เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เรื่องมีอยู่ว่า    น้องชายขับขี่รถนั่งส่วนบุคคล(รถเก่ง)มาตามถนนเลนขวาสุด  รถยนต์คันข้างหน้าชลอเพื่อกลับรถแต่น้องชายจะตรงก็เลยชลอรถเช่นกัน  แต่มีรถจักรยานยนต์ขับมาด้วยความเร็วพอประมาณชนท้าย  ซึ่งคนขับเป็นผู้หญิงตั้งครรภ์ไม่สวมหมวกกันน็อคบาดเจ็บที่ใบหน้ามีฟันหลุด1ซีก  และเด็กในท้องหัวใจเต็นช้าลง คนซ้อนเป็นชายเป็นสามีคนขับ สวมหมวกกันน็อค  ปลอดภัยดี  เมื่อชนกันเสร็จรถฉุกเฉินได้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาล  น้องชายนำรถเข้าข้างทาง  เรียกประกันและมีตำรวจมาที่เกิดเหตุบันทึกที่เกิดเหตุประมาณว่าประมาทร่วมกัน  ถ่ายรูปรถตามกระบวนการประกัน  เช้าวันต่อมาเตรียมกระเช้าจะไปเยี่ยมคนเจ็บ ที่โรงพญาบาลแต่กลับถูกต่อว่าและคุณสามีของคนเจ็บบอกเดี๋ยวรอคุยกับทนาย ผมเลยสงสัยว่าใครผิดครับ   ::014::

  1 เราต้องหาทนายหรือไม่ครับ
  2 เราผิดหรือไม่ครับ
  3 คดีดังกล่าวเป็นประมาทร่วมกันหรือไม่
  4 ถ้าเกิดคนเจ็บแท้ง เราจะติดคุกหรือไม่ครับ
  5 ควรดำเนินการต่อเช่นใดครับ

น้องชายอยากประนีประนอมครับ  ไม่ได้ตั้งใจให้ชนครับ     ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้ครับเดือนร้อนจริงๆ ::014:: ::014:: ::014::

                   โดยทั่วไปแล้วคนที่มาชนท้ายเป็นฝ่ายผิดแน่นอน

                    ประกันภัยคือตัวแทนเราอยู่แล้ว  เขามีฝ่ายกฏหมายช่วยดูแลให้

                    เรื่องของมนุษยธรรมก็เป็นอีกเรื่องนึง  หากฝ่ายผิดไม่ยอมรับผิดก็ต้องว่ากันไปตามครรลองข้อกฏหมาย

                    สำหรับเรื่องมาตราและรายละเอียดลึกๆ    ตอนนี้ทะนายซิงค์กำลังพิมพ์ตอบหัวส่ายดิกๆอยู่ครับ

ตอบแบบคนเรียนกฏหมายยังไม่จบดีนะครับ  ถ้าจะให้ดีรออาจารย์สิงห์กลิ้งมาขยายผล
หมายเหตุ  ถ้าทุกอย่างเป็นความจริงตามน้องชายคุณกล่าวอ้าง
๑. ควรปรึกษาทนายเผื่อไว้ก่อน  หากมีการออกหมายเรียกจาก พสส. จะได้ให้ทนายเข้าฟังการสอบสวนและรับทราบข้อกล่าวหาด้วย  ป้องกันการเสียเปรียบรูปคดี
๒. ศาลเป็นผู้ตัดสินเท่านั้น พสส.มักหว่านล้อมให้เรารับผิด  แต่ถ้าไม่คิดจะรับทำเค็มอะไรกัน
๓. ศาลอีกนั่นแหละครับ เป็นผู้ตัดสิน การพาทนายไปพบ พสส.แต่เนิ่นๆก่อนจะมีการออกหมายฯ เป็นการบอกเป็นนัยว่า ผู้ถูกกล่าวหาพร้อมใช้สิทธิ์ตามกฏหมาย และขอตรวจสอบบันทึกประจำวันที่เกิดเหตุ รวมทั้งบันทึกการให้การของคู่กรณี หากเป็นการเขียนบันทึกไม่ต้องตรงความเป็นจริง หรือทำให้เสียเปรียบ  ไม่ควรลงชื่อใดๆในคำให้การเด็ดขาด
๔. ตาม ป.อาญา หากศาลพิสูจน์จากประจักษ์พยานหลักฐานได้ว่า ผู้ขับขี่รถยนต์กระทำการโดยประมาทจนเป็นเหตุให้หญิงแท้งบุตร จึงจะมีความผิดฐานกระทำการโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส   ส่วนแท้งบุตร ไม่ฟันธง รอทนายมืออาชีพมาแถลง
๕.พิสูจน์โดยการสืบพยานหลักฐานในชั้นสอบสวนโดยละเอียดว่า ใครคือผู้ขับขี่ จยย.กันแน่ เหตุใดคนซ้อนใส่หมวดก แต่คนขับขี่ท้องแก่ไม่ใส่หมวก  เป็นตำรวจภาษาหอกอะไรจึงไม่สงสัย  การให้หญิงมีครรภ์ ไม่สวมเครื่องป้องกันภัย มาขับขี่ จยย.เป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อแน่นอน  นี่ยังไม่ได้ถามหาใบอนุญาตขับขี่ จยย.ของหญิงนั้นนะครับฃ
สุดท้าย อย่ากังวลมาก หากน้องชายท่านไม่ได้ประมาทเสียเอง ถ้าโดนข่มขู่มากอาจแจ้งความไว้เป็นหลักฐานเพื่อใช้ยันในชั้นศาลได้  และอาจถามย้อนสามีคนเจ็บว่า  อยากสู้คดีซักห้าถึงสิบปีโดยไม่รู้ว่าจะชนะคดีหรือไม่ หรือจะเจรจาประนีประนอมยอมความกันโดยรับค่าชดเชยตามสมควร

