เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
เมษายน 23, 2025, 07:46:27 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.เป็นเพียงสื่อกลางช่วยให้ผู้ซื้อ และผู้ขาย ได้ติดต่อกันเท่านั้นและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับประโยชน์หรือความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น
ประกาศหรือแบนเนอร์ในเวบไม่ใช่ตัวบ่งชี้ว่าสินค้านั้นมีคุณภาพหรือไม่
โปรดใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจซื้อด้วยตัวเอง
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เข้า"ไทรน้อย"ได้ไหมครับ  (อ่าน 3702 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
naisomchai
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2011, 11:08:22 AM »

ผมเข้าไทรน้อยมาแล้วครับ วิ่งเส้น ศาลายา ไปบางเลน ตรงอย่างเดียว ถามทางคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ ครับ ระหว่างทางมีน้ำท่วมบ้าง และน้ำหลากไหลแรงครับ แล้วก็ขับไปเรื่อยๆ จนไปโผล่หลังวัดไทรใหญ่ครับ และก็ได้พบความจริงครับ เมื่อเข้าสู่ถนนไทรน้อย เป็นทะเลไปหมดแล้วครับ แต่รถยกสูงยังวิ่งได้(แต่ก็มีตัวเตี้ยวิ่งได้ด้วยเหมือนกัน) วิ่งตรงกลาง(เส้นเหลือง) น้ำประมาณหัวเหนือเข่าครับ ส่วนเลนซ้ายขวา ไม่แนะนำ เพราะไม่รู้ว่าจะลงคูเมื่อไหร่ครับ ผมใช้ความเร็วประมาณ 10กม/ชม ครับ ตลอดทางมีชาวบ้านที่ขนของหนีน้ำ อยู่ตามไหล่ถนน บางครอบครัวก็ออกไปซื้อหาข้าวปลาอาหาร ก็ต้องเดินลุยน้ำกันไปเรื่อยๆ ส่วนเรือก็มีครับ แต่ไม่มีใครพาย เนื่องจากน้ำค่อนข้างเชี่ยว จึงใช้จูงเรือเอาครับ ตอนขาเข้าก็มีคนโบกขออาศัยรถไปลงใกล้ที่สุด ใครโบกผมก็จอด เอ่อลืมบอกไปครับ ส่วนที่แห้งก็มีครับ คือตรงบริเวณสะพานข้ามคลองต่างๆ นอกนั้นเป็นน้ำทั้งหมดจริงๆ จะว่าไปก็เหมือนกับว่าไทรน้อยถูกตัดขาดจากภายนอกแล้วก็ว่า เพราะตลอดทางที่ขับเข้าไป เห็นมีรถทหาร อยู่สองคัน และก็รถกูภัย 1 คัน(ยกสูง) และก็มีรถหกล้อ วิ่งรับคน ส่วนของกินไม่ต้องพูดถึง แถวบ้านแม่แฟนผม เซเว่น โลตัส ปิดหมดครับ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าแจกอาหารเลยครับ พอถึงบ้านแม่แฟนก็ขนของลง แฟนผมก็กอดแม่ร้องไห้ บอกให้แกออกจากบ้าน เพราะน้ำมันสูงขึ้ยเรื่อย และน้ำมันก็กำลังมาสมทบอีก แต่แม่ก็ไม่ยอม บอกว่าอยู่ได้ ไปเถอะ (แกเป็นห่วงหมา และแมว รวมกว่าสิบตัว) ร้องไห้กันอยู่พักใหญ่ ก็ต้องรีบไปเพราะว่าน้ำมันก็เริ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ ส่วนเพื่อนบ้านละแวกนั้น ก็ยังมีคนอยู่ แต่ไม่มากแล้วครับ ส่วนใหญ่อพยพไปหมดแล้ว ผมก็อยากเอาแกออกมานะ แต่ยังไง แกก็ไม่ยอมออก แต่น้ำหน้าบ้านแม่ก็ยังไม่สูงมาก ประมาณหน้าแข้ง ยังไม่เข้าบ้าน เพราะ อบต. แถวนั้นเขาเก่ง กั้นน้ำดี แต่ยังไงก็ยังไม่น่าไว้วางใจครับ ขากลับผมก็รับคนอีก 3 ครอบครัว คนแก่ คนสาว และเด็กเล็ก นั่งตากแดดกันหัวแดง แล้วก็มีไอ้คันหลังมันต่อท้ายผม มันบอกว่ารถมันจะดับ (ตอนนั้นผมกำลังรับคนอยู่) มันชี้โบ๊ชี้เบ๊ให้่ผมจอดซ้าย มันบอกว่า "รถสูงจอดซ้ายเลย" ผมก็จอดซ้ายให้มัน ตอนมันผ่านผมก็ยกมือขอโทษขอพาย ยกใหญ่ แต่ผมก็ด่ามันในใจครับ "แม่งไม่มีน้ำใจเลยไอ้เชี้ย" พอมันผ่านผมไปมันก็เร่งเครื่องใหญ่เลย ฮ่าๆ ในใจขอให้แม่งดับ ชาวบ้านก็ตะโกนด่ามันกันใหญเลย เข้าเรื่องต่อ ผมรู้สึกว่าขากลับน้ำมันจะสูงกว่าเดิม เพราะน้ำมันเริ่มตีเข้ากระจังหน้ารถแล้วครับ แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนมาถึงไทรใหญ่ผู้ร่วมอาศัยก็ลงหมด ยกมือไหว้ผมกันยกใหญ่ ผมงี้รับไหว้แทบไม่ทัน วันนั้นกลับไปบ้านมีความสุขยกใหญ่

