เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:18:01 PM



หัวข้อ: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:18:01 PM

 เมื่อชัยอายุ 6 ขวบ ขณะที่นั่งรถไปกับพ่อ ถูกตำรวจจับเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด พ่อแอบยื่นเงิน 500 บาทให้ตำรวจ และได้รับอนุญาตปล่อยตัวไป พ่อหันมาพูดกับชัยว่า

“ไม่เป็นไรลูก...
เงินแค่นี้ซื้อเวลา ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 8 ขวบ ป้าพาไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าเป็นเงิน 75 บาท เมื่อป้าไปชำระเงิน ยื่นธนบัตรร้อยบาทให้พ! นักงาน ไ ด้รับเงินทอน 55 บาท เพราะลูกค้ามากและเข้าใจว่าธนบัตร 50 บาท คือ 20 บาท ป้ารับเงินทอนและใส่กระเป๋าทันที แทนที่จะบอกพนักงานว่าทอนเงินผิด เมื่อออกจากร้านป้าก็พูดกับชัยว่า

“ไม่เป็นไรหลาน...
ความผิดของเขาเอง ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 9 ขวบ ครูให้การบ้านปลูกต้นหอมแดงในกระบะ 2 สัปดาห์ แล้วนำไปส่งที่โรงเรียน แม่ลืมซื้อหัวหอมแดงมาให้ชัย เมื่อครบกำหนดวันส่ง แม่ให้พ่อไปซื้อต้นหอมแดงที่ตลาด และฝังลงในกระบะให้ชัยนำไปส่งครู แล้วพูดว่า

“ ไม่เป็นไรลูก...
ครูไม่รู้หรอก มีส่งก็ดีแล้ว ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 12 ขวบ ชัยทำแว่นตาใหม่ราคาแพงของลุงแตก
ลุงจึงนำใบเสร็จไปอ้างกับบริษัทเครดิตที่ลุงใช้บริการอยู่ว่าแว่นตาถูกขโมย ได้รับเงินชดใช้มา 15,000 บาท เต็มราคาที่ซื้อมา
ลุงพูดกับชัยอย่างภาคภูมิใจว่า

“ไม่เป็นไรหรอกหลาน...
สิทธ์ของเรา ใครใครเขาก็ทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 15 ปี ได้เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียน ครูฝึกได้สอนวิธีกลั่นแกล้งฝ่ายตรงข้ามให้บาดเจ็บโดยไม่ผิดถือว่าอยู่ในเกม
ครูฝึกบอกว่า

“ไม่เป็นไรหรอก...
ได้เปรียบไว้ก่อนเป็นดี ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”
เมื่อชัยอายุ 16 ปี ได้ไปทำงานระหว่างปิดเทอมที่แผนกซูปเปอร์มาร์เก็ต ของห้างสรรพสินค้าที่มีชื่อแห่งหนึ่ง หัวหน้าแผนกให้ชัยจัดกระเช้าผลไม้ โดยแนะนำให้จัดวางผลไม่สวยจวนจะเน่าอยู่ก้นตะกร้า คัดผลสวย ใบโตสีสด จัดวางอยู่ส่วนบน หัวหน้าแผนกสอนว่า

“ไม่เป็นไรหรอก...
ผู้ซื้อไม่ได้ใช้เองแต่นำไปฝากคนอื่น ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 18 ปี ได้สมัครสอบเพื่อเข้าขอรับทุนของมหาวิทยาลัย ปรากฏผลทราบเป็นการภ! ายในว่าม าเป็นอันดับ 2 เมื่อพ่อรู้เข้าจึงไปพูดกับกรรมการซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน ในที่สุดชัยก็ได้รับทุน พ่อพูดกับชัยว่า

“ไม่เป็นไรลูก...
เป็นโอกาสของเรา ใครใครถ้ามีโอกาส เขาทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 19 ปี เพื่อนเอาข้อสอบปลายปีที่ขโมยมาขายกับชัยเป็นเงิน 1,500 บาท ชัยลังเลใจและตัดสินใจซื้อในที่สุด เพราะเพื่อนพูดว่า

“ไม่เป็นไรหรอกชัย...
เกรดมีผลกับอนาคตนะ ใครใครเขาทำกันทั้งนั้นแหละ”

เมื่อชัยอายุ 24 ปี ชัยถูกจับข้อหายักยอกเงินบริษัท 700,000 บาท และต้องติดคุก พ่อกับแม่ไปเยี่ยมและตัดพ้อต่อว่า

“ทำไมลูกทำอย่างนี้กับพ่อแม่
ที่บ้านเราไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนขี้โกงเลยนะ”

แต่แท้ที่จริงแล้ว พ่อแม่และบรรดาคนรอบข้างชัยไม่เคยรู้เลยว่า เขานั่นแหละที่สอนให้ชัยเป็นคนโกงโดยไม่รู้ตัว โดยเฉพาะพ่อแม่ที่กลายเป็น "พ่อแม่รังแกฉัน" เสียเอง  
      
 

        



                                                                                                     ก๊อปปี้มาจากเวปอื่น           ;D                   สวัสดีครับ...pasta ::014:: :VOV: :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:25:52 PM
ขอบคุณสำหรับสาระดีๆ ครับน้าอรรถ... ::014::




หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: เขรางค์-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:35:41 PM
“ทำไมลูกทำอย่างนี้กับพ่อแม่
ที่บ้านเราไม่ได้สอนให้ลูกเป็นคนขี้โกงเลยนะ”......................................... ::004::

+1 ให้ครับ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:42:44 PM
ตัวอย่างดีมีค่ากว่าคำสอน
ตกตะกอนอยู่ในใจไม่เหือดหาย
ตัวอย่างเลวนำความชั่วมั่วอบาย
ยังแก้ได้ไม่สายเกินจะกลับตัว

ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 28, 2010, 11:43:35 PM
คำว่าพ่อแม่รังแกฉัน เด็กหลายๆคนคิดว่าการที่พ่อแม่ด่า ว่าตักเตือนเป็นกาีีีรรังแกไม่ใช่สั่งสอน และเข้าใจว่าการเลี้ยงดูแบบปล่อยสบายๆเป็นสิ่งที่ถูก จริงๆแล้ว กาีรปล่อยให้ลูกไปเที่ยวไหนก็ได้กลับเมื่อไหร่ก็ได้ และไม่เคยว่ากล่าวตักเตือนเลยนั้นหละ คือคำว่า "พ่อแม่รังแกฉัน" แต่ทั้งสองฝ่ายไม่รู้ นี้คือต้นตอของปัญหาของเด็กในสังคมเราครับ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:50:43 AM
ดีครับ เผือพวกมักง่ายจะมาแหกตาอ่านกันบ้าง

ไอ้สำนึกเน่าหลายตัวไม่คู่ควรจะได้เป็นบุพการีใคร  ::009::





หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:51:09 AM
E_mail โพสท์หลังเบียร์ขวดที่4

5555555555555555555555555


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 05:24:05 AM
วันนี้ได้ดูหนังสั้น 5 นาทีของคนไทย ติดใจอยู่เรื่องนึง...

