ซานไห่กวน 山海关 ซึ่งถือว่าเป็น
"ด่านแรกของกำแพงเมืองจีน" ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกฉียงเหนือราว 15 กิโลเมตรจากเมือง
ฉินฮว่างต่าว 秦寰岛 ระหว่าง มณฑลเหอเป่ย์
(河北) และมณฑลเหลียวหนิง
(辽宁) ด้านเหนือของซานไห่กวนติดกับ
ภูเขาเยียนซาน
(燕山) ด้านใต้ติดทะเลป๋อไห่
(渤海) เวลาขึ้นไป
ยืนอยู่บนด่านจึงสามารถมองเห็นทิวทัศน์ภูเขาอันสูงตระหง่านและ
ท้องทะเลสีเงิน ซึ่งเป็นที่มาของชื่อด่านด้วย เพราะ "ซาน"
แปลว่าภูเขา และ "ไห่" แปลว่าทะเล รวมกันเป็น ด่านภูเขาทะเล
ความสำคัญของด่านนี้ คือ เป็นป้อมประตูหนึ่งในหลายป้อมของ
กำแพงเมืองจีนที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญในการป้องกันกรุงปักกิ่ง
จากทางทิศเหนือ ซึ่งด่านแห่งนี้มีคำกล่าวว่าเป็น
ด่านที่หนึ่งในไต้หล้า :天下第一关:เทียนเซี่ยตี้อีกวาน นั่นเอง
ณ ป้อมเจิ้นตง จะมีป้ายอักษรคำว่า "เทียนเซี่ยตี้อีกวาน"
เขียนโดย เซียวเสี่ยน ศิลปินเอกสมัยราชวงศ์หมิงซึ่งถือว่าเป็นป้อม
ที่มีความสมบูรณ์และได้รับการบูรณะอย่างดีจนถึงปัจจุบัน
ด่านซันไห่กวน ถูกสร้างขึ้นในยุคราชวงศ์หมิง เมื่อเทียบกับกำแพงเมืองจีน
ส่วนอื่น ๆ ที่สร้างมาตั้งก่อนยุคราชวงศ์ฉิน แต่กลับมีบทบาทอย่างมาก
ในประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง และราชวงศ์ชิง มีความสำคัญเป็นจุดพลิกผัน
สถานการณ์ถึงขั้นเปลี่ยนแผ่นดินเลยทีเดียว เมื่อปี ค.ศ. 1381 ต้น
สมัยราชวงศ์หมิง หมิงไท่จู่ฮ่องเต้ (จูหยวนจาง) ได้โปรดให้สวีต๋า (ซือตัด)
แม่ทัพคนสำคัญไปตั้งฐานทัพประจำที่ซันไห่ สวีต๋าเห็นภูมิประเทศซึ่ง
ประกอบด้วยภูเขาที่โอบล้อมและส่วนติดต่อกับทะเล จึงได้สร้าง
กำแพงและป้อมด่านซันไห่กวนขึ้นในปีถัดมา เพื่อป้องกันการรุกราน
จากอนารยชนทางภาคเหนือ ซึ่งหมายถึง ชาวมองโกลและชาวเติร์ก
กำแพงเมืองด่านซานไห่กวนนั้น มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส
เชื่อมต่อกับกำแพงเมืองจีน มีประตูเมืองทั้งสี่ด้าน กำแพงเป็นดินกับ
หินบดละเอียดอัด ด้านนอกก่อด้วยอิฐ ความยาวกำแพงทั้งสิ้น 4 กิโลเมตร
โดยทั่วไปสูง 7 เมตร บางแห่งสูง 15 เมตร หนา 7 เมตร คิดเป็น
มาตราวัดแบบจีน คือ กว้างยาว 8 ลี้ กับ 137 ก้าว 4 เชียะ กำแพงสูง
4 จ้าง (40 ฟุตจีน) กับ 1 ฟุตจีน หนา 2 จ้าง รอบด่านยังมีคูเมือง
ขนาดกว้าง 5 จ้าง ลึก 2 จ้าง 5 เชียะประตูทางทิศตะวันออก ชื่อว่า เจิ้นตง ประตูทางทิศตะวันตก
ชื่อว่า อยิ่งเอิน ประตูด้านทิศใต้ชื่อว่า หยาง ส่วนประตูด้านทิศเหนือ
มีชื่อว่า เว่ยหย่วน ในปัจจุบันมีแต่ประตูเจิ้นตงด้านทิศตะวันออกเท่านั้น
