เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 06:36:21 PM



หัวข้อ: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 06:36:21 PM
อิอิอิ ผมเคยได้ยินบ่อยๆว่า "รักกันดั่งปาท่องโก๋" วันนี้ ขอนำเสนอ
ที่มาของ ปาท่องโก๋  ::014::

(http://image.ohozaa.com/i/3bf/1phl1.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=3b33ea303e104e43dde52ed50afffc42) (http://image.ohozaa.com/i/e9d/d1tx2.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6ade9f95cd9b9f4c519806ef8c6b2e24) (http://image.ohozaa.com/i/92f/21lu3.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=e674b74d6f1ab4630c88bd6ae38d961d) (http://image.ohozaa.com/i6/w672n.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=df08a420dd1c493651a9099e17fdb459) (http://image.ohozaa.com/i/8f8/0ulp5.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=7338c0c9f6379c684beba8b88ce558f5)

 ::014:: ::014:: ::014::

http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%8B-%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99---27762 (http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%82%E0%B8%81%E0%B9%8B-%E0%B8%82%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B9%81%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99---27762)


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: SingCring ที่ มีนาคม 12, 2011, 06:41:49 PM
โห เพิ่งทราบนะครับเนี่ย ขอบคุณครับ

ปาท่องโก๋ นี่ ผมเรียก ก๊วยฉ๊อก  ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 12, 2011, 06:56:20 PM
                           แถวบ้านขายตัวนึง สามบาท ติ๊ดเดียวเอง  ::012::



หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 12, 2011, 06:57:46 PM
ผมเคยเคยดูในรายการ "ท้าพิสูจน์" ช่วงที่ออกรายการแรกๆ ครับ... และคำว่า "ปาท่องโก๋" ก็ไม่ได้เพียนมาจากคำว่า "อิ้วจ่าก้วย" ด้วยครับ... แต่เป็นการที่ขายคู่กัน... เลยเรียกสับกัน...  ;D ;D ;D

...ที่โรงเรียน... ผมเองก็มีคู่หูคนนึง... ไปไหนมาไหนด้วยกันจนคนเรียดปาท่องโก๋... แต่เป็นปาท่องโก๋ผิดส่วน... เล็กข้างใหญ่ข้าง... ::007:: ::007:: ::007::



หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 12, 2011, 06:59:03 PM
+๑  ขอบคุณครับ   ::014::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: Tarvor(รักในหลวง) ที่ มีนาคม 12, 2011, 07:07:21 PM
+1ครับ หลงเรียกปาท่องโก๋ซะตั้งนาน ::005::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 07:09:44 PM
+1ครับ หลงเรียกปาท่องโก๋ซะตั้งนาน ::005::
เค้าเรียกกันทั้งประเทศแหละครับ  ::005:: ::005::

ขอบคุณทุกท่าน ครับที่ +ให้ครับ ทอนกลับ ครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: keng2516 รักในหลวง ที่ มีนาคม 12, 2011, 07:10:50 PM
ตอนเช้าระบายความแค้นด้วยปลาท่องโก๋ทุกวันไม่รู้ว่าแค้นอะไรกับใครได้ทุกวัน ตอนเย็นระบายความเครียดด้วยเบียร์เกือบทุกวันไม่รู้ว่าเครียดอะไรนักหนา  ::007:: ::007::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: sorrasak(a) ที่ มีนาคม 12, 2011, 07:27:17 PM
ดีใจจังครับ  วันนี้บังเอาสาระมาฝาก ::007:: ::007:: ::014::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 07:31:56 PM
ดีใจจังครับ  วันนี้บังเอาสาระมาฝาก ::007:: ::007:: ::014::

 :~) :~) :~) จะภูมิใจดีมั้ยเนี้ย  :~) :~)


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: sorrasak(a) ที่ มีนาคม 12, 2011, 08:00:49 PM
ผมชอบเอามาจิ้มนมข้นครับอร่อยดี  แต่ผมเห็นมีปลาท่องโก๋เป็นเกลียวด้วยครับบัง
ตัวใหญ่เหมือนกันครับ  กินกับสังขยาแล้วก็ชาชัก


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ มีนาคม 12, 2011, 08:01:58 PM
มีขนมที่เกิดจากความรักบ้างไหมครับ ;D


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 12, 2011, 08:03:08 PM
ดีใจจังครับ  วันนี้บังเอาสาระมาฝาก ::007:: ::007:: ::014::

 :~) :~) :~) จะภูมิใจดีมั้ยเนี้ย  :~) :~)

::007:: ::007:: ::007::

::014::



หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ มีนาคม 12, 2011, 08:11:49 PM
ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋

  


 
 


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 12, 2011, 08:15:40 PM
หน้าศาลบูชาเย่เฟย จะมีรูปปั้นของฝานไขว้2ผัวเมียนั่งคุกเข่าไว้ด้วยครับ เอาไว้ให้คนที่เข้าไปกราบบูชาเย่เฟยเสร็จออกมา ก็ได้ถ่มน้ำลาย/สาปแช่ง2ผัวเมียคู่นี้กัน

มีขนมที่เกิดจากความรักบ้างไหมครับ ;D

ถ้าอิงแนวรักในตัวบรรพชน ก็มี"บ๊ะจ่าง"ครับ  

ชีหยวน หรือ จูหยวน , 屈原, Qu Yuan ( 340-278 ปีก่อนคริสต์ศักราช ) กวีผู้รักชาติแห่งรัฐฉู่ ( patrotic poet )นับเป็นอีกผู้หนึ่งที่เป็นกวีคนสำคัญของจีน
ตามตำนานเล่าว่า ชีหยวนเป็นขุนนางที่มีความซื่อสัตย์ ยึดถือคุณธรรม กล้าพูดกล้าทำ ชอบช่วยเหลือชาวบ้าน ต่อมาถูกเหล่าขุนนางกังฉินกลั่นแกล้งจนถูกปลดตำแหน่ง
และเนรเทศออกจากแคว้นฉู่ รัฐฉินจึงถือโอกาสเข้าโจมตีรัฐฉู่จนล่มสลาย
ชีหยวนมีใจรักชาติแต่รู้สึกอับอายที่ไม่อาจทำสิ่งใดได้ จึงกระโดดแม่น้ำฉางเจียง (แยงซีเกียง ) ตายในวันขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 นั้นเอง
ชาวบ้านที่รู้เรื่องการตายของชีหยวน ระลึกถึงความดีจึงได้ออกเรือเพื่อตามหาศพ ในขณะที่ค้นหาพวกเขาก็เตรียมข้าวปลาอาหารไปโปรยลงแม่น้ำด้วย
นัยว่าเพื่อล่อให้สัตว์น้ำมากิน จะได้ไม่ไปกัดกินซากศพของชีหยวน หลังจากนั้นทุกปีเมื่อครบรอบวันตาย ชาวบ้านจะนำเอาอาหารไปโปรยลงแม่น้ำแยงซีเกียง


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 08:20:49 PM
ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋

   


 
 

ลักษณะ แบบนี้คล้ายๆ"หมั่นโถ่"  เลย ครับ  ::014::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: SillyOldMan ที่ มีนาคม 12, 2011, 10:53:16 PM
ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋


ลักษณะ แบบนี้คล้ายๆ"หมั่นโถ่"  เลย ครับ  ::014::