มีครอบครัวหนึ่ง ล้มจากพิษเศรฐกิจเลยพาครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ทั้งหมด 3 คน มาอาศัยวัดอยู่... หลวงตาเป็นอัมพาธคนเป็นพ่อต้องอุ้มลงจากกุฏิและเข็นรถเข็นเพื่อพาหลวงตาไปบิณทบาตร...

ชาวบ้านใส่บาตรก็ถามอาการหลวงตา คุณพ่อก็บอกว่าลำบากมากแค่ค่ายารักษาตัวยังไม่มีเลย... ชาวบ้านเลยมอบเงินเป็นค่ายา....

พ่อจะนำเงินที่ได้มาใส่ย่ามลูก พอกลับถึงวัดส่งหลวงตาขึ้นกุฏิ... พ่อจะนับเงินที่ได้มาแล้วยักยอกไว้ส่วนหนึ่ง(เกินครึ่ง..) และนำส่วนที่เหลืออันน้อยนิดใส่ซองแล้วให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา....

ลูกเห็นพฤติกรรมของพ่อ แต่ก็นำซองใส่เงินขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะในกุฏิหลวงตาทุกวัน หลวงตาบอกให้วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ....

คืนวันหนึ่ง.... แม่ถาม..."พ่อจะทำอย่างนี้อีกนานมั๊ย...?"
พ่อ..."เอาน่า... ไว้ลืมตาอ้าปากได้ก่อน ค่อยไปจากวัดนี้..."

เช้าวันหนึ่ง ระหว่างออกไปบิณทบาตร... คุณพ่อขออนุญาติหลวงตาเพื่อเดินไปซื้อบุหรี่ ลูกชายจึงหยิบเงินจากย่ามส่วนนึงมาใส่กระเป๋ากางเกง... พอกลับถึงวัดพ่อก็ทำเหมือนเดิม คือยักยอกเงิน แล้วใส่ซองด้วยเงินที่เหลือและให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา...

เด็กเดินขึ้นไปบนกุฏิพร้อมกับวางซองไว้บนโต๊ะเหมือนเคย.... จากนั้นก็ปิดกระตูก้าวลงบันไดกุฏิ...

เพิ่งนึกออกว่า เราได้ยักยอกเงินไว้ส่วนนึงจากย่ามเพื่อจะมาให้หลวงตายังอยู่ในกางเกง เลยควักเงินออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดกุฏิใหม่...

พอถึงหน้าประตูกุฏิ... เด็กชายค่อยๆแง้มประตูเพราะหลวงตานอนอยู่... แต่ภาพที่เห็นคือ หลวงตากำลังเดินมาหยิบซองบนโต๊ะที่ตนเองเพิ่งวางไปเมื่อกี๊....

เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 08:19:21 AM

                    ด้วยความรักและทนุถนอมมากเกินไป ทำให้เด็กอ่อนแอ   กลายเป็นพ่อแม่รังแกโดยไม่ตั้งใจ  ขอบคุณครับน้าอรรถ



หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 08:28:00 AM
 ::014::


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 08:35:33 AM
....

ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน

เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู

ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู

จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร  

.....



หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฏฐ์ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 08:40:32 AM
ขอบคุณครับ ::014::กับสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามกับการปฎิบัติตัวให้เป็นแบบที่ดี


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:15:05 AM
สมัยเรียนมีเพื่อนๆมานั่งทานเหล้ากันที่บ้าน... นั่งซักพักเพื่อนคนนึงก็นั่งร้องไห้เป็นการใหญ่...."ฮือๆๆๆ.. พ่อไม่รักกรูๆๆ... ฮือๆๆๆ.." น้ำตาไหลพรากๆ...

พวกผมถาม.."เฮ๊ย... เป็นอะไร... คิดมากรึเปล่าเพื่อน..."

มันร้องไห้หนักกว่าเดิม..."ฮื่อๆๆๆ ฮือๆๆๆๆ... พ่อไม่รักกรูๆๆ... ......ฮือๆๆๆ.. ขอบ้านเดี่ยว พ่อให้ทาวน์เฮาส์... ฮือๆๆๆ..... ขอเบ็นซ์..พ่อให้บีเอ็ม... ฮือๆๆๆ..."

พวกผมเลยเบิ๊ดกะโหลกกันคนละที....

เพื่อน...เอามือกุมหัว(ทำเสียงเล็กเสียงน้อย..)"ตบซะแรงเลยนะมรึง..." ::006:: ::006:: ::007::


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:23:50 AM
ทำให้นึกถึงแบบเรียนชั้น ม.๒ ที่ผมเคยเรียน... เรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" ไม่ทราบว่าใครเคยได้เรียนบ้างครับ... ผมไปเปิดดูตำราเรียนของนักเรียนตั้งแต่ ม.๑ จนถึง ม.๓ ไม่เห็นเนื้อหาที่ว่าเลย... ผมว่า สพฐ. น่าจะเอากลับมาให้เด็กได้อ่านกันนะครับ... อย่างน้อยก็คงมีเด็กซักคนได้สำเนียกบ้าง... ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็เถอะ...




หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: chai_ay ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:32:04 AM
ถูกต้องอย่างมากครับ ผมคนหนึ่งที่คิดแบบเดียวกัน. และกำลังทำให้ลูกเห็นว่าอะไรไม่ถูกต้อง แต่ก็สร้างปัญหาให้ลูกบ้างเหมือนกันเพราะในสังคมยังมีคนเลวอยู่ (เราสอนลูกว่าอย่างนี้ไม่ถูก แต่คนเลวตำหนิลูกเราว่า คนรอบข้างทำให้มีปัญหา) ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 10:35:30 AM
ทำให้นึกถึงแบบเรียนชั้น ม.๒ ที่ผมเคยเรียน... เรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" ไม่ทราบว่าใครเคยได้เรียนบ้างครับ... ผมไปเปิดดูตำราเรียนของนักเรียนตั้งแต่ ม.๑ จนถึง ม.๓ ไม่เห็นเนื้อหาที่ว่าเลย... ผมว่า สพฐ. น่าจะเอากลับมาให้เด็กได้อ่านกันนะครับ... อย่างน้อยก็คงมีเด็กซักคนได้สำเนียกบ้าง... ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็เถอะ...