คนในพื้นที่เป็นที่รู้กันว่า อบต. ไทรน้อย, อบต.ไทรใหญ่ ผญบ. กำนัน แถวนั้น เก่งกั้นน้ำครับ... เพราะกั้นกันมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ 2538 รู้หมดว่าตรงไหนจุดอ่อนจุดแข็ง และเตรียมการลอกผักตบในคลอง+พร่องน้ำในคลองรอตั้งแต่ 1 เดือนก่อนน้ำหลากแล้วครับ(มีที่อื่นมาดูงานประจำ), แต่ครั้งนี้พลาดเพราะน้ำจากลาดหลุมแก้วเข้ามาผิดทิศที่ระวังไว้, แผล็บเดียวเข้ามาแบบหลากท่วมทุ่งในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงเลยครับ เลยทำคันกั้นน้ำไม่ทัน...

คนแถวนั้นยังบอกว่าถ้าเพียงแต่รู้ข้อมูลมาว่าครั้งนี้ให้ระวังตรงไหน รับรองว่าถนนทั้งสาย(และนาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว)จะยังไม่ท่วมได้ตลอดช่วงวิกฤติให้โลกระบือเชียวครับ... อันนี้ไม่ฮา...
บันทึกการเข้า
winthai ยาวแค่ไหน ก็ต้องมีปลายสุดเสมอ
ชาว อวป.
Sr. Member
****

คะแนน 214
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 739


ไม่มีความคิด ใดๆ ในโลกนี้ ที่สมบูรณ์แบบ


« ตอบ #16 เมื่อ: ตุลาคม 25, 2011, 11:29:45 AM »

