|
หัวข้อ: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:32:34 PM นำเรื่อง : จากกรณี พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓ ใจความคร่าว ๆ ว่าผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ที่ยื่นคำร้องขอให้รัฐบาลช่วยเหลือตามนโยบาย 66/23 เมื่อ 30ปี ที่ผ่านมา ซึ่งการช่วยเหลือของรัฐให้การช่วยเหลือเป็นการตอบแทนคนละ 225,000 บาท เพื่อนำไปซื้อวัว 5ตัว ตัวละ หนึ่งหมื่นบาท ซื้อนา 5 ไร่ ไร่ละ 35,000บาท
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:34:41 PM เรื่องของผม : พ่อและแม่ของผม เป็นหนึ่งในผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย อยู่ภายใต้นโยบาย ๖๖/๒๓ นี้ด้วย
ท่านเข้าร่วมกับ ผกค.ในปี ๒๕๑๙ ออกตัวในปี ๒๕๒๖ ใช้ชื่อจัดตั้งว่า สหายน้อม และสหายจำเนียร แต่พ่อของผม ถึงแก่อนิจกรรมไปเมื่อปี ๒๕๔๘ ด้วยโรคมะเร็ง ปัจจุบัน แม่ผม อายุ ๖๓ ปี สุขภาพแข็งแรงดี แต่มีน้ำตาลเกินอยู่บ่อย ๆ เรามีกัน สี่คนพี่น้อง ร่ำเรียนจนจบปปริญญากันทั้งหมด ผมเป็นลูกคนสุดท้องและเป็นชายเพียงคนเดียว เราประกอบอาชีพตามปรกติ มีรายได้พอเลี้ยงตัวและสร้างฐานะ แม่มีสวนยางแก่อยู่สวนหนึ่ง พอจะมีรายได้ตามอัตภาพ วันดีคืนดี เมื่อสัก สองปีก่อน ช่วงการเมืองกำลังวุ่นวาย มีสหายเก่า มาแจ้งกับแม่ ให้ไปแจ้งชื่อเพื่อรับเงินจำนวนห้าแสนบาทจากรัฐบาล โดยให้นำหลักฐานทรัพย์สินทั้งหมด และรูปถ่ายลูกหลานทั้งหมดพร้อมสถานภาพไปแสดงด้วย แม่รับทราบแล้วก็เรียกลูก ๆ ทุกคนมาปรึกษา พวกเรา มีข้อกังขาในเรื่องนี้กันมาก สอบถามผู้ใหญ่บ้าน ทางอำเภอและพรรคพวกที่ทำงานที่ศาลากลาง ไม่มีใครทราบเรื่องและให้รายละเอียดได้สักคน จนเรื่องนี้ซาไป แต่เราทราบดี ว่าแม่..ยังคาใจ หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:36:27 PM ถัดมาปี ๕๓ ต้นปี เรื่องนี้ กระพือซ้ำ เมื่อกลุ่มสหายเก่า ที่เคยร่วมกลุ่มกับพ่อแม่ผม เริ่มดำเนินการอะไรบางอย่าง
ประมาณว่า ลงทะเบียนผู้ที่ตกค้าง...และสหายเก่าทั้งหมู่บ้านนอกจากแม่ ลงทะเบียนหมดแล้ว. ปัญหาอยู่ที่ ขณะนั้น กลุ่มแดงสยาม โดยสุรชัย แซ่ด่าน ก็กำลังรวบรวมกลุ่ม ผกค.เก่า เพื่อทำกิจกรรมทางการเมืองอยู่พอดี ซึ่งพวกเราไม่เห็นด้วยกับสุรชัยและเสื้อสีอะไรทั้งนั้น และรับไม่ได้ กับการต้องตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองของกลุ่มเสื้อแดง ซึ่งเราไม่รู้ได้ว่า การรวบรวมชื่อและลงทะเบียนของกลุ่มสหาย จะเกี่ยวพันกับเรื่องนี้หรือไม่ ประกอบกับ ผู้อ่านข่าววิทยุท้องถิ่น(ไม่ใช่วิทยุชุมชน)กล่าวถึงเรื่องนี้ ว่า ระวังจะตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:38:04 PM ต้นเหตุของปัญหา :
๑. เราไม่เชื่อว่า รัฐจะให้เงินที่ว่า...แค่เงินคนจนกระตุ้นเศรษฐกิจสองพันบาทก็กลายเป็นประเด็นใหญ่โต แล้วนี่ตั้งหลายแสน ถ้ารัฐจ่ายจริงก็เป็นเชื้อไฟชั้นดีให้กับฝ่ายค้าน... เราไม่รู้ว่า ในพันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓ มีเรื่องนี้อยู่ ๒. เรากลัวว่า จะตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองโดยเอกสารใด ๆ ที่เราส่งไป ๓. คำพูดปลอบแม่ที่ทำได้ขณะนั้นคือ ถ้าลงทะเบียนแล้วไม่สบายใจ ก็ไม่ต้องลง ก่อนมีเรื่องนี้ เราก็อยู่กันได้ ไม่มีเงินสองสามแสนนั้น เราก็อยู่ได้ ถ้าเพื่อน ๆ ได้เงินนั้นมาจริง เราก็ยินดีด้วย อิจฉามั๊ย คงห้ามไม่ได้หรอก แล้ววาระนั้น ก็จบลงแบบ คาใจแม่อีกครั้ง หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:39:46 PM วันนี้ มีการจ่ายเงินที่ว่า ให้กับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ลงทะเบียนคัดกรองแล้ว ที่จังหวัดพิษณุโลก คนละ ๒๒๕,๐๐๐ บาท
ผมรับฟังข่าวนี้จากรายการหมุนตามวันของคุณฟองสนาน ทราบว่า จะหมุนเวียนจ่ายจนครบทุกจังหวัด แน่นอน แม่และพี่ ๆ ผม ยังไม่รู้เรื่องนี้ที แต่ พรุ่งนี้ หรือวันต่อ ๆ ไป เขาจะต้องรู้ แล้วทำไมผมต้องเครียด.....?? เงินสองแสนกว่าบาท มากมั๊ย มากสิ แต่ผมหามาเองได้ พี่ผมคนไหน ๆ ก็หามาได้ แม้จะลำบากก็หาได้ ถ้าเพียงแม่บอกว่า แกอยากได้เงินจำนวนนั้น.... หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:41:22 PM แต่ สิ่งที่เราจะชดเชยให้แม่ไม่ได้ คือ ความรู้สึกของแม่ ความรู้สึกที่ว่า เงินนั้น ควรได้มาโดยตัวแม่เอง ก็ในเมื่อคนอื่นยังได้ แล้วทำไมแม่ไม่ได้..
