http://www.dailynews.co.th/politics/172067**ใครอยากสนับสนุนก็เชิญครับ**
จากการจับกุม ยึดสัตว์ป่าของกลางได้อื้อ โอดรับภาระค่าอาหารสัตว์ของกลางไม่พอ เผยค่าอาหารเสือ 95 ตัวเฉียดล้านต่อเดือน เตรียมปล่อยลิง-งูกลับป่า
วันที่ 12 ธ.ค. นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่กรมอุทยานแห่งชาติ เข้มงวดกับผู้ที่ทำผิดกฎหมายทั้งลักลอบล่า ค้าและขายสัตว์ป่าขึ้น ทำให้สามารถจับกุมผู้กระทำผิดได้มากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องเพิ่มภาระเรื่องการเลี้ยงดูสัตว์ป่าของกลางตามมาด้วย โดยในปี 2555 นั้น จับกุมผู้กระทำผิดคดีลักลอบค้าสัตว์ป่าได้ 702 คน มีสัตว์ของกลางทั้งสิ้น 14,690 ตัว รวมกับที่มีอยู่แล้วเดิมอีก นับหมื่นตัวเช่นกัน ทำให้เวลานี้ กรมอุทยานแห่งชาติ ต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูสัตว์ป่าของกลางอย่างมาก โดยสัตว์ของกลางทั้งหมดนั้นถูกเลี้ยงอยู่ตามสถานีเพาะพันธุ์สัตว์ป่า 24 แห่งทั่วประเทศ และศูนย์สุขภาพสัตว์ป่า ที่ จ.นครนายก
รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ กล่าวว่า สัตว์ที่มีมากที่สุดคือนก ประเภทต่างๆ โดยเฉพาะนกสวยงาม หายาก เช่น นกยูง ไก่ฟ้า นกปรอทชนิดต่างๆ รวมประมาณ 15,000 ตัว เต่า 659 ตัว ตัวลิ่น 478 ตัว งู คือ งูเห่าและงูจงอาง อีก 2,638 ตัว ตัวเหี้ย และตัวตะกวด 1,000ตัว ลิง ค่าง และชะนี 500 ตัว หมีหมา หมีควาย 100 ตัว และเสือโคร่งอีก 95 ตัว เดิมปี 2554 ได้รับงบประมาณสำหรับเลี้ยงดู คือ เป็นค่าอาหาร ค่ายารักษาโรค ยาบำรุง การดูแลสุขภาพ และค่าซ่อมกรง จำนวน 20 ล้านบาท ซึ่งไม่เพียงพอ ต้องเจียดงบประมาณจากส่วนอื่นๆมาช่วย รวมทั้งทำโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์ป่า ซึ่งได้เงินมาจำนวน 3 ล้านบาท และใช้ไปแล้ว จนเวลานี้เหลืออยู่ 1.5 ล้านบาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามในปี 2555 ได้รับงบประมาณเพิ่มขึ้นอีกราว 10 ล้านบาท แต่ยังไม่พอสำหรับการดูแลสัตว์ทั้งหมด
นายธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับเสือโคร่งนั้น กรมอุทยานฯมีเสือใหญ่อยู่ 80 ตัว ลูกเสือ 15 ตัว สำหรับเสือใหญ่นั้น ต้องให้เนื้อสัตว์ อาหารเสริม เฉลี่ย 1 ตัว มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 8,800 บาท รวมประมาณ 836,000 ต่อเดือน ส่วนลูกเสือให้กินนมแพะ ราคากล่องละ 1,000 บาท 1 กล่องกินได้ประมาณ 4 มื้อ หมี มีค่าอาหารตัวละ 1,200 บาท ต่อเดือน รวมค่าอาหารหมี เดือนละ 120,000 บาท ลิง มีค่าอาหารตัวละ 600 บาท ต่อเดือน รวมค่าอาหารลิงเดือนละ 300,000 บาท นกมีค่าอาหารตัวละ 90 บาท ต่อเดือน รวมค่าอาหารนกตกเดือนละประมาณ 450,000 บาท ส่วนตัวลิ่น หรือนิ่มนั้นไม่มีอาหารให้กินที่ชัดเจน จะบดเศษอาหาร หรือให้กินไข่มดแดง ซึ่งราคาแพงมาก เวลานี้ กรมอุทยานฯร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดลกำลังพัฒนาอาหารสำหรับตัวนิ่ม หรือลิ่นอยู่ ทั้งนี้ บางส่วนที่แข็งแรงก็ปล่อยคืนสู่ธรรมชาติไปบ้าง
ทั้งหมดนี้ยังไม่รวมค่าอาหารเสริมและการดูแลสุขภาพอย่างอื่น ทั้งนี้ เสือ หมี ลิง ชะนีและค่าง จะต้องขูดหินปูนและอุดฟัน ให้ปีละ 1 ครั้ง โดยสัตวแพทย์ของกรมอุทยานฯมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าเครื่องมือ ค่ายาสลบ เฉลี่ยตัวละ 1,000-2,000 บาท ส่วนสัตว์อื่นๆเช่น เหี้ย ตะกวด งู เจ้าหน้าที่เลี้ยงไว้ในบ่อเลี้ยง เวลานี้อยู่ระหว่างการซ่อมแซมบ่อให้เหมาะสม เพราะปีที่ผ่านมา งูกับเหี้ย ตายไปจำนวนมาก เพราะกัดกัดเอง เนื่องจากอยู่ในบ่อที่แคบ โดยสัตว์พวกนี้ เจ้าหน้าที่ให้ กินปลา กบ หนู ซึ่งซื้อมาจากตลาดสดบ้าง หรือมีคนเอามาขายให้บ้าง นอกจากนี้ก็ต้องซ่อมกรงลิง ค่างและชะนี ทุกปี เพราะสัตว์พวกนี้ค่อนข้างฉลาดและชอบแกะกรง ทำให้กรงเสียหาย ต้องซ่อมกันเป็นประจำ
นายธีรภัทร กล่าวอีกว่า ทั้งนี้กรมอุทยานฯ เตรียมดำเนินการเคลื่อนย้ายสัตว์บางชนิดที่คดีสิ้นสุดแล้ว กลับคืนสู่ธรรมชาติ เช่น สัตว์จำพวกลิงและงูที่มีอยู่จำนวนมาก โดยจะนำไปปล่อยในพื้นที่ที่มีความเหมาะสมต่อไป นอกจากสัตว์ของกลางที่จับกุมและยึดมาแล้ว ยังมีปัญหาการออกมารบกวนของลิงในชุมชนเมือง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.เพชรบุรี และลพบุรี ชาวบ้านต้องย้ายบ้านหนี ซึ่งกรมอุทยานฯ ได้จัดประชุมเพื่อแก้ไขปัญหาลิงในชุมชนเมือง ที่ประชุมรายงานว่าจากการส่งแบบสอบถามไปยังองค์การบริหารส่วนส่วนตำบล เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า และอุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศกว่า 6,000 ฉบับ พบว่ามีพื้นที่ 183 แห่ง ในเขต 90 อำเภอ 47 จังหวัด ที่ประสบปัญหาการรบกวนของลิงชนิดต่างๆ ที่กรมอุทยานฯ ต้องเข้าไปดูแล โดยมีแนวทางคือการทำหมันควบคุมประชากร และการเคลื่อนย้ายไปอยู่ที่อื่นๆ เพื่อไม่ให้คนและสัตว์ป่ารบกวนซึ่งกันและกัน