....

ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน

เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู

ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู

จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร  

.....



ผมนี่ไง  เคยเรียน  แต่ผมอ่อนกว่าครูนะ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:22:24 PM
กราบขอบคุณและ + ให้ทุกท่านครับผม ::014:: :VOV:


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:22:00 PM
ทำให้นึกถึงแบบเรียนชั้น ม.๒ ที่ผมเคยเรียน... เรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" ไม่ทราบว่าใครเคยได้เรียนบ้างครับ... ผมไปเปิดดูตำราเรียนของนักเรียนตั้งแต่ ม.๑ จนถึง ม.๓ ไม่เห็นเนื้อหาที่ว่าเลย... ผมว่า สพฐ. น่าจะเอากลับมาให้เด็กได้อ่านกันนะครับ... อย่างน้อยก็คงมีเด็กซักคนได้สำเนียกบ้าง... ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็เถอะ...




....

ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน

เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู

ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู

จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร  

.....



ผมนี่ไง  เคยเรียน  แต่ผมอ่อนกว่าครูนะ

แสดงว่าผมแข็งกว่า... ::007:: ::007:: ::007::

::014::



หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Jesada_w ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:30:11 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:31:56 PM
ทำให้นึกถึงแบบเรียนชั้น ม.๒ ที่ผมเคยเรียน... เรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" ไม่ทราบว่าใครเคยได้เรียนบ้างครับ... ผมไปเปิดดูตำราเรียนของนักเรียนตั้งแต่ ม.๑ จนถึง ม.๓ ไม่เห็นเนื้อหาที่ว่าเลย... ผมว่า สพฐ. น่าจะเอากลับมาให้เด็กได้อ่านกันนะครับ... อย่างน้อยก็คงมีเด็กซักคนได้สำเนียกบ้าง... ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็เถอะ...




....

ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน

เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู

ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู

จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร  

.....



ผมนี่ไง  เคยเรียน  แต่ผมอ่อนกว่าครูนะ

แสดงว่าผมแข็งกว่า... ::007:: ::007:: ::007::

::014::



....พลาดแล้วตรู....


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:00:20 PM
ทำให้นึกถึงแบบเรียนชั้น ม.๒ ที่ผมเคยเรียน... เรื่อง "พ่อแม่รังแกฉัน" ไม่ทราบว่าใครเคยได้เรียนบ้างครับ... ผมไปเปิดดูตำราเรียนของนักเรียนตั้งแต่ ม.๑ จนถึง ม.๓ ไม่เห็นเนื้อหาที่ว่าเลย... ผมว่า สพฐ. น่าจะเอากลับมาให้เด็กได้อ่านกันนะครับ... อย่างน้อยก็คงมีเด็กซักคนได้สำเนียกบ้าง... ถึงจะเป็นส่วนน้อยก็เถอะ...




....

ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน

เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู

ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู

จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร  

.....



ผมนี่ไง  เคยเรียน  แต่ผมอ่อนกว่าครูนะ

แสดงว่าผมแข็งกว่า... ::007:: ::007:: ::007::

::014::



....พลาดแล้วตรู....


ภึงพลาด... แต่คะแนนก็ยังล้อกับจำนวนกระทู้นะครับ.... ;D ;D ;D



หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:02:42 PM
ทำลายซะ  ;D
(http://image.ohozaa.com/i/c5e/u6t11.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6c6422c8ebc3c6743683418c44371b70)


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:24:42 PM
ทำลายซะ  ;D
(http://image.ohozaa.com/i/c5e/u6t11.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6c6422c8ebc3c6743683418c44371b70)

แล้วก็กลายเป็น ๑๑(มม.)๓๘(สเปเชี่ยล) ::005:: ::005:: ::005::

::014::



หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: ลุมพินี08 ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:38:59 PM
เด็กอาจจะแยกแยะไม่ออกว่าอะไรควรไม่ควร แต่พอโตขึ้นสามารถแยกแยะความผิดถูกได้ ผมว่าการที่คนเราจะเป็นคนอย่างไรไม่ได้ขึ้นกับสภาพแวดล้อมไปเสียทั้งหมดหรอกครับ แต่อยู่ที่ตัวเองมากกว่าครึ่ง


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:39:36 PM
แม่ปูสอนลูปปูให้เดินตรงๆครับ เรื่องแบบนี้


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: แสนสุข ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 05:23:08 PM
lสังคมกำลังเสื่อมโทรม , แก่งแย่งชิงดี , ใครมือยาวสาวได้สาวเอา , ด้านได้อาย อด ::004::


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: winthai ยาวแค่ไหน ก็ต้องมีปลายสุดเสมอ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 06:07:12 PM
วันนี้ได้ดูหนังสั้น 5 นาทีของคนไทย ติดใจอยู่เรื่องนึง...

มีครอบครัวหนึ่ง ล้มจากพิษเศรฐกิจเลยพาครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ทั้งหมด 3 คน มาอาศัยวัดอยู่... หลวงตาเป็นอัมพาธคนเป็นพ่อต้องอุ้มลงจากกุฏิและเข็นรถเข็นเพื่อพาหลวงตาไปบิณทบาตร...

ชาวบ้านใส่บาตรก็ถามอาการหลวงตา คุณพ่อก็บอกว่าลำบากมากแค่ค่ายารักษาตัวยังไม่มีเลย... ชาวบ้านเลยมอบเงินเป็นค่ายา....

พ่อจะนำเงินที่ได้มาใส่ย่ามลูก พอกลับถึงวัดส่งหลวงตาขึ้นกุฏิ... พ่อจะนับเงินที่ได้มาแล้วยักยอกไว้ส่วนหนึ่ง(เกินครึ่ง..) และนำส่วนที่เหลืออันน้อยนิดใส่ซองแล้วให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา....

ลูกเห็นพฤติกรรมของพ่อ แต่ก็นำซองใส่เงินขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะในกุฏิหลวงตาทุกวัน หลวงตาบอกให้วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ....

คืนวันหนึ่ง.... แม่ถาม..."พ่อจะทำอย่างนี้อีกนานมั๊ย...?"
พ่อ..."เอาน่า... ไว้ลืมตาอ้าปากได้ก่อน ค่อยไปจากวัดนี้..."