               ถ้าเราเสนอค่าชดเชยตอนนี้ถือเป็นการรับผิดหรือเปล่าครับ  น่าจะเสียเปรียบในรูปคดีแน่

ยังไม่อาจชี้ชัดว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถูก หรือผิดได้ครับ ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในขณะนั้นว่าเป็นอย่างไร
อาทิเช่น ระยะห่างของรถ ระหว่างคันของเรา กับคันหน้า
จุดที่ชนกันห่างจากจุดกลับรถเท่าใด เพียงไหน
การเบรคของเราว่าแรง หรือกระทันหันหรือไม่
ความเร็วของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์
ความเสียหายที่เกิดขึ้นสภาพรถที่ชน รุนแรงหรือไม่ ฯลฯ

ซึ่งปกติฝ่ายที่เจ็บมากกว่า มักจะคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูก เพราะเจ็บมากกว่า จนลืมตัวไปว่าตัวเองก็มีส่วนประมาทเช่นเดี๋ยวกัน
หรือมักจะคิดตามประสา ว่ารถใหญ่ ต้องเป็นฝ่ายผิด ซึ่งไม่เป็นความจริง

น้องชายเจ้าของกระทู้ถือว่ามีความรับผิดชอบครับที่ไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ โดยไม่ต้องดูว่าใครผิดใครถูกก่อน
ซึ่งบางครั้งผลที่ตามมาอาจเลวร้ายไปบ้าง เช่น ถูกติติงจากฝ่ายที่บาดเจ็บ หรือถูกด่าทอ บางครั้งมีการลงไม้ลงมือกัน

แต่แท้จริงแล้ว ยังไม่รู้ว่า ใครผิดหรือถูก หรือไม่รู้ตัวว่าตัวเองก็มีส่วนผิดมากกว่าด้วยซ้ำ

๑. จำเป็นต้องหาทนายความไม่ ในชั้นเจรจาค่าเสียหายในโรงพัก หากสามารถตกลงกันเองได้ในส่วนนี้ ถือว่ายังไม่จำเป็นครับ
แต่หากจะแต่งตั้งให้ไปร่วมฟังการเจรจา ก็ไม่เสียหายแต่อย่างใด
ซึ่งในบางครั้งนักกฎหมายทั้งสองฝ่าย สามารถพูดคุยสื่อสารเข้าใจกันได้มากกว่า คู่กรณีที่กำลังเจ็บแค้นหรือโกรธอยู่
แต่หากคู่กรณีหัวหมอ แถมทนายของอีกฝ่าย ไม่ถือหลักประนีประนอม ก็ควรจะมีไว้