หมั่นโถว มีเกร็ดที่เจ๊กขี้โม้แบบผิดๆอยู่อันนึง ว่ามาจาก"ม่านโถว"ที่แปลว่า"หัว(พวก)ม่าน"กำเนิดขึ้นตอนที่ขงเบ้งยกทัพกลับจากปราบกบฏม่าน(โคตรเก่งเลย พาทหารไปเป็นแสน เหลือกับบ้านไม่ถึง3หมื่น...แล้วยังหน้าด้านมาประกาศว่าชนะอีก ::009:: .....ปกครองแคว้นสู่อยู่กว่า40ปี ประชากรลดจาก15ล้านเหลือไม่ถึง9ล้าน , อ่านสามก๊กให้ดีๆจะพบว่าขงเบ้ง"ไม่เคย"รบชนะในสงครามครั้งไหนเลยแล้วยังมีไอ้พวกหน้าโง่ยกย่องให้เป็นยอดอัจฉริยะได้อีก ::007:: )

ที่จริงม่านโถว(แป้งปั้นยัดไส้) เป็นอาหารทั่วไปของจีนทางภาคเหนือ เลยไปจนพ้นทะเลทรายโกบีมาก่อนหน้านั้นเป็นพันปีแล้ว

อ้อ....ฉากที่ขงเบ้งหลอกทหารพวกม่านมาเข้าดงประทัดเหล็กก็สุดยอดมหัศจรรย์เลยครับ เพราะดินปืนเกิดขึ้นหลังขงเบ้งตายไปสิบกว่าปี ..... สงสัยอีมีไทม์แมชชีน นั่งข้ามอนาคตมาซื้อกลับไปรบกับพวกม่านได้  ::007::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 10:56:04 PM
ปาถ่องโก๊ะ  ขนมสีขาวคล้ายซาลาเปาแต่เนื้อหยาบกว่า  นุ่ม ๆ ออกหวานนิด ๆ เพราะเขาจะผสมน้ำตาลทรายในแป้ง

เวลานึ่งจะใส่ถาดแบน ๆ กลม ๆ ใหญ่ ๆ  แล้วใช้มีดตัดเป็นชิ้นเล็กลงเพื่อง่ายต่อการรับประทาน

ที่บ้านผมเรียกไม่ผิดครับ คุณย่า(อาม่า) สอนผมมาแต่เล็กด้วยภาษาจีน และผมก็สอนให้ลูกทุกคนเรียกอย่างถูกต้องตั้งแต่เล็ก

อิ่วจาก้วย เป็นสำเนียงแต้จิ๋ว ซึ่งคนไทยเรียกอย่างผิด ๆ ว่า ปาท่องโก๋


ลักษณะ แบบนี้คล้ายๆ"หมั่นโถ่"  เลย ครับ  ::014::

หมั่นโถว มีเกร็ดที่เจ๊กขี้โม้แบบผิดๆอยู่อันนึง ว่ามาจาก"ม่านโถว"ที่แปลว่า"หัว(พวก)ม่าน"กำเนิดขึ้นตอนที่ขงเบ้งยกทัพกลับจากปราบกบฏม่าน(โคตรเก่งเลย พาทหารไปเป็นแสน เหลือกับบ้านไม่ถึง3หมื่น...แล้วยังหน้าด้านมาประกาศว่าชนะอีก ::009:: .....ปกครองแคว้นสู่อยู่กว่า40ปี ประชากรลดจาก15ล้านเหลือไม่ถึง9ล้าน แล้วยังมีไอ้พวกหน้าโง่ยกย่องให้เป็นยอดอัจฉริยะได้อีก ::007:: )

ที่จริงม่านโถว(แป้งปั้นยัดไส้) เป็นอาหารทั่วไปของจีนทางภาคเหนือ เลยไปจนพ้นทะเลทรายโกบีมาก่อนหน้านั้นเป็นพันปีแล้ว
โอ้โห  :DDรู้ลึก รู้จริง ข้าน้อยขอ คาระวะ +1 ครับพี่ ::014:: ::002:: ;D


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:35:28 PM
ขอบคุณสาระดีๆจากคุณศักดา  :Dคนทำร้านขายชา กาแฟ ปาท่องโก่น่าจะเอาสาระนี้ไปทำเป็นป้ายติดหน้าร้าน/หรือในร้าน บ้างนะครับ
ลูกค้าข้าราชการเลวๆ หรือ เสนาบดี ขุนนางกังฉินในบ้านเมืองเราไปอุดหนุน ต่อมสำนึกจะได้กระตุ้น เตือนใจตัวเองบ้าง

แล้วก็รบกวนคุณศักดาด้วยครับ ช่วยหาคำตอบให้ด้วยว่า ทำไม ขนมโดนัท จึงต้องมีรู  ;D ;D


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:45:19 PM
นานๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บังจะทำตัวมีส่าระต้องเข้ามาชมกันหน่อย ;)


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: Peerapat - รักในหลวง ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:46:58 PM
เข้ากระทู้บังมา รู้สึกหิวเลย บังนี้ ก้อ 

พรุ่งนี้เช้าต้องรีบไปหามากินกับกาแฟร้อนๆแล้ว  :D ;D


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:47:20 PM
คุณศักดาอยู่ใต้หรือเปล่าเพราะเคยมีผู้ใหญ่เชื้อสายจีนทางนราธิวาสเคยบอกไว้ทำนองนี้เหมือนกันเขาออกเสียงป๊ะท่องโก๊ และที่เรากินกันตอนเช้าก็อิ่วจาก้วยนี่แหละ แหมอยากกินอีกแล้ว ต้องไปภูเก็ตแล้วมั้งในกทม.นานๆจะเจอสักทีตามห้าง
 + 1 สำหรับข้อมูลดีๆ


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:49:41 PM
ขอบคุณสาระดีๆจากคุณศักดา  :Dคนทำร้านขายชา กาแฟ ปาท่องโก่น่าจะเอาสาระนี้ไปทำเป็นป้ายติดหน้าร้าน/หรือในร้าน บ้างนะครับ
ลูกค้าข้าราชการเลวๆ หรือ เสนาบดี ขุนนางกังฉินในบ้านเมืองเราไปอุดหนุน ต่อมสำนึกจะได้กระตุ้น เตือนใจตัวเองบ้าง

แล้วก็รบกวนคุณศักดาด้วยครับ ช่วยหาคำตอบให้ด้วยว่า ทำไม ขนมโดนัท จึงต้องมีรู  ;D ;D

(http://image.ohozaa.com/i/55e/hxjb1.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=3ed2070e80b6c2e5b123f497ab8d9eee) (http://image.ohozaa.com/i/b3e/r1vp2.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=2e170ef364add5b27fbaba61612e6d51)

 ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 12, 2011, 11:51:15 PM
คุณศักดาอยู่ใต้หรือเปล่าเพราะเคยมีผู้ใหญ่เชื้อสายจีนทางนราธิวาสเคยบอกไว้ทำนองนี้เหมือนกันเขาออกเสียงป๊ะท่องโก๊ และที่เรากินกันตอนเช้าก็อิ่วจาก้วยนี่แหละ แหมอยากกินอีกแล้ว ต้องไปภูเก็ตแล้วมั้งในกทม.นานๆจะเจอสักทีตามห้าง
 + 1 สำหรับข้อมูลดีๆ

