เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 12, 2024, 02:20:49 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: อวป. มีจำหน่ายที่ สนามยิงปืนราชนาวี/สนามยิงปืนบางบัวทอง/สนามยิงปืนศรภ./
/สนามยิงปืนทอ./
สิงห์ทองไฟร์อาร์ม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: [1]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (1)  (อ่าน 2529 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:40:00 PM »

อ้างถึง
โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (1)


http://www.manager.co.th/
โดย ยอดธง ทับทิวไม้

เมื่อมีโอกาสใช้ปืนเข้าไปยึดครองดินแดนที่ล้าหลังในอเมริกา ปัญหาที่สำคัญของอเมริกันในยุคนั้น ปัญหาหนึ่งก็คือ การมีคนเผ่าต่างๆ ที่กระจัดกระจายกันอยู่ในที่ต่างๆ ที่ขัดขวางการสร้างประเทศของอเมริกา หรือคนเผ่าป่าดงเหล่านั้นก็ต้องการมีชีวิตอยู่เหมือนคนอเมริกันหลังจากที่อยู่กันมาแล้วตั้งแต่หลายชั่วบรรพบุรุษ ในบรรดาคนอินเดียนแดงที่น่าสนใจที่สุดก็คือ อินเดียนแดงเผ่าอาปาเช่ ซึ่งมีจำนวนมหาศาลที่อเมริกาต้องใช้กองทัพที่มีทหารหาญถึง 5,000 คน ล้อมโจมตีครั้งแล้วครั้งเล่าและหลอกลวงให้ยอมแพ้ครั้งแล้วครั้งเล่าหลายต่อหลายหน โดยการนำของกองทัพที่ทันสมัยและเต็มไปด้วยศักดิ์ศรี (ระหว่างปี 1884-1886) ผู้บัญชาการเป็นนายพลขนาดใหญ่หลายนายพล แต่ก็ใช้เวลานานนับเป็นสิบๆ ปี ก็ไม่เคยสามารถจะเอาชนะได้ นอกจากการโกหกหลอกลวงและให้คำมั่นสัญญานานาชนิดไปเรื่อยๆ แล้วก็ตามล้างตามเช็ดตามเวรตามกรรมต่อไป

อินเดียนแดงกลุ่มนี้เป็นพวกคนป่าในสมัยนั้น ไม่มีอาวุธทันสมัยใดๆ นอกจากธนูและหน้าไม้ เยโรนิโม หัวหน้าเผ่าซึ่งเป็นแม่ทัพก็เหมือนไพร่พลอื่นๆ ที่ไม่มีเสื้อใส่ ไม่มีเครื่องหมายยศ ไม่มีเครื่องแบบ ไม่มีอะไรประดับประดาแม้แต่เครื่องแต่งตัวก็เป็นเพียงผ้าเตี่ยวหุ้มท่อนล่าง กองทัพของเขาประกอบด้วยนักรบป่าจำนวนมหาศาลที่ว่านั้นทั้งหมดมีจำนวน 36 คน ที่จะต้องต่อสู้กับกองทัพอเมริกัน 5,000 คน และสู้กันอย่างยืดเยื้อยาวนานเป็นปีๆ

ครั้งสุดท้ายอินเดียนแดงเผ่านี้เฉพาะเยโรนิโม เห็นว่าการรบมันนานและยืดเยื้อจนเกินไป เหนื่อยมาพอแล้วก็ได้รับการติดต่อจากท่านแม่ทัพอเมริกันให้ยอมแพ้ โดยนายทหารที่เห็นแก่ความเป็นธรรมผู้หนึ่งเข้าไปเจรจา มีสัญญาข้อหนึ่ง เยโรนิโมได้รับจากแม่ทัพอเมริกันคราวนั้นว่า ถ้ายอมแพ้เสียดีๆ แล้วก็จะให้กลับที่ถิ่นฐานเดิมเลิกรบราฆ่าฟันกันเสียที

