เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 11:48:05 AM



หัวข้อ: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 11:48:05 AM
          บทความดีๆเกี่ยวกับการโกหก..  แม้เราทุกคนจะได้รับการสั่งสอนจากผู้ใหญ่มาตั้งแต่เล็กแต่น้อย ให้พูดแต่ความจริง ไม่ให้พูดโกหก และสำหรับชาวพุทธ การโกหกถือเป็นการผิดศีล แต่จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แทบทุกคนไม่มีใครที่ตลอดชีวิตไม่เคยโกหกเลย ...

การโกหกเป็นสิ่งไม่ดี เราทุกคนรู้และไม่มีใครชอบ แต่เพราะอะไร ทำไมถึงต้องโกหก

ยิ่งใกล้ชิดยิ่งโกหก

นักจิตวิทยาพบว่า มนุษย์เริ่มโกหกเป็นตั้งแต่อายุ 2 ขวบ และเมื่ออายุได้ 5 ขวบ ความสามารถในการโกหกจะได้รับการพัฒนาขึ้นอีกมาก แต่อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะในทางจิตวิทยาถือว่าการโกหกเป็นธรรมชาติของเด็กที่เกิดขึ้นอย่างบริสุทธิ์ ไม่มีพิษมีภัย เพราะเด็กยังไม่สามารถแยกแยะจินตนาการออกจากความจริงได้

เด็กมักโกหกเพราะความกลัว ต้องการเลียนแบบและเรียกร้องความสนใจจากผู้ใหญ่

แต่เมื่อโตขึ้น ไม่ว่าหญิงและชาย ประเภทและระดับการโกหกจะยิ่งมากขึ้นและซับซ้อนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

งานวิจัยล่าสุดของ โรเบิร์ต เฟลด์แมน อาจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแมสซาซูเซตส์ และผู้เขียนหนังสือเรื่อง The Liar in Your Life พบว่า ระหว่างการสนทนาทุกๆ 10 นาที จะมีการโกหกประมาณ 2-3 ครั้ง และในบางคู่สนทนาอาจเกิดขึ้นได้มากถึง 12 ครั้ง

เจมส์ แพตเตอร์สัน ผู้เขียนหนังสือ The Day America Told the Truth เผยว่า ไม่ว่าคู่สนทนาจะเป็นใครก็ตามแต่ แทบทุกครั้งของการสนทนามักจะมีเรื่องโกหกร่วมอยู่ด้วยเสมอ เป็นไปไม่ได้เลยที่ทุกคนจะพูดความจริงต่อกันทั้งหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาคนใกล้ชิดอย่างคู่รัก พ่อ แม่ ลูก

โกหกกันเพื่ออะไร
การโกหกเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลาตราบเท่าที่มีการสื่อสารกัน แม้กระทั่งการสื่อสารข้อความผ่านอีเมล หรือการส่งข้อความสั้นทางโทรศัพท์ (sms)ก็เป็นอีกช่องทางยอดฮิตในการโกหก

พอล เอ๊กแมน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยา มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซึ่งศึกษาเรื่องการโกหกมานานกว่าสี่สิบปี ลงความเห็นว่า “มนุษย์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการโกหกได้ ดังนั้นการทำความเข้าใจเรื่องการโกหกจะเป็นผลดีต่อชีวิต”ว่าจะดีขึ้นแค่ไหน เราคงต้องมาพิจารณาดูประเภทของการโกหกก่อน

โกหกสีขาว (White Lie) เป็นการโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง

งานวิจัยหลายชิ้นระบุว่า การ “รู้จักโกหก”เพื่อเข้าสังคมนั้น ส่งผลให้บุคคลนั้นๆ เป็นที่ชื่นชอบของคนในสังคมมากกว่าผู้ที่พูดแต่ความจริงเพราะการเข้าสังคมบางครั้งจำเป็นต้องปรุงแต่คำพูดซึ่งต่างไปจากความรู้สึกที่แท้จริงเพื่อให้คู่สนทนาสบายใจและประทับใจ

โกหกเพื่อปกป้องตนเอง  เป็นการโกหกเพื่อการเอาตัวรอด เช่นกลัวความผิด กลัวถูกทอดทิ้ง กลัวเสียเกียรติ กลัวการเผชิญหน้า กลัวความผิดหวัง ฯลฯ การโกหกประเภทนี้ในบางครั้งอาจร้ายแรงถึงขั้นโยนความผิด ใส่ความผู้อื่น เป็นพยานเท็จ ฯลฯ

โกหกเพื่อหวังผลประโยชน์ เป็นการโกหกเพื่อทำให้ตนเองได้รับการยอมรับ ความไว้วางใจ ได้โอกาสในการทำงาน มักเป็นในรูปของการปลอมแปลงข้อมูลทางคุณวุฒิ คุณสมบัติ ฐานะการเงิน ฯลฯ