แต่สุดท้ายจะต้องใช้ทนายความหรือไม่ ขึ้นอยู่กับข้อหาของพนักงานสอบสวนตั้งให้แก่เรา หากเปรียบเทียบปรับได้ก็ดีไปครับ
แต่หากอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บเลวร้าย และความเสียหายไม่อาจตกลงกันได้ งานนี้คงต้องหาทนายความไว้เตรียมรูปคดีละครับ

๒. มุมมองผมค่อนข้างที่จะถือว่าเป็นประมาทร่วม แต่ยังไงอยู่ที่การสอบสวนที่เกิดเหตุ และพยานครับ

๓. หากพนักงานสอบสวนพิจารณาแล้วเห็นว่า การเฉี่ยวชนกันนั้น เกิดจากฝ่ายคุณเบรคอย่างกระทันหัน เพราะรถคันหน้ากำลังจะกลับรถ
แต่ฝ่ายคุณกลับไม่เว้นระยะห่างระหว่างรถของคุณกับรถที่กำลังจะกลับรถ หรืออะไรก็ตามที่ถือว่าคุณผิด
แต่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ก็ขับรถเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ในที่เกิดเหตุด้วยแล้ว ต้องสันนิษฐานไว้ก่อนครับ ว่าทั้งสองฝ่ายประมาทร่วมกัน

๔ ตามประมวลกฎหมายอาญา ถ้าการเฉี่ยวชนกันนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นแท้งลูกนั้น
ถือว่าผู้ประมาท มีความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๐ ที่ว่า
ผู้ใดกระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ ผู้อื่นรับอันตรายสาหัส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกิน หกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนติดคุกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการเยียวยาความเสียหาย และความรับผิดชอบของผู้ก่อเหตุครับ

๕.ติดตามดูสำนวนครับ ว่าทางพนักงานสอบสวนจะมีความเห็นอย่างไร
หากสามารถถ่ายรูปที่เกิดเหตุ สภาพรถทั้งสองฝ่ายไว้เบื้องต้น ถ่ายสรรพเอกสารที่พนักงานสอบสวนสามารถคัดถ่ายให้ได้ไว้เสมอๆ จะเป็นการดีมากครับ

แต่อย่างไรก็พยายามติดตามอาการคนได้รับบาดเจ็บให้อาการหายดีขึ้น
ซึ่งหากสุดท้าย ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ร้ายแรง สถานการณ์ก็จะดีขึ้นเองครับ :)

คะแนนสวย ๑๙๙๑ บวกซะ  ::005::

              :OO  ตาบ้า ชอบทำลาย   ::006:: ::006::

แล้วถ้าเราเป็นฝ่ายชนเค้า (เราผิดเต็มๆ) ทุกกรณี  ประกันจะต้องชดเชยค่าเสียหายหรือไม่ครับ 
แล้วเราจะติดคุกมั้ย ครับ ::014::

                   ประกันภัยรับผิดชอบในส่วนค่าเสียหายในคดีแพ่งและค่าชดเชยบางส่วน   ความอาญาผู้กระทำผิดถ้าตกลงกันไม่จบคงต้องนอนคุกครับ

ตรงสีแดง หมายความว่า สมมุติ ฝ่ายคู่กรณีเรียกร้องค่าเสียหาย  100000 บาท  แล้วจะไม่เอาเรื่อง
ทางประกันภัยจะจ่ายมั้ยครับ ::014::

                       ประกันเขาจ่ายในวงเงินคุ้มครองตามกรมธรรม์เท่านั้นเองครับ   ส่วนต่างเราต้องว่ากันเอง

                       สมมติว่าเขาเรียกล้านนึง  วงเงินระบุไว้ถ้าตายให้ 5 แสน ส่วนต่างบังก็ไปขายสวนมาจ่ายซะดีๆ    ::005::

ขอบคุณทุกท่านครับ และ  +1  ให้ครับ   กำลังรอการติดต่อจากคู่กรณีอยู่ครับ   มีความคืบหน้าเช่นใดจะรายงานต่อครับ

แต่ตำรวจก็จะให้น้องชายผมรับผิดลูกเดียวเลยครับ  แต่น้องชายปฏิเสธไปครับ ::014::

คนชนผิดอยู่แล้วครับ   เดี๋ยวประกันไปจัดการคนชนเอง   ;D

อ๋อ ผมเข้าใจแล้วครับ  ;D ::014::  ผมถามประดับความรู้นะครับ  ::005:: ::005::
+1ให้ลุงปูครับ ::014::

