เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน
พฤศจิกายน 27, 2024, 05:43:54 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: เวบบอร์ดอวป.ยินดีต้อนรับสุภาพชนทุกท่าน กรุณาใช้คำสุภาพด้วยครับ
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7]
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใดจีน อินเดีย จึงมีประชากรเยอะครับ..  (อ่าน 11280 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
SAATHU
Jr. Member
**

คะแนน 6
ออฟไลน์

กระทู้: 23


« ตอบ #90 เมื่อ: สิงหาคม 19, 2012, 09:26:56 AM »

จีน อินเดีย เป็นคนขยัน ขัน แข็ง  Grin




จริงครับพี่ .............. ผมเห็นด้วย ..........  ยิ้มีเลศนัย
บันทึกการเข้า

เกิด...เป็นคนอย่าเห็นแก่ตนแหละดี  ถึงจะมีร่ำรวยสุขสันต์ .....
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #91 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 02:13:06 PM »

ดูระบบวัฒนธรรมการเมืองยุโรปที่มีผลต่อ ความเป็นเมือง (และประชากรต่ามที่กล้าวไปแล้ว)

ในโลกยุคโบราณจะเห็นว่าเมืองส่วนใหญ่จะอยู่รอบชายฝั่งเมดิเตอเรเนียน เริ่มจากฝั่งตะวันออกแพร่ไปเรื่อยๆ จากสถานีการค้า ฯลฯ พัฒนาเป็นเมืองท่าชายฝั่ง พวกแรกๆ ที่ไปสร้างเมืองท่าเหล่านี้คือฟินิเซียน ตัวเอย่างที่ดีคือเมืองคาดิซ ชายฝั่งใต้ของสเปน เลยยิบรอลต้าออกไปทางตะวันตกอีก อายุประมาณ ๓ พัน ๑ ร้อยปี เรียกได้ว่าเป็นเมืองเก่าที่สุดเมืองหนึ่งในยุโรปตะวันตกที่เป็นชุมชนต่อเนื่องมาตลอด

อย่างไรก็ตามเมืองต่างๆ ของชนชาติต่างๆ ในยุโรปยุคนี้ไม่ได้มีระบบกระปกครองรวมศูนย์เป็นระบบ อยู่ในลักษณะการสร้างถิ่นฐานใหม่โดยกลุ่มอิสระมากกว่า

ต่อมาในยุคกรีก ซึ่งมีบทบาทเด่นชัดตั้งแต่เกือบ ๑ พันปีก่อน ค.ศ. มาจนถึงประมาณ ๒๐๐ ปีก่อน ๕.ศ. เมื่อรบแพ้โรมัน ชุมชนและเมืองของคนวัฒนธรรมและพูดภาษากรีกโบราณ (ต่างกับภาษากรีกปัจจุบันขนาดคนปัจจุบันไม่รู้เรื่อง ต้องเรียนเป็นเรื่องเป็นราว) มีกระจายตามชายฝั่งเมดิเตอรฯ ตั้งแต่ตุรกี กรีซ อิตาลี ถึงสเปนปัจจุบัน แต่อย่างไรก็ตามความเป็นนครรัฐของกรีกนั้นเป็นอิสระแยกจากกัน เมืองใหญ่ที่สุดก็มีประชากรแค่หลักหมื่น และในระยะเวลายบาวนานของอารยธรรมกรีกโบราณ ไม่มีการรวมศูนย์การปกครองแข้มแข็ง อย่างต่อเนื่อง เป็นแค่พันธมิตรในความขัดแย้งระหว่างกันเองและระหว่างคนนอกเท่านั้น (ที่สำคัญคือเปอร์เซีย)

ระบบการปกครองรวมศูนย์ขนาดใหญ่ มีระบบระเบียบ และยาวนานมากระบบแรกของยุโรปก็คือโรมันเจ้าเก่านี่เอง...
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #92 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 02:22:41 PM »