ผมอยู่เหนือครับ (เหนือยะลามา 30 ก.ม)  ปัตตานี  ครับ :<<    ::005:: ::005:: ::014::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ มีนาคม 13, 2011, 12:11:43 AM
ว้าว รวดเร็วทันใจ ขอบคุณ คุณศักดา เรื่องรูโดนัทด้วย :) ครับ + 2


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: Yut64 ที่ มีนาคม 13, 2011, 02:24:10 AM
คุณศักดาอยู่ใต้หรือเปล่าเพราะเคยมีผู้ใหญ่เชื้อสายจีนทางนราธิวาสเคยบอกไว้ทำนองนี้เหมือนกันเขาออกเสียงป๊ะท่องโก๊ และที่เรากินกันตอนเช้าก็อิ่วจาก้วยนี่แหละ แหมอยากกินอีกแล้ว ต้องไปภูเก็ตแล้วมั้งในกทม.นานๆจะเจอสักทีตามห้าง
 + 1 สำหรับข้อมูลดีๆ

ผมอยู่เหนือครับ (เหนือยะลามา 30 ก.ม)  ปัตตานี  ครับ :<<    ::005:: ::005:: ::014::

อ้อ มิน่าล่ะ ปัตตานีต้องกินปู ปู และปู ยะลา ก็ นาซิดาแกตอนเช้า
เมื่อประมาณยี่สิบปีที่แล้วเคยไปลงพื้นที่เกษตรกับท่านเกษตรจังหวัดรู้สึกประทับใจมากกับท่านที่พาตระเวณไปตามหมู่บ้านชาวบ้านรู้จักท่านทุกคนท่านพูดภาษายาวีได้คล่องมาก ถ้าข้าราชการแถวนั้นเป็นอย่างท่านคงจะดีมาก


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 13, 2011, 08:25:56 AM
ขอบคุณสาระดีๆจากคุณศักดา  :Dคนทำร้านขายชา กาแฟ ปาท่องโก่น่าจะเอาสาระนี้ไปทำเป็นป้ายติดหน้าร้าน/หรือในร้าน บ้างนะครับ
ลูกค้าข้าราชการเลวๆ หรือ เสนาบดี ขุนนางกังฉินในบ้านเมืองเราไปอุดหนุน ต่อมสำนึกจะได้กระตุ้น เตือนใจตัวเองบ้าง

แล้วก็รบกวนคุณศักดาด้วยครับ ช่วยหาคำตอบให้ด้วยว่า ทำไม ขนมโดนัท จึงต้องมีรู  ;D ;D

(http://image.ohozaa.com/i/55e/hxjb1.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=3ed2070e80b6c2e5b123f497ab8d9eee) (http://image.ohozaa.com/i/b3e/r1vp2.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=2e170ef364add5b27fbaba61612e6d51)

 ;D ;D ;D ;D

ใครบอก... รูในโดนัทนั่น... เป็นเพราะเขาเอาแป้งตรงนั้นมาทำมัชกิ้น(โดนัทลูกกลมๆ เล็กๆ ) ต่างหาก... ::005:: ::005:: ::005::




หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 13, 2011, 08:43:22 AM
มันจับไม่ถนัดต่างหาก ขนมฝักบัวไม่มีรูไม่เห็นแฉะ  ::005::
(http://image.ohozaa.com/i/70d/1_original.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6a12320d1f59fa967d33ef482cf12768)


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 09:58:08 AM
ตำนานขนมครก

(http://image.ohozaa.com/i/0b4/8u013.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=b13bdc4cea252548d4301e26d4b1b277) (http://image.ohozaa.com/i/b20/27815_full.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=97588e73908d1f64debab5893dcc9cf3) (http://image.ohozaa.com/i2/1209321413.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=0605d4f805fa84ea236b96c1cba60972) (http://image.ohozaa.com/i6/3746422526_9c38827833.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=8f4fff066acd1d0b42fabfb194d6af0c)

มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า ไอ้ทิ หรือ พ่อกะทิ
เป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยโผงผางและกำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว เป็นคนพูดจริงทำจริง ขยันขันแข็ง
เอางานเอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควาย
ส่งคนเข้าซอย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน

มีสาวน้อยคนหนึ่ง ชื่อ แม่แป้ง
แม่แป้งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่ง
เธอเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน
แม่แป้งเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป

แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง ซึ่งผู้ใหญ่
ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ แต่ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน
นอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่ปลั่งจะใจอ่อน

ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรัก
ของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
เมื่อไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมาย
จะมาทำลายพิธีแต่งงานของสาวอันเป็นที่รัก
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้

แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
ผู้ใหญ่ปลั่ง

เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ได้ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แบบปากต่อปากว่า

..... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเมื่อเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
ของผู้ใหญ่ปลั่ง ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที..

...อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ

...อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นาย ของผู้ใหญ่ปลั่ง
รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียง
ไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น

..... รุ่งเช้า
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผลงาน
แต่ภาพเบื้องล่างกลับพบไอ้ทิตระกองกอด
ทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข

...เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
"อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย"
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรัก
ที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี

ทุกแรมหกค่ำเดือนหก...
ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้ง
จะตื่นตั้งแต่มืดเข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์
แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก (ขนมของ "คนรักกัน" )
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น + ตำนานขนมครก
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:03:42 AM
ตำนานขนมครก

(http://image.ohozaa.com/i/0b4/8u013.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=b13bdc4cea252548d4301e26d4b1b277) (http://image.ohozaa.com/i/b20/27815_full.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=97588e73908d1f64debab5893dcc9cf3) (http://image.ohozaa.com/i2/1209321413.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=0605d4f805fa84ea236b96c1cba60972) (http://image.ohozaa.com/i6/3746422526_9c38827833.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=8f4fff066acd1d0b42fabfb194d6af0c)

มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า ไอ้ทิ หรือ พ่อกะทิ
เป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยโผงผางและกำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว เป็นคนพูดจริงทำจริง ขยันขันแข็ง
เอางานเอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควาย
ส่งคนเข้าซอย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน

มีสาวน้อยคนหนึ่ง ชื่อ แม่แป้ง
แม่แป้งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่ง
เธอเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน
แม่แป้งเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป

แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง ซึ่งผู้ใหญ่
ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ แต่ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน
นอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่ปลั่งจะใจอ่อน

ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรัก
ของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
เมื่อไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมาย
จะมาทำลายพิธีแต่งงานของสาวอันเป็นที่รัก
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้

แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
ผู้ใหญ่ปลั่ง

เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ได้ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แบบปากต่อปากว่า

..... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเมื่อเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
ของผู้ใหญ่ปลั่ง ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที..

...อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ

...อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นาย ของผู้ใหญ่ปลั่ง
รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียง
ไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น

..... รุ่งเช้า
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผลงาน
แต่ภาพเบื้องล่างกลับพบไอ้ทิตระกองกอด
ทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข

...เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
"อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย"
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรัก
ที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี

ทุกแรมหกค่ำเดือนหก...
ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้ง
จะตื่นตั้งแต่มืดเข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์
แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก (ขนมของ "คนรักกัน" )
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."

