เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 18, 2024, 08:22:59 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เว็บบอร์ด อวป. สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือ www.gunsandgames.com และ www.gunsandgames.net ครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ออกกำลังกาย-บริหารสมอง วิถีสกัด “โรคสมองเสื่อม”  (อ่าน 999 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Narin CZ
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: สิงหาคม 23, 2007, 10:30:30 PM »

ออกกำลังกาย-บริหารสมอง วิถีสกัด “โรคสมองเสื่อม” หลงรัก
 



      สิ่งที่คนอาจไม่คาดคิดกำลังจะมาเยือน เพราะหลังจากอายุ 30 ปีไปแล้วนั้น ความเสื่อมก็จะเริ่มถามหา ไม่ว่าคุณจะมองมันหรือไม่ มันก็จะเดินเข้าหาคุณอยู่ทุกวินาที…

      “โรคสมองเสื่อม” อีกโรคหนึ่งที่มาจากภาวะความเสื่อม เป็นปัญหาที่ไม่เล็กอย่างที่หลายคนคาดคิด อาจทำให้คนรอบข้างไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือคนดูแลต้องเครียดไปกับพฤติกรรมที่ไม่แตกต่างไปจากเด็ก 3-4 ขวบ

      โรคสมองเสื่อม คือ การคลองประสิทธิภาพการทำงานของสมองอย่างต่อเนื่อง จากภาวะปกติที่กำลังเป็น กลับไปสู่ภาวะเด็กเล็ก 3-4 ขวบ ในระยะเริ่มต้น หรือทารกแรกเกิดในระยะสุดท้าย โรคสองเสื่อมเกิดจากความผิดปกติของสมองซึ่งมีผลต่อความจำ ความคิด เชาว์ปัญญา การใช้เหตุผลและการแก้ปัญหา หรือส่วนหนึ่งเกิดจากพันธุกรรม โรคนี้มักเกิดกับผู้ที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป ร้อยละ 70 ของโรคสมองเสื่อมเกิดจากโรคอัลไซเมอร์เป็นส่วนใหญ่

     ศ.นพ.ประเสริฐ บุญเกิด ประธานชมรมโรคสมองเสื่อมแห่งประเทศไทย อธิบายว่า อัลไซเมอร์เป็นโรคสมองเสื่อม แต่ผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมทุกคนไม่จำเป็นต้องเป็นโรคอัลไซเมอร์ นั่นหมายความว่า ภาวะสมองเสื่อมอาจเกิดจากโรคอื่นก็ได้ เช่น ภาวะซึมเศร้า น้ำในสมองไหลเวียนไม่สะดวก ภาวะเลือดคั่งในสมองแบบเรื้อรัง หลอดโลหิตสมองตีบตัน สูงอายุ อัลไซเมอร์ เป็นต้น

     ทั้งนี้ อาการแสดงของภาวะ หรือโรคสมองเสื่อมนั้นจะแตกต่างกัน รวมถึงความรุนแรง และความรวดเร็วของการกำเนิดโรคซึ่งจะแปรผันไปตามสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค

     “โรคสมองเสื่อมเป็นโรคที่น่ากลัว ส่วนใหญ่ที่เป็นแล้ว ผู้ชายจะอยู่ได้ประมาณ 5 ปี และผู้หญิงจะอยู่ได้ประมาณ 6 ปี และผู้หญิงจะมีโอกาสเป็นโรคนี้มากกว่าผู้ชาย ตามอายุ อาการของโรคจะรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ เร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรคสมองเสื่อม ซึ่งมีอยู่หลายอย่าง ถ้าเป็นโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์ผู้ป่วยจะเสียชีวิตภายใน 5-10 ปี ผู้ป่วยโรคนี้ความจำจะค่อย ๆ ลดลงไปเรื่อย ๆ จนจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตัวเองเป็นใคร อาการเหล่านี้ส่งผลต่อผู้ดูแล เพราะผู้ป่วยช่วยตัวเองไม่ได้”

      นอกจากนี้การรักษาด้วยยาถือเป็นการรักษาที่ปลายเหตุมากกว่า ยาที่กินไปนั้นไม่ได้ช่วยให้หายจากโรคนี้ได้ หากแต่ช่วยยืดคุณภาพชีวิตในระยะหนึ่งเท่านั้น แต่ที่สำคัญกว่านั้นจากการสำรวจพบว่า ญาติผู้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อมส่วนใหญ่มักจะมีประวัติโรคหัวใจ โรคเครียด มากกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าห่วงอย่างยิ่ง

