ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์

เพลง ความเป็นแม่
โดย อ.อภิชัย สมนาม ท่านว่าไว้ว่า.......

ความเป็นแม่ เป็นเพลงในอัลบั้มล่าสุดชื่อชุด “หัวโบราณ” เป็นเพลงที่มีความหมายดีที่เกี่ยวกับแม่ ด้วยเนื้อเพลงประกอบกับท่วงทำนองในการร้องที่ซึ้งและกินใจ จึงสะเทือนอารมณ์ คอเพลงร็อคกันถ้วนหน้า ป้าง ได้แรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้มาจากแม่ของเขาเอง จึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมเขาจึงร้องเพลงนี้ได้อย่างเยี่ยมยอด ฟังเพลงนี้ครั้งแรกรู้สึกขนลุก และซึ้งมาก ซึ้งกับท่วงทำนองและคำกินใจแค่ไม่กี่คำที่จับได้ ต่อเมื่อได้เนื้อร้องมาแล้ว ปรากฏว่าคำในเนื้อเพลงดูธรรมดามาก แต่กลับให้ความหมายที่กินใจ เนื้อเพลงไม่ยาว ใช้คำน้อยมาก แต่เห็นภาพของ ผู้หญิงธรรมดาที่ไม่ธรรมดาคนหนึ่งซึ่งโลกขนานนามว่า “แม่”

ขึ้นต้นด้วยชื่อเพลง แทนที่ป้างจะใช้คำว่า “แม่” เป็นชื่อเพลงเหมือนเพลงที่เกี่ยวกับแม่เพลงอื่นๆ ด้วยสื่อความแบบสั้นๆง่ายๆแต่ได้ใจความที่ดีที่สุด แต่ป้างกลับเลือกที่จะใช้ชื่อเพลงว่า “ความเป็นแม่” แทน ซึ่งเห็นได้ชัดว่า ป้าง เข้าใจลักษณะของภาษาในการสื่อความเป็นอย่างดี และเขาก็ทำได้ดีอย่างน่าชื่นชม เพราะ “ความเป็นแม่” สื่อได้อย่างชัดเจนถึงบทบาทหน้าที่ของผู้หญิงคนหนึ่งที่ทำทุกอย่างเพื่อลูกของตน ทั้งที่รู้ว่าเหนื่อยหนักเพียงใด แต่เธอก็ทำอย่างเต็มใจและภาคภูมิ ชื่อเพลงกับเนื้อหาของเพลงจึงเป็นความลงตัวที่ช่วยให้เพลงนี้เข้าไปนั่งอยู่ในใจของ คอเพลงทุกคน

เนื้อหาของเพลงไม่ต่างไปจากเพลงแม่ทั่วๆไป เพราะได้กล่าวถึงบุญคุณอันยิ่งใหญ่ของแม่ที่ยากจะทดแทนคล้ายๆกัน แต่สิ่งธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของเพลงนี้อยู่ที่ความกล้าของป้าง ๒ ประการ ซึ่งสร้างความโดดเด่นให้กับเพลงๆนี้ได้เป็นอย่างดี

ประการแรกคือ ป้าง กล้าที่จะใช้กลวิธีในการถ่ายทอดเนื้อหา แบบ ๒ มุมมองในเรื่องเดียวกัน นั่นคือ เปิดฉากแรกด้วยมุมมองของแม่ แล้วจึงเปลี่ยนไปใช้มุมมองของคนเป็นลูกแทนไปจนจบเพลง ในมุมมองของแม่นั้นถึงแม้คนร้องจะอยู่ในฐานะของลูกก็ไม่ได้ทำให้เนื้อความแรกนี้ด้อยลงไปแต่อย่างใด การใช้คำที่คุ้นชินและสื่อความได้ง่ายๆอย่างคำว่า “ลูกเอ๋ย…แม่อยู่นี่ไง….” ได้ช่วยให้เนื้อความเหล่านั้นเสมือนเป็นคำพูดจากใจของแม่จริงๆ ประโยค “แม่อยู่นี่ไง” สะกิดใจลูกๆให้รับรู้ถึงพลานุภาพของความเป็นแม่ได้อย่างอัศจรรย์ ว่าถึงแม้ลูกจะเป็นอย่างไร แม่ก็ยังคงอยู่ข้างกายทุกวินาที ถือเป็นการรับรู้ข้างในจิตใจ ยิ่งคนที่อยู่ไกลแม่หรือคนที่ไม่มีแม่อยู่ด้วย ก็ยิ่งจะสะเทือนใจกับประโยคนี้อย่างไม่มีเงื่อนไข ประโยค “รักเหลือเกิน สุดหัวใจ” ยิ่งซาบซึ้งและกินใจ บอกเล่าเรื่องราวจากมุมมองของความเป็นแม่ได้อย่างดี