เมื่อเยโรนิโมยอมแพ้และรับว่าจะทำตามข้อตกลงและมอบตัว กองทัพอเมริกันก็ลงโทษนายทหารที่เข้าไปติดต่อ ซึ่งจะด้วยข้อหาอะไรก็ไม่ชัด นอกจากรู้แต่เพียงว่ามีความเห็นอกเห็นใจและมีความสัมพันธ์กับอินเดียนแดง จนพูดให้เชื่อได้ สำหรับเยโรนิโมกับลูกเมียและพรรคพวกขุนศึก 36 คน ที่เป็นคู่ต่อสู้กับกองทัพ 5,000 คนของอเมริกัน ทั้งหมดก็ติดคุกไปนานถึง 20 ปี และดูเหมือนจะพากันตายในคุกที่ทหารจัดการให้ โดยไม่ยอมให้กลับบ้านเก่าตามคำมั่นสัญญา

นั่นคือการเมืองการทหารและนักการเมือง นักการทหารอเมริกันในประวัติศาสตร์ ที่จะไม่มีสัจจะ ไม่มีความเป็นลูกผู้ชาย แม้แต่กับคนป่าที่ไม่เคยมีแม้แต่กางเกงในจะนุ่งออกไปสู้รบ

แม้กระทั่งวันนี้ นักการเมืองที่นักการทหารของอเมริกันที่โลกต้องยอมก้มหัวให้ ก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในชีวิตและวิญญาณเด็กอมมือของตนเองตามปกติ!

ขณะนี้อเมริกากำลังทำสงครามครั้งใหม่ขึ้นอีกครั้งหนึ่งคือ สงครามกับอิรักที่อิรักไม่สู้และไม่เคยคิดจะสู้หรือโฆษณาว่า อเมริกาเป็นศัตรู และอิรักไม่มีอาวุธยุทโธปกรณ์อะไรที่พอจะทำสงครามได้ แต่วิธีการในการทำสงครามที่อเมริกันทำมาตั้งแต่ต้นจนกระทั่งถึงวันนี้ ถ้าหากอินเดียนแดงเผ่าอาปาเช่ทั้ง 36 คน และนายเยโรนิโมคนนั้น กลับชาติมาเกิดและรู้ว่าถ้าอเมริกาทำสงครามกับอิรักด้วยความกล้าหาญและยุทธวิธีที่นักรบเขาทำกันนั้น อินเดียนแดงเหล่านี้จะหัวเราะตายเสียก่อน เพราะพวกเขาได้เรียนรู้จากอเมริกันมาหมดทุกอย่างทุกรูปแบบมาแล้วในยุคของเขา นั่นคือความสับปรับและลวงโลกของมนุษย์พวกนี้!

สงครามอเมริกันหรือการต่อสู้ของอเมริกันไม่มีอะไรมากนัก นอกจากใช้ความสกปรกทุกอย่างที่จะนำมาใช้ได้ ฆ่าคนทุกคน ไม่ว่าเด็กหรือผู้หญิงขอให้ได้มีโอกาสได้ฆ่า ในสมัยรบกับคนป่าอินเดียนแดงก่อนหน้านั้น อเมริกาทำขนาดจับผู้หญิงอินเดียนแดงที่มีแต่มือเปล่ามาทำหมันเสีย 70,000 คน เพื่อให้คนพวกนี้ทำหมันเสีย เพื่อไม่ให้มีการแพร่พันธุ์และมีลูกหลานมาเกิดต่อไปอีกเท่านั้นก็ทำ

อเมริกาทำสงครามจะใช้กลวิธีที่สกปรกทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการหลอกลวง การกล่าวหาถ่อยๆ และการโยนความผิดให้คู่ต่อสู้ สับปรับและสามหาวและการโกหกลวงโลกทุกอย่างทุกประการ อย่างที่เคยทำมาแล้วในกรณีปล้นคิวบาจากสเปนในสงครามที่เรียกว่า (SPANISH WAR) ด้วยการสร้างเรื่องและสร้างข่าวให้ร้ายคู่ต่อสู้ในสงครามเวียดนามที่ปั้นเรื่องขึ้นมากล่าวหาเวียดนาม จนกระทั่งถึงสงครามอิรักที่อเมริกาพยายามป้ายสีและหาเหตุทุกอย่างและความชั่วร้ายทุกอย่างที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้

จาก http://www.thaimuslimshop.com/news/index.p...tegory=1&id=351

ปล.อ่านให้จบนะ
บันทึกการเข้า

PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:42:31 PM »

อ้างถึง
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?

