ความช้ำใจของ "ไอ้แผน"....(ขอคำปรึกษาปัญหาการเสียภาษีประจำปีของรถยนต์ครับ)

[แปจีหล่อ]

อย่างงี้้ต้องส่งออกทางชายแดนครับ

[ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง]

ต้องขอโทษพี่ปูด้วยครับ....ที่ทำให้พี่เข้าใจว่าเป็นสมาชิกท่านอื่นครับ.......

ขอบคุณทุกความเห็นนะครับ......ไอ้แผน น่ะเป็นหลานผม.....

เจ้านางฟ้าสีสวย (ไอ้แผนมันตั้งชื่อของมัน ซ้า.....)  นั่นก็น่ารัก  แถมแสนรู้......

ดึกๆ มา โซดา  น้ำแข็งหมดนี่ไม่ต้องออกปากเลย......เสียงเจ้านางฟ้าฯ ออกไปแป๊บเดียว ก็มาเติมได้ทันใจ.....

หลังๆ มาเห็นจอดคลุมผ้าไว้เฉยๆ ...... ดึกๆ ผมต้องถ่อมอเตอร์ไซค์ ฮ่าง ฮ่าง ออกไปเอง......

เมื่อวานผมเลยถามมันดู.......ก็ได้ความตามข้างต้นที่เล่ามานั่นแหละครับ.......

              

[~ Sitthipong - รักในหลวง ~]

บอกให้หลานตัดใจเถอะครับ  อย่าไปคิดถึงอดีต  เริ่มต้นชงเหล้าชีวิตใหม่   

[samcolt- รักในหลวง]

ยังดีกว่าของผมครับผมโดน jazz 1 คัน colorado 4ประตู1คัน พร้อมหนี้อีก 7แสน ไว้ดูต่างหน้า

[๐๐๓]

เรื่องนี้แม้จะไม่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่จะเลวร้ายถึงขนาดแก้ไขไม่ได้หรอกครับ

"เจตนา" เป็นเรื่องสำคัญ

ตามรูปการณ์ จขกท. ยังเป็นเจ้าของผู้ครอบครองและเจ้าของ(กรรมสิทธิ์) ตัวจริงอยู่ครับ

อย่างน้อยที่สุด ก็ในฐานะ "เจ้าของร่วม" หรือหากมีข้อมูลหลักฐานพร้อมๆ ก็อาจจะเป็นเจ้าของคนเดียวเสียด้วยซ้ำครับ

ผู้มีชื่อในทะเบียน ไม่ได้หมายความว่าเป็นผู้มีกรรมสิทธิ์เด็กขาดเสมอไป

กรณีจะถูกแจ้งความว่ารถหาย หรือขโมยมา หรือ อื่นๆ ที่มีคนพูดกัน ตามข้อเท็จจริงแล้วมันก็ไม่ง่ายอย่างนั้น คนแจ้งเองจะโดนแจ้งความเท็จก่อนเลยน่ะสิครับ

ส่วนทางออก การแก้ไข ที่นอกเหนือไปจากเอาไปจอดทิ้งที่บ้านเขา

หากต้องการทำให้ถูกต้อง เพื่อรักษารถไว้กับเรา รอคำแนะนำจากพี่ๆ นักกฎหมายอีกทีครับ

หรือปรึกษาทนายใกล้บ้านก็ได้

รับรองมีทางออกที่ชอบด้วยกฎหมายครับ

[ชอลิ่วเฮียง - รักในหลวง]

ขอบคุณท่าน ๐๐๓ ครับ.......

เจตนาที่ปรึกษาพี่ๆ มานั้น  ต้องการแค่ไปเสียภาษีประจำปีอย่างเดียวครับ.......

เผื่อว่าไปซื้อโซดา น้ำแข็ง แล้วเจอผู้หมวด  นายดาบ  คุณจ่า  ฯลฯ  จะได้สบายใจน่ะครับ.......