ตามข้อ  4  ถ้าเป็นการประมาทร่วมความผิดเป็นเช่นใดครับ    แต่จุดดังกล่าวห้ามกลับรถครับ  เราไม่ได้กลับรถครับ  บริเเวณที่โดนชนที่กันชนท้ายตรงท่อไอเสียครับ  รถฮอนด้า  ซิวิค  ท่อออกขวาครับ ::014::

                       เท่าที่เห็นมานะครับ   จนท.จะปรับผู้ขับขี่ทั้งสองฝ่ายในข้อหาประมาทร่วม ค่าปรับไม่น่าเกิน 500 บาทครับ

                       บางครั้งคนมาชนท้ายรถเราเสียหาย   แถม จยย.เก่าคร่ำครึ ไม่มีตังค์ เราต้องจ่ายค่าปรับให้เขาด้วยซ้ำ 555  ก็ให้มันแล้วๆไป

                       จะเอาอะไรกับคนที่ไม่มีจริงๆ  บางรายรู้ตัวเองว่าผิดแถมบาดเจ็บ  กลับขับหนีไปซะงั้นก็มีปรากฏบ่อย

                       แต่สำหรับคนที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองผิดกลับพยายามขู่เข็ญจะให้เราผิดและจ่ายค่าเสียหาย ค่าทำขวัญต่างๆ  (ส่วนใหญ่มีญาติเป็น จนท)

                       แบบนี้ต้องเล่นกันให้รู้สำนึก

อาจเป็นไปได้ครับ  แต่คุณสามีคนเจ็บเป็นอาจารย์สอนอยู่โรงเรียนดังครับ   สงสัยรักภรรยามากจึงไม่ยอมให้ใส่หมวกกันน็อคแถมให้ภรรยาขับ จยย  ทั้งที่ตั้งครรภ์ด้วย   ::005:: ::002::

ตอนสอบใบขับขี่ มีข้อหนึ่งกล่าวว่าให้ตามหลังคันข้างหน้าห่างอย่างน้อย ... เมตร (จำไม่ได้ครับ) ไม่แน่ใจว่าอยู่ในพรบ.ยานพาหนะทางบกอะไรหรืิอเปล่า คือเขาคำนวนแล้วว่าระยะเบรคเหมาะสม รายนี้น่าจะจ่อชิดๆ


แต่ที่สงสัยว่าทำไมผู้ชายทั้งแท่ง(?) มันไม่ไปขับขี่จักรยานยนต์เนี่ย ให้เมียท้องมาขับแทนแล้วตัวเองซ้อนน่าเกลียดจริงๆ

                              15  เมตรครับ  แต่ในความเป็นจริง  จร.ท่านเร่งรัดเร่าร้อนซะเหลือเกิน

หากเหตุการณ์เลวร้ายถึงขั้นผู้ได้รับบาดเจ็บ มีอาการสาหัสตามกฎหมาย  (แท้งลูก) แต่อย่างไรขออย่าให้ถึงขนาดนั้นเลยนะครับ

ผู้ขับขี่ซึ่งมีส่วนก่อให้เกิดความบาดเจ็บ เสียหายดังกล่าว

ไม่ว่าบุคคลอื่นที่ดันกลับรถในที่ห้ามกลับ เป็นเหตุให้น้องท่านต้องเบรคอย่างกระทันหัน ทำให้สาวตั้งครรภ์ชนท้าย ก็ถือว่ามีส่วนในการก่อให้เกิดความเสียหาย
ย่อมต้องรับผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหายหรือผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสแล้วแต่กรณี ตามกฎหมาย

น้องชายท่านที่ดันไม่ทิ้งระยะห่างพอสมควร (หากข้อเท็จจริงปรากฎว่าเป็นตามนั้น) ทำให้ต้องเบรครถกระทันหัน ซึ่งถือว่าปฏิบัติฝ่าฝืนกฎหมาย ให้สันนิษฐานไว้ว่าประมาท
ย่อมต้องรับผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินเสียหายหรือผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสแล้วแต่กรณี ตามกฎหมายเช่นกัน

ส่วนตัวภรรยาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาด้วยความเร็วสูง และไม่เว้นระยะห่างเช่นกัน ซึ่งถือว่ามีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายเช่นกัน
และแม้ตัวเองได้รับความเสียหาย หรือบาดเจ็บ ก็ถือว่าตัวเองประมาทก่อให้เกิดความเสียหายด้วย ตาม พรบ .จราจร