พวกเรารู้สภาพจิตใจและความคิดของแม่ดี เมื่อแม่ทราบเรื่องนี้ ดราม่าก้อนโต จะเกิดขึ้นที่บ้านผม จริง ๆ แล้ว แม่ผมแกก็มีเงินเก็บอยู่ก้อนหนึ่ง ไม่มากไม่มาย แกเป็นคนที่ขาดเงินก้อนไม่ได้ พวกเราก็รู้ และสนับสนุนแกอยู่ เงินนั้นแม่เอาไปไหน ก็เอาไว้ให้พวกเรานี่แหละ เวลาใครชักหน้าไม่ถึงหลัง ซมซานไปหาแก ให้แกด่าสักยกสองยก แล้วก็ได้รับความช่วยเหลือ แล้วแกก็เริ่มสะสมใหม่ เป็นอย่างนี้มานานแล้ว ถ้าแกได้เงินก้อนนั้นมาโดยตัวแกเอง แกก็จะมี..มีอะไรล่ะ มีความภาคภูมิใจ มีอำนาจ ที่จะเรียกลูกคนไหนมาด่า แล้วก็ให้เงิน นั่นเป็นความสุขของแก ซึ่งพวกเราให้ความสำคัญกับความรู้สึกตรงนี้ของแม่มาก หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 10:42:38 PM ตรงนี้ ณ กระทู้นี้ ขอสงวนสิทธิ์ในฐานะผู้ตั้งกระทู้ ::014:: ::014::
อยากจะขอร้อง ทุกท่าน ให้ข้ามประเด็นมหัพภาคไป ขอความเห็นและคำแนะนำในส่วนจุลภาค ในส่วนของความรู้สึกของแม่ผม และคำแนะนำ(ถ้ายังมีโอกาส) ว่าจะเรียกคืนสิทธิ์ตรงนี้มาได้ด้วยวิธีไหนบ้าง ::014:: ::014:: ::014:: หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 13, 2011, 11:06:10 PM ไม่เคยได้ยินมาก่อนปกติก็ฟังรายการหมุนตามวันของคุณฟองสนานทุกวัน แต่บางวันอาจไปหาลูกค้าไม่ได้ฟังบ้าง อาจพลาดฟังข่าวนี้ไป
ปกติเงินขนาดนี้ถ้าผู้รับเป็นคนๆเดียวหรือครอบครัวเดียวถือว่ามากเลยทีเดียว ถ้าจะจ่ายมาจากภาครัฐบาลมันไม่ควรเงียบเชียบขนาดนี้ผม ยังแทบไม่อยากเชื่อเลยมามาจากภาครัฐบาลจริงหรือเปล่า หรือ ใครอยู่เบื้องหลัง แอบอ้างมาเพื่อผลประโยชน์อะไรหรือเปล่ามันน่าเคลือบแคลงมาก เชื่อว่าถ้าจ่ายจริงต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวแล้วรัฐจะกล้าทำงุบๆงิบๆ เงียบๆ ได้หรืิอ และนายสุรชัยคนนี้พฤติกรรมก็น่าเคลือบแคลงไม่น้อยเช่นกัน ที่ผ่านมาก็รู้กันแล้วว่าเขา เลือกข้าง ฝ่านไหนไปแล้วเกี่ยวข้องกะเงินก้อนนี้หรือไม่ หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 11:22:49 PM เห็นว่า ในพันธสัญญา ๖๖/๒๓ มีข้อเรียกร้องเพื่อการออกมาจากป่า มาร่วมพัฒนาชาติไทย และรัฐบาลในขณะนั้น ก็ตกลง
แต่เรื่องก็ถูกผลัด ถูกดองเรื่อยมา และมีการรื้อฟื้น เรียกร้องโดยกล่มสหายเก่าหลายครั้ง แต่เรื่องก็เงียบไปทุกครั้ง (ส่วนใหญ่จะเป็นทางฝั่งอีสาน) จนมาถึงสมัยนายก พล.อ.สุรยุทธ จุลลานนท์ ซึ่งบิดาของท่าน ก็เป็นสหายเก่าภายใต้พันธสัญญานี้เช่่นกัน ท่านก็ได้เอาเรื่องนี้มาปัดฝุ่น และเริ่มเป็นรูปธรรมโดยหลายฝ่ายช่วยกันผลักดัน จนวันนี้ ได้จ่ายเงินงวดแรกไปแล้ว ผมก็เคลือบแคลงเหมือนที่ลุงดุลย์ว่านั่นแหละครับ เป็นที่มาของกระทู้นี้ รายละเอียดเพิ่มเติม ลองค้นกูเกิ้ลดู โดยคำค้น "ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย+๖๖/๒๓+พันธสัญญา+225,000" หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มกราคม 13, 2011, 11:23:40 PM ผมก็เพิ่งได้ยินเรื่องนี้ล่ะครับ ผมว่าผมก็เสพข่าวสารเยอะอยู่นะ
เงินขนาดนั้น คงเป็นข่าวใหญ่แล้วล่ะครับ ถ้ามีการให้จริง แค่น้ำท่วม ครอบครัวละ5พัน ยังจ่ายไม่ครบเลย ส่งเรื่องไปข่าว3มิติสิครับพี่ เค้าอาจจะขุดค้นมาให้ได้ สมัยนี้มิจฉาชีพเยอะ ขนาดตั้งมูลนิธิปลอม โครงการหลวงปลอม มันยังกล้า :P หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 11:26:22 PM http://www.innnews.co.th/innexct/oct49_v12/p4.php (http://www.innnews.co.th/innexct/oct49_v12/p4.php)