เข้าท่าแฮะ..ชอบๆ ++                                              แล้วที่ว่าเท่าฝาหนมครกล่ะ..มีตำนานมั้ย ???


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น + ตำนานขนมครก หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:09:12 AM

เข้าท่าแฮะ..ชอบๆ ++                                              แล้วที่ว่าเท่าฝาหนมครกล่ะ..มีตำนานมั้ย ???

จะบ้า หรอ  ::006::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น + ตำนานขนมครก หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:16:34 AM
ถามดี ๆ เด็กกำลังอยากรู้อยากเห็น  ::001::


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น + ตำนานขนมครก หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:23:22 AM
ถามดี ๆ เด็กกำลังอยากรู้อยากเห็น  ::001::

มันจะออกทะเลอ่ะดิ เพลอๆจะติดเรทเอา  :~) :~)


หัวข้อ: Re: ปาท่องโก๋ ขนมจากความเคียดแค้น + ตำนานขนมครก หน้า 2
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:23:43 AM
(http://image.ohozaa.com/i/c84/651p1.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=35c38c4aefd066d4cf0fe2e2f17f3e9d) (http://image.ohozaa.com/i/d37/z7ps2.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=ef9e556907fdcce939186c75925faa99) (http://image.ohozaa.com/i/192/k96y4.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=1249a2a0a1e8a24d6753ef62427b0b94)


http://news.clipmass.com/story/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88-%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2---27894 (http://news.clipmass.com/story/%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%A8%E0%B8%B1%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%82%E0%B9%88-%E0%B8%8B%E0%B8%B6%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%A2---27894)


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:35:39 AM
 :OO เห็นเด็กสมัยนี้โทรกันแล้วสยองเลย..ถ้าการทดลองนี้เป็นของจริงนะ  :~)


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:36:39 AM
:OO เห็นเด็กสมัยนี้โทรกันแล้วสยองเลย..ถ้าการทดลองนี้เป็นของจริงนะ  :~)
ต้องลอง ดูครับ ::002::


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:40:05 AM
:OO เห็นเด็กสมัยนี้โทรกันแล้วสยองเลย..ถ้าการทดลองนี้เป็นของจริงนะ  :~)
ต้องลอง ดูครับ ::002::
สงสัยบังก็เข้าข่ายนี้..สมองไปครึ่งนึงแล้ว  :DD


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:41:53 AM
:OO เห็นเด็กสมัยนี้โทรกันแล้วสยองเลย..ถ้าการทดลองนี้เป็นของจริงนะ  :~)
ต้องลอง ดูครับ ::002::
สงสัยบังก็เข้าข่ายนี้..สมองไปครึ่งนึงแล้ว  :DD
ผมใช้มือถือนานที่สุด ไม่เกิน 15 นาทีครับ  ;D


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:57:27 AM
เรื่องโทรศัพท์กับไข่เป็นเรื่องโกหกครับ  อย่าไปเชื่อ   :D


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:57:55 AM

ผมใช้เวลานานที่สุด ไม่เกิน 15 วินาทีครับ  ;D


 :DD :DD :DD



หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 10:59:52 AM
เรื่องโทรศัพท์กับไข่เป็นเรื่องโกหกครับ  อย่าไปเชื่อ   :D

 ::007:: ::007:: ::007:: ::007::


ผมใช้เวลานานที่สุด ไม่เกิน 15 วินาทีครับ  ;D


 :DD :DD :DD



 :~) :~) :~) 15 วิ แค่ นึกก็ เสร็จแล้วมั้งครับ  ::009::


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ มีนาคม 13, 2011, 11:00:18 AM
แปลกแต่จริง... สมัยก่อนขนมครกนั้นเขาจะหยอดแป้งลงพิมพ์ด้วยความบรรจง... แล้วครอบแต่ละหลุมด้วยครกใบเล็กๆ อันเป็นที่มาของชื่อขนมครก... แต่ปัจจุบัน... ร้อยทั้งร้อย... เทแป้งจากกาพรวดๆ เสร็จสรรพก็แกะออกมาตัดด้วยกรรไกร... หาความปราณีตไม่ได้เลย... ครกที่ใช้ครอบก็หายไปด้วย...



หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ มีนาคม 13, 2011, 11:02:07 AM
ครูต้นไปว่าบัง แกใช้เวลาเพลงนึงจบเชียวนะครับ เพลง"ช่องเจ็ดสี ทีวีเพื่อคุณ แถดแถดแท แถดแทดแถ่.."  ::005::


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 13, 2011, 11:06:14 AM
ครูต้นไปว่าบัง แกใช้เวลาเพลงนึงจบเชียวนะครับ เพลง"ช่องเจ็ดสี ทีวีเพื่อคุณ แถดแถดแท แถดแทดแถ่.."  ::005::

 ::010:: ::010:: ::010:: ::010:: ::010:: ::010::


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: sig_surath7171 ที่ มีนาคม 13, 2011, 01:01:32 PM
ตำนานขนมครก

(http://image.ohozaa.com/i/0b4/8u013.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=b13bdc4cea252548d4301e26d4b1b277) (http://image.ohozaa.com/i/b20/27815_full.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=97588e73908d1f64debab5893dcc9cf3) (http://image.ohozaa.com/i2/1209321413.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=0605d4f805fa84ea236b96c1cba60972) (http://image.ohozaa.com/i6/3746422526_9c38827833.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=8f4fff066acd1d0b42fabfb194d6af0c)

มีชายหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อว่า ไอ้ทิ หรือ พ่อกะทิ
เป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยโผงผางและกำพร้าพ่อแม่
อยู่ตัวคนเดียว เป็นคนพูดจริงทำจริง ขยันขันแข็ง
เอางานเอาการ เสร็จจากงานนาก็มารับจ้างขี่ควาย
ส่งคนเข้าซอย ทุกคนในหมู่บ้านล้วนรักและเอ็นดูไอ้ทิ
ยกเว้นผู้ใหญ่ปลั่ง เพราะผู้ใหญ่ปลั่งมีลูกสาวสวย
ที่ดันมาหลงรักไอ้ทิด้วยเช่นกัน

มีสาวน้อยคนหนึ่ง ชื่อ แม่แป้ง
แม่แป้งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ใหญ่ปลั่ง
เธอเป็นสาวสวยประจำหมู่บ้าน
แม่แป้งเจอกับไอ้ทิในวันลอยกระทง
ทั้งคู่ขี่ควายสัญญากันต่อหน้าพระจันทร์
ไม่ว่าข้างหน้าจะมีอุปสรรคขวางกั้นเพียงใด
ทั้งคู่ก็จะขอเอาความรักแท้ที่จริงใจฝ่าฟันข้ามไป

แล้วไอ้ทิก็รวบรวมเงินทองเท่าที่เก็บสะสมมาได้
ไปบ้านผู้ใหญ่ปลั่งเพื่อสู่ขอแม่แป้ง ซึ่งผู้ใหญ่
ก็ต้อนรับมันอย่างดี ด้วยชายฉกรรจ์ 6 นาย
พร้อมอาวุธครบมือ แต่ไอ้ทิไม่ว่ากระไร
ได้แต่พาร่างอันสะบักสะบอมกลับไปบ้าน
นอนหยอดน้ำข้าวต้มหลายวัน
ด้วยใจยังตั้งมั่นว่า วันหน้าจะมาขอใหม่
ขอไปจนกว่าผู้ใหญ่ปลั่งจะใจอ่อน