คนที่ไม่รู้จักอเมริกาดีพอ อาจจะสงสัย!

หรือแม้แต่กระทรวงการต่างประเทศของไทยและรัฐบาลไทยชุดต่างๆ

ซึ่งคนพวกนี้ นอกจากไม่ค่อยรู้จักอเมริกาอย่างถึงสันดานแล้ว ยังเทิดทูนบูชาอเมริกากันอย่างอิ่มหนำสำราญอีกด้วย!

แต่ไม่ว่าจะเชื่อถือหรือเทิดทูนบูชาประการใดก็ตาม การรู้จักอเมริกาให้ถึงแก่นถึงกระดูกหรือถึงสันดานทุกแขนงทางการเมือง และนักการเมืองของอเมริกาแล้วจะเป็นประโยชน์อย่างมาก และจำเป็นจะต้องรู้ต้องเข้าใจอีกด้วย เพราะพฤติกรรมทางการเมืองของอเมริกาในการหาเหตุทำสงครามกับอิรักครั้งนี้ เป็นการกระทำที่ไม่ใช่การกระทำที่มนุษย์หรือพฤติกรรมที่ผิดมนุษย์มนา มันได้เปิดเผยให้คนทั้งโลกเห็นอย่างล่อนจ้อนทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ของชาติใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นชาติมหาอำนาจและเป็นผู้นำของโลกทั้งโลก และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่อเมริกาไม่มีอะไรเหลืออยู่เลยนอกจากความเป็นซ่องโจรทางการเมืองของพวกอ้ายกากประเภทหนึ่งที่เลวที่สุดที่โลกเคยได้พบเห็น!

ทั้งหมดหมายถึงว่า การเมืองระหว่างประเทศจะเปลี่ยนรูปแบบและธรรมเนียมประเพณีไปอย่างสิ้นเชิง

ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของประเทศต่างๆ จะเปลี่ยนไปจากการมีอเมริกาและองค์การสหประชาชาติเป็นแกนกลาง

สงครามของอเมริกาที่กระทำต่ออิรักครั้งนี้ ความจริงมีอยู่ว่า (1) อิรักไม่ได้ทำอะไรผิดและไม่ได้เป็นภัยอะไรสำหรับโลกและอเมริกา เช่นเดียวกันกับชาติอื่นๆ ในโลกที่เป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ (2) อิรักเป็นประเทศเล็กและยากจน ประชาชนของอิรักถูกฆ่าถูกทำลายมาแล้ว เพราะมาตรการขององค์การสหประชาชาติและอเมริกามาตลอดเวลา 12 ปี อย่างอยุติธรรมที่อิรักไม่ได้ทำอะไรผิดทางการเมืองหรือการดำเนินนโยบายต่างประเทศที่เป็นอันตรายต่อประเทศใดอื่น ซึ่งถ้าผิด อเมริกาเองก็เป็นประเทศเดียวที่ทำผิดมาตลอดตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง เป็นต้นมา และถ้าอิรักทำผิดไม่ใช่หน้าที่ของอเมริกาที่จะตัดสินอิรักว่ามีความผิด แต่เป็นหน้าที่และเป็นความรับผิดชอบขององค์การสหประชาชาติ ถ้าหากองค์การสหประชาชาติเป็นองค์การที่มีศักดิ์ศรีและมีอิสระที่จะทำกิจกรรมในฐานะเป็นตัวแทนของประเทศต่างๆ อย่างถูกต้อง ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงขี้ข้าหรือสุนัขรับใช้ของอเมริกาอย่างที่เป็นอยู่ (3) การทำสงครามกับอิรักเป็นการเหยียบย่ำและทำลายความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายและศีลธรรมระหว่างประเทศที่นานาประเทศยอมรับกันอยู่ (4) การทำสงครามกับอิรัก เป็นการกระทำที่วางแผนไว้ล่วงหน้า เพื่อยึดขุมน้ำมันและบรรดาประเทศในตะวันออกกลางเป็นเมืองขึ้นที่ไม่มีปากมีเสียงของสหรัฐอเมริกา หรือเป็นการแสดงการปล้นสะดมทางการเมืองที่โลกจะยอมไม่ได้ (5) สงครามอิรักเป็นการประกาศบอกกล่าวแก่โลกว่า อเมริกาจะใช้ตะวันออกกลางและอิรักเป็นตัวอย่างสำหรับการขยายอำนาจปล้นสะดมและล่าเมืองขึ้น เพื่อควบคุมโลกทั้งโลกไว้ในกำมือของอเมริกา ซึ่งเป็นเรื่องของนโยบายวิกลจริต (6) เป็นการทำลายคุณธรรมและศีลธรรมที่สังคมมนุษย์ให้ความเคารพยึดถืออย่างไม่ละอายใจ ฯลฯ