"ลุงคำตัน" และคำสั่งเสีย ดูแล "สหาย" ของพ่อ "ลุงคำตัน" หรือ "พล.ท.พโยม จุลานนท์" ผู้บัญชาการกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทย (ทปท.) เป็นลูกของ พ.อ.พระยาวิเศษสิงหนาถ (ยิ่ง จุลานนท์) กับคุณหญิงเก๋ง จุลานนท์ และเป็นลูกเขยของ พ.อ.พระยาศรีสิทธิสงคราม (เมื่อแต่งงานกับ น.ส.อัมโภช ท่าราบ) อดีตกบฏบวรเดช (ตุลาคม ๒๔๗๖) ก่อนเข้าป่า "พ.ท.พโยม" เป็นนายทหารใหญ่มีบทบาทสำคัญระดับ "นายทหารเสนาธิการ" และเป็นทหารที่มีความฝักใฝ่ในการเมืองด้วย เมื่อมีความใกล้ชิดกับจอมพล ป. พิบูลสงคราม จึงได้ร่วมทำการรัฐประหารเพื่อล้มล้างรัฐบาลของ หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ เมื่อ ๘ พฤศจิกายน ๒๔๙๐ ต่อมาขัดแย้ง จอมพล ป. โดยเข้าร่วมกบฏโรงเรียนเสนาธิการ (กบฏเสนาธิการ) เมื่อ ๑ ตุลาคม ๒๔๙๑ ไม่สำเร็จ ถูกปราบจนต้องลี้ภัยการเมืองไปศึกษาที่สถาบันลัทธิมาร์กซ์ - เลนิน ณ กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ๘ ปี (๒๕๐๐) จึงกลับไทยพร้อมลงสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส ในสังกัดพรรค "สหภูมิ" และได้เป็น ส.ส.เพชรบุรี ก่อนที่ในปีถัดมามีการเปลี่ยนแปลงการเมืองต้องหลบลงใต้ดินอีก สามปีผ่านยิ่งถูกรัฐบาลทหารรุกหนัก ถึงขั้นประหารชีวิต รวม วงศ์พันธ์ สมาชิกกรมเมือง ซึ่งเป็นองค์กรสูงสุดของ พคท. ทำให้มุ่งหน้าสู่ราวไพรเพื่อเตรียมการสู้รบด้วยอาวุธในเขตป่าเขา ถัดมาอีกสองปี "สหายคำตัน" ในฐานะคณะกรรมการกลางการพรรค ได้ตัดสินใจเข้าป่าที่ ต.ดงหลวง อ.นาแก จ.นครพนม หลังจากนั้นไม่มีใครได้ข่าวอีกเลย จนกระทั่งปี ๒๕๑๐-๒๕๑๑ ที่กลับมาอีกครั้งในฐานะผู้นำคนหนึ่งของ "แนวร่วมรักชาติแห่งประเทศไทย" ซึ่งเขาประกาศตัวเป็นแกนนำที่ปักกิ่ง (เป็นองค์กรแนวร่วม พคท.ที่พรรคคอมมิวนิสต์ จีนให้การยอมรับอย่างเป็นทางการเช่นเดียวกับ พีแอลโอ.ของปาเลสไตน์) "สหายคำตัน" ได้ขึ้นสู่ตำแหน่งแกนนำของพรรคคนหนึ่ง จนปี ๒๕๑๘ กรมการเมืองของพรรคได้มอบหมายให้รับผิดชอบงานด้านเสนาธิการของกองทัพปลดแอกแห่งประเทศไทย (ทปท.) ซึ่งเป็น "กองกำลังติดอาวุธ" ของพรรค และใช้ชีวิตอยู่ในเขตงานรอยต่อชายแดนไทย-ลาว และมีส่วนร่วมในการวางแผนโจมตีฐานปฏิบัติการห้วยโก๋น จ.น่าน อันเป็นการทดสอบกลยุทธ์ทางการทหารครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของ พคท. ช่วงหลังที่ พคท. ต้องกลับมาตั้งหลักยังฐานที่มั่นในเขตน่านเหนือ น่านใต้ ทว่า "ตู้คำตัน" ยังคงอยู่ที่หลวงน้ำทา กระทั่งจีนส่งไปปักกิ่งเพื่อรักษาสุขภาพ ในปี ๒๕๒๑ และทรุดหนักในปี ๒๕๒๓ ในปีนั้นเองที่ "ลุงคำตัน" ที่กลายเป็น "ชายชรา" ที่มีหลายโรครุมเร้า ทั้งความดันโลหิตสูง เบาหวาน เกาต์ และอัมพฤกษ์ เนื่องจากตกช้าง ทำให้เส้นประสาทในไขสันหลังทำงานไม่ปกติ ได้มีโอกาสพบหน้าลูกชาย หลังจากไม่เจอกันร่วม ๒ ทศวรรษ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก "ป๋าเปรม" ให้ "พล.อ.สุรยุทธ์" เดินทางไปกับคณะ "พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ" ทั้งคู่ก็ใช้เวลา ถามสารทุกข์สุกดิบซึ่งกันประสาพ่อลูก โดย "ลุงคำตัน" ได้ถ่ายรูปกับลูกด้วย เพื่อให้ลูกเก็บไว้เป็นที่ระลึก พร้อมมีคำสั่งเสียให้ "ลูกทำตัวดีๆ เพราะคงเป็นการพบกันครั้งสุดท้าย ก่อนจะฝากให้ช่วยดูแลบรรดาสหายของพ่อ" ที่อยู่ในเขตงานต่างๆ ที่เขาเคยใช้ชีวิตอยู่ทั้งที่ จ.น่าน และ แถบอีสานใต้ ซึ่งเรื่องนี้ "พล.อ.