(แต่ความผิดฐานประมาททำให้ตัวเองแท้งลูกตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๐๐
 ภรรยาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่ต้องรับผิด เพราะจะเป็นความผิดได้ ต้องประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นแท้งลูกเท่านั้น)

ซึ่งโดยหลักผู้มีส่วนก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใดๆ จะต้องรับผิดทางอาญาฐานประมาท ไม่ว่าตนเองจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่ หรือตายก็ต้องรับผิด
(เพียงแต่กรณีตายสิทธิฟ้องผู้ตายเป็นคดีอาญาต่อศาลระงับลง)

คือพนักงานสอบสวนต้องตั้งข้อหาในความผิดดังกล่าว และพนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้องทั้งสาม เป็นจำเลยในความผิดดังกล่าวตามกฎหมายครับ

ซึ่งหากศาลพิจารณาแล้วพิพากษาว่ามีความผิด ก็จะลงโทษทั้งสามตามความประมาทของแต่ละคน ว่าใครประมาทมากน้อยครับ
คนนี้อาจโดน ๖ เดือน ภรรยาอาจโดน ๓ เดือนแต่รอลงอาญาไว้ เป็นต้น แล้วแต่ใครประมาทมากน้อยกว่ากันครับ

แต่หากมั่นใจว่าไม่ผิด ทางอาญาปฏิเสธสู้คดี ส่วนทางแพ่งไม่ขอรับผิด แล้วค่อยไปพิสูจน์กันในศาลครับ

แต่คุ้มหรือไม่ อีกเรื่องหนึ่งครับ ;D

ผมเคยมีเคสคล้ายๆเพื่อนพี่ปูครับ... คือมอเตอร์ไซค์รับจ้างวิ่งเลนขวาพร้อมผู้โดยสาร ส่วนผมจะเลี้ยวขวาเพื่อเข้าซอยแถวท่าเรือคลองเตย... ผมลืมดูกระจก มัวแต่ดูฝั่งตรงข้าม มอเตอร์ไซค์รับจ้างชนด้านข้างฝั่งคนขับ แขนผู้โดยสารบาดกับกระจกรถผม เลือดสาดเลยเต็มรถเลย...

ประกันบอกผมไม่ผิด แต่ผมยอมเพราะสงสารผู้โดยสาร... อ่วมเลยครับ...

ในเรื่องบริษัทประกันแจ้งต่อผู้ขับขี่รถยนต์ที่ทำประกันไว้ว่าให้ต่อสู้คดีอาญา เพราะไม่ผิด
 และไม่ยอมจ่ายค่าสินไหมทดแทนจนกว่าศาลจะพิพากษาถึงที่สุด

หากเป็นคดีแพ่งอย่างเดียว การสู้คดีจนถึงที่สุดย่อมไม่มีปัญหา เพราะไม่ได้เกี่ยวกับอิสระภาพของผู้ขับขี่

แต่หากผู้ขับขี่รถยนต์ที่ทำประกันไว้ ต้องโทษคดีอาญาไปด้วยแล้ว เช่น ความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หรือสาหัส
อย่าลืมนะครับ ว่าบริษัทประกันไม่ได้ต้องโทษอาญากับเราด้วย เพียงแค่มีภาระผูกพันตามสัญญาประกัน ซึ่งเป็นเรื่องทางแพ่งเท่านั้น

หากข้อเท็จจริงปรากฎว่าเรามีส่วนประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือสาหัสด้วยแล้ว ตรงนี้แนะนำว่าควรคิดก่อนว่าจะสู้หรือจะเยียวยาความเสียหายให้แก่อีกฝ่าย
เพราะหลายๆคดี  ผู้ขับขี่รถที่ทำประกันชั้นหนึ่งไว้และตัวเองมีส่วนผิดด้วย แต่กลับสู้คดี มักจะนอนอยู่ในเรื่อนจำ ให้เปลืองภาษี ไม่น้อยกว่า ๒ ปี โดยไม่รอลงอาญา ;D

