รู้ว่าจะสอบรู้เรืองหรือปล่าว ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่. กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นด้วยความเสียใจของพ่อและลูกที่พยามทำการบ้านอย่างดีที่สุดแล้ว (ปล ลูกคนสาวเล็กผมส่งไปเรียนไฮสกูลทื่ประ อินเดียแล้วอายุ14ปี บินไปกลับเองได้แล้ว)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RTCO ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 02:17:44 PM
นี้ ชัดเจน เลย ครับ
http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033 (http://www.7eleven.co.th/corp/news_all.php?id=00000033)
อันนี้เขาอยากให้รู้ครับ  คุณอาลองถามเด็กทวิภาคีในร้านดูจะรู้ครับ  

 :OO :OO  เรียกน้องก็พอ ครับ  :~)  ผม ยังวัยรุ่นอยู่ ครับ   :~) :~)                       ;D                     ::014::




ขอโทษครับไม่เห็นหน้าเรียกอาไว้ก่อนครับ ผนเลยหลักสี่จะถึงดอนเมืองอยู๋แล้ว ที่บอกมาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับร.ร เขาหลอกครับ เพียงแต่เสียใจที่วางทางเลือกให้ลูกผิดไป  ลูกเป็นเด็กเรียนดีได้3กว่าตลอดจนจบม3 ผมเห็นว่าเรามีกิจการของเราเอง จึงบอกเด็กว่าให้เรียนที่นี่ด้วยเหตุผลว่า การเรียนทื่นื่ต้องง่ายกว่า และจะให้ลงรามไปด้วย ปวชไม่เป็นปัญหาได้4ตลอดรามก็สอบผ่าน ผมให้รับผิดชอบการเรียนและการทำงานด้วยตัวเองตลอด เด็กทำงานมา1ปี6เดือนไม่สายไม่ลาไม่ป่วย ผมถามไปว่าเด็กไม่ทำกลางคืนถึงเชาไม่ได้หรือ ได้คำตอบว่าถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาที่จะเรียนที่นี่ ฟังแล้วคิดถึงเวลา2ปีของลูก+กับลูกเคยพูดกับผมว่า ทำไมหนูตัองมาเรียนที่นี่ด้วย เพื่อนหนูเรียนเตียม หนูก็มีความสามาถรเรียนได้แต่ หนูเชื่อพ่อน๊ะ ผมคงเสียใจไปตลอดกับการตัดสินใจครังนี้  ขอโทษลูกจริงๆ  ขอบคูณทุกท่านที่ให้ผมได้ระบายความทุกใจของผม  ขอบคุณครับ


ผมก็เป็นคนหนึ่ง ที่พ่อเป็นผู้วางเส้นทางชีวิตไว้ให้อย่างที่พ่ออยากเห็น

จนวันหนึ่งผมแหกคอกเสียเวลาไปสองปี แต่ก็เป็นพ่อที่ให้โอกาสผมอีกครั้ง

ผมจึงสัญญากับตัวเองว่า ผมจะไม่บังคับให้ลูกเป็นอย่างที่ผมอยากให้เป็น

แต่จะคอยส่งเสริมในสิ่งที่เค้าชอบและอยากจะเป็น

เพราะพ่อแม่ไม่นานก็ตายสุดท้ายลูกก็คือคนที่จะต้องอยู่กับสิ่งที่เค้าเลือกไปทั้งชีวิต


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 02:47:25 PM

......

 ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่.

.......


รู้แล้วหรือยังครับ ว่า ยักษ์ใหญ่อย่างซีพี มองผู้บริโภคอย่างไร

เขาไม่สนหรอก ว่า ใครจะเป็นยังไง


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 03:07:23 PM
การฝึกฝนให้เด็กรู้จักหน้าที่ รู้จักความรับผิดชอบ รู้ทันโลก รู้ทันเรื่องแรงงาน การที่เด็กได้ลงมือทำงานด้วยตนเองก็เป็นวิธีการที่ได้ผลค่อนข้างสูงครับ
อีกไม่กี่ปีไทยมีพันธะต้องเปิดเสรีในการค้าระหว่างกันใน Asian ตอนนี้คนไทย นักธุรกิจไทย โรงเรียน วิทยาลัยแล้วก็มหาวิทยาลัยมีการปรับการเรียนการสอนให้ทันโลกบ้างไหมหนอ
ใช่ครับ ผมไปเทียวสิงค์โป ได้ไปคุยกับเด็กที่นั้น ผนถามภเษาจีนเด็กตอบจีน แม่บ้านถามภาษาอังกฤษเด็กตอบพาษาอังกฤษ ทำให้ผมสนใจการศึกษาสิงค์โป ได้สอบถามจึงได้รู้ว่าเขาเน้นเด็กมีความรู้และทำงานได้ด้วย พอกลับมาเมืองไทยผมก็มาดูการศึกษาของเรา ลูกผมเรียนดีสอบเข้าโรงเรียนอันดับต้นๆของเราได้ทั้งสองคน แต่ผมรู้ศึกว่าเด็กเรามุ่งแต่เรียนและสอบแข่งกันมากกว่า การมีความสามารถในการมีความรู้ในการทำงาน กว่าจะจบ แล้วมาฝึกงานสามารถทำงานได้ใช้เวลาอีกหลายปี และได้เห็นหลักสูตรของเขาจึงคิดว่าถ้าเรียนแบบนี้ ปวชเด็กจะเรียนอย่างสบายๆ และใช้ความสามารถที่มีอยู่เรียนม.รามไปด้วย คุยกับลูกว่าระหว่างที่เรียนปีแรกให้ลูกไปดูว่าเวลาเรียนเป็นอย่างไร แล้วปี2หนูลงม.ราม เราตั้งเป้าว่าลงรามสองปีครึง เก็บหมดจะจบ ปวช3ปี และอีก7เดือนก็จบราม จะลัดได้สองปีกว่า หนูจะได้ประสบการทำงานมา3ปี+ป.ตรี อายุ18ปีครึ่ง แล้วจะส่งไปทำงานกับญาติในต่างประเทศ 2 ปีกลับมาหนูจะมีป.ตรี+ประสบการทำงาน5ปี พร้อมเพื่อนที่จบป.ตรีแต่ยังไม่เคยทำงานเลย แต่ลูกจะไม่มีชีวิตเด็กมหาลัยเลย เพราะจะต้องรับผิดชอบตัวเองอย่างมาก ลูกบอกว่า หนูทำได้ ผมจึงให้มาอยู่ในกรุงเทพ โดยอยู่ด้วยตัวเอง ตื่นเอง ซักผ้าเอง ไปเรียนเอง โดยบอกลูกว่า ต้องฝึกไว้เวลาไปต่างประเทศ หนูต้องช่วยตัวเอง ลองทำดูมีปัญหาอะไรจะได้แก้ก่อน หนึ่งปีผ่านไปได้ตามแผน. จนเมื่อเข้าปีสองเด็กทำแผนการเรียนว่า อีก1ปีข้างหน้า จะเรียนปวชอย่างไร สอบรามวันไหน เพื่อจะจัดการให้สอดคล้องกับการทำงาน แล้วไปบอกผู้จัดการว่า หนูจะมีวันสอบวันไหนบ้าง. จะขอเลือนเวลาทำงานไม่ตรงวันสอบ(เลือนไม่ได้หยุด) ผู้จัดการให้เด็กทำเข้าทำงาน4ทุ่มออก7โมงเช้า แล้วไปสอบตอน9โมง เด็กก็ไม่ไดว่าอะไร แต่บนมาว่าไม่รู้ว่าจะสอบรู้เรืองหรือปล่าว ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่. กระทู้นี้จึงเกิดขึ้นด้วยความเสียใจของพ่อและลูกที่พยามทำการบ้านอย่างดีที่สุดแล้ว (ปล ลูกคนสาวเล็กผมส่งไปเรียนไฮสกูลทื่ประ อินเดียแล้วอายุ14ปี บินไปกลับเองได้แล้ว)