...ก่อนเข้าเรื่องโรมัน ขอคุยว่าที่จริงในยุโรปก็มีอารยธรรมยุคบรอนซ์ในภาคพื้นทวีปอยู่มากแล้ว (กรีกเริ่มเปลี่ยนจากยุคบรอนซ์มาใช้เหล็กเมื่อประมาณ ๘๐๐-๑,๐๐๐ ปีก่อน ค.ศ.) ตั้งแต่เหนือถึงใต้ เกาะอังกฤษ (และไอร์แลนด์) ถึงสเปนมีแหล่งโบราณคดีที่มีหลักฐานการก่อสร้างของชุมชนยุคบรอนซ์ เช่น สโตนเฮนจ์ และสุสานหินในภาคใต้ของสเปน ชี้ให้เห็นว่าชุมชนต้องมีขนาดใหญ่พอควร แต่ไม่มีหลักฐานสำคัญคือภาษาที่อ่านออกเขียนได้ (อย่างน้อยก็ตามที่นักโบราณรู้ในปัจจุบัน) หลายแหล่งจึงจัดว่าอยู่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จึงน่าจะพอสรุปคร่าวๆ ตามข้อมูลปัจจุบันได้ว่าไม่ได้เป็นชุมชนที่มีชนาดใหญ่เท่ากับเมืองชายฝั่งเมดิฯ ข้างต้น และไม่ได้มีระบบการปกครองรวมศูนย์ที่มีนัยยะสำคัญในการขยายตัวของเมืองอย่างชัดเจน
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #93 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 03:15:18 PM »

+๑  ให้คุณ Don Quixote  ครับ   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #94 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 05:14:44 PM »

ขอบคุณครับ

ในยุคกรีก ซึ่งสถานกาณ์เอื้อต่อการค้าขาย เพราะมักอยู่ริม หรือใก้ทะเลแล้ว ยังประมาณว่ามีประชากรแค่ 10% อาศัยอยู่ในเมือง ที่เหลือทำมาหากินสในพื้้นที่ชนบท

แต่ในยุคโรมัน โรมันมีระบบการปกครองรวมศูนย์ที่เป็นระบบระเบียบมาก แบ่งเขตการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบเดียวกัน ส่งผู้ว่าซึ่งเป็นผู้นำทางทหารด้วยจากส่วนกลางไปปกครอง และโรมันใช้ระบบมาตรฐานประชาชน คือทีระบบสัญชาติโรมัน สถานภาพของคนในสังคมคือสถานภาพทางกฎหมาย คนที่ได้สัญชาติโรมันถึงจะเป็นคนพื้นเมืองที่ไหน อิตาลี ยุโรปเหนือ ใต้ อัฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง ก็มีสิทธิทำงานทำการ ย้านถิ่น ได้ตามปัญญา เป็นสมาชิกสังคมเต็มขั้น ไม่ใช่สมาชิกสังคมขึ้นอยู่กับเชื้อชาติเหมือนอย่างสังคมโบราณอื่น

กระกอบกับการที่มีความรู้เทคนิกทางโยธาสูง สร้างถนน ระบบส่งน้ำ ดีมาก ขนส่งอาหารเลี้ยงคนหนาแน่นในเมืองใหญ่ได้ ทำให้เมืองขยายตัวอย่างมากทั้งส่วนกลางที่โรม และเมืองในภูมิภาค

กรุงโรมเอง เมื่อใหญ่ที่สุดประมาณ ค.ศ.ที่ ๒ มีประชากรกว่า ๑ ล้านคน มากที่สุดในโลกยุคยุโรปโบราณ และต่อมาเมื่อโรมของโรมันล่มลง ยุโปรไม่มีเมืองใดประชากรเกิน ๑ ล้านคนอีกเลย จนกระทั้งถึงลอนดอนในศตวรรษที่ ๑๙