นอกเรื่องสักนิด ขออภัยเจ้าของกระทู้ด้วย
อาจารย์สิงห์กลิ้งครับ ผมจะหาข้อสอบอัตนัยเก่า ย้อนหลังไปซักห้าปี สิบปี วิชาพาณิชย์ สาม สี่ (ค้ำประกัน จำนอง เช็ค หุ้นส่วน ฯลฯ) ได้ที่ไหนบ้างครับ เป็นหนังสือขายที่ไหน หรือในเว็บไหนมีให้ดาวน์โหลดดูได้บ้าง
ขอบคุณล่วงหน้า

หากเป็นข้อสอบเก่า เท่าที่นึกได้และเป็นหนังสือที่ค่อนข้างเหมาะในการสอบชั้นปริญญาตรี
หากแนะนำ คงเป็นรวมข้อสอบเก่าของราม สำนักพิพม์ลุงชาวใต้ครับ
แต่จะเป็นแนวเดี๋ยวกับที่ท่านเรียนอยู่หรือเปล่า อันนี้ไม่แน่ใจนะครับ
แต่ที่ผมเคยผ่านมา ข้อสอบจะมีลักษณะค่อนข้างเป็นไปแนวทางเดียวกับสถาบันหลายแห่ง

ส่วนร้านจะอยู่หน้าราม แถวๆซอย ๕๑ , ๕๓ ครับ ตอนเรียนชั้นปริญญาตรี ถือว่าเป็นแนวทางในการสอบได้ดีเลยครับ ;)

ปล. อย่าเรียกผมอาจารย์เลยครับ ผมไม่ได้มีความรู้ถึงขนาดที่จะถูกเรียกขนาดนั้นครับ  ::014::

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความรู้เพิ่มเติมครับ  แต่ตอนนี้ทางน้องชายกำลังพยายามประนีประนอมกันอยู่  อยากให้ตกลงกันได้   :VOV:  สงสัยงานนี้จะเจ็บทั้งสองฝ่ายครับ   ::004::

Ha Ha  ฮา  ความเห็นยายน๊ะคร๊า  ฮา

เรื่องนี้ยายคิดว่า  มีทางออกน๊ะคร๊า    ฮา
ประเด็นมัน  น่าจะอยู่ตรง  ที่ว่า  "วงเงินความเสียหาย"  ตกลงกันได้หรือเปล่า
และ  ในกรรมธรรม  มันระบุว่า  หากมีความเสียหาย  ต้องชดใช้เท่่าไหร่

ตัวเลขอันนี้  ต่างหากคร๊า  ที่จะจูง  ทั้งสองฝ่ายไปหาข้อสรุป  ยอมหรือไม่ยอม  ฮา

ถ้ามันครอบคลุม  และทางฝ่ายที่มาชน  เขาพอใจ  ยายเลือกวิธีนี้คร๊า ฮา

ส่วนตัวแทนของบริษัท ประกันภัย    เราก็ฟังหู  เว้นหูน๊ะคร๊า
เพราะวัตถุประสงค์ของเรา  จ่ายค่าพรีเมี่ยม  เพื่อที่จะให้เขามารับผิดชอบ  แทน ในกรณีที่เกิดเหตุ  ฮา

ลองหาคนที่พอจะพูด  หรือเจรจา  ที่พอเข้าหู  ไปเลียบเคียงพูดคุย  ดูแนวคิดของเขา  ว่าเขาต้องการอะไร สิคร๊า
โดยยื่นข้อเสนอว่า  อยากจะหาทางช่วยเหลือ  เพราะรถมีประกัน  การช่วยเหลือนี้ ไม่ได้หมายความว่าเป็นฝ่ายผิด หรอกน๊ะ
และถ้าเจรจากันไม่ได้  ก็ต้องไปพิสูจน์เรื่องผิดถูก   คงใช้เวลาอีกนาน หลายปี  ฮา

และถ้ามันจบตรงนี้  เรื่องอาญา  เราก็ไม่ต้องไปวุ่นวายกับมันคร๊า  ฮา

ยายมีประสพการณ์อย่างนี้  น๊ะคร๊า
ยายขับรถ  ตามคันหน้า  มายูเทริน์  ก่อนถึงสี่แยก   เพื่อเบี่ยงซ้ายเข้าห้างสรรสินค้า