เช้าวันหนึ่ง ระหว่างออกไปบิณทบาตร... คุณพ่อขออนุญาติหลวงตาเพื่อเดินไปซื้อบุหรี่ ลูกชายจึงหยิบเงินจากย่ามส่วนนึงมาใส่กระเป๋ากางเกง... พอกลับถึงวัดพ่อก็ทำเหมือนเดิม คือยักยอกเงิน แล้วใส่ซองด้วยเงินที่เหลือและให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา...

เด็กเดินขึ้นไปบนกุฏิพร้อมกับวางซองไว้บนโต๊ะเหมือนเคย.... จากนั้นก็ปิดกระตูก้าวลงบันไดกุฏิ...

เพิ่งนึกออกว่า เราได้ยักยอกเงินไว้ส่วนนึงจากย่ามเพื่อจะมาให้หลวงตายังอยู่ในกางเกง เลยควักเงินออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดกุฏิใหม่...

พอถึงหน้าประตูกุฏิ... เด็กชายค่อยๆแง้มประตูเพราะหลวงตานอนอยู่... แต่ภาพที่เห็นคือ หลวงตากำลังเดินมาหยิบซองบนโต๊ะที่ตนเองเพิ่งวางไปเมื่อกี๊....

เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......

พี่ตั้ว ผมไม่เข้าใจความหมายนี้อะครับ "เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......"  แล้วเด็กจะเสียใจทำไมครับ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ อธิบายให้หน่อยครับพี่ตั้ว

ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 06:20:03 PM
วันนี้ได้ดูหนังสั้น 5 นาทีของคนไทย ติดใจอยู่เรื่องนึง...

มีครอบครัวหนึ่ง ล้มจากพิษเศรฐกิจเลยพาครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ทั้งหมด 3 คน มาอาศัยวัดอยู่... หลวงตาเป็นอัมพาธคนเป็นพ่อต้องอุ้มลงจากกุฏิและเข็นรถเข็นเพื่อพาหลวงตาไปบิณทบาตร...

ชาวบ้านใส่บาตรก็ถามอาการหลวงตา คุณพ่อก็บอกว่าลำบากมากแค่ค่ายารักษาตัวยังไม่มีเลย... ชาวบ้านเลยมอบเงินเป็นค่ายา....

พ่อจะนำเงินที่ได้มาใส่ย่ามลูก พอกลับถึงวัดส่งหลวงตาขึ้นกุฏิ... พ่อจะนับเงินที่ได้มาแล้วยักยอกไว้ส่วนหนึ่ง(เกินครึ่ง..) และนำส่วนที่เหลืออันน้อยนิดใส่ซองแล้วให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา....

ลูกเห็นพฤติกรรมของพ่อ แต่ก็นำซองใส่เงินขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะในกุฏิหลวงตาทุกวัน หลวงตาบอกให้วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ....

คืนวันหนึ่ง.... แม่ถาม..."พ่อจะทำอย่างนี้อีกนานมั๊ย...?"
พ่อ..."เอาน่า... ไว้ลืมตาอ้าปากได้ก่อน ค่อยไปจากวัดนี้..."

เช้าวันหนึ่ง ระหว่างออกไปบิณทบาตร... คุณพ่อขออนุญาติหลวงตาเพื่อเดินไปซื้อบุหรี่ ลูกชายจึงหยิบเงินจากย่ามส่วนนึงมาใส่กระเป๋ากางเกง... พอกลับถึงวัดพ่อก็ทำเหมือนเดิม คือยักยอกเงิน แล้วใส่ซองด้วยเงินที่เหลือและให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา...

เด็กเดินขึ้นไปบนกุฏิพร้อมกับวางซองไว้บนโต๊ะเหมือนเคย.... จากนั้นก็ปิดกระตูก้าวลงบันไดกุฏิ...

เพิ่งนึกออกว่า เราได้ยักยอกเงินไว้ส่วนนึงจากย่ามเพื่อจะมาให้หลวงตายังอยู่ในกางเกง เลยควักเงินออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดกุฏิใหม่...

พอถึงหน้าประตูกุฏิ... เด็กชายค่อยๆแง้มประตูเพราะหลวงตานอนอยู่... แต่ภาพที่เห็นคือ หลวงตากำลังเดินมาหยิบซองบนโต๊ะที่ตนเองเพิ่งวางไปเมื่อกี๊....

เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......

พี่ตั้ว ผมไม่เข้าใจความหมายนี้อะครับ "เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......"  แล้วเด็กจะเสียใจทำไมครับ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ อธิบายให้หน่อยครับพี่ตั้ว

ขอบคุณครับ

ลต.เดินได้ปรกติ... /  เด็กทำอย่างพ่อ...แต่ไมทำเยี่ยงพ่อ     พ่อแม่กับ ลต.รู้กัน   ...  เด็กเสียใจที่รู้ว่า ลต.เดินได้ปกติ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 06:52:20 PM
กราบขออภัยที่ตัดหน้าตอบก่อน  ::014:: ผมเข้าใจผิดหรือถูก...ไม่มีผล แต่ผม + ให้ คุณตั้ว 2 แต้มโดยไม่หวังผลตอบแทนครับ ;)