ในยุคโรมัน ประมาณว่ามีประชากรอาศัยในเมืองถึง 25% ถ้านับเมืองขนาดประชากรเกิน ๑ หมื่นคน ถ้านับเมืองที่เล็กกว่านี้ (ซึ่ผมคิกว่าควรนับเพราะในยุคโบราณเมืองประชากรหลายพันคนก็เป็นสภาพเมืองที่ต่างจากชุมชนการเกษตรท้องถิ่น) อาจมีประชากร "ชาวเมือง" ถึง 40%

...อัตราส่วนของคนในเมืองที่มากขึ้นก็คือตัวชี้จำนวนประชากรรวมที่มากขึ้นนั่นเอง
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #95 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 05:27:46 PM »

ศตวรรษที่ ๕ โรมแตก เอมเปอเรอหนีออกจากโรม ระบบโรมันล่มสลาย ระบบราชการโรมนตามภูมิภาคในจักรวรรดิก็ล่มสลายไปด้วย

ยุโรปมีสถานการณ์สืบเนื่องมาจากศตวรรษที่ ๔ ที่สำคัญคือการอพยพย้านถิ่นอย่างกว้างขวางของชนเผ่าเยอรมัน และชนเชื้อชาติเหนือรวมๆ ในประวัติศาสตร์ยุโรปเรียกว่า The great migration

คือในยุคโรมัน โรมันยึดครองพื้นที่ภาคพื้นยุโรปเหนือตั้งเป็นจังหวัดโรมันถาวรในฝั่งตะวันตกของแม่น้ำไรน์ทั้งหมด จนไปถึงพรมแดนสก๊อตแลนด์ ส่วนพื้นที่ประเทศเยอรมันปัจจุบันทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำไรน์ และสแกนดิเนเวียโรมันไม่ได้เข้าไปยึดครองถาวร มีข้ามไปตีบ้าง เช่น สมัยจูเลียส ซีซ่าร์ เป็นแม่ทัพ สร้างสะพานข้ามแม่น้ำไรน์ส่งกองทัพไปทำสงครามสั่งสอยพวกเผ่าเยอรมันประมาณ ๑ เดือน แล้วก็ยกพลกลับ รื้อสะพานเสียด้วย พวกนี้ก็เป็นคนป่าในสายตาโรมัน ซึ่งต่อมาก็เป็นพวกที่มาตีโรมแตก

พวกนี้ชื่อก็คุ้นๆ กัน สำคัญๆ ก็พวก โกธต่างๆ ที่ต่อมาแยกเป็นกลุ่มตะวันออก ตะวันตก/ ลอมบาด (ที่มาของแคว้นลอมบาดี)/ เวนดัล (ที่มาของคำเวนดัลลิส เพราะเขาว่าพวกนี้ทำลายเมืองเก่งนัก) ฯลฯ

พวกนี้ย้ายไปย้ายมาท้าทายอำนาจโรมันและตีกรุงโรมแตกแล้ว เกิดภาวะ "ฝุ่นตลบ" ในยุโรป พวกชาวบ้านเมืองท้องถิ่นก็ก็คุมกำลังกันเองในพื้นที่ และเมื่ออำนาจส่วนกลางหายไปผู้มีอิทธิพลท้องถิ่นก็เริ่มแตกตัวไม่อยู่กับเมืองที่เจ้าเมืองเคยเป็นคนจากโรมส่งมา ในยุคโรมนั้นเป็นปกติที่มักมีการแข็งข้อบ้าง แต่โรมก็ส่งกองทัพมาปราบอย่างเด็ดขาด เจ้าเมืองโรมันถึงคุมเมืองใหญ่อยู่ได้
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #96 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 05:40:10 PM »

