เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

1 คน 1 เสียง...

"บางครั้งคะแนนเสียงเดียว ก็เปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างได้"

ในตอนบ่ายอันร้อนระอุของฤดูร้อนในปี ค.ศ.1842 เฮนรี ชูเมเกอร์ กำลังรับจ้างทำงานอยู่ในฟาร์มแห่งหนึ่งที่อินดีแอนา

จู่ๆ เขาก็นึกได้ว่าวันนั้นเป็นวันเลือกตั้ง และเขาได้เคยให้สัญญาไว้ว่าเขาจะกาบัตรให้เมดิสัน มาร์ช ผู้สมัครรับเลือกตั้งหนึ่งที่ลงเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฏรของรัฐในนามพรรคเดโมแครต

ซึ่งถ้าเขาหลีกเลี่ยงไม่ไปทำหน้าที่พลเมืองและไม่รักษา ก็คงไม่มีคนว่าอะไร แต่เขาเลือกที่จะรีบที่จะขี่ม้าออกไปยังหน่วยเลือกตั้งที่หย่อนบัตร

ผลก็คือ เมดิสัน มาร์ช ชนะการเลือกตั้งครั้งนั้น ด้วยคะแนนเสียงมากกว่าคู่แข่งเพียง 1 คะแนน

ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ.1843 สส.แต่ละรัฐจะเป็นผู้เลือกวุฒิสมาชิกของสหรัฐฯ ซึ่งมาร์ชและเพื่อน สส. ได้ลงคะแนนเสียงเพื่อเลือก เอดเวิร์ด แฮนเนแกน จากพรรคเดโมแครต และแฮนเนแกนก็ชนะการเลือกตั้งเหนือคู่แข่งเพียง 1 คะแนนเช่นกัน

ต่อมาในปี ค.ศ.1846 วุฒิสภาสหรัฐฯ มีความเห็นต่างกันมากและกำลังถกเถียงกันในเรื่องว่าจะประกาศสงครามกับ เม็กซิโกหรือไม่ คะแนนเสียงของแต่ละกลุ่มที่แตกต่างกันทำให้เกิดทางตัน ไม่สามารถลงมติได้ ในที่สุดจึงได้เรียกวุฒิสมาชิกแฮนเนแกนที่ขาดประชุมให้เข้าร่วมประชุมเพื่อลงคะแนนเสียง และแฮนเนแกนก็เลือกลงคะแนนเสียงให้มีการประกาศสงครามกับเม็กซิโก

ผลพวงประการหนึ่งจากสงครามครั้งนั้นคือ แคลิฟอร์เนียเปลี่ยนมือจากที่เคยเป็นของเม็กซิโกมาเป็นของสหรัฐอเมริกา

วุฒิสมาชิกเอดเวิร์ด แฮนเนแกน ยังได้ลงคะแนนเสียงที่ทำให้เทกซัสมีสถานะเป็นรัฐอีกด้วย

ดังนั้น ถ้าเฮนรี ชูเมเกอร์ ไม่ได้ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งในวันนั้น แคลิฟอร์เนียกับเทกซัสอาจไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสหรัฐฯ ดังเช่นในปัจจุบัน

ปล. เหตุที่ทราบว่าคะแนนเสียงของชูเมเกอร์เป็นตัวตัดสินเนื่องจากว่า ในการหย่อนบัตรครั้งนั้นของเขามีการแย้งว่าไม่ถูกต้อง เนื่องจากในบัตรที่เขาลงคะแนนไม่มีรายชื่อของผู้ลงสมัครทุกคน เขาจึงใช้มีดตัดเอารายชื่อของเมดิสัน มาร์ช จากบัตรอื่น มาติดที่บัตรเขาเพื่อที่จะได้เลือกมาร์ชได้ ผู้คุมหน่วยเลือกตั้งจึงได้เอาบัตรของชูเมเกอร์ทิ้งไป มีผลทำให้คะแนนเสมอกัน หลังจากการไต่สวนหลายครั้งและเบิกความอยู่นาน คะแนนเสียงของชูเมเกอร์จึงได้รับการยอมรับและมีผลให้เมดิสัน มาร์ช เป็นผู้ชนะ

