การนำพาอาวุธปืน แล้วถูกตรวจค้นจับกุมน่า จะไม่มีความผิด ตาม พรบ.ความมั่นคงฯ นะครับ
แต่จะมี โทษที่หนักขึ้น
โทษที่หนักขึ้นหมายความว่า อัยการอาจขอให้ศาลลงโทษตามความผิดตามพรบ.มั่นคงฯซึ่งมีอัตราโทษสูงกว่า พรบ.อวป.ใช่ไหมครับ
ดังนั้นแล้วมันจะแตกต่างกับการถูกฟ้องตามความผิดฝ่าฝืน พรบ.มั่นคงอย่างไร เพราะเจออัตราโทษเดียวกัน ไม่ว่าจะพกไปสนามยิงปืน ศรภ. หรือโดนจับขณะพกพาอยู่ที่หลังเวทีราชดำเนิน
ผมกำลังพยายามหาความแตกต่าง เพราะในขณะนี้ประกาศ พรบ.มั่นคงฯทั่วกรุงเทพและปริณฑล หากเพื่อนสมาชิกไม่ทราบความรุนแรงของบทลงโทษ นำพาอาวุธปืนไว้ในรถยนต์ส่วนตัว แม้จะไม่บรรจุกระสุนและไม่พบกระสุนปืนในรถ แล้วถูกด่าน พรบ.ขอตรวจค้น พบ อวป.ในรถ คงจะคุยกับ จนท.ไม่รู้เรื่องแน่ อย่างดีก็ประกันตัวในชั้นสอบสวน อัยการคงต้องสั่งฟ้องโดยให้ศาลลงโทษสถานหนัก จำเลยต้องไปขอความเมตตาจากศาล และจากพฤติการณ์จำเลย หากศาลเชื่อตามฟ้องโจทก์ มีโอกาสสูงจะไปนอนเรือนจำ แม้ทนายจำเลยจะขอให้ศาลลงโทษสถานเบาและรอลงอาญา แต่เรื่องนี้คงไม่จบง่ายๆเหมือนภายใต้สถานการณ์ปรกติ
ผมคิดว่าสมาชิกควรตระหนักในข้อเท็จจริงนี้ และอย่าชะลาาใจว่าจะเคลียร์ได้เสมอไป
ขอบคณพี่โร๊ดอีกครั้ง
ต้องขอแก้ไขข้อความก่อนหน้า แล้วครับ เนื่องจาก เพิ่งจะได้เห็น พรบ.ความมั่นคงฯ เมื่อถูกจับกุม อาวุธปืน ในเขต พรบ.ความมั่นคง จะต้อง มีความผิด ตาม พรบ.มั่นคง มาตรา ๑๘ (๔) ด้วย
ความผิด ตาม พรบ.อาวุธปืนฯ มาตรา ๘ วรรคหนึ่ง ต้องระวางโทษ ตาม มาตรา ๗๒ ทวิวรรคสอง
จำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พรบ.ความมั่นคงฯ โทษตาม
มาตรา ๒๔ ผู้ใดฝ่าฝืนข้อกำหนดที่ออกตามมาตรา ๑๘ (๒) (๓) (๔) (๕) หรือ (๖)
ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พรบ.อาวุธปืนฯ โทษหนักกว่าครับ แต่ เมื่อกระทำความผิด จะกลายเป็น ๒ ฐานความผิด
ถ้าไม่มีพฤติการณ์อื่นที่ร้ายแรง มาประกอบด้วย อยู่ในเงื่อนไข รอการลงโทษได้ ครับ