ที่ได้รับการบูรณะจนมี สภาพดี ส่วนด้านอื่น ๆ พังทลายไปหมดแล้ว
นอกจากด่านซันไห่กวนจะเป็นประโยชน์ในการป้องกันการรุกรานของแมนจู แล้ว ยังเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญทางการทหารที่สำคัญ
ในการควบคุมประเทศจีนด้วย เห็นได้จาก ปี ค.ศ. 1900
ในศึกพันธมิตรแปดชาติ ประกอบด้วยกองทัพอังกฤษ ฝรั่งเศส
สหรัฐอเมริกา เยอรมนี รัสเซีย ญี่ปุ่น อิตาลี และออสเตรีย เข้ารุกราน
เมืองเทียนจิน และกรุงปักกิ่ง ได้เข้ายึดครองและจัดตั้งกองทัพพันธมิตร
ไว้ที่บริเวณด่านซันไห่กวนจนหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 จึงถอนทหารออกไป
ในปี ค.ศ. 1933 ญี่ปุ่นยึดครองแมนจูเรียเอาไว้ได้และสถาปนาเป็นประเทศแมนจูกัว ได้ใช้ด่านซันไห่กวนเป็นฐานที่มั่นในการรุกราน
หัวเมืองภาคเหนือของจีน ทหารที่รักษาด่านได้ฉวยโอกาสขูดรีดประชาชน
ชาวบ้านจึงเรียกด่านนี้อีกชื่อหนึ่งว่า "ด่านประตูผี"
ปัจจุบันด่านซันไห่กวนได้หมดความสำคัญในการเป็นจุดยุทธศาสตร์ทางการทหารแล้ว รัฐบาลจีนได้ปรับปรุงให้เป็นสถานที่สำคัญใน
ทางท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ของเมืองฉินฮว๋างต่าว นอกจาก
จะมีความสำคัญเกี่ยวกับประวัติศาสตร์จีนแล้ว ยังเป็นศูนย์กลางของ
แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในบริเวณนี้ด้วย ได้แก่ กำแพงเมืองจีนที่
ทอดตัวยาวไปบนภูเขาฮวนหลี่หลิ่ง และจุดสิ้นสุดของกำแพงเมืองจีน
ในทะเลที่เหล่าหลงโถว
กล่าวถึงป้อมเทียนเซี่ยตี้อีกวานสร้างบนกำแพงเมืองซันไห่ที่เชื่อมต่อกับกำแพง เมืองจีน ด้านล่างเป็นซุ้มประตูก่ออิฐสำหรับเป็นทางผ่าน
ออกนอกด่าน ด้านในมีบานประตูเปิดปิดตามเวลาที่กำหนด หน้าด่านมี
ป้อมอีกชั้นหนึ่ง ขณะที่ปัจจุบันด้านนอกด่านจัดเป็นสวนสาธารณะ
ตัวป้อมเป็นอาคารสามห้อง สูงสองชั้น ป้อมนี้สูง 3 จ้าง ชั้นบนกว้าง
5 จ้าง ชั้นล่างกว้าง 6 จ้าง ตัวป้อมมีช่องยิงธนูสามด้าน รวมมี
ช่องยิงธนู 68 ช่อง เมื่อมองจากบนป้อมไปทางทิศเหนือจะเห็นแนว
กำแพงเมืองจีนทอดยาวคดเคี้ยวไปตาม ไหล่เขายาวเหยียดเหมือน
มังกรนอนทอดตัว ส่วนทางทิศใต้จะเห็นกำแพงที่ยืดยาวไปยังทะเลกว่า
20 เมตร ซึ่งจุดนี้เรียกว่า "เหล่าหลงโถว"
(แปลว่า หัวมังกรเฒ่า, Old Dragon's Head)
ขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีhttp://www.youtube.com/v/V9IcFg9yWAw?hl=th_TH&version=3เครดิต
http://www.oknation.net/blog/MarinonTour/2012/05/06/entry-1http://www.114msn.com/Sceneries/?/View-Main-277.htmlhttp://travel.sohu.com/20100721/n273626314.shtml