จริงๆ ประเด็นเช่นที่ว่านี้ ผมว่าขึ้นอยู่กับ "
สิ่งแวดล้อมและ เจตนาของ จนท.ตำรวจ" ณ ขณะนั่นด้วย ปัญหาหลักๆ คือ จะทำอย่างไร?ให้ "
ประชาชนและ จนท.
ผู้รักษากฎหมายมีความเข้าใจตรงกันในเรื่องเจตนาของการนำพา/พกพาปืน " เพราะตราบใดที่ยังหลั่กหลั่นกันเช่นปัจจุบัน มองต่างมุมโดยอีกฝ่ายอ้างดุลยพินิจ
แต่อีกฝ่ายบอกบริสุทธิ์ใจ สุดท้ายใช้กฎหมายนำไว้ก่อน ปัญหาความไม่เข้าใจที่เกิดขึ้น และเป็นประเด็นมาตลอด ระหว่าง จนท.กับ ประชาชนที่เจตนาบริสุทธิ์ มักจะมีปัญหาเช่นปัจจุบันเสมอมา
ที่สำคัญต้องยอมรับความจริงที่ว่าตราบใดที่ จนท. ยังใช้กฎหมายที่เลื่อมล้ำกัน จะเพราะตัวบุคลหรือสถานที่ทั้งๆที่เป็น จนท.เหมือนกัน ตราบเท่านั่น ปัญหาต่างๆก็จะเป็นอย่างเช่นที่เห็นตามเวปปืนต่างๆเสมอมา
ผมเองตั้งแต่มีปืนมา ปกติก็ไม่ค่อยพาไปไหน? ยกเว็นสนามยิงปืน เพิ่งเจอกับตัวเองเป็นครั้งแรก เมื่อเร็วๆนี้ วาง Rem 700 VS SF ในซองพร้อมอุปกรณ์ ไว้หลังที่นั่งเบาะหลังและที่พื้น
ในระหว่างทางที่ไปสนามยิงปืนซึ่งไปเส็นทางลัดปกติที่เคยวิ่ง แต่ ณ ขณะนั่นมีผมเพียงแค่คันเดียว พอดีมีการตั้งด่านและเห็น จนท. แต่ไกลแล้ว ขี้เกียจเลี้ยวรถกลับเพราะจะกลายเป็นพิรุจ
กะว่ามีอะไร? ค่อยหาคนมาประกัน ก็เลยขับไปดื้อๆ คิดเสียว่าอะไร?จะเกิด..ช่างมัน !! โดนโบกให้หยุด ถามโน้น ถามนี้ ผมถามมั่ง จนท.ถามมั่ง ตรวจเอกสารตรงกัน สุดท้ายก็ไม่มีอะไร?
ที่เขียนมาก็แค่อยากชม การปฏิบัติหน้าที่ของ จนท. ตำรวจ โดยเฉพาะหัวหน้าชุด ณ จุดนั่น สำหรับเรื่องมนุษยสัมพันธ์ การพูดคุย พูดจาดี และการใช้ดุลยพินิจการบังคับใช้กฎหมาย
และเจตนาของผู้นำพาปืน.... แต่ไม่รู้คราวหน้าจะเจอ จนท. เช่นนี้อีกหรือเปล่าหนอ...