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 08:04:18 PM
                                                ๏ มีซินแสแก่เฒ่าได้เล่าไข
ถึงเรื่องงิ้วว่าเล่นกันเช่นไร              มีข้อใหญ่นั้นก็เป็น เช่นละคร
แต่ข้อหนึ่งแกเล่าเขาประสงค์      มุ่งจำนงในข้างเป็นทาง สอน
ชี้ทางธรรม์มรรยาทแก่ราษฎร      เหมือนละครสุภาษิตไม่ผิด กัน
เราบวชนาคโกนจุกในยุคก่อน      มีกล่าวกลอนเพราะพริ้งทำ มิ่งขวัญ
การขันหมากยุคเก่าท่านเล่ากัน      มีสวดฉันท์เรียกว่าสวด มาไลย์
เค้าก็คือท่านหวังจะสั่งสอน              แต่ผันผ่อนตามนิยมสมสมัย
มีเฮฮาพาสนุกเครื่องปลุกใจ              สมกับได้มีงานการมงคล
ในหมู่บ้านย่านกลางเมื่อปางก่อน      มีโรงสอนธรรมทานการ กุศล
เพื่อเป็นเครื่องเรืองปัญญาประชาชน      ในตำบลอัตคัตไกล วัดวา
เรียกศาลาโรงธรรมประจำบ้าน      เหมือนสถานที่ฝึกทางศึกษา
บางคราวมีการกุศลปนเฮฮา              เพื่อให้พาเพลิดเพลินเจริญใจ
ฝ่ายจีนเขาได้มีอย่างที่ว่า              เอางิ้วมาฝึกหัดดัดนิสัย
ย่อมดูดดื่มซึมซาบปลาบปลื้มใจ      เหมือนอย่างได้รู้เห็น ที่เป็นจริง
งิ้วเรื่องหนึ่งแกเล่าครั้งเยาว์อยู่      ได้ไปดูจำไว้ได้ ทุกสิ่ง
เกาะในจิตติดแน่นแม้นกับปลิง      เลยเป็นสิ่งสอนใจจนใหญ่ มา
ตามเรื่องนั้นว่ามีเศรษฐีหนึ่ง              เป็นคนซึ่งสูงชาติ วาสนา
มีทรัพย์สินเหลือล้นคณนา              มีบ้านช่องแน่นหนาด้วยข้าไท
ท่านเศรษฐีมีบุตรสุดที่รัก              แกฟูมฟักใฝ่จิตพิสมัย
บุตรคนเดียวแสนจะห่วงดังดวงใจ      หวังจะให้สืบวงศ์ดำรงไป
มีโรงเรียนไกลบ้านอาจารย์สอน      กลัวลูกอ่อนลำบากไม่พราก ได้
อุตส่าห์จ้างครูบามาแต่ไกล              ให้สอนในบ้านตนสู้ปรนปรือ
ฝ่ายลูกเรียนผู้เดียวให้เปลี่ยวจิต      มักเบือนบิดเบื่อ ชังเรื่องหนังสือ
อยากได้เพื่อนพูดจาและหารือ      พ่อก็อือออตามด้วยความรัก
เกณฑ์พวกเด็กในบ้านให้อ่านด้วย      ก็เพื่อช่วยชวนใจให้ สมัคร
ครั้นมีเพื่อนเรียนล้อมอยู่พร้อมพรัก      กลับชวนชักเล่น กันไม่หมั่นเรียน
ครูก็ดีจี้ไชมิได้หยุด                      แกเห็นสุดเอาใจจึงได้เฆี่ยน
หวังให้กลัวอาญาตั้งหน้าเพียร      แต่กลับเพี้ยนผิดคาดถึง ขาดกัน
คือบุตรท่านเศรษฐีหนีไปหา              พ่อฟ้องว่า ครูนี้แกตีฉัน
ปลอบให้เรียนก็ไม่ไปจนใจครัน      ต้องเป็นอันเลิกกับครู ที่อยู่มา
อุตส่าห์จ้างครูใหม่ตามใจลูก              แต่ไม่ถูกใจบุตรสุดจะหา
ครูคนนั้นฉันเข็ดไม่เมตตา              คนนี้ว่าจู้จี้พิรี้พิไร
แต่เปลี่ยนครูอยู่ฉะนี้ไม่มีเหมาะ      มักทะเลาะเลิกเรียน ต้องเปลี่ยนใหม่
พวกครูๆ เข็ดกลัวกันทั่วไป              ถึงจะให้เงินมากไม่อยากเอา
บิดาผู้รักบุตรสุดจะกลุ้ม              ลูกเป็นหนุ่มใหญ่โตยังโง่ เง่า
เที่ยวจ้างครูอยู่ห่างต่างลำเนา      ค่าจ้างเท่าไรนั้นไม่ พรั่นกลัว
แต่ก็ไม่ยืดไปเท่าไรนัก                      ประเดี๋ยวชักเหหันต้องสั่นหัว
เผอิญมาปะครูที่รู้ตัว                      แกหวังชั่วค่าสอนสู้ผ่อนตาม
ศิษย์จะรู้เท่าไรไม่ธุระ                      ชื่อเสียงจะเสียไปก็ไม่ขาม
ศิษย์ผู้ใดตั้งหน้าพยายาม              สอนให้ตามแต่รักสมัครเรียน
ครูคนนี้ถูกใจอยู่ได้ยืด                      ถึงจะจืดจางการเรื่องอ่าน เขียน
ก็ถูกจิตศิษย์ตนย่อมวนเวียน              อยู่จำเนียรโตใหญ่ไร้วิชา
ฝ่ายพ่อแม่รักบุตรสุดจะรัก              บุตรสมัครทางไหนมิได้ว่า
ใช้เงินทองกอบกำไม่นำพา              อยู่ไม่ช้าแกก็ตายทำลายชนม์
ทรัพย์สมบัติมรดกตกแก่ลูก              ไม่ต้องปลูกเปลืองแรงแสวงผล
มีเพื่อนมาฮาฮือนับถือตน              เฝ้าแต่ขนทรัพย์จ่ายสบายจริง
เอาอะไรได้ทุกอย่างช่างสะดวก      จะหยิบหมวกหมวกรี่เหมือน ผีสิง
ทุกอย่างรู้เอาใจไม่ประวิง              ดูเหมือนชิงกันมาคราต้อง การ
ไม่ช้านักทรัพย์ลดหมดสะดวก      จะหยิบหมวกหมวกกระเดียด ข้างเกียจคร้าน
ถ้าเผลอหน่อยคอยหนีตะลีตะลาน       วิ่งเข้าร้านโรงจำนำไม่ อำลา
เพื่อนทั้งมวลล้วนหายเหมือนตายจาก   ที่มีมากคือสหายพวก นายหน้า
บ้านของท่านขายเท่าไร? ให้ราคา      ผมช่วยค้าขายให้ด้วย ไมตรี
เพื่อนสนุกพลุกพล่านขายบ้านช่อง   พอเงินทองหมดเรียบก็ เงียบจี๋
ต่อนี้ไปใครเยือนคือเพื่อนดี              ไม่เช่นนี้เพื่อนโหล่โง่ ระยำ