สุรยุทธ์" ได้พูดไว้กับอดีตสหายหลายคน ว่าเขาต้องสานต่อสิ่งที่พ่อสั่งเสียให้ได้ ไม่กี่เดือนหลังจากนั้น "ลุงคำตัน" วัย ๗๐ ปี ก็เสียชีวิตโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดงานศพให้ แต่ทางครอบครัวไม่ได้ไปร่วมงานด้วย มีเพียงอัฐิของบิดาที่คืนกลับมาสู่ผืนแผ่นดินไทย เก็บไว้ยังวัดเพชรพลี จ.เพชรบุรี โดยมีการทำบุญทุกปี "สหายของพ่อ" บรรดาสหายของ "ลุงคำตัน" นั้นหาใช่หมายถึงแต่สหายรุ่นราวคราวเดียวกันที่บางคนก็อำลาจากโลกนี้ไปแล้วด้วยวัยสูงอายุไม่ หากแต่หมายถึงบรรดา "สหาย" ที่เข้าป่าตั้งแต่เป็นนักศึกษา เมื่อครั้ง ปี ๒๕๑๖ และ ๒๕๑๙ ทั้งในพื้นที่อีสานเหนือ อีสานใต้ โดยบางคนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของ "ลุงคำตัน" ในกองทัพปลดแอก บางคนก็เป็น "สหาย" สาย "ปัญญาชน" ที่มีบทบาทเคลื่อนไหวในปัจจุบันทั้งทางเปิดและปิด โดยเฉพาะหลายคนใน "สโมสร ๑๙" ขณะที่บางคนก็เป็นทหารบ้านที่เข้าร่วมและให้การนับถือ "ลุงคำตัน" ทั้งในด้านอุดมการณ์ ความกล้าหาญ และการใช้ชีวิตแบบพอเพียง สำหรับสหายที่น่าจะเป็นรุ่นใกล้เคียงกับ "ลุงคำตัน" ทั้งที่ร่วมศึกษาในสถาบันลัทธมาร์กซ์-เลนิน และเคยร่วมเป็นฝ่ายนำ ในคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ อาทิ ส.ชัด หรือ มิตร สมานันท์ (เจริญ วรรณงาม) เป็นเลขาธิการใหญ่ คุมงานพรรคฯ และเป็นผู้บัญชาการกองทัพปลดแอกฯ (ทปท.) "จางหย่วน" หรือ ส.ธาร (วิรัช อังคถาวร) เป็นฝ่ายจัดตั้งคุมงานในเมือง และงานในกรุงเทพฯ "ส.สู้ หรือ อุดม สีสุวรรณ" อดีตกรรมการกลาง พคท. "ผิน บัวอ่อน" "รวม วงศ์พันธุ์" "สหายดิน" "ธง แจ่มศรี" "สหายจำรัส" "เปลื้อง วรรณศรี" "ทรง นพคุณ" "สหายด่าง" "ดำริห์ เรืองสุธรรม" "สหายห่ง" "ประสิทธิ์ ตะเพียนทอง" "สหายไฟ" "อัศนี พลจันทร์" "สหายประวัติ" สิน เติมลิ่ม สหายเกษม ศักดิ์ สุภาเกษม สหายสุรีย์ นิตย์ พงศ์ดาบเพชร ฯลฯ พันธะสัญญา๖๖/๒๓ จากแม่ทัพสู่นายกฯ สำหรับพันธะสัญญาที่รัฐเคยมีต่อ "สหาย" ที่เคยเข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยแล้วต่อมาได้เข้ามอบตัวต่อทางการตามนโยบาย ๖๖/๒๓ (คำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ ๖๖/๒๓ ซึ่งออกมาในสมัย "พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์" อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหาพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย) กลายเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย(ผรท.)ส่วนใหญ่เป็น ปัญหาของชาวบ้านตกค้างถูกหมักหมมมาช้านาน ที่ภาครัฐเคยให้คำมั่นสัญญาว่าจะจัดการแต่รัฐบาลก็ไม่เคยแก้ไขตามที่รับปาก เช่น ปัญหาการจัดสรรที่ดินทำกิน ปัญหาการจัดสรรโคกระบือ ปัญหาแหล่งน้ำ ฯลฯมาในยุคของ "พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์" นายกฯนอกจากจะจับปัญหานี้ตั้งแต่สมัยเป็นแม่ทัพภาคที่ ๒ แล้ว สมัยเป็น ผบ.ทบ.ก็เคยมีรายงานว่าเขาให้ความสนใจกับปัญหานี้เหล่านี้แต่ไม่ค่อยได้รับการตอบรับจากรัฐบาล " ยืนยันอีกครั้งว่าจะพยายามเร่งสะสางทุกอย่างที่คั่งค้างมาตั้งแต่ที่ผมเป็นแม่ทัพภาคที่ ๒ ขอให้ทุกคนสบายใจ สิ่งที่พูดไว้ทุกอย่างจะเป็นจริง ไม่เคยลืมทุกคนที่เข้าร่วมพัฒนาชาติไทย ไม่ต้องเป็นห่วงและพร้อมรับฟังข้อห่วงใยทุกอย่าง ...ในเบื้องต้นได้พูดถึงการจัดสรรที่ดินทำกินให้ แต่ก็ไม่มีที่ดิน พูดการจัดหาโคกระบือให้แต่โครงการดังกล่าวก็ยังไม่บรรลุผล และในที่สุดก็พูดถึงเรื่องเงินชดเชยจำนวนหนึ่ง แต่ตกค้างมาหลายปียังไม่สามารถดำเนินการได้ " พล.อ.