เฉลยรายชื่อเพื่อนสมาชิกที่ตอบถูก 3 ท่าน (กรุณา PM ที่อยู่ให้ผมด้วยครับ)
1. คุณ.wutthi
2. คุณ.yod
3. คุณ.ozero
มีเกร็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับเรื่องราวของเจ้าพระยารามราฆพ และ เจ้าพระยาอนิรุทธเทวา มาบอกเล่า
เจ้าพระยารามราฆพ
นามเดิม หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ ณ อยุธยา เป็นบุตรพระยาประสิทธิ์ศุภการ(ม.ร.ว.ละม้าย) เกิดปีขาลตรีศก จ.ศ. ๑๒๕๒ ถวายตัวทำราชการในรัชกาลที่ ๖ แต่ยังดำรงพระยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เมื่อบรมราชาภิเษกแล้ว ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรเป็นนายหุ้มแพร แล้วเป็นนายจ่ายง เป็นเจ้าหมื่นสรรเพธภักดี แล้วเลื่อนเป็นพระยาประสิทธิ์ศุภการ อธิบดีกรมมหาดเล็ก ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้เป็นเจ้าพระยา มีสมญาจารึกในสุพรรณบัฎว่า
"เจ้าพระยารามราฆพพัชรพัลลภมหาสวามิภักดิ์ สมัครพลวโรปนายก สุรเสวกวิศิษฏ์คุณ พึ่งบุญพงศ์บริพัตร นฤปรัตนราชสุปรีย์ ศรีรัตนไตรสรณธาดา เมตตาภิรัตมัทวสมาจาร สัตยวิธานอาชวาธยาศัย อภัยพิริยบรากรมพาหุ คชนาม"
เจ้าพระยารามราฆพ(ม.ล.เฟื้อ พึ่งบุญ) ถึงอสัญกรรมเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๑๐ เวลา ๒๒.๐๐ น.
เจ้าพระยารามราฆพ(ม.ล. เฟื้อ พึ่งบุญ) เป็นบุตรพระยาประสิทธิ์ศุภการ(ม.ร.ว.ละม้าย พึ่งบุญ) กับพระนมทัด สำเร็จการศึกษาชั้นต้น ที่ร.ร.บพิตรพิมุข และถวายตัวเป็นมหาดเล็กในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่ออายุ 13ปีเศษ สมเด็จพระบรมฯได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯส่งไปศึกษาที่ร.ร.มหาดเล็กหลวง จนกระทั่งพ.ศ.2451จึงได้เข้ารับราชการในพระองค์ ตำแหน่งสำรองข้าราชการนายเวรขวา ทำหน้าที่ดูแลเครื่องเสวยและปฏิบัติราชกิจทั่วไป ต่อมาได้เลื่อนตำแห่งเป็นสมุหราชองครักษ์ เจ้าหน้าที่ตามเสด็จทุกแห่ง เรียกได้ว่าปฏิบัติหน้าที่ใกล้เชิดพระองค์มากกว่าผู้อื่น ไม่ว่าพระเจ้าอยู่หัวจะทรงกีฬา ทรงละคร หรือกิจกรรม อื่นใด ท่านจะเข้าร่วมด้วยทุกคราวไป
ในชีวิตการรับราชการของเจ้าพระยารามราฆพดูจะรุ่งโรจน์เกินกว่าผู้อื่นใดในสมัยเดียวกัน ตำแหน่งที่ท่านผู้นี้ได้รับเมื่อรัชกาลที่หกขึ้นครองราชย์ คือ จางวางห้องที่พระบรรทม อธิบดีกรมมหาดเล็ก และผู้สำเร็จราชการมหาดเล็กในที่สุด งานในหน้าที่ท่านอาจสรุปได้ดังนี้
1 ปกครองข้าราชบริพารทั้งหมดที่ล้วนเป็นกรมขนาดใหญ่
2. อำนวยความสะดวกสบายทุกอย่างทำนองทนายหน้าหอ
3. ฝึกฝนเอาใจใส่วิชานาฏศิลป์ตามพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ร่วมแสดงโขน ละคร
4. ถวายอารักขาความปลอดภัยในฐานะสมุหราชองครักษ์
