เทรนเนอร์หนุ่มช็อกหัวใจวายดับ!! ขณะเตรียมแข่งเพาะกาย-พบถุงยาเกลื่อน
Font Size
วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17:33 น.
จำนวนคนอ่านล่าสุด 31474 คน
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ร.ต.ท.พงษ์ศาสตร์ นนท์ตา พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตในห้องพักอพาร์ตเม้นต์ ซอยตากสิน 21 แขวงสำเหร่ เขตธนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมแพทย์นิติเวช รพ.จุฬาฯ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุมีลักษณะเป็นอพาร์ตเม้นต์แบ่งให้เช่า สูง 10 ชั้น จากการตรวจสอบในห้องพักเลขที่ 3705 ชั้น 7 พบลูกบิดกุญแจถูกล็อกจากด้านใน เมื่อใช้กุญแจสำรองไขเข้าไป เจอศพเจ้าของห้อง ทราบชื่อคือ นายสุวิทย์ พิลาสันต์ อายุ 38 ปี ภูมิลำเนาเดิมอยู่หมู่ 12 ต.บัวงาม อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี สภาพศพนอนหงายเปลือยกายอยู่บนที่นอน โดยเครื่องปรับอากาศยังเปิดอยู่เย็นฉ่ำ
ตรวจดูตามร่างกายไม่มีบาดแผลและภายในห้องก็ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ แต่พบยาทั้งชนิดเม็ดแบบแผง ชนิดผงบรรจุซอง และยาชนิดน้ำบรรจุขวด พร้อมเข็มฉีดยาจำนวนมากวางอยู่ใกล้เตียงนอน โดยมีเข็มฉีดยาและซองยาใช้แล้วถูกทิ้งอยู่ในถังขยะจำนวนหนึ่ง จึงเก็บรวบรวมรายละเอียดที่พบไว้เป็นหลักฐาน ก่อนมอบศพให้นิติเวช รพ.จุฬาฯ ผ่าชันสูตรหาสาเหตุการตายให้แน่ชัดอีกครั้ง
จากการสอบสวน นายณธกร อาบสุวรรณ์ อายุ 38 ปี เพื่อนผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้พบศพคนแรก กล่าวว่า ปัจจุบันผู้ตายเป็นเทรนเนอร์สอนออกกำลังกายที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งย่านท่าพระ และยังเป็นนักกีฬาแข่งขันเพาะกายด้วย ซึ่งวันนี้ตามปกติจะต้องเดินทางไปแข่งขันที่ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ แต่ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา วันนี้ตนจึงเดินทางมาดูที่ห้อง เห็นห้องล็อกอยู่ จึงขอกุญแจสำรองจากผู้ดูแลมาเปิดเข้าไปตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นศพไปแล้ว
ส่วนสาเหตุการตายเชื่อว่าผู้ตายน่าจะช็อกหัวใจวาย เพราะกินยาขับปัสสาวะ ยาลดไขมัน และฉีดอินซูลีนลดน้ำตาลมากเกินไป ทำให้ร่างกายรับไม่ไหว เนื่องจากก่อนการแข่งขันนักกีฬาจะต้องเตรียมตัวอดอาหาร ทานได้แต่เฉพาะอกไก่ ประกอบกับกินยาและฉีดยาหลายประเภท เพื่อให้กล้ามเนื้อสวยงาม โชว์ได้เต็มที่ตอนขึ้นเวทีประกวด นายณธกรกล่าว
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่สามารถชี้ชัดสาเหตุการตายได้ ขณะนี้กำลังติดต่อญาติพี่น้องและบุคคลใกล้ชิดกับผู้ตายมาสอบปากคำ และต้องรอผลการผ่าชันสูตรจากแพทย์ นิติเวช รพ.จุฬาฯ กับผลการตรวจตัวอย่างยาทุกชนิดที่วางอยู่ในห้องผู้ตายส่งมาเสียก่อน เพื่อสรุปสำนวนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=1444559652