เรื่องที่นำมาเล่าจาก...หนังสือเรื่อง นาทีประวัติศาสตร์: 100 เรื่องลับพลิกโลก

(http://board.postjung.com/data/543/543107-img-1.jpg)

ผู้เขียน : ริก เบเยอร์
ผู้แปล : ศุภมิตร เขมาลีลากุล
บรรณาธิการต้นฉบับ : ผศ.ศิริพันธ์ สิงห์สิริ
สำนักพิมพ์ : อมรินทร์


นาทีประวัติศาสตร์: 100 เรื่องลับพลิกโลก เป็นหนังสือประวัติศาสตร์ตะวันตกที่ประกอบไปด้วยเรื่องราวที่ครบรส คือทั้งสนุก สะเทือนอารมณ์ และกระชากอารมณ์ในเล่มเดียวกัน

บางเรื่องเล่าเสมือนนิยายแต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง จากเหตุการณ์จริง อาทิเช่น เทปกาวชิ้นเดียวส่งผลต่อการลาออกของประธานาธิบดี การแปลความหมายผิดเพียงคำเดียวทำให้เกิดการทิ้งระเบิดปรมาณูที่ญี่ปุ่น กลลวงเรื่องศพที่หลอกฮิตเลอร์สำเร็จ

บางเรื่องทำให้รู้ที่มาของสิ่งต่างๆรอบตัวที่เราคุ้นเคย อาทิ ที่มาของอาหารขึ้นชื่อต่างๆ เช่น พายฟริสบี้ ครัวซองต์ คอร์นเฟลคส์ ไอศกรีมโคน ที่มาของตัวละครชื่อดัง เช่น เชอร์ล็อก โฮล์มส์ แดร็กคิวล่า ที่มาของคำศัพท์ เช่น บอยคอต กิโยติน และที่มาของสิ่งประดิษฐ์ เช่น อักษรเบรลล์ หูฟังของแพทย์ แต่ละเรื่องล้วนมาจากที่มาที่น่าเหลือเชื่อ แต่จริง!

ข้อมูลเพิ่มเติม

1. หนึ่งในหนังสือชุดรู้(เป็น)เรื่อง ความรู้จากทุกมุมโลก
2. อ่านง่าย อ่านสนุก พร้อมเกร็ดความรู้รอบโลกอันน่าทึ่งที่คุณอาจคาดไม่ถึงว่าจะเกิดขึ้นจริง!
3. นอกจากเรื่องราวจะน่าทึ่งแล้ว ผู้เขียนยังใช้เวลาค้นหาข้อมูลโดยละเอียด ทำให้ข้อมูลต่างๆที่อยู่ในเล่มนั้นมาจากหลักฐานที่เชื่อถือได้

                              บ้านเมืองเราอีกไม่นานนักก็จะมีการเลือกตั้งแล้ว  .......  ณ วันนี้ยังมองอะไรไม่เห็นเป็นรูปธรรมเลยครับอา   :-\     ทำไงดี   :-[

การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของพลเมืองในประเทศครับ อ่านแล้วมีประโยชน์
มากครับ ขอบคุณครับ ::014::
รูปผู้หญิงนั่งโยกบนลูกบอล ทำให้ผมอ่านแล้วจับใจความไม่ค่อยได้ครับ
จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้วครับ :D~ :D~

ขอบคุณครับ พี่ วัฒน์

ขอบคุณครับอาวัฒน์  ::014::+1ครับ

ที่จะได้เห็นคือการซื้อเสียงครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ครับ   :P

แหมะไม่เคยมีใครมาซื้อเสียงผมซักครั้ง  ถ้ามาจะขายครับ ทั้งเสียงทั้งกลิ่น  ใส่ถุงไปให้ดมที่บ้าน  กลิ่มมาดามหอมชื่นใจ  ::011:: ::011:: ::011::

บ้านเรา ผมเข้าใจว่าทั้งซื้อ ทั้งโกงสารพัดฯ ๑ เสียงคงไม่ต่าง... แต่หากพวกเรารวมตัวกัน... เสียงพวกเราอาจจะได้รับฟังบ้าง...

