เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คนที่วิ่งไปหยิบปืนมาสวนน่ะครับ

ปล.มือปืนที่ตายคงลืมไปว่า ถ้าไม่เอาขาหย่างขึ้้นรถจะสตาทไม่ติด :D :D :D :D

http://vdoyou.com/forum.php?mod=viewthread&tid=716&extra= (http://vdoyou.com/forum.php?mod=viewthread&tid=716&extra=)

คนที่เอาปืนมายิงสวนอ่ะครับ เห็นเขาหันปากกระบอกปืนไปกลางถนนดีนะไม่มีใครโดนลูกหลง ::014::

 ::005::

คงอ้างว่าป้องกันตัวไม่ได้แล้วมั่งครับเพราะมือปืนได้หนีไปแล้ว

ผิด แน่ครับ ฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา เข้ามาตรา59 ตามกฎหมายอาญา วรรคไหนไม่แน่ใจมี4วรรคครับ จบมาปีกว่าแล้ว ลงหม้อหมด

แต่หน้า จะเข้าข่ายป้องกันตัวโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามกฎหมายอาญาว่าด้วยการป้องกันตัว
ซึ่งมีว่า จำมาตราไม่ได้อีกตามเคย แต่จำแม่บทได้  ผู้ใดกระทำการใดๆเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายที่ใกล้มาถึง
เพื่อปกป้องทรัพ สินและผู้อื่นให้พ้นจากอันตราย ที่ใกล้เข้ามานั้นถือว่ามีความผิด แต่ไม่ต้องรับโทด

ประมานนี้ที่จำได้  นี่ไงนึกออกละทวนใหม่อีกครั้งนั่งนึกอยู่ตั้งนาน
มาตรา 67 ผู้ใดกระทำความผิดด้วยความจำเป็น
(1) เพราะอยู่ในที่บังคับ หรือภายใต้อำนาจซึ่งไม่สามารถหลีก เลี่ยงหรือขัดขืนได้ หรือ
(2) เพราะเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากภยันตรายที่ใกล้จะถึง และไม่สามารถหลีกเลี่ยงให้พ้นโดยวิธีอื่นใดได้ เมื่อภยันตรายนั้นตน มิได้ก่อให้เกิดขึ้นเพราะความผิดของตน
ถ้าการกระทำนั้นไม่เป็นการเกินสมควรแต่เหตุแล้ว ผู้นั้นไม่ต้อง รับโทษ

+1เออเนาะเราก็ลืมไป  เข้าหนีไปแล้วจะเรียกว่าป้องกันตัวได้ไงวะ
นี่ไง ที่ตก อาญา ตั้งหลายครั้งก็เพราะ ตีความ โจท ไม่ดีนี่เองเห้อเซ็ง

เออ นึกออกอีกตัวมาตรานี้ไง
มาตรา 69 ในกรณีที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 67 และ มาตรา 68 นั้น ถ้าผู้กระทำได้กระทำไปเกินสมควรแก่เหตุ หรือเกินกว่ากรณีแห่ง ความจำเป็นหรือเกินกว่ากรณีแห่งการจำต้องกระทำเพื่อป้องกัน ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น เพียงใดก็ได้แต่ถ้าการกระทำนั้นเกิดขึ้นจากความตื่นเต้น ความ ตกใจหรือความกลัว ศาลจะไม่ลงโทษผู้กระทำก็ได้

ใช้มาตรานี้อ้างได้ กระทำไปเพราะความตกใจ หรือตื่นเต้น  แต่อันนี้ ก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของศาล อีกนะว่าจะเอาไง
นี่ละน่า กฎหมายเมืองไทย เอาการตัดสินใจโดยของคนเพียงคนเดียวมาตัดสินคดี โดยใช้คำว่า ดุลยพินิจของศาล ทำไมไม่ใช้ระบบลูกขุนแบบ
 ประเทศอังกฤษ ละ  ช่วยกันตัดสินใจหลายๆคนดี กว่าคนเดียว มิได้มีเจตนา ที่จะหมิ่นเกีตร์ศาลแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นการเสดงความคิดเห็น
กลัวโดนข้อหาหมิ่น  ศาลเลยกันไว้ก่อน  อิอิอิอิ

...คงต่อสู้ในประเด็นบันดาลโทสะ  มากกว่าป้องกันตัว

ป้องกันตัวไป 9 นัด.....