...ส่วนพวกย้านถิ่นก็ย้านต่อไปเรื่อง วนไปวนมา พวกโกธกับเวนดัลลงไปยึดพื้นที่สเปนปัจจุบันได้ พวกเวนดัลยังแถมทะลุลงไปถึงอัฟริกาเหนือ ไล่ไปตามชายฝั่ง (ช่างย้ายจริงๆ) ถึงตูนีเซีย และวกกลับขึ้นไปอยู่อิตาลีภาคใต้ เส้นทางอื่นในยุโรปของหลายๆ เผ่าก็ซับซ้อนพอๆ กัน เรียกว่าเป็นยุคที่ทำให้ฝรั่งผมทองไปแทรกอยู่ในทุกมุมของยุโรปว่างั้นเถอะครับ

พวกโกธซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทมากนี่มาจากทางใต้ของสวีเดน สมัยนี้ก็มีเกาะก๊อตลันด์อยู่ แต่สมัยน้้นคือพวกที่มาจากแผ่นดินใหญ่ตอนใต้ของสวีเดนเป็นหลัก

...ก่อนจะไปต่อขอคุยว่าต่อมาในยุคกลางยุโรปมีศิลปะที่เรียกว่าโกธิก แต่ไม่ใช่ของพวกโกธนี่สร้างนะครับ เป็นชื่อที่คนยุโรปยุคกลางศตวรรษที่ ๑๑-๑๔ เรียกกันไปเอง สมัยที่พวกโกธมีบทบาทและมีความเป็นตัวของตัวเองนั้นเป็นยุคต้นของศิลปะแบบโรมานเนกส์ เพราะที่จริงโกธไม่ชอบสร้างอะไรเป็นศิลป์มาก อย่างเก่งก็สร้างป้อมหน้าตาถึกๆ
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #97 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 05:57:34 PM »

ภาวะฝุ่นตลบในยุโรป ซึ่งทำให้เกิดการเมืองแตกตัว และเกิดการคุมอำนาจท้องถิ่นอย่างเข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนพัฒนาการการมาเป็นระบอบฟิวดัลยุคกลางของฝรั่งนั้น มีตัวช่วยฝุ่นตลบรอบสองที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ การรุกรานของพวกไวกิ้ง...

พวกไวกลิ้งไม่ได้กลิ้ง แต่แล่นเรือยาวออกมาจากสแกนดิเนเวีย เข้าตี ปล้น และตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ต่างๆ ในยุโรป ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ ๘ จนถึงศตวรรษที่ ๑๑ ถึงสงบลงไป คือพวกชอบแล่นก็เลิกธุรกิจปล้น กลับนอนอยู่สแกนพัฒนาจนต่อมาหากินกับเทคโนโลยีอีริกสัน ซาร์ป และโนเกีย ไปตามเรื่อง ส่วนพวกที่มาตั้งถิ่นฐานในยุโรปก็กลายเป็นคนพื้นเมือง รับวัฒนธรรม และมีบทบาทการเมืองอย่างถาวร

มีคนเขาว่ายุคไวกิ้งจบลงในปี ค.ศ. ๑๐๖๖ เมื่อดุ๊ควิลเลี่ยมแห่งนอร์มังดี (แคว้นที่มาจากชื่อนอร์มัน- นอร์ทแมน) ไปรบชนะคิงฮาร์โรลทวงสัญญายกบังลังค์ และกลายเป็นคิงอังกฤษเชื้อสายนอร์มันสืบต่อกันมา ก็เป็นสัญลักษณ์ที่ดีของการสิ้นสุดยุคกลิ้งไปกลิ้งมา

...ย้อนกลับไปศตวรรษที่ ๘ ในสถานการณ์ที่ต้องป้องกันตัวจากไวกลิ้งเช่นนี้ เจ้าท้องถิ่นก็พัฒนาระบบควรคุมคนในท้องถิ่น และสร้างป้อมค่ายในพื้นที่เพื่อต่อสู้กับไวกิ้งที่จะแล่นมาตอนไหนก็ไม่รู้ ดูจากประวัติป้อมปราสาทในยุคกลางของยุโรป จะเห็นได้ว่าถูกสร้างขึ้นในยุคไวกลิ้งอาละวาดตอนต้นนี้มาก เป็นการก้าวกระโดดของจำนวนป้อมปราสาททีเดียว