สงครามอิรักครั้งนี้ สำหรับคนที่อยู่ภายนอกที่ดูแต่จากภาพทางโทรทัศน์หรือข่าวจากโทรทัศน์และสื่อสารที่มาจากตะวันตกนั้น เป็นเรื่องยากที่จะบอกตัวเองได้ว่าอะไรจริงอะไรเท็จ โอกาสที่จะสับสนงุนงงนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย ซึ่งมันก็จะทำให้ทุกคนเสียความเป็นผู้เป็นคนไปได้ง่ายๆ เพราะการยอมถูกให้หลอกลวงตามวิธีการเมืองสกปรกในแต่ละยุค

ผมเองนั้น มีความเชื่อถืออยู่แห่งเดียวคือ พรรคพวกหรือกลุ่มสังคมนิยมของโลก ที่ยังไม่ล้มหายตายจากไปที่ไหน การพัฒนาทางการเมืองของโลกที่ผ่านไปแต่ละวันแต่ละชั่วโมงนั้น ขบวนการสังคมนิยมทุกสีตั้งแต่สีชมพูเรื่อยไปจนถึงสีแดง ยังเชื่อมั่นในหลักการของมาร์กซ์-เลนินทุกแห่งก็จะพูดคุยศึกษากันตามปกติเพื่อเป็นความรู้
บันทึกการเข้า

PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« ตอบ #2 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:45:31 PM »

อ้างถึง
สงครามอเมริกา-อิรักก็เป็นเรื่องหนึ่งที่มีการติดตามศึกษากัน ซึ่งผมเห็นว่าคนไทยก็น่าจะรู้ว่าเขาพูดศึกษาติดตามกันอย่างไรบ้าง ก็น่าจะดี

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2545 ได้มีการประชุมพบปะกันที่มหาวิทยาลัยมิชิแกน สหรัฐอเมริกา วันนั้นชาวสังคมนิยมชั้นครูผู้หนึ่งคือ นายเดวิด นอร์ท (DAVID NORTH) ซึ่งเป็นชาวสังคมนิยมที่ถึงขนาดคนหนึ่งในขบวนการสังคมนิยมของสากลที่ 4 (ICFI) และเป็นประธานเว็บไซต์ของขบวนการสังคมนิยมโลก ได้เสนอรายงานสำคัญชิ้นหนึ่งที่นำหลักฐานและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศและการเมืองของอเมริกาย้อนหลังไปถึงความปรารถนาที่จะเข้าครองโลกทั้งโลกไว้ในกำมือของอเมริกา นายเดวิด นอร์ท ได้นำเรื่องราวหลักฐานมากล่าวไว้ทั้งหมด ในรายงานที่เสนอต่อที่ประชุมวันนั้น ที่เขาให้ชื่อว่า สงครามอิรักและวิญญาณร้ายของอเมริกาที่จะครองโลก (THE WAR AGAINST IRAQ AND AMERICAS DRIVE FOR WORLD DOMINATION) ซึ่งเป็นรายงานที่น่าสนใจอย่างมาก ซึ่งรายละเอียดทำนองนี้มักจะไม่ปรากฏออกมาเปิดเผยให้เป็นที่รู้กันแก่ชาวบ้านชาวช่องง่ายๆ นัก