บ้านเราแข่งกันเรียนจะเป็นจะตาย จันทร์ถึงศุกร์ไปโรงเรียนปกติ เลิกจากปกติก็ไปติว เสาร์อาทิตย์ก็ไม่เว้น เด็กๆเลยได้ใส่แว่นสายตาสั้นตั้งแต่ชั้นประถม บ้านเรามันวัดกันที่สอบเข้ามหาลัยดังได้หรือไม่ ถ้าได้พ่อแม่ก็หน้าบานแต่ไม่รู้ว่าจบมาจะมีคุณภาพหรือเอาตัวรอดทางสังคมหรือไม่ ไม่ค่อยได้ฝึกเด็กให้หางานทำ

ส่วนตัวผมไม่ได้ตั้งเป้าว่าลูกจะต้องสอบเข้ามหาลัยดังๆได้ จะขอเล่าสู่กันฟัง ลูกน้องที่ทำงานจบจากมหาลัยชั้นแนวหน้าทั้งนั้น ความรู้ความสามารถเหลือหลายแต่เชื่อหรือไม่ครับ แต่ละคนไม่กล้าที่จะสู้หน้าคนต่างชาติ การทำมาค้าขายเราจำเป็นที่จะต้องติดต่อเจรจากับคู่ค้าต่างชาติบ่อยๆแต่เหลือเชื่อครับ ปริญญาไม่ได้ช่วยให้คนเหล่านี้มีความกล้าหาญเลยแม้แต่น้อย


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 07:43:15 PM

......

 ผมรู้จึงไปที่โรงเรียนถามว่าเด็กต้องสอบให้ทำแต่กลางวันได้ไหม ได้คำตอบว่าไม่มีนโยบายให้เด็กเรียนแบบนี้ เน้นทำงานถ้าทำไม่ได้ก็ไม่เหมาะที่จะเรียนที่นี่.

.......


รู้แล้วหรือยังครับ ว่า ยักษ์ใหญ่อย่างซีพี มองผู้บริโภคอย่างไร

เขาไม่สนหรอก ว่า ใครจะเป็นยังไง
ไม่ต้องผู้บริโภค หรือครับ  แค่ ร้านเซเว่น ก็พอ   บางครั้งที่ผมเห็น เปิดเยื้องๆกัน เท่านี้คนซื้อ แฟนชายก็ จุกแล้ว ครับ
แย่ง ลูกค้ากันเอง    เซเว่นแพงกว่า ร้านโชว์ห่วยก็จริง แต่ ....  มีแอร์   มีคน สวัสดีค่ะ  สวัสดีครับ     รับขนมจีบซาลาเปาเพิ่ม มั้ย ค่ะ  :VOV:
ฟังแล้ว ระรื่นหู  ไม่เหมือน ข้าง บ้านผม    เฮ้ย มึรงเอาไร ว่ะ   อยู่ ตรงโน้น มึรงหยิบเอง  กรูจะดูบอล     ไม่ระรื่นหูเลย ครับ  :~) :~) ::005::

  ถ้าซีพี ใจถึงจริง ให้เปิดได้  1 สาขา ต่อ  1 รัศมี 1 ก.ม ซิครับ  จะรวยทั้งซีพีแล้ว  เจ้าของร้าน เซเว่น สาขานั้น   


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 08:25:29 PM
 ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจำเลยในกรณีนี้จะเป็นใครดีเพราะผมก็ทราบข้อมูลไม่ตลอดเลยกลัวว่าอาจจะด่าจำเลยผิดตัว

 เอาเท่าที่ผมทราบร้าน 7-11 นั้นเป็นร้านสะดวกซื้อระบบแฟรนไชส์ที่ใครอยากมีก็มีได้โดยกำเงินไปบอกซีพีว่าอยากเปิดเซเว่นพอได้แล้วซีพีก็มาออกแบบร้าน
ชั้นวางของเอาของมาวางฝึกอบรมพนักงานให้ แต่ที่ผมไม่ทราบคือระบบการบริหารจัดการพนักงาน การจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ นั้นทำโดยเจ้าของคนซื้อแฟรนไชส์หรือยังคงบริหารโดยซีพี

 และพนักงานนั้นมีแบ่งเป็นพนักงานประจำ คือคนที่ทำร้านเซเว่นเป็นงานหลัก กับ นักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ ซึ้งต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน พนักงานประจำนั้นก็ว่ากันไปว่าแบ่งเป็นกะและหมุนเวียนกันกะละแปดชั่วโมงหรืออะไรก็แล้วแต่
 แต่ส่วนนักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่มาทำงานหาหารายได้พิเศษจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและไม่เป็นกะและไม่ควรทำงานติดต่อกันเกินสี่ชั่วโมง
อาจจะเช้าหรือบ่ายช่วงที่ไม่มีเรียนเพราะยังมีภาระหลักคือการเรียนไม่ใช่ใช้แรงงานยังกะเขาเป็นพนักงานประจำ และอาจจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง

  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสงสัยคือเจ้าของหรือซีพีกันแน่ที่ทำแบบนี้ ซึ่งซีพีเป็นบริษัทใหญ่การทำอะไรที่ละเมิดกฏหมายแรงงานนั้นไม่น่าจะกล้ากระทำ ซึ่งผมอยากเพ่งเล็ง
ไปที่ผู้บริหารโรงเรียนนี้หรือเจ้าของร้านนี้ว่า เอาเปรียบเด็กหรือเปล่า ต้องการประหยัดค่าจ้างของพนักงานประจำแล้วเอาการเรียนของเด็กมาเป็นตัวประกันบังคับให้เด็กทำงานให้ร้านค้าของตัวเองหรือของโรงเรียนหรือเปล่า

  จริงๆวัฒธรรมให้นักศึกษาไปหารายได้พิเศษจาก ร้านค้า ห้างร้าน นั้นเมืองนอกทำมานานแล้วและความต้องการตรงกันทุกฝ่ายคือ
เด็กมีรายได้เพราะเด็กฝรั่งชอบออกจากบ้านมาอยู่หาทุนช่วยตัวเองเรียนเองและระบบสังคมเอื้ออำนวยเด็กจึงหางานทำได้
และร้านค้ามีคนทำงานและเขารู้ดีว่าเด็กมาทำเพื่อส่งตัวเองเรียนไม่ใช่มาขายแรงงาน ชั่วโมงทำงานจึงไม่มากเช่น สามหรือสี่ชั่วโมงในแต่
ละวันก็พอแล้ว ร้านก็ไม่มีปัญหาหรอกเพราะเด็กมีเยอะ
 ถ้าร้านไหนทำกับเด็กแบบนี้ผมอยากประณามว่าชั่วช้าเอาเปรียบเด็กถ้าเป็นลูกผมๆได้เฉ่งกะ ผอ. แน่ๆ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 22, 2010, 10:25:38 PM
ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจำเลยในกรณีนี้จะเป็นใครดีเพราะผมก็ทราบข้อมูลไม่ตลอดเลยกลัวว่าอาจจะด่าจำเลยผิดตัว

 เอาเท่าที่ผมทราบร้าน 7-11 นั้นเป็นร้านสะดวกซื้อระบบแฟรนไชส์ที่ใครอยากมีก็มีได้โดยกำเงินไปบอกซีพีว่าอยากเปิดเซเว่นพอได้แล้วซีพีก็มาออกแบบร้าน
ชั้นวางของเอาของมาวางฝึกอบรมพนักงานให้ แต่ที่ผมไม่ทราบคือระบบการบริหารจัดการพนักงาน การจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ นั้นทำโดยเจ้าของคนซื้อแฟรนไชส์หรือยังคงบริหารโดยซีพี

 และพนักงานนั้นมีแบ่งเป็นพนักงานประจำ คือคนที่ทำร้านเซเว่นเป็นงานหลัก กับ นักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ ซึ้งต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน พนักงานประจำนั้นก็ว่ากันไปว่าแบ่งเป็นกะและหมุนเวียนกันกะละแปดชั่วโมงหรืออะไรก็แล้วแต่
 แต่ส่วนนักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่มาทำงานหาหารายได้พิเศษจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและไม่เป็นกะและไม่ควรทำงานติดต่อกันเกินสี่ชั่วโมง
อาจจะเช้าหรือบ่ายช่วงที่ไม่มีเรียนเพราะยังมีภาระหลักคือการเรียนไม่ใช่ใช้แรงงานยังกะเขาเป็นพนักงานประจำ และอาจจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง

  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสงสัยคือเจ้าของหรือซีพีกันแน่ที่ทำแบบนี้ ซึ่งซีพีเป็นบริษัทใหญ่การทำอะไรที่ละเมิดกฏหมายแรงงานนั้นไม่น่าจะกล้ากระทำ ซึ่งผมอยากเพ่งเล็ง
ไปที่ผู้บริหารโรงเรียนนี้หรือเจ้าของร้านนี้ว่า เอาเปรียบเด็กหรือเปล่า ต้องการประหยัดค่าจ้างของพนักงานประจำแล้วเอาการเรียนของเด็กมาเป็นตัวประกันบังคับให้เด็กทำงานให้ร้านค้าของตัวเองหรือของโรงเรียนหรือเปล่า

  จริงๆวัฒธรรมให้นักศึกษาไปหารายได้พิเศษจาก ร้านค้า ห้างร้าน นั้นเมืองนอกทำมานานแล้วและความต้องการตรงกันทุกฝ่ายคือ
เด็กมีรายได้เพราะเด็กฝรั่งชอบออกจากบ้านมาอยู่หาทุนช่วยตัวเองเรียนเองและระบบสังคมเอื้ออำนวยเด็กจึงหางานทำได้
และร้านค้ามีคนทำงานและเขารู้ดีว่าเด็กมาทำเพื่อส่งตัวเองเรียนไม่ใช่มาขายแรงงาน ชั่วโมงทำงานจึงไม่มากเช่น สามหรือสี่ชั่วโมงในแต่
ละวันก็พอแล้ว ร้านก็ไม่มีปัญหาหรอกเพราะเด็กมีเยอะ
 ถ้าร้านไหนทำกับเด็กแบบนี้ผมอยากประณามว่าชั่วช้าเอาเปรียบเด็กถ้าเป็นลูกผมๆได้เฉ่งกะ ผอ. แน่ๆ

สวัดดีครับ  มันเป็นวิธีหาคนงานค่าแรงถูกส่งใหั 7-11 ถัาคุณเคยดูโฆษณาคุณจะคิดว่า เป็นการเรียน และฝึกงานใหักับเด็กของเรา  มีการเรียนโดยใช้ทุนของโรงเรียนแบบที่เขาบอก และจ่ายค่าเรียนเองแต่เขาใจดีอยากให้ใช้ทุน เพราะมีสิ่งที่จะตามมา คือ เด็กที่ทำงานแบบนักเรียนฝึกงาน ค่าแรงถูกกว่าพนักงาน ประมาณ1เท่า เด็กต้องทำงาน3เดือน เรียน3เดือน 2ภาคเรียน x3ปี=1ปี6เดือน+ทำงานใช้ทุนอีก1ปี =มีคนงานราคาถูกทำงานให้2ปี6เดือนต่อเด็ก1คน ลืมบอกไป เด็กฝึก(ทำ)งาน วันละ8ช.ม.  ต้องมารับกระก่อน1ช.ม. แล้วลงเวลาเข้า  ลงเวลาออกแล้วต้งรอกระใหม1ช.ม. รวม10ช.ม.จ่าย8ช.ม. ทำงาน3กระเหมือนพนักงานคนหนึ่ง  แต่ออกไม่ได้ถ้าออกไม่จบ เขาเรียนแล้วเขาไม่เน้นวิชาการ เน้นการทำงานเป็นหลัก ทั้วประเทศมีนักเรียนมากเท่าไหรไม่ทราบคิดไม่ออกครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 10:49:02 AM
ลุงดุลย์ครับ