ก็คงผิดเพราะคนร้ายหนีเราไปแล้ว  แต่ศาลอาจจะอลุ่มอล่วยให้เพราะเจ้าทุกเกือบถูกฆ่าเหมื่อนกัน  ::014::

มีความผิดครับ

กรณีนี้คงไม่ป้องกันตัว แต่เป็นการเอาคืน

อ้างป้องกันไม่ได้แน่นอนเพราะภยันตรายได้ผ่านพ้นไปแล้ว เมื่ออ้างป้องกันตามมาตรา 68 ไม่ได้ ก็จะอ้างป้องกันเกินกว่าเหตุ มาตรา 69 อีกไม่ได้เช่นกันเพราะการจะใช้มาตรา 69 ได้ต้องผ่าน 67 หรือ  68 มาก่อน คือเข้าองค์ประกอบของมาตรา 67 หรือ 68 เสียก่อน แต่บวกการกระทำที่เกินกว่าเหตุไปจึงจะใช้ 69 ได้ แต่กรณีนี้ไม่ใช่การป้องกันตามมาตรา 68 จึงจะอ้างป้องกันโดยเกินกว่าเหตุ 69 ไม่ได้
ที่พอจะเป็นไปได้ก็มาตรา 72 บันดาลโทสะ นี่แหละครับ ฟันธง  ::014::

ซัดไปหมด โม่โดนแค่ นัดเดียว

    ไม่ป้องกันตัวในสถานการณ์นี้

   ฤาจะรอให้ผู้ตายกลับมายิงครั้งใหม่ แล้วค่อยป้องกันตัว

  น่าจะนับได้ว่าป้องกันตัวสมควรแก่เหตุ  ไม่งั้นชีวิตนี้ต้องพกปืนไว้เตรียมป้องกันตลอดเวลา

  จนกว่าผู้ตายจะกลับมาลอบยิงใหม่  ถึงตอนนั้นไม่รู้ว่าจะทันได้ป้องกันตัวหรือไม่   ::007:: ::007::

ถ้าเป็นผมก็จะทำอย่างนี้เช่นกัน ไม่งันมันอาจกลับมาจัดการกะเราอีกแน่นอนไม่วันนี้ก็พรุ่งนี้ แต่ต้องดูเหตุนะครับ

     ผมก็คิดในประเด็นนี้ครับ เพราะว่าถ้าขืนให้รอจนคู่กรณีกลับมาลอบยิงใหม่ คงไม่มีโอกาสได้ป้องกันตัว
เป็นผมก็ใส่คืนไม่เลี้ยงครับ ไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่ครับ จะให้คนอื่นลากปืนมายิงใส่เรา ทั้งๆที่เราก็อยู่ในวิสัย
ที่สามารถตอบโต้ได้
   

มีผู้สันทัดเคยบอกไว้ว่า ผู้ตายได้กล่าวก่อนจะขึ้นมอเตอร์ไซค์ว่า "เดี๋ยวกูกลับมา กูจะเอามึงให้ตาย" ด้วยเสียงอันดังและพยานในที่เกิดเหตุ ได้ยินตรงกันทุกคน

และถ้าหลังเกิดเหตุโดยไม่มีการยิงสวน หนุ่มเต้นท์รถคงหวาดผวาไปหลายวัน แล้ว ตร. จะให้ความคุ้มครองได้หรือไม่

กฏหมายไทย ฟังแล้วเหนื่อยใจ
ถ้าทุกคนอ่านข่าวนี้โดยละเอียดจะรู้ว่า คนที่ยิงได้ถูกผู้ตายยิงใส่ก่อน กระสุนถูกที่สะโพกสองนัดแต่ไม่เข้า คนนั้นจึงหยิบปืนไปยิงผู้ตาย แล้วผิดหรอด้วยหรอ ตัวเองโดนยิงก่อนนะ ต้องป้องกันสิ จะรอให้มันกลับมายิงอีกหรอ เป็นผมถ้าผิดจิงผมก็ยอม คงไม่ยืนให้มันยิงฝ่ายเดียวหลอกครับ