หลังจากยูเทิรน์แล้ว  ทางมันบังคับ  คือ ต้องตรงไปขึ้น  ทางด่วน  หรือ  ต้องเบี่ยงซ้าย  เพื่อเข้าห้าง
รถคันหน้า  หลังจากผ่านยูเทริน์  ก็เบรคกระทันหัน  โดยหันหัวขนาน  ไปกับทางที่ จะขึ้นทางด่วน
ส่วนรถของยาย   ก็เอาด้านหน้าขวา  ไปจิ้ม  ด้านหลังซ้าย ของคันหน้า  เบาๆ   ฮา  
โดยที่ลักษณะรถของยาย   จะวิ่งข้ามเลน  เข้าไปที่ห้าง

ในระหว่างที่รอประกัน  ยายก็พูดคุย  ดูความเสียหายของเขา  
ถามเขาว่าอยู่แถวนี้หรือคร๊า  ฮา   เขาตอบว่าใช่  ใกล้ๆตรงนี้  จะมาห้าง  ฮา

เมื่อพนักงานเคลมของประกันภัยมาถึง  ก็จัดการขอเอกสาร ใบขับขี่  ยายก็ให้เขา
เขาจัดทำแผนที่  ที่เกิดเหตุ  แล้วประเมินราคา ค่าเสียหาย  จะเรียกเก็บจากยาย  โดยบอกว่าผิด  ที่ไปชนท้าย  ฮา
ราคาที่เขาเรียก  ก็เรียกเสีย เต็มสูบ  เต็มพิกัด    เรียกยาย หมื่นสอง  ฮา
เขาถามยายว่า  รถมีประกันหรือเปล่า  ยายบอกไม่มี  ฮา

เขาถามว่าจะจ่ายเท่าไหร่  ยายบอกไม่จ่าย  เป็นการประมาทร่วม  เบรคกระทันหัน ฮา
ถ้าจะจ่ายยายก็จ่ายเพียง  สองพันคร๊า  เป็นค่าโคมไฟ  และค่าสี  ฮา

พวกเขาก็ทำท่า  ฮึดฮัด    ว่าอะไรจะจ่ายแค่สองพัน  ฮา  ต่อมาเขาบอกลดให้  เหลือ เก้าพัน ฮา
(ก็ยายดูแล้ว  มีแค่ โคมๆร้าวนิดเดียว  กับมีรอยครูด ตรงกันชน  ราคาซ่อมไม่ควรเกิน สองพัน  เพราะเป็นซีวิค รุ่นเก่า ฮา)

ตกลง  สรุปกันไม่ได้  ก็เรียกตำรวจ  เมื่อดาบตำรวจมาถึง  ก็จัดแจงพ่นสีตรงล้อ  ทำเครื่องหมายบนถนน  ฮา
ในระหว่างที่ตำรวจทำหน้าที่   ฮา  ยายก็ควักโทรศัพท์  มาถ่ายคลิป ทำแผนที่เหมือนกัน  ฮา
(ร้อยเวร  ไม่ได้ออกมาดูที่เกิดเหตุ  เพราะเห็นว่า  เป็นเหตุไม่รุนแรง  และเป็นวันหยุด)

เมื่อถึงโรงพัก  ตำรวจถามยายว่ายอมรับผิดมั้ย  ฮา
ยายตอบเขาว่า  ให้สอบปากคำฝ่ายโน้นก่อนสิ คร๊า ฮา  

ส่วนของยายชนแล้วไม่ได้หนี  ยังตามมาให้ปากคำที่โรงพักเลย  ฮา

ในระหว่างที่เขาสอบปากคำ  ยายก็นั่งฟังข้างๆ  คนขับรถคันหน้าบอกว่า  ฮา
เมื่อออกจากบ้าน    เขาจะพาเด็กๆมาห้างสรรพสินค้า  ฮา
ยายฟังแค่นี้  ก็ฮา  สบายใจสิคร๊า   คนขับให้การเอง  ฮา

ต่อมาตำรวจเขาสอบปากคำยาย  ยายก็อ้างข้อเท็จจริงเรื่อง ลักษณะรถ ตอนเกิดเหตุ  ฮา
ยายให้การต่อว่า  เขาเบรคกึก  กระทันหัน  และตรงจุดที่เบรค  แสดงถึงการ ใช้ถนนผิดช่องทาง  ฮา

ถ้าจะเข้าห้าง  ต้องเบี่ยงซ้าย  ออก เหมือนยาย  ฮา  
ลักษณะอย่างนี้เป็นการเผลอ    จะขึ้นทางด่วน  เมื่อนึกได้จึงเบรค  ฮา