ลืมเรื่องที่เซเว่น เป็นร้านเดียวที่ไม่ยอมเอาแผงบุหรี่ลงจากตู้กระจกไปแล้วหรือครับ

ไม่เอาลง โดยอ้างแง่มุมกฏหมายอะไรสักอย่าง เกี่ยวกับการแสดงสินค้าที่จะขาย


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 10:53:40 AM
ลุงดุลย์ครับ

ลืมเรื่องที่เซเว่น เป็นร้านเดียวที่ไม่ยอมเอาแผงบุหรี่ลงจากตู้กระจกไปแล้วหรือครับ

ไม่เอาลง โดยอ้างแง่มุมกฏหมายอะไรสักอย่าง เกี่ยวกับการแสดงสินค้าที่จะขาย


  อืม...ทำเหนียมๆบังๆเอาไว้ ::013:: ::013::


แต่ผมโกรธเรื่องเซเว่นเก็บเบียร์ไปหมดตู้มากกว่า ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 12:44:45 PM
ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจำเลยในกรณีนี้จะเป็นใครดีเพราะผมก็ทราบข้อมูลไม่ตลอดเลยกลัวว่าอาจจะด่าจำเลยผิดตัว

 เอาเท่าที่ผมทราบร้าน 7-11 นั้นเป็นร้านสะดวกซื้อระบบแฟรนไชส์ที่ใครอยากมีก็มีได้โดยกำเงินไปบอกซีพีว่าอยากเปิดเซเว่นพอได้แล้วซีพีก็มาออกแบบร้าน
ชั้นวางของเอาของมาวางฝึกอบรมพนักงานให้ แต่ที่ผมไม่ทราบคือระบบการบริหารจัดการพนักงาน การจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ นั้นทำโดยเจ้าของคนซื้อแฟรนไชส์หรือยังคงบริหารโดยซีพี

 และพนักงานนั้นมีแบ่งเป็นพนักงานประจำ คือคนที่ทำร้านเซเว่นเป็นงานหลัก กับ นักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ ซึ้งต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน พนักงานประจำนั้นก็ว่ากันไปว่าแบ่งเป็นกะและหมุนเวียนกันกะละแปดชั่วโมงหรืออะไรก็แล้วแต่
 แต่ส่วนนักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่มาทำงานหาหารายได้พิเศษจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและไม่เป็นกะและไม่ควรทำงานติดต่อกันเกินสี่ชั่วโมง
อาจจะเช้าหรือบ่ายช่วงที่ไม่มีเรียนเพราะยังมีภาระหลักคือการเรียนไม่ใช่ใช้แรงงานยังกะเขาเป็นพนักงานประจำ และอาจจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง

  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสงสัยคือเจ้าของหรือซีพีกันแน่ที่ทำแบบนี้ ซึ่งซีพีเป็นบริษัทใหญ่การทำอะไรที่ละเมิดกฏหมายแรงงานนั้นไม่น่าจะกล้ากระทำ ซึ่งผมอยากเพ่งเล็ง
ไปที่ผู้บริหารโรงเรียนนี้หรือเจ้าของร้านนี้ว่า เอาเปรียบเด็กหรือเปล่า ต้องการประหยัดค่าจ้างของพนักงานประจำแล้วเอาการเรียนของเด็กมาเป็นตัวประกันบังคับให้เด็กทำงานให้ร้านค้าของตัวเองหรือของโรงเรียนหรือเปล่า

  จริงๆวัฒธรรมให้นักศึกษาไปหารายได้พิเศษจาก ร้านค้า ห้างร้าน นั้นเมืองนอกทำมานานแล้วและความต้องการตรงกันทุกฝ่ายคือ
เด็กมีรายได้เพราะเด็กฝรั่งชอบออกจากบ้านมาอยู่หาทุนช่วยตัวเองเรียนเองและระบบสังคมเอื้ออำนวยเด็กจึงหางานทำได้
และร้านค้ามีคนทำงานและเขารู้ดีว่าเด็กมาทำเพื่อส่งตัวเองเรียนไม่ใช่มาขายแรงงาน ชั่วโมงทำงานจึงไม่มากเช่น สามหรือสี่ชั่วโมงในแต่
ละวันก็พอแล้ว ร้านก็ไม่มีปัญหาหรอกเพราะเด็กมีเยอะ
 ถ้าร้านไหนทำกับเด็กแบบนี้ผมอยากประณามว่าชั่วช้าเอาเปรียบเด็กถ้าเป็นลูกผมๆได้เฉ่งกะ ผอ. แน่ๆ

สวัดดีครับ  มันเป็นวิธีหาคนงานค่าแรงถูกส่งใหั 7-11 ถัาคุณเคยดูโฆษณาคุณจะคิดว่า เป็นการเรียน และฝึกงานใหักับเด็กของเรา  มีการเรียนโดยใช้ทุนของโรงเรียนแบบที่เขาบอก และจ่ายค่าเรียนเองแต่เขาใจดีอยากให้ใช้ทุน เพราะมีสิ่งที่จะตามมา คือ เด็กที่ทำงานแบบนักเรียนฝึกงาน ค่าแรงถูกกว่าพนักงาน ประมาณ1เท่า เด็กต้องทำงาน3เดือน เรียน3เดือน 2ภาคเรียน x3ปี=1ปี6เดือน+ทำงานใช้ทุนอีก1ปี =มีคนงานราคาถูกทำงานให้2ปี6เดือนต่อเด็ก1คน ลืมบอกไป เด็กฝึก(ทำ)งาน วันละ8ช.ม.  ต้องมารับกระก่อน1ช.ม. แล้วลงเวลาเข้า  ลงเวลาออกแล้วต้งรอกระใหม1ช.ม. รวม10ช.ม.จ่าย8ช.ม. ทำงาน3กระเหมือนพนักงานคนหนึ่ง  แต่ออกไม่ได้ถ้าออกไม่จบ เขาเรียนแล้วเขาไม่เน้นวิชาการ เน้นการทำงานเป็นหลัก ทั้วประเทศมีนักเรียนมากเท่าไหรไม่ทราบคิดไม่ออกครับ

