รูปที่หนึ่ง ...........
รูปที่สอง ............
รูปที่สาม ..............ตามนี้ครับ .............อย่าข้ามขั้นตอน และจำด้วยว่า ถอดส่วนไหนออกมาจากตำแหน่งอะไร? จัดวางอย่างไร?
ให้ดูรูปประกอบด้วย รูปแรกเป็นปืนที่ยังไม่ถอดประกอบ ส่วนรูปที่สอง เป็นภาพชิ้นส่วนพร้อมหมายเลขกำกับ.......
เริ่มครับ .............
1. ปลดซองกระสุนออก ดึงคันรั้ง(ข้อเหวี่ยง)หลายๆครั้ง ให้แน่ใจว่าปืนไม่มีกระสุนตกค้างอยู่ในรังเพลิง..........ไม่ต้องเข้าเซฟ และไม่ต้องเหนี่ยวไกแห้งทิ้ง............
2. มือจับด้ามปืนไว้ แล้วเอาปากลำกล้องกดไว้กับของแข็ง เช่นพื้นโต๊ะและควรมีสมุดรองไว้ ............กดตัวปืนลง ให้ลำกล้องถอยหลังมาตรงๆจนสุด ..............แล้วกดค้างไว้
3. โยกคันล็อคแผ่นสะพานไก(หมายเลข 33) ซึ่งอยู่บริเวณเหนือโกร่งไกด้านซ้าย ลง ............. ให้ตุ่มกลมๆ ทิ่มลงล่าง (โยกลงจากตำแหน่งเดิม 90 องศา)
4. ดึงแผ่นสะพานไก(หมายเลข 35) ออก ............สังเกตุว่าจะมีสันขอบสำหรับสอดขัดกับโครงปืน
5. หงายปืนขึ้น ............แล้วเลื่อนชุดโครงบนส่วนของลำกล้องออกไปทางข้างหน้า ชุดโครงบนจะเลื่อนออกไปทั้งชุด ก่อนเลื่อนออกไปจนหลุด ดูขอเกี่ยวสปริงรีคอย(หมายเลข 11) ที่เกี่ยวอยู่กับ แขนไกรอดสปริงรีคอย(หมายเลข29)ไว้
ว่าเกี่ยวกันอยู่ในตำแหน่งใด ............จำไว้และเมื่อประกอบกลับ ขอเกี่ยวสปริงรีคอย( หมายเลข 11) ต้องเกี่ยวกับแขนไกรอดสปริงรีคอย(หมายเลข29)อยู่ในตำแหน่งเดิม (ดูรูปเคลื่อนไหว รูปที่สามประกอบ).............
6. ดึงสลักล็อคข้อเหวี่ยง(หมายเลข 5) ออก ..................แล้วดึงข้อเหวี่ยงทั้งชุด ออกทางด้านท้ายโครงปืนส่วนบน .................ตอนนี้จะทำความสะอาดก็ทำได้แล้วนะครับ ...............แต่ถ้าจะถอดอีก ย่อมได้
7. ดึงสลัก(หมายเลข 18) ออก .............จะสามารถถอดตัวลูกเลื่อน(หมายเลข17) ออกจากข้อเหวี่ยงได้ โดยแขนข้อเหวี่ยง(หมายเลข 16)จะหลุดออกจากตัวลูกเลื่อน(หมายเลข 17)
8. ถอดตัวลูกเลื่อน(หมายเลข 17) เพื่อทำความสะอาดภายในตัวลูกเลื่อน............โดยการถอดเข็มแทงชนวน(หมายเลข 22) ออก ............ ให้ใช้ไขควงปากแบน ไขที่แป้นยึดท้ายสปริงเข็มฯ (หมายเลข 24) ออก ด้วยการบิดให้หลุดออกจากร่องขัด ............เมื่อแป้นยึดท้ายสปริงเข็มฯหลุดออกมาแล้ว ก็ดึง สปริงเข็ม(หมายเลข 23) และ เข็มฯ(หมายเลข 22)ออกมาได้
สำหรับโครงปืนส่วนล่าง แนะนำให้ถอดแค่น๊อตฝาประกับด้าม(หมายเลข 45)ออก แล้วเอาฝาประกับด้าม(หมายเลข 44)ออก ก้เพียงพอแก่การทำความสะอาดใหญ่แล้ว ...................