ผมเข้าไทรน้อยมาแล้วครับ วิ่งเส้น ศาลายา ไปบางเลน ตรงอย่างเดียว ถามทางคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ ครับ ระหว่างทางมีน้ำท่วมบ้าง และน้ำหลากไหลแรงครับ แล้วก็ขับไปเรื่อยๆ จนไปโผล่หลังวัดไทรใหญ่ครับ และก็ได้พบความจริงครับ เมื่อเข้าสู่ถนนไทรน้อย เป็นทะเลไปหมดแล้วครับ แต่รถยกสูงยังวิ่งได้(แต่ก็มีตัวเตี้ยวิ่งได้ด้วยเหมือนกัน) วิ่งตรงกลาง(เส้นเหลือง) น้ำประมาณหัวเหนือเข่าครับ ส่วนเลนซ้ายขวา ไม่แนะนำ เพราะไม่รู้ว่าจะลงคูเมื่อไหร่ครับ ผมใช้ความเร็วประมาณ 10กม/ชม ครับ ตลอดทางมีชาวบ้านที่ขนของหนีน้ำ อยู่ตามไหล่ถนน บางครอบครัวก็ออกไปซื้อหาข้าวปลาอาหาร ก็ต้องเดินลุยน้ำกันไปเรื่อยๆ ส่วนเรือก็มีครับ แต่ไม่มีใครพาย เนื่องจากน้ำค่อนข้างเชี่ยว จึงใช้จูงเรือเอาครับ ตอนขาเข้าก็มีคนโบกขออาศัยรถไปลงใกล้ที่สุด ใครโบกผมก็จอด เอ่อลืมบอกไปครับ ส่วนที่แห้งก็มีครับ คือตรงบริเวณสะพานข้ามคลองต่างๆ นอกนั้นเป็นน้ำทั้งหมดจริงๆ จะว่าไปก็เหมือนกับว่าไทรน้อยถูกตัดขาดจากภายนอกแล้วก็ว่า เพราะตลอดทางที่ขับเข้าไป เห็นมีรถทหาร อยู่สองคัน และก็รถกูภัย 1 คัน(ยกสูง) และก็มีรถหกล้อ วิ่งรับคน ส่วนของกินไม่ต้องพูดถึง แถวบ้านแม่แฟนผม เซเว่น โลตัส ปิดหมดครับ ไม่มีหน่วยงานไหนเข้าแจกอาหารเลยครับ พอถึงบ้านแม่แฟนก็ขนของลง แฟนผมก็กอดแม่ร้องไห้ บอกให้แกออกจากบ้าน เพราะน้ำมันสูงขึ้ยเรื่อย และน้ำมันก็กำลังมาสมทบอีก แต่แม่ก็ไม่ยอม บอกว่าอยู่ได้ ไปเถอะ (แกเป็นห่วงหมา และแมว รวมกว่าสิบตัว) ร้องไห้กันอยู่พักใหญ่ ก็ต้องรีบไปเพราะว่าน้ำมันก็เริ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ ส่วนเพื่อนบ้านละแวกนั้น ก็ยังมีคนอยู่ แต่ไม่มากแล้วครับ ส่วนใหญ่อพยพไปหมดแล้ว ผมก็อยากเอาแกออกมานะ แต่ยังไง แกก็ไม่ยอมออก แต่น้ำหน้าบ้านแม่ก็ยังไม่สูงมาก ประมาณหน้าแข้ง ยังไม่เข้าบ้าน เพราะ อบต. แถวนั้นเขาเก่ง กั้นน้ำดี แต่ยังไงก็ยังไม่น่าไว้วางใจครับ ขากลับผมก็รับคนอีก 3 ครอบครัว คนแก่ คนสาว และเด็กเล็ก นั่งตากแดดกันหัวแดง แล้วก็มีไอ้คันหลังมันต่อท้ายผม มันบอกว่ารถมันจะดับ (ตอนนั้นผมกำลังรับคนอยู่) มันชี้โบ๊ชี้เบ๊ให้่ผมจอดซ้าย มันบอกว่า "รถสูงจอดซ้ายเลย" ผมก็จอดซ้ายให้มัน ตอนมันผ่านผมก็ยกมือขอโทษขอพาย ยกใหญ่ แต่ผมก็ด่ามันในใจครับ "แม่งไม่มีน้ำใจเลยไอ้เชี้ย" พอมันผ่านผมไปมันก็เร่งเครื่องใหญ่เลย ฮ่าๆ ในใจขอให้แม่งดับ ชาวบ้านก็ตะโกนด่ามันกันใหญเลย เข้าเรื่องต่อ ผมรู้สึกว่าขากลับน้ำมันจะสูงกว่าเดิม เพราะน้ำมันเริ่มตีเข้ากระจังหน้ารถแล้วครับ แต่ก็ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี จนมาถึงไทรใหญ่ผู้ร่วมอาศัยก็ลงหมด ยกมือไหว้ผมกันยกใหญ่ ผมงี้รับไหว้แทบไม่ทัน วันนั้นกลับไปบ้านมีความสุขยกใหญ่

คนในพื้นที่เป็นที่รู้กันว่า อบต. ไทรน้อย, อบต.ไทรใหญ่ ผญบ. กำนัน แถวนั้น เก่งกั้นน้ำครับ... เพราะกั้นกันมาหลายครั้งแล้วตั้งแต่น้ำท่วมใหญ่ 2538 รู้หมดว่าตรงไหนจุดอ่อนจุดแข็ง และเตรียมการลอกผักตบในคลอง+พร่องน้ำในคลองรอตั้งแต่ 1 เดือนก่อนน้ำหลากแล้วครับ(มีที่อื่นมาดูงานประจำ), แต่ครั้งนี้พลาดเพราะน้ำจากลาดหลุมแก้วเข้ามาผิดทิศที่ระวังไว้, แผล็บเดียวเข้ามาแบบหลากท่วมทุ่งในเวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงเลยครับ เลยทำคันกั้นน้ำไม่ทัน...

คนแถวนั้นยังบอกว่าถ้าเพียงแต่รู้ข้อมูลมาว่าครั้งนี้ให้ระวังตรงไหน รับรองว่าถนนทั้งสาย(และนาข้าวที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว)จะยังไม่ท่วมได้ตลอดช่วงวิกฤติให้โลกระบือเชียวครับ... อันนี้ไม่ฮา...

ตอนนี้ชาวไทรน้อยถูกตัดขาด หน่วยงานต่างๆ ที่คอยช่วยเหลือ ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ครับ ชาวบ้านต้องช่วยตนเอง
ถ้าอาทิตย์หน้า น้ำยังคงทรงตัวอยู่ และไม่สูงไปกว่านี้ จะเอาของเข้าไปบริจาคครับ เข้าไปเห็นแล้ว สงสารชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม จริงๆ
เขาเดือดร้อนกว่าเราไม่รู้กี่เท่าตัว คนในพื้นที่รู้ดีว่าไทรน้อยลึกแค่ไหน 
บันทึกการเข้า

ทุกสิ่งทุกอย่างปรับเปลี่ยนได้ด้วยความคิดของเราเอง

มองโลกให้เป็นอย่างที่เราเห็น อย่ามองโลกให้เป็นอย่างที่เราหวัง
หน้า: 1 [2]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.105 วินาที กับ 21 คำสั่ง