ขอบคุณครับลุงวัฒน์  ::014::

ขอบคุณพี่วัฒน์ ที่สื่อให้เห็นอีกด้านหนึ่ง ที่เราสามารถมองเห็นพลเมืองอเมริกา ความความเคารพในสิทธิและเสรีภาพของตัวเอง เพื่อชาติ
ขายสิทธิ ขายเสียง ขายวิญญาณตัวเองเพื่อคนไดคนหนึ่ง เพื่อกลุ่มไดกลุ่มหนึ่ง พลเมืองบ้านเขาน่าจะเทียบกันไม่ได้กับบ้านของเรา

ผมชักอยากรู้เรื่องที่เหลือจากทั้งหมด 100 เรื่องแล้วสิครับ


คุณวัฒน์ หนังสือเล่มนี้ พิมพ์ปีไหนครับ   ::014::

 ::014:: พิมพ์เมื่อ มกราคม 2554 ยังมีจำหน่ายตามร้านหนังสือทั่วไปครับ ราคาเล่มประมาณ 200 บาทครับ จำนวน 219 หน้า ขนาด 170x200x12 มม.

ขอบคุณครับ .... ต้องไปหาอ่านแล้ว ^^

  ::014:: ขอบคุณครับ  ::014::

ที่คุยได้เพราะกำลังเงินมีมากครับ   :P

ขอบคุณมากครับ ว่างๆผมจะแวะไปหาตามแผงหนังสือ พิมพ์ต้นปี ป่านนี้น่าจะมีเหลือบนแผงอยู่บ้างหล่ะครับ  ;D

 ::014::

"ถ้าชายคนหนึ่งถามทางเสียก่อน... สงครามคงไม่เกิด"

เดือนมิถุนายน ค.ศ.1914 อาร์คดยุคฟรานซ์ เฟอร์ดินานด์ มกุฎราชกุมารราชบัลลังก์ออสโตรฮังกาเรียน เสด็จเยือนแคว้นบอสเนียซึ่งเป็นดินแดนที่อยู่ห่างไกลในอาณาจักรของพระองค์

ขณะนั้นบอสเนียกำลังคุกรุ่นไปด้วยความตึงเครียดเช่นเดียวกับปัจจุบัน นักปฏิวัติชาวเซอร์เบียสมคบกันลอบปลงพระชนม์พระองค์ขณะที่ขบวนรถเสด็จแล่น ผ่านเมืองซาราเยโว

มือสังหารคนหนึ่งปาระเบิดใส่รถของพระองค์ แต่พระองค์ทรงปัดออกได้ทันท่วงที มันระเบิดกลางถนน ทำให้ผู้ติดตามพระองค์คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บ

"พวกท่านต้อนรับแขกด้วยระเบิดงั้นหรือ" เฟอร์ดินานด์ทรงกล่าวกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นด้วยความโมโห

ในเวลาต่อมา พระองค์ยืนกรานจะไปเยี่ยมผู้ติดตามที่ได้รับบาดเจ็บที่โรงพยาบาลให้ได้ แต่เนื่องจากคนขับรถของพระองค์ไม่คุ้นทาง จึงเลี้ยวผิด ซึ่งทำให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามมาพลิกผัน เจ้าหน้าที่คนหนึ่งตะโกนว่า "ไปผิดทางแล้ว" รถจึงหยุดทันควัน แต่ที่ไหนได้ รถไปหยุดอยู่ตรงหน้าชายคนหนึ่ง ซึ่งเป็นพวกที่สมคบกันปาระเบิดแต่พลาดในครั้งแรก

ด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ชายหนุ่มคนนี้สบโอกาสพอดี เขาชักปืนบราวนิ่งออกมา แล้วยิงออกไป เพียงไม่กี่นาทีต่อมา เฟอร์ดินานด์และพระชายาก็ทรงสิ้นพระชนม์

การลอบปลงพระชนม์อาร์คดยุคในคราวนั้น เป็นชนวนนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 10 ล้านคน

เพียงเพราะการเลี้ยวรถผิดแท้ๆ...


จากตอนหนึ่งใน...หนังสือเรื่อง นาทีประวัติศาสตร์: 100 เรื่องลับพลิกโลก

ขอบคุณพี่วัฒน์ ครับ ที่หาเกร็ดความรู้มาเติมลงในหัวสมอง..... ::014::