         เป็นผมก็คงตอบโต้เช่นกันครับ

เสียวแทนรถที่วิ่งทางด้านหลังผู้ตายครับ ::003:: ::003::
เดชะ ผู้ยิงยังพอมีความแม่นยำอยู่บ้าง


ชั่วแว่บความคิดและการกระทำ เปลี่ยนคำนามจาก คุณ เป็น "จำเลย"
ภาพวงจรปิด มีทั้งคุณและโทษจริงๆ

คลิปนี้สอนให้รู้ว่าต่อให้ยิงโดนก็อย่าประมาทเพราะจะโดนสวนได้ครับ

+1

ลองจับเวลาดีๆๆตกเกือบสิบวิกว่าคนโดนยิงจะหมดความสามารถต่อสู้นะครับ  นานพอที่จะยิงสวนสบายๆถ้ามีปืนในมือ    เท่าที่ดูคลิปมาเห็นจะมีแต่ลูกซองสั้นยิงระยะ 5-7เมตรเท่านั้นที่โดนแล้วหมดสภาพทันทีเลย ถ้าไม่นับการจ่อยิงแบบประชิดเข้าจุดสำคัญ

วรรณกรรมโกวเล้งตอนหนึ่งกล่าวว่า

"หากท่านต้องการฆ่าใครสักผู้หนึ่ง
ท่านต้องยอมรับความตายเช่นกัน"

ตอบแบบนักกฏหมายครับ ป้องกันตัวครับ ไม่ใช่บันดาลโทสะการบันดาลโทสะคือต้องทำ ณ ขณะนั้นไม่ได้รับความเป็นทำเช่นกลับบ้านพบเมียกำลังมีอะไรกับชายชู้อย่างนี้ยิงชายชู้ ไป๑นัดอย่างนี้เรียกว่าบันดาลโทสะครับ โดยถูกข่มขืนใจอย่างร้ายแรงอ้างได้ ส่วนในคลิปนั้นเป้นการป้องกันตัวตามกฏหมายครับในส่วนที่ว่าจะเกินกว่าเหตุหรือไม่นั้นต้องไปพิสูจน์อีกครั้งเพราะคนร้ายยิงไปกี่นัดและระยะเวลาที่เจ้าของเต้นท์ยิงกลับไปนั้นเมื่อเห้นว่าคนร้ายถูกยิงแล้วล้มลงทำไมถึงยิงซ้ำจะกลายเป็นป้องกันตัวเกิดกว่าเหตุได้ครับ ต้องนำสืบให้ได้ว่าเป็นการกระทำที่สมควรกว่าเหตุ

ตอบ ก่อนอื่นต้องขอเรียนให้ทราบว่า เป็นแนวความคิดเห็นส่วนตนเพื่อการศึกษาข้อกฏหมายจากเหตุการณ์จริงและเพื่อเป็นอุทาหรณ์แก่เพื่อนสมาชิกเท่านั้น มิใช่เป็นการชี้นำหรือซ้ำเติมฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพราะต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฏหมาย ที่ทางตำรวจท้องที่กำลังหาสาเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการให้เกิดความยุติธรรมทั้งสองฝ่าย

     จากเหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนบุกยิงเจ้าของเต๊นท์รถขณะยืนคุยกับลูกค้าหน้าร้าน จนได้รับบาดเจ็บและวิ่งหนีเข้าไปในสำนักงานจากนั้นเจ้าของเตีนท์รถคนดังกล่าวได้นำอาวุธปืนขนาด 9 มม.มาไล่ยิงคนร้ายที่กำลังจะหลบหนีโดย จยย.ที่จอดอยู่หน้าร้านเกิดเหตุแต่สตาร์ทไม่ติด จนเสียชีวิต ตามภาพ CCTV

 

   เรื่องนี้สำหรับสมาชิก 105UNIT ต้องมอง  2 กรณี

 

   1.มองตามข้อกฏหมาย

       1.1หลักกฏหมาย ตามประมวลกฏหมายอาญา

       มาตรา 59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่เมื่อได้กระทำโดยเจตนา ฯ