บุตรเศรษฐีเป็นมาถึงครานี้              ไม่เห็นมีมิตรสหาย มากรายกล้ำ
ผิวผู้ดีมีกระดากพะอากพะอำ              จะคิดทำการอะไรก็ไม่เป็น
ต้องตรำตรากจากย่านถิ่นบ้านเก่า      ขอทานเขาเลี้ยงตนด้วย ข้นเข็ญ
พักสถานศาลเจ้าทุกเช้าเย็น              ค่อยคิดเห็นโทษตัวที่ชั่ว มา
คิดถึงเรื่องเก่าแก่พ่อแม่รัก              สู้ฟูมฟักใฝ่ฝึกให้ ศึกษา
ตามใจลูกเหลือล้นคณนา              ทุกสิ่งสารพัดไม่ขัดใจ
คิดถึงครูผู้สอนแต่ก่อนเก่า              บางคนเฝ้าฝึกฝนพ้นวิสัย
บางคนเฝ้าจู้จี้พิรี้พิไร                      ไม่ถูกใจฟ้องพ่อก็อออือ
จนเหลวไหลได้เข็ญถึงเช่นนี้      พ่อแม่ที่รักลูกทำถูกหรือ
สิ่งใดพาเสียคนกลับปรนปรือ      ร้องไห้ฮือบ่นว่าเหมือนบ้า บอ
วันหนึ่งไปถึงถิ่นบ้านซินแส              ก็เดินแร่เข้าไปหาตรงหน้า หมอ
ร้องขอทานทันทีไม่รีรอ              ฝ่ายท่านหมอมองหน้าไม่ว่าไร
ลงท้ายแกกลอกหน้าหาว่าหลอก      เฮ้ย. เจ้าวอกเอ็งอย่ามาไถล
หลอกดูลูกสาวข้าหรือว่าไร              หรือเข้าใจว่ากูไม่รู้ที
ข้าหมอดูรู้จักลักษณะ                      อย่างมึงน่ะบอกเพศเป็นเศรษฐี
รูปลักษณ์พักตร์เจ้าเผ่าผู้ดี              ทำเช่นนี้ตั้งใจอย่างไร กัน
ลูกเศรษฐีฟังว่าน้ำตาหลั่ง              ตอบเสียงดัง "พ่อแม่รังแกฉัน!"
ร้องไห้โฮซบหน้าพลางจาบัลย์      คนบ้านนั้นต่างพากันมาดู
ท่านเจ้าข้า! พ่อแม่รังแกฉัน              เขาใฝ่ฝันฟูมฟักฉันอักขู
ฉันทำผิดคิดระยำกลับค้ำชู              จะว่าผู้รักลูกถูกหรือไร
ท่านทายฉันนั้นถูกลูกเศรษฐี                  ผู้กลีเลวกว่าบรรดาไพร่
ซึ่งยังรู้กอบการงานใด ๆ              เลี้ยงชีพได้เพียงพอไม่ขอทาน
โอ๊ย! ยิ่งเล่ายิ่งช้ำระกำเหลือ              โปรดจุนเจือเถอะท่าน หมอขอข้าวสาร
เหมือนช่วยชีพข้าเจ้าให้เนานาน      จักเป็นการบุญล้นมีผล งาม
ฝ่ายท่านหมอฟังเล่าสิ้นเค้าเงื่อน      แกจึงเอื้อนโอษฐ์มี วจีถาม
ข้าฟังเจ้าเล่าไปก็ได้ความ              จึงเห็นตามพ่อแม่รังแกตรง
เข็ดหรือไม่ใครรังแกอย่างแม่พ่อ      หรือว่าพอทนดอกบอก ประสงค์
โอ๊ย! หนเดียวชีวิตแทบปลิดปลง      ถ้าซ้ำสองต้องลงอวิจี
อย่ารังแกอีกเลยลูกเคยเข็ด              ขอจงเมตตาเถิดประเสริฐศรี
ท่านหมอฟังยิ้มเยื้อนเอื้อนวจี              เจ้าว่าดีสมจริงทุก สิ่งอัน
ข้าไม่อยากรังแกเช่นแม่พ่อ              ที่เจ้าขอข้าไม่อ่อนตาม ผ่อนผัน
แม้เจ้าขอสิ่งใดข้าให้ปัน              ก็เป็นอันข้าทำซ้ำรังแก
เจ้าจะตกอวิจีไม่ดีดอก                      เจ้าจะออกปากพ้ออย่างพ่อแม่
ลูกเศรษฐีตกตะลึงทะลึ่งแล              โอ๊ย! ผมแย่ถูกล่อลงบ่อตม
เมื่อไม่ให้ใครจะว่าเจ้าข้าเอ๋ย              นี่กลับเย้ยยกคำทิ่ม ตำผม
จะไล่ไปก็ไม่ไล่ให้ระทม              ว่าแล้วซมซานกลับด้วยคับใจ
หมอขยับจับบ่าช้าซีเจ้า              คำที่เล่าบอกข้าน่าเลื่อมใส
พ่อแม่รักลูกผิดชนิดไร                      เขาก็ได้ทุกข์ถมจนล้มตาย
เวลานั้นตัวเจ้ายังเยาว์อยู่              จึงไม่รู้ยั้งตนจนฉิบหาย
เดี๋ยวนี้เจ้ารู้สึกสำนึกกาย              จงขวนขวายฝึกหัดดัด สันดาน
ข้าจักเป็นพ่อแม่ช่วยแก้ให้              ต้องตามใจแต่ข้าจะว่าขาน
ถ้ายอมตามข้าว่าไม่ช้านาน              จักไม่ต้องขอทานเขาต่อไป
ลงท้ายลูกเศรษฐียินดีรับ              ไปอยู่กับซินแสแก้นิสัย
ไม่ว่ามีกิจการสถานใด                      แกใช้ให้ทำสิ้นจนชินการ
แกปรานีจี้ไชด้วยใจรัก                      จนรู้จักค้าขายหลายสถาน
อยู่กับหมอต่อมาไม่ช้านาน              ก็พ้นการทุรพลเป็นคนแคลน
ชาวเราเอ๋ยพ่อแม่มุ่งแต่รัก              สู้ฟูมฟักในบุตรนั้นสุด แสน
แต่ความรักมักเดินจนเกินแกน      เลยเข้าแดนทุกข์ถมระทมกาย
ดังเศรษฐีรักบุตรสุดสวาท              บุตรอุบาทว์มิได้รักสมัคร หมาย
เอาแต่ใจใฝ่ตามความสบาย              พ่อแม่ตายก็เพราะตรมระทมใจ
ยังมิหนำซ้ำว่าด่ากระดูก              หาว่าถูกพ่อแม่รังแกได้
แต่ชาวเราเนาเขตประเทศไทย      คงจะไม่พบปะขอประกัน
เพราะพระราชบัญญัติอุบัติแล้ว      เหมือนดวงแก้วส่องสว่าง ทางสวรรค์
บังคับให้ศึกษาทั่วหน้ากัน              พระคุณธรรม์ข้อนี้ไม่มี เทียม
ที่สุดนี้ชาวเราน้อมเกล้าฯ นบ      พระจอมภพภูบดินทร์พระ ปิ่นเสียม
พระปลุกใจไทยทั่วตั้งตัวเตรียม      ทุกอย่างเยี่ยมยิ่งคุณ วิบุลเอย ฯ