... ...ทั้งนี้ท่านอาจสงสัยว่าเมืองใหญ่ๆ อย่างของโรมันไม่ต่อต้านไวกลิ้งได้ดีกว่าหรือ? ตำตอบคือถ้าเมืองโรมันยังเหลืออยู่ก็ย่อมดีกว่าระบบฟิวดัลยุคกลางแน่ครับ แต่เรื่องของเรื่องคือ ระบบเมืองโรมันนั้นล่มไปตอนเจอของแรง "ฝุ่นตลบครั้งแรก" โดยพวกเผ่าอพยพแล้ว ศตวรรษ ๔-๕-๖ แล้ว พวกอพยพนี้รบชนะคนพื้นเมืองถือว่าเป็นเจ้าในประเทศได้ก็จริง แต่ไม่ได้เข้าไปจัดระบบการปกครองในชนบท พอไวกิ้งแล่นมาคนในพื้นที่ก็เลยต้องจัดระบบการปกครองท้องถิ่นเป็นฟิวดัลดังกล่าว
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #98 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 06:17:45 PM »

เพือบรรยากาศโกธิก ทั้งโกธจริง และโกธิกศิลปะ เลยไปค้นคลังรูปภาพเอาเมือง Toledo มาแสดงครับ เมืองนี้อยู่กลางประเทศพอดี เคยเป็นเมืองหลวงของวิสิโกธในสเปนศตวรรษที่ ๖-๘ ต้นๆ ในปี ค.ส. ๗๑๑ โกธรบแพ้มุสลิมๆ เลยมายึดสเปนอยู่หลายร้อยปี ทางเหนืออยู่ ๒-๓ ร้อยปี ทางใต้อยู่จนถึงเมืองมุสลิมสุดท้าย Granada ถูกคริสต์ตีแตกในปี ๑๔๙๒

โทเลโด มีภูมิประเทศเป็นหม้อเนื้อย่างเกาหลี ตรงกลางเป็นเนินเขา มีน้ำล้อมรอบ และมีเนินเข้าล้อมอีกชั้น ชัยภูมิดีมากสำหรับยุคขี่ม้าฟันดาบแทงหอกทุบหัว ภาพนี้ถ่ายจะเนินเขารอบเมือง ทรากหินในน้ำคือฝายทดน้ำมุลลิมเก่า โบสถ์เป็นศิลปะโกธิกสร้างศตวรรษที่ ๑๓ ส่วนป้อมเหลี่ยมสี่ยอดด้านขวา เป็นของยุคศตวรรษที่ ๑๖ แต่สร้างใหม่เพราะพังไปตอนสงครามกลางเมืองสเปน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2012, 06:36:37 PM โดย Don Quixote » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #99 เมื่อ: สิงหาคม 23, 2012, 06:30:39 PM »

โหลดดื้อๆ ไม่ฝากภาพ พอดูได้ งั้นขอโพสอีกครับ มองไปข้างขวาก็เห็นว่าภูมิประทศเกือบกลม มีแม่น้ำล้อมรอบ แบบเนื้อย่างเกาหลีดังกล่าว ตึกที่เห็นขวาสุดนอกเมืองหม้อเนื้อย่างเก่าคือ รร. นายร้อยทหารบก เหล่าทหารราบ เพราะในสเปนแบ่ง รร. นายร้อยทหารบกแต่ละเหล่าอยู่คนละเมืองกัน อยู่ในชานเมืองฝรั่งนั้นได้ยินเสียงฝึกยิงปืนลอยมาด้วย ภาพนี้ถ่าย กค. ปีที่แล้วอากาศร้อนอย่างน่าเกลียดประมาณ 38C ครับ อยู่บนเนินนอกเมืองได้กลิ่นฟางแดดเผาเหมือนทุ่งเมืองไทยที่แล้งๆ ยี๊
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: สิงหาคม 23, 2012, 06:37:36 PM โดย Don Quixote » บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #100 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 08:53:09 PM »