ในที่สุดผู้ใหญ่ปลั่งก็ปิดหนทางความรัก
ของไอ้ทิด้วยการคลุมถุงจัดงานแต่งงาน
ให้ลูกสาวกับปลัดหนุ่มจากบางกอก
เมื่อไอ้ทิรู้ข่าวจึงรีบวิ่งทุรนทุรายหมาย
จะมาทำลายพิธีแต่งงานของสาวอันเป็นที่รัก
ซึ่งผู้ใหญ่ปลั่งก็รู้ดีว่าไอ้ทิต้องกระทำแบบนี้
จึงขุดหลุมพรางดักรอเอาไว้

แม่แป้งแอบได้ยินแผนร้าย
ก็แอบหนีหมายจะมาห้ามคนรักไม่ให้หลงกล
ผู้ใหญ่ปลั่ง

เหตุการณ์ต่อไปนี้ไม่มีการบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษร
แต่ได้ปะติดปะต่อมาจากคำบอกเล่าของชาวบ้าน
แบบปากต่อปากว่า

..... คืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม
แม่แป้งแอบวิ่งฝ่าความมืดออกมาดักหน้าไอ้ทิ
ไอ้ทิเมื่อเห็นแม่แป้งวิ่งมาก็ดีใจ รีบวิ่งไปหา
แม่แป้งเห็นไอ้ทิรีบวิ่งมาก็รีบวิ่งเข้าไปหาให้เร็วยิ่งขึ้นไปอีก

ฉับพลัน...ร่างแม่แป้งก็ร่วงหล่นลงไปในหลุมพราง
ของผู้ใหญ่ปลั่ง ต่อหน้าต่อตาไอ้ทิทันที..

...อารามตกใจ ไอ้ทิรีบกระโดดตามลงไปเพื่อช่วยเหลือ

...อารามดีใจ สมุนชายฉกรรจ์ 6 นาย ของผู้ใหญ่ปลั่ง
รีบเข้ามาโกยดินฝังกลบ เพราะคิดว่าก้นหลุมมีเพียง
ไอ้ทิผู้เดียวที่อยู่ในนั้น

..... รุ่งเช้า
ผู้ใหญ่ปลั่งเดินยิ้มมาขุดหลุมเพื่อดูผลงาน
แต่ภาพเบื้องล่างกลับพบไอ้ทิตระกองกอด
ทับร่างแม่แป้งลูกสาวของตน
นอนตายคู่กันอย่างมีความสุข

...เมื่อยิ้มถูกเปลี่ยนไปเป็นน้ำตา
ผู้ใหญ่ปลั่งสั่งลูกสมุนสร้างเจดีย์คลุมครอบปิดหลุมนั้นไว้
เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจคนทั่วไปว่า
"อย่าคิดทำร้ายหรือทำลายความรักของใครอีกเลย"
สถานที่ตั้งเจดีย์นั้นไม่มีใครรู้แน่นอน
จะมีก็แต่เพียงอนุสรณ์แห่งความรัก
ที่กระทำสืบทอดกันมาจนเป็นประเพณี

ทุกแรมหกค่ำเดือนหก...
ชาวบ้านที่ศรัทธาในความรักของไอ้ทิกับแม่แป้ง
จะตื่นตั้งแต่มืดเข้าครัวเพื่อทำขนมที่หอมหวาน
ปรุงจากแป้งและกะทิ บรรจงแคะจากพิมพ์
แล้วนำมาวางคว่ำหน้าซ้อนกัน
เป็นสัญลักษณ์ว่า จะได้อยู่ร่วมกันตลอดไป
ขนมนี้เรียกขานกันในนาม ขนมแห่งความรัก (ขนมของ "คนรักกัน" )
หรือเรียกย่อๆ ว่า "ขนม ค.ร.ก."


ปากซอยหน้าบ้านผม มีสาวน้อยวัย 20 ต้นๆ แม่ค้าขายขนมครก (ขนมครก โกพล ตามชื่อแฟรนไชส์) เคยแวะซื้อ แล้วถามแซวว่า น้องเป็นลูกสาวโกพลป่าว ...
ขับรถผ่านตอนเย็น บีบแตรรถเบาๆทักทาย เธอยิ้มให้ทุกวัน หลายวันมานี้ เธอไม่ขายขนมครกแล้ว ได้ข่าวว่า หายไปกับหนุ่มคนหนึ่ง อดเลยเรา (อดกินขนมครก อย่าได้คิดใกลเป็นอย่างอื่น  ;D )


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: Glock Jumper ที่ มีนาคม 14, 2011, 11:27:13 AM
ชอบเรื่องขนมครกครับ อย่างนี้ วาเลนไทน์หน้า ซื้อขนมครกให้แม่บ้านน่าจะซึ้งแบบไทยๆดีนะครับ ช็อกโกแลตไม่ซื้อละเชย เป็นคนไทยต้องใช้ของไทย

ถูกใจครับ ท่านศักดา ขออนุญาติ +1 ครับ


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: birdwhistle...รักในหลวง ที่ มีนาคม 14, 2011, 06:12:47 PM
กึ๋ยยยยย........น่ากลัวจัง

วันนี้พูดโทรศัพท์มือถือนานเกือบ 40 นาที  ตอนนี้รู้สึกสมองชัดเลือน ๆ ชอบกล

สงสัยจะจำเส้นทางกลับบ้านไม่ได้ซะแล้ว  ::008:: ::008::
 
 


หัวข้อ: Re: ตำนานปาท่องโก๋+ตำนานขนมครก+ไข่ ซึ้งเลย
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 25, 2011, 08:31:39 PM
(http://image.ohozaa.com/i/457/c88ye.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=8a2452e09aa1e51d0336ffba7661dc83)

สัญลักษณ์ของทางลายขาว-ดำ ที่มีไว้สำหรับให้คนข้ามถนน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า 'ทางม้าลาย' นั้นแท้จริงแล้วในตอนแรกหาได้เป็นสีขาวกับสีดำอย่างที่เราเห็นในปัจจุบันไม่

เดิมทีแถบสีสัญลักษณ์ของทางคนข้ามนี้เคยเป็นสีน้ำเงินและสีเหลืองมาก่อน โดยมีการนำมาใช้อย่างเป็นทางการครั้งแรก (หลังทำการทอดลองใช้แล้ว) ตามท้องถนนของประเทศอังกฤษราว 1,000 จุด เมื่อปี 1949 เพื่อบ่งบอกให้ผู้ใช้รถใช้ถนนทราบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นทางที่อนุญาตให้คน สามารถข้ามถนนได้

แต่ก่อนนั้น สัญลักษณ์ของทางข้ามนี้จะอยู่คู่กับ 'เสาโคมไฟสัญญาณบีลิสชา' ซึ่งถือกำเนิดมาก่อนหน้านี้แล้วตั้งแต่ปี 1934 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นสัญญาณให้พาหนะที่สัญจรอยู่บนท้องถนนหยุดวิ่ง ชั่วขณะเพื่อให้คนที่อยู่สองข้างทางได้เดินข้ามถนนอย่างปลอดภัย โดยพาหนะต่างๆ จะหยุดก็ต่อเมื่อโคมไฟสัญญาณบีลิสชาซึ่งมีสีส้มส่องสว่างขึ้น