     พระยาอุปกิตศิลปสาร


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 08:21:42 PM
lสังคมกำลังเสื่อมโทรม , แก่งแย่งชิงดี , ใครมือยาวสาวได้สาวเอา , ด้านได้อาย อด ::004::
เรื่องแบบนี้ต้องขออนุญาติพูดว่ามีโคตรเยอะเลยครับสมัยนี้


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:23:09 PM
วันนี้ได้ดูหนังสั้น 5 นาทีของคนไทย ติดใจอยู่เรื่องนึง...

มีครอบครัวหนึ่ง ล้มจากพิษเศรฐกิจเลยพาครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ทั้งหมด 3 คน มาอาศัยวัดอยู่... หลวงตาเป็นอัมพาธคนเป็นพ่อต้องอุ้มลงจากกุฏิและเข็นรถเข็นเพื่อพาหลวงตาไปบิณทบาตร...

ชาวบ้านใส่บาตรก็ถามอาการหลวงตา คุณพ่อก็บอกว่าลำบากมากแค่ค่ายารักษาตัวยังไม่มีเลย... ชาวบ้านเลยมอบเงินเป็นค่ายา....

พ่อจะนำเงินที่ได้มาใส่ย่ามลูก พอกลับถึงวัดส่งหลวงตาขึ้นกุฏิ... พ่อจะนับเงินที่ได้มาแล้วยักยอกไว้ส่วนหนึ่ง(เกินครึ่ง..) และนำส่วนที่เหลืออันน้อยนิดใส่ซองแล้วให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา....

ลูกเห็นพฤติกรรมของพ่อ แต่ก็นำซองใส่เงินขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะในกุฏิหลวงตาทุกวัน หลวงตาบอกให้วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ....

คืนวันหนึ่ง.... แม่ถาม..."พ่อจะทำอย่างนี้อีกนานมั๊ย...?"
พ่อ..."เอาน่า... ไว้ลืมตาอ้าปากได้ก่อน ค่อยไปจากวัดนี้..."

เช้าวันหนึ่ง ระหว่างออกไปบิณทบาตร... คุณพ่อขออนุญาติหลวงตาเพื่อเดินไปซื้อบุหรี่ ลูกชายจึงหยิบเงินจากย่ามส่วนนึงมาใส่กระเป๋ากางเกง... พอกลับถึงวัดพ่อก็ทำเหมือนเดิม คือยักยอกเงิน แล้วใส่ซองด้วยเงินที่เหลือและให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา...

เด็กเดินขึ้นไปบนกุฏิพร้อมกับวางซองไว้บนโต๊ะเหมือนเคย.... จากนั้นก็ปิดกระตูก้าวลงบันไดกุฏิ...

เพิ่งนึกออกว่า เราได้ยักยอกเงินไว้ส่วนนึงจากย่ามเพื่อจะมาให้หลวงตายังอยู่ในกางเกง เลยควักเงินออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดกุฏิใหม่...

พอถึงหน้าประตูกุฏิ... เด็กชายค่อยๆแง้มประตูเพราะหลวงตานอนอยู่... แต่ภาพที่เห็นคือ หลวงตากำลังเดินมาหยิบซองบนโต๊ะที่ตนเองเพิ่งวางไปเมื่อกี๊....

เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......

พี่ตั้ว ผมไม่เข้าใจความหมายนี้อะครับ "เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......"  แล้วเด็กจะเสียใจทำไมครับ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ อธิบายให้หน่อยครับพี่ตั้ว

ขอบคุณครับ

ลต.เดินได้ปรกติ... /  เด็กทำอย่างพ่อ...แต่ไมทำเยี่ยงพ่อ     พ่อแม่กับ ลต.รู้กัน   ...  เด็กเสียใจที่รู้ว่า ลต.เดินได้ปกติ

ตามที่คุณ pasta ตอบครับ... คือเด็กไฝ่ดี เลยจะทำดีไม่เลียนแบบพ่อ... แต่สุดท้ายเห็นว่าหลวงตาเดินได้ เด็กเลยเสียใจอย่างสุดซึ้ง ว่าสิ่งแวดล้อมทุกอย่างคือเรื่องโกหกทั้งหมดครับ....

ปล. ลต.ของคุณ pasta=หลวงตา... พิมพ์อีกหน่อยก็ไม่ได้... ผมเกือบงงเลยครับ...^^! +2 ทอนคืนครับ... ::014:: ;D


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: dignitua-รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 09:57:32 PM
ผมขอขยายความอีกนิดนะครับ... เกี่ยวกับพ่อแม่รังแกฉัน...

มันแล้วแต่มุมมอง และสถานะความจำเป็นของแต่ละช่วงวัย ของแต่ละยุค แต่ละสมัย...

ถ้าเอามุมมองผม... ความรักที่บริสุทธิ์จริงๆ... คือความรักที่มาจากล่างขึ้นบน...

ตอนสมัยเรียน... ผมเลี้ยงสุนัขพันธ์ุพุดเดิ้ล 1 ตัว... แปลกใจอยู่เหมือนกัน ตรงที่ไม่ว่าเราโกรธหรือตวาดไปอย่างไร... มันก็จะไม่ไปไหน... แต่จะทำตัวหงอยๆและเหลือบตาคอยดูเรา... ถ้าเราใจอ่อนยิ้มให้ มันจะดีใจอย่างสุดฤทธิ์ และทำตัวเหมือนไม่มีอะไร ลืมทุกอย่างแค่เรายิ้มให้ก็พอ...

พอมีลูก... ไม่ว่าจะเสียใจอะไร... เจ็บตัวอย่างไร... คนแรกที่แกวิ่งเข้าหาคือไม่พ่อก็แม่....

แต่เรา... มีอะไรเสียใจ... เจ็บตัวอย่างไร... กลับแปรเปลี่ยนเป็นพลังในการกดดันคนในครอบครัว.... แทนที่จะไปลงกับคนที่กระทำ..(อันนี้ผมคนเดียวครับ...)

พ่อแม่กำลังรังแกลูกในทุกๆวัน... ถ้าไม่เคยมองเห็นถึงความรักของลูกๆที่ให้กับเรา ที่คอยคิดถึงเรา...