ให้เด็กทำงานถึงกะล่ะ 8 ชม. เลยหรือครับ มันจะบ้ามากไปแล้ว  ให้เด็กทำงานเหมือนพนักงานประจำทั้งๆที่หน้าที่หลักของเด็กคือการศึกษา ไม่ต่างอะไรกับการใช้แรงงานเลยครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: อรชุน-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 01:09:25 PM
ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจำเลยในกรณีนี้จะเป็นใครดีเพราะผมก็ทราบข้อมูลไม่ตลอดเลยกลัวว่าอาจจะด่าจำเลยผิดตัว

 เอาเท่าที่ผมทราบร้าน 7-11 นั้นเป็นร้านสะดวกซื้อระบบแฟรนไชส์ที่ใครอยากมีก็มีได้โดยกำเงินไปบอกซีพีว่าอยากเปิดเซเว่นพอได้แล้วซีพีก็มาออกแบบร้าน
ชั้นวางของเอาของมาวางฝึกอบรมพนักงานให้ แต่ที่ผมไม่ทราบคือระบบการบริหารจัดการพนักงาน การจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ นั้นทำโดยเจ้าของคนซื้อแฟรนไชส์หรือยังคงบริหารโดยซีพี

 และพนักงานนั้นมีแบ่งเป็นพนักงานประจำ คือคนที่ทำร้านเซเว่นเป็นงานหลัก กับ นักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ ซึ้งต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน พนักงานประจำนั้นก็ว่ากันไปว่าแบ่งเป็นกะและหมุนเวียนกันกะละแปดชั่วโมงหรืออะไรก็แล้วแต่
 แต่ส่วนนักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่มาทำงานหาหารายได้พิเศษจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและไม่เป็นกะและไม่ควรทำงานติดต่อกันเกินสี่ชั่วโมง
อาจจะเช้าหรือบ่ายช่วงที่ไม่มีเรียนเพราะยังมีภาระหลักคือการเรียนไม่ใช่ใช้แรงงานยังกะเขาเป็นพนักงานประจำ และอาจจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง

  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสงสัยคือเจ้าของหรือซีพีกันแน่ที่ทำแบบนี้ ซึ่งซีพีเป็นบริษัทใหญ่การทำอะไรที่ละเมิดกฏหมายแรงงานนั้นไม่น่าจะกล้ากระทำ ซึ่งผมอยากเพ่งเล็ง
ไปที่ผู้บริหารโรงเรียนนี้หรือเจ้าของร้านนี้ว่า เอาเปรียบเด็กหรือเปล่า ต้องการประหยัดค่าจ้างของพนักงานประจำแล้วเอาการเรียนของเด็กมาเป็นตัวประกันบังคับให้เด็กทำงานให้ร้านค้าของตัวเองหรือของโรงเรียนหรือเปล่า

  จริงๆวัฒธรรมให้นักศึกษาไปหารายได้พิเศษจาก ร้านค้า ห้างร้าน นั้นเมืองนอกทำมานานแล้วและความต้องการตรงกันทุกฝ่ายคือ
เด็กมีรายได้เพราะเด็กฝรั่งชอบออกจากบ้านมาอยู่หาทุนช่วยตัวเองเรียนเองและระบบสังคมเอื้ออำนวยเด็กจึงหางานทำได้
และร้านค้ามีคนทำงานและเขารู้ดีว่าเด็กมาทำเพื่อส่งตัวเองเรียนไม่ใช่มาขายแรงงาน ชั่วโมงทำงานจึงไม่มากเช่น สามหรือสี่ชั่วโมงในแต่
ละวันก็พอแล้ว ร้านก็ไม่มีปัญหาหรอกเพราะเด็กมีเยอะ
 ถ้าร้านไหนทำกับเด็กแบบนี้ผมอยากประณามว่าชั่วช้าเอาเปรียบเด็กถ้าเป็นลูกผมๆได้เฉ่งกะ ผอ. แน่ๆ


เอาเท่าที่ทราบนะครับพี่ดุลย์ 7-11 จะมี2แบบครับ แบบที่ CP เปิดเอง กับแบบที่ผู้ค้าไปขอแฟรนด์ไชน์ บริหารไม่เหมือนกันครับ สินค้าบางรายการก็ไม่เหมือนกันด้วย

ส่วนเรื่องโรงเรียนที่ว่านี้ เป็นโรงเรียนของ CP เอง เปิดโรงเรียนเพื่อป้อนพนักงานเข้าบริษัทอยู่แล้วครับ ตัวโรงเรียนเองก็บริหารโดยบริษัทครับ

ปัญญาภิวัฒน์ เทคโนธุรกิจ (http://www.youtube.com/watch?v=55lPfXO20p4#)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 01:19:28 PM
ขอบคุณครับคุณอรชุน

   แสดงว่าตอนนี้ขอด่าซีพีได้เต็มปากเต็มคำหน่อยว่า ช่วช้าสามานย์ ใช้แรงงานเด็กหนักเยี่ยงวัวควาย
รวยแล้วยังงก ทำนาบนหลังเด็ก ถึงจะเป็นโรงเรียนก็เถอะ แต่ทำไปเพื่อประโยชน์ของตนเป็นหลักหาได้คำนึงถึงเมตตาธรรมไม่
ดูจากเวลาเรียนกะเวลาทำงานที่คุณพ่อของเด็กแล้วมันเอาเปรียบจริงๆ







เฮ้อ....เหนื่อยน้าฉ็องช่วยด่าต่อที


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 01:31:53 PM
ผมอยากจะแสดงความคิดเห็นซะหน่อยเพราะคิดไม่ออกว่าจำเลยในกรณีนี้จะเป็นใครดีเพราะผมก็ทราบข้อมูลไม่ตลอดเลยกลัวว่าอาจจะด่าจำเลยผิดตัว

 เอาเท่าที่ผมทราบร้าน 7-11 นั้นเป็นร้านสะดวกซื้อระบบแฟรนไชส์ที่ใครอยากมีก็มีได้โดยกำเงินไปบอกซีพีว่าอยากเปิดเซเว่นพอได้แล้วซีพีก็มาออกแบบร้าน
ชั้นวางของเอาของมาวางฝึกอบรมพนักงานให้ แต่ที่ผมไม่ทราบคือระบบการบริหารจัดการพนักงาน การจ่ายเงินเดือน สวัสดิการต่างๆ นั้นทำโดยเจ้าของคนซื้อแฟรนไชส์หรือยังคงบริหารโดยซีพี