นายเดวิด นอร์ท เริ่มต้นรายงานว่า เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2545 คณะบริหารและสมุนบริวารของท่านประธานาธิบดีบุช ได้พิมพ์เอกสารชิ้นหนึ่งออกมาชื่อว่า ยุทธศาสตร์ว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ ของสหรัฐอเมริกา (NATIONAL SECURITY STRATEGY OF UNITED STATES OF AMERICA) ซึ่งในความคิดและหลักการที่นำมาเขียนออกมานี้ ไม่ได้มีการศึกษาวิจัยหรือมีหลักฐานที่มาอย่างใดก็หาไม่ ถือว่าถ้าเป็นอเมริกาเสียอย่างเดียวจะพูดยังไง จะคิดยังไงก็เป็นเรื่องสวยสดงดงามไปหมด นั่นดูเหมือนว่าจะเป็นความคิด ความรู้สึกหรืออาจจะเป็นความโง่เขลาของชนชั้นปกครองและนักการเมืองระดับสูงของอเมริกันมาตลอด ซึ่งไม่ว่าคนไหน การพูดถึงปัญหาบ้านเมืองและปัญหาที่เกี่ยวกับโลกแล้ว อเมริกาคือพระผู้เป็นเจ้าเสมอไป เช่นเดียวกับเอกสารชิ้นนี้อาจจะถือว่าเป็นโชคร้ายสำหรับประเทศธรรมดาสามัญทั่วทั้งโลก เพราะมันเป็นนโยบายและเป็นทฤษฎีเพื่อการขยายกำลังทางทหารขนาดฉิบหายวายวอดของอเมริกาเป็นนโยบายและเป็นโครงการที่จะทำให้อเมริกามีสิทธิตามใจตัวเองทุกประการ ในการที่จะใช้กำลังทหารหรือประกอบอาชญากรรมทางการเมืองได้อย่างสนุกสนานทั่วทุกแห่งในโลกตามที่อเมริกาต้องการจะใช้ ไม่ว่าเป็นเวลาหนึ่งเวลาใดที่มีความรู้สึกว่าอยากจะทำ และไม่ว่าประเทศหนึ่งประเทศใดที่ไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจบังคับบัญชาของอเมริกา ผู้เขียนได้เขียนไว้ในต้นฉบับเดิมว่า THE DOCUMENT ASSERTS AS GUIDING POLICY OF THE UNITED STATES THE RIGHT TO USE MILITARY FORCE ANYWHERE IN THE WORLD AT ANY TIME IT CHOOSES AGAINST ANY COUNTRY IT BELIEVES TO BE OR IT BELIEVES MAY AT SOME POINT BECOME A TREAT TO AMERICAN INTERESTS

ข้อความที่ผู้เขียนได้นำมาเสนอต่อที่ประชุมวันนั้น เป็นการยืนยันถึงนโยบายเป้าหมาย และวัตถุประสงค์ที่ชัดเจนของอเมริกามีอยู่ประการเดียว ซึ่งไม่มีทางเป็นอย่างอื่นคือ อเมริกาเท่านั้นที่จะต้องเป็นผู้ครองโลก (WORLD DOMINATION) โดยที่จะไม่มีใครขัดขวางได้และอย่าขัดขวางเป็นอันขาด

วิธีการของอเมริกันตามเป้าหมายนี้ก็คือ มีสิทธิที่จะเข้าไปทิ้งระเบิด มีสิทธิที่จะบุกประเทศหนึ่งประเทศใดหรือทำลายประเทศหนึ่งประเทศใดให้เป็นผุยผงลงไปตามความพอใจตนได้