ต่อมา เลสลี ฮอร์น บีลิสชา รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมแดนผู้ดี ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มไอเดียนำโคมไฟสัญญาณดังกล่าวมาติดตั้งก็คิดว่าน่าจะมีการ เพิ่มสัญลักษณ์ที่เป็นแถบสีบนพื้นถนนบริเวณที่มีการติดตั้งโคมไฟสัญญาณเพื่อ ช่วยให้ผู้ใช้รถใช้ถนนเห็นได้เด่นชัดมากขึ้น ด้วยเหตุนี้ สัญลักษณ์ของทางข้ามที่มีแถบสีจึงถือกำเนิดขึ้น

จากนั้นก็มีการทดลองใช้สีขาว-แดง และสีขาว-ดำ ทาเป็นสัญลักษณ์ แล้วในปี 1951 สัญลักษณ์ของทางข้ามที่เป็นแถบสีขาว-ดำก็ถูกนำมาใช้คู่กับโคมไฟสัญญาณบีลิ สชาอย่างเป็นทางการครั้งแรก พร้อมกับได้รับการขนานนามว่า 'ทางม้าลาย' เนื่องจากมีลักษณะเหมือนลายของม้าลายนั่นเอง

ต่อมาอังกฤษได้นำไอเดียดังกล่าวไปใช้กับประเทศอาณานิคมของตัวเอง เช่น สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ เป็นต้น ทางม้าลายจึงกลายเป็นที่แพร่หลายไปทั่วโลก และกลายเป็นเครื่องหมายจราจรที่เป็นสากลไปโดยปริยาย


ที่มา...http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E2%80%98%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E2%80%98---28705 (http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87-%E2%80%98%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E2%80%98---28705)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: แปจีหล่อ ที่ มีนาคม 26, 2011, 04:43:48 PM
ถึงว่าคนไทยไม่ใช้ข้ามเพราะเป็นทางม้าลายนี่เอง ;D


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มีนาคม 26, 2011, 06:25:49 PM
อ่านเพลิน พร้อมได้ความรู้ดี ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ มีนาคม 26, 2011, 11:27:54 PM
อ่านเพลิน พร้อมได้ความรู้ดี ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับจะนำมาเสนอเรื่อยๆครับ ::014::


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤษภาคม 08, 2011, 12:57:52 PM
ประวัติ ไม้ ขีด ไฟ

(http://image.ohozaa.com/i/283/31205_full.gif) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=acc53e56be6d405722deb93210681e5a)

ไม้ขีดไฟแสงประกายในอดีต

แต่เดิมยุคหินนั้นมีมนุษย์ที่เรียกกันว่า มนุษย์ยุคหิน ได้ไฟมาจากฟ้าผ่าแล้วไฟติด ก็ถือไม้ที่ติดไฟ

กลับมาแล้วก็คอยเติมฟืนให้ไฟลุกอยู่ตลอด ต่อมาไม่รู้ใครนะครับที่ฉลาด เอาไม้มาสีกันจนเกิด

ความร้อนและใช้ขลุยไม้นุ่มๆมาเป็นเชื้อไฟทำให้ไฟติด เก่งมากจริงๆนะครับ และต่อๆมาก็พัฒนา

กลายมาเป็นอย่างที่เห็นและใช้กันจนทุกวันนี้



(http://image.ohozaa.com/i/273/match5.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=0ab76a4804eeead847a8cbca5589d445) (http://image.ohozaa.com/i/e14/match3.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=d4b4767b612c9661cdc0a44365bea789)


ไม้ขีดไฟในประเทศไทย

ไม้ขีดไฟยุคแรกๆ ที่เข้ามาขายในเมืองไทยเข้ามาประมาณกลางสมัยรัชกาลที่ 4 โดยเป็นไม้ขีด

จากประเทศสวีเดนที่มีบาทหลวงมาเผยแพร่ศาสนานำเข้ามา และต่อมาก็เป็นไม้ขีดไฟของญี่ปุ่นที่

มีการจำหน่ายกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งไม้ขีดไฟเหล่านี้จะมีตราและสลากบนกล่องไม้ขีดไฟมาก

มายโดยนักสะสมไม้ขีดไฟจะเรียกฉลากไม้ขีดไฟนี้ว่า "หน้าไม้ขีดไฟ"

นักสะสมที่รวบรวมสะสมหน้าไม้ขีดไฟนิยมเก็บไว้ในสมุดบัญชีเล่มใหญ่ๆแล้วปิดกาวหรือเจาะ

กระดาษสอดมุมไว้ ไม้ขีดไฟของญี่ปุ่นนั้นจะมีมากกว่าประเทศอื่นโดยจะมีรูปหน้าไม้ขีดหลายรูป

แบบ ได้แก่รูปคน รูปสัตว์ รูปผลไม้ รูปดอกไม้ และจะมีคำว่า "เมด อิน เจแปน" เป็นภาษาอังกฤษ

บอกไว้ข้างใต้หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของหน้าไม้ขีดเพื่อบ่งบอกว่าไม้ขีดไฟนั้นมาจากประเทศญี่ปุ่น

และในสมัยรัชกาลที่ 5 นี้ญี่ปุ่นก็ได้ทำ หน้าไม้ขีดไฟเป็น ภาพวาดของรัชกาลที่ 5 ทรงม้าในหลายๆ

แบบ โดยใต้รูปจะเขียนเป็นภาษาไทย ว่า "พระรบ" ซึ่งที่จริงแล้วน่าจะเป็นคำว่า "พระรูป" มากกว่า

แต่เนื่องจากญี่ปุนคงเผลอลืมใส่ ป ปลา แทน บ ใบไม้ และลืมใส่ สระ อู หรือไม่งั้นก็เพราะชาว

ญี่ปุ่นไม่ค่อยจะรู้ภาษาไทยมากมายเท่าไหร่นัก

นอกจากนี้ยังมีรูปทหารยืนถือธงช้างอยู่ข้างพระองค์และรูปช้างสองเชือกหันหน้าเข้าหาพระจุล

มงกุฎหรือพระเกี้ยว ซึ่งเป็นตราประจำพระองค์ของรัชกาลที่ 5 รูปบนหน้าไม้ขีดไฟหรือที่เรียกกัน

ว่าศิลปะบนกลักไม้ขีดไฟยังมีอีกมาก ซึ่งรูปวาดเหล่านี้ก็อาจจะวาดเพื่อการโฆษณาสินค้า หรือมี

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ ต่อมาในรัชกาลที่ 7 คนไทยก็สามารถผลิตไม้ขีดไฟเองได้ทำ

ให้การนำเข้าไม้ขีดต่างประเทศลดลงในที่สุด โรงไม้ขีดในไทยยุคต้นๆได้แก่ บริษัทมิ่นแซจำกัด

ผลิตตรานกแก้ว ตรารถกูบ , บริษัทตังอาจำกัด ผลิตตรามิกกี้เม้าท์ ตราแมวเฟลิกซ์, บริษัทไทยไฟ

ผลิตตรา 24 มิถุนา เป็นรูปพระที่นั่งอนันตสมาคม เป็นที่ระลึกในการเปลี่ยนแปลงการปกครองมา