นอกจากราชการโดยตรงในกรมมหาดเล็กแล้ว เจ้าคุณรามฯยังได้รับตำแหน่งอื่นอีก ได้แก่ ผู้บัญชาการกรมทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ ผู้บัญชาการกรมมหรสพ ผู้บัญชาการโรงเรียนข้าราชการพลเรือน เป็นต้น นับว่าเป็นผู้ทีได้รับพระมหากรุณาธิคุณทั้งทางด้านการงานและเรื่องส่วนตัว ด้านการงาน นอกจากจะได้รับการเลื่อนยศ ตำแหน่ง ตลอดจนบรรดาศักดิ์เร็วกว่าคนหนุ่มที่รับราชการรุ่นเดียวกัน ยังเป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัยให้ดูแลราชการต่างๆที่เนื่องด้วยราชการในพระองค์ อิทธิพลของเจ้าคุณรามฯเป็นที่ทราบกันที่ของหมู่ข้าราชการทั่วไป โดยตำแหน่งหน้าที่และความใกล้ชิด ท่านผู้นี้มีสิทธิที่จะอนุญาตให้หรือไม่ให้ผู้ใดเข้าเฝ้าฯ ผู้ที่ต้องการเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด ถ้าไม้ได้รับความช่วยเหลือกจากเจ้าคุณทั้งสองแล้วก็ยากที่จะมีโอกาส ทั้งนี้เนื่องจากบุคคลทั้งสองจะทำหน้าที่กรองเรื่องราวต่างๆก่อนนำขึ้นกราบบังคมทูล เรื่องใดที่ผ่านบุคคลทั้งสองแล้วย่อมแน่ใจได้ว่าจะสำเร็จตามความประสงค์ ความเป็นคนโปรดของพระเจ้าแผ่นดิน มิได้ทำให้เจ้าคุณรามฯเป็นที่ยำเกรงเฉพาะข้าราชการภายนอกเท่านั้น แม้แต่ข้าราชการกระทรวงวังที่มีอาวุโสมากกว่าก็ยังต้องเกรงใจ ดังจะเห็นได้จากการใช้คำนำในการร่างหนังสือราชการ ซึ่งโดยปกติถ้ามียศสูงกว่าและตำแหน่งสูงกว่า ให้ใช้คำว่าเรียนท่าน แต่ถ้ามียศและตำแหน่งเท่ากันให้ใช้คำว่าเรียนเฉย ไม่ต้องมีคำว่าท่าน ระเบียบนี้ยกเว้นเฉพาะพระยาประสิทธิ์ศุภการ(ซึ่งต่อมาคือเจ้าพระยารามราฆพ)คนเดียวเป็นพิเศษ ให้ใช้คำว่า เรียนท่านพระยาประสิทธิ์ศุภการ(อันนี้ปรากฏในหนังสือคำสั่งกรมราชเลขาธิการไม่ปรากฏวันที่) ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าพระยามหิธร ราชเลขาธิการเอง ยังต้องขอคำปรึกษาเรื่อเกี่ยวกับหนังสือราชการต่างๆที่จะทูลเกล้าฯถวายเพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กล่าวได้ว่าอิทธิพลของเจ้าพระยารามฯนั้นครอบคลุมไปทั่วราชการแผ่นดิน
นอกจากจะได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยในด้านการงานแล้ว รัชกาลที่หกยังโปรดเจ้าคุณรามฯเป็นการส่วนพระองค์อีกด้วย ทรงถือว่าเป็นศุภมิตร และพระราชทานความเมตตาประดุจบิดาที่มีต่อบุตร ทรงเรียกว่าลูกและโปรดให้ร่วมโต๊ะเสวยทั้งมื้อกลางวันและกลางคืนตลอดรัชกาล พระมหากรุณาธิคุณต่อเจ้าคุณฯนั้น นอกจากจะพระราชทานยศศักดิ์ให้สูงเกินกว่ามหาดเล็กคนอื่นๆ ยังพระราชทานความสนิทสนมเป็นส่วนพระองค์ เช่น พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้เป็นที่ระลึกมากมาย แต่ละภาพจะมีลายพระราชหัตถ์แสดงพระมหากรุณาธิคุณเป็นที่ยิ่ง เช่น ให้ไว้แก่เฟื้อผู้รับใช้ใกล้ตัว เป็นอุปถากมาหลายปีและมิได้กระทำให้เป็นที่ขุ่นเคืองขัดใจเลยแม้แต่น้อย หรือในพระบรมฉายาลักษณ์ที่ทรงฉายคู่กับเจ้าพระยารามราฆพมีลายพระหัตถ์กำกับไว้ว่าให้พระยาประสิทธิ์ศุภการ เป็นพยานแห่งความเสน่หา นอกจากนี้ยังทรงมีพระราชหัตถเลขาพระราชทานพระบรมราโชวาทอยู่เนืองๆ พระราชหัตถเลขาฉบับที่เป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ คือ ฉบับที่ทรงอวยพรวันเกิดของเจ้าคุณรามฯเมื่ออายุครบ 21 ปี