      ศ.นพ.ประเสริฐให้ข้อมูลด้วยว่า ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมทางจิตกับภาพหลอนและเสียงหลอน เป็นความรู้สึกทางความนึกคิด โดยคิดว่ามีญาติหรือคนโปรดมารอพบอยู่ข้างนอกบ้านตอนดึก ตี 2-3 และบางคนมีความผิดปกติทางด้านอารมณ์ เอาอารมณ์เป็นใหญ่ เหมือนเด็กๆ ไม่มีเหตุผล ขาดการควบคุม ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เช่น กินข้าว อาบน้ำ แต่งตัว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้คนดูแลไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยเดินไปนั่นมานี่ หรือทำกิจกรรมอื่น เพราะกลัวว่าผู้ป่วยจะเกิดอันตราย

     “พฤติกรรม และอาการของผู้ป่วยที่แสดงนั้น เป็นผลให้เกิดอุบัติเหตุรอบ ๆ บ้าน ตกน้ำบ้าง แต่เราก็ต้องดูแล ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ให้เค้าทำอะไรเลย เป็นความคิดที่ผิด เพราะถ้าไม่ให้เคลื่อนไหวเลย หรือเคลื่อนไหวน้อย ก็จะยิ่งทำให้เสื่อมมากขึ้น อีกอย่างพฤติกรรมทางจิตของผู้ป่วยที่มักคิดว่าคนโปรด หรือคนที่รักมารอ ตอนดึก ๆ แล้วจะออกไปหา ผู้ดูแลจะต้องให้เหตุผลเค้า ไม่อย่างนั้นก็พาเดินออกไปดูก็ได้ ถ้าเราไม่พาไปหรือตามใจเค้าบ้าง เห็นใจเค้า ไม่อย่างนั้นผู้ป่วยจะคิดว่าเรามีความขัดแย้งกับเค้า ไม่เข้าใจเค้า อาจส่งผลต่อภาวะจิตใจได้”

     สำหรับการที่จะต่อสู้กับภาวะโรคสมองเสื่อมนั้น ศ.นพ. ประเสริฐแนะนำว่า ต้องอาศัยการออกกำลังกาย การบริหารสมอง เพราะการออกกำลังสมองและออกกำลังกายช่วยสร้างและหล่อเลี้ยงเซลล์ใหม่ ๆ ทำให้สมองทำงานดีขึ้น เช่น การเดิน การฝึกความคิดต่าง ๆ รับประทานอาหารให้ถูกสุขลักษณะและได้รับสารอาหารให้เพียงพอ ที่สำคัญกว่านั้นผู้ดูแลต้องให้ความรัก ความเข้าใจผู้ป่วยให้มาก ๆ อย่าหงุดหงิดหรือรำคาญใจที่จะดูแล สิ่งเหล่านี้อาจจะช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจและสุขภาพที่ดีขึ้น อาการต่างๆ ของโรคความจำเสื่อมก็จะลดลงได้ ที่สำคัญ คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

ที่มา : manager.co.th 
 
 =====================================================
 
 มาออกกำลังกายกันเถอะครับ เอ้า ! ฮึบ ฮึบ... Grin

 
 
 
บันทึกการเข้า
yod - รักในหลวง ครับ
ความรัก - เริ่ม - จากความรู้สึก หรือ ความคิด กันแน่นะ ..... ประวัติศาสตร์อาจจะย้อนรอยเดิม แต่คนไม่อาจย้อนอดีตได้
Hero Member
*****

คะแนน 1628
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 18173



« ตอบ #1 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2007, 10:48:39 PM »

ขอบคุณครับ...

ออกกำลังกาย ได้เหงื่อ ครับ...
บันทึกการเข้า

..สิ่งสำคัญจึงไม่ได้อยู่ที่ว่า...วันนี้เขาอยู่หรือจากไป
สำคัญที่ว่า...ช่วงที่เรามีเวลาอยู่ด้วยกัน
ขอให้มีความทรงจำที่ดี...ก็เพียงพอแล้ว
อย่างน้อย เราก็ยังมีอะไรดีดีให้นึกถึง
และยิ้มให้ความทรงจำนั้นได้ ...

..กรอบใดกักขังแค่กาย แต่ใจอย่าหมายกั้นได้
โซ่ตรวนรัดรึงตรึงไว้  แต่ใจนั้นใฝ่เสรี..
apc275
ชาว อวป.
Full Member
****

คะแนน 3
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 317


« ตอบ #2 เมื่อ: สิงหาคม 24, 2007, 12:20:19 AM »

ขอบคุณครับ
บันทึกการเข้า

อำนาจการกินรุนแรง  รัศมีการท่องเที่ยวไกล  การครองสติต่ำ
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.068 วินาที กับ 22 คำสั่ง