เรื่องระบบฟิวดัลฝรั่ง อ่านได้สะดวกและง่ายที่สุดเรื่อง ฝรั่งศักดินา ของ มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ซึ่งท่านก็เขียนนำตั้งแต่ต้นว่าฟิวดัลฝรั่งยุคกลางต่างกับระบบศักดินาของไทยอย่างคนละเรื่องกันในแง่ของวัฒนธรรม และการบริหาร แบะก็จะเห็นด้วยว่าต่างกับขุนนางตะวันออกทั่วไป

..ในที่นี้ ขอจับประเด็นของฟิวดัลฝรั่งยุคกลางที่เกี่ยวกับประชากรว่า ฟิวดัลฯ ว่าเป็นเรื่อง

"การจัดลำดับการปกครองในรูปแบบกระจายอำนาจ" (เพราะอำนาจกระจายก่อนถึงต้องจัดแบบนี้)

ของยุโรปยุคกลาง Lord ลำดับต่างๆ (ซึ่งขอเรียกว่าขุนนางฝรั่งเพราะ ต่างกับขุนนางตะวันออกที่จะกล่าวต่อไป) นั้นส่วนมากมีอำนาจเบ็ดเสร็จในพื้นที่ของตนเอง เช่น ของอังกฤษ ตั้งแต่บารอนขึ้นไปคนเรียกรวมๆ ในภาษาว่า Lord และมี "อำนาจสืบต่อตำแหน่งของคนในกับลูกได้โดยอัตโนมัติ" ควบคุมที่ดินและคนในพื้นที่ของตนตามรูปแบบความสัมพันธ์จงรักภักดีบริการตามแต่ตกลงกัน เช่น ภาระการบริการแรงงาน หรือการรบด้วย ฯลฯ

รูปแบบ "ความสัมพันธ์จงรักภักดีบริการ" นี้ขุนนางฝรั่งลำดับต่างๆ ก็มีต่อกันขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึงขุนนางใหญ่ที่สุดที่เรียกว่าเป็นคิง ดังนั้นกษัตริย์ฟิวดัลฝรั่งยุคกลางถึงอยู่ในสถานภาพที่เรียกว่า "The first among the other" (คำนี้ขออ้างว่ามาจากชั้นเรียนรัฐศาสตร์ครับ ส่วนสำนวนลิเกอื่นผมว่าเอง) มิใช่อยู่ในสถานภาพของ "สมมติเทพ" อย่างเอมเปอเรอโรมันในยุคหลัง ฟาโรห์อียิปต์บางยุค และกษัตริย์ตะวันออกทั่วไป

อำนาจของขุนนางฝรั่งนั้นที่สำคัญที่สุดคือการตั้งทายาทสืบตำแหน่งต่อเนื่องกันได้ (ถ้าไม่มีลูก หรือตายไปก่อนจัดการแต่งงานให้ลูกได้ถึงจะเริ่มยุ่ง ขุนนางใหญ่ที่ตนเองภักดีอยู่มีสวิทธิเข้ามาจัดแจงได้ตามกฎที่ชัดเจน) เรียกว่าเหมือนกับเป็นวงศ์ของตนเอง ต่างกับของตะวันออกที่ขุนนางเสมือนเป็น ข้าราชการปัจจุบัน ลูกของข้าราชการใหญ่ถึงมีเส้นก็ต้องเริ่มจากระดับล่างก่อน และไม่ใช่ว่าจะขึ้นไปมีตำแหน่งเท่า หรือเหมือนกับพ่อ