โกหกตนเอง มักเกิดกับคนที่สูญเสียความมั่นใจ สับสน และหวาดกลัวความจริง คนประเภทนี้มักสร้างเรื่อง “หลอกตนเอง”ให้คลายจากความทุกข์ชั่วขณะ เช่นหลอกว่าคนรักที่ทอดทิ้งไปยังมีใจให้อยู่เสมอ และสุดท้ายคนเหล่านี้มักโทษตนเอง อาจเลยไปถึงขั้นทำร้ายร่างกายตนเองหรือตกอยู่ในภาวถซึมเศร้าก็มี

และเมื่อไรก็ตามที่การโกหกลักษณะนี้มีการพัฒนาการมากขึ้น ข้อมูลที่ไม่จริงทั้งหลายก็จะถูกตอกย้ำใส่หูตนเองซ้ำๆ จนตัวเองเริ่มเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง จากนั้นจึงนำเรื่องไม่จริง(ที่ตัวเองเชื่อว่าจริง)นี้ไปบอกผู้อื่นต่อ ทางจิตเวชถือว่าอาการเช่นนี้อยู่ในข่ายอันตรายที่ต้องได้รับการบำบัดเยียวยาอย่างเร่งด่วน

ผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีความสามารถในการใช้สมองซีกขวา รวบรวมเรื่อง จัดการอารมณ์และความรู้สึกได้ดีกว่าผู้ชาย ผู้หญิงมักโกหกเพื่อถนอมความรู้สุก รักษาน้ำใจของคนใกล้ชิด

• ผู้ชาย * มักโกหกเพื่อผลประโยชน์ของตนเองและมักเห็นว่าการโกหกเป็นทางออกที่ง่ายที่สุด สถิคิโดยเฉลี่ย ผู้ชายจะโกหกมากถึง 6 ครั้งต่อวัน ขณะที่ผู้หญิงจะโกหกเพียง 2 ครั้งต่อวัน

• - ประโยคโกหกยอดฮิตของทั้งหญิงและชาย “ไม่เป็นไร… สบายดี”

• - ประโยคโกหกยอดฮิตที่ทำให้คนรักหน้ามืดตามัว “คุณเป็นคนเดียวที่ฉันจะรักจนวันตาย”

• - ประโยคโกหกยอดฮิตที่คนมักใช้กับคนรักเพื่อหวังให้อีกฝ่ายใจอ่อนยอมยกโทษให้ “รับรองจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก…ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย”

จะรู้ได้อย่างไรว่าใครโกหก
นักจิตวิทยาพบสถิติที่น่าสนใจว่า บรรดาคนพูดโกหกจำนวนกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ หากพบว่าไม่มีใครจับได้ คนเหล่านั้นก็มีแนวโน้มจะพูดโกหกต่อไปเรื่อยๆ เพราะเห็นว่าการโกหกเป็นเรื่องธรรมดา

แต่เชื่อหรือไม่ว่า ไม่ว่าคนคนนั้นจะโกหกได้แนบเนียนอย่างไร ก็ไม่อาจปิดบังปฏิกิริยาในร่างกายขณะโกหกได้ เช่นอัตราการเต้นของหัวใจและชีพจรจะไม่สม่ำเสมอ เหงื่อจะออกมากขึ้น อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น ที่สำคัญระดับความดันโลหิจจะสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดการระคายเคืองในระดับเนื้อเยื่อ เช่นบริเวณจมูก ลำคอ ใบหน้า คนที่กำลังโกหกจึงมักเกาหรือถูผิวหนังบริเวณนั้นบ่อยๆเพื่อลดการระคายเคือง

อาการผิดปกติที่พบเห็นทั่วไปเมื่อเวลาโกหก

1. หลบสายตา กะพริบตาหรือกลอกตามองซ้ายขวาไปมาบ่อยครั้งอย่างไม่จำเป็น
2. กลืนน้ำลายบ่อยกว่าปกติ อาการนี้ผู้ชายจะเป็นมากกว่า
3. น้ำเสียงไม่ปกติ ขึ้นเสียง โวยวายเมื่อถูกถามซ้ำๆเพราะคนโกหกจะไม่สามารถจดจำรายละเอียดเล็กๆน้อยๆได้นาน หรือเล่าความได้ครบถ้วนเหมือนตอนที่เล่าครั้งแรก
4. ตอบคำถามด้วยการย้ำคำพูดหรือหยุดชะงัก ก่อนจะตอบคำถามแบบยืดยาวด้วยการทวนคำถามอีกรอบ ทั้งนี้เพื่อประวิงเวลาในการสร้างเรื่องโกหก