เป็นระบอบประชาธิปไตย

บริษัทเอเชียไม้ขีดไฟจำกัด ผลิตชุด ก.ไก่ ข.ไข่ ซึ่งการผลิตหน้าไม้ขีดนี้ก็เพื่อให้ประชาชนที่ใช้

ไม้ขีดไฟได้รับความรู้อีกทางหนึ่ง บริษัทสยามแมตซ์แฟ็กตอรี่ ภายหลังเปลี่ยนมาเป็นบริษัทไม้

ขีดไฟไทย ผลิตตรา ธงไตรรงค์ ตราพระยานาค ซึ่งมีขายมาจนกระทั่งถึงทุกวันนี้

(http://image.ohozaa.com/t/ce1/match1.jpg) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=a15a9d1e03a304d754fa24efbced47f8)





หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ พฤษภาคม 08, 2011, 01:02:04 PM
อิบังมีสาระ.... ::003:: ::003:: ::003:: ::003:: ::003:: มิน่าพายุเข้า


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤษภาคม 08, 2011, 01:16:49 PM
อิบังมีสาระ.... ::003:: ::003:: ::003:: ::003:: ::003:: มิน่าพายุเข้า
:~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ พฤษภาคม 08, 2011, 01:25:18 PM
20 Greatest Gadgets Never Die (?)
 
กาลเวลาทำให้หลายอย่างผ่านมา แล้วก็ผ่านไป ไม่พ้นแม้กระทั้งเทคโนโลยีใหม่ทั้งหลายที่ว่าแน่
 
เมื่อเจอที่เจ๋งกว่าก็ต้องกลายเป็นเก่าไปซะอย่างนั้น บางอย่างเก่าแล้วก็ยังพอมีให้เห็น บางอย่างก็
 
เก่าแล้วเก่าเลยเชยไม่ได้หวนกลับ ทว่าบางอย่างจะให้เก่ายังไงก็ดูท่าจะอยู่คู่ผู้คนไปอีกนาน งั้น
 
เพื่อต่อวิวัฒนารการของเทคโนโลยีที่ไม่เคยหยุดนิ่ง เรามาดูกันหน่อยเถอะว่า ตั้งแต่โลกตื่นเต้นกับ
 
เทคโนโลยีมากขึ้น มนุษย์คิดค้นอะไรที่เคยอินเทรนด์มาแล้วบ้าง
 
เก่าไป ใหม่มายังจำได้ไหมว่า อะไรเคยสร้างกระแสใหม่ๆ และก็ตกรุ่นไปโดยสดุดี

(http://image.ohozaa.com/i/cf9/lwwp1.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=f8354f5b49f36e0e7c71554702736702) (http://image.ohozaa.com/i/1b2/pwul2.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=c849ecb4a2966978bd7b0ccd2e2d26aa) (http://image.ohozaa.com/i/3d4/ih7q3.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=13c14cd0b75b70ca4409c6244a7591fd) (http://image.ohozaa.com/i/297/tpoo4.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=eab7f32db317fbdbc89c014da181d78b) (http://image.ohozaa.com/i/d59/jzh35.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=f79067e820be984b72f478c4841672e6) (http://image.ohozaa.com/i/ed5/7gmv6.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=804030755d6f7f249161587f5fdcf835) (http://image.ohozaa.com/i/7bb/rssb7.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=39c78f8aab153ac32df7a9b0e3b0b953) (http://image.ohozaa.com/i/f6a/datz8.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=6086720facf2713744d6c8ad2254ece1) (http://image.ohozaa.com/i/3d2/6dac9.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=e2c7e4d4092334763d1ee6e70e93892a) (http://image.ohozaa.com/i/a8f/2fc10.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=412c5c62f6e7dde9328a0cb0a312df82) (http://image.ohozaa.com/i/9a3/9s611.png) (http://image.ohozaa.com/show.php?id=e4e9f2a5014389d8ccb5789658502dc6)

ที่มา  http://news.clipmass.com/story/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7---31340 (http://news.clipmass.com/story/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B5-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%A1%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7---31340)



หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กันยายน 16, 2011, 09:22:28 PM
ตํานานวันไหว้พระจันทร์

http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%95%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C---36816 (http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%95%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C---36816)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กันยายน 16, 2011, 09:26:44 PM
ตำนานศุกร์13

(http://img3.imageshack.us/img3/298/55187.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/3/55187.jpg/)

เมื่อเอ่ยถึงวันศุกร์ 13 นั้นหลาย ๆ คนอาจจะนึกไปถึงวันแห่งอาถรรพ์ เพราะเคยมีภาพยนตร์เรื่องหนึ่งใช้ชื่อว่า ศุกร์ 13 ฝันหวาน แต่เป็นภาพยนตร์สยองขวัญ ในขณะที่อีกหลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบความเป็นมาว่า ทำไมวันศุกร์ 13 ถึงเป็นวันที่ไม่ดี



ว่ากันว่าความเชื่อที่ว่าถ้าวันศุกร์เกิดไปตรงกับวันที่ 13 ของเดือนใดก็ตามแล้ว จะกลายเป็นวันแห่งความโชคร้ายนั้นเป็นความเชื่อของชาวตะวันตก โดยต้นตอแห่งความเชื่อนี้มาจาก อาหารมื้อสุดท้ายของพระเยซู (The Last Supper) โดยเชื่อกันว่าในอาหารมื้อนั้นมีผู้ร่วมรับประทานอาหารกับพระองค์ 13 คนก่อนที่พระองค์จะถูกนำตัวไปตรึงบนไม้กางเขนใน วันศุกร์ประเสริฐ (Good Friday)

ในขณะที่มีอีกความเชื่อหนึ่งกล่าวว่าวันศุกร์ที่ 13 ตุลาคม 1307 เป็นวันที่พระเจ้าฟิลิปที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ทำการจับกุมตัวบรรดาอัศวินเทมพลาร์ชาวฝรั่งเศสจำนวนหลายร้อยคนไป ก่อนจะนำตัวไปทรมานและสังหาร เพื่อนำทรัพย์สินของพวกเขามาเป็นของฝรั่งเศส

ทั้งนี้นักจิตวิทยาพบว่า ในบางคนจะมีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุหรือล้มป่วยในวันศุกร์ที่ 13 ซึ่งมีการให้เหตุผลเอาไว้ว่าเป็นเพราะบางคนรู้สึกวิตกจริตเป็นอย่างมากในวันศุกร์ที่ 13 โดยทางศูนย์จัดการความเครียดและสถาบันอาบำบัดการกลัวในเมืองแอชวิลล์ มลรัฐนอร์ทแคโรไลนา ประเมินว่าในแต่ละครั้งที่มีวันศุกร์ที่ 13 สหรัฐอเมริกาต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นเงิน 800 - 900 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทีเดียว เพราะว่าประชาชนบางคนไม่กล้าเดินทางไปไหนและไม่กล้าแม้แต่จะไปทำงาน


จนทำให้เกิดโรคกลัววันศุกร์ที่ 13 มีชื่อเรียกว่า Paraskavedekatriaphobia หรือ paraskevidekatriaphobia หรือfriggatriskaidekaphobia ซึ่งเป็นอาการหนึ่งของโรค triskaidekaphobia คือ โรคกลัวหมายเลข 13