โดยโครงการและนโยบายนี้ อเมริกาจะปฏิเสธที่จะยอมรับกฎหมายระหว่างชาติเกี่ยวกับเอกราชและอธิปไตยของประเทศหนึ่งประเทศใด และมีสิทธิอย่างสมบูรณ์ที่จะไปทำลายหรือสังหารผู้นำของประเทศหรือรัฐบาลใดที่เคยทำได้อย่างสำเร็จงดงามในชิลี ที่สามารถฆ่าประธานาธิบดีอาเยนเด้ได้แล้ว ก็ลากเผด็จการคนหนึ่งขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีแทน เพื่อให้ทำหน้าที่รับใช้ผลประโยชน์ของอเมริกา หรือหลายครั้งหลายหนที่พยายามใช้ทหารและซีไอเอเป็นพันๆ คน ตามฆ่าประธานาธิบดีฟิเดล คาสโตร แห่งคิวบา แต่ทำไม่สำเร็จ แต่ก็ยังไม่ยอมเข็ดหลาบ พยายามหาทางทดลองทฤษฎีการเป็นเจ้าโลกของตนต่อไป จนกระทั่งประสบความสำเร็จในการเข้าครอบครองดินแดนอันกว้างใหญ่ของเอเชียกลาง โดยส่งคนของตนเข้าครองอัฟกานิสถานในฐานะเมืองขึ้นได้สำเร็จ ทำให้อเมริกาเริ่มเหิมเกริมและมีความเชื่อมั่นในความสำเร็จในการที่จะเข้าครองโลกของตนเอง หลังจากการทำลายยูโกสลาเวียเพื่อเข้าครองแหลมบอลข่านได้สำเร็จ โดยการแย่งแผ่นดินของจอมพลตีโต้ ออกแบ่งกันแล้วก็หันมาวางแผนจะเข้าขยี้เอเชีย โดยการคำรามใส่เกาหลีเหนือเป็นอิรักที่สองของเอเชีย เพราะนึกว่า หมู แต่เพราะคอมมิวนิสต์ทั้งจีนและเกาหลีเหนือรู้เท่าทันเสียก่อน ไอ้ตี๋แห่งเกาหลีเหนือกลับไม่แคร์เอาดื้อๆ ไม่ว่า อเมริกาจะขู่คำรามอะไรก็ตาม พ่อยังทดลองระเบิดปรมาณูให้ดูเล่นเป็นการเย้ยทั้งอเมริกาและสมุนขนาดใหญ่คือ ญี่ปุ่นเข้าอีก อเมริกาก็ต้องรอจังหวะที่จะบุกเอเชียตามที่ตั้งความปรารถนาไว้ ต้องหันไปอิรักอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปชิมรสอากาศร้อน 38 องศาของทะเลทรายแบกแดด และการยอมตายเพื่อพระผู้เป็นเจ้าของผู้หญิงและเด็กที่ต้องการตาย เพื่อรักษาแผ่นดินของตัวเองที่นั่น

ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ไม่แน่ว่า โครงการอุบาทว์ของตนจะสำเร็จหรือไม่ หรืออาจจะพินาศไปพร้อมกับความเป็นอเมริกาให้เห็นดำเห็นแดงกันในไม่นานนักก็ได้

ผู้เขียนให้ความเห็นในที่ประชุมวันนั้นต่อไปว่า ในประวัติศาสตร์สมัยปัจจุบันไม่เคยมีประเทศใดได้ถือสิทธิที่จะตั้งตัวเป็นผู้ควบคุมปกครองโลกอย่างอาจหาญเก่งกล้าอย่างนั้นแม้แต่จอมเผด็จการฮิตเลอร์ของเยอรมนี ซึ่งถือว่าเป็นมนุษย์ที่มีความบ้าคลั่งถึงขนาดที่สุดคนหนึ่งของโลก ก็ยังไม่บังอาจเหิมเกริมอย่างที่นักการเมืองอเมริกันไม่กี่คนพวกนี้ได้คิดอ่านทำกันที่จะปกครองโลกหรือเป็นใหญ่ในโลก