พระราชหัตถเลขาฉบับนี้มีถึงเจ้าคุณรามฯ เมื่อก่อนเกิดกบฏร.ศ.130 ประมาณ4เดือนเศษ ทรงเขียนที่พิษณุโลกเมื่อวันที่ 16ตุลาคม ร.ศ.130 ใจความในพระราชหัตถเลขาเป็นการยกย่องชมเชยเจ้าพระยารามราฆพ ในฐานะที่เป็นผู้มีความซื่อสัตย์จงรักภักดี ประพฤติตนเหมาะสมแก่กาลเทศะ สมควรที่พระเจ้าแผ่นดินจะทรงชุบเลี้ยง ทรงถือว่าเจ้าพระยารามฯเป็นอุปถากอันถูกใจหาผู้ใดเสมอเหมือนได้ยาก...เป็นคนหนุ่มที่อัศจรรย์ไม่เหมือนคนหนุ่มทั้งหลาย เป็นผู้ที่ตั้งมั่นอยู่ในโอวาทของพระองค์เปรียบประดุจบุตรเชื่อฟังและรักใคร่บิดา ตอนท้ายเป็นการพระราชทานพรวันเกิด พร้อมทั้งเงินทำขวัญ 100ชั่ง พระราชหัตถเลขาฉบับนี้เป็นที่สนใจของบรรดาทหาร ถึงขนาดคัดลอกสำเนาแจกจ่ายกัน
เนื้อหาของพระราชหัตถเลขาฉบับนี้ทำให้กลุ่มนายทหารร.ศ.130ได้แสดงความกังขาในความเป็นคนดี คนโปรดของเจ้าคุณรามฯ ดังที่ร.ท.จรูญ ณ บางช้าง ได้เขียนข้อความในเชิงประชดประชันไว้ที่ส่วนบนของสำเนาพระราชหัตถเลขา ซึ่งเขาได้เก็บไว้ว่า อ่านแล้วคิดให้ตลอดแล้วประพฤติตามดีไหม? เรื่องของเจ้าคุณฯที่ได้รับพระราชทานเงิน100ชั่ง นับเป็นหัวข้อในการสนทนาระหว่างกลุ่มทหาร พระราชปฏิบัติของรัชกาลที่หก ในครั้งนี้ได้ก่อให้เกิดความรู้สึกสะเทือนใจแก่ทหารส่วนใหญ่ ต่างเห็นกันว่าพระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแต่กับมหาดเล็กซึ่งป็นเพียงคนรับใช้ใกล้ชิด ร่วมเล่นโขนละครเท่านี้ ในขณะที่ทหารซึ่งทำหน้าที่ เพื่อประเทศชาติกลับมิได้รับการเหลียวแลแต่ประการใด ดังที่ร.ต.เจือได้กล่าวกับเพื่อนสมาชิกคนหนึ่งว่า พวกเราทำการเหนื่อยแทบตายไม่เห็นได้อะไร อ้ายมันเต้นๆรำๆเท่านั้น ได้ตั้งร้อยชั่งพันชั่ง สำหรับร.ต.เจือ ดูจะเป็นผู้ที่แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อพระราชจริยาวัตรต่างๆมากเกินกว่าผู้ใด ในสมุดบันทึกส่วนตัวของนายทหารผู้นี้มีโน้ตคำถามที่เกี่ยวกับพระราชจริยาวัตรหลายเรื่อง
เช่น บทความที่ลงโจมตีเจ้าพระยารามราฆพอย่างรุนแรงที่สุด คือ บทความเรื่องผู้มีบุญและจดหมายจากเราโดยผู้ใช้นามปากกาว่าแว่นตาหินสิเมนต์ ได้กล่าวถึงความมั่งคั่งของเจ้าพระยารามราฆพว่าไม่มีผู้ใดเทียบ ทั้งยังมีอิทธิพลมาก แต่เมื่อกาลเวลาได้ล่วงเลยไป ความสามารถของเจ้าพระยารามราฆพดูจะไม่มีคุณค่า ยศและตำแหน่งต่างๆ จึงควรจะเรียกคืนได้ บทความเกี่ยวกับเจ้าพระยารามราฆพปรากฏมากในหนังสือพิมพ์บางกอกการเมือง(ธันวาคม2468)
ขอบคุณครับ