สุรยุทธ์เคยเป็นแม่ทัพภาค ที่๒ ดูแลพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาก่อนและทราบว่าผู้เกี่ยวข้องในพื้นที่ยังไม่ได้รับสิ่งที่รัฐบาลได้สัญญาไว้ว่าจะให้ความช่วยเหลือตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน เรื่องค้างมาตลอด ที่สำคัญเมื่อครั้งพรรคความหวังใหม่ที่มี"พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ" ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในผลิตผล๖๖/๒๓ ไปรับปากชาวบ้านไว้แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ ทำให้ ปี ๒๕๓๗-๒๕๓๘ ผรท.ได้มีการจัดตั้ง กลุ่มแนวร่วมพันธมิตรประชาชนอีสาน(กพอ.)ทำการยื่นข้อเรียกร้องขอที่ดินทำกิน และปัจจัยการผลิต เช่นวัว เงินทุนหมุนเวียนประกอบอาชีพ แต่ก็ไม่ได้รับการตอบสนองและมีการเคลื่อนไหวเรื่อยมา นอกจากนี้ยังพบ ว่า ผรท.ส่วนใหญ่ที่ออกจากป่าในหลายจังหวัด ยังไม่ได้รับการจัดสรรที่ดินทำกินและบางส่วนก็ได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐบาลชุดที่ผ่านมาด้วย หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ มกราคม 13, 2011, 11:31:00 PM ถ้ามันมีที่ไปที่มาและอธิบายได้รวมถึงมีพันธะสัญญาแต่ก่อนเก่ามาอย่างนี้คนรับได้ครับถ้าดำเนินโดยภาครัฐจริงก็ควรไปรักษาสิทธิ์ครับ
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 13, 2011, 11:42:13 PM บิงโก!! เจอแล้ว
http://web.parliament.go.th/parcy/sapa_db/committee-upload/1-20100917124950_62.pdf (http://web.parliament.go.th/parcy/sapa_db/committee-upload/1-20100917124950_62.pdf) (http://img833.imageshack.us/img833/5947/dddmd.png) หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ มกราคม 13, 2011, 11:47:42 PM ยินดีด้วยครับ งั้นตามเรื่องให้แม่พี่เลยครับ ท่านจะได้สบายใจ ::002::
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: ต้นหนาว ที่ มกราคม 13, 2011, 11:59:20 PM ::002:: ::002:: ::002::
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 12:28:53 AM ปัญหาของผมคือ ผมจะยังสามารถเรียกร้องสิทธิตรงนี้ให้แม่ได้อีกหรือไม่ หมดเขตหรือยัง
ถ้ายัง จะไปหาใคร ที่ไหน ลำพังเงินสองแสนกว่าบาท ไม่หนักหนามากนักหรอก สำหรับลูกสี่คน ที่ทำงานแล้วทั้งนั้น และมีสวนยาง ผลอาสินที่แม่แบ่งให้มากพอ แต่ แม่คงอยากได้สิทธิตรงนั้นมากกว่าเงินที่จะได้จากลูก ๆ แน่นอน หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มกราคม 14, 2011, 12:53:48 AM ขอขอบคุณครับท่าจขกท.ผมขออนุญาตอ่านอย่างเดียว อย่างอื่นไม่เกี่ยว..............ไม่รู้ไม่ชี้................... :D
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 12:54:34 AM http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000002470 (http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000002470)
หาข่าวที่พิษณุโลกจ่ายเงินวันที่ ๑๓ ม.ค. ไม่ได้ เจอแต่ข่าวเก่า ๆ พิษณุโลก - รอง ผอ.กอ.รมน.พิษณุโลกสำรวจอดีต ผกค.ที่เข้าป่า หลังกลับใจเข้ามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติตามนโยบาย 66/23 ทัพภาค 3 เตรียมให้ความช่วยเหลือ ผรท.ครอบครัวละ 200,000บาท ส่วนที่ทำกินที่เคยเรียกร้อง คงปล่อยให้ทำกินไปก่อนในเขตป่าสงวนและอุทยานฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.บรรยงค์ สิรสุนทร รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดพิษณุโลก(ฝ่ายทหาร) พร้อมด้วย พ.อ.สมใจ รอดสุขเจริญ รอง หน.