แต่อย่างไรก็ตาม โครงการและเป้าหมายมหัศจรรย์นี้ยังเป็นการประกาศให้ทราบโดยไม่ต้องใช้ความคิดและสติปัญญาอะไรมากกว่าในการขึ้นมาเป็นผู้ปกครองโลกโดยกระดาษไม่กี่แผ่นนี้ก็คือ การบอกกล่าวประเทศเล็กประเทศน้อยทั้งหมดในโลกที่ไม่ยอม ไม่เห็นด้วยหรือขัดขวางประโยชน์ของอเมริกันและนักธุรกิจการเมืองของอเมริกา และยิวผู้เป็นโยมอุปัฏฐากของนักการเมืองในวอชิงตันแล้ว ประเทศเหล่านี้ในรายงานฉบับนั้น อเมริกันผู้มีมากไปด้วยความคิดชั่วในเรื่องนี้เสียอย่างดูถูกดูแคลนว่า ประเทศขยะ (FAILED STATES) หรือประเทศที่ไม่มีอะไรเหลืออยู่เลย ซึ่งหมายถึงประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมมาก่อนและประเทศที่ยากจนในโลกที่สามที่ถูกปล้นถูกทำลายสูบเลือดมาโดยประเทศจักรวรรดินิยมตะวันตก และประเทศจักรวรรดินิยมที่ร้ายกาจที่สุดก็คือ สหรัฐอเมริกาซึ่งเอกสารนี้ได้เรียกว่า ประเทศมหาอำนาจ (GREAT POWER) โดยถือว่ามหาอำนาจที่มาจากปากกระบอกปืนในสายตาของคณะบริหารและผู้กำหนดนโยบายของรัฐบาลประธานาธิบดีบุชต้องเป็นเจ้าของอำนาจ

และในขณะนี้ ประเทศมหาอำนาจที่ดูเหมือนจะมีเหลืออเมริกาอยู่ประเทศเดียวในโลกปัจจุบันนี้ก็กำลังเตรียมเนื้อเตรียมตัวทุกประการ ที่จะเข้าไปบดขยี้ประเทศอดีตอาณานิคมหรือประเทศขี้ข้าเหล่านี้ ในฐานะที่เป็นประเทศเล็กและป้องกันตัวเองไม่ได้ ประเทศแรกที่อเมริกาได้ทดลองทำตามนโยบายครองโลกก็คือ อิรักที่จะพิสูจน์ให้เห็นดำเห็นแดงกันไปว่า การใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยและมีอิทธิพลร้ายแรงทุกอย่าง เพื่อการสังหารและทำลายกระทั่งเด็กยังกินนมจำนวนหนึ่งย่อยยับไปนั้น อิรักซึ่งเป็นประเทศที่เหมาะที่สุดประเทศหนึ่ง และเป็นประเทศแรกที่จะต้องใช้ทดลอง!

ไม่เพียงแต่การบุกขยี้เพื่อฆ่าคนตามความพอใจเท่านั้น แต่เป็นการวาดภาพฝันของขบวนการล่าเมืองขึ้นยุคใหม่ของจักรวรรดินิยมอเมริกันที่คาดว่า การยึดอิรักได้เพียงประเทศเดียวในเวลาลัดนิ้วมือเดียวเท่านั้น ก็จะสามารถเข้าไปครอบครองประเทศในตะวันออกกลางเป็นอาณานิคมที่จะจิกหัวใช้ได้อย่างไม่มีเงื่อนไขทุกประเทศ โดยไม่ต้องออกแรงอะไรอีก เพราะประเทศในตะวันออกกลางทั้งหมดนั้น ประเทศที่ดื้อด้านที่สุดและต่อต้านอเมริกาและระบอบจักรวรรดินิยมรุนแรงที่สุดคือ อิรักและประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน

การขนทหารจำนวนใกล้จะครึ่งล้านคน เพื่อเข้าไปทำสงครามอิรักนั้น ความจริงเป็นเจตนาที่จะยกกำลังทหารและอาวุธเข้าไปครอบครองตะวันออกกลางทั้งหมด ไม่ว่าการรบอิรักสำเร็จหรือไม่สำเร็จ อเมริกาก็จะไม่เดือดร้อนอะไรในการจะคงกำลังทหารไว้ในตะวันออกกลางต่อไป โดยอ้างว่าปราบปรามซัดดัม อเมริกาจึงแสดงให้เห็นว่าอิรักจะเป็นยังไงหรือประธานาธิบดีซัดดัม จะอยู่หรือจะไปไม่สำคัญ อเมริกาถือว่าตนพร้อมที่จะตั้งรัฐบาลอิรักขึ้นมาใหม่ โดยจะเอารัฐบาลนี้ไปฝากไว้ที่วอชิงตัน หรือส่วนไหนของทะเลทรายในตะวันออกกลาง ซึ่งการกระทำทั้งหมดของอเมริกาในตอนนี้ กลับตาลปัตรไปจากเมื่อตอนเริ่มสงครามใหม่ๆ ไปหมดทุกประการแล้ว!