ฮา  ตำรวจเขาบอกยายผิด  ฮา

ยายตอบตำรวจเขาว่า  ถ้าอย่างนั้นก็ปรับยาย ฐานประมาท  แล้วกัน  
ส่วนแพ่ง ก็ให้คู่กรณีไปเจรจากันเอง  ฮา  สรุปปรับยายห้าร้อย  ฮา

จ่ายค่าปรับเสร็จ  ยายก็กลับบ้านสิคร๊า  ฮา  จะรอทำมัย

ยายรอมาเกือบหกเดือน  จึงได้รับโทรฯจากประกัน  หลังจากเขาแนะนำตัวเสร็จ  
เขาอ้างโน่นอ้างนี่  ยายบอกเข้าเรื่องเลยคร๊า  จะเอาอย่างไร
เขาตอบมา   จะให้ยายจ่ายห้าพัน  ฮา

ยายตอบ  สองพัน  เหมือนเดิม  ฮา   เขาบอกว่าต้องขออนุมัติ  ฮา
หลังจากวางโทรศัพท์  ไม่ถึง10นาที  เขาตอบเมลล์ยายมาว่าโอเค  ฮา
(ยายต้องการให้มีหลักฐานอ่ะคร๊า )

ยายจำได้  ตอนอ่านหนังสือ  ในคดีที่เกี่ยวกับพรบ.จราจร  หากมีความเสียหาย
เขาก็ชดใช้ให้  เพียงแค่เหมาะสม  กับของเดิมคร๊า
รถสิบกว่าปี  แล้ว  แหม  ประกันจะเล่นยาย  ซื้อของใหม่เรย  ฮา  
ต้องมือสองคร๊า  ในสภาพที่เท่าเทียม กัน  สมเหตุสมผล  ฮา

ฮา  ยายนึกถึงกระทู้  ยืม มอไซค์  ไปล้ม  ฮา

                         แสบจริงยัยเฮียเนี่ย    ::005::

ขอบคุณครับ..ท่านเจ้าสำนัก(สิงห์ทอง)

อ่านเรื่องของคุณยายเพลิน  จนลืมเรื่องของ จขกท. ไปเลย...  ฮา...  ::005::

 ::005:: ::005:: +1 ให้ยายครับ...

+ 1 ให้ยายครับ  ::005:: ::005::

ขอบคุณคุณยายครับ  สำหรับแนวทาง ::002:: ::014::

ประกันรู้อยู่แล้วว่าเรียกร้องจากบุคคลนั้นทำได้ยาก ไกล่เกลี่ยต่อรองได้เท่าไหร่ย่อมดีกว่าหนี้สูญแน่นอน (ซ่อมให้คืนสู่สภาพแต่ต้องไม่ดีกว่าเดิม)
เรื่องระยะห่างจากคันหน้า จำได้ว่าไม่ได้ระบุเป็นเมตรนี่ครับ เค้าบอกว่าให้ห่างในระยะที่ปลอดภัย หากจำผิดต้องขออภัย ::014:: ::014::

ขอความรู้เพิ่มเติมครับผม แล้วถ้าเราขับรถตามคันหน้าแล้วมีก้อนหิน ซึ่งกระเดนมาจากคันหน้า(ล้อรถ)มาโดนกระจกรถหน้ารถแตก หรือทำให้คนอยู่ในรถบาดเจ็บนี่ต้องทำอย่างไรครับ
 ::014::

ขอบคุณทุกท่านครับ  วันนี้มีการไกล่เกลี่ยกันแล้วแต่ทางคู่กรณีกำลังตกลงกันว่าเรียกร้องเท่าไหร่ครับ  แล้วจะนัดตกลงกันอีกที  ผมอยากให้เรื่องจบลงในชั้นสอบสวน  ไม่งั้นคงเหนื่อยกว่านี้  ขอบคุณครับ

เรื่องจบแล้วครับ  คู่กรณีเรียกมา  160,000  บาท  ครับ  ประกันจ่าย  หมดครับ   น้องชายผม  เสียค่าปรับ  500บาท  ลงบันทึก  กลับบ้านได้ครับ  เหนื่อยเอาการเหมือนกันครับงานนี้    ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้ความรู้และแนวทางปฏิบัติในคดีนี้ครับ   ::014:: ::014:: ::014::

ยินดีด้วยครับผม   :)

จบสวยครับ บัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น