 และพนักงานนั้นมีแบ่งเป็นพนักงานประจำ คือคนที่ทำร้านเซเว่นเป็นงานหลัก กับ นักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่ต้องการหารายได้พิเศษ ซึ้งต้องบริหารจัดการที่แตกต่างกัน พนักงานประจำนั้นก็ว่ากันไปว่าแบ่งเป็นกะและหมุนเวียนกันกะละแปดชั่วโมงหรืออะไรก็แล้วแต่
 แต่ส่วนนักศึกษาฝึกงาน หรือ นักศึกษาที่มาทำงานหาหารายได้พิเศษจะต้องเป็นไปตามความสมัครใจและไม่เป็นกะและไม่ควรทำงานติดต่อกันเกินสี่ชั่วโมง
อาจจะเช้าหรือบ่ายช่วงที่ไม่มีเรียนเพราะยังมีภาระหลักคือการเรียนไม่ใช่ใช้แรงงานยังกะเขาเป็นพนักงานประจำ และอาจจ่ายค่าจ้างเป็นรายชั่วโมง

  ซึ่งตรงนี้แหละที่ผมสงสัยคือเจ้าของหรือซีพีกันแน่ที่ทำแบบนี้ ซึ่งซีพีเป็นบริษัทใหญ่การทำอะไรที่ละเมิดกฏหมายแรงงานนั้นไม่น่าจะกล้ากระทำ ซึ่งผมอยากเพ่งเล็ง
ไปที่ผู้บริหารโรงเรียนนี้หรือเจ้าของร้านนี้ว่า เอาเปรียบเด็กหรือเปล่า ต้องการประหยัดค่าจ้างของพนักงานประจำแล้วเอาการเรียนของเด็กมาเป็นตัวประกันบังคับให้เด็กทำงานให้ร้านค้าของตัวเองหรือของโรงเรียนหรือเปล่า

  จริงๆวัฒธรรมให้นักศึกษาไปหารายได้พิเศษจาก ร้านค้า ห้างร้าน นั้นเมืองนอกทำมานานแล้วและความต้องการตรงกันทุกฝ่ายคือ
เด็กมีรายได้เพราะเด็กฝรั่งชอบออกจากบ้านมาอยู่หาทุนช่วยตัวเองเรียนเองและระบบสังคมเอื้ออำนวยเด็กจึงหางานทำได้
และร้านค้ามีคนทำงานและเขารู้ดีว่าเด็กมาทำเพื่อส่งตัวเองเรียนไม่ใช่มาขายแรงงาน ชั่วโมงทำงานจึงไม่มากเช่น สามหรือสี่ชั่วโมงในแต่
ละวันก็พอแล้ว ร้านก็ไม่มีปัญหาหรอกเพราะเด็กมีเยอะ
 ถ้าร้านไหนทำกับเด็กแบบนี้ผมอยากประณามว่าชั่วช้าเอาเปรียบเด็กถ้าเป็นลูกผมๆได้เฉ่งกะ ผอ. แน่ๆ

สวัดดีครับ  มันเป็นวิธีหาคนงานค่าแรงถูกส่งใหั 7-11 ถัาคุณเคยดูโฆษณาคุณจะคิดว่า เป็นการเรียน และฝึกงานใหักับเด็กของเรา  มีการเรียนโดยใช้ทุนของโรงเรียนแบบที่เขาบอก และจ่ายค่าเรียนเองแต่เขาใจดีอยากให้ใช้ทุน เพราะมีสิ่งที่จะตามมา คือ เด็กที่ทำงานแบบนักเรียนฝึกงาน ค่าแรงถูกกว่าพนักงาน ประมาณ1เท่า เด็กต้องทำงาน3เดือน เรียน3เดือน 2ภาคเรียน x3ปี=1ปี6เดือน+ทำงานใช้ทุนอีก1ปี =มีคนงานราคาถูกทำงานให้2ปี6เดือนต่อเด็ก1คน ลืมบอกไป เด็กฝึก(ทำ)งาน วันละ8ช.ม.  ต้องมารับกระก่อน1ช.ม. แล้วลงเวลาเข้า  ลงเวลาออกแล้วต้งรอกระใหม1ช.ม. รวม10ช.ม.จ่าย8ช.ม. ทำงาน3กระเหมือนพนักงานคนหนึ่ง  แต่ออกไม่ได้ถ้าออกไม่จบ เขาเรียนแล้วเขาไม่เน้นวิชาการ เน้นการทำงานเป็นหลัก ทั้วประเทศมีนักเรียนมากเท่าไหรไม่ทราบคิดไม่ออกครับ

ให้เด็กทำงานถึงกะล่ะ 8 ชม. เลยหรือครับ มันจะบ้ามากไปแล้ว  ให้เด็กทำงานเหมือนพนักงานประจำทั้งๆที่หน้าที่หลักของเด็กคือการศึกษา ไม่ต่างอะไรกับการใช้แรงงานเลยครับ  ::014::

12 ชั่วโมงก็มีครับ  หกโมงถึงหกโมง ....  ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 04:23:59 PM
ถ้าเห็นว่าถูกเอารัดเอาเปรียบมากจนเกินไป แนะนำแจ้งที่นี่เลยครับ

http://www.1111.go.th/ (http://www.1111.go.th/)


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 08:47:43 PM
สถาบันการศึกษา เป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่มีอุปสงค์เข้ามาตลอดยันชั่วลูกชั่วหลาน... ตั้งค่าหน่วยกิตอย่างไรก็ได้ เพราะพ่อแม่ทุกคนต้องการให้เด็กได้มีการศึกษา ถึงขั้นขายเนื้อขายตัวส่งลูกเรียนยังมีเลย...

และเรื่องเกี่ยวกับการบังคับนักศึกษาให้ทำงานเพื่อขู่นักศึกษาเพื่อแลกผลการเรียน... พื้นฐานของเด็ก จะกลัวที่สุดคือการทำให้พ่อแม่ผิดหวัง... ไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่เพราะโดนผู้มีอำนาจกว่าบีบเรื่องอนาคต และแลกกับความเสียใจของผู้ปกครอง... เด็กโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง...

สถาบันที่ลูกของ จขกท. ศึกษาอยู่... ค่อนข้างเลวครับ... เพราะการศึกษาเพื่อหวังให้ได้แรงงานไปใช้งานในธุรกิจตัวเอง หรืออ้างว่าศึกษาแล้วได้งานทำ นี่ก็เลวระดับนึงแล้ว หากเก็บค่าการศึกษา... เพราะการสร้างฝีมือแรงงาน เจ้าของธุรกิจควรจะออกให้หมดทั้งอาหาร ที่พัก ชุดนักศึกษา ฯลฯ...