       มาตรา 68 ผู้ใดจำต้องกระทำการใดเพื่อป้องกันสิทธิของตนหรือของผู้อื่น ให้พ้นภยันตรายวึ่งเกิดจากการประทุษร้ายอันละเมิดต่อกฏหมายและเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึง ถ้าได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ การกระทำนั้นเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฏหมาย ผู้นั้นไม่มีความผิด

      มาตรา 72 ผู้ใดบันดาลโทสะ โดยถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำต่อผู้ข่มเหงในขณะนั้น ศาลจะลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นเพียงใดก็ได้

     มาตรา 288 ผู้ใดฆ่าผู้อื่น ต้องระวางโทษประหารชีวิต จำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ สิบห้าปีถึงยี่สิบปี

      1.2 ข้อเท็จจริง และพิจารณาประกอบตามหลักกฏหมาย

             จากกรณีดังกล่าว มีคนร้ายก่อเหตุไล่ยิงหมายเอาชีวิตจริง ซึ่งหากผู้เสียหายชักปืนยิงต่อสู้ในทันทีทันใดตรงนั้นอย่างนี้สามารถ อ้างป้องกันตาม มาตรา 68 ผู้นั้นไม่มีความผิด

             แต่จากเหตุการณ์ดังกล่าว เหตุคนร้ายไล่ยิงจบแล้ว และกำลังจะหลบหนี ผู้เสียหายวิ่งไปคว้าปืนที่อยู่ในสำนักงานห่างออกไปประมาณ 3-5 เมตร และกลับออกมาเล็งปืนและยิงไปที่คนร้ายหมายเอาชีวิตเช่นกัน อย่างนี้ อ้างป้องกันไม่ได้เพราะเหตุจบลงแล้วเพียงแต่ เป็นการต่อเนื่องในการหลบหนีของคนร้ายเท่านั้น อย่างนี้เชื่อได้ว่าผู้เสียหายได้กระทำไปโดยความเจ็บปวดที่ถูกยิงจากการกระทำที่ผิดกฏหมายด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จึงกระทำต่อผู้ก่อเหตุนั้น(จากภาพ) อย่างนี้ มองว่าเป็นบันดาลโทสะ  ตามมาตรา72 ศาลจะลงโทษน้อยกว่าที่กฏหมายกำหนดไว้เพียงใดก็ได้

 

   2.มองตามยุทธวิธี ของ 105UNIT

      2.1 ขณะยืนในระยะประชิดนั้น หากวิ่งโดนยิงแน่นอน แต่จากภาพเห็นได้ว่าคนร้ายพอมีคุณธรรมเล็กๆเพราะไม่ยิงลูกค้าที่เจ้าของใช้หลบแอบวิถีกระสุน หากเป็นมือสังหารอย่างนี้เชื่อว่าเสียชีวิตทั้งสองคน

            (หวังว่าคงยังจำท่าการฝึกปลดอาวุธในระยะประชิดได้น่ะครับ )

     2.2 การออกคำสั่ง หากผ่านการฝึกเชื่อว่าคงจะต้องหลบเข้าที่กำบังก่อน ดีกว่าไปยืนยิงในช่องทางระหว่างรถแบบนั้น จากนั้นยิงพอสมควรแก่เหตุและออกคำสั่งตามที่ได้รับการฝึกไปแล้ว ท่านก็จะเป็นผู้ชนะทั้งการต่อสู้และข้อกฏหมาย

             ( หยุด วางปืนลง หากต่อสู้ยิงตามจังหวะเหมือนการฝึก อย่างนี้ชนะแน่นอน )

      สุดท้าย บางท่านอาจคิดว่า มันยิงเรา มันเข้าบ้านเรา ยิงมันให้ตาย มันต้องตาย  ถ้าคิดอย่างนี้เราก็ไม่ต่างอะไรจากพวกมัน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีสถานศึกษา หมดสิ้นความศรัทธาในศาสนา กฏหมายไร้ความศักดิ์สิทธิ บ้านเมืองลุกเป็นไฟ  แต่หากเราได้รับการฝึก และกระทำเพื่อป้องกันตามสิทธิและสถานการณ์แล้ว นี่คือ 105UNIT

 

                        ถ้าสร้างไม่ได้  ก็จงอย่าทำลาย

 

        ขอให้สมาชิกทุกท่านจงตั้งมั่นอยู่บนความไม่ประมาท ก่อนนอนตรวจดูรอบอาคาร ยานพาหนะ แม้กระทั่งปลั๊กไฟ เตารีด เตาแก๊ส ให้เรียบร้อย สวสัดีครับ

 

                          รักทุกคนเลย..........