นอกจากนี้ ก็มีอิสระในการปกครองพื้นที่และคนของตนเต็มที่ ถึงแม้จะอยู่ในสายภักดีสูงต่ำกับน ขุนนางฝรั่งจะเข้าพื้นที่ขุนนางเล็กก็ต้องแจ้งก่อน แม้แต่คิงไปเข้าพื้นที่ขุนนางใหญ่ก็ต้องแจ้งก่อน บางทีแข็งข้อหน่อยอ้างว่าติดธุระหรือไม่พร้อมไม่สะดวกรับก็มี

ในระบบนี้ทำให้ความเคลื่อนไหวย้ายถิ่นของประชากรมีน้อยที่สุด ชาวบ้านจะเินทางไปไหนก็ต้องขอขุนนางของคนก่อน เกือบทั้งหมดเดินทางไปก็เพื่อการงาน หรือการที่ขุนนางของตนส่งคนไปช่วยสงครามของขุนนางอีกชั้นหนึ่งเท่านั้น การกินการอยู่วิถีชีวิตอยู่ในพื้นที่ของขุนนางของตน มีพื้นที่ส่วนกลางสาธารณะเป็นปา หรือหนองบึงใช้ร่วมกัน
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
Don Quixote
Only God delivers the judgement, we only deliver the suspects.
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 987
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 16169


,=,"--- X Santiago... !!


เว็บไซต์
« ตอบ #101 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 09:00:56 PM »

ผลของฟิวดัลฝรั่งทำให้การค้าขายข้ามถิ่นน้อยลง ระบบเงินตรามีบทบาทลดลง เพราะคนอยู่แต่ในพท้นที่ทำงานแลกของกัน ไม่ได้ใช้เงินมากเท่ายุคโรมันที่มีความเคื่อนไหวของสินค้า และการเดินทางข้ามถิ่นสูง

หลังยุคโรมันจนถึงยุคกลางตอนต้นประชากรในยุโรปเรียกได้ว่าชะงักงัน ไปเพิ่มขึ้นเมื่อ ช่องว่างอย่างหนึ่งของระบบฟิวดัลได้พัฒนาตัวเองขึ้นมา คือ "เมืองการค้า"

คือถ้ามองเมืองแค่ว่าเป็นชุมชนใหญ่ๆ คนน้อยเป็นหมู่บ้าน คนมากเป็นเมืองนั้น อาจจะไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเมืองถึงยืดๆ หดๆ พองๆ ยุบๆ ได้มาก กรุงโรมคนล้านกว่าคน ในยุคกลางตอนต้นเหลือแค่ไม่ถึง ๔ หมื่นคน ทำไมเมืองที่ตอนนี้ใหญ่เหลือเกินเมื่อก่อนเล็ก และเมืองใหญ่เมื่อก่อนทำไมตอนนี้เล็กลง หรือไม่ขยายขึ้นตามอัตราส่วนของเมืองอื่น?

เลยต้องมาดูว่า เมืองในยุคต่างๆ นั้น แท้จริงแล้วมีชุมชนนั้นมีความหมายอย่างไร...
บันทึกการเข้า

Thou shalt have guns.
Thou shalt have tons of ammo.
Thou shalt shoot well.
Thou shalt not rely on help from the stranger.
~ Sitthipong - รักในหลวง ~
"วาจาย่อมมีน้ำหนัก หากหนุนด้วยสรรพอาวุธ"
ชาว อวป.
Hero Member
****

คะแนน 2953
ออฟไลน์

เพศ: ชาย
กระทู้: 23210



« ตอบ #102 เมื่อ: สิงหาคม 27, 2012, 09:31:45 PM »

+๑  คุณ Don Quixote  ครับ >>๙๗๗<<  รอติดตามอ่านต่อไป   ไหว้
บันทึกการเข้า



...ไม่มีใครทำขาวให้เป็นดำ  หรือทำผิดให้เป็นถูกได้ตลอด...
หน้า: 1 ... 4 5 6 [7]
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  

Powered by MySQL Powered by PHP Powered by SMF 1.1.4 | SMF © 2011, Simple Machines Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.114 วินาที กับ 22 คำสั่ง