กลุ่มงานกิจการมวลชน ชี้แจงกับผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย( ผรท.) พื้นที่ อ.นครไทย ที่อาคารเอนกประสงค์อำเภอนครไทย จว.พิษณุโลก เมื่อ 7 ม.ค.53 เพื่อขอทราบปัญหาต่างๆ ที่ต้องการจะให้ กอ.รมน.ช่วยเหลือ ซึ่งในการประชุมครั้งนี้มี ผรท.เข้าร่วมประชุม 130 คน จากที่มีรายชื่อในบัญชีของ กอ.รมน. 139 คน โดยที่ประชุมให้ ผรท.ทุกคนส่งภาพถ่ายให้ กอ.รมน.และจัดเก็บข้อมูลเพื่อประชุมใหม่ในวันที่ 13,20 ม.ค.2553 หากรวบรวมข้อมูลหลักฐานครบเรียบร้อยแล้ว จะนำเอกสารหลักฐานนำส่ง กองทัพภาคที่ 3 เพื่อเสนอรัฐบาลให้ความช่วยเหลือต่อไป เบื้องต้นกองทัพภาคที่ 3 เตรียมให้ความช่วยเหลือ ผรท.ครอบครัวละ 200,000 บาท โดยให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา ทั้งนี้ ผรท.พื้นที่ อ.นครไทย ฯ มีปัญหาเรื่องที่ดินที่อยู่อาศัย และที่ดินทำกินไม่มีเอกสารสิทธิ์ต้องการมีที่ดินเป็นของตนเอง เนื่องจากที่ดินส่วนใหญ่อยู่ในเขตป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ได้ ซึ่งทาง กอ.รมน.กำลังทำโครงการต่างๆ เข้าไปให้การช่วยเหลือในพื้นที่ บ้านห้วยทราย ต.ห้วยเฮี้ย บ้านบุ่งผลำ ต.น้ำกุ่ม อ.นครไทย จ.พิษณุโลก หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 12:55:58 AM ขอขอบคุณครับท่าจขกท.ผมขออนุญาตอ่านอย่างเดียว อย่างอื่นไม่เกี่ยว..............ไม่รู้ไม่ชี้................... :D ขอบคุณครับ ::014:: อันนี้ ของนราฯ http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=489419 (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=489419) 12 มค. 2554 16:20 น. วันนี้ที่ห้องประชุมกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส นายธนน เวชกรกานนท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดนราธิวาส และ พ.อ.สมพล ปานกุล รองผอ.รมน.จว.นราธิวาสร่วม เป็นประธานมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ประกอบด้วย นายวิเชียร บุญมา , นางดรุณี บุญทัศน์กุล และนางลัดดา มังคลาทัศน์ โดยเป็นการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพรายละ 225,000 บาท โดยคิดเทียบเป็นราคาที่ดิน 5 ไร่ วัว 5 ตัว โดยผู้ที่ได้รับนั้นเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่เกิดในปี พ.ศ. 2509 หรือก่อนหน้านั้น และไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากทางราชการมาก่อน รวมถึงต้องมีฐานะยากจนมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 6,000 บาท หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: สหายแป๋ง คนดง ที่ มกราคม 14, 2011, 12:58:54 AM เอาน่า..........ขอบคุณที่ท่านนำเสนอ แต่ผมคงไม่กล้าเผลอพูดอะไรมากไปกว่านี้ แต่ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีต่อยุวชน-เยาวชนรุ่นหลังครับ ::002:: ::002:: ::002::
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 01:12:29 AM สรุปคร่าว ๆ ในใจตอนนี้ ผมมีร่างคำอธิบายแม่ได้แล้ว
ว่า ... เขาจะจ่ายให้ ผรท.ที่เกิดก่อนปี ๒๕๐๙ ไม่เคยได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาล และมีรายได้ต่ำ ประมาณ ๖๐๐๐ บาทต่อปี (มีจริงเร้อ... ขี้หมูขี้หมา คนทุกวันนี้ จน ๆ ก็ปาเข้าไปปีละสี่ซ้าห้าหมื่นแล้ว) ซึ่งแม่ผม ไม่ใช่แน่นอน ท่านมีรายได้จากยางพาราส่วนของท่านเอง เดือน ๆ หนึ่งหลายอัฐอยู่ ไหนจะผลอาสินอื่น ๆ อีก แถมลูกก็รับราชการ มีสิทธิขั้นพื้นฐานมั่นคง ส่วนที่ดินทำกิน อันนี้ก็คงจบเห่ เพราะที่ดินชื่อติดแม่ตั้งหลายแปลง หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 07:54:41 AM เมื่อเช้า รับแม่ไปตลาด