และยิ่งถ้ากระทำเยี่ยงทาส โดยการให้ไปอยู่กะกลางคืน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักศึกษาตั้งแต่เริ่มเดินทางมาทำงาน ระหว่างทำงาน และเดินทางกลับบ้าน หากเด็กเกิดอันตราย จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบในการส่งลูกในอกไปเรียนได้อย่างไร... และบังคับให้เด็กผู้หญิงอยู่กะกลางคืนโดยอ้างว่าไมทำจะกระทบถึงผลการเรียนด้วยแล้ว... โค่ดเลวเลยครับ... หลอกให้เด็กไปทำงาน แล้วประเมินผลการศึกษาจากการที่บังคับให้ไปทำงานอีก... แสดงว่าธุรกิจนี้วางระบบไปเนิ่นนานแล้ว แต่ผมยอมรับครับว่าเพิ่งรู้... พวกมันทุกคนที่สมรู้ร่วมคิดมันชั่วจริงๆ...

เอาลูกออกเถอะครับ... ส่งลูกไปลำบาก และเราไม่สบายใจ... ไม่มีความสุขทั้งคุณทั้งลูก... และถ้าเกิดอะไรที่เลวร้ายขึ้นมากับลูกคุณ คนที่เสียใจที่สุดจริงๆคือคุณ... ถึงวันนั้นคุณจะยอมรับความเสียใจกับความสูญเสียไหวรึเปล่า... คิดอะไรเผื่อบ้างรึยัง...

แมร่งวางระบบไว้ทุกอย่างด้วยการให้ความหวัง... มีแรงงาน... และขยายธุรกิจได้อย่างแยบยลจริงๆ..... ::013:: ::013:: ::013::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 08:50:56 PM
ขอบคุณทุกท่านครับ  วันนี้ทำใจได้บ้างแล้วครับ เลยนึกได้ว่า เขาบอกว่าการทำงาน3กระเป็นหลักสูตร ถ้าไม่ทำจะไม่จบ แต่หลักสูตรการสอนจะต้องผ่านการตรวจจากหน่วยงานราชการ แล้วการให้เด็กทำงานกลางคืนถึงเช้ามันผ่ามมาได้ด้วยหรือครับ ถ้าได้แสดงว่าการคุ้มครองเด็กไม่มีเลย  กลับกันถ้าไม่ผ่านแล้วเขามาใช้งานเด็กเราอย่างนี้ได้ยังไง จะทำอย่างไรดีครับ รบกวนถามผู้รู้ หรือขอคำแนะนำหน่อยครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 09:08:43 PM
สถาบันการศึกษา เป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่มีอุปสงค์เข้ามาตลอดยันชั่วลูกชั่วหลาน... ตั้งค่าหน่วยกิตอย่างไรก็ได้ เพราะพ่อแม่ทุกคนต้องการให้เด็กได้มีการศึกษา ถึงขั้นขายเนื้อขายตัวส่งลูกเรียนยังมีเลย...

และเรื่องเกี่ยวกับการบังคับนักศึกษาให้ทำงานเพื่อขู่นักศึกษาเพื่อแลกผลการเรียน... พื้นฐานของเด็ก จะกลัวที่สุดคือการทำให้พ่อแม่ผิดหวัง... ไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่เพราะโดนผู้มีอำนาจกว่าบีบเรื่องอนาคต และแลกกับความเสียใจของผู้ปกครอง... เด็กโดนทั้งขึ้นทั้งล่อง...

สถาบันที่ลูกของ จขกท. ศึกษาอยู่... ค่อนข้างเลวครับ... เพราะการศึกษาเพื่อหวังให้ได้แรงงานไปใช้งานในธุรกิจตัวเอง หรืออ้างว่าศึกษาแล้วได้งานทำ นี่ก็เลวระดับนึงแล้ว หากเก็บค่าการศึกษา... เพราะการสร้างฝีมือแรงงาน เจ้าของธุรกิจควรจะออกให้หมดทั้งอาหาร ที่พัก ชุดนักศึกษา ฯลฯ...

และยิ่งถ้ากระทำเยี่ยงทาส โดยการให้ไปอยู่กะกลางคืน โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของนักศึกษาตั้งแต่เริ่มเดินทางมาทำงาน ระหว่างทำงาน และเดินทางกลับบ้าน หากเด็กเกิดอันตราย จะแสดงออกถึงความรับผิดชอบในการส่งลูกในอกไปเรียนได้อย่างไร... และบังคับให้เด็กผู้หญิงอยู่กะกลางคืนโดยอ้างว่าไมทำจะกระทบถึงผลการเรียนด้วยแล้ว... โค่ดเลวเลยครับ... หลอกให้เด็กไปทำงาน แล้วประเมินผลการศึกษาจากการที่บังคับให้ไปทำงานอีก... แสดงว่าธุรกิจนี้วางระบบไปเนิ่นนานแล้ว แต่ผมยอมรับครับว่าเพิ่งรู้... พวกมันทุกคนที่สมรู้ร่วมคิดมันชั่วจริงๆ...

เอาลูกออกเถอะครับ... ส่งลูกไปลำบาก และเราไม่สบายใจ... ไม่มีความสุขทั้งคุณทั้งลูก... และถ้าเกิดอะไรที่เลวร้ายขึ้นมากับลูกคุณ คนที่เสียใจที่สุดจริงๆคือคุณ... ถึงวันนั้นคุณจะยอมรับความเสียใจกับความสูญเสียไหวรึเปล่า... คิดอะไรเผื่อบ้างรึยัง...