โกหกแล้วได้อะไร
อันดับแรกคือ ความโล่งอกที่หลุดพ้นภาวะหน้าสิ่วหน้าขวานนั้นมาได้ แต่สิ่งที่จะตามมาติดๆคือ ความกังวลใจ กลัวไปสารพัด เพราะไม่อยากถูกจับได้

แต่ยิ่งกลัวมากเท่าไร โอกาสที่การโกหกจะลุกลามต่อไปก็มีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น เพราะเมื่อกลัวว่าที่โกหกไปแล้วจะไม่แนบเนียนก็ย่อมต้องโกหกเรื่องอื่นๆ ตามมาเพื่อเสริมความน่าเชื่อถือขึ้นอีกเป็นชั้นๆ บางกรณีเมื่อโกหกแล้วยังไม่มีใครจับได้ ก็ได้ใจและทำต่อไปเรื่อยๆ สำหรับบางคนเลยเป็นสิ่งที่กลายเป็นนิสัยที่แก้ไม่หาย

แต่ความลับไม่มีในโลก ดังนั้นไม่ว่าการโกหกจะถูกเปิดโปงด้วยวิทยาการล้ำสมัยหรือเป็นการจนมุมง่ายๆด้วยวิธีใดก็ตามที ผลที่ผู้โกหกจะได้รับคงไม่แตกต่างไปจากเด็กเลี้ยงแกะที่ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครเชื่อถือและให้ความไว้วางใจอีกต่อไป
 







                             ก๊อปปี้มาจากเวปอื่นครับ  ;D           สวัสดีครับ...  pasta   ::014:: :VOV: :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 11:59:41 AM
ขอบคุณครับ ว่ากันว่าการโกหกไม่ยาก แต่จะยากตรงที่มันต้องโกหกตลอดไปให้เหมือนเดิม เช่นโกหกภรรยาเป็นต้น :~)


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:11:02 PM
ขอบคุณมาก  + ๑ ให้แล้ว ครับ..  :D


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:19:23 PM
ขอบคุณมาก  + ๑ ให้แล้ว ครับ..  :D

กราบขอบคุณครับพี่  ::014:: :VOV:


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:21:12 PM
"โกหกสีขาว (White Lie) เป็นการโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง"

 :Dผมทำบ่อยครับ เวลากลับบ้านดึกๆ ขอบคุณท่าน pasta ครับ


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:32:02 PM
"โกหกสีขาว (White Lie) เป็นการโกหกด้วยเจตนาดี เพื่อถนอมความรู้สึกและรักษาน้ำใจ แทนที่จะบอกความจริงที่เชื่อว่าผู้ฟังคงรับไม่ได้ออกไป บางครั้งการโกหกในลักษณะนี้เป็นการพูดเพื่อให้กำลังใจอีกฝ่าย เรียกได้ว่าเป็นการโกหกเพื่อทำให้ผู้อื่นมีความสุขนั่นเอง"

 :Dผมทำบ่อยครับ เวลากลับบ้านดึกๆ ขอบคุณท่าน pasta ครับ


ครับผม  ::014:: :VOV:


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:40:58 PM
ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:51:51 PM
               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   ::004::        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     ::013::





หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:55:21 PM
               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   ::004::        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     ::013::







พอกันครับพี่ มีแต่สังคมคนเวปนี้เท่านั้นที่ผมกล้าพูดตรงๆด้วย  อาชีพผมเองถ้าพูดตรงหมดได้มีคนฆ่าตัวตายแน่ๆ ::014:: ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: ฅนบ้านนอก ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 12:58:39 PM

              ขอบคุณท่านพาสต้ามากครับสำหรับสิ่งดีๆที่คอยบอกคอยเตือนสติ
              แต่บางครั้ง    ผมรู้ว่าเขาโกหกเขาหลอกผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ครับ....(บางกรณี)... ::014::


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:12:20 PM
ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  ::005:: ::005:: ::005::

 กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
 ภรรยา      นี่ เธอวันนี้จะกินอะไร ดีจ๊ะ :VOV:
 สามี         อะไรก็ได้จ๊ะ
 ภรรยา      งั้นผัดผัก รวมมิตรนะ
 สามี         ก็ได้
 หลังจากนั้น ภรรยาก็หายเข้าไปในครัว  1 ชั่วโมง
 ภรรยา ตะโกนออกมาจากใน ครัว ว่า            กับข้าวเสร็จแล้ว  พร้อมตักมาให้ สามี ชิม
 สามี         ในขณะที่ชิม    :OO   ::010:: ::010:: ::010:: ::010:: ::010::  :~)  :~)
 ภรรยา      อร่อยมั้ย  ขาดอะไรบ้าง  
 สามี         เอ่อ.....อืม.....   (ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนที่แล้ว  สถานการณ์นี้เคยกิดขึ้น มาแล้ว 1 ครั้ง ยังจำแม่น กับคำถามที่ว่า  อร่อยมั้ย ขาด   อะไรบ้าง   ตอนนั้นตอบไปว่า " โคตรเค็มเลยอ่ะ" :~)    ก็โดนสวนกลับว่า   "ทำไมไม่ทำเองเลย ว่ะ  พอกรูทำก็บ่น" >:(
  ย้อนกลับมา  เวลาปัจุบัน  กับคำถาม เดิมอีกครั้ง กับคำถามที่  ขาดอะไรอีกมั้ย  
 สามี         "ก็อร่อย ดี น่ะ"  ขณะนั้น ความคิดเริ่มแล่น เข้ามาใน สมอง แล้ว เค้าก็  ปิ้ง ๆๆๆ   ;D  พร้อมพูดในใจว่า  ออกไปข้างนอกดีกว่า
                 เดี๋ยวให้แม่ยายกลับมาก่อน  ::005:: ::005::
  สามี      นี่เธอ  ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะ  จะไป  บ้าน ........    เดี๋ยว
 ภรรยา     รีบไปรีบกลับ นะ    :VOV: :VOV:
 สามี         จ้า    ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

  ผู้เป็น สามี  ใช้เวลา อยู่ 2 ชั่วโมงกับร้านน้ำชา หน้าปากซอย และคอยดูแม่ยายว่ากลับมาตอนไหน  เมื่อแม่ยายกลับเข้าไปในบ้าน ได้  20 นาที   ผู้เป็นสามี ก็ตามแม่ยายเข้าไปใน บ้าน พร้อมกับได้ยินเสียงว่า
 แม่ยาย        โอ้โห  :o นี่กับข้าวหรือ อาหารแมว ว่ะ แบบนี้ใครจะกินลง   ::012:: ::013::
 ภรรยา         ก็เมื่อกี้   พี่เค้าบอกว่าอร่อยดีนี่  ???
 แม่ยาย        อร่อย ของ มึงคนเดียวซิ                     สามีก็เข้ามาแจม พอดี
 สามี            เถอะน่านะ อะไร ผมก็กินได้   เรื่องแค่นี้เอง  อย่ามีเรื่อง มีราวกันเลย   ::008::
 แม่ยายเลยเอา ผัดผักเข้าครัวเพื่อแก้ รสชาดใหม่ทั้งหมด
 ในขณะที่สามี บอกกับ ภรรยาว่า "  เถอะน่า ปล่อยๆแกบ้าง  แกอยากทำอะไร อย่าไปขัดแก นะ แก แม่เรา นะ "  ::008::
 ภรรยา        เงียบ   หน้างอ   งอนแม่ยาย  ::004:: ::001:: ::001:: ::001::
สามี   นึกในใจว่า "กูรอดตายแล้วโว้ย   ได้กินกับข้าวอร่อยฝีมือแม่ยาย  แถมไม่ต้อง แดรก ไอ้ผัดผัก นรกนั้น"  ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::  
  จบ....
 




หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:21:39 PM
ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  ::005:: ::005:: ::005::

 กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
 ภรรยา      นี่ เธอวันนี้จะกินอะไร ดีจ๊ะ :VOV:
 สามี         อะไรก็ได้จ๊ะ
 ภรรยา      งั้นผัดผัก รวมมิตรนะ
 สามี         ก็ได้
 หลังจากนั้น ภรรยาก็หายเข้าไปในครัว  1 ชั่วโมง
 ภรรยา ตะโกนออกมาจากใน ครัว ว่า            กับข้าวเสร็จแล้ว  พร้อมตักมาให้ สามี ชิม
 สามี         ในขณะที่ชิม    :OO   ::010:: ::010:: ::010:: ::010:: ::010::  :~)  :~)
 ภรรยา      อร่อยมั้ย  ขาดอะไรบ้าง 
 สามี         เอ่อ.....อืม.....   (ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนที่แล้ว  สถานการณ์นี้เคยกิดขึ้น มาแล้ว 1 ครั้ง ยังจำแม่น กับคำถามที่ว่า  อร่อยมั้ย ขาด   อะไรบ้าง   ตอนนั้นตอบไปว่า " โคตรเค็มเลยอ่ะ" :~)    ก็โดนสวนกลับว่า   "ทำไมไม่ทำเองเลย ว่ะ  พอกรูทำก็บ่น" >:(
  ย้อนกลับมา  เวลาปัจุบัน  กับคำถาม เดิมอีกครั้ง กับคำถามที่  ขาดอะไรอีกมั้ย 
 สามี         "ก็อร่อย ดี น่ะ"  ขณะนั้น ความคิดเริ่มแล่น เข้ามาใน สมอง แล้ว เค้าก็  ปิ้ง ๆๆๆ   ;D  พร้อมพูดในใจว่า  ออกไปข้างนอกดีกว่า
                 เดี๋ยวให้แม่ยายกลับมาก่อน  ::005:: ::005::
  สามี      นี่เธอ  ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะ  จะไป  บ้าน ........    เดี๋ยว
 ภรรยา     รีบไปรีบกลับ นะ    :VOV: :VOV:
 สามี         จ้า    ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

  ผู้เป็น สามี  ใช้เวลา อยู่ 2 ชั่วโมงกับร้านน้ำชา หน้าปากซอย และคอยดูแม่ยายว่ากลับมาตอนไหน  เมื่อแม่ยายกลับเข้าไปในบ้าน ได้  20 นาที   ผู้เป็นสามี ก็ตามแม่ยายเข้าไปใน บ้าน พร้อมกับได้ยินเสียงว่า
 แม่ยาย        โอ้โห  :o นี่กับข้าวหรือ อาหารแมว ว่ะ แบบนี้ใครจะกินลง   ::012:: ::013::
 ภรรยา         ก็เมื่อกี้   พี่เค้าบอกว่าอร่อยดีนี่  ???
 แม่ยาย        อร่อย ของ มึงคนเดียวซิ                     สามีก็เข้ามาแจม พอดี
 สามี            เถอะน่านะ อะไร ผมก็กินได้   เรื่องแค่นี้เอง  อย่ามีเรื่อง มีราวกันเลย   ::008::
 แม่ยายเลยเอา ผัดผักเข้าครัวเพื่อแก้ รสชาดใหม่ทั้งหมด
 ในขณะที่สามี บอกกับ ภรรยาว่า "  เถอะน่า ปล่อยๆแกบ้าง  แกอยากทำอะไร อย่าไปขัดแก นะ แก แม่เรา นะ "  ::008::
 ภรรยา        เงียบ   หน้างอ   งอนแม่ยาย  ::004:: ::001:: ::001:: ::001::
สามี   นึกในใจว่า "กูรอดตายแล้วโว้ย   ได้กินกับข้าวอร่อยฝีมือแม่ยาย  แถมไม่ต้อง แดรก ไอ้ผัดผัก นรกนั้น"  ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: 
  จบ....
 




นินทาเมียมันบาปนะบัง ::005::


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:22:44 PM
               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   ::004::        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     ::013::





การค้าการขายก็ต้องโกหกเป็นธรรมดา ครับ ลุง ผมก็โกหก ยอมรับ
 ผมไม่กล้าพูดหรอกครับ   สายชารท์ มาเส้น นึง 15-18 บาท ขาย  100  ลูกค้าต่ออย่างมากก็ได้แค่ 80 บาท
โอ้ย นี้ก็เท่าทุนแล้ว ลดไม่ได้  ผมไม่บอกหรอก ครับ  มันมาเส้นนึง 18 บาท ขาย  80 บาทเนี้ย เท่าทุนแล้ว   ::007:: ::007::
 โดนถีบ เอาง่ายๆ  :~) :~)


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:25:28 PM
งั้นโทรศัพท์ที่ว่าซ่อม 400 ก็200 ละกัน 8)


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:28:06 PM
งั้นโทรศัพท์ที่ว่าซ่อม 400 ก็200 ละกัน 8)

 :OO   ผมยังไม่ได้เห็นเครื่อง เลย อ่ะ  :~) :~) :~)  ส่งมาซิจะ ฟันให้เละ เล้ย   :D~ :D~ ::007:: ::007::



นินทาเมียมันบาปนะบัง ::005::

 :OO  ไหนชื่อเมีย ผม  ม่ายยยมีซักกะนิด    ::005:: ::005:: ::005::            ::007:: ::007:: ::007::    ::014::


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:30:08 PM
 :OOวิตถาร ไม่เว้นกระทั่งโทรศัพท์ :OO


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:31:56 PM
:OOวิตถาร ไม่เว้นกระทั่งโทรศัพท์ :OO

ตรงรูชาทร์นั้น แหละ  :D~ :D~ :D~ ซี้ดดดดดดดด


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:32:10 PM
งั้นโทรศัพท์ที่ว่าซ่อม 400 ก็200 ละกัน 8)

 :OO   ผมยังไม่ได้เห็นเครื่อง เลย อ่ะ  :~) :~) :~)  ส่งมาซิจะ ฟันให้เละ เล้ย   :D~ :D~ ::007:: ::007::



นินทาเมียมันบาปนะบัง ::005::

 :OO  ไหนชื่อเมีย ผม  ม่ายยยมีซักกะนิด    ::005:: ::005:: ::005::            ::007:: ::007:: ::007::    ::014::
ตรูเซฟไว้ละ


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 01:35:47 PM
งั้นโทรศัพท์ที่ว่าซ่อม 400 ก็200 ละกัน 8)

 :OO   ผมยังไม่ได้เห็นเครื่อง เลย อ่ะ  :~) :~) :~)  ส่งมาซิจะ ฟันให้เละ เล้ย   :D~ :D~ ::007:: ::007::



นินทาเมียมันบาปนะบัง ::005::



 :OO  ไหนชื่อเมีย ผม  ม่ายยยมีซักกะนิด    ::005:: ::005:: ::005::            ::007:: ::007:: ::007::    ::014::
ตรูเซฟไว้ละ
(http://image.ohozaa.com/ik/yoyox44.gif) (http://image.ohozaa.com/) (http://image.ohozaa.com/i8/emoticons033.gif) (http://image.ohozaa.com/) (http://image.ohozaa.com/iq/x1pxj2zgamiiot4yombg_az_eyvibtcyyzy.gif) (http://image.ohozaa.com/) (http://image.ohozaa.com/i4/a588580022yj0.gif) (http://image.ohozaa.com/)


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 03:19:32 PM
ขอบคุณครับ ว่ากันว่าการโกหกไม่ยาก แต่จะยากตรงที่มันต้องโกหกตลอดไปให้เหมือนเดิม เช่นโกหกภรรยาเป็นต้น :~)
ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  ::005:: ::005:: ::005::

              ขอบคุณท่านพาสต้ามากครับสำหรับสิ่งดีๆที่คอยบอกคอยเตือนสติ
              แต่บางครั้ง    ผมรู้ว่าเขาโกหกเขาหลอกผมก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ครับ....(บางกรณี)... ::014::
ผมทำบ่อยครับเวลาสาวๆถามว่า อ้วนไหม กับข้าวอร่อยเปล่า   ความจริงเป็นสิ่งไม่ตายครับ  แต่ถ้าพูดความจริงไปผมจะตายก่อนได้  ::005:: ::005:: ::005::

 กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว
 ภรรยา      นี่ เธอวันนี้จะกินอะไร ดีจ๊ะ :VOV:
 สามี         อะไรก็ได้จ๊ะ
 ภรรยา      งั้นผัดผัก รวมมิตรนะ
 สามี         ก็ได้
 หลังจากนั้น ภรรยาก็หายเข้าไปในครัว  1 ชั่วโมง
 ภรรยา ตะโกนออกมาจากใน ครัว ว่า            กับข้าวเสร็จแล้ว  พร้อมตักมาให้ สามี ชิม
 สามี         ในขณะที่ชิม    :OO   ::010:: ::010:: ::010:: ::010:: ::010::  :~)  :~)
 ภรรยา      อร่อยมั้ย  ขาดอะไรบ้าง 
 สามี         เอ่อ.....อืม.....   (ย้อนกลับไปเมื่อ เดือนที่แล้ว  สถานการณ์นี้เคยกิดขึ้น มาแล้ว 1 ครั้ง ยังจำแม่น กับคำถามที่ว่า  อร่อยมั้ย ขาด   อะไรบ้าง   ตอนนั้นตอบไปว่า " โคตรเค็มเลยอ่ะ" :~)    ก็โดนสวนกลับว่า   "ทำไมไม่ทำเองเลย ว่ะ  พอกรูทำก็บ่น" >:(
  ย้อนกลับมา  เวลาปัจุบัน  กับคำถาม เดิมอีกครั้ง กับคำถามที่  ขาดอะไรอีกมั้ย 
 สามี         "ก็อร่อย ดี น่ะ"  ขณะนั้น ความคิดเริ่มแล่น เข้ามาใน สมอง แล้ว เค้าก็  ปิ้ง ๆๆๆ   ;D  พร้อมพูดในใจว่า  ออกไปข้างนอกดีกว่า
                 เดี๋ยวให้แม่ยายกลับมาก่อน  ::005:: ::005::
  สามี      นี่เธอ  ผมออกไปข้างนอกเดี๋ยวนะ  จะไป  บ้าน ........    เดี๋ยว
 ภรรยา     รีบไปรีบกลับ นะ    :VOV: :VOV:
 สามี         จ้า    ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007::

  ผู้เป็น สามี  ใช้เวลา อยู่ 2 ชั่วโมงกับร้านน้ำชา หน้าปากซอย และคอยดูแม่ยายว่ากลับมาตอนไหน  เมื่อแม่ยายกลับเข้าไปในบ้าน ได้  20 นาที   ผู้เป็นสามี ก็ตามแม่ยายเข้าไปใน บ้าน พร้อมกับได้ยินเสียงว่า
 แม่ยาย        โอ้โห  :o นี่กับข้าวหรือ อาหารแมว ว่ะ แบบนี้ใครจะกินลง   ::012:: ::013::
 ภรรยา         ก็เมื่อกี้   พี่เค้าบอกว่าอร่อยดีนี่  ???
 แม่ยาย        อร่อย ของ มึงคนเดียวซิ                     สามีก็เข้ามาแจม พอดี
 สามี            เถอะน่านะ อะไร ผมก็กินได้   เรื่องแค่นี้เอง  อย่ามีเรื่อง มีราวกันเลย   ::008::
 แม่ยายเลยเอา ผัดผักเข้าครัวเพื่อแก้ รสชาดใหม่ทั้งหมด
 ในขณะที่สามี บอกกับ ภรรยาว่า "  เถอะน่า ปล่อยๆแกบ้าง  แกอยากทำอะไร อย่าไปขัดแก นะ แก แม่เรา นะ "  ::008::
 ภรรยา        เงียบ   หน้างอ   งอนแม่ยาย  ::004:: ::001:: ::001:: ::001::
สามี   นึกในใจว่า "กูรอดตายแล้วโว้ย   ได้กินกับข้าวอร่อยฝีมือแม่ยาย  แถมไม่ต้อง แดรก ไอ้ผัดผัก นรกนั้น"  ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: ::007:: 
  จบ....
 




นินทาเมียมันบาปนะบัง ::005::
               
                          อาชีพผมยิ่งแล้วใหญ่ครับน้าอรรถ   ::004::        จะสบายใจได้พูดจริงจากใจก็ตอนอยู่กับเพื่อนฝูงนี่แหละ     ::013::





กราบขอบคุณทุกท่านครับผม ::014:: :VOV:


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 03:28:07 PM
 ในสมัยโบราณเมื่อจะนำเรืออกเดินทางไปในทะเลหรือ มหาสมุทรอันเวิ้งว้างกว้างไกล กะลาสีมักนำสุนัขตัวเล็กๆหรือลิงไปเป็นเพื่อนด้วยเพื่อจะได้คลายเหงา
วันหนึ่งขณะเรือแล่นผ่านแหลมใหญ่ของประเทศกรีกได้ถูกพายุพัดกระหน่ำจนล่ม บรรดากะลาสีต่างตะเกียกตะกายว่ายน้ำเข้าฝั่งที่มองเห็นอยู่ลิบๆ แม้ตัวเองยังแทบเอาชีวิต่ไม่รอดจึงไม่อาจช่วยชีวิตสัตว์เลี้ยงของตน
ได้เมื่อ เรือจม ลิงตัวหนึ่งพยายามว่ายน้ำฝ่าคลื่นไปตามลำพังปลาโลมาตัวหนึ่งมาพบเข้าใจว่า เป็นคนจึงให้ขี่หลังพามุ่งหน้าเข้าสู่ฝั่งขณะว่ายผ่านนครเอเธนส์มองเห็นท่า เรือพีรุสอยู่อีกไม่ไกลนัก ปลาโลมาเห็นลิงนั่งยุกยิกผิดสังเกตจึงเอ่ยถามว่า
“ท่านเป็นชาวเอเธนส์หรือ” “ใช่..ข้าเป็นคนในตระกูลเก่าแก่ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของนครเอเธนส์แห่งนี้ที เดียว” เจ้าลิงเริ่มคุยอวดตัว
“ถ้าเช่นนั้นท่านคงรู้จักพีรุสดีนะซิ” ปลาโลมาถามต่อ “แน่นอน..เขากับข้าเป็นเพื่อนรักกันมาทีเดียว”เมื่อได้ฟังคำตอบปลาโลมา นึกหมั่นไล้ที่ลิงมีนิสัยชอบคุยโตโอ้อวดจึงดำหนีไป ปล่อยให้ลิงเผชิญชะตากรรมของมันตามพัง      การพูดเท็จ การคุยโตโอ้อวด ย่อมเป็นภัยแก่ตนเอง
 
 


ผมเคยสัมผัสคนประเภทนี้หลายคนครับ    :D


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 03:41:35 PM
เดี๋ยวนี้มักเจอ โกหกโดยมิจฉาทิษฐิ ดื้อ เอาชนะ โดยไม่มีเหตุผลขอให้ได้โกหก หรือเถียงไว้ก่อน


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 03:44:54 PM
เดี๋ยวนี้มักเจอ โกหกโดยมิจฉาทิษฐิ ดื้อ เอาชนะ โดยไม่มีเหตุผลขอให้ได้โกหก หรือเถียงไว้ก่อน
มันเป็นยังไงครับน้าซับ  " โกหกโดยมิจฉาทิษฐิ "


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 03:48:58 PM
คือดื้อ เอาชนะ ใช้มิจฉาทิษฐินำทางชีวิต
แบบไม่ชอบคนนี้ หรือเคยเสียหน้าเพราะถูกคนนี้จับโกหกได้ ต้องโกหกใหม่
แบบไม่ให้จับได้ แต่สุดท้าย อ้าปากพูด เขาก็รู้กันแล้วว่าโกหก
แต่เขาเบื่อที่จะต่อปากด้วยหรือเขาหมั่นใส้มาซักจนไปไม่ถูกต้องเอาสีข้างไปก็มี

ส่วนโกหกแบบเอาหนังราชสีห์มาคลุมตัวเพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าตนคือราชสีห์
บังคงเพิ่งผานตาไปเมื่อไม่นาน  อันนั้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสนองความต้องการตัวเองก็ไม่รู้


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 03:51:36 PM
คือดื้อ เอาชนะ ใช้มิจฉาทิษฐินำทางชีวิต
แบบไม่ชอบคนนี้ หรือเคยเสียหน้าเพราะถูกคนนี้จับโกหกได้ ต้องโกหกใหม่
แบบไม่ให้จับได้ แต่สุดท้าย อ้าปากพูด เขาก็รู้กันแล้วว่าโกหก
แต่เขาเบื่อที่จะต่อปากด้วยหรือเขาหมั่นใส้มาซักจนไปไม่ถูกต้องเอาสีข้างไปก็มี

ส่วนโกหกแบบเอาหนังราชสีห์มาคลุมตัวเพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าตนคือราชสีห์
บังคงเพิ่งผานตาไปเมื่อไม่นาน  อันนั้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสนองความต้องการตัวเองก็ไม่รู้
ขอบคุณครับ   ::014::     


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 04:06:34 PM
เดี๋ยวนี้มักเจอ โกหกโดยมิจฉาทิษฐิ ดื้อ เอาชนะ โดยไม่มีเหตุผลขอให้ได้โกหก หรือเถียงไว้ก่อน
คือดื้อ เอาชนะ ใช้มิจฉาทิษฐินำทางชีวิต
แบบไม่ชอบคนนี้ หรือเคยเสียหน้าเพราะถูกคนนี้จับโกหกได้ ต้องโกหกใหม่
แบบไม่ให้จับได้ แต่สุดท้าย อ้าปากพูด เขาก็รู้กันแล้วว่าโกหก
แต่เขาเบื่อที่จะต่อปากด้วยหรือเขาหมั่นใส้มาซักจนไปไม่ถูกต้องเอาสีข้างไปก็มี

ส่วนโกหกแบบเอาหนังราชสีห์มาคลุมตัวเพื่อให้คนเข้าใจผิดว่าตนคือราชสีห์
บังคงเพิ่งผานตาไปเมื่อไม่นาน  อันนั้นเพื่อประโยชน์หรือเพื่อสนองความต้องการตัวเองก็ไม่รู้

ขอบคุณครับน้าซัป  ::014:: :VOV:


หัวข้อ: Re: ลาก่อนความโกหก
เริ่มหัวข้อโดย: pasta ที่ พฤศจิกายน 29, 2010, 06:36:49 PM
 
ขอลา นงราม
เบื่อความโกหก
โกหกเสียจริง
ลาก่อนผู้หญิง
ที่ชอบหลอกลวง
อยู่ไปช้ำใจฟรีๆ
แค่นี้เจ้าทำให้ช้ำทรวง
ทนดูความลวงมาห้าหกปี
เหลือทน ดูคนพูดจาโกหก
หัวอกระกำ
หลอกลวงจนหนำ
ใจดำสิ้นดี
ไม่รักแล้วใยให้รอ
ให้รอแล้วทำให้ช้ำฟรี
ขอพอกันที
สะลามมุดสลา
>ยัง ไม่ตายยังหลอกเพียงนี้
ถ้าตายเป็นผี
คงหลอกพี่กว่านี้สิหนา
ปลาไหลว่าลื่น
ลูกปืนว่าไว
ยังอายกานดา
ผีดุๆที่ในป่าช้า
ยังกลัวแก้วตาหลอกลวง
ขอลาหน้ามลเบื่อคนโกหก
เจ็บอกเจ็บใจ
อยู่ไปไม่ไหว
หัวใจจะกลัว
หลอกเราให้รอ รอรอ
บอกพอสักคำเถอะความลวง
ลบชื่อพุ่มพวง
ด้วยซาโยนาระ..


     :D