หัวข้อ: แก๊สน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: ปืนเล็กยาว ที่ พฤศจิกายน 21, 2005, 02:39:55 PM จริงหรือไม่? ที่ว่า หากนำแอมโมเนียผสมกับน้ำแล้ว จะมีคุณสมบัติเป็นแก๊สน้ำตา หากจริง คุณสมบัติของแก๊สเป็นอย่างไร มีสี มีกลิ่นหรือไม่ ผู้รู้โปรดชี้แนะ...
หัวข้อ: Re: แก๊สน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 21, 2005, 02:47:32 PM รอฟังคำตอบครับ อยากรู้เหมือนกัน
หัวข้อ: Re: แก๊สน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: ป้อมทอง พรานชุมไพร ที่ พฤศจิกายน 21, 2005, 03:08:27 PM แอมโมเนีย ผสม น้ำ มันเป็นยาดม แก้คนเป็นลมนะครับ
ที่ว่า แก๊สน้ำตา ปัจจุบัน จะเป็น สารสกัดผสมผสานกับ พริก และ พริกไท ถ้ารายละเอียดต้อง พี่สุพินท์ มาขยายความครับ หัวข้อ: Re: แก๊สน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 21, 2005, 04:05:22 PM แอมโมเนีย ผสม น้ำ มันเป็นยาดม แก้คนเป็นลมนะครับ ที่ว่า แก๊สน้ำตา ปัจจุบัน จะเป็น สารสกัดผสมผสานกับ พริก และ พริกไท ถ้ารายละเอียดต้อง พี่สุพินท์ มาขยายความครับ แอมโมเนียกับน้ำ เป็นเยี่ยวอูฐ ใช้แก้คนเป็นลม และถ้าใส่ตัวเร่งปฏิกิริยาบางตัว + กรดไนตริก อาจจะได้แอมโมเนียมไนเตรท ส่วนแกสน้ำตายุคแรก เป็นสารพิษที่มีคลอรีนเป็นสารตั้งต้น และในปัจจุบัน จะสกัดจากสารจำพวกพริก แต่คงไม่ใช้พริกไทย เพราะราคาแพงเกินไป หัวข้อ: Re: แก๊สน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: saw ที่ พฤศจิกายน 21, 2005, 04:08:01 PM 1."แอมโมเนีย" ปกติจะอยู่ในภาพของก๊าซ สามารถละลายน้ำได้ดี แต่เมื่อละลายน้ำแล้วจะกลายเป็นแอมโมเนียมไฮดรอกไซด์ ที่เป็นด่างเข้มข้นซึ่งมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง
2.ในประเทศไทยมักจะใช้ "แอมโมเนีย" ใน2ลักษณะคือ (2.1)ใช้ผสมน้ำเพื่อให้เป็นด่าง สำหรับอุตสาหกรรมยาง เพื่อให้เกิดการแข็งตัวของเนื้อยาง ทั้งนี้เนื่องจากในการกรีดยางที่ละต้น เป็นจำนวนมากหลายไร่ เมื่อเริ่มกรีดต้นแรกจนต้นสุดท้ายจะมีระยะเวลาห่างกันมาก ยางที่ได้จากการกรีดต้นแรกจะแข็งตัวก่อนทำให้ไม่เป็นเนื้อเดียวกันกับยางที่กรีดได้จากต้นท้ายๆ ชาวสวนยางจึงแก้ไขปัญหาด้วยการเติมกรดลงไปในเนื้อยางเพื่อยืดระยะเวลาการแข็งตัวของเนื้อยางออกไป แต่เมื่อได้น้ำยางครบแล้วและต้องการให้ยางแข็งตัว เขาก็จะเติมน้ำด่าง(แอมโมเนีย+น้ำ)ลงไป...(ทั้งหมดนี้ผมฟังเขาเล่ามาเลยมาเล่าอีกต่อ) (2.2)ใช้เป็นสารทำความเย็นในอุตสาหกรรมห้องเย็นและน้ำแข็ง ซึ่งสารทำความเย็นที่ใช้อยู่อีกตัวคือสารCFC แต่เนื่องจากมีราคาแพงและเป็นสารทำลายบรรยากาศ จึงมักใช้ในเครื่องทำความเย็นขนาดเล็กๆ ไม่เหมาะกับเครื่องทำความเย็นของภาคอุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งต้องใช้สารทำความเย็นในปริมาณมากๆ หลายท่านอาจสงสัยว่าแล้วแอมโมเนียไม่ปนเปื้อนในน้ำแข็งหรืออาหารในห้องเย็นหรือ คำตอบคือแอมโมเนียจะอยู่ในท่อแบบระบบปิดไม่มีโอกาสสัมผัสสิ่งของ ยกเว้นแต่จะมีการรั่วไหล แล้วแอมโมเนียนี่จะมีกลิ่นแหลม ถ้ารั่วไหลแม้เพียงเล็กน้อยเราก็ได้กลิ่นแล้วครับ สำหรับอันตรายของสารแอมโมเนียมีจุดเด่นที่ทำลายระบบทางเดินหายใจ และอื่นๆอีกลงไม่หมดครับ หัวข้อ: Re: แก๊สน้ำตา เริ่มหัวข้อโดย: นักรบแนวหน้า ที่ พฤศจิกายน 23, 2005, 03:04:48 AM แอมโมเนีย+ไดไอซ์=แก๊สน้ำตา(เขียนถูกป่าว)
|