แมร่งวางระบบไว้ทุกอย่างด้วยการให้ความหวัง... มีแรงงาน... และขยายธุรกิจได้อย่างแยบยลจริงๆ..... ::013:: ::013:: ::013::
ขอบคุณครับ  แต่ลูกผมเป็นเด็กชายครับ แต่ก็กลัวอันตรายจากการเดินทางเหมือนกัน เรื่องเอาลูกออกก็ต้องเสียเวลาไป 2 ปี ลูกบอกว่า      ไปเรียนสายสามัญก็ไม่ทันเพื่อนแล้ว ไม่อยากทำให้พ่อผิดหวัง อีก1ปีก็จบแล้วลูกบอกว่าทำได้ (ผมไม่ใช้ทุนเขาไม่ต้องทำอีก1ปีครับ)แต่เขาก็ได้ความรู้ครับ ไม่ใช่วิชาการ  ไม่ใช่การบริหาร แต่เป็นการอยู่รอดในองกรที่เลวได้อย่างไร


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 23, 2010, 09:24:07 PM
ขออภัยครับ... ::014:: พอดีเห็นท่าน จขกท.เรียกลูกว่า "หนู" และลูกก็เรียกตัวเองว่า "หนู"... ผมเลยเข้าใจผิดครับ... ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 04:50:51 AM

อ้างถึง
ขอบคุณครับ  แต่ลูกผมเป็นเด็กชายครับ แต่ก็กลัวอันตรายจากการเดินทางเหมือนกัน เรื่องเอาลูกออกก็ต้องเสียเวลาไป 2 ปี ลูกบอกว่า      ไปเรียนสายสามัญก็ไม่ทันเพื่อนแล้ว ไม่อยากทำให้พ่อผิดหวัง อีก1ปีก็จบแล้วลูกบอกว่าทำได้ (ผมไม่ใช้ทุนเขาไม่ต้องทำอีก1ปีครับ)แต่เขาก็ได้ความรู้ครับ ไม่ใช่วิชาการ  ไม่ใช่การบริหาร แต่เป็นการอยู่รอดในองกรที่เลวได้อย่างไร

ถ้าอีก ปีเดียวจบ แล้วลูกท่านทนได้ ทำได้ ก็ให้ทำต่อเถิดครับดีกว่าเสียเวลาเรียนเพิ่มอีกสองปี ได้สร้างประสบการณ์ ทั้งยังสร้างภูมิคุ้มกันให้ก้าวเดินต่อไปในสังคมข้างหน้าได้

 ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 08:35:06 AM

อ้างถึง
ขอบคุณครับ  แต่ลูกผมเป็นเด็กชายครับ แต่ก็กลัวอันตรายจากการเดินทางเหมือนกัน เรื่องเอาลูกออกก็ต้องเสียเวลาไป 2 ปี ลูกบอกว่า      ไปเรียนสายสามัญก็ไม่ทันเพื่อนแล้ว ไม่อยากทำให้พ่อผิดหวัง อีก1ปีก็จบแล้วลูกบอกว่าทำได้ (ผมไม่ใช้ทุนเขาไม่ต้องทำอีก1ปีครับ)แต่เขาก็ได้ความรู้ครับ ไม่ใช่วิชาการ  ไม่ใช่การบริหาร แต่เป็นการอยู่รอดในองกรที่เลวได้อย่างไร
ครับคงต้องเป็นไปตามนั้น เพียงแต่อยากจะบอกให้กับเด็ก หรือท่านผู้ปกครองที่อาจคิดแบบผมว่า ถ้าเด็กของท่าน เป็นเรียนได้ไม่เก่ง หรือปานกลาง จึงคิดว่าการไปเรียนที่นี่แล้ว เด็กจะมืงานทำในอนาคต. คุณจะฝากอนาคตของลูกกับองค์กรทื่เห็นแก่ผลประโยช มากว่าเวลาเป็นปีของเด็กหรือ. หรือท่านอาจคิดแบบผม(ซึ่งพลาดไปแล้ว) คือคาดหวังว่า เด็กจะได้ศึกษาการบริหารร้าน รู้ละบบการจัดการการเงิน และรู้ระบบการตรวดสอบของระบบองค์กร เพือจะมาบริหารกิจการ ของครอบครัวในอนาคต สิ่งที่คุณจะได้ มาคือ เด็กอายุ17-18ปีที่ทำงานได้แบบรงงานด้อยโอกาส ได้เพาะเซลมะเร็งไว้ในจิดใจ เพราะเด็กจะถูกใช้กฎของหมาป่า คือ การจัดการแบบหมาป่ากับลูกแกะ ถ้าผู้ปกครองไม่มีประสบการบริหารองค์กร ซึ่งผู้ปกครองของเด็กที่จำเป็นต้องมาเรียนที่นีี่ส่วนใหญ่ไม่มี
 


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 08:46:32 AM
ถ้าเห็นว่าถูกเอารัดเอาเปรียบมากจนเกินไป แนะนำแจ้งที่นี่เลยครับ

http://www.1111.go.th/ (http://www.1111.go.th/)

ครั้งนึงผมเคยแจ้งเรื่อง เจ้าหน้าที่ ฝ่ายทะเบียนปืน ของ อำเภอ.หนึ่งใน สงขลาเรื่อง เจ้าหน้าที่ พูดจาดูถูกหมิ่นประมาท ชาวบ้านและ
 ประพฤติตัวไม่เหมาะสม   จนผมต้องถูก นายอำเภอ กล่าวหาว่าเป็น"คนหัวหมอ" ใน การประชุมผู้ใหญ่บ้าน
 ข่าวสุดท้ายที่ผมรู้ ก็คือ เจ้าหน้าที่คนนั้นได้รับ เงิน ทำขวัญ 3000 บาท และทุกวันนี้  ยังนั่งกระดิกหางอยู่บนอำเภอ   ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 08:49:56 AM
มีสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ คุณครูที่สอนที่โรงเรียน ท่านดีมากครับ ท่านจะอยู่กับเด็กและแก้ปัญหาให้ เมื่อเด็กถูก ฝ่ายปกป้องผลประโยชน์เล่นงาน แต่ก็ได้แต่ปลอบ เพราะเขาไม่ให้ความสำคัญ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 09:14:54 AM
มีสิ่งหนึ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลย คือ คุณครูที่สอนที่โรงเรียน ท่านดีมากครับ ท่านจะอยู่กับเด็กและแก้ปัญหาให้ เมื่อเด็กถูก ฝ่ายปกป้องผลประโยชน์เล่นงาน แต่ก็ได้แต่ปลอบ เพราะเขาไม่ความสำคัญ

อยากให้ประเทศของเรา มีครูแบบนี้ มากๆจังครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 09:48:05 AM
พี่ chai_ay  เช็ค PM ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 10:36:11 AM
พี่ chai_ay  เช็ค PM ครับ 
ได้รับแล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำปรึกษา  ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: แบบนี้จะผิดกฏหมายไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 24, 2010, 10:38:44 AM
พี่ chai_ay  เช็ค PM ครับ 
ได้รับแล้วครับ ขอบคุณทุกท่านที่ให้คำปรึกษา  ขอบคุณครับ
ต้องขอบคุณ ลุงแป๋ง สุดหล่อของผม ครับ ผมแค่เป็น ศรสื่อรัก เท่านั้นเอง    ::005:: ::005::