ดุท่า คงจะมีพิรุธเยอะอยู่ แม่ถาม มีอะไรหรือเปล่า เห็นท่าทางแปลก ๆ .... อพิโถ....!! อย่าว่าแต่จะพกปืนหรือทำผิดแล้วตบตาตำรวจเลย แค่แม่ ผู้หญิงชราคนหนึ่ง ก็ไปไม่รอดแล้ว.... หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ มกราคม 14, 2011, 08:29:41 AM ฉ็อง"ชวนป๋วยปี่แป่กอ"
ทำไป ในเมื่อมีสิทธิ์ที่จะทำให้แม่สบายใจ หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 14, 2011, 09:32:55 AM ถัดมาปี ๕๓ ต้นปี เรื่องนี้ กระพือซ้ำ เมื่อกลุ่มสหายเก่า ที่เคยร่วมกลุ่มกับพ่อแม่ผม เริ่มดำเนินการอะไรบางอย่าง ในขณะนั้น ลงทะเบียนกันที่ไหน ใครเป็นผู้รวบรวมครับประมาณว่า ลงทะเบียนผู้ที่ตกค้าง...และสหายเก่าทั้งหมู่บ้านนอกจากแม่ ลงทะเบียนหมดแล้ว. หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 09:43:03 AM ถัดมาปี ๕๓ ต้นปี เรื่องนี้ กระพือซ้ำ เมื่อกลุ่มสหายเก่า ที่เคยร่วมกลุ่มกับพ่อแม่ผม เริ่มดำเนินการอะไรบางอย่าง ในขณะนั้น ลงทะเบียนกันที่ไหน ใครเป็นผู้รวบรวมครับประมาณว่า ลงทะเบียนผู้ที่ตกค้าง...และสหายเก่าทั้งหมู่บ้านนอกจากแม่ ลงทะเบียนหมดแล้ว. ส่งต่อ ๆ กันไป จากชุมชน มีผู้รวบรวม มีสหายเก่า ที่เป็นเพื่อนบ้าน มาแจ้งข่าว แล้วบอกให้คอยฟังข่าว อาจจะมีการประชุม.... แล้วก็เอาลายเซ็นต์ เอาหลักฐานเอกสารที่รับรองสิทธิต่าง ๆ สำเนาทรัพย์สินต่าง ๆ ให้ไป (น้าซับฯกล้าให้มั๊ย) บอกว่า จะส่งไป ทภ.4 แต่เขาไม่ได้ไปส่งเอง สหายจากฝั่งลานสกา เป็นแกนนำ นำส่งไปอีกทอด คือ ทุกอย่างคลุมเครือ หาความชัดเจนไม่ได้สักอย่าง.... หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 14, 2011, 09:58:11 AM เข้าใจเลยครับ
หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มกราคม 14, 2011, 10:04:34 AM ปัญหาของผมคือ ผมจะยังสามารถเรียกร้องสิทธิตรงนี้ให้แม่ได้อีกหรือไม่ หมดเขตหรือยัง ถ้ายัง จะไปหาใคร ที่ไหน ลำพังเงินสองแสนกว่าบาท ไม่หนักหนามากนักหรอก สำหรับลูกสี่คน ที่ทำงานแล้วทั้งนั้น และมีสวนยาง ผลอาสินที่แม่แบ่งให้มากพอ แต่ แม่คงอยากได้สิทธิตรงนั้นมากกว่าเงินที่จะได้จากลูก ๆ แน่นอน ครับ... ความรู้สึกนั้น... สำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่างครับ... ::014:: ...ต้องลองติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูครับ... ทุกอย่างมีข้อยกเว้นเสมอ... ผมว่า... ถ้าเรามีสิทธิ์ที่จะได้รับ... ก็ต้องได้รับครับ... ::014:: หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 10:06:31 AM ปัญหาของผมคือ ผมจะยังสามารถเรียกร้องสิทธิตรงนี้ให้แม่ได้อีกหรือไม่ หมดเขตหรือยัง ถ้ายัง จะไปหาใคร ที่ไหน ลำพังเงินสองแสนกว่าบาท ไม่หนักหนามากนักหรอก สำหรับลูกสี่คน ที่ทำงานแล้วทั้งนั้น และมีสวนยาง ผลอาสินที่แม่แบ่งให้มากพอ แต่ แม่คงอยากได้สิทธิตรงนั้นมากกว่าเงินที่จะได้จากลูก ๆ แน่นอน ครับ... ความรู้สึกนั้น... สำคัญกว่าทุกสิ่งทุกอย่างครับ... ::014:: ...ต้องลองติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูครับ... ทุกอย่างมีข้อยกเว้นเสมอ... ผมว่า... ถ้าเรามีสิทธิ์ที่จะได้รับ... ก็ต้องได้รับครับ... ::014:: ::014:: ขอบคุณครับ ฝั่งนั้นเคลื่อนไหวบ้างมั๊ยครับ ในฐานเป็นแกนนำผลักดันเรื่องนี้ หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มกราคม 14, 2011, 04:11:26 PM 14 มค. 2554 15:26 น.
