เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 06, 2011, 09:20:28 AM



หัวข้อ: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 06, 2011, 09:20:28 AM
หลังสิ้นเดือนเม.ย.54 เป็นอันสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30บาท / ลิตร

แต่หลังจากนั้นเพื่อนๆพี่ๆคิดว่า

1. จะมีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ

2. ถ้าตรึงราคาจะมีผลอย่างไร

3. ถ้าไม่ตรึงราคาจะมีผลอย่างไร


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ เมษายน 06, 2011, 10:14:49 AM
ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ
1. ไม่น่าจะตรึงราคาต่อครับ เพราะเงินกองทุนหมดแล้ว
2. สุดท้ายก็เป็นหนี้สะสมที่ต้องหาภาษีมาชดเชยในอนาคต
3. ค่าครองชีพและราคาสินค้าแพงขึ้นทันที
เตรียมตัวประหยัดและบริโภคอย่างพอเพียงครับ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 06, 2011, 10:25:06 AM
ไม่ใช่นักเศรษฐศาสตร์ แค่ความเห็นส่วนตัวนะครับ
1. ไม่น่าจะตรึงราคาต่อครับ เพราะเงินกองทุนหมดแล้ว
2. สุดท้ายก็เป็นหนี้สะสมที่ต้องหาภาษีมาชดเชยในอนาคต
3. ค่าครองชีพและราคาสินค้าแพงขึ้นทันที
เตรียมตัวประหยัดและบริโภคอย่างพอเพียงครับ


นั่นสิครับ น่ากลัวจะตาย

หลายๆคนไม่ค่อยเตรียมเรื่องแบบนี้เลย ( เขาคิดว่าเศรษฐกิจยังดีอยู่ -_-" )


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ เมษายน 06, 2011, 11:12:06 AM
นั่นสิครับ น่ากลัวจะตาย

หลายๆคนไม่ค่อยเตรียมเรื่องแบบนี้เลย ( เขาคิดว่าเศรษฐกิจยังดีอยู่ -_-" )

อย่ากลัวเลยครับ คิดบวก ถือว่าทำให้เรากินน้อยลงเพื่อสุขภาพตัวเราเอง
คนไทยส่วนใหญ่ คิดเอาแต่สบายและไม่คิดเผื่อระยะยาว หรือเหตุการณ์ข้างหน้า
แต่ก็ปรับตัวได้ดีเอง ครับ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 06, 2011, 11:18:53 AM

ครับผม ตอนนี้เตรียมลู่ทางไว้แล้วครับ

มิใช่อื่นใดก็ >> เศรษฐกิจพอเพียงของพ่อหลวงเรานี่แหละครับ 30 / 30 / 30 / 10

แบบนี้ยั่งยืนที่สุด แต่ว่าผมต้องเปลี่ยนการใช้ชีวิตแบบเก่าไปเลยครับ ( ทำงานโรงงาน >> เกษตรกรรม )

แต่ว่าคนในครอบครัวเห็นด้วยกันทั้งหมด ก็มาวางแผนและลงทุนลงแรงกันไป



หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ เมษายน 06, 2011, 12:07:26 PM
ปลูกผัก/เลี้ยงสัตว์กินเอง  ลดค่าใช้จ่ายครับ   ;D


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ เมษายน 06, 2011, 01:12:03 PM


ลอยตัว เลิกอุ้มครับ
แน่นอนสุด
ของจะขึ้นราคา ก็ให้ขึ้นไปครับ
ทุกอย่างจะได้สะท้อน ความเป็นจริง
ถ้าขายไม่ได้ ก็จะลดลงมาเอง
ตามความต้องการของตลาด
ในทุก ๆ วันนี้  รัฐบาล มีแต่อุ้มราคา
ซึ่งเป็นราคาของ ที่ฟุ่มเฟื้อย
แก้กันไม่ตรงจุด


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 06, 2011, 01:25:40 PM
ธ.โลกตีแสกหน้ารัฐบาลเน้นหาเสียง ทำตลาดบิดเบือน