พ่อแม่ไม่มีลูกก็อยู่ได้... แต่ถ้าลูกไม่มีพ่อแม่เท่ากับตาย....

จะไม่มีวันที่พ่อแม่รังแกฉัน... ถ้าพ่อแม่มีความรับผิดชอบ และมีสามัญสำนึกที่ดีในการเลี้ยงดูลูก...

ถ้าเมื่อไหร่เราทำให้ลูกๆมีความรู้สึกว่า "พ่อแม่รังแกฉัน"... ทั้งที่เราทำดีที่สุดแล้ว..(ดีจริงๆทุกด้าน..) ก็แค่ข้ออ้างของลูกๆที่กระทำตัวผิดๆตามเพื่อนที่คบ แล้วล้มเหลว... และไม่มองตัวเอง โทษแต่ว่าพ่อแม่รังแก....

บางทีที่เราตามใจไปบ้างโดยไม่มีเหตุผล... ก็เพราะ... กรูรักพวกมรึง.... เรารักลูกครับ... :-\


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: winthai ยาวแค่ไหน ก็ต้องมีปลายสุดเสมอ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 10:55:02 PM
วันนี้ได้ดูหนังสั้น 5 นาทีของคนไทย ติดใจอยู่เรื่องนึง...

มีครอบครัวหนึ่ง ล้มจากพิษเศรฐกิจเลยพาครอบครัว พ่อ แม่ ลูก ทั้งหมด 3 คน มาอาศัยวัดอยู่... หลวงตาเป็นอัมพาธคนเป็นพ่อต้องอุ้มลงจากกุฏิและเข็นรถเข็นเพื่อพาหลวงตาไปบิณทบาตร...

ชาวบ้านใส่บาตรก็ถามอาการหลวงตา คุณพ่อก็บอกว่าลำบากมากแค่ค่ายารักษาตัวยังไม่มีเลย... ชาวบ้านเลยมอบเงินเป็นค่ายา....

พ่อจะนำเงินที่ได้มาใส่ย่ามลูก พอกลับถึงวัดส่งหลวงตาขึ้นกุฏิ... พ่อจะนับเงินที่ได้มาแล้วยักยอกไว้ส่วนหนึ่ง(เกินครึ่ง..) และนำส่วนที่เหลืออันน้อยนิดใส่ซองแล้วให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา....

ลูกเห็นพฤติกรรมของพ่อ แต่ก็นำซองใส่เงินขึ้นไปวางไว้ที่โต๊ะในกุฏิหลวงตาทุกวัน หลวงตาบอกให้วางไว้ตรงนั้นแหล่ะ....

คืนวันหนึ่ง.... แม่ถาม..."พ่อจะทำอย่างนี้อีกนานมั๊ย...?"
พ่อ..."เอาน่า... ไว้ลืมตาอ้าปากได้ก่อน ค่อยไปจากวัดนี้..."

เช้าวันหนึ่ง ระหว่างออกไปบิณทบาตร... คุณพ่อขออนุญาติหลวงตาเพื่อเดินไปซื้อบุหรี่ ลูกชายจึงหยิบเงินจากย่ามส่วนนึงมาใส่กระเป๋ากางเกง... พอกลับถึงวัดพ่อก็ทำเหมือนเดิม คือยักยอกเงิน แล้วใส่ซองด้วยเงินที่เหลือและให้ลูกนำขึ้นไปถวายหลวงตา...

เด็กเดินขึ้นไปบนกุฏิพร้อมกับวางซองไว้บนโต๊ะเหมือนเคย.... จากนั้นก็ปิดกระตูก้าวลงบันไดกุฏิ...

เพิ่งนึกออกว่า เราได้ยักยอกเงินไว้ส่วนนึงจากย่ามเพื่อจะมาให้หลวงตายังอยู่ในกางเกง เลยควักเงินออกมาแล้วเดินขึ้นบันไดกุฏิใหม่...

พอถึงหน้าประตูกุฏิ... เด็กชายค่อยๆแง้มประตูเพราะหลวงตานอนอยู่... แต่ภาพที่เห็นคือ หลวงตากำลังเดินมาหยิบซองบนโต๊ะที่ตนเองเพิ่งวางไปเมื่อกี๊....

เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......

พี่ตั้ว ผมไม่เข้าใจความหมายนี้อะครับ "เด็กชายก้าวเดินถอยหลังด้วยความเสียใจ... และนั่งทรุดตัวอยู่หน้าประตูกุฏิหลวงตา พร้อมเงินที่ยังคงกำอยู่ในมือ......"  แล้วเด็กจะเสียใจทำไมครับ ไม่เข้าใจจริงๆ ครับ อธิบายให้หน่อยครับพี่ตั้ว

ขอบคุณครับ

ลต.เดินได้ปรกติ... /  เด็กทำอย่างพ่อ...แต่ไมทำเยี่ยงพ่อ     พ่อแม่กับ ลต.รู้กัน   ...  เด็กเสียใจที่รู้ว่า ลต.เดินได้ปกติ

ตามที่คุณ pasta ตอบครับ... คือเด็กไฝ่ดี เลยจะทำดีไม่เลียนแบบพ่อ... แต่สุดท้ายเห็นว่าหลวงตาเดินได้ เด็กเลยเสียใจอย่างสุดซึ้ง ว่าสิ่งแวดล้อมทุกอย่างคือเรื่องโกหกทั้งหมดครับ....

ปล. ลต.ของคุณ pasta=หลวงตา... พิมพ์อีกหน่อยก็ไม่ได้... ผมเกือบงงเลยครับ...^^! +2 ทอนคืนครับ... ::014:: ;D

กระจ่างครับ ขอบคุณพี่ๆ ทั้งสองครับ

ผมไม่ได้อ่านเนื้อเรื่องให้ละเอียดเอง แค่นี้ก็คิดไม่ได้ อิอิ


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ พฤศจิกายน 30, 2010, 12:00:49 AM
  บรรยายไม่ได้มันยาว  แต่นายแน่มาก"อรรถเพื่อนรัก"  เพื่อนลูกชายคนโตผมเองครับ ::002:: ::002:: ::002:: ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: พ่อแม่รังแกฉัน
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 30, 2010, 07:16:24 AM
  บรรยายไม่ได้มันยาว  แต่นายแน่มาก"อรรถเพื่อนรัก"  เพื่อนลูกชายคนโตผมเองครับ ::002:: ::002:: ::002:: ::005:: ::005:: ::005::

 ::014:: :VOV: :VOV: :VOV: