เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เนื่องจากบ่อยครั้งที่คนกลุ่มนี้ได้ใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ คือถ้ามีเหตุฉุกเฉินอย่าง รถชนกันมีคนบาดเจ็บ
หรือเพลิงไหม้ ก็เป็นการดีครับเห็นด้วย แต่ในกรณีที่ไม่มีเหตุฉุกเฉินหลายครับผมเห็นบุคคลเหล่านี้ได้ใช้สัญญาณไฟและเสียง
เพื่อให้รถที่สัญจรอยู่บนท้องถนนได้หลบหลีก เพื่อรถของตนเองไปผ่านการจราจรที่เคลื่อนตัวได้ช้าหรือหยุดนิ่งสะดวกยิ่งขึ้น

โดยลักษณะรถนั้นไม่บ่งชี้ว่าเป็นรถของหน่วยงานใด มีเพียงสัญญาณไฟวาบๆเท่านั้น เมื่อสมัยก่อนจำได้ว่ารถที่สามารถติดตั้ง
สัญญาณไฟวาบๆ นั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากกรมตำรวจก่อน ซึ่งจะต้องมีข้อความว่า "รถฉุกเฉินได้รับอนุญาตจากกรมตำรวจเรียบร้อยแล้ว"
ประมาณนี้เท่าที่จำได้ พร้อมกับชื่อหน่วยงาน
หลายครั้งผมเห็น คนกลุ่มนี้เปิดสัญญาณเพื่อแค่ขอผ่านแยกต่างๆเมื่อพ้นก็ปิดสัญญาณ ครั้งนึงเคยเห็นว่ารถกู้ภัยสองคันแข่งประลองกัน
โดยเปิดไฟสัญญาณ และเสียง
ผมกลัวว่าในอนาคตผู้คนบนท้องถนนจะเอือมระอากับพฤติกรรมแบบนี้ของกลุ่มคนเหล่านี้ และไม่หลบหลีกหรือเปิดช่องทางให้
อยากให้มีหน่วยงานที่ออกมาจัดระเบียบรถฉุกเฉินด้วยครับ ส่วนอุปกรณ์ไฟวาบๆเดี๋ยวนี้หาซื้อกับง่ายมาเลยครับ จนเป็นเหมือนแฟชั่นไปแล้ว
บางแต่เหมือนรถตำรวจเลยครับ

เพื่อนสมาชิกมีความคิดเห็นอย่างไรแชร์กันนะครับ

ผมไม่มีเจตนาที่จะตำหนิผู้ที่เสียสละและตั้งใจทำงานเพื่องสังคมนะครับ  

ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง...น่าจะได้รับการประนาม  เพราะเป็นการใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และเหตุผล  พาลจะทำให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างแท้จริง..ไม่ได้รับความสะดวก  ด้วยคนอื่นไม่เชื่อว่าเป็นกรณีเร่งด่วนอย่างแท้จริง....

QRU 73

คิดมากไปหรือเปล่าครับ
การทำงานที่แข่งกับเวลา เป็น/ตาย
อยู่ที่จะก้าว ไปทางไหน

การเปิดไฟวาบ เพื่อขอทาง
สมควรที่จะหลบเข้าชิดไหล่ทาง เพื่อเปิดทางให้
แต่โดยมากแล้ว มึงอยากไป ก็แซงไปแล้วกัน
ก็จะเห็นการปาดซ้าย ปาดขวา   
สุ่มเสี่ยง ต่อการเกิดอุบัติเหตุ
จากความไม่เข้าใจ และ เห็นใจ ของบุคคล

กระดาษขาว หนึ่งแผ่น
มีจุดสีดำ หนึ่งจุด
ก็อย่าไปมองว่า มันเป็นสีดำ
แต่ให้มองภาพรวม ว่ามันสีขาวนะ

    ผมเคยเห็นเหมือนกันครับ  ::001:: ::001::    
  ว่าแต่...ผิดห้องหรือปล่าวครับ  ;D ;D

วันก่อนๆผมเห็นรถพยาบาลเปิดไฟฉุกเฉิน แต่รถข้างหน้าไม่หลบให้ กลัวแต่จะไม่ได้ไป

อันนี้ผมว่าน่าเอื่อมระอามากกว่าครับ  ::014::

ผิดห้องครับ ;D      คนไทยเหมือนกัน  ใจเย็นๆครับ :VOV: :VOV: :VOV:

ใบขับขี่ที่มีถือครองอยู่ ไม่รู้ซื้อมาหรือเปล่า  ::012:: ::012::
ผมก็เคยโดนครับ กลางสี่แยกเลย ไฟเขียวทางตรงโล่งสะดวก ขี่ตามท้ายห่างๆ พอถึงกลางสี่แยกเปิดไฟฉุกเฉินเฉยเลย ผมงี้เบรคท้ายปัดเลยเกือบล้ม  ::012::

คิดซะว่าเป็นคนที่เรารักนอนในรถคันนั้นถ้าไม่ถึงรพ.ภายในสองสามนาทีนี้ เค้าคงไม่ได้อยู่กับเราอีกต่อไป

ส่วนในรถจะมีคนเจ็บจริงหรือไม่ ถ้าเราไม่ทราบได้ เมื่อเป็นเช่นนั้นคิดแบบด้านบนสบายใจดีครับ  ::002::

...อาจจะไม่ถูกใจบ้างหรือไม่ถูกต้องบ้าง..แต่ก็ให้กำลังใจสำหรับคนทำงานปิดทองหลังพระทุกท่านครับ...สังคมยังต้องการคนที่เสียสละ ;D

เมื่อพบกับรถฉุกเฉิน ทีใช้สัญญาณไฟและเสียงขอทาง ไม่ว่าจะเป็นรถของที่ไหน หน่วยงานอะไร........................ ผมหลบให้ทุกครั้ง ให้เขาแซงขึ้นไป

จะเป็นเรื่องฉุกเฉินจริงๆ หรือเพราะความคะนอง .................. ผมไม่ทราบ เพราะบริเวณที่เราอยู่ อาจจะไม่ได้มีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้น (เป็นแค่ระหว่างทาง) .................. ให้เขาผ่านขึ้นไปเป็นพอ

ผมไม่คิดอะไรมาก ...................

+1.ให้ครับท่าน..ผมก็ทำแบบนี้ประจำ..ผมว่าอย่าคิดในแงาลบดีกว่า..เราเห็นเขาขับรถเปล่าเปิดไฟ ผมคิดในแง่ดี เขาอาจรีบไปรับคนเจ็บข้างหน้าก็ได้.. ::002::

เปิดไฟฉุกเฉินผมหลบให้ทุกครั้งครับ

แต่ไม่มีอาการฉุกเฉินแล้วยังขับรถถ่อยๆ ถือว่าตำรวจไม่จับ โคตรเกลียดแม่มเลย

จอดติดไฟแดงอยู่ในแถวเจอพวกเชี่ยนี่ขับย้อนเลนของฝั่งขวามากะแซงแถวที่ต้นขบวน ผมเบียดใส่ไปหลายทีแล้ว คันหลังก็รีบตามตูดมาติดๆไม่ให้มันเข้าแทรกได้ ... ให้มันคารอรถสวนด่าต่อไปเหอะ  ::013::

ยังไงเราก็ควรหลบให้ก่อนครับ เพราะไม่รู้ว่าเขามีเหตุจริงหรือเปล่า.....ผมว่านี่ยังไม่น่ารำคาญเท่ากับคนที่วิ่งขวาและวิ่งช้า เป็นทองไม่รู้ร้อนครับ

มาภูเก็ตสิครับ ขับ50แช่เลนส์ขวากันทั้งเกาะ

เห็นใครจะเลี้ยว,ออกรถ,กลับรถที่ยูเทิร์นมันถึงจะเร่งเครื่องหักพวงมาลัยเข้าหา....สันดานขี้อิจฉา ไม่มีน้ำยาจะไป แต่จะกันไม่ให้คนอื่นได้ไปเอาไว้ก่อน .... เป็นกันทั้งเกาะ

ออกจากภูเก็ตแค่3กม. วิ่งบนถนนในเขตคนพังงาไปจนสุดกระบี่ เค้าขับรถกันน่ารัก น้ำใจงาม ..... เหมือนอยู่กันคนละทวีป  :VOV:

ผมยินดี ที่จะชิดซ้าย(แม้จะต้องหลบลงไหล่ทาง)เปิดทางให้ด้วยความเต็มใจครับ ::002::

ผมหลบ สถานเดียวครับ ไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น 
     เคยคิดมั้ยว่า ถ้าไซเรนนั้น เปิดเพื่อ พ่อ แม่ พี่น้องของเราเอง แต่ในขณะที่เรากลับบ่นสาปแช่งเค้าอยู่ ถ้าเค้ารู้เค้าจะรู้สึกอย่างไร

อาจจะมีพวกคึกคนองบ้างเป็นบางส่วน แต่ที่บอกว่าเปิดไซเลนมาพอไปได้สักครู่ก็ปิด เหตุแบบนี้เคยเจอมาเองครับ ยกตัวอย่าง แม่ข่ายแจ้งมี ว.40มีผู้บาดเจ็บ ผมจึงเปิดสัญญาณ

ไฟและเสียง ไปได้สักครู่ แม่ข่ายแจ้งยกเลิกญาติผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาล พอถึงจุดนี้ต้องปิดสัญญาณแค่นี้แหละครับรถต่างๆที่อยู่รอบเราต่างหันมามอง

"เมื่อกี้มันเปิดสัญาณทำไมฟ๊ะ" ::013:: ::012:: ::011::

                 ถ้าเจอผมหลีกทางให้เสมอครับ   คิดเอาว่าเขารีบไปให้ถึงจุดเกิดเหตุโดยเร็วที่สุดเพื่อช่วยชีวิตผู้อยู่ในภาวะคับขัน

ผม ไม่จำเป็นต้องหลีก....


เพราะผม ขับชิดซ้ายมาตั้งแต่ต้น

มองโลกบวกไว้ครับ  อย่างน้อยเราเองก็มีความสุข

มีพวกโรคจิตอีกประเภทครับ คือช่วงระหว่างแม่ข่ายประสานเหตุมีผู้บาดเจ็บสาหัส แม่ข่ายกำลังประสานให้ลูกข่ายไปช่วยเหลือ ก็มีพวกโรคจิตคอยกดคีย์วิทยุบี้ทำให้บางครั้ง

แม่ข่ายประสานลูกข่ายไม่ได้ ทำให้เกิดความล่าช้า ผู้บาดเจ็บต้องเสียชีวิต ::011::

ถ้าแบบนั้น ประนาม สถานเดียวครับ 
หรือไม่ก็   (http://image.ohozaa.com/ib/att000084.gif) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6f9eeb9c0164f1b9c3f16b9fe8ebb946)

ผมหลบให้ครับ  :VOV:

ใครเคยเจอแบบนี้บ้างไหมครับ.....รู่นน้องและเป็นญาติๆกันไม่รู้ไปเมากันที่ไหนมา มาจอดรถตรงทางเข้าบ้านตอนตีสองเปิดไฟวาบๆแล้วประกาศออกลำโพงว่า
"นายวิษณุ..ขณะนี้เจ้าหน้าที่ล้อมไว้หมดแล้ว.......!!!......."     
"..........ก๊ากกกก....ฮาๆๆล่อเล่นครับพี่..อย่ายิงนะ......."

...มันน่าไหมอย่างนี้...

วันก่อนใช้เส้นทางจากอ่างทองจะเข้ากรุงเทพฯครับ มีรถของมูลนิธิ แต่จำไม่ได้ครับว่าเป็นของมูลนิธิอะไร คาดว่าคงจะกลับจากการนำอุปกรณืไปช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมครับ ขับตามมาเป็นขบวนเกือบ 20 คันครับ คิดว่าเขาก็คงไม่รีบอะไร เพราะขับต่อกันเป็นแถว แต่เป็นไฟบนหลังคารถ ถ้าเป็นไฟหมุนก็คงไม่เป็นไร นี่เป็นไฟแฟลชครับ พอเราขับตีคู่ไปกันเขา แสบตาไปหมดครับ  ที่จริงผมว่าถ้าตีรถกลับกรุงเทพฯ ก็ไม่ต้องเปิดก็ได้ เวลากลางคืนรบกวนสายตาคนขับรถคันอื่นครับ ขอโทษนะครับ เป็นความเห็นส่วนตัวครับ

ผมไม่คิดมากครับ ผมหลบให้ทุกครั้ง  แต่ผมเกลียดพวกที่ไม่หลบให้รถที่เปิดไฟฉุกเฉินมากกว่า  ลองให้เป็นคนที่เขารักต้องอยู่บนรถคันนั้นมั่งสิ แล้วรถไปติดอยู่เพราะมีคนไม่ยอมหลบให้

เห็นด้วยครับ... ::014::

เหยียบมิดคันเร่ง...ได้60... ::005::

แถวพัทลุงเปิดไฟเลี้ยวซ้าย แต่หักขวา เบรคกันหลอดดูดน้ำทิ่มรูจมุกผมเลย

สำหรับเจ้าของกระทู้ ผมไม่ทราบหรอกว่าเขามีเหตุหรือเปล่า

พี่แดง จนท.กู้ภัยแถวบ้าน ไม่ชอบเปิดไซเรน  วิ่งสุดเหยียดได้ แต่พอเจอการจราจรคับคั่ง
อย่างสี่แยกไฟแดงค่อยเปิดไซเรน ให้เขาหลบแล้วไปต่อ
บางทีผมเคยคิดว่าพอเห็นรถเยอะ ค่อยเปิดไซเรนเหมือนไม่มีเหตุ แต่อยากไปเร็ว
เพิ่งมารู้ทีหลัง ว่าแกชอบไปอย่างนี้ บางที สามารถไปได้ถึงจุดเกิดเหตุได้โดยไม่ต้องเปิดไซเรนด้วยซ้ำ

                    ผมมาอยู่พังงาแล้วครับน้าจ้าว .... ภูเก็ตให้ตาเบิ้มขับคนเดียว     ::007:: ::007::

ผมก็เช่นกันครับหลบให้ทุกครั้ง บางครั้งรีบลุกลี้ลุกลนเกือบชนคันอื่น แต่มีอยู่วันนึง เจ็บใจนิดๆ จอดรถจะแวะลงซื้อ่ของกินตอนเช้า ได้ยินเสียงรถกู้ภัยดังมาไกลๆ  พอใกล้เข้ามาก็ปิดสัญญานแล้วก็เลี้ยวมา จอดใกล้ๆรถผม คนขับกับคนนั่ง2คน ลงจากรถแล้วเดินเข้าไปสั่งกาแฟกิน เฉยเลย  ที่โต๊ะก็มีพวกกู้ภัยนั่งกันอยู่ก่อนแล้วหลายคน

                           แบบนี้เรียกว่า กร่างในบางอารมณ์ .....

แค่ได้ยินเสียงมา  ผมก็มองหาช่องหลบแล้วครับ  เขารีบให้เขาไปก่อนเถอะ

ที่เจ้าของกระทู้พูดถึง และผมเข้าใจมาตั้งแต่ต้นคือ ญัตตินี้ครับ

ญัตติที่ว่าด้วย "การเปิดสัญญาณฉุกเฉิน ในกรณีที่ไม่มีเหตุฉุกเฉิน"

ตลาดหัวอิฐ เมื่อหลายปีก่อน ผมนั่งดื่มกับเพื่อนที่บนดาดฟ้าของตึกสูง เห็นเหตุการณ์แทบจะทั่วเมืองคอนทีเดียว

เพื่อนผมคนนี้ เป็นวีอาร์ด้วย เปิดวิทยุวิ่งช่องตลอด เกิดเหตุ แจ้งเหตุเข้ามูลนิธิ เพื่อนผมพลอยรับรู้ด้วย....

ก็เห็น มูลนิธิสีเหลือง เปิดไฟฉุกเฉินเสียงหวอดังมาแต่ไกลจากถนนราชดำเนิน  ตรงมาทางหัวอิฐ 

แล้วเสียงในวิทยุก็ดังเซ็งแซ่เลย เป็นเสียงของมูลนิธิสีขาว ที่สงสัยว่า มูลนิธิสีเหลือง ไปออกเหตุอะไร ที่ไหน ทำไมเขาไม่รู้ ตรวจสอบด่วน .....

พอผ่านตลาดพืชผล มาถึงใต้สะพานลอย ไฟฉุกเฉินก็ดับ รถชะลอ  และจอดแอบข้างทาง  สองคนในรถเปิดประตูลงมา ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบ....  ลงมากินน้ำชา....

เขาได้รับอนุญาตให้ใช้ไซเรนได้ เพราะเขาช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่หวังผลตอบแทน  ถ้าใครมีโอกาสได้เห็นตอนเขาเข้าช่วยเหลือคนเจ็บล่ะก็

ขอบอกว่า น่าถ่ายวีดีโอไว้ดูมาก เหมือนกับทีมสตาฟของทีมแมคลาเรนเปลี่ยนยางรถ F1 ทีเดียว  ผมไม่เชื่อว่า ทีมหมอ พยาบาล ที่ไหน จะฉับไวและดุดันเท่ามูลนิธิ

แต่น้อง ๆ มูลนิธิ ส่วนใหญ่ มือใหม่ ๆ จะเป็นวัยรุ่น ยังมีคะนอง ยังมีอารมย์สนุก กับการได้แกล้งให้อีกฝ่าย ตกอกตกใจ สงสัยเล่น....

ผมว่า ปล่อยได้ ปล่อยเถอะครับ เราอาจหมั่นใส้ในบางกรณี ก็ ปล่อยวาง.. เพราะนึกถึงตอนที่เขาทุ่มเทช่วยเหลือคนเจ็บแล้ว  เราจะยกย่องพวกเขาแทน

ผมเคยนอนโอดโอยในรถมูลนิธิมาแล้วครับ :~)พอทำแผลเสร็จมีน้องมูลนิธิคนหนึ่งเดินมาหาผมแล้วบอก เลสข้อมือของพี่ใช่มั้ยครับ เลสข้อมือหนัก 2 บาทยื่นให้ผม มันหลุดอยู่บนถนนโชคดีที่ได้คืน นึกถึงตอนที่เขาช่วยเหลือคนเจ็บหรือเหตุฉุกเฉินดีกว่าครับ ::002:: ::002::

แถวบ้านก็มีรถมูลนิธิเจ้าประจำอยู่สองคันครับ สีแดงคัน สีขาวคัน สีแดงนี้ไม่มีคนขับประจำ เป็นลักษณะใครเข้าเวรแล้วมีเหตุก็ขับออกไป แต่สีขาวนี่มีเจ้าประจำขับอยู่ครับ ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงที่ว่าเปิดไซเรนขอทางแล้วจะหลบไม่หลบครับ แต่เจ้าคันขาวนี้เวลาออกเหตุจะฉุกเฉินหรือไม่ก็แล้วแต่ พี่แกจะขับลากเกียร์ซะเครื่องคำรามลั่น ใครได้ยินก็ต้องหลบครับ ผมเคยคิดในใจอยู่หลายครั้งเวลาเจอคันนี้ผ่านหน้าบ้านว่า สักวันคงได้รับคนเจ็บเพิ่มระหว่างทางหรืออาจจะต้องอุ้มคนขับเปลี่ยนขึ้นอีกคันพร้อมคนเจ็บไป รพ.  ::012::

ปล. แต่ก็ไม่ได้นึกโกรธอะไรน่ะครับ บางทีชีวิตที่แขวนบนเส้นด้าย เวลาแค่นาทีก็มีค่ามากมายครับ แต่ก็นั่นแหละ พอเห็นทีไรก็นึกไปว่าถ้าพลาดหรือเกิดอุบัติเหตุซ้ำกับรถฉุกเฉิน จาก 1 จะกลายเป็น 2 ได้ครับ  ::014::

อย่างในเขต นครบาล ตอนนี้มีข้อตกลงกัน ระหว่าง มูลนิธิปอฯ และ มูลนิธิร่วมฯ ว่าให้ออกปฎิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสพเหตุ สลับวันคู่คี่กัน จึงลดเหตุแย่งผู้บาดเจ็บไปได้ ไม่นั้น

อาจจะเห็นการแข่งรถอีกรายการ ::005::

ระหว่าง ปอเต็กญู VS ร่วมกตัญตึ๊ง  ;D

อยู่ที่ วุฒิภาวะของคนครับ

ทำดีก็มีเยอะ

ทำให้เขาติฉินก็มีมาก  .....

(เปิดไซเรนมาจอดหน้าร้านหมูกะทะ  เล่นซะผมคิดว่ามีใครหัวใจวายในร้าน สุดท้ายนัดกันไว้ สงสัยฝากเพื่อนย่างหมูไว้ กลัวจะไหม้)

ที่อุดรก็เหมือนกันครับมีสองมูลนิธิ สลับวันกันครับ แต่ก็มีบางครั้งที่เป็นอุบัตืเหตุใหญ่ก็ออกทำงานร่วมกัน

จากประสบการณ์ที่เคยเจอกับตัวเอง แม่ยายผมอาการโคม่าต้องย้ายโรงพยาบาลด่วน เป็นตายเท่ากัน
ทุกวินาทีมีค่า รถพยาบาลขับแบบรีบด่วนข้ามทุกไฟแดง ไปถึงอีกโรงพยาบาล คุณหมอบอกว่าถ้ามาช้ากว่านี้อีกนิดเดียวก็เข็นเข้าห้องเย็นเลย

หลังจากนั้นเมื่อใดที่ผมเห็นรถพยาบาล หรือรถมูลนิธิเปิดสัญญาณไฟ ไม่ว่ามาทางด้านหลังหรือฝั่งตรงข้าม จะต้องรีบหลบให้ทันที

ผมเคยไปอบรม EMS ครูฝึกเล่าให้ฟังว่า...
          มีหนุ่มคนรวยกับรถเก๋งราคาแพง ขับกินลมอยู่บนถนนช่วงกลางดึกใน กทม.ซึ่งถนนค่อนข้างจะว่างจากรถรา ....
จู่ๆ มีรถเก๋งคันหนึ่ง วิ่งแซงขึ้นหน้าไปอย่างรวดเร็ว ???
สัญญชาตญานของนักแข่งรถ ยอมได้ไง ::006::ว่าแล้ว เค้าก็ขับแซงขึ้นไป พร้อมกับตัดหน้า เพื่อปิดทางไม่ให้แซงกลับคืน ::009::
แต่รถคันนั้น กลับหายอมไม่  :OO กลับยิ่งเร่งแซงกลับมา พร้อมกับกระพริบไฟหน้าใส่ :OO พร้อมกับเร่งเครื่องยนต์แซงกลับขึ้นไปใหม่ ::012::
เค้าเห็นเช่นนั้น ก็เร่งเครื่องยนต์รถเก๋งคันงานแซงขึ้นไปอีก  :OO แซงกันไป แซงกันมา หามีใครลดราวาศอกไม่ :OO
          จนกระทั่ง ทั้งสองคัน มาจอดตีคู่ติดไปแดงพร้อมกัน  ::011::
ด้วยความสงสัย ใครกันนะ ที่บังอาจมาแข่งกับเรา ??? ชายหนุ่มจึงมองไปที่รถคู่กรณีที่ตีคู่กันมาตลอด ???
ภายในรถคันนั้น ภาพที่เค้าเห็นคือ.....
คนสามคน คนหนึ่งอายุรุ่นราว คราวเดียวกับเค้าเองเป็นคนขับ ::002::
ส่วนอีกสองคน :OO คนหนึ่งเป็นหญิงวันรุ่นที่นั่งเบาะหลัง ที่ตักของเค้า มีหญิงชรานอนสลบไสลไม่ได้สติ มือของหญิงสาวกำลังกุมมือของหญิงชราวัย ::003::
สัญชาตญานทำให้เค้ามองออกทันที ::003::ว่าเกิดอะไรขึ้นในรถคันนั้น ::004::
พอสัญญานไฟเขียวติดขึ้น เค้าค่อยๆออกรถ แล้วขับชิดเลนซ้าย ปล่อยให้คู่กรณีของเค้า ขับรถไปโดยไม่ตามแข่งเหมือนเดิม ::002::
ชายหนุ่มทบทวนความคิดของตัวเอง  ::004::นี่เขาทำอะไรลงไป ::004::
รถคันเมื่อสักครู่กำลังจะนำคนเจ็บเพื่อนำส่งโรงพยาบาลอย่างรีบเร่ง ::011::แต่เขากลับไปขัดขวางรถคันนั้นไว้ ::004::
ถ้าหญิงชราเป็นอะไรไป ซึ่งมันเกิดจากผลของการกระทำของชายหนุ่ม เค้าคงรู้สึกบาปติดตัวไปจนวันตาย ::004::
         ตั้งแต่วันนั้นมา ชายหนุ่มก็กลายเป็นคนใจเย็น เคารพกฏจราจรมากขึ้น ::002::
(http://img152.imageshack.us/img152/6725/images9g.jpg) (http://img152.imageshack.us/i/images9g.jpg/)

เพิ่งเข้ามาเห็นข้างในกระทู้นี้ครับ, นายสมชายก็เหมือนเดิม ว่าน่าเบื่อมากทั้งพวกที่ขับช้าแช่ขวา และพวกที่ไม่ยอมหลบรถฉุกเฉิน โดยเฉพาะรถพยาบาล... มีที่น่าสังเกตเรื่องวิธีหลบรถฉุกเฉินในประเทศไทยนะครับ, ในประเทศไทยไม่ค่อยเห็นรถคันหน้าย้ายเลนหลบให้รถฉุกเฉินแซงไปด้านขวา แต่มักขับไปเรื่อยๆ(เพราะถือว่ายังวิ่งได้อยู่) หรือไม่ก็พยายามเร่งความเร็วรถตนเองหนี, ส่วนกรณีรถติดอยู่แล้วได้ยินเสียงไซเร็น ก็ไม่สนใจ(เพราะคิดว่าก็รถมันติดไฟแดงอยู่ ฉันหลีกไม่ได้นี่นา)...

ส่วนที่ต่างประเทศ(โดยเฉพาะ USA.) เมื่อได้ยินเสียงไซเร็นรถฉุกเฉินปุ๊บ รถทุกคันจะพยายาม"เข้าจอด"ชิดขอบทาง(ด้านขวามือ) เพื่อเปิดทางให้รถฉุกเฉินผ่านสะดวก ถึงแม้ถนนยังมีช่องทางให้วิ่งไปข้างหน้าได้ก็ตาม ก็ยังพยายาม"เข้าจอด"ชิดขอบทางอยู่ดี จนกว่ารถฉุกเฉินจะผ่านไปแล้วจึงขับออกไป... และในกรณีที่กำลังรถติดคาอยู่ที่สีแยกไฟแดง เขาก็จะดูว่ารถฉุกเฉินอยู่เลนไหน แล้วจากนั้นจะพยายามเลื่อนรถ"แหวกเป็นช่อง"เพื่อให้รถฉุกเฉินผ่านบริเวณรถติดไปจนได้ครับ...

ส่วนที่เมืองไทยนั้นอย่าว่าแต่รถฉุกเฉินเลย แม้แต่มีรถยนต์จอดคล่อมทางรถไฟ(ด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่)แล้วมีเสียงกิ๊งก่องรถไฟมา พร้อมกันไม้กั้นรถกำลังเลื่อนลง... แต่รถยนต์คันรอบข้างไม่คิดจะช่วยกันเลื่อน ช่วยกันขยับ เพื่อให้รถยนต์คันที่อยู่ในพื้นที่อันตรายอาจโดนรถไฟชนนั้น สามารถพ้นอันตรายได้เลยครับ, สงสัยโกรธแค้นที่บังอาจขับรถลัดคิวมาจากด้านซ้าย(ผิดกฎจราจร) เลยอยากให้คันนั้นโดนรถไฟชนตายไปซะเลย(โกรธมากกกก)... ฮา...

พวกขับรถแบบนี้มีแยะครับ ขับคันเดียวก็เรื่อยเฉื่อย แต่เวลาจะโดนแซงแล้วชอบเร่งแข่งด้วย ซึ่งทำให้คันที่แซงเสียจังหวะซึ่งอันตรายมาก... คันที่เร่งแข่งคันอื่นขณะที่กำลังโดนแซงนี่แหละ มักเกิดเรื่องบนถนนบ่อย เพราะทำให้เพิ่มความเสี่ยงบนถนนโดยไม่จำเป็น, เช่นคันที่เร่งแซงกะระยะท้ายรถอีกคันข้างหน้าผิดไป ทำให้ต้องรีบหักหลบเข้าช่องทางเดิมอย่างรวดเร็ว เลยกลายเป็นเรื่องปาดหน้ากัน เกิดเรื่องใหม่ขึ้นมาอีก... ฮา...

มีหลายคนในสังคมชอบพูดว่าแค่ขับรถปาดหน้ากัน ก็ชักปืนยิงกันซะแล้ว... ชักปืนยิงก็มีความผิด พกปืนก็มีความผิด, แต่เกือบไม่มีโอกาสชักปืน เพราะหวุดหวิดอัดโครมเข้ากับท้ายรถเมล์เมื่อกี๊แหละ มันเลยหน้ามืดดดด... โหย...

อยากช่วย แต่ไม่อยากให้เกิดเหตุ
รถนอน วีไอพี
เก็บคนตาย ช่วยคนเป็น
เจ็บเมื่อไหร่ก็โทรมา


ต้องปล่อยวาง และหลบให้ผ่านไป ครับ แค่เสี้ยวหนึ่งของเวลา ครับ

ส่วนใหญ่จะเป็นคนดี ขับรถดีมีมารยาท แต่อาจจะมีส่วนน้อยที่อาจคะนองตนและปฏิบัติตน ไม่เหมาะสม

แต่เมื่อไหร่ที่เจอผมรถติด "สัญญานไฟวับวาบ" ( ตามภาษาราชการเลยนิ :~) ) เปิดไฟขับตามหลังมาผมจะหลบให้เสมอ

ไม่ว่าจะเป็นรถอะไร เคยเจอไอ้พวกติดแบบในกระจกเป็นไฟ LED ไฟ สีแดงสลับน้ำเงิน เป็นรถตู้ โดยสารก็มี แต่ก็จะหลบให้เพราะ

เราไม่รู้ว่าในรถเขาอาจมีความจำเป็นจริงๆก็เป็นได้....

แต่พวกที่ทำผิดโดยเจตนาไม่ต้องโกรธมันหรอก...คิดมากไปเสียสุขภาพจิตเปล่าๆ... ;D  ขับเจอกันแป็บเดียว สักพักก็ห่างกันไปไหนๆแล้ว  ;D

บางคันก็ใช้โดยพลการ เช่นเรารู้อยู่ว่ารถ รพ.นี้กลับมาจากส่งคนป่วยแล้ว (จากป้ายรพ.ข้างรถ) แต่ขากลับก็ยังเปิดไฟสัญญาณวิ่งอยู่ อย่างนี้ก็ไม่ควร แต่ผมก็หลบให้ทุกครั้งครับ

เมื่อวานตอนค่ำๆ พาเจ้าลูกชายตัวดีไปซื้อของเล่นในตลาด... ได้ยินเสียงไซเรนมาแต่ไกล... รถ EMS ของ รพ.ภูเขียวกำลังรีเฟอร์คนป่วยหนักส่งต่อ รพ.ชัยภูมิ... รถเกือบทุกคันหลบให้... ยกเว้นเจ้าวีโก้สี่ประตูคันเดียว... ขับเอื่อยๆ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว... จนรถ EMS  ต้องสาดไฟสูงไล่หลายครั้ง... ถึงได้ยอมหลบ...

...ถึงจะเป็นเวลาไม่กี่สิบวินาที... แต่มันก็หมายถึงความเป็นความตายเลยครับ... ::014::