(http://www.thairath.co.th/media/content/2011/04/05/161513/hr1667/630.jpg)

ธนาคารโลก ขัดใจรัฐบาลไทยอุดหนุนราคาหาเสียง ทำตลาดบิดเบือน
ระบุเศรษฐกิจไทยปีเลือกตั้งโต 3.7% เตือนรัฐบาลรับมือเงินเฟ้อพุ่ง หากจำเป็นต้องเลิก
อุดหนุนราคาน้ำมัน และตรึงราคาสินค้า…

เมื่อวันที่ 5 เม.ย. นายเฟรดเดริโก้ จิล แซนเดอร์ นักเศรษฐศาสตร์โลกประจำประเทศไทย
กล่าวถึงการประเมินภาพเศรษฐกิจไทยในปี 2554 ว่า ปัญหาของทั่วโลกในขณะนี้
ที่สำคัญและเป็นห่วงกันคือ ภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาสินค้าเกษตร และราคาน้ำมันในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งราคาน้ำมัน
ปรับเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนแล้ว ประมาณ 300% แต่สำหรับประเทศไทย
ยังได้รับผลกระทบจากภาวะดังกล่าวไม่มาก อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.1% ในเดือน มี.ค.
เพราะรัฐบาลได้ใช้มาตรการการตรึงราคาน้ำมันดีเซล และการขอความร่วมมือ
เพื่อตรึงราคาสินค้าไว้ไม่ให้ขึ้นราคา ขณะเดียวกันราคาสินค้าเกษตรที่สูงขึ้น
ช่วยทำให้การบริโภคและอุปโภคในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้น
ตามรายได้ของเกษตรกรที่สูงขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม ธนาคารโลกกังวลต่อปัญหาเงินเฟ้อของประเทศไทยในอนาคต
เพราะมาตรการที่รัฐบาลใช้เป็นเรื่องชั่วคราวไม่สามารถทำได้ตลอดไป หากเลิกอุดหนุน
ราคาน้ำมัน และเลิกการตรึงราคาสินค้า อัตราเงินเฟ้อจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ
กลุ่มคนจนในเมืองและเกษตรกรในชนบทจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด

ดังนั้น รัฐบาลควรจะพิจารณาที่แนวทางการแก้ปัญหาที่ดีกว่าการตรึงราคาน้ำมัน
ไปตลอดซึ่งทำไม่ได้ เป็นความพยายามในการปรับปรุงและลดต้นทุนการใช้พลังงาน
ให้ดีขึ้น เพราะขณะนี้ต้นทุนราคาน้ำมันในภาคผลิตของไทยอยู่ที่ 10% และ
ไทยมีการขนส่งสินค้าโดยใช้รถบรรทุกมากกว่า 98% ของการขนส่งทั้งหมด




อ่านต่อ http://www.news.songtoday.com/38504/ (http://www.news.songtoday.com/38504/)


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 06, 2011, 01:25:53 PM
ลอยตัวก็ดีครับคนจะได้ตัดสินใจซื้อรถให้ตรงกับวัตถุประสงค์การใช้งานเสียที ตลาดพลังงานก็พลอยบิดเบี้ยวมานานแล้วจะได้เข้าที่เข้าทางบ้าง
ก็เดือดร้อนกันแน่แต่ต้องปรับตัวครับ เดินเองบ้างจะมัวให้คนอื่นอุ้มตลอดคงไม่ได้


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 08, 2011, 08:49:29 AM


ราคาวันที่ 8/4/2554  :~)