http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=489827&lang=T&cat= (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=489827&lang=T&cat=) พ.อ.พยนต์ พระศุกร์ รอง ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ปราจีนบุรี เป็นประธานอบรมฟื้นฟูแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ก่อนดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายพร ขาวผ่อง นายเสนาะ ฆ้องหลวง นายสมคิด ศรศรี นายอโณทัย รักธรรม ที่ห้องประชุมการเรียนรู้ชั้น 4 ศูนย์ราชการใหม่ ต.ไม้เค็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จากนั้นนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผวจ.ปราจีนบุรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ปราจีนบุรีได้มอบเงินช่วยเหลือฯรายละ 225,000 บาท พ.อ.พยนต์ กล่าวว่า ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 190/2552 ลง วันที่ 18 ส.ค.52 และประกาศกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เรื่องการดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยมีความมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยครั้งที่ 1 รวมทั้งสิ้น 2,542 ราย โดย จ.ปราจีนบุรี มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือจำนวน 4 ราย ซึ่งได้ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ไม่มีเรื่องร้องเรียนและมีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด โดยมอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ปราจีนบุรี เป็นหน่วยดำเนินการเบิกจ่ายจากทางราชการและนำฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาปราจีนบุรี ในบัญชีของผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ แก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในครั้งนี้ และเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การครองชีวิตอยู่ในสังคม ดำรงตนให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคมและประเทศชาติ หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 04:18:15 PM 14 มค. 2554 15:26 น. http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=489827&lang=T&cat= (http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?newsid=489827&lang=T&cat=) พ.อ.พยนต์ พระศุกร์ รอง ผอ.กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ปราจีนบุรี เป็นประธานอบรมฟื้นฟูแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ก่อนดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพ จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นายพร ขาวผ่อง นายเสนาะ ฆ้องหลวง นายสมคิด ศรศรี นายอโณทัย รักธรรม ที่ห้องประชุมการเรียนรู้ชั้น 4 ศูนย์ราชการใหม่ ต.ไม้เค็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จากนั้นนายศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผวจ.ปราจีนบุรีในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ปราจีนบุรีได้มอบเงินช่วยเหลือฯรายละ 225,000 บาท พ.อ.พยนต์ กล่าวว่า ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 190/2552 ลง วันที่ 18 ส.ค.52 และประกาศกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน เรื่องการดำเนินการมอบเงินช่วยเหลือค่าประกอบอาชีพแก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยมีความมุ่งหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยครั้งที่ 1 รวมทั้งสิ้น 2,542 ราย โดย จ.ปราจีนบุรี มีผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยที่ยื่นความจำนงขอรับการช่วยเหลือจำนวน 4 ราย ซึ่งได้ผ่านการกลั่นกรองจากคณะกรรมการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย ไม่มีเรื่องร้องเรียนและมีคุณสมบัติถูกต้องครบถ้วนตามหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด โดยมอบให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จ.ปราจีนบุรี เป็นหน่วยดำเนินการเบิกจ่ายจากทางราชการและนำฝากเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทยสาขาปราจีนบุรี ในบัญชีของผู้ได้รับสิทธิ์ดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ แก่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทยในครั้งนี้ และเพื่อเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน การครองชีวิตอยู่ในสังคม ดำรงตนให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง สังคมและประเทศชาติ ขอบคุณมากมายครับ ผมมีคำตอบดี ๆ ให้แม่แล้ว หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มกราคม 14, 2011, 05:35:42 PM บอกว่าแม่รวยเกินที่จะได้แน่ๆ
แต่อย่าลืม หากแม่บอกว่า คนอื่นรวยกว่าแม่ยังได้ แล้วยกตัวอย่างเพื่อนแกขึ้นมาสักคน อุดรูรั่วก่อนเอาขันไปตักน้ำ น้าแพนด้า หัวข้อ: Re: สหายเก่า..พันธสัญญา ๖๖/๒๕๒๓..กับความรู้สึกของแม่ผู้ชรา เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ มกราคม 14, 2011, 08:42:07 PM ขอบคุณเหลือจะกล่าวครับน้าซับฯ
ผมอาจจะพลิกพลิ้วได้สารพัด กับคนอื่น แต่กับแม่ ผมจะไปไม่เป็นเลย ถ้ามีความลับ แกมองหน้าทีเดียวผมก็คายออกหมดแล้ว |