เมื่อถอดออกถึงขั้นที่ 6 ..................จะเป็นแบบนี้ (ในรูป แผ่นสะพานไก(หมายเลข35) วางกลับหน้า-หลังกัน)
การประกอบA.ประกอบย้อนหลังจากขั้นตอนที่ 8 กลับไปจนถึงขั้นตอนที่ 1
B. ข้อสังเกตุ เมื่อประกอบย้อนกลับไปจนถึงขั้นตอนที่ 5 คือการนำโครงปืนส่วนบนใส่กับโครงปืนส่วนล่างให้ทำตามนี้
B-1. หงายโครงปืนส่วนบนขึ้น ให้ขอเกี่ยวสปริงรีคอย(หมายเลข 11) หงายตัวขึ้น
B-2. สอดโครงปืนส่วนล่างสวมกับโครงปืนส่วนบน ในขณะที่โครงปืนส่วนบนหงายอยู่ .............ดดยสอดเข้าทางด้านท้ายโครงปืนส่วนบน
B-3. ในช่วงที่สวมโครงปืนจนเกือบสุด ให้ดันขอเกี่ยวสปริงรีคอย(หมายเลข11) ให้สอดเข้าไปเกี่ยวกับ แขนไกรอดสปริงรีคอย(หมายเลข29) ให้เรียบร้อย................ ก่อนที่จะดันโครงปืนทั้งสองส่วนเข้าด้วยกันจนสนิท
B-4. ถ้าขั้นตอนที่ โดยทั้งสองชิ้นส่วนไม่เกี่ยวกัน ปืนจะทำงานไม่ได้ โดยดึงข้อเหวี่ยงไม่ได้เลย
C. เมื่อสวมโครงปืนทั้งสองส่วนเข้าหากันจนสนิทแล้ว .................ให้จับปืนลักษณะปกติ แล้วเอา แผ่นสะพานไก(หมายเลข35) ใส่เข้าที่ โดยให้สันขอบ ขัดเข้าในร่องของโครงปืนให้เรียบร้อยและสนิท(ดูรูปที่หนึ่งประกอบ) ................
D. เอาปากลำกล้องกดกับของแข็ง ให้ลำกล้องถอยหลังมาระยะหนึ่ง ...............แล้วบิดคันล็อคแผ่นสะพานไก(หมายเลข 33) กลับเข้าตำแหน่งเดิมตามรูปที่หนึ่ง ..............
E. ข้อสังเกตุอีกอย่างหนึ่งในรายละเอียด คือเมื่อประกอบย้อนกลับไปในขั้นตอนที่ 6 คือการสอดลูกเลื่อนกับข้อเหวี่ยง ไปในโครงปืนให้ลูกเลื่อนไปขนกับขอบรังเพลิงท้ายลำกล้อง ................ จะสังเกตุว่ากดได้ด้วยแรงนิ้ว แต่เมื่อคลายนิ้ว ลูกเลื่อนจะเผยอออกจากขอบรังเพลิงนิดหนึ่ง แบบมีแรงสปริงดัน ...............นั่นคือแรงดันจากสปริงเข็มครับ ..............ห้ามเหนี่ยวไกโดยหรือไปยุ่งกับเซฟ............ให้สอดโครงปืนประกอบไปโดยใช้นิ้วกดหน้าลูกเลื่อนให้สนิทกับขอบรังเพลิงไว้ .............เมื่อสอดเข้าไปแล้ว ก็ปล่อยไว้อย่างนั้น ถ้ามันจะเผยอก็ช่างมัน............
จากนั้นก็ตรวจสอบการทำงานของปืน ด้วยการดึงข้อเหวี่ยงขึ้นแล้วปล่อย จากนั้นก็ลองลั่นไกแห้งดู ถ้าดึงข้อเหวี่ยงถอยหลังจนสุดได้ ลั่นไกได้ ................เป็นอันเสร็จ
ถ้าดึงข้อเหวี่ยงไม่ได้ หรือไม่สุด ย้อนกลับไปทำตามขั้นตอน B ครับ ...............
ขอให้มีความสุขกับการถอดประกอบปืนครับ