เบซิน 91        43.24
 
โซฮอล91      35.84
 
โซฮอล95     38.34
 
E 20             34.94
 
E 85            22.62
 
ดีเซล          29.99



หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แอบดูที่รูเดิม ที่ เมษายน 08, 2011, 09:06:31 AM
เห็นวันก่อนมีข่าวการชงเรื่องปรับสูตรน้ำมันไบโอดีเซลเป็นบี3เข้าสภา
แต่ปรากฎว่าเรื่องถูกดองไว้ก่อน
ได้แต่หวังว่าพอน้ำมันปาล์มมากขึ้นในท้องตลาด การนำไบโอดีเซลบี5กลับมาใช้
น่าจะเป็นการช่วยประชาชนได้
ตอนนี้น้ำท่วมใต้ ไม่รู้จะส่งผลถึงราคาปาล์มน้ำมันกันอีกรอบหรือเปล่าก็ไม่รู้
น่าเป็นห่วงจริงๆ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 08, 2011, 10:20:20 AM
 จะหัดขี่ม้าแล้วครับ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ เมษายน 08, 2011, 12:05:45 PM
รัฐคงไม่กล้าแน่............ยิ่งใกล้เลือกตั้งแบบนี้

ดีเซลเป็นพื้นฐานสําหรับธุรกิจ.............ลอยตัวเมื่อไร สินค้าพุ่งพรวดแน่........รัฐบาลก็จะโดนด่า.....

ช่วงนี้ต้องทําตัวดีๆ...รักษาคะแนนเสียงไว้...........





ทั้งหมด..................ผมเดาครับ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: ~ Sitthipong - รักในหลวง ~ ที่ เมษายน 08, 2011, 12:37:51 PM
จะหัดขี่ม้าแล้วครับ

ม้าตัวหลายตังอยู่ครับ   ;D


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: มะเอ็ม ที่ เมษายน 08, 2011, 12:55:30 PM


ลอยตัว เลิกอุ้มครับ
แน่นอนสุด
ของจะขึ้นราคา ก็ให้ขึ้นไปครับ
ทุกอย่างจะได้สะท้อน ความเป็นจริง
ถ้าขายไม่ได้ ก็จะลดลงมาเอง
ตามความต้องการของตลาด
ในทุก ๆ วันนี้  รัฐบาล มีแต่อุ้มราคา
ซึ่งเป็นราคาของ ที่ฟุ่มเฟื้อย
แก้กันไม่ตรงจุด

 ::002:: ::002:: ::002:: ขึ้นยังงัยก็ต้องใช้ครับ :~)


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: krisanapong - รักในหลวง ที่ เมษายน 08, 2011, 01:39:36 PM
หลังสิ้นเดือนเม.ย.54 เป็นอันสิ้นสุดมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30บาท / ลิตร

แต่หลังจากนั้นเพื่อนๆพี่ๆคิดว่า

1. จะมีมาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ

2. ถ้าตรึงราคาจะมีผลอย่างไร

3. ถ้าไม่ตรึงราคาจะมีผลอย่างไร


 :~) :~) :~)ตอบข้อ 1.แน่นอนครับ
            2.ประชานิยมย่อมได้คะแนนเสียงเพิ่มขึ้น
            3.ถูกด่าซิครับและที่สำคัญคะแนนเสียงตกฮวบ ::005:: ::005:: ::005::


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 11, 2011, 06:10:18 PM
ข่าวร้าย!! น้ำมันกลุ่มเบนซินขึ้นอีก 50 สตางค์

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 เมษายน 2554 17:21 น.

บริษัท ปตท.และบางจาก ปรับราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน 50 สตางค์ต่อลิตร
อี85 ปรับขึ้น 30 สตางค์ต่อลิตร มีผลพรุ่งนี้เวลา 05.00 น.

