วันนี้ขออยู่ที่โอมานต่อนะครับ ประเทศโอมาน มีชื่อเป็น ทางการว่า รัฐสุลต่านโอมาน หรือ Sultanate of Oman เป็นประเทศที่ปกครอง ด้วย ระบบกษัตริย์ แต่มี รัฐสภา แบ่งเป็น 2 สภาคือ สภาบน แต่งตั้งโดยองค์สุลต่าน จำนวน 48 คน ส่วน สภาล่าง มาจากการเลือกตั้ง จำนวน 83 คน
ทั้งสองสภาไม่มีอำนาจอะไร เพียงทำหน้าที่ กลั่นกรอง กฎหมาย และ ให้ข้อเสนอแนะด้านเศรษฐกิจสังคมแก่รัฐบาล อำนาจทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินพระทัยของ องค์สุลต่านกะบุส บิน ซาอิด อัล บู ซาอิด ประมุของค์ปัจจุบัน
โอมานเป็นประเทศที่ค่อนข้างใหญ่ในตะวันออกกลาง มี พื้นที่กว่า 3 แสนตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งทะเลยาวเหยียดกว่า 1,700 กิโลเมตร แต่ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายถึงร้อยละ 82 เป็นเทือกเขาอีกร้อยละ 15 เหลือพื้นที่ที่ เป็นที่ราบแถวชายฝั่งทะเลเพียงร้อยละ 3 เท่านั้น
ว่ากันว่าประเทศโอมานเมื่อหลายสิบล้านปีก่อน เคยเป็นทะเลมาก่อน แต่เมื่อผิวโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ก็ถูกดันขึ้นมาเหนือน้ำ ทำให้โอมานมีแต่ทรายกับ ภูเขาหิน ไม่มีต้นไม้ขึ้นให้เห็นแม้แต่ต้นเดียว
แต่วันนี้ใน กรุงมัสกัต เมืองหลวงของโอมาน กลับเต็มไป ด้วยต้นไม้สีเขียว แม้แต่เกาะกลางถนน ริมฟุตปาท สองข้างทางหลวง เต็มไปด้วย สนามหญ้าสีเขียวที่ตัดแต่งเรียบร้อย มีไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสันตกแต่งอย่างสวย งามทุกเส้นทาง สวยและสีเขียวกว่าถนนในกรุงเทพฯเสียอีก
ทุกเมืองในทะเลทรายที่ผมไปสัมผัสมา ไม่ว่า กรุงมัส กัต หรือ เมืองอัลเอ็น ที่เป็นเมืองโอเอซีสกลาง ทะเลทราย ไปจนถึง ดูไบ ถนนทุกสาย ที่ว่างทุกแห่ง เขาปลูก ต้นไม้ ดอกไม้ และสนามหญ้าสีเขียวเต็มไปหมด เขาทำจริงโดยไม่ต้องหาเสียงให้ชาว บ้านฝันลมๆแล้งๆแบบนักการเมืองไทย
โอมานมีอะไรคล้ายไทยหลายอย่าง ทำให้ สองราชวงศ์ ไทย-โอมาน มีความสนิทสนมกันมากกว่าประเทศอื่นในตะวันออกกลาง คน โอมานเป็นคนสุภาพเรียบร้อย มีวัฒนธรรมที่เก่าแก่ยาวนานเหมือนคนไทย และเข้ากับ คนไทยได้เป็นอย่างดี
ในอดีต โอมาน เคยเป็น ประเทศมหาอำนาจ ใน คาบ สมุทรอาหรับ เหมือน ไทย ที่เคยเป็น มหาอำนาจในคาบสมุทรอินโดจีน โอมานแผ่ ขยายอำนาจไปจนถึงทวีปแอฟริกาจรดอ่าวเปอร์เซีย แต่ตอนหลังถูก อังกฤษ และ ฝรั่งเศส รุกรานเป็นเมืองขึ้น ได้รับเอกราชเมื่อปลายปี 2494 พื้นที่ประเทศถูกเฉือนออก เป็นประเทศเล็กประเทศน้อย เหมือนตอนที่อังกฤษฝรั่งเศสทำกับไทยในต้นสมัยรัตน โกสินทร์
แต่โอมานโชคร้ายกว่าไทยตรงที่ บ่อน้ำมัน ( ตอนนั้นยังไม่มีใครเจอบ่อน้ำมัน) ที่อุดมสมบูรณ์ ถูกเฉือนไปให้คนอื่น หมด เช่น กาตาร์ คูเวต ยูเออี วันนี้ โอมาน เลยกลายเป็น ประเทศนอกโอเปก เพราะ ผลิตน้ำมันได้ต่ำกว่าวันละ 1 ล้านบาร์เรล ทุกวันนี้โอมานส่งออกน้ำมันแค่วันละ 7 แสน บาร์เรลเท่านั้น
แม้โอมานจะมีแต่ทะเลทรายกับภูเขาหิน แต่ สุลต่านซาอิด องค์ปัจจุบันซึ่ง รัฐประหารเงียบพระบิดา ขึ้นครองราชย์เมื่อปี 1970 ก็ไม่ย่อท้อ ทรง พัฒนาบ้านเมืองเจริญในทุกด้าน โดยเฉพาะ ด้านการท่องเที่ยว ไม่ไปเห็นกับตาก็ไม่เชื่อ มีการตัดทางหลวงผ่านภูเขาหินลูกแล้วลูกเล่า กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวสวยงามทุกเส้น ทาง
บนภูเขาที่ติดทะเลสวยงามจะถูกปรับแต่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว และ 6 ดาว พร้อมวิลลาราคาแพงขายเศรษฐีทั่วโลก เช่น Barr Al Jissah Resort & Spa มีเครือ แชงกรีลา เป็นผู้บริหาร แค่ห้องอาหาร บุฟเฟ่ต์ ถ้าไม่จองล่วงหน้า ก็ไม่มีที่นั่ง โชคดีที่วันนั้นพวกเราจองไปล่วงหน้าหนึ่งวัน ที่ นั่งเต็มจริงๆ
สิ่งที่ผมได้เห็นจากโอมานในระยะเวลาสั้นๆสองสามวัน ก็ เพียงพอที่จะพิสูจน์ทฤษฎีของนักปราชญ์ในอดีตว่า การปกครองที่ดี ไม่ว่าจะโดย เผด็จ การคนคนเดียว หรือ ระบอบประชาธิปไตย ก็ตาม ถ้า ผู้ปกครอง เป็น คนดี มีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม ทำงานเพื่อประชาชน ก็ถือเป็น การ ปกครองที่ดี เหมือนกัน ประเทศเจริญและประชาชนมีความสุข. http://www.thairath.co.th/news.php?section=society03&content=115281