เรื่องเจตนาจะไปยื้อแย่งกรรมสิทธิ์มาครอบครอง......ไม่อยู่ในความคิดครับ........

"ไอ้แผน" บอกว่า  ถ้าน้องพิมจะมาขอรับรถไปก็จะส่งกุญแจรถให้ไปโดยไม่ลังเลครับ.......

ผมเข้าใจความรู้สึกของเจ้าของรถดีครับ........อยู่บ้านนอกเมืองเล็กๆ  รู้จักกันหมด.....เห็นหน้าก็รู้จักไปถึงปู่ย่าตายาย.......

เราขับรถทะเบียนขาด......เมื่อผ่านจุดตรวจ  ถึงจ่าจะโบกมือให้ผ่าน  ผู้หมวดร้องทักทาย......แต่ในใจเรารู้อยู่นี่ครับ........

ขับรถคันละ 6-7 แสนไม่มีปัญญาต่อทะเบียนแค่ปีละพัน สองพันบาท........ผมว่าหลานผมมันอายแก่ใจน่ะครับ  ถึงจอดคลุมผ้าไว้เฉยๆ  ไม่ใช้อีกเลย......

[๐๐๓]

ถ้าอย่างนั้ันก็น่าจะง่ายเข้าไปอีกครับ
ให้ผู้ครอบครอง เตรียมเอกสารหลักฐานไปพบนายทะเบียนขนส่งใกล้บ้าน เล่ารายละเอียดและความประสงค์ให้นายทะเบียนทราบ

ท่านจะให้คำแนะนำต่อได้ดีที่สุดครับ

[ค..ควาย...ใส่ชฎา]

Ha Ha  ฮา  “น้องพิม”  ไม่กอด “พี่แผน”  แล้ว   “กอดเล่มทะเบียน”  แทน  ฮา

“เล่มทะเบียน”  มีประโยชน์ น๊ะคร๊า  “เอาไปตึ้ง”  ได้คร๊า  ฮา   อิอิ
น้องพิม ได้ “สตางค์ใช้” คร๊า   ส่วนพี่แผน  ได้   “ขี่”  ฮา

เรื่องย้ายรถ “ข้ามเขต”  ปลายทางต้อง  ตรวจสภาพ  รวมถึง เลข “ชัชซี และเครื่อง”  คร๊า
ส่วนเรื่องการต่อ “ภาษี”  ประจำปี  ยายคิดว่า  “ขนส่ง”  เขายินยอมให้ต่อคร๊า  ถึงแม้ว่าไม่มีเล่ม  ฮา

เพราะว่า  “ภาษี”  เป็นรายได้ของ “รัฐ”  ที่ต้องนำส่งเข้าหลวง  ฮา
ยังจำได้มั้ยคร๊า   รถที่ “ติดหรือหนี ไฟแนนซ์”  ก็ยังต่อ  ทะเบียนได้เลยคร๊า

เคยมีการ “ตีความ”  ว่า  “ภาษี”  เป็นของ “รัฐ” ที่ต้องจัดเก็บ   ยกเว้น ไม่ได้  ฮา
ส่วน  ไฟแนนซ์  ไม่ได้เงิน  ก็เป็นเรื่องที่ต้องไปตาม “ทวง”เอง     “หลวง” ไม่เกี่ยว  ฮา

ยายชื่นชม  พี่ “นิกร จำนง”   คร๊า  ตอนนั้นแกอยู่ “คมนาคม”  ฮา
ออกนโยบาย  ให้รถทุกประเภท  ที่ค้างภาษีนานๆ  หลายๆปี   ฮา
มาต่อ  เสียภาษี   แกคิดแค่  สามปี  คร๊า  ฮา

ฮ่า ฮ่า ฮา   “เงินตกน้ำ”  ไปแล้ว   แกยัง  “ดำ”  ลงไปเอา มา  อีกคร๊า  ฮา  คิคิ