ส่วนน้ำมันดีเซลราคาคงเดิม



อิอิอิอิ...............ผมบ้าไปแล้ว ::010::


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ เมษายน 11, 2011, 07:16:23 PM
        เมื่อไหร่ก็ตามที่ดีเซล
แพงกว่าน้ำมันปาล์ม  ผมจะซื้อน้ำมันปาล์ม
แบบปิ๊บ  มาเติม กระบะผม  ส่วนเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค
ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะขึ้นราคา  คงต้องช่วยตัวเองโดยการรัดเข็มขัด
ทุกวันนี้อะไรที่ทำเองได้ผมทำเอง  อะไรที่ปลูกกินเองได้ปลูก  รอบ ๆ เรือนเวียงวิมาน
มีผักกินใบ/กินผล-ผลไม้  ข่าตะใคร้ใบมะกรูด  กระเพรา โหระพา  ยี่หร่า  สะระแหน่ ฯลฯ นับไม่ถ้วน
แถมเลี้ยงไก่  เลี้ยง ปลา  นอกจากมีความสุขใจประหยัดรายจ่ายแล้วที่สำคัญคือปลอดภัยต่อสุขภาพ ครับ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Southlander ที่ เมษายน 13, 2011, 09:20:11 AM
        เมื่อไหร่ก็ตามที่ดีเซล
แพงกว่าน้ำมันปาล์ม  ผมจะซื้อน้ำมันปาล์ม
แบบปิ๊บ  มาเติม กระบะผม  ส่วนเรื่องสินค้าอุปโภคบริโภค
ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะขึ้นราคา  คงต้องช่วยตัวเองโดยการรัดเข็มขัด
ทุกวันนี้อะไรที่ทำเองได้ผมทำเอง  อะไรที่ปลูกกินเองได้ปลูก  รอบ ๆ เรือนเวียงวิมาน
มีผักกินใบ/กินผล-ผลไม้  ข่าตะใคร้ใบมะกรูด  กระเพรา โหระพา  ยี่หร่า  สะระแหน่ ฯลฯ นับไม่ถ้วน
แถมเลี้ยงไก่  เลี้ยง ปลา  นอกจากมีความสุขใจประหยัดรายจ่ายแล้วที่สำคัญคือปลอดภัยต่อสุขภาพ ครับ

  เป็นวิถีชีวิตที่พึ่งตนเองและพอเพียงดีครับ ถ้ามีที่ดินรอบบ้านพอทำได้ก็น่าทำครับได้ออกกำลังกายไปด้วย
มีพืชผักที่ปลูกเองเป็นครัวข้างบ้านไปด้วย


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: คมขวาน รักในหลวง ที่ เมษายน 13, 2011, 10:22:51 AM
        พอดีดูในสตราด้าคลับ
เครื่อง 4M40 มีหลายคนใช้น้ำมันปาล์ม
แบบปิ๊บ เติมกันมานานแล้ว หลายคนและไม่พบปัญหาอะไร
ก็เลยคิดว่าถ้าดีเซลขึ้นราคามาก ๆ ผมจะล่อมันน้ำมันปาล์มนี่แหละเติม
ส่วนเรื่องการใช้ชีวิตแบบพอเพียง  ผมใช้มาหลายปีแล้ว จากที่เคยมีหนี้สิน
พะรุงพะรัง  ใช้ชีวิตฟุ้งเฟ้อ  ค่อย ๆ หันมาประหยัดอดออม  รู้หารู้ใช้  รู้ลดรายจ่าย เลยสบาย ครับ


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Nat_usp ที่ เมษายน 18, 2011, 05:53:10 PM
"กรณ์" แจงลดภาษีดีเซล 5.70 บาท/ลิตร 5 เดือน รัฐสูญรายได้ 4.5 หมื่นล้าน


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 เมษายน 2554 14:22 น.



(http://pics.manager.co.th/Images/554000005071301.JPEG)

"กรณ์" แจงลดภาษีสรรพสามิตรน้ำมันดีเซลเหลือ 0.005 บาท/ลิตร เป็นประเด็นทางเทคนิค เพื่อให้มีการรายงานปริมาณการใช้น้ำมันเข้ามา เพื่อทราบถึงสถานการณ์การใช้น้ำมันจริง คาดหากเว้นภาษีน้ำมัน 5 เดือน ก่อนได้รัฐบาลชุดใหม่ อาจสูญรายได้ 4.5 หมื่นล้านบาท ยันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ในการเว้นวรรคการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล มั่นใจไม่กระทบเป้าหมายงบประมาณปี 54 และหากจะมีการกู้ชดเชยการขาดดุล ก็จะกู้เพียง 1.63 แสนล้านบาท ต่ำกว่าเอกสารงบประมาณที่ตั้งไว้ และเงินคงคลังปลายงวดจะอยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านบาท



นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 20 เมษายน 2554 นี้ กระทรวงการคลังจะเสนอการยกเว้นการเก็บภาษีสรรพสามิต โดยจะมีการเทียบเคียงกับรัฐบาลในอดีต ซึ่งกระทรวงการคลังคงจะมีการปรับการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเหลืออยู่ที่ระดับ 0.005 บาทต่อลิตร ซึ่งเสมือนกับไม่จัดเก็บเลย เพียงแต่เป็นประเด็นทางเทคนิคที่ต้องมีการจัดเก็บ 0.005 บาทต่อลิตร เพื่อให้มีการรายงานปริมาณการใช้น้ำมันเข้ามายังกรมสรรพสามิต จะได้ทราบถึงสถานการณ์การใช้น้ำมัน
      
       สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน กระทรวงการคลังเห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในส่วนของน้ำมันดีเซล เนื่องจากต้องการช่วยลดภาระของประชาชน และจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม จึงเห็นว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่ในการเว้นวรรคการจัดเก็บภาษีน้ำมันดีเซล
      
       นอกจากนี้ ผลกระทบทางด้านการเงินการคลัง ในส่วนของภาษีสรรพสามิต จะมีในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่มด้วยอีก 7% จะทำให้มีเม็ดเงินภาษีในส่วนของน้ำมันดีเซลหายไปประมาณ 5.70 บาท ซึ่งจะทำให้ราคาน้ำมันอยู่ในระดับ 30 บาทต่อลิตรได้
      
       ทั้งนี้ จากการประเมินของกระทรวงการคลัง คาดว่างบประมาณปี 2554 จะสูญเสียรายได้จากการยกเว้นภาษีน้ำมันดีเซลในช่วง 5 เดือนที่เหลือของรัฐบาลชุดนี้ (พฤษภาคม-กันยายน 2554) ประมาณ 44,380 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วย ภาษีสรรพสามิต และภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่เชื่อว่าจะไม่กระทบเป้าหมายงบประมาณปี 2554 และหากจะมีการกู้ชดเชยการขาดดุลนั้น ก็จะกู้เพียง 163,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเอกสารงบประมาณที่ตั้งไว้ และเงินคงคลังปลายงวดจะอยู่ที่ประมาณ 3 แสนล้านบาท
      
       หากมองไปในอนาคต กรอบงบประมาณในปี 2555 รัฐบาลเสนองบขาดดุลที่ 3.5 แสนล้านบาท ภายใต้สมมติฐานว่ารายได้จากภาษีสรรพสามิต ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามเดิม และยังมีความจำเป็นในการปรับลดค่าใช้จ่ายบางส่วนในส่วนของงบปี 2555 รัฐบาลก็พร้อมจะดำเนินการ หากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้กลับมาเป็นรัฐบาลอีกสมัยหนึ่ง



http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000047519 (http://www.manager.co.th/StockMarket/ViewNews.aspx?NewsID=9540000047519)


สันเขื่อนเอ้ย.......


หัวข้อ: Re: คิดว่าหลังสิ้นเดือน เม.ย.54 จะตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไหมครับ
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ เมษายน 19, 2011, 03:32:12 PM
.... ตอนนี้เรียกได้ว่ารัฐแทบจะไม่ได้เก็บภาษีน้ำมันเลยด้วยซ้ำ ด้วยเหตุผลที่ต้องตรึงราคาเพื่อให้คนส่วนมากได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด  ก็ดีครับแต่ก็ต้องเตรียมตอบคำถามเพราะฝายตรงข้ามต้องนำมาเป็นประเด็นแน่ .....