ตัวผมมีรอยสักเล็กๆไว้รอยหนึ่ง น่าเอ็นดูที่เดียว
สักไว้ร่วมสิบปีแล้วครับ มีคนเห็นไม่เกิน 10 คน เพราะอยู่ในตำแหน่งที่เร้นลับพอๆกับฐานยิง ICBM ของสหรัฐ (ถึงนาทีนี้แม่ผมยังไม่รู้เลยว่าผมสัก)
ตอนสักไม่เจ็บเท่าที่คิดไว้ก่อน อาจเพราะใช้เข็มสักความเร็วสูงสมัยใหม่ ไม่ใช่แบบ เพี้ยง ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก ฉึก แนวอาตี๋สักมังกรในเพลงของเพลิน พรหมแดน
โดยส่วนตัวไม่ต่อต้านการสักครับ
แต่การทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทฯ ที่ต้องติดต่อกับคนหลากหลาย บางทีก็รู้สึกแปลกๆเหมือนกันเวลาเจอกับผู้หญิงวัยสาวๆเพิ่งเรียนจบป.ตรี สักสองสามปี มานำเสนองานแบบเป็นทางเป็นการมากๆ แล้วน้องเขาสักที่มือทั้งสองข้างเป็นลวดลายญี่ปุ่นใหญ่เบ้อเริ่มขนาดเท่าองค์จตุคามรามเทพ
ต้องขอยอมรับว่าพอเห็นลวดลายแบบนี้ เราจะใส่ใจกับวิธีการคิด การพูดการจา และการนำเสนองานของน้องเขามากกว่าปกติ
ประมาณว่าถ้ากล้าขนาดนี้ น้องต้องมีดีในตัวพอควร ถ้าพูดจาไม่เป็นโล้เป็นพาย ดูเหยาะแหยะ มีหวังโดนไล่ต้อนในห้องประชุมแหลก
อันนี้เป็นอคติ ที่วัดจากความรู้สึกของตนเองนะครับ
ถ้าเป็นเด็กสาวหน้าใสไม่มีรอยสัก พูดจาอาโนเนะหน่อย ผมจะไม่คิดมากเพราะคิดว่ายังเด็กอยู่ ยังไม่มีประสบการณ์มาก