และเป็นเรื่องที่ควรจะต้องเชื่อว่า บรรดาประเทศมุสลิมในตะวันออกกลางหลายประเทศรู้ทันความคิดอ่านและแผนการสกปรกของอเมริกานี้เรียบร้อยแล้ว เพราะฉะนั้นจึงมีหลายประเทศที่ประกาศช่วยเหลืออิรักอย่างซีเรียหรืออียิปต์ และก็คงจะมีประเทศอื่นๆ เข้ามาร่วมกันตามลำดับเมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม

แต่อย่างไรก็ตาม บรรดานักการเมืองและนักการทหารที่ไม่มีเงาหัวของอเมริกาชุดนี้ จะไม่เข้าใจความเป็นจริงดังกล่าวนี้แน่ แต่เพราะมีความเชื่อมั่นในความเป็นมหาอำนาจและเชื่อความสำเร็จในการมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตนมี ในรายนี้ก็เขียนยืนยันถึงความยิ่งใหญ่นี้ต่อไปว่า สหรัฐอเมริกามีความเข้มแข็งและมีบุญบารมีครอบคลุมไปทั้งโลกอย่างที่จะหาประเทศหนึ่งประเทศใดมาเทียบได้ และไม่สามารถตีเสมอขึ้นมาเท่าเทียมได้ และด้วยความอหังการอย่างที่ไม่มีใครเปรียบเทียบได้ ในเอกสารนี้ยืนยันต่อไปว่า ยุทธศาสตร์ทางด้านความปลอดภัยของสหรัฐอเมริกา จะอยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างชาติที่อเมริกาวางไว้ว่า จะต้องขึ้นอยู่กับอเมริกาค่านิยมของอเมริกันและผลประโยชน์แห่งชาติของอเมริกัน หรือหลักการที่เรียกว่า A DISTINCTLY AMERICA INTERNATIONALISM = AMERICAN VALUES = AMERICAN INTERESTS ซึ่งในแผนการครองโลกฉบับนี้ อเมริกันถือว่าลัทธิระหว่างชาติของอเมริกันที่ประกาศออกมานี้ ทุกคนทุกชาติจะต้องถือว่าอะไรที่ดีสำหรับอเมริกันหรือที่ว่าอเมริกันคิดว่าดีนั้น มันจะดีสำหรับโลกและคนทั้งโลก ซึ่งท่านประธานาธิบดีบุช ได้กล่าวในเอกสารว่าค่านิยมของอเมริกันที่ว่านั้น เป็นเรื่องที่ถูกต้องและเป็นความจริงสำหรับคนทุกคนในทุกๆ สังคม ท่านบอกเอาดื้อๆ ว่า AMERICANS VALUES ARE RIGHT AND TRUE FOR EVERY PERSON, INEVERY SOCIETY

โอ้.....อเมริกา ไอ้พวกเศษมนุษย์!

ปล.ฝากรูปด้วย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 06, 2004, 01:07:53 PM โดย The Evolution » บันทึกการเข้า

PinMEMO
Growww
ชาว อวป.
Jr. Member
****

คะแนน 1
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 82

http://pinmemo.blogspot.com


เว็บไซต์
« ตอบ #3 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:47:47 PM »

ภาค2 คลิกที่นี่ โครงการ กูจะอยู่ค้ำฟ้า ของอเมริกัน (2)
บันทึกการเข้า

oil
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 187
ออฟไลน์

กระทู้: 4146


ใครหนอ โกงข้าว ล้มเจ้า เผาเมือง


« ตอบ #4 เมื่อ: ตุลาคม 06, 2004, 12:52:28 PM »

non of my business, do you?
บันทึกการเข้า

Thailand must not welcome f..cking bag packer, get lost
หน้า: [1]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.165 วินาที กับ 22 คำสั่ง