และที่มาที่ทำให้วันศุกร์ 13 กลายเป็นวันโชคร้ายไปทั่วนั้นน่าจะมาจากภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง ศุกร์ 13 ฝันหวาน หรือ "Friday the 13th" ซึ่งเรื่องเกี่ยวกับฆากรต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกา ซึ่งตัวเอกของเรื่องมีเอกลักษณ์เด่นคือการสวมหน้ากากฮ็อกกี้ เพื่อปกปิดใบหน้า ก่อนทำการฆาตกรรมเหยื่อ

สำหรับความเชื่อเรื่อง ศุกร์ 13 เป็นวันไม่ดีนั้นส่วนใหญ่จะเชื่อกันในหมู่ชาวตะวันตกเสียเป็นส่วนมาก ซึ่งเรื่องแบบนี้นั้นถือเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ


http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%95%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%8C-13---28202 (http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%95%E0%B9%8D%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%8C-13---28202)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กันยายน 16, 2011, 09:56:04 PM
 (http://image.ohozaa.com/i/52a/zSeJX.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hppr) (http://image.ohozaa.com/i/6fc/60MT7.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpq4) (http://image.ohozaa.com/i/5ed/624aH.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpqb) (http://image.ohozaa.com/i/8c6/fFZIp.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpqp) (http://image.ohozaa.com/i/71a/d4HmY.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpr4) (http://image.ohozaa.com/i/6ef/93jc.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpr8) (http://image.ohozaa.com/i/30d/KXBy9.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hprg)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: JUNGLE ที่ กันยายน 17, 2011, 09:48:28 AM
(http://image.ohozaa.com/i/52a/zSeJX.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hppr) (http://image.ohozaa.com/i/6fc/60MT7.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpq4) (http://image.ohozaa.com/i/5ed/624aH.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpqb) (http://image.ohozaa.com/i/8c6/fFZIp.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpqp) (http://image.ohozaa.com/i/71a/d4HmY.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpr4) (http://image.ohozaa.com/i/6ef/93jc.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hpr8) (http://image.ohozaa.com/i/30d/KXBy9.png) (http://image.ohozaa.com/view/2hprg)

มีตำนาน... ตายเพราะนอนในรถ... ตายเพราะแย่งข้าวแมว... หรือตายเพราะอยากมีเมียคนที่สอง.... มั่งมั๊ยครับ... อยากเห็น... ::008:: ::008:: ::008::

::014::



หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ กันยายน 17, 2011, 02:12:45 PM
อืม..รวมเรื่องแปลกจริง ๆ แปลกยันเจ้าของกระทู้   ;D


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กันยายน 17, 2011, 02:18:03 PM
ทำถึงขนาดนี้ +ให้สักหน่อย....  ;D
เดี๋ยวจะหาว่าใจดำ


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: อนัตตา ที่ กันยายน 17, 2011, 02:20:03 PM
อู้ย..แต้มนังฟีนมาแรงนิ ขนาดกลับมารอบใหม่นะเนี่ย เอา ๆ + ด้วย  ::005::


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กันยายน 17, 2011, 02:57:06 PM
 :~) :~) :~) :~) :~) :~) :~)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กันยายน 17, 2011, 03:05:42 PM
                                               ทำไมพระสังกัจจายน์จึงอ้วน

การที่พระมหาสังกัจจายน์เถระเป็นผู้มีรูปงาม มีผิวเหลือง เฮ็ดให่คนอื่นนึกอกุศล แล้วเกิดความเดือดร้อน พระมหากัจจายนเถระกะเลยได้อธิษฐาน ให้ร่างกายของท่านอ้วน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ลองอ่านเบิ่งครับ


(http://img52.imageshack.us/img52/3756/112995.jpg) (http://imageshack.us/photo/my-images/52/112995.jpg/)

เหตุใดพระสังกัจจายน์จึงมีรูปลักษณ์แปลกไปกว่าพระพุทธรูปอื่น ๆ คืออ้วนพุงพลุ้ย ถือเป็นพระพุทธรูปปางหนึ่งหรือ
(นิลรัตน์ อรุณวงศ์ / กรุงเทพฯ)

พระสังกัจจายน์ หรือพระมหากัจจายนะ เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ท่านเป็นเอตทัคคะในทางอธิบายพุทธพจน์ที่ตรัสไว้โดยย่อให้พิสดาร เกิดที่เมืองอุชเชนี เป็นบุตรของพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนัก พระมหากัจจายนะมีนามเดิมว่า กัญจนะ เพราะมีรูปร่างสวย คนทั่วไปจึงเรียกชื่อท่านตามสกุลของท่านว่า กัจจายนะ ต่อมามีโอกาสได้เดินทางไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ได้ฟังพระธรรมเทศนาก็บรรลุอรหันต์ผลพร้อมกับเพื่อนทั้งหมด และได้อุปสมบทโดยเอหิภิกขุอุปสัมปทา

การที่พระมหากัจจายนเถระเป็นผู้มีรูปงาม มีผิวเหลือง ทำให้พระภิกษุอื่น ๆ เห็นท่านแต่ไกล เข้าใจผิดว่าพระพุทธเจ้ากำลังเสด็จมา จึงลุกขึ้นยืนต้อนรับบ่อยครั้ง และครั้งหนึ่งเกิดเรื่องประหลาดขึ้น กล่าวคือ เศรษฐบุตรคนหนึ่ง แห่งเมืองโสเรยยะ เห็นพระมหากัจจายนะ แล้วนึกอกุศลว่า หากตนได้ภรรยามีรูปงามอย่างท่าน จะดีนักหนา ด้วยอำนาจบาปนั้น เขาได้กลายเป็นเพศสตรีทันที ด้วยความละอาย เขาจึงได้ไปอาศัยอยู่ที่เมืองตักสิลา จนมีสามีและบุตร ต่อไปเขาได้ไปขอขมาพระมหากัจจายนเถระ จึงได้กลับเพศเป็นชายตามเดิม ว่ากันว่าตั้งแต่นั้นมา พระมหากัจจายนเถระได้อธิษฐาน ให้ร่างกายของท่านอ้วน เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม จนชาวพุทธในยุคหลัง ได้สร้างพระพุทธรูปอ้วนลงพุง เป็นอนุสรณ์ให้แก่ท่าน เรียกว่า พระสังกัจจายน์

ในบางถิ่นบางที่ คนที่อยากมีลูกจะไปอธิษฐานขอกับพระสังกัจจายน์ เพราะเชื่อว่าในพุงอันใหญ่ของท่านมีเด็กอยู่

เว้าจังเว้าคนที่เกิดมาหลงโตเองว่าเป็นคนรูปหล่อ รูปงาม เฮ็ดให่หลายคนเดือดร้อน (สาวๆหลงมัก) สิบ่เป็นคนบาปซะบ้อฮึ....



http://www.baanmaha.com/community/thread42116.html (http://www.baanmaha.com/community/thread42116.html)


หัวข้อ: Re: ที่มาและตำนานต่างๆ
เริ่มหัวข้อโดย: RMAY ที่ กันยายน 17, 2011, 03:08:05 PM
ความเป็นมาของรถสามล้อไทย

http://www.baanmaha.com/community/thread38691.html (http://www.baanmaha.com/community/thread38691.html)