พ.ต.ท.เชี่ยววิทย์ ศรีวิเชียร
รอง ผู้กำกับการ 3 กองปราบปรามฯ คุ้มครองผู้บริโภค

จากกระทู้ในเว็บนี้ครับ
http://105unit.com/2009/board/view.php?qid=904 (http://105unit.com/2009/board/view.php?qid=904)

ตกใจไปหน่อยไงครับ
กฎหมายนะ ถ้าเราไม่ยิงเค้า เค้าก็ต้องกลับมายิงเรา
พอเรายิงเค้า ก็ต้องไปสู้กันที่ศาลแล้ว เฮ้อ

เป็นผมก็ยิงจนกว่าจะหมดสภาพครับ เพราะผมก็ไม่รู้ว่าเค้ายังมีอาวุธเหลืออยู่อีกไหม  ถึงตรงนั้นตายกับติดคุก คงไม่มีใครเลือกตายหรอกจริงไหมครับ  ;) ;) ;)
ถ้าพูดตามกฎหมายยอมรับว่าผิดเต็มประตูครับ ยังไงก็ต้องไปสู้ในชั้นศาลแน่นอน เตรียมเงินประกันตัวไว้ก่อนได้เลย  แต่ถ้ามองตามหลักความเป็นจริง ถ้ามีคนมายิงเราถึงที่ทำงาน  ถ้าจะยืนแผ่เมตตาให้ก็ดูตลกครับถามว่าชีวิตจริงมีใครยืนทำได้  ยิ่งโดนขู่ว่าจะกลับมายิงอีกด้วย 

เหตุการณ์อย่างนี่้น่าคิดนะครับ...
ถ้าเป็นความรู้สึกผมคิดว่าทุกคนคนต้องอยากยิงสวนเหมือนกันแน่ๆ..แต่ก็กลัวความผิดเหมือนกัน
ผมเองก็เคยตกอยู่ในสถานการณ์คล้ายๆกัน
คือว่ามีขโมยขึ้นบ้านแล้ววิ่งสวนผมขึ้นไปผมไปหยิบปืนมาตามแต่มันมืดมาก..ในใจก็คิดอยู่ว่าถ้าเจอจังๆจะทำไงดียิงตัวหรือยิงขู่(ในใจก็กลัวขโมยมีอาวุธเพราะไม่รู้ว่าขโมยจะมีอาวุธรึเปล่า)แต่ก็ตัดสินใจว่าน่าจะยิง..ตื่นเต้น.กลัว..ระวังมาก..หาตั้งนานดีนะที่ไม่เจอมันหนีออกทางช่องระบายอากาศของห้องน้ำ..นึกว่าจะเจอซะแล้ว..
แต่โมโหมากนะพี่..เจอกับตัวนึกว่าเป็นน้าตัวเอง..(พึ่งตื่นขึ้นมาตอนตึ 1 จะไปเข้าห้องน้ำ ยังงัวเงียอยู๋เรยย..)
ตั้งแต่นั้นมาปืนทีบ้านพร้อมเสมอครับ..(ตอนนั้นเสียเวลาบรรจุกระสุนนะครับ )
ปล.หวังพึ่งพาตำรวจก็ยากครับ..บ้านผมโดนครั้งที่สองละ..ครังแรกโทร 191 ไม่มีคนรับเลยครับ..โทรไปสภ...ก็ไม่มี..กว่าจะติดยากมาก..(อันนี้เป็นเรื่องจริงนะครับเกิดกับตัวไม่ได้ใส่ร้ายใคร )
ครั้งที่สองนี่เร็วหน่อยครับสารวัตรมาเอง.เก็บลายนิ้วมือทีกระจกไปได้แต่ก็ยังจับคนร้ายไม่ได้นะครับ..เสียดายแหวนที่หายไปครับเป็นทับทิมเก่าอย่างอื่นไม่เสียดาย..