ประการที่สองคือ ป้าง กล้าที่จะใช้คำสรรพนาม “ฉัน” แทนลูก และ “เธอ” แทนแม่ ทั้งๆที่คำสองคำนี้เป็นคำที่แฝงความหมายของการห่างเหินอยู่ในที แต่ด้วยท่วงทำนองในการร้องที่เป็นแบบฉบับเฉพาะตัวของเขากลับทำให้สรรพนาม ฉัน และ เธอ พลิกมามีบทบาทเสมือนความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้อย่างกลมกลืน ลบข้อด้อยในความหมายที่แฝงความเหินห่างไปได้อย่างไม่น่าเชื่อ อันที่จริงการใช้สรรพนาม เธอ และ ฉัน ดังกล่าวนี้ทำให้นึกไปถึงว่า คำว่าเธอในที่นี้อาจจะหมายถึงผู้หญิงที่อยู่ในฐานะของภรรยา ซึ่งเป็นแม่ของลูกก็ได้ คือเราจะดูแลภรรยาของเราให้ดีที่สุดเพื่อจะให้เขาทำหน้าที่ของแม่ให้ดีเฉกเช่นแม่ของเราจริงๆ ประเด็นนี้อาจจะเป็นเหตุผลว่าทำไม ป้าง จึงเลือกที่จะใช้สรรพนาม ฉัน และ เธอ แทนคำว่า ลูก และ แม่ ซึ่งเป็นเหตุผลเพื่อเอื้อสำหรับการตีความนั่นเอง ถือเป็นความเข้าใจและการมีลูกเล่นทางด้านภาษาของเขาได้เป็นอย่างดี

ประเด็นที่เสริมให้ “ความเป็นแม่” มีเสน่ห์เย้ายวนก็คือ ทุกอย่างในเนื้อเพลงถูกละไว้ในฐานที่เข้าใจ ไม่มีการยกตัวอย่างว่าแม่เหนื่อยล้าเพียงใด แม่เสียใจเรื่องอะไรบ้างและมากแค่ไหน แม่ต้องอดทนเรื่องอะไรบ้าง จนถึงถ้อยสุดท้ายของเพลงก็ยังคงละไว้ในฐานที่เข้าใจว่า “จะดูแลเธอแบบนั้นบ้าง ฉันจะตั้งใจ” ซึ่งก็ไม่ได้บอกว่าจะดูแลแบบนั้นคือแบบไหน ที่ว่าเป็นเสน่ห์ก็คือการละไว้ในฐานที่เข้าใจช่วยให้เนื้อเพลงไม่ยืดยาวหรือเยิ่นเย้อ ทำให้คำที่มีอยู่ไม่มากกลับมีพลังแห่งความซาบซึ้ง และช่วยให้ผู้ฟังได้คิดต่อเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกละไว้ในฐานที่เข้าใจ เพราะถือว่าสิ่งที่ถูกละไว้ในฐานที่เข้าใจนั้นเป็นสิ่งที่ลูกทุกคนรู้กันดีอยู่แล้ว ป้าง เพียงแต่ย้ำให้ลูกทุกคนตระหนักในความเป็นแม่ ที่ยากจะหาสิ่งใดมาเสมอเหมือนเท่านั้นเอง

นอกจากคำร้องที่มีความลงตัวแล้ว สิ่งหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อเพลงนี้เป็นอย่างมากก็คือท่วงทำนองของเพลง "ความเป็นแม่" เป็นเพลงแนวทำนองพ๊อบร็อค ช้า…แต่หนักแน่น ซึ้ง…และกินใจ ท่อนโซโลของกีตาร์ยิ่งตอกย้ำอารมณ์คิดถึงแม่ให้กระเจิดกระเจิง

ไม่น่าแปลกใจเลยว่า วันแม่ปีนี้ “ความเป็นแม่” เป็นเพลงที่ทำให้คิดถึงผู้หญิงที่ดีที่สุด ในโลก

	ผู้เขียน	หัวข้อ